หน้าหลัก / โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 1176 ทุกอย่างเป็นไปตามคาด

แชร์

บทที่ 1176 ทุกอย่างเป็นไปตามคาด

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“เสวียนเอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไรไป”

เย่จิ่งอวี้ผุดลุกขึ้นทันควัน ปราดเข้ามาอยู่ข้างๆ อินชิงเสวียนแล้ว

อินชิงเสวียนหายใจเข้าลึกๆ ระงับอาการปั่นป่วนในอก เงยหน้าขึ้นยิ้มละไม

“ไม่เป็นไร บางทีช่วงนี้อาจกินข้าวไม่ตรงเวลา ทำให้รู้สึกไม่สบายท้อง”

เย่จิ่งอวี้มีสีหน้าเคลือบแคลงสงสัย

วรยุทธ์ของอินชิงเสวียนไม่ได้อ่อนแออีกแล้ว ด้วยระดับการฝึกฝนในปัจจุบันของนาง เป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับผลกระทบจากการบาดเจ็บและความเจ็บป่วยเล็กน้อย

“หรือว่าเจ้า...”

เขาคิดถึงความเป็นไปได้บางอย่าง

อินชิงเสวียนหันหลังกลับและวิ่งหนีไปแล้ว

“อย่าคิดฟุ้งซ่าน ข้าจะไปเตรียมอาหารก่อนล่ะ”

เย่จิ่งอวี้มองไปที่ร่างของอินชิงเสวียน ครั้นแล้วหัวใจก็เต้นตึกตัก

หรือว่าเสวียนเอ๋อร์?

เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้บางอย่าง ดวงตาของเย่จิ่งอวี้ก็เปล่งประกายด้วยความดีใจ

“เสวียนเอ๋อร์!”

เขารีบวิ่งตามนางไป

“หืม?”

อินชิงเสวียนหันกลับมาด้วยสายตาสดใส ยิ้มเห็นฟันขาว นัยน์ตาเป็นประกายด้วยความสุข

“เจ้า...ตั้งครรภ์ใช่หรือไม่”

เย่จิ่งอวี้ก้มศีรษะมองไปที่ท้องน้อยของอินชิงเสวียน

ใบหน้าของอินชิงเสวียนเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย

“ไม่มีทาง”

ครั้นเห็นท่า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1177 เย่จิ่งหลานจากไป

    มื้อนี้เป็นมื้ออาหารที่หรูหรามาก อินชิงเสวียนได้รังสรรค์รายการอาหารที่นางชอบกินในยุคปัจจุบันออกมาทั้งปิ้งย่าง หม้อไฟ เบอร์เกอร์ พิซซ่า ซูชิ และเค้กชิ้นเล็กหลากหลายรสชาติ นอกจากนี้ ยังแลกเปลี่ยนกาแฟ สาคูมะม่วงนมสดหน้าส้มโอและเครื่องดื่มอื่นๆ อีกด้วยเย่จิ่งอวี้ไม่ใช่ผู้ที่ชอบร่ำสุรา แต่เขาสนใจเครื่องดื่มเหล่านี้มาก เมื่อเห็นอาหารมากมาย ดวงตาของเสี่ยวหนานเฟิงเบิกกว้าง ท่าทางเต็มไปด้วยความตื่นเต้นจู่ๆ อินชิงเสวียนก็นึกถึงเย่จิ่งหลานทันทีเขาไม่ได้ทำการผ่าตัดบ่อยนัก คงมีคะแนนสะสมในมิติไม่มาก ของที่มาจากสมัยใหม่เหล่านี้เข้าต้องชอบมากแน่ๆ“อาอวี้ ทำไมเราไม่เอาสิ่งเหล่านี้ออกไป แล้วเรียกจิ่งหลานกับเสด็จอามากินข้าวด้วยกัน!”เย่จิ่งอวี้ย่อมเห็นด้วยอยู่แล้ว“จะให้ข้าช่วยอะไรหรือไม่”“ไม่ต้อง ข้าสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งเหล่านี้ออกไปได้”อินชิงเสวียนนึกในใจ และทุกสิ่งก็ปรากฏขึ้นในห้องหินเย่จั้นกำลังพูดคุยกับอินหลี เมื่อเห็นสิ่งของและคนปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน นางก็รู้สึกตกใจไปชั่วขณะเย่จั้นพูดขึ้นโดยเร็ว “นี่คือของวิเศษของฮองเฮา อาหลีอย่ากังวลไป”อินหลีพูดว่าโอ้ แต่ก็ยังไม่เข้าใจโลกขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1178 เขาชื่อฮ่องเต้?

    อินชิงเสวียนขมวดคิ้ว“บอกเจ้าตำหนักเหมย ว่าข้ายังมีเรื่องต้องทำที่นี่ ประเดี๋ยวจะไปที่นั่นในภายหลัง”“ขอรับ”ลูกศิษย์ประกบมือคำนับ แล้วเดินไปตามทางเดินเล็กๆอินชิงเสวียนยังคงมองลงไปที่ภูเขา รู้สึกไม่สบายใจเย่จิ่งอวี้กล่าวปลอบใจ “คิดมากไปก็เปล่าประโยชน์ กลับยิ่งทำให้กังวล เจวี๋ยอิ่งพวกเขาอยู่ที่เชิงเขา ประเดี๋ยวข้าจะวาดภาพจิ่งหลานแล้วส่งลงไปที่ข้างล่าง”อินชิงเสวียนถอนหายใจ“ก็มีแต่ต้องทำเช่นนี้แล้ว”เย่จิ่งอวี้ถามอีกครั้ง “ไม่ไปดูทางด้านเจ้าตำหนักเหมยหรือ”อินชิงเสวียนส่ายหัว“ไว้ค่อยไปทีหลังก็ได้ หายากที่เราจะรวมตัวกัน เรากลับไปกินข้าวกันก่อนเถอะ!”ในแง่ของความรู้สึก ร่างกายนี้คือลูกสาวที่พลัดพรากไปนานของเหมยชิงเกอ หากนางใส่ใจจริงๆ ย่อมมาหานางเองในแง่ของเหตุผล เป็นนางที่พาเหมยชิงเกอออกจากผาเฟิงเริ่น และใช้น้ำพุวิญญาณเพื่อช่วยนางฟื้นฟูรูปลักษณ์และทักษะวรยุทธ์ดังเดิม ด้วยบุญคุณนี้ หรือว่านี่ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้นางลดตัวลงมาพบกับตัวเองสักครั้ง?ในเมื่อนางไม่มีความตั้งใจเช่นนั้น ตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องรีบไปหาถึงที่ตอนนี้เย่จิ่งหลานออกจากตำหนักเทพแล้ว อินชิงเสวียนก็ยิ่งไม่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1179 ข้าจะไม่ยอมให้นางจากไป

    ราชาแห่งสงครามมีชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วต้าโจว แม้แต่ในสำนักแม่ชี อินหลีก็เคยได้ยินเรื่องนี้เมื่อใดก็ตามที่เหล่าแม่ชีน้อยเอ่ยถึงคำว่า “ราชาแห่งสงคราม” หัวใจก็เต็มไปด้วยความหวั่นไหว ดวงตาเป็นประกาย ในสายตาของพวกนาง ราชาสงครามนั้นไม่มีวันพ่ายแพ้ ชนะทุกการต่อสู้ มีอำนาจทุกอย่าง มีภาพลักษณ์ที่สูงส่งราวกับเทพเจ้าอินหลีได้ฟังจนเบื่อหน่าย เมื่อเทียบกับเขาแล้ว ตัวเองเป็นเพียงเศษฝุ่นเล็กๆ ที่ไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึงจริงนางกัดมุมปากแล้วกระซิบ “บุคคลเช่นเขา ข้าจะคู่ควรได้อย่างไร”ถ้าเป็นคุณชายจากครอบครัวธรรมดา อินหลีคงจะกล้าคิดเรื่องนี้ ตอนนี้เมื่อเขารู้ว่าเขาเป็นราชาแห่งสงครามของต้าโจว อินหลีก็ไม่มีความมั่นใจ“ทำไมจะไม่คู่ควร นอกจากเจ้าแล้ว ในโลกนี้ก็ไม่มีผู้ใดคู่ควรกับข้า!”กระแสเสียงทุ้มต่ำและเด็ดเดี่ยวดังขึ้นที่ประตู อินหลีรู้สึกตกใจเล็กน้อย หันขวับทันทีเย่จั้นสวมชุดสีขาวเดินเข้ามาจากด้านนอกประตู น้ำเสียงหนักแน่นเป็นจังหวะน่าเชื่อถือเย่จิ่งอวี้ยิ้มเมื่อได้ยินสิ่งนี้และพูดว่า “ข้าได้ตัดสินใจเกี่ยวกับการแต่งงานครั้งนี้แล้ว เมื่อกลับเมืองหลวง ข้าจะจัดพิธีแต่งงานให้พวกท่าน”เย่จั้นฉุดข

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1180 ความเห็นไม่ตรงกัน

    เมื่อราตรีกาลมาเยือน อินชิงเสวียนปล่อยให้เสด็จอาและอาหญิงพักอยู่ในห้องหินชั่วคราว ในขณะที่เย่จิ่งหลานพาเสี่ยวหนานเฟิงเข้าไปอยู่ในมิติหลังมื้ออาหารนางได้ทดลองดูแล้ว แต่อินหลีก็ยังไม่สามารถเข้าไปในมิติได้ ไม่อย่างนั้น ทุกคนก็สามารถพักผ่อนในมิติด้วยกันได้แล้วหลังจากปักหลักจัดแจงด้านนี้เสร็จ นางก็เดินช้าๆ ไปยังห้องโถงจื่อชี่ตงไหลลมยามค่ำคืนพัดมา ดวงจันทร์เยือกเย็นราวกับน้ำแม้ว่าจะเป็นเดือนเจ็ดแล้ว แต่บนภูเขาก็ไม่ร้อนเกินไป โดยเฉพาะตอนกลางคืนที่เย็นสบายมากลมพัดผสมกับกลิ่นหอมสดชื่นของพืชพรรณ อันทำให้คนรู้สึกสบายตัวสบายใจแต่ทุกครั้งที่นึกถึงเย่จิ่งหลาน มักจะกังวลเรื่องนี้เสมอ ความกังวลประเภทนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิง แม้ว่าทั้งสองจะเป็นเพื่อนกัน แต่ในอีกแง่หนึ่งก็ยังเป็นญาติกันในโลกนี้ ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังพูด และเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการแสดงออกมา หากไม่มีเรือยักษ์เดินทางไกลที่สร้างโดยเย่จิ่งหลาน การเดินทางไปยังตงหลิวก็จะเป็นเพียงการพูดคุยบนกระดาษเท่านั้นเครื่องมือนำทางขั้นสูงดังกล่าว ยังเปิดโลกการค้นพบใหม่ๆ แก่ต้าโจว ได้ยินม

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1181 ข้าจริงใจ

    อินชิงเสวียนหันหลังกลับ และมองไปที่เหมยชิงเกอเมื่อใดที่คนเราแปดเปื้อนไปด้วยอำนาจและความเกลียดชัง จะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงบางอย่างอย่างแน่นอนเหมยชิงเกอที่อยู่ตรงหน้านางแตกต่างจากผู้หญิงที่เล่นกับเสี่ยวหนานเฟิงในมิติอย่างสิ้นเชิง ราวกับคนละคน อินชิงเสวียนได้กลิ่นอายแห่งแข็งกร้าวเผด็จการและความหยิ่งผยองจากตัวนางนี่เป็นสิ่งที่อันตรายมาก สาเหตุที่ผู้อาวุโสหันถูกทำลาย ก็เพราะเขาหลงใหลในลาภยศเกินไปอินชิงเสวียนสามารถเข้าใจความเกลียดชังของเหมยชิงเกอได้ แต่ไม่เห็นด้วยกับความคิดของนาง เพียงแต่มีบางสิ่งที่นางไม่ได้พูดให้ชัดเจน อินชิงเสวียนก็ไม่สามารถพูดอะไรได้มากนางยิ้มอย่างสงบและพูดว่า “มีน้ำใจของผู้อาวุโสชิงเสวียนขอรับไว้ด้วยใจ ข้าแค่หวังว่าลูกของข้าจะเติบโตอย่างมีความสุข ส่วนสิ่งที่เขาอยากทำในอนาคต ข้าจะไม่เข้าไปยุ่งมากเกินไป ถ้าเขาไม่ต้องการเป็นฮ่องเต้ ข้าก็สามารถไปท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจกับเขาได้ จะไม่บังคับเขามากเกินไป”นางยืนขึ้นอย่างช้าๆ เดินไปหาเหมยชิงเกอ และพูดด้วยน้ำเสียงสงบ “ทุกคนมีอิสระและมีสิทธิ์ในการเลือกอนาคตของตนเอง แม้แต่พ่อแม่ ก็ไม่สามารถอาศัยศีลธรรมไปบังคับลูกหล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1182 โลกนี้มืดมนเหมือนหมู่นกกา

    “ไม่ได้”เหมยชิงเกอปฏิเสธทันที นางพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “นางและข้าแยกทางกันมาตั้งแต่เด็ก ถ้ายอมรับความเป็นแม่ลูกกันอย่างกะทันหัน นางจะไม่สามารถยอมรับได้อย่างแน่นอน และตัวการสำคัญทั้งหมดนี้ก็คือเฮ่อยวนเท่านั้น มีเพียงการฆ่าเฮ่อยวน ข้าถึงจะให้คำอธิบายกับนางได้ฉุยอวี้กล่าวว่า “ชิงเสวียนมีจิตใจแข็งแกร่งมาก ถ้าเราไม่ใช้เหตุผลนี้ เกรงว่าคงยากที่จะรั้งนางไว้ได้”เหมยชิงเกอขมวดคิ้วและพูดว่า “เจ้ากับอวิ๋นลี่ช่วยข้าคิดหาทางเข้า ไม่ว่าอย่างไร ก็ห้ามให้นางลงจากภูเขาเด็ดขาด”“นี่มัน...”เรื่องนี้ค่อนข้างยากจริงๆเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่ฮ่องเต้จะอยู่ข้างนอกเป็นเวลานาน อินชิงเสวียนมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับฮ่องเต้หนุ่ม ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้เขากลับไปเพียงลำพังทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมาในใจของฉุยอวี้“ถ้าศิษย์พี่ใหญ่เต็มใจที่จะโน้มน้าวเย่จิ่งอวี้ อาจมีความหวังอยู่บ้าง”เหมยชิงเกอแค่นเสียงหึและพูดว่า “ผู้ชายไม่มีใครดี ต่อให้เขาจะเป็นฮ่องเต้แล้วอย่างไร วันนี้เขาไม่แต่งตั้งนางสนม ก็ไม่ได้หมายความว่าวันหน้าเขาจะไม่แต่งตั้งนางสนมอีก ในฐานะฮ่องเต้ เขาถูกชะตาลิขิตให้เป็นคนใจร้ายไร้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1183 ความโศกเศร้าและความแค้น

    “ท่านพี่พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร”กงซวินอวิ๋นเฟิงถามอย่างไม่เข้าใจเฮ่อยวนยิ้มอย่างขมขื่น“ไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ เป็นแค่ความสับสนล้วนๆ”กงซวินอวิ๋นเฟิงพูดอย่างอ่อนโยน “หากท่านพี่ไม่ต้องการเป็นศัตรูของตำหนักเทพ เราก็สามารถมอบทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ให้พวกเขาก็ได้ ผู้คนในอิ๋นเฉิงชอบความสงบมาโดยตลอด ยกเว้นรองเจ้าเมืองตู้แล้ว ก็ไม่มีใครหมกมุ่นอยู่กับวรยุทธ์ ทุกคนต่างเป็นเพียงหนุ่มทำไร่สาวทอผ้า ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ดำเนินชีวิตแบบสบายๆ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว”เฮ่อยวนเหลือบมองไปด้านข้างแล้วถามว่า “เจ้าคิดอย่างนั้นจริงๆ หรือ”กงซวินอวิ๋นเฟิงถามกลับ “ไม่ใช่แบบนั้นหรอกหรือ ท่านดูสิว่าใครเต็มใจที่จะต่อสู้อย่างกล้าหาญ ครองยุทธจักรอย่างเผด็จการ ทุกคนต่างมุ่งความสนใจไปที่ชีวิตเล็กๆ ของตัวเอง อย่างสงบเรียบง่าย นั่นแหละถึงจะเป็นชีวิตของมนุษย์อย่างแท้จริง”เฮ่อยวนยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย“ฮูหยินกล่าวถูกต้อง แม้ว่าอิ๋นเฉิงจะยืนอยู่บนจุดสูงสุดในยุทธจักร แต่ทุกคนต่างพิถีพิถันเรื่องอาหาร ล้วนปรารถนาชีวิตที่สงบสุข เช่นนี้แล้ว ข้าจะเรียกรวมพลผู้อาวุโสหลักทุกคนในวันพรุ่งนี้ คราวนี้ข้าจะมอบทางสู่วิถี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1184 กลยุทธ์ทุกข์กาย

    และในยามเที่ยงวันเดียวกัน ห้องโถงจื่อชี่ตงไหล เหมยชิงเกอประกอบพิธีสืบทอดตำแหน่งศิษย์ทุกคนมารวมตัวกันที่หน้าห้องโถง ทุกคนแต่งกายด้วยชุดคลุมสีฟ้าอ่อน ให้อารมณ์เหมือนคนมารวมตัวกันเต้นแอโรบิกตอนเย็น นอกจากนี้ ยังมีอาคันตุกะหลายคนจากตำหนักเทพ คนเหล่านี้ยืนรวมกลุ่มพูดคุยกัน รอการมาถึงของเหมยชิงเกออินชิงเสวียนมาถึงด้านนอกห้องโถง ยืนในที่คนน้อยๆ นางสวมชุดกระโปรงแพรไหมสีเหลืองนวลเนื้อนิ่มพลิ้วไหว ทำให้ดูสง่างามและเรียบง่าย ผมของนางประดับด้วยดอกไม้เล็กๆ เพียงไม่กี่ดอก แต่ก็ยังคงความงามบริสุทธิ์และโดดเด่น เย่จิ่งอวี้อุ้มจ้าวเอ๋อร์ไว้ในอ้อมแขน เดินอยู่เคียงข้างนาง ชุดคลุมสีเขียวเข้มทำให้เห็นถึงรูปร่างที่สมส่วน ไหล่กว้าง เอวคอด สูงยาว แม้เขาจะแค่ยืนนิ่งๆ ก็ยังดูสง่างามและมีชาติตระกูลส่วนข้างหลังพวกเขาคือเย่จั้นและอินหลี ซึ่งทั้งคู่แต่งกายด้วยชุดสีขาว หนุ่มหล่อสาวงาม เรียกได้ว่าเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบเหมือนเทพเซียนเมื่อถึงเวลาเที่ยง ระฆังใหญ่บนยอดห้องโถงก็ดังก้องเหล่าศิษย์แหวกทางออกเป็นสองฝ่ายทันที เหมยชิงเกอพร้อมด้วยฉุยอวี้และเฟิงอวิ๋นลี่ เดินเข้าไปในห้องโถงอย่างช้าๆนางแต่งกายด้วย

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1458 ขายความน่ารัก

    เสี่ยวหนานเฟิงกางมือเล็กๆ ออก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแหลมใสไร้เดียงสาว่า “ภารกิจอะไรอ่ะ”“ไปหาพี่สาวลั่ว”อินชิงเสวียนหยิบน้ำพุวิญญาณออกมาล้างมือที่สกปรกของเสี่ยวหนานเฟิง จากนั้นเช็ดด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ“อีกประเดี๋ยวเจ้าต้องขายความน่ารัก แม่จะถือโอกาสถามอะไรบางอย่าง”เสี่ยวหนานเฟิงดูสับสน กะพริบตาโตแล้วถามว่า “ขายความน่ารักหมายความว่าอย่างไร ต้องขายให้ได้เงินมากไหม”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ“ท่าทางตอนนี้ของเจ้าก็น่ารักบ้องแบ๊วอยู่แล้ว ให้เป็นแบบนี้ต่อก็พอแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงตอบว่าอ้อ และทันใดนั้นก็พูดอย่างตื่นเต้น “พี่สาวลั่วทำหน้าอมทุกข์อยู่ตลอด เราเอาให้ลูกกวาดให้นางก็ได้นะ”อินชิงเสวียนพยักหน้าเห็นด้วย“อื้ม นี่เป็นความคิดที่ดี”นางโบกมือและหยิบถุงลูกกวาดมาจากมิติ“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มอบให้พี่สาวลั่วนะ”“ตกลง”เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กๆ ออกมาเพื่อหยิบมัน แล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่ม “ลูกได้ยินจากเสด็จพ่อบอกว่าอาจิ่งหลานหายไป ท่านแม่หาลุงเจอไหม”อินชิงเสวียนถอนหายใจ “ไม่รู้ บางทีเขาอาจจะกลับไปยังที่ของตัวเองแล้ว สำหรับเขาแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”เสี่ยวหนานเฟิงเอียง

DMCA.com Protection Status