Share

บทที่ 1320 พูดผิดไป

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-10-01 16:00:00
แต่เพียงชั่วครู่หนึ่ง เงาหมอกนั้นก็หายไป

“มีอะไรหรือ”

ข้อมือของเย่จิ่งหลานสั่น โยนเขาลงบนเก้าอี้ในห้องอย่างแม่นยำ

หวังซุ่นมองอีกครั้ง อาจเป็นเพราะตัวเองตาฝาดไป

เขาหัวเราะแหะๆ และพูดอย่างชาญฉลาด “เรื่องนั้นน่ะหรือ อ้อจริงสิ ศิษย์หลายคนจากหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ต้องการขึ้นไปบนภูเขา”

เย่จิ่งหลานพูดด้วยความโกรธว่า “จะขึ้นไปทำอะไร อยู่กับข้าที่นี่ดีกว่า ตอนนี้ตำหนักเทพหอทองคำอาจไม่ปลอดภัย ที่นี่ใกล้กับอิ๋นเฉิง หากเจอเรื่องไม่คาดฝันจริงๆ ก็สามารถไปขอความช่วยเหลือจากอิ๋นเฉิงได้”

“นายท่านพูดถูก บ่าวจะกลับไปบอกพวกเขาเดี๋ยวนี้”

หวังซุ่นกลัวถูกยำเละ จึงวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่เขาจากไป เย่จิ่งหลานก็ค้นหาไปรอบๆ อีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้ แต่ก็ยังไม่พบอะไรเลย

ให้ตายเถอะ คงอัดอั้นไว้นาน ไม่งั้นคงไม่ฝันแบบนี้

เขาส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ หยิบผ้าคาดเอวที่ห้อยอยู่บนเก้าอี้ขึ้นมา ไม่รู้ว่าที่ตำหนักเทพหอทองคำเป็นอย่างไรบ้าง

ขณะที่เย่จิ่งหลานกำลังคิดเรื่องนี้ ฉุยอวี้ก็พาคนกลับมาแล้ว แต่ก็ไม่พบอะไรเลย แม้แต่รอยเท้าก็ไม่มี

“คงไม่ใช่คนตงหลิว แม้ว่าคนตงหลิวจะมีเจ้าเล่ห์ แต่ก็ไม่อาจไม่ทิ้งร่องรอยไว
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1321 ชั่วร้ายกับใสซื่อ

    หลิวซือจวินเป่าลมหายใจออก แล้วจึงพูดว่า “ขอบคุณแม่นางอิน”“ไม่ต้องเกรงใจ ไปกันเถอะ”อินชิงเสวียนเดินออกจากประตูอย่างรวดเร็ว หลิวซือจวินเดินตามหลังนางไปด้วยความคิดที่ซับซ้อนตามลำดับอายุแล้ว อินชิงเสวียนควรจะเป็นน้องสาวของนาง เฮ่อฉางเฟิงก็อายุน้อยกว่านางเช่นกัน ตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมานั้นได้อยู่คนเดียวลำพัง แต่จู่ๆ ก็มีน้องชายกับน้องสาวเพิ่มขึ้นมา ในใจทั้งมีความสุขและความกังวลในเวลาเดียวกันมีความสุขที่ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีก ภายหน้าถ้าประสบพบเจอกับเรื่องใด ก็มีคนให้ปรึกษาหารือด้วย แต่สิ่งที่กังวลก็คือเฮ่อยวนจะเต็มใจยอมรับตัวเองหรือไม่ แล้วเจ้าตำหนักเหม่ยผู้นั้น จะยอมรับหรือไม่ขณะที่ครุ่นคิดเรื่อยเปื่อย ก็ได้ยินอินชิงเสวียนถามว่า “คุณชายหลิวมาที่นี่ เพื่อมาศึกษาวิชาแพทย์เท่านั้นหรอกหรือ”หลิวซือจวินต้องการบอกจุดประสงค์ของการเดินทางของตัวเองมาก แต่ในที่สุดก็ระงับไว้“ใช่ ตั้งแต่เดินทางมาถึงที่นี่ ก็ได้ยินชาวบ้านกล่าวขานกันว่าคนในอิ๋นเฉิงมีวิชาแพทย์ที่ยอดเยี่ยม เจ้าเมืองก็ใจดีมีเมตตามาก ซือจวินมีความปรารถนาอย่างแรงกล้า จึงเกิดความรู้สึกชอบขึ้นมาทันทีที่ได้พบ”อินชิงเสวียนชะลอความเร

    Last Updated : 2024-10-02
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1322 เคร่งขรึมจริงจัง

    หลิวซือจวินโบกไม้โบกมืออย่างรวดเร็ว“ไม่ใช่ๆ ข้าแค่ถามเฉยๆ”อินชิงเสวียนกลับเข้าใจผิดไปแล้ว การที่สาวน้อยจะชื่นชมวีรบุรุษ ไม่ว่าจะอยู่ในยุคสมัยใด ล้วนไม่ใช่เรื่องแปลก ที่พ่อแม่ได้กลับมาคืนดีกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย นางไม่ต้องการให้เกิดปัญหาใดๆ ขึ้นอีก“ท่านพ่อมีความรักต่อท่านแม่อย่างลึกซึ้ง ชาตินี้ไม่มีวันรับอนุอีก ยิ่งไม่มีใครสามารถทำลายพวกเขาได้ และข้าก็ไม่ยอมให้ใครทำเช่นนี้เช่นกัน”เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิวซือจวินก็รู้สึกอิจฉาเล็กน้อยตามเรื่องเล่าต่างๆ มักบอกว่าหญิงงามต้องคู่กับวีรบุรุษ ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง แต่จะบอกว่าในใจไม่มีความรู้สึกโกรธเคืองใจเลยสักนิด ก็คงเป็นไปไม่ได้ไม่ว่าเฮ่อยวนจะมีเหตุผลอะไรก็ตาม เขาไม่ควรละทิ้งพวกนางสองแม่ลูก แม้ว่าแม่ของนางจะหน้าตาธรรมดา แต่ก็ยังคงเป็นภรรยาคนแรกของเขาแล้วก็คิดอีกครั้ง บางทีเขาอาจจะมีเหตุผลอะไรที่จำใจต้องทำ หรือบางทีเขาอาจจะกลับไปตามหาพวกนางแม่ลูกแล้ว แต่พวกนางกลับย้ายที่อยู่ไปแล้วนางถอนหายใจและพูดว่า “เจ้าเมืองเฮ่อเป็นคนที่มีความรักลึกซึ้งจริงๆ”“นั่นเพราะเขามีความรักต่อแม่ของข้า”เมื่อคิดถึงแม่ หลิวซือจวินก็รู้สึกสะเทือนใจ“แ

    Last Updated : 2024-10-02
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1323 ใช้วิธีเดิมอีกครั้ง

    “มาแล้วขอรับ”หวังซุ่นหดคอเดินเข้ามาในห้อง เมื่อเห็นอินชิงเสวียนก็รีบโค้งคำนับอย่างรวดเร็ว“บ่าวถวายพระพรฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ”อินชิงเสวียนยิ้มเล็กน้อย“ลุกขึ้นเถอะ ที่ข้ามาหาเจ้าที่นี่ เพราะอยากได้หน้ากากผิวหนังมนุษย์ของเจ้า แต่ข้าไม่เคยเห็นรูปร่างหน้าตาของบุคคลนั้นมาก่อน โชคดีที่มีศิษย์จากหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่นี่ด้วย ไปตามคนมาหน่อย”หวังซุ่นไม่เข้าใจว่าอินชิงเสวียนหมายความว่าอะไร เย่จิ่งหลานจึงพูดว่า “ไปตามฉินเซ่อผีผามา เดี๋ยวพวกนางจะอธิบายให้เจ้าฟังเอง”“อ้อ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้”หวังซุ่นไม่กล้าชักช้า หลังจากปิดประตูก็วิ่งแจ้นไป วันนี้เจ้านายยิ่งหงุดหงิดมากกว่าปกติ เขาไม่อยากขัดใจเจ้านายให้ตัวเองซวยหรอกนะหลังจากนั้นไม่นาน สาวใช้ทั้งสี่ก็มาถึง ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ยังคงเศร้าเสียใจกับการจากไปของเจ้าสำนักเซี่ยว ดวงตาบวมแดงไปหมดทั้งหมดกำลังจะทำความเคารพ แต่ก็ถูกอินชิงเสวียนห้ามไว้“หลังจากเกิดเรื่องขึ้นกับท่านตา มีเพียงนักพรตเทียนจีที่หายตัวไป ซึ่งน่าสงสัยมาก ข้าอาจมีวิธีล่อเขาออกมา สอบถามเรื่องราวทั้งหมด ขอให้พี่สาวทั้งสี่ช่วยอธิบายความสูงและรูปร่างหน้าตาของนักพรตเทียนจี ร

    Last Updated : 2024-10-02
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1324 นักพรตเทียนชิง

    ชายคนนี้สวมชุดคลุมสีฟ้าเทา คอเสื้อถูกซักจนสีซีด แต่กลับดูสะอาดสะอ้านและเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก มีใบหน้าซูบตอบ ในดวงตาเต็มไปด้วยความเมตตาที่ห่วงใยทุกสรรพสิ่งและความสงบสุขเมื่อสบตากัน อารมณ์วุ่นวายของอินชิงเสวียนดูเหมือนจะสงบลงทันทีนักพรตเต๋าชรายิ้มให้นาง แล้วหันไปหาเสี่ยวเอ้อร์ที่กำลังยกอาหารเข้ามา“พี่ชายน้อยท่านนี้ ที่นี่มีเสบียงอาหารแห้งขายหรือไม่”เสี่ยวเอ้อร์มองดูเสื้อผ้าซอมซ่อของเขา ได้กลิ่นความยากจน จึงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “หมั่นโถวหรือแป้งเปี๊ยะก็ไม่มีทั้งนั้น ที่ถูกที่สุดมีแค่บะหมี่ ราคาชามละเจ็ดอีแปะ ถ้าเจ้าอยากกิน ก็รอจนกว่าข้าจะทำอาหารให้ลูกค้าทั้งสองท่านนี้เสร็จก่อน แล้วจะทำให้เจ้า”อินชิงเสวียนขมวดคิ้ว ขณะที่กำลังจะพูด เย่จิ่งหลานก็ชิงพูดขึ้นเสียพูดก่อน“พูดอะไรแบบนั้น เจ้าไม่รู้จักคำว่าเคารพผู้อาวุโสปรานีเด็กหรือไง ค่าอาหารของท่านผู้เฒ่าคนนี้ ข้าจะเลี้ยงเอง”อินชิงเสวียนก็ยืนขึ้นเช่นกัน ประกบมือคำนับแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นักพรตท่านนี้ หากไม่รังเกียจ ทำไมไม่ร่วมรับประทานอาหารกับพวกเราพี่สาวน้องชายล่ะ?”เย่จิ่งหลานรีบแก้ไขทันที“เป็นพี่ชายน้องสาว”อินชิงเสวีย

    Last Updated : 2024-10-02
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1325 ตะลึง

    อินชิงเสวียนมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่ก็ไม่เห็นใครเลยเดิมทีนางคิดว่าเป็นเย่จิ่งอวี้ แต่ดูเหมือนว่านางคิดผิด นางหันความสนใจไปที่เย่จิ่งหลานทันที เขาดูเหมือนจะสับสนเช่นกันดวงตาทั้งสองคู่มองสบกันครู่หนึ่ง เย่จิ่งหลานก็ลอยขึ้นข้างบน แล้วถอยกลับไปหลายจั้ง“ลูกผู้ชายฆ่าได้ หยามไม่ได้ เจ้านักพรตเฒ่าจมูกวัวบัดซบ อย่าหวังว่าจะพาข้ากลับไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ได้”นักพรตเทียนชิงลูบเครายิ้มๆ“พี่ชายน้อยคนนี้ใจร้อนเกินไป นั่งลงเถอะ”เขาหมุนควงแขนเสื้อ เย่จิ่งหลานก็เหมือนถูกพลังอำนาจลึกลับบางอย่างดึงกลับไปที่เก้าอี้เดิมอย่างแม่นยำอินชิงเสวียนหัวใจเต้นแรงขึ้น นักพรตชราผู้นี้มีฌานตบะแกร่งกล้ามาก โชคดีที่เขาไม่มีเจตนาชั่วร้าย จึงรู้สึกโล่งใจลงบ้าง“จิ่งหลาน ท่านนักพรตพูดถูก เจ้าอยากอธิบายเรื่องชาดแห่งบาปให้ชัดเจนไม่ใช่หรือ ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีไม่ใช่หรือ”เย่จิ่งหลานรู้สึกราวกับว่าก้นถูกยึดติดอยู่กับเก้าอี้ ไม่สามารถขยับได้เลย อดไม่ได้ที่จะผรุสวาท “นักพรตจมูกวัวบัดซบพวกนี้จะพูดความจริงอะไรออกมาได้ แต่ละคนพอเจอหน้ากันก็มีแต่จะจับตัว ข้าไม่ใช่ศัตรูพืชในนาข้าวนะ ทำไมต้องถูกทุกคนในโลกจับตัวด้วย”อินช

    Last Updated : 2024-10-03
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1326 ในความสงบสุข มีผู้ที่ต้องแบกรับภาระ

    เย่จิ่งหลานแค่นเสียงชิและพูดว่า “เจ้าอย่าอวยพวกเรานักเลย ไม่ว่าเราจะมาจากไหน เราทุกคนต่างก็เป็นมนุษย์ ไม่ใช่เทพ เราไม่มีความตั้งใจที่จะช่วยโลก แค่หวังว่าจะมีชีวิตที่สงบสุขเท่านั้น”นักเต๋าเทียนชิงกล่าวว่า “ใครๆ ก็อยากมีชีวิตที่สุขสงบ แต่วันที่สงบสุขเหล่านี้ ก็ต้องมีวีรบุรุษที่ไร้ชื่อคอยปกป้องอยู่เงียบๆ บางสิ่งไม่ใช่ความปรารถนาของเจ้าเอง แต่เป็นการเลือกของสวรรค์”ทันใดนั้นอินชิงเสวียนก็รู้สึกถึงปลงอนิจจังในใจ ซึ่งทำให้นางนึกถึงคำพูดทั่วไปในยุคปัจจุบัน เจ้าคิดว่าสงบสุขนั้น เพราะมีคนแบกรับภาระให้เจ้าพวกเขาช่วยกันปกป้องเป่ยไห่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นคุณูปการต่อประชาชนในโลกนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะเผชิญกับความยากลำบากอะไรในอนาคตจึงถอนหายใจเบาๆ และกล่าวว่า “อาจจะใช่ ในเมื่อเราเป็นคนของราชวงศ์โจวเช่นนั้นจึงควรทำหน้าที่ปกป้องราษฎรใต้หล้า ตั้งใจอย่างดีที่สุด ในอีกน้อยปีข้างหน้า จะไม่เหลือความเสียดายใดๆ”นักพรตเทียนชิงยกย่องนางว่า “พูดได้ดี หากอาตมภาพเดาไม่ผิด แม่นางผู้นี้คงจะเป็นฮองเฮาคนปัจจุบัน”อินชิงเสวียนตกตะลึงเล็กน้อย เรื่องนี้ก็ยังมองออก นักพรตชราผู้นี้มีความสามารถบางอย่างจริงๆจากนั้นจึงประ

    Last Updated : 2024-10-03
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1327 ทฤษฎีแก่นวิญญาณ

    เมื่อเห็นท่าทีที่เคร่งขรึมของนักพรตเทียนชิง หัวใจของอินชิงเสวียนก็สั่นไหว เดินออกจากโรงเตี๊ยมในขณะนี้ยังไม่รู้ว่ามีตัวอะไรที่หนีออกมาจากวิถีแห่งสวรรค์ นักพรตเต๋าคนนี้ดูแข็งแกร่งยิ่งนัก ทั้งยังรู้ศาสตร์แห่งการทำนาย ทำไมไม่ยืมมือของเขาล่ะ...“ท่านนักพรตเห็นอะไรหรือ”อินชิงเสวียนเหลือบมองท้องฟ้า แล้วแสร้งถามทำเป็นไม่เข้าใจแต่ในใจกลับเดาได้ว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับสิ่งชั่วร้ายนั้นนักพรตเทียนชิงหันกลับมาอย่างช้าๆ“เกรงว่าแม่นางคงจะรู้มานานแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นที่นี่”อินชิงเสวียนพยักหน้าและกล่าวว่า “ท่านสามีเคยยกย่องท่านนักพรตว่ามีพรสวรรค์น่าทึ่ง ไม่มีใครเทียบได้ บัดนี้ได้พบ คู่ควรกับชื่อเสียงจริงๆ ที่นี่มีบางอย่างแปลกๆ เกิดขึ้นจริง”“อ้อ ข้าอยากฟังรายละเอียด”อินชิงเสวียนไม่ได้ปิดบังสิ่งใด เล่าเรื่องวิถีแห่งสวรรค์ให้นักพรตเทียนชิงฟังอย่างละเอียดนักพรตเทียนชิงพยักหน้าและกล่าวว่า “เช่นนี้นี่เอง เมื่อครู่ข้ามองไปที่เมฆดำ ก็ตระหนักว่าพลังแห่งฟ้าดินไม่ถูกต้อง ที่แท้มีวิญญาณชั่วร้ายก่อความวุ่นวายที่นี่นี่เอง”เขายกมือขึ้นชี้ จากนั้นก็ได้ยินเสียงพรึบเบาๆ ปราณกระบี่ในมือก็ทำ

    Last Updated : 2024-10-03
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1328 ความรักในครอบครัว

    นักพรตเทียนชิงตกใจเล็กน้อย“ดวงตะวัน?”อินชิงเสวียนหัวเราะแห้งๆ แล้วพูดว่า “ผู้เยาว์เห็นสิ่งนี้ในหนังสือบันทึกเรื่องเหนือธรรมชาติ รู้สึกว่ามหัศจรรย์ยิ่งนัก ไม่ทราบว่านี่คือสัญญาณบ่งบอกว่าอะไร”นักพรตเทียนชิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง“ข้าไม่รู้เรื่องนี้ และข้าไม่เคยได้ยินเรื่องแก่นวิญญาณในลักษณะนี้มาก่อน”เย่จิ่งหลานกำลังจะถามว่าต้องทำอย่างไรถึงจะฝึกฝนให้มีแก่นวิญญาณขึ้นได้ แต่ก็ได้ยินเสียงสุนัขเห่ามาแต่ไกล ชายหนุ่มรูปงามสวมเสื้อคลุมสีเขียวเข้มก็ปรากฏตัวขึ้นในสายตา“อาอวี้!”เมื่อเห็นเย่จิ่งอวี้ สีหน้าของอินชิงเสวียนก็เบิกบานด้วยความดีใจ นางโบกมือไปทางเขาไป๋เสวี่ยรีบวิ่งไปหานาง แล้วกอดเอวของอินชิงเสวียนและถูไถไปมา วนเจ้าขาวนั่งอยู่ข้างๆ ดวงตาสีเขียวคู่นั้นมองดูนักนักพรตเทียนชิงอย่างระมัดระวัง“เสวียนเอ๋อร์ ทำไมเจ้าลงจากเขาล่ะ”เย่จิ่งอวี้มองดูหญิงสาวด้วยความกังวล เมื่อเห็นว่านางไม่ได้รับบาดเจ็บก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อยเมื่อหันกลับมา ก็เห็นนักพรตเทียนชิง ทันใดนั้นดวงตาก็แสดงความประหลาดใจ“เหตุใดท่านนักพรตจึงมาที่นี่ได้”หลังจากถามจบ ก็นึกถึงเย่จิ่งหลานทันที ในใจพลันเข้าใจขึ้นทันที จึง

    Last Updated : 2024-10-03

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1525 พิธีเสกสมรสของท่านอ๋องจิ้ง

    ณ ตำหนักจินอู๋“เป็นอย่างไร ข้าดูคนออกไหม”เย่จิ่งอวี้นั่งอยู่บนเก้าอี้นวมยาวนุ่มๆ ด้วยสีหน้าท่าทางพออกพอใจมากอินชิงเสวียนทำเสียงชิ“เห็นๆ อยู่ว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่จบได้ด้วยคำพูดเดียว ท่านกลับข่มขู่จนพวกเขาเกือบตาย เอาเถอะ เห็นแก่อาอวี้ที่วางแผนเผื่อน้องสาว ข้าจะไม่ถือสาท่าน ได้ยินมาว่าเสด็จอาไปสู่ขอที่ตระกูลอินแล้ว ต้าโจวมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นติดต่อกันเลยทีเดียว”เย่จิ่งอวี้โอบนางไว้ในอ้อมแขน“สิ่งที่ข้ารอคอยมากที่สุดคือเรื่องดีของเสวียนเอ๋อร์ ช่วงนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง องค์หญิงน้อยของเราดิ้นบ้างหรือไม่”อินชิงเสวียนลูบท้องน้อยโดยไม่รู้ตัว“ไม่มี ถึงอย่างไรก็เป็นลูกสาว ท่าทางว่าง่ายมาก”เย่จิ่งอวี้โน้มตัวลง เอาหน้าแนบกับท้องน้อยของอินชิงเสวียน“เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสวียนเอ๋อร์มีชื่อที่ชอบหรือเปล่า”อินชิงเสวียนหรี่ตาลงแล้วพูดว่า “ชื่อของจ้าวเอ๋อร์ยิ่งใหญ่เกินไป ก็เลยไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อว่าอะไรถึงจะเข้ากับลูกสาวสุดที่รักของข้า”เย่จิ่งอวี้ยิ้มและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะตั้งชื่อเอง แม้ต้องเปิดตำราโบราณจนหมดวังหลวง ข้าก็จะตั้งชื่อที่โด่งดังที่สุดในโลกให้ลูกสาวของเรา”อินชิงเสวีย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1524 ไม่พอใจก็ต้องทน

    ทั้งสองสะดุ้งตกใจพร้อมกัน เย่ไห่ถังรีบเอาตัวมาบังให้อินปู้อวี่ทันที“เสด็จพี่ พวกเรา...ทั้งหมดเป็นความคิดของข้า เป็นข้าที่อยากหนีการแต่งงาน เป็นข้าที่บังคับเขา!”อินปู้อวี่รู้ว่าฝ่าบาทมีวรยุทธ์สูงส่ง สิ่งที่ตัวเองพูดไปเมื่อครู่เขาจะต้องได้ยินอยู่แล้ว เขาก้าวไปข้างหน้า และคุกเข่าลงต่อหน้าฝ่าบาทด้วยสีหน้าซีดเซียว“ฝ่าบาททรงพระปรีชา ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับองค์หญิงเลย เป็นกระหม่อมที่เพ้อฝันในตัวองค์หญิง คิดฝันในสิ่งที่ไม่สมควร ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเห็นแก่ตัวของกระหม่อมเพียงฝ่ายเดียว ไม่เกี่ยวอะไรกับองค์หญิง ไม่เกี่ยวกับฮองเฮา และยิ่งไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลอินเลย กระหม่อมยอมตายเพื่อชดใช้ความผิด ด้วยพระเมตตาของฝ่าบาท หวังว่าฝ่าบาทจะเห็นแก่ความเป็นพี่น้องกับองค์หญิง โปรดอย่าส่งนางไปแต่งงานกับเจียงวูเลยพ่ะย่ะค่ะ!”อินปู้อวี่สะบัดนิ้ว กระบี่ที่เอวก็หลุดออกมาจากฝักเสียงดัง เขาถือกระบี่จ่อที่ลำคอตัวเอง ทว่าเหมือนถูกพลังที่มองไม่เห็นขัดขวางไว้ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถเข้าใกล้ผิวหนังของเขาได้เลยใบหน้าของเย่ไห่ถังซีดลงด้วยความหวาดกลัว กระโจมเข้าไปหาเขาทันที กล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดปนสะอื้น

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1523 สารภาพความในใจ

    อินปู้อวี่ไม่กล้าสบตาคู่นั้นโดยตรง ก้มหน้าพูดว่า “กระหม่อมจะกล้าหัวเราะเยาะองค์หญิงได้อย่างไร กระหม่อมเป็นห่วงองค์หญิง ดังนั้น...จึงมาเยี่ยม”เย่ไห่ถังลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินไปหาเขาทีละก้าวถามด้วยดวงตาแดงก่ำ “ข้ากำลังจะไปจากวังหลวง จะไม่ได้รบกวนท่านอีกตลอดไป ท่านสมความปรารถนาแล้ว ยังต้องเป็นห่วงอะไรอีก”อินปู้อวี่ก้มศีรษะลง มองดูปลายรองเท้าแล้วพูดว่า “ไม่ใช่อย่างที่องค์หญิงคิด กระหม่อมไม่เคยคิดเลยว่าองค์หญิงจะไปแต่งงานเชื่อมไมตรี”เย่ไห่ถังยกมุมปากขึ้นอย่างเยาะเย้ยถากถาง“การแต่งงานเชื่อมไมตรีเพื่อเสริมสร้างอำนาจราชวงศ์ ทำให้ประชาชนมีความสุขสงบ เป็นเรื่องธรรมดาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วไม่ใช่หรือ จะไม่เคยคิดได้อย่างไร ท่านเคยไปทำศึกที่เจียงวู คงรู้สถานการณ์ที่นั่นดี ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ฟ้าดินกว้างขวาง สำหรับข้าคงเป็นสิ่งที่ดีมาก”ทันใดนั้นอินปู้อวี่ก็เงยหน้าขึ้น สีหน้าตื่นเต้นเล็กน้อย“ไม่ดี ที่นั่นไม่เหมาะกับองค์หญิงเลย ชาวเจียงวูส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในกระโจม อพยพตามฤดูกาล แม้แต่ตำหนักที่ประทับที่เป็นทางการก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ องค์หญิงสูงศักดิ์ล้ำค่า จะทนสิ่งนี้ได้อย่างไร”เย่ไห่ถังมองดู

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1522 ท่านมาหัวเราะเยาะข้างั้นหรือ

    ไม่ได้ เขาต้องไปพบกับเย่ไห่ถัง!อินปู้อวี่เปลี่ยนเป็นชุดพรางตัว ผลักเปิดหน้าต่างด้านข้าง กวาดสายตามองไปรอบๆ และร่างนั้นก็กระโดดออกจากพระที่นั่งเทียนเต๋ออย่างเงียบเชียบในเวลานี้ ตำหนักชิงฮว๋าได้ตกอยู่ในความโกลาหลหมอหลวงหลายคนช่วยกันตรวจชีพจร และในที่สุดก็สรุปได้ว่า องค์หญิงวิตกกังวลเกินเหตุ ไม่มีอะไรร้ายแรงอินชิงเสวียนเหลือบมองเย่จิ่งอวี้อย่างงอนๆ จากนั้นให้น้ำพุวิญญาณชงชามะนาวให้นางดื่มเย่จิ่งอวี้ยิ้มบางๆ และพูดว่า “ในที่สุดน้องสาวของข้าก็โตขึ้นแล้ว รู้จักจะคิดแทนข้า แม้ว่าเจียงวูจะเป็นสถานที่เล็กๆ แต่ก็มีชนเผ่าอยู่ใกล้ๆ มากมาย เมื่อราชาเผ่ามีเจตนาเป็นกบฏ แล้วร่วมมือกัน นั่นจะเป็นขุมพลังที่ไม่อาจมองข้ามได้ เจ้าไปแต่งงานเชื่อมไมตรีในฐานะองค์หญิง ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงพระเมตตาของสวรรค์เท่านั้น แต่ยังทำให้จิตใจของชาวเจียงวูมั่นคงอีกด้วย เจ้าก็ถึงวัยที่จะแต่งงานพอดี ราชาเผ่าอายุมากกว่าเจ้าไปบ้าง ย่อมรักและทะนุถนอมเจ้าอย่างดีอยู่แล้ว ข้าออกคำสั่งให้เขาแต่งเจ้าเป็นภรรยาเอกแล้ว เจ้าไม่ต้องกังวล”เย่ไห่ถังหน้าซีด นั่งฟังอยู่เงียบๆ ดวงตาว่างเปล่าอินชิงเสวียนทนไม่ไหว ตะโกนออกมาด้ว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1521 ศรัทธาพังทลาย

    อินปู้อวี่ตกตะลึงจนหน้าเผือดสีเขาอ่านจดหมายลับกลับไปกลับมาอยู่หลายครั้ง คำต่อคำ บรรทัดต่อบรรทัด ไม่ผิด ฝ่าบาททรงหมายความตามนี้จริงๆปลายนิ้วสั่นเทาอย่างอดไม่ได้ พระราชโองการร่วงหล่นลงกับพื้น“ผู้บัญชาการ เกิดอะไรขึ้นขอรับ”รองแม่ทัพยืนอยู่ข้างๆ กำลังคิดจะหยิบพระราชโองการขึ้นมาดูอินปู้อวี่ยื่นมือออกไปห้ามเขา สีหน้ามืดลง“ถอยออกไป”รองแม่ทัพไม่กล้าพูดอะไร โค้งคำนับและถอยออกไปนอกพระที่นั่ง ทว่าในใจกลับเอาแต่คิดว่าเกิดอะไรขึ้นฝ่าบาทให้ความสำคัญกับตระกูลอินมากเพียงใดนั้น เจ้าหน้าที่ขุนนางทุกคนในเมืองหลวงล้วนรู้ดี เหตุใดผู้บังคับบัญชาจึงมีสีหน้าหวาดกลัว ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้?เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นานแต่ก็คิดไม่เข้าใจ จึงนำทหารออกไปลาดตระเวนอินปู้อวี่ยืนนิ่งงันอยู่เนิ่นนาน ก่อนที่จะหยิบพระราชโองการขึ้นมา ดึงตะบันไฟออกมา และเริ่มเผามันด้วยสีหน้าด้านชาดังที่เย่จิ่งอวี้พูด เขาเข้าใจทุกอย่าง และรู้ทุกอย่างเขามีนิสัยตรงไปตรงมา ไม่ชอบอ้อมค้อม หัวสมองก็ไม่ฉลาดพอ ไม่เฉลียวฉลาดเหมือนพี่ใหญ่ และไม่ชอบทำตัวเหมือนน้ำกลิ้งบนใบบอนหัวช้าเรื่องความรัก แต่เ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1520 อ่านจบแล้วจงเผาทำลาย

    อินชิงเสวียนค่อนข้างรู้สึกตื่นเต้น นับจากการแจกจ่ายตำราไปจนถึงการก่อตั้งโรงเรียนสอนการต่อสู้ ก็ผ่านมาหนึ่งปีแล้ว แม้ว่าเวลาจะฉุกละหุกไปบ้าง แต่ถ้าเทียบกับบทกวีและบทเพลงที่น่าเบื่อก่อนหน้านี้ ก็ถือว่าเพิ่มพูนความรู้มากพอสมควรแต่หากต้องการให้มีการศึกษาภาคบังคับเหมือนในยุคสมัยใหม่ รวมถึงมีการเรียนแบบมหาวิทยาลัย เกรงว่าจะต้องใช้เวลาหลายปีโชคดีที่ฮ่องเต้สนับสนุนนาง ไม่ว่าจะใช้เวลานานเท่าใดก็ตาม นางก็เต็มใจที่จะลองดู“เช่นนั้นก็ยอดไปเลย ข้ารอไม่ไหวแล้ว เพียงแต่ใกล้จะสิ้นปีแล้ว ทำไมไม่จัดสอบหน้าพระที่นั่งหลังวันตรุษล่ะ จะได้ให้เหล่าบัณฑิตได้สนุกสนานกับครอบครัวในวันตรุษให้เต็มที่”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าเห็นด้วย“เสวียนเอ๋อร์พูดมีเหตุผล พรุ่งนี้ข้าจะเขียนโองการขึ้นใหม่ ให้สอบระดับเขตก่อน จากนั้นสอบระดับมณฑล ส่วนการสอยระดับอื่นไว้ค่อยดำเนินการหลังวันตรุษ”อินชิงเสวียนคลี่ยิ้ม“ขอบพระทัยฝ่าบาท”“ปากเล็กๆ เต็มไปด้วยน้ำผึ้ง ขอข้าชิมหน่อย”อินชิงเสวียนปิดปากของเขาทันที“ข้าจะลุกจากเตียงแล้ว”เย่จิ่งอวี้กอดนางไว้แน่นกึ่งบังคับ“ไม่ได้ ข้าบอกแล้ว วันนี้ให้นอนบนเตียง”อินชิงเสวียนดิ้นไม่หลุ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1519 ไม่ต้องพูด จูบข้า

    เมื่อมองดูดวงตาคู่นั้นที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความอ่อนโยน หัวใจของอินชิงเสวียนเหมือนจะถูกสิ่งของบางอย่างกระแทกอย่างแรง พูดไม่ออกเป็นเวลานานนางคิดมาตลอดว่าความรักนั้นสามารถร้อนแรงเร่าร้อน หรือจะค่อยเป็นค่อยไปอย่างยาวนานก็ได้ แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่า ความรักของเย่จิ่งอวี้นั้นลึกซึ้งและหนักหน่วงมาก จนกระทั่งครอบครองหัวใจของนางอย่างเต็มกำลังรู้สึกว่าลำคอตีบตันไปหมด การมองเห็นพร่าเลือนไปชั่วขณะหนึ่งนางยืนขึ้นอย่างช้าๆ เดินไปหาเย่จิ่งอวี้ นางอ้าแขนออก และกอดชายตรงหน้าอย่างแรง ราวกับว่าได้อุ้มทั้งโลกไว้ในอ้อมกอดจากนั้นก็ยืนเขย่งปลายเท้า จูบริมฝีปากที่เริ่มเย็นของเขานางเป็นฝ่ายเริ่มตวัดปลายลิ้นดุนดันปลายลิ้นของเย่จิ่งอวี้ อ้อยอิ่งอยู่กับเขารสหวานเข้าครอบงำประสาทสัมผัสของเย่จิ่งอวี้ทันที เขากอดร่างเล็กของหญิงสาวด้วยมือข้างเดียว จากผู้ที่เป็นฝ่ายถูกกระทำกลับกลายเป็นฝ่ายกระทำ ยึดร่างบางของนางไว้กับอกของตัวเอง กระแสเสียงแหบเครือ “เสวียนเอ๋อร์...คิดถึงข้างั้นหรือ ทำไมวันนี้ถึงกระตือรือร้นเช่นนี้”อินชิงเสวียนมองใบหน้าอันหล่อเหลาราวกับเทพเซียนด้วยสายตาพร่าเลือน ประทับจูบที่มุมปากของเขาแ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1518 ทุ่มเททุกอย่างเพื่อเจ้า

    ในตำหนักจินอู๋ อากาศอบอุ่นเหมือนฤดูใบไม้ผลิมีเตาผิงสร้างไว้ในห้อง เปลวไฟไหววูบวาบเป็นรูปร่าง ทำให้ตำหนักขนาดใหญ่แห่งนี้ดูมีชีวิตชีวาและอบอุ่นยิ่งเย่จิ่งอวี้ช่วยอินชิงเสวียนถอดเสื้อคลุมหนาๆ ออก แล้วส่งถ้วยน้ำชาร้อนๆ ใส่มือของนาง“ได้ยินมาว่าเจ้ากับไห่ถังไปที่พระที่นั่งเทียนเต๋อ?”“อืม ไห่ถังอยากไปพบพี่รองของข้า”อินชิงเสวียนจิบคำเล็กๆ แล้ววางถ้วยชาลง“ฝ่าบาทประสาทสัมผัสทั้งหูและตาดีเยี่ยม ทั้งยังมีองครักษ์เงานับไม่ถ้วน ทุกเรื่องในวัง คงปิดบังท่านไม่ได้ ไม่ทราบว่า ฝ่าบาทคิดอย่างไรกับเรื่องนี้”เย่จิ่งอวี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย สรรพนามที่นางเรียกนี้ เขาไม่ชอบมากจริงๆนอกวังหลวง เขาและอินชิงเสวียนเป็นเพียงคู่รักธรรมดา เมื่อเสร็จสิ้นเรื่องสำคัญแล้ว พวกเขาก็พูดคุย หัวเราะ หยอกล้อกันบ้างตามประสา แต่เมื่อกลับมาที่วัง เหมือนทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในทันที เพียงแค่เอ่ยคำว่า “ฝ่าบาท” ทันใดนั้นระยะห่างระหว่างคนทั้งสองก็เพิ่มมากขึ้น“เรียกว่าอาอวี้เถอะ ข้าชอบมันมากกว่า ข้าสามารถเป็นฮ่องเต้ของทุกคนในโลกได้ แต่ไม่ใช่ของเจ้า”“เอ๊ะ?”อินชิงเสวียนกำลังคิดเรื่องเย่ไห่ถัง ไม่เข้าใจว่าเย่จิ่งอวี้หมายถึง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1517 นิสัยของหลี่กงกงยังคงเหมือนเดิม

    คนที่ถือร่มไม่ใช่อินปู้อวี่ หากแต่เป็นอินชิงเสวียนพี่สะใภ้ของนางแม้ว่าทั้งสองจะแซ่อิน แต่ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเย่ไห่ถังไม่มีความคิดซับซ้อน ความผิดหวังหรือเสียใจล้วนแสดงชัดบนใบหน้า“เสด็จพี่สะใภ้!”นางตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจู่ๆ ก็โถมตัวเข้าไปในอ้อมแขนของอินชิงเสวียน และร้องไห้เสียงดังอินชิงเสวียนตบหลังนางเบาๆ เมื่อครู่นางแอบซ่อนอยู่มุมมืด ได้ยินและได้เห็นทุกสิ่งได้ชัดเจนหากเป็นคนอื่น นางอาจจะพอเข้าใจได้บ้าง แต่พี่รองเป็นคนแตกต่างออกไป ภายใต้รูปลักษณ์ที่หล่อเหลาและดูเฉยเมย นางไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เขามีนิสัยเชื่องช้ากว่าคนอื่น เมื่อองค์หญิงสารภาพรัก คาดว่าคงจะตกใจมาก เกรงว่าต้องใช้เวลาทั้งคืน เขาถึงจะรู้ตัว“ไม่ร้องนะ พี่สะใภ้จะหาอะไรสนุกๆ ให้เจ้าเล่น”“ไม่เอา ข้าจะกลับตำหนัก เสด็จพี่สะใภ้ไปหาเสด็จพี่ฮ่องเต้เถอะ”เย่ไห่ถังปาดน้ำตาแรงๆ แล้ววิ่งหนีไป อินชิงเสวียนเป็นกังวล จึงเดินตามนางไปสองชั่วยามต่อมา ในที่สุดเย่ไห่ถังก็หยุดร้องไห้ ดวงตาทั้งคู่บวมเป่ง“เสด็จพี่สะใภ้ ข้าคิดตกแล้ว ข้าจะขอให้เสด็จพี่ย้ายพี่รองของท่านออกจากวังหลัง หากมีคนที่เหมาะสม ข

DMCA.com Protection Status