หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 1314 เสียชีวิตเพราะสิ้นแรง

แชร์

บทที่ 1314 เสียชีวิตเพราะสิ้นแรง

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-09-30 16:00:00
อินชิงเสวียนและคนอื่นๆ มาถึงยอดเขาแล้ว ในกลุ่มหมอกอันกว้างใหญ่ มีเสียงการต่อสู้เกิดขึ้น

เย่จิ่งอวี้จำเสียงของเซี่ยวอิ่นหวนได้ทันที เขาตะโกนออกมาอย่างเร่งด่วน และรีบวิ่งเข้าไปในสายหมอก

“อาอวี้!”

อินชิงเสวียนก็อยากจะเข้าไปเช่นกัน แต่ถูกเย่จิ่งหลานจับไว้

“อย่าวู่วาม นี่คือค่ายกล”

“แล้วต้องทำอย่างไร”

เสียงตะโกนลั่นของเย่จิ่งอวี้ดังขึ้นในค่ายกล อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกวิตกกังวล

เย่จิ่งหลานกล่าวว่า “ข้าจะพยายามทำลายค่ายกลดู”

“ข้าเอง”

เฮ่อฉางเฟิงจรดเท้าลงกับพื้น

อินชิงเสวียนยินดียิ่ง มีปรมาจารย์ด้านค่ายกลอยู่ที่นี่ด้วย นางลืมไปได้อย่างไร ในเป่ยไห่ในวันนั้น ถ้าเฮ่อฉางเฟิงไม่ลงมือ ทุกคนคงจะติดอยู่และเสียชีวิตในค่ายกลนั้นแล้ว

“รบกวนพี่ชายด้วย”

สถานการณ์เร่งด่วน เฮ่อฉางเฟิงจึงไม่ได้พูดอะไรมาก เขารีบมาที่ขอบทะเลหมอก ตรวจสอบดูว่าค่ายกลเป็นอย่างไร ขณะเดียวกัน เย่จิ่งอวี้ก็ถูกโจมตีด้วยภาพสะท้อนราวกระจก

เมื่อมองดูตัวเองอีกคน เย่จิ่งอวี้ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพลวงตาในเป่ยไห่ ครั้งนั้นอันตรายมากจนเกือบทำให้เขาแยกจากเสวียนเอ๋อร์ โชคดีที่ครั้งนี้ไม่ใช่นาง

อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายก็รับมื
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1315 วีรบุรุษในยามบั้นปลาย

    “ท่านตา!”อินชิงเสวียนก็ร้องออกมาเบาๆ สถานการณ์นี้ทำให้นางตกใจมาก ดวงตาทั้งคู่เบิกโพลง ใบหน้าซีดเผือดเมื่อไม่นาน ชายชราผู้นี้ยังมีร่าเริงมีชีวิตชีวา นัดกันไว้ดิบดีว่าวันหน้าต้องได้เจอกันอีกครั้ง คิดไม่ถึง วันที่ได้พบกันอีกครั้ง กลับกลายเป็นวันที่จากลาไปตลอดกาลถ้ารู้เช่นนี้แต่แรก ก็ยอมที่จะไม่เจอดีกว่าเซี่ยวอิ่นหวนและคนอื่นๆ เห็นฉากที่น่าตกใจนี้ผ่านร่างอันสั่นเทาของเย่จิ่งอวี้ เซี่ยวอิ่นหวนรู้สึกว่าภาพเบื้องหน้าตัดเป็นสีดำมืด เกือบจะล้มพับลงไป ฮวาเชียนพุ่งเข้ามาประคองอย่างรวดเร็ว“ผู้คุมตรา!”เซี่ยวอิ่นหวนผลักฮวาเชียนออกไป เดินโงนเงนเข้าไปหาเจ้าสำนักเซี่ยว“ท่านพ่อ ท่านพ่อ!”ในชีวิตนี้ เจ้าสำนักเซี่ยวสะอาดเรียบร้อยมาโดยตลอด จะเคยมีสภาพสะบักสะบอมเช่นนี้ที่ไหน เมื่อมองดูหนวดเคราที่เปื้อนเลือดและเลือดที่อาบไปทั่วร่างกาย เซี่ยวอิ่นหวนรู้สึกเหมือนหัวใจถูกมีดกรีด รู้สึกเจ็บปวดยิ่งนักแม้ว่านางกับเจ้าสำนักเซี่ยวจะไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาใกล้ชิดยิ่งกว่าพอ่ลูกแท้ๆ เจ้าสำนักเซี่ยวรักนางมาโดยตลอด ถ่ายทอดสั่งสอนทุกสิ่งที่รู้เป่ยไห่ถูกทำลายลง ในที่สุดก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-30
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1316 คนตายไม่อาจฟื้นคืนชีพได้

    “อาอวี้...”อินชิงเสวียนพูดไม่ออก คำพูดเช่นนี้ ทำให้นางอึดอัดมากกว่าการทุบตีและดุด่านางเย่จิ่งอวี้หายใจหหักๆ ราวกับจะปลดปล่อยหมอกควันในหัวใจ จากนั้นจึงกดไหล่ของอินชิงเสวียนเบาๆ“เอาล่ะ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้เลย ท่านแม่ต้องการให้วิญญาณของท่านตากลับไปยังบ้านเกิด เสวียนเอ๋อร์มีวิธีที่จะทำให้ร่างกายของท่านตาไม่เสียหายหรือไม่”“เรื่องนี้ไม่มีปัญหา”ร้านค้าสะสมคะแนนในมิติมีทุกสิ่ง แถมยังมีแพทย์แผนจีนและแพทน์แผนตะวันตกสองคนอย่างเย่จิ่งหลานและหลิวซือจวินอยู่ใกล้ๆอินชิงเสวียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “แต่ว่า...ท่านแม่เสียใจมากเช่นนี้ ยังต้องเดินทางกลับไปอีก ร่างกายจะทนได้หรือ”เย่จิ่งอวี้ถอนหายใจ“ตราบใดที่รับรองว่าร่างกายของท่านตาไม่เสียหาย ข้าก็จะให้ท่านแม่หยุดพักอยู่ที่นี่ก่อน”หลิวซือจวินกล่าวว่า “ข้าได้นำสมุนไพรมาด้วย มีประโยชน์ในการป้องกันและรักษาความเสื่อมสภาพ หากคุณชายเย่อนุญาต ข้าสามารถคงสภาพรูปลักษณ์เดิมของท่านผู้เฒ่าไว้ได้”เย่จิ่งหลานกล่าวว่า “เจ้าสามารถแลกเปลี่ยนโลงแก้ว วางร่างเขาไว้ในมิติของข้าก่อนได้”“เรื่องนี้ไม่มีปัญหา”ทันใดนั้นอินชิงเสวียนก็หายตัวไป เมื่อป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-30
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1317 บ้านดองพบกัน

    เย่จิ่งอวี้ก้มลงมอง“กลิ่นคาวเลือดรุนแรงมาก คงเพิ่งตายไม่นาน”ในที่สุดผู้คุมตราเซี่ยวก็เริ่มเชื่อขึ้นมาบ้างแล้ว“เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น”อินชิงเสวียนพูดง่ายๆ ว่า “เรื่องมันยาว พูดสั้นๆ ก็คือ เกิดจากก้อนหินก้อนหนึ่ง พวกผ่าก้อนหินออก ดูเหมือนว่าสิ่งชั่วร้ายจะหนีออกมาได้ สิ่งนั้นล่อลวงจิตใจผู้คน ชาวยุทธ์มากมายต่างก็ตกหลุมพรางนี้”เมื่อได้ยินสิ่งที่อินชิงเสวียนพูด ผู้คุมตราเซี่ยวก็ขมวดคิ้ว“ในโลกนี้มีสิ่งชั่วร้ายเช่นนี้ด้วย เราขึ้นไปดูกันก่อน”“อืม”ทั้งหมดวิ่งไปตามถนนบนภูเขาไปยังยอดเขาบรรจบสวรรค์ ระหว่างทางพวกเขาเห็นศิษย์หลายคนเสียชีวิตอย่างกะทันหัน บ้างก็ตายจากมีด บ้างก็กระบี่ ซึ่งนี่สามารถมองออกได้ทันทีว่า คนที่ลงมือไม่ใช่คนเพียงคนเดียวบนยอดเขาที่อยู่ไม่ไกล เงาและชิงฮุยยืนอย่างเงียบเชียบหลังจากนั้นเป็นเวลานาน เงาก็เอ่ยถามว่า “ชาวเผ่าทุกคนเป็นอย่างไรบ้าง”ชิงฮุยโค้งคำนับเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ข้าน้อยได้แจ้งข่าวแล้ว พวกเขากำลังเดินทางมาที่นี่”“ดีมาก”เงาหยุดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เซี่ยอานซื่อใช้อารมณ์เป็นใหญ่เกินไป ยากที่จะใช้การได้ อีกอย่าง ยังมีอีกคนหนึ่ง เจ้ารู้เรื่องของเขาหร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-01
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1318 ฝันหวาน

    เซี่ยวอิ่นหวนชี้ไปข้างหลัง มักจะรู้สึกว่าถ้าไม่ถามให้กระจ่าง ก็จะไม่สบายใจเหมยชิงเกอตกใจเล็กน้อย“ไม่มี ศิษย์ของตำหนักเทพทั้งหมดอาศัยอยู่ที่ยอดเขาบรรจบสวรรค์”เซี่ยวอิ๋นหวนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนว่าคนที่ลงมือ ไม่ได้มาจากตำหนักเทพจริงๆ“เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า”เมื่อเห็นดวงตาของเซี่ยวอิ่นหวนแดงก่ำ เหมยชิงเกอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่ดีอินชิงเสวียนถอนหายใจหนักๆ“ผู้ที่เดินทางมาด้วยคราวนี้ ไม่ได้มีเพียงแม่สามีเท่านั้น ท่านตาก็มาที่นี่ด้วย พวกเขาถูกหลอกให้ไปที่ภูเขานั้น ติดกับดักค่ายกลโดยไม่ได้ตั้งใจ ท่านตาใช้กำลังภายในทั้งหมดจนหมดแรง เพื่อขอความช่วยเหลือ และได้...เสียชีวิตแล้ว”“หรือว่าท่านตาที่ชิงเสวียนที่กล่าวถึง คือเจ้าสำนักเซี่ยว?”แม้ว่าเหมยชิงเกอจะไม่เคยพบกับเจ้าสำนักเซี่ยว แต่นางก็เคยได้ยินอินชิงเสวียนพูดถึงเรื่องราวในเป่ยไห่หลายครั้งแม้ว่าเจ้าสำนักจะยังอายุมากแล้ว แต่ก็ยังพาลูกศิษย์ไปที่เป่ยไห่ต่อสู้กับศัตรูเพื่อปกป้องความสงบสุขของปวงประชา มีบุคลิกที่ซื่อสัตย์และรักลูกศิษย์มาก ยังเป็นแบบอย่างของจอมยุทธ์ คิดไม่ถึงว่าต้องมาจบชีวิตลงที่นี่จู่ๆ ก็ไม่รู้จะปลอบน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-01
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1319 ตื่นจากฝันโดยไร้ร่องรอย

    เย่จิ่งหลานคิดว่าตัวเองตาฝาด ฉากนั้นน่าทึ่งมากจริงๆ!หญิงสาวผู้นั้นปิดหน้าด้วยผ้าโปร่ง สวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าโปร่งสีชมพูอ่อนที่ดูเบาบางโปร่งแสง ทำให้เห็นผิวพรรณรูปร่างบางส่วน ซึ่งสร้างความรู้สึกที่น่าสนใจและเย้ายวนใจนางเยื้องย่างเข้าไป เดินไปหาเย่จิ่งหลาน ห่างเพียงไม่กี่ก้าว เดินไปอย่างอ่อนช้อยน่ามอง ทำให้คนอดคิดไปไกลไม่ได้เย่จิ่งหลานขยี้ตา ผู้หญิงคนนั้นมาถึงตรงหน้าเขาแล้ว“คุณชายน้อย ข้ามาแล้วเจ้าค่ะ”นางเอื้อมมือที่เรียวบางออกมา เกี่ยวคางของเย่จิ่งหลาน ผ้าคลุมอันอ่อนนุ่มตกใส่บนใบหน้าของเย่จิ่งหลาน ทำให้รู้สึกจั๊กจี้เย่จิ่งหลานอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกมา ดึงผ้าคลุมออกจากใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นเดิมคิดว่านี่เป็นใบหน้าที่มีเสน่ห์เย้ายวนมาก แต่คิดไม่ถึง ว่าจะกลายเป็นใบหน้าที่แสนบริสุทธิ์ใบหน้ารูปไข่ได้รูป ดวงตากลมโต จมูกโด่ง ด้วยคิ้วที่โก่งนิดๆ ทำให้ดูมีบุคลิกที่สง่างามและแข็งแกร่งเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์นี้ทำให้เย่จิ่งหลานรู้สึกว่านางดูเหมือนอินชิงเสวียนเล็กน้อยเขาต้องการถามว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แต่ริมฝีปากบางของผู้หญิงคนนั้นทาบทับลงมา เรียวมือคล้ายดอกบัวคู่หนึ่งโอบกอดคอข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-01
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1320 พูดผิดไป

    แต่เพียงชั่วครู่หนึ่ง เงาหมอกนั้นก็หายไป“มีอะไรหรือ”ข้อมือของเย่จิ่งหลานสั่น โยนเขาลงบนเก้าอี้ในห้องอย่างแม่นยำหวังซุ่นมองอีกครั้ง อาจเป็นเพราะตัวเองตาฝาดไปเขาหัวเราะแหะๆ และพูดอย่างชาญฉลาด “เรื่องนั้นน่ะหรือ อ้อจริงสิ ศิษย์หลายคนจากหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ต้องการขึ้นไปบนภูเขา”เย่จิ่งหลานพูดด้วยความโกรธว่า “จะขึ้นไปทำอะไร อยู่กับข้าที่นี่ดีกว่า ตอนนี้ตำหนักเทพหอทองคำอาจไม่ปลอดภัย ที่นี่ใกล้กับอิ๋นเฉิง หากเจอเรื่องไม่คาดฝันจริงๆ ก็สามารถไปขอความช่วยเหลือจากอิ๋นเฉิงได้”“นายท่านพูดถูก บ่าวจะกลับไปบอกพวกเขาเดี๋ยวนี้”หวังซุ่นกลัวถูกยำเละ จึงวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่เขาจากไป เย่จิ่งหลานก็ค้นหาไปรอบๆ อีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้ แต่ก็ยังไม่พบอะไรเลยให้ตายเถอะ คงอัดอั้นไว้นาน ไม่งั้นคงไม่ฝันแบบนี้เขาส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ หยิบผ้าคาดเอวที่ห้อยอยู่บนเก้าอี้ขึ้นมา ไม่รู้ว่าที่ตำหนักเทพหอทองคำเป็นอย่างไรบ้างขณะที่เย่จิ่งหลานกำลังคิดเรื่องนี้ ฉุยอวี้ก็พาคนกลับมาแล้ว แต่ก็ไม่พบอะไรเลย แม้แต่รอยเท้าก็ไม่มี“คงไม่ใช่คนตงหลิว แม้ว่าคนตงหลิวจะมีเจ้าเล่ห์ แต่ก็ไม่อาจไม่ทิ้งร่องรอยไว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-01
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1321 ชั่วร้ายกับใสซื่อ

    หลิวซือจวินเป่าลมหายใจออก แล้วจึงพูดว่า “ขอบคุณแม่นางอิน”“ไม่ต้องเกรงใจ ไปกันเถอะ”อินชิงเสวียนเดินออกจากประตูอย่างรวดเร็ว หลิวซือจวินเดินตามหลังนางไปด้วยความคิดที่ซับซ้อนตามลำดับอายุแล้ว อินชิงเสวียนควรจะเป็นน้องสาวของนาง เฮ่อฉางเฟิงก็อายุน้อยกว่านางเช่นกัน ตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมานั้นได้อยู่คนเดียวลำพัง แต่จู่ๆ ก็มีน้องชายกับน้องสาวเพิ่มขึ้นมา ในใจทั้งมีความสุขและความกังวลในเวลาเดียวกันมีความสุขที่ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีก ภายหน้าถ้าประสบพบเจอกับเรื่องใด ก็มีคนให้ปรึกษาหารือด้วย แต่สิ่งที่กังวลก็คือเฮ่อยวนจะเต็มใจยอมรับตัวเองหรือไม่ แล้วเจ้าตำหนักเหม่ยผู้นั้น จะยอมรับหรือไม่ขณะที่ครุ่นคิดเรื่อยเปื่อย ก็ได้ยินอินชิงเสวียนถามว่า “คุณชายหลิวมาที่นี่ เพื่อมาศึกษาวิชาแพทย์เท่านั้นหรอกหรือ”หลิวซือจวินต้องการบอกจุดประสงค์ของการเดินทางของตัวเองมาก แต่ในที่สุดก็ระงับไว้“ใช่ ตั้งแต่เดินทางมาถึงที่นี่ ก็ได้ยินชาวบ้านกล่าวขานกันว่าคนในอิ๋นเฉิงมีวิชาแพทย์ที่ยอดเยี่ยม เจ้าเมืองก็ใจดีมีเมตตามาก ซือจวินมีความปรารถนาอย่างแรงกล้า จึงเกิดความรู้สึกชอบขึ้นมาทันทีที่ได้พบ”อินชิงเสวียนชะลอความเร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-02
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1322 เคร่งขรึมจริงจัง

    หลิวซือจวินโบกไม้โบกมืออย่างรวดเร็ว“ไม่ใช่ๆ ข้าแค่ถามเฉยๆ”อินชิงเสวียนกลับเข้าใจผิดไปแล้ว การที่สาวน้อยจะชื่นชมวีรบุรุษ ไม่ว่าจะอยู่ในยุคสมัยใด ล้วนไม่ใช่เรื่องแปลก ที่พ่อแม่ได้กลับมาคืนดีกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย นางไม่ต้องการให้เกิดปัญหาใดๆ ขึ้นอีก“ท่านพ่อมีความรักต่อท่านแม่อย่างลึกซึ้ง ชาตินี้ไม่มีวันรับอนุอีก ยิ่งไม่มีใครสามารถทำลายพวกเขาได้ และข้าก็ไม่ยอมให้ใครทำเช่นนี้เช่นกัน”เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิวซือจวินก็รู้สึกอิจฉาเล็กน้อยตามเรื่องเล่าต่างๆ มักบอกว่าหญิงงามต้องคู่กับวีรบุรุษ ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง แต่จะบอกว่าในใจไม่มีความรู้สึกโกรธเคืองใจเลยสักนิด ก็คงเป็นไปไม่ได้ไม่ว่าเฮ่อยวนจะมีเหตุผลอะไรก็ตาม เขาไม่ควรละทิ้งพวกนางสองแม่ลูก แม้ว่าแม่ของนางจะหน้าตาธรรมดา แต่ก็ยังคงเป็นภรรยาคนแรกของเขาแล้วก็คิดอีกครั้ง บางทีเขาอาจจะมีเหตุผลอะไรที่จำใจต้องทำ หรือบางทีเขาอาจจะกลับไปตามหาพวกนางแม่ลูกแล้ว แต่พวกนางกลับย้ายที่อยู่ไปแล้วนางถอนหายใจและพูดว่า “เจ้าเมืองเฮ่อเป็นคนที่มีความรักลึกซึ้งจริงๆ”“นั่นเพราะเขามีความรักต่อแม่ของข้า”เมื่อคิดถึงแม่ หลิวซือจวินก็รู้สึกสะเทือนใจ“แ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-02

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1525 พิธีเสกสมรสของท่านอ๋องจิ้ง

    ณ ตำหนักจินอู๋“เป็นอย่างไร ข้าดูคนออกไหม”เย่จิ่งอวี้นั่งอยู่บนเก้าอี้นวมยาวนุ่มๆ ด้วยสีหน้าท่าทางพออกพอใจมากอินชิงเสวียนทำเสียงชิ“เห็นๆ อยู่ว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่จบได้ด้วยคำพูดเดียว ท่านกลับข่มขู่จนพวกเขาเกือบตาย เอาเถอะ เห็นแก่อาอวี้ที่วางแผนเผื่อน้องสาว ข้าจะไม่ถือสาท่าน ได้ยินมาว่าเสด็จอาไปสู่ขอที่ตระกูลอินแล้ว ต้าโจวมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นติดต่อกันเลยทีเดียว”เย่จิ่งอวี้โอบนางไว้ในอ้อมแขน“สิ่งที่ข้ารอคอยมากที่สุดคือเรื่องดีของเสวียนเอ๋อร์ ช่วงนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง องค์หญิงน้อยของเราดิ้นบ้างหรือไม่”อินชิงเสวียนลูบท้องน้อยโดยไม่รู้ตัว“ไม่มี ถึงอย่างไรก็เป็นลูกสาว ท่าทางว่าง่ายมาก”เย่จิ่งอวี้โน้มตัวลง เอาหน้าแนบกับท้องน้อยของอินชิงเสวียน“เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสวียนเอ๋อร์มีชื่อที่ชอบหรือเปล่า”อินชิงเสวียนหรี่ตาลงแล้วพูดว่า “ชื่อของจ้าวเอ๋อร์ยิ่งใหญ่เกินไป ก็เลยไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อว่าอะไรถึงจะเข้ากับลูกสาวสุดที่รักของข้า”เย่จิ่งอวี้ยิ้มและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะตั้งชื่อเอง แม้ต้องเปิดตำราโบราณจนหมดวังหลวง ข้าก็จะตั้งชื่อที่โด่งดังที่สุดในโลกให้ลูกสาวของเรา”อินชิงเสวีย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1524 ไม่พอใจก็ต้องทน

    ทั้งสองสะดุ้งตกใจพร้อมกัน เย่ไห่ถังรีบเอาตัวมาบังให้อินปู้อวี่ทันที“เสด็จพี่ พวกเรา...ทั้งหมดเป็นความคิดของข้า เป็นข้าที่อยากหนีการแต่งงาน เป็นข้าที่บังคับเขา!”อินปู้อวี่รู้ว่าฝ่าบาทมีวรยุทธ์สูงส่ง สิ่งที่ตัวเองพูดไปเมื่อครู่เขาจะต้องได้ยินอยู่แล้ว เขาก้าวไปข้างหน้า และคุกเข่าลงต่อหน้าฝ่าบาทด้วยสีหน้าซีดเซียว“ฝ่าบาททรงพระปรีชา ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับองค์หญิงเลย เป็นกระหม่อมที่เพ้อฝันในตัวองค์หญิง คิดฝันในสิ่งที่ไม่สมควร ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเห็นแก่ตัวของกระหม่อมเพียงฝ่ายเดียว ไม่เกี่ยวอะไรกับองค์หญิง ไม่เกี่ยวกับฮองเฮา และยิ่งไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลอินเลย กระหม่อมยอมตายเพื่อชดใช้ความผิด ด้วยพระเมตตาของฝ่าบาท หวังว่าฝ่าบาทจะเห็นแก่ความเป็นพี่น้องกับองค์หญิง โปรดอย่าส่งนางไปแต่งงานกับเจียงวูเลยพ่ะย่ะค่ะ!”อินปู้อวี่สะบัดนิ้ว กระบี่ที่เอวก็หลุดออกมาจากฝักเสียงดัง เขาถือกระบี่จ่อที่ลำคอตัวเอง ทว่าเหมือนถูกพลังที่มองไม่เห็นขัดขวางไว้ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถเข้าใกล้ผิวหนังของเขาได้เลยใบหน้าของเย่ไห่ถังซีดลงด้วยความหวาดกลัว กระโจมเข้าไปหาเขาทันที กล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดปนสะอื้น

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1523 สารภาพความในใจ

    อินปู้อวี่ไม่กล้าสบตาคู่นั้นโดยตรง ก้มหน้าพูดว่า “กระหม่อมจะกล้าหัวเราะเยาะองค์หญิงได้อย่างไร กระหม่อมเป็นห่วงองค์หญิง ดังนั้น...จึงมาเยี่ยม”เย่ไห่ถังลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินไปหาเขาทีละก้าวถามด้วยดวงตาแดงก่ำ “ข้ากำลังจะไปจากวังหลวง จะไม่ได้รบกวนท่านอีกตลอดไป ท่านสมความปรารถนาแล้ว ยังต้องเป็นห่วงอะไรอีก”อินปู้อวี่ก้มศีรษะลง มองดูปลายรองเท้าแล้วพูดว่า “ไม่ใช่อย่างที่องค์หญิงคิด กระหม่อมไม่เคยคิดเลยว่าองค์หญิงจะไปแต่งงานเชื่อมไมตรี”เย่ไห่ถังยกมุมปากขึ้นอย่างเยาะเย้ยถากถาง“การแต่งงานเชื่อมไมตรีเพื่อเสริมสร้างอำนาจราชวงศ์ ทำให้ประชาชนมีความสุขสงบ เป็นเรื่องธรรมดาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วไม่ใช่หรือ จะไม่เคยคิดได้อย่างไร ท่านเคยไปทำศึกที่เจียงวู คงรู้สถานการณ์ที่นั่นดี ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ฟ้าดินกว้างขวาง สำหรับข้าคงเป็นสิ่งที่ดีมาก”ทันใดนั้นอินปู้อวี่ก็เงยหน้าขึ้น สีหน้าตื่นเต้นเล็กน้อย“ไม่ดี ที่นั่นไม่เหมาะกับองค์หญิงเลย ชาวเจียงวูส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในกระโจม อพยพตามฤดูกาล แม้แต่ตำหนักที่ประทับที่เป็นทางการก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ องค์หญิงสูงศักดิ์ล้ำค่า จะทนสิ่งนี้ได้อย่างไร”เย่ไห่ถังมองดู

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1522 ท่านมาหัวเราะเยาะข้างั้นหรือ

    ไม่ได้ เขาต้องไปพบกับเย่ไห่ถัง!อินปู้อวี่เปลี่ยนเป็นชุดพรางตัว ผลักเปิดหน้าต่างด้านข้าง กวาดสายตามองไปรอบๆ และร่างนั้นก็กระโดดออกจากพระที่นั่งเทียนเต๋ออย่างเงียบเชียบในเวลานี้ ตำหนักชิงฮว๋าได้ตกอยู่ในความโกลาหลหมอหลวงหลายคนช่วยกันตรวจชีพจร และในที่สุดก็สรุปได้ว่า องค์หญิงวิตกกังวลเกินเหตุ ไม่มีอะไรร้ายแรงอินชิงเสวียนเหลือบมองเย่จิ่งอวี้อย่างงอนๆ จากนั้นให้น้ำพุวิญญาณชงชามะนาวให้นางดื่มเย่จิ่งอวี้ยิ้มบางๆ และพูดว่า “ในที่สุดน้องสาวของข้าก็โตขึ้นแล้ว รู้จักจะคิดแทนข้า แม้ว่าเจียงวูจะเป็นสถานที่เล็กๆ แต่ก็มีชนเผ่าอยู่ใกล้ๆ มากมาย เมื่อราชาเผ่ามีเจตนาเป็นกบฏ แล้วร่วมมือกัน นั่นจะเป็นขุมพลังที่ไม่อาจมองข้ามได้ เจ้าไปแต่งงานเชื่อมไมตรีในฐานะองค์หญิง ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงพระเมตตาของสวรรค์เท่านั้น แต่ยังทำให้จิตใจของชาวเจียงวูมั่นคงอีกด้วย เจ้าก็ถึงวัยที่จะแต่งงานพอดี ราชาเผ่าอายุมากกว่าเจ้าไปบ้าง ย่อมรักและทะนุถนอมเจ้าอย่างดีอยู่แล้ว ข้าออกคำสั่งให้เขาแต่งเจ้าเป็นภรรยาเอกแล้ว เจ้าไม่ต้องกังวล”เย่ไห่ถังหน้าซีด นั่งฟังอยู่เงียบๆ ดวงตาว่างเปล่าอินชิงเสวียนทนไม่ไหว ตะโกนออกมาด้ว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1521 ศรัทธาพังทลาย

    อินปู้อวี่ตกตะลึงจนหน้าเผือดสีเขาอ่านจดหมายลับกลับไปกลับมาอยู่หลายครั้ง คำต่อคำ บรรทัดต่อบรรทัด ไม่ผิด ฝ่าบาททรงหมายความตามนี้จริงๆปลายนิ้วสั่นเทาอย่างอดไม่ได้ พระราชโองการร่วงหล่นลงกับพื้น“ผู้บัญชาการ เกิดอะไรขึ้นขอรับ”รองแม่ทัพยืนอยู่ข้างๆ กำลังคิดจะหยิบพระราชโองการขึ้นมาดูอินปู้อวี่ยื่นมือออกไปห้ามเขา สีหน้ามืดลง“ถอยออกไป”รองแม่ทัพไม่กล้าพูดอะไร โค้งคำนับและถอยออกไปนอกพระที่นั่ง ทว่าในใจกลับเอาแต่คิดว่าเกิดอะไรขึ้นฝ่าบาทให้ความสำคัญกับตระกูลอินมากเพียงใดนั้น เจ้าหน้าที่ขุนนางทุกคนในเมืองหลวงล้วนรู้ดี เหตุใดผู้บังคับบัญชาจึงมีสีหน้าหวาดกลัว ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้?เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นานแต่ก็คิดไม่เข้าใจ จึงนำทหารออกไปลาดตระเวนอินปู้อวี่ยืนนิ่งงันอยู่เนิ่นนาน ก่อนที่จะหยิบพระราชโองการขึ้นมา ดึงตะบันไฟออกมา และเริ่มเผามันด้วยสีหน้าด้านชาดังที่เย่จิ่งอวี้พูด เขาเข้าใจทุกอย่าง และรู้ทุกอย่างเขามีนิสัยตรงไปตรงมา ไม่ชอบอ้อมค้อม หัวสมองก็ไม่ฉลาดพอ ไม่เฉลียวฉลาดเหมือนพี่ใหญ่ และไม่ชอบทำตัวเหมือนน้ำกลิ้งบนใบบอนหัวช้าเรื่องความรัก แต่เ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1520 อ่านจบแล้วจงเผาทำลาย

    อินชิงเสวียนค่อนข้างรู้สึกตื่นเต้น นับจากการแจกจ่ายตำราไปจนถึงการก่อตั้งโรงเรียนสอนการต่อสู้ ก็ผ่านมาหนึ่งปีแล้ว แม้ว่าเวลาจะฉุกละหุกไปบ้าง แต่ถ้าเทียบกับบทกวีและบทเพลงที่น่าเบื่อก่อนหน้านี้ ก็ถือว่าเพิ่มพูนความรู้มากพอสมควรแต่หากต้องการให้มีการศึกษาภาคบังคับเหมือนในยุคสมัยใหม่ รวมถึงมีการเรียนแบบมหาวิทยาลัย เกรงว่าจะต้องใช้เวลาหลายปีโชคดีที่ฮ่องเต้สนับสนุนนาง ไม่ว่าจะใช้เวลานานเท่าใดก็ตาม นางก็เต็มใจที่จะลองดู“เช่นนั้นก็ยอดไปเลย ข้ารอไม่ไหวแล้ว เพียงแต่ใกล้จะสิ้นปีแล้ว ทำไมไม่จัดสอบหน้าพระที่นั่งหลังวันตรุษล่ะ จะได้ให้เหล่าบัณฑิตได้สนุกสนานกับครอบครัวในวันตรุษให้เต็มที่”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าเห็นด้วย“เสวียนเอ๋อร์พูดมีเหตุผล พรุ่งนี้ข้าจะเขียนโองการขึ้นใหม่ ให้สอบระดับเขตก่อน จากนั้นสอบระดับมณฑล ส่วนการสอยระดับอื่นไว้ค่อยดำเนินการหลังวันตรุษ”อินชิงเสวียนคลี่ยิ้ม“ขอบพระทัยฝ่าบาท”“ปากเล็กๆ เต็มไปด้วยน้ำผึ้ง ขอข้าชิมหน่อย”อินชิงเสวียนปิดปากของเขาทันที“ข้าจะลุกจากเตียงแล้ว”เย่จิ่งอวี้กอดนางไว้แน่นกึ่งบังคับ“ไม่ได้ ข้าบอกแล้ว วันนี้ให้นอนบนเตียง”อินชิงเสวียนดิ้นไม่หลุ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1519 ไม่ต้องพูด จูบข้า

    เมื่อมองดูดวงตาคู่นั้นที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความอ่อนโยน หัวใจของอินชิงเสวียนเหมือนจะถูกสิ่งของบางอย่างกระแทกอย่างแรง พูดไม่ออกเป็นเวลานานนางคิดมาตลอดว่าความรักนั้นสามารถร้อนแรงเร่าร้อน หรือจะค่อยเป็นค่อยไปอย่างยาวนานก็ได้ แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่า ความรักของเย่จิ่งอวี้นั้นลึกซึ้งและหนักหน่วงมาก จนกระทั่งครอบครองหัวใจของนางอย่างเต็มกำลังรู้สึกว่าลำคอตีบตันไปหมด การมองเห็นพร่าเลือนไปชั่วขณะหนึ่งนางยืนขึ้นอย่างช้าๆ เดินไปหาเย่จิ่งอวี้ นางอ้าแขนออก และกอดชายตรงหน้าอย่างแรง ราวกับว่าได้อุ้มทั้งโลกไว้ในอ้อมกอดจากนั้นก็ยืนเขย่งปลายเท้า จูบริมฝีปากที่เริ่มเย็นของเขานางเป็นฝ่ายเริ่มตวัดปลายลิ้นดุนดันปลายลิ้นของเย่จิ่งอวี้ อ้อยอิ่งอยู่กับเขารสหวานเข้าครอบงำประสาทสัมผัสของเย่จิ่งอวี้ทันที เขากอดร่างเล็กของหญิงสาวด้วยมือข้างเดียว จากผู้ที่เป็นฝ่ายถูกกระทำกลับกลายเป็นฝ่ายกระทำ ยึดร่างบางของนางไว้กับอกของตัวเอง กระแสเสียงแหบเครือ “เสวียนเอ๋อร์...คิดถึงข้างั้นหรือ ทำไมวันนี้ถึงกระตือรือร้นเช่นนี้”อินชิงเสวียนมองใบหน้าอันหล่อเหลาราวกับเทพเซียนด้วยสายตาพร่าเลือน ประทับจูบที่มุมปากของเขาแ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1518 ทุ่มเททุกอย่างเพื่อเจ้า

    ในตำหนักจินอู๋ อากาศอบอุ่นเหมือนฤดูใบไม้ผลิมีเตาผิงสร้างไว้ในห้อง เปลวไฟไหววูบวาบเป็นรูปร่าง ทำให้ตำหนักขนาดใหญ่แห่งนี้ดูมีชีวิตชีวาและอบอุ่นยิ่งเย่จิ่งอวี้ช่วยอินชิงเสวียนถอดเสื้อคลุมหนาๆ ออก แล้วส่งถ้วยน้ำชาร้อนๆ ใส่มือของนาง“ได้ยินมาว่าเจ้ากับไห่ถังไปที่พระที่นั่งเทียนเต๋อ?”“อืม ไห่ถังอยากไปพบพี่รองของข้า”อินชิงเสวียนจิบคำเล็กๆ แล้ววางถ้วยชาลง“ฝ่าบาทประสาทสัมผัสทั้งหูและตาดีเยี่ยม ทั้งยังมีองครักษ์เงานับไม่ถ้วน ทุกเรื่องในวัง คงปิดบังท่านไม่ได้ ไม่ทราบว่า ฝ่าบาทคิดอย่างไรกับเรื่องนี้”เย่จิ่งอวี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย สรรพนามที่นางเรียกนี้ เขาไม่ชอบมากจริงๆนอกวังหลวง เขาและอินชิงเสวียนเป็นเพียงคู่รักธรรมดา เมื่อเสร็จสิ้นเรื่องสำคัญแล้ว พวกเขาก็พูดคุย หัวเราะ หยอกล้อกันบ้างตามประสา แต่เมื่อกลับมาที่วัง เหมือนทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในทันที เพียงแค่เอ่ยคำว่า “ฝ่าบาท” ทันใดนั้นระยะห่างระหว่างคนทั้งสองก็เพิ่มมากขึ้น“เรียกว่าอาอวี้เถอะ ข้าชอบมันมากกว่า ข้าสามารถเป็นฮ่องเต้ของทุกคนในโลกได้ แต่ไม่ใช่ของเจ้า”“เอ๊ะ?”อินชิงเสวียนกำลังคิดเรื่องเย่ไห่ถัง ไม่เข้าใจว่าเย่จิ่งอวี้หมายถึง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1517 นิสัยของหลี่กงกงยังคงเหมือนเดิม

    คนที่ถือร่มไม่ใช่อินปู้อวี่ หากแต่เป็นอินชิงเสวียนพี่สะใภ้ของนางแม้ว่าทั้งสองจะแซ่อิน แต่ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเย่ไห่ถังไม่มีความคิดซับซ้อน ความผิดหวังหรือเสียใจล้วนแสดงชัดบนใบหน้า“เสด็จพี่สะใภ้!”นางตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจู่ๆ ก็โถมตัวเข้าไปในอ้อมแขนของอินชิงเสวียน และร้องไห้เสียงดังอินชิงเสวียนตบหลังนางเบาๆ เมื่อครู่นางแอบซ่อนอยู่มุมมืด ได้ยินและได้เห็นทุกสิ่งได้ชัดเจนหากเป็นคนอื่น นางอาจจะพอเข้าใจได้บ้าง แต่พี่รองเป็นคนแตกต่างออกไป ภายใต้รูปลักษณ์ที่หล่อเหลาและดูเฉยเมย นางไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เขามีนิสัยเชื่องช้ากว่าคนอื่น เมื่อองค์หญิงสารภาพรัก คาดว่าคงจะตกใจมาก เกรงว่าต้องใช้เวลาทั้งคืน เขาถึงจะรู้ตัว“ไม่ร้องนะ พี่สะใภ้จะหาอะไรสนุกๆ ให้เจ้าเล่น”“ไม่เอา ข้าจะกลับตำหนัก เสด็จพี่สะใภ้ไปหาเสด็จพี่ฮ่องเต้เถอะ”เย่ไห่ถังปาดน้ำตาแรงๆ แล้ววิ่งหนีไป อินชิงเสวียนเป็นกังวล จึงเดินตามนางไปสองชั่วยามต่อมา ในที่สุดเย่ไห่ถังก็หยุดร้องไห้ ดวงตาทั้งคู่บวมเป่ง“เสด็จพี่สะใภ้ ข้าคิดตกแล้ว ข้าจะขอให้เสด็จพี่ย้ายพี่รองของท่านออกจากวังหลัง หากมีคนที่เหมาะสม ข

DMCA.com Protection Status