หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 1230 เลือดเนื้อของเฮ่อยวน

แชร์

บทที่ 1230 เลือดเนื้อของเฮ่อยวน

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-09-10 16:00:00
“เกิดอะไรขึ้น”

อินชิงเสวียนเลิกคิ้วคู่งามขึ้น ความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อยฉายประกายในดวงตาดำตัดกับตาขาวชัดเจนของนาง

“ข้าคิดหาวิธีเปิดทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ได้แล้ว ใบมีดสีดำของเจ้าทำลายทุกอย่างได้ไม่ใช่หรือ ต้องสามารถผ่าหินเส็งเคร็งนั่นได้อย่างแน่นอน”

เย่จิ่งหลานกล่าวด้วยความตื่นเต้น

อินชิงเสวียนคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า “ก็สามารถลองได้ แต่ต้องรอจนกว่าทั้งสองสำนักจะประลองยุทธ์กัน ถ้าเราลองตอนนี้ก็ไม่ต่างจากการขโมย ขัดกับกฎยุทธภพจริงๆ”

เย่จิ่งอวี้พยักหน้าและกล่าวว่า “นั่นก็จริง ในอีกไม่กี่วันก็จะถึงเวลาประลองยุทธ์แล้ว หากเปิดไม่ได้จริงๆ ค่อยใช้ใบมีดสีดำของเสวียนเอ๋อร์ก็ไม่สาย แต่...”

เย่จิ่งอวี้พูดอย่างกังวลว่า “ใบมีดสีดำมีพลังมหาศาล ไม่รู้ว่ามันจะทำลายสิ่งที่อยู่ภายในหรือไม่ ข้อนี้จำเป็นต้องขอความยินยอมจากทั้งสองสำนักก่อน”

อินชิงเสวียนเห็นด้วยและกล่าวว่า “อาอวี้กังวลถูกแล้ว ทางสู่วิถีแห่งสวรรค์เป็นเรื่องของสองสำนัก เราไม่อาจลงมือโดยพลการได้”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เย่จิ่งหลานก็อึ้งไปทันที

“งั้นก็ได้ ข้าจะรออีกสองสามวัน พวกเจ้าอยากไปตำหนักเทพใช่ไหม”

อินชิงเสวียนพยักหน้าและพูดว่า “อื้ม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1231 ลืมความเกลียดชังในอดีต

    ตำหนักเทพหอทองคำเมื่อรู้ว่าอินชิงเสวียนและเย่จิ่งอวี้กำลังมา เหมยชิงเกอก็รีบออกไปต้อนรับพวกเขาครั้นเห็นใบหน้าที่ค่อนข้างซีดเซียวของนาง อินชิงเสวียนก็ทนไม่ไหว ก้าวไปช่วยประคองนาง“ได้ยินมาว่าผู้อาวุโสเหมยได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยังเจ้าคะ”ทันใดนั้นเหมยชิงเกอก็กอดอินชิงเสวียนไว้แน่น ขอบตาแดงก่ำทันที“ชิงเสวียน ลูกสาวคนดีของแม่ เป็นความผิดของแม่เอง แม่ควรจะยอมรับความเป็นแม่ลูกกับเจ้านานแล้ว ในใจเจ้าคงต้องเกลียดแม่มากกระมัง”เหมยชิงเกอกล่าวเสียงเครือสะอื้น นางพยายามกลั้นน้ำตาอย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถควบคุมของเหลวเย็นที่หยดจากดวงตาได้แม้ว่านางจะไม่เอ่ยออกมาตรงๆ ว่ายอมรับ ทว่าในใจกลับเชื่อคำพูดของเฮ่อยวน หากเขาไม่ใช่คนที่ส่งนักฆ่ามาจริงๆ ความมุ่งมั่นในอดีตทั้งหมดของนาง จะกลายเป็นสิ่งที่ไร้ค่าไปในที่สุดเหมยชิงเกอพาลโกรธเฮ่อยวนจริงๆ และไม่สามารถให้อภัยเขาได้ง่ายๆ ฆ่าคนอย่างไร้เหตุผลเพราะเหตุนี้ และยิ่งไม่อาจทำให้คนที่รักต้องเจ็บปวด ให้ศัตรูต้องมีความสุขอินชิงเสวียนตัวแข็งทื่อเล็กน้อย อันที่จริงตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ นางมักจะรู้สึกว่าความสัมพันธ์ที่ไม่ใกล้ไม่ไกลแบบนี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-11
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1232 นี่คือเรื่องของข้ากับนาง

    ค่ำคืนนั้นเยือกเย็นดุจธารา สรรพสิ่งเงียบวังเวงเฮ่อยวนยืนอยู่ที่ลานบ้าน ใบหน้าเคร่งเครียดราวกับน้ำนิ่งองครักษ์เดนตายของอิ๋นเฉิงต่างคุกเข่าอย่างนอบน้อมเบื้องหน้าเขา“เรียนท่านเจ้าเมือง ข้าน้อยได้ค้นหาจนทั่วเมืองอิ๋นเฉิงแล้ว แต่ก็ไม่พบร่องรอยของฉีอวิ๋นจื่อหรือป้าชุยเลย”กงซวินอวิ๋นเฟิ่งถามว่า “ตรวจค้นชาวบ้านในเมืองด้วยหรือไม่”หัวหน้าทหารองครักษ์ตอบด้วยความเคารพว่า “ข้าน้อยได้ทำตามคำที่ฮูหยินสั่งแล้ว ตรวจค้นชาวเมืองตั้งแต่ทารกแรกเกิดทุกคนที่พักอาศัยอยู่ในเมือง ตราบใดที่มีกลิ่นอายของบุคคลภายนอก พวกเราจะพบได้ทันที”“หรือว่านางหลบหนีออกจากอิ๋นเฉิงไปแล้ว?”กงซวินอวิ๋นเฟิ่งพึมพำกับตัวเอง และถามว่า “แล้วที่ค่ายกลนี้ในป่าหมอก มีร่องรอยความเสียหายบ้างหรือไม่”“ตอบฮูหยิน ไม่มีขอรับ”กงซวินอวิ๋นเฟิ่งคว้าแขนเสื้อของเฮ่อยวนอย่างอดไม่ได้ แล้วพูดอย่างกังวลว่า “ท่านพี่ แล้วนี่ควรทำอย่างไรดี ถ้าฉีอวิ๋นจื่อซุ่มซ่อนอยู่ในเมืองมาหลายปีขนาดนี้ ต้องมีเจตนาชั่วร้ายและแผนการร้ายอยู่แน่นอน อีกทั้งตอนนี้วรยุทธ์ก็ยอดเยี่ยมขึ้นมาก หากทำร้ายผู้อื่นทำร้ายคนของเรา แล้วเราควรทำอย่างไรดี”“อิ๋นเฉิงนับว่าไม่ใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-11
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1233 เป็นเจ้าจริงๆ

    เฮ่อฉางเฟิงคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยนสง่างาม“ไม่ต้องมากพิธี”จากนั้นเขาก็หันความสนใจไปที่กงซวินอวิ๋นเฟิ่ง“ท่านแม่จะออกจากจวนหรือ”“ดึกดื่นขนาดนี้ แม่จะออกไปทำไมน่ะหรือ แม่แค่ออกไปลาดตระเวนเมือง คิดว่าเจ้าคงได้ยินเรื่องป้าชุยแล้ว แม่กลัวว่าพ่อของเจ้าไม่อยู่ที่นี่ นางจะทำร้ายชาวบ้าน”ท่าทางของกงซวินอวิ๋นเฟิ่งนั้นอ่อนโยน มองลูกชายคนโตด้วยสายตารักใคร่เอาใจใส่คนเลี้ยงม้าอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ถ้าคุณชายใหญ่ไม่วางใจ เช่นนั้นก็ไปกับฮูหยินได้”กงซวินอวิ๋นเฟิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย เหลือบมองคนเลี้ยงม้าด้วยสายตาเย็นชาพูดด้วยความรักเมตตาว่า “ไม่ต้องหรอก เจ้ากลับไปฝึกวรยุทธ์เสีย ถ้าเกิดท่านพ่อเห็นเจ้าเดินเตร็ดเตร่อยู่ข้างนอกอีก เขาจะไม่พอใจเอา”เฮ่อฉางเฟิงยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรขอรับ ช่วงนี้ท่านพ่ออารมณ์ดีมาก ไม่ตำหนิหรอก ช่วงนี้ลูกก็ไม่ได้อยู่กับท่านแม่มาหลายวันแล้ว วันนี้อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การออกไปเดินเล่นพอดี”เขายื่นมือออกจับบังเหียน แล้วพูดกับคนเลี้ยงม้าว่า “เจ้าออกไปก่อนเถอะ”คนเลี้ยงม้ายืนนิ่ง ตอนแรกกงซวินอวิ๋นเฟิ่งคิดจะดุเขา แต่ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลใด จู่ๆ ถึงได้เปลี่ยนใจ“ให้เขาตามไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-11
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1234 จบสิ้นลงนับจากวันนี้

    เมื่อเห็นฉีอวิ๋นจื่อพูดจาอย่างหนักแน่นและน่าเชื่อถือ เหมยชิงเกอก็หยุดกะทันหัน“เฮ่อยวน เกิดอะไรขึ้น”นางสามารถยอมรับเฮ่อยวนกับกงซวินอวิ๋นเฟิ่งได้ แต่นางไม่สามารถยอมรับเฮ่อยวนกับฉีอวิ๋นจื่อได้การแต่งงานระหว่างกงซวินอวิ๋นเฟิ่งและเฮ่อยวนถูกกำหนดไว้ตั้งแต่ตอนที่เจ้าเมืองคนเดิมยังมีชีวิตอยู่ หากเขาไม่ได้พบตัวเอง ทั้งสองคงแต่งงานกันนานแล้ว ส่วนฉีอวิ๋นจื่อไม่สำคัญอะไรเลยเฮ่อยวนพูดอย่างกังวลว่า “ชิงเกอ อย่าไปฟังนางพูดเหลวไหล เป็นชิงเสวียนเองที่บอกข้าว่า คนผู้นี้ปลอมตัวเป็นหญิงชราตาเดียวปะปนอยู่ในอิ๋นเฉิง ข้าจะมีอะไรกับนางได้อย่างไร”ฉีอวิ๋นจื่อพูดด้วยดวงตาแดงก่ำว่า “เฮ่อยวน ท่านยังเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า ลืมความสุขสมตอนที่นอนกับข้าไปหมดแล้วหรือ ท่านกล้าที่จะรอข้าท้องสิบเดือน พอคลอดแล้วมาตรวจเลือดพิสูจน์ความเป็นพ่อลูกหรือเปล่าล่ะ”เฮ่อยวนหน้าซีดด้วยความโกรธ ตวาดลั่นว่า “หุบปาก ขืนเจ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ข้าจะทำให้เลือดของเจ้าสาดกระเซ็นเดี๋ยวนี้”ฉีอวิ๋นจื่อซัดออกไปสองฝ่ามือราวกับสายฟ้า แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะเยาะเย้ย “ดูสิ เหมยชิงเกอ ดูให้ชัดว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าเป็นคนแบบไหน เว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-11
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1235 ยังคงมีความรัก

    “ชิงเกอ!”เหมยชิงเกอได้ลงมือนำไปก่อนแล้ว เฮ่อยวนจึงทำได้เพียงลงมือตามเท่านั้นเมื่อฝ่ามือทั้งสี่ข้างปะทะกัน ทั้งสามต่างก้าวถอยหลังพร้อมกันในระยะไกล มีร่างสองร่างซ่อนอยู่ในความมืด เฝ้าดูสถานการณ์การต่อสู้ที่นี่สองคนนี้คืออินชิงเสวียนและเย่จิ่งอวี้“อาอวี้ ทำไมเรายังไม่ลงมืออีก นี่เป็นวิชาต้องห้ามของอิ๋นเฉิงเชียวนะ”เย่จิ่งอวี้พูดอย่างสงบไม่ตื่นตระหนก “ไม่จำเป็น เสวียนเอ๋อร์คงเคยได้ยินคำที่ว่าในความทุกข์ยาก จะเห็นความจริงใจ ขอเพียงท่านพ่อท่านแม่ร่วมมือกันเอาชนะศัตรูได้ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็จะเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน”“นี่...ไม่อันตรายจริงหรือ”อินชิงเสวียนมีสีหน้าเป็นกังวลเย่จิ่งอวี้ยื่นนิ้วออกมา แล้วเกาสันจมูกของนางเบาๆ“เจ้าคิดว่าเจ้าสำนักหลักทั้งสองในยุทธจักรล้วนเป็นคนขายผักในตลาดงั้นหรือ พวกเขาไม่ได้แย่อย่างที่เจ้าคิดหรอก”อินชิงเสวียนมองไปข้างหน้าอย่างกังวล“แต่ท่านแม่ข้าเพิ่งโดนวรยุทธ์นั้นมา ถ้าไม่โดดเด่นจริงๆ แล้วจะเรียกว่าวิชาต้องห้ามได้อย่างไร”เย่จิ่งอวี้กล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชัดเจน “อย่ากังวล แม้ว่าวิชาต้องห้ามจะร้ายกาจ แต่เหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมจึงเป็นวิชาต้องห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-12
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1236 ตัวประกัน

    หน้าผาสูงหลายพันจั้ง สายลมหนาวพัดหวีดหวิวดังเข้าหูทั้งสองคนเป็นผู้ที่มีวรยุทธ์ระดับสูง หลังจากผ่านไปสิบห้านาทีก็ตกลงไปในหุบเขาลึกที่นี่ไม่มีป่าไม้หรือลำธารไหลผ่าน มีภูเขาหินทั้งสองด้าน ซึ่งเพียงชำเลืองมองก็สามารถแลเห็นได้ชัดเจน“ถ้านางตกลงมาที่ก้นหุบลึกจริงๆ ถึงไม่ตายก็ต้องพิการ แต่ตอนนี้ไม่มีวี่แววของนางเลย หรือว่านางจะสามารถหนีไปได้?”อินชิงเสวียนมองไปรอบๆ ก็ไม่พบใครเลย นึกก่นด่าอยู่ในใจอย่างอดไม่ได้ว่า ตัวหายนะตายยากจริงๆเย่จิ่งอวี้มองไปที่ยอดเขาด้านหลัง“ไม่หรอก ฉีอวิ๋นจื่อเป็นคนของตำหนักเทพ ต้องคุ้นเคยกับภูมิประเทศที่นี่เป็นอย่างยิ่ง ข้าคิดว่านางอาจซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง เพื่อรอโอกาสที่จะหลบหนี”ครั้นมองตามสายตาของเย่จิ่งอวี้ ก็เห็นว่ามีหินขรุขระอยู่บนยอดเขา ดูเหมือนว่าจะมีหลุมชะง่อนหินอยู่มากมาย การจะซ่อนคนสักคนนั้นไม่ใช่เรื่องยาก“งั้น...เราแยกย้ายกันไปหาดีไหม”เย่จิ่งอวี้ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องลำบากขนาดนั้น หากต้องการตามหาคน ข้าสามารถทำได้อยู่แล้ว”เขาเอามือไพล่หลัง แยกขาออกจากกันเล็กน้อย ท่าทางดูสบายๆ มาก ทว่าเรียวตาหงส์ทั้งคู่ปิดลงเบาๆทันใดนั้นอินช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-12
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1237 ย่ำแย่เหมือนสุนัข

    หันเจิงหมิงไม่ได้ยินฉีอวิ๋นจื่อบอกว่าเกมจบลงแล้ว คิดว่ายังเล่นอยู่ จึงกลั้นหายใจไม่พูดอะไรอยู่ตลอดอินชิงเสวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ผู้อาวุโสหันไม่ใช่คนดีอะไร แต่เมื่อพิจารณาจากความตั้งใจของท่านแม่แล้ว หันเจิงหมิงก็ดูเหมือนจะไม่ใช่คนเลว นอกจากนี้ตอนนี้เขายังดูบ้าๆ บอๆ จนทนลงมือไม่ได้จริงๆเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนยืนนิ่ง ฉีอวิ๋นจื่อก็อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย พูดต่อว่า “คนบ้าที่อยู่ตรงหน้าเจ้าก็เป็นหนึ่งในราษฎรใต้หล้าเช่นกัน หรือพวกเจ้าที่เป็นผู้ที่อยู่เหนือหัว จะไม่สนใจชีวิตมนุษย์รากหญ้าเช่นนั้นหรือ”เมื่อได้ฉีอวิ๋นจื่อพูดว่าตัวเองเป็นคนบ้า หันเจิงหมิงก็รู้ว่ามันไม่ใช่คำพูดที่ดี ดวงตาเบิกกว้างในทันใดเย่จิ่งอวี้เหลือบมองอย่างเย็นชา แล้วพูดเรียบๆ “ปล่อยเขาไป แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”“ข้าไม่เชื่อพวกเจ้า เขาต้องมากับข้า”ฉีอวิ๋นจื่อผลักหันเจิงหมิงให้เดินไปข้างหน้าสองก้าว วางฝ่ามือขวาไว้ที่ด้านหลังหัวใจของเขา และผลักกำลังภายในออกมา“ขืนพวกเจ้ากล้าวู่วาม ข้าจะฆ่าเขาทันที”อินชิงเสวียนก้าวถอยหลัง“ฉีอวิ๋นจื่อ เจ้าโปรดคิดให้ดี ตอนนี้ทั้งอิ๋นเฉิงและตำหนักเทพรู้ตัวตนของเจ้าหมดแล้ว ต่อให้เจ้าจะหนีจา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-12
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1238 ทางสู่วิถีแห่งสวรรค์

    คนชุดดำตัวสูงใหญ่มากเกินไปจริงๆ รูปร่างอันใหญ่โตนี้เมื่อปรากฏอยู่เหนือหัว ก็เหมือนกับเนินเขาสูงใหญ่ แค่ความกดดันเพียงอย่างเดียวก็สามารถทำให้ฉีอวิ๋นจื่อเหงื่อชุ่มโชกแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ได้เห็นมือเหล็กประหลาดนี้ นางยิ่งไม่กล้าแม้แต่จะมีความคิดเพียงเล็กน้อยในการตอบโต้“ผู้มีพระคุณโปรดไว้ชีวิตด้วย!”ดวงตาของนางเหลือกโพลง พูดด้วยความยากลำบากทันใดนั้นมือเหล็กก็ถูกดึงกลับ คนชุดดำใช้แขนเพียงข้างเดียวก็กระแทกนางให้ล้มลงกับพื้นพูดอย่างเย็นชา “เศษสวะเช่นเจ้า สมควรที่จะตั้งคำถามกงซวินฮูหยินงั้นรึ”ปากของฉีอวิ๋นจื่อเลือดออก ล้มลงกับพื้น เอาแต่พูดว่า “ข้าผิดไปแล้ว คราวหน้าจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว”คนชุดดำแค่นเสียงหึอย่างเย็นชา และมองไปที่หันเจิงหมิง“ถ้าข้าสามารถรักษาคนผู้นี้ได้ จะมีประโยชน์กับเจ้าและข้าหรือไม่”ฉีอวิ๋นจื่อรู้ว่าทุกคนในอิ๋นเฉิงมีทักษะด้านการแพทย์ นางคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ถ้าหันเจิงหมิงได้สติ เขาต้องล้างแค้นแทนผู้อาวุโสหันอย่างแน่นอน หากเขาโชคดีพอที่จะฆ่าเย่จิ่งอวี้ หรืออินชิงเสวียนได้ ก็สามารถกำจัดตัวช่วยของเหมยชิงเกอได้ แม้ว่าจะทำไม่ได้ แต่เขาก็สามารถเป็นพันธ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-12

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status