“เสวียนเอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไรไป”เย่จิ่งอวี้ผุดลุกขึ้นทันควัน ปราดเข้ามาอยู่ข้างๆ อินชิงเสวียนแล้วอินชิงเสวียนหายใจเข้าลึกๆ ระงับอาการปั่นป่วนในอก เงยหน้าขึ้นยิ้มละไม“ไม่เป็นไร บางทีช่วงนี้อาจกินข้าวไม่ตรงเวลา ทำให้รู้สึกไม่สบายท้อง”เย่จิ่งอวี้มีสีหน้าเคลือบแคลงสงสัยวรยุทธ์ของอินชิงเสวียนไม่ได้อ่อนแออีกแล้ว ด้วยระดับการฝึกฝนในปัจจุบันของนาง เป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับผลกระทบจากการบาดเจ็บและความเจ็บป่วยเล็กน้อย“หรือว่าเจ้า...”เขาคิดถึงความเป็นไปได้บางอย่างอินชิงเสวียนหันหลังกลับและวิ่งหนีไปแล้ว“อย่าคิดฟุ้งซ่าน ข้าจะไปเตรียมอาหารก่อนล่ะ”เย่จิ่งอวี้มองไปที่ร่างของอินชิงเสวียน ครั้นแล้วหัวใจก็เต้นตึกตัก หรือว่าเสวียนเอ๋อร์?เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้บางอย่าง ดวงตาของเย่จิ่งอวี้ก็เปล่งประกายด้วยความดีใจ“เสวียนเอ๋อร์!”เขารีบวิ่งตามนางไป“หืม?”อินชิงเสวียนหันกลับมาด้วยสายตาสดใส ยิ้มเห็นฟันขาว นัยน์ตาเป็นประกายด้วยความสุข“เจ้า...ตั้งครรภ์ใช่หรือไม่”เย่จิ่งอวี้ก้มศีรษะมองไปที่ท้องน้อยของอินชิงเสวียนใบหน้าของอินชิงเสวียนเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย“ไม่มีทาง”ครั้นเห็นท่า
มื้อนี้เป็นมื้ออาหารที่หรูหรามาก อินชิงเสวียนได้รังสรรค์รายการอาหารที่นางชอบกินในยุคปัจจุบันออกมาทั้งปิ้งย่าง หม้อไฟ เบอร์เกอร์ พิซซ่า ซูชิ และเค้กชิ้นเล็กหลากหลายรสชาติ นอกจากนี้ ยังแลกเปลี่ยนกาแฟ สาคูมะม่วงนมสดหน้าส้มโอและเครื่องดื่มอื่นๆ อีกด้วยเย่จิ่งอวี้ไม่ใช่ผู้ที่ชอบร่ำสุรา แต่เขาสนใจเครื่องดื่มเหล่านี้มาก เมื่อเห็นอาหารมากมาย ดวงตาของเสี่ยวหนานเฟิงเบิกกว้าง ท่าทางเต็มไปด้วยความตื่นเต้นจู่ๆ อินชิงเสวียนก็นึกถึงเย่จิ่งหลานทันทีเขาไม่ได้ทำการผ่าตัดบ่อยนัก คงมีคะแนนสะสมในมิติไม่มาก ของที่มาจากสมัยใหม่เหล่านี้เข้าต้องชอบมากแน่ๆ“อาอวี้ ทำไมเราไม่เอาสิ่งเหล่านี้ออกไป แล้วเรียกจิ่งหลานกับเสด็จอามากินข้าวด้วยกัน!”เย่จิ่งอวี้ย่อมเห็นด้วยอยู่แล้ว“จะให้ข้าช่วยอะไรหรือไม่”“ไม่ต้อง ข้าสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งเหล่านี้ออกไปได้”อินชิงเสวียนนึกในใจ และทุกสิ่งก็ปรากฏขึ้นในห้องหินเย่จั้นกำลังพูดคุยกับอินหลี เมื่อเห็นสิ่งของและคนปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน นางก็รู้สึกตกใจไปชั่วขณะเย่จั้นพูดขึ้นโดยเร็ว “นี่คือของวิเศษของฮองเฮา อาหลีอย่ากังวลไป”อินหลีพูดว่าโอ้ แต่ก็ยังไม่เข้าใจโลกขอ
อินชิงเสวียนขมวดคิ้ว“บอกเจ้าตำหนักเหมย ว่าข้ายังมีเรื่องต้องทำที่นี่ ประเดี๋ยวจะไปที่นั่นในภายหลัง”“ขอรับ”ลูกศิษย์ประกบมือคำนับ แล้วเดินไปตามทางเดินเล็กๆอินชิงเสวียนยังคงมองลงไปที่ภูเขา รู้สึกไม่สบายใจเย่จิ่งอวี้กล่าวปลอบใจ “คิดมากไปก็เปล่าประโยชน์ กลับยิ่งทำให้กังวล เจวี๋ยอิ่งพวกเขาอยู่ที่เชิงเขา ประเดี๋ยวข้าจะวาดภาพจิ่งหลานแล้วส่งลงไปที่ข้างล่าง”อินชิงเสวียนถอนหายใจ“ก็มีแต่ต้องทำเช่นนี้แล้ว”เย่จิ่งอวี้ถามอีกครั้ง “ไม่ไปดูทางด้านเจ้าตำหนักเหมยหรือ”อินชิงเสวียนส่ายหัว“ไว้ค่อยไปทีหลังก็ได้ หายากที่เราจะรวมตัวกัน เรากลับไปกินข้าวกันก่อนเถอะ!”ในแง่ของความรู้สึก ร่างกายนี้คือลูกสาวที่พลัดพรากไปนานของเหมยชิงเกอ หากนางใส่ใจจริงๆ ย่อมมาหานางเองในแง่ของเหตุผล เป็นนางที่พาเหมยชิงเกอออกจากผาเฟิงเริ่น และใช้น้ำพุวิญญาณเพื่อช่วยนางฟื้นฟูรูปลักษณ์และทักษะวรยุทธ์ดังเดิม ด้วยบุญคุณนี้ หรือว่านี่ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้นางลดตัวลงมาพบกับตัวเองสักครั้ง?ในเมื่อนางไม่มีความตั้งใจเช่นนั้น ตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องรีบไปหาถึงที่ตอนนี้เย่จิ่งหลานออกจากตำหนักเทพแล้ว อินชิงเสวียนก็ยิ่งไม่
ราชาแห่งสงครามมีชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วต้าโจว แม้แต่ในสำนักแม่ชี อินหลีก็เคยได้ยินเรื่องนี้เมื่อใดก็ตามที่เหล่าแม่ชีน้อยเอ่ยถึงคำว่า “ราชาแห่งสงคราม” หัวใจก็เต็มไปด้วยความหวั่นไหว ดวงตาเป็นประกาย ในสายตาของพวกนาง ราชาสงครามนั้นไม่มีวันพ่ายแพ้ ชนะทุกการต่อสู้ มีอำนาจทุกอย่าง มีภาพลักษณ์ที่สูงส่งราวกับเทพเจ้าอินหลีได้ฟังจนเบื่อหน่าย เมื่อเทียบกับเขาแล้ว ตัวเองเป็นเพียงเศษฝุ่นเล็กๆ ที่ไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึงจริงนางกัดมุมปากแล้วกระซิบ “บุคคลเช่นเขา ข้าจะคู่ควรได้อย่างไร”ถ้าเป็นคุณชายจากครอบครัวธรรมดา อินหลีคงจะกล้าคิดเรื่องนี้ ตอนนี้เมื่อเขารู้ว่าเขาเป็นราชาแห่งสงครามของต้าโจว อินหลีก็ไม่มีความมั่นใจ“ทำไมจะไม่คู่ควร นอกจากเจ้าแล้ว ในโลกนี้ก็ไม่มีผู้ใดคู่ควรกับข้า!”กระแสเสียงทุ้มต่ำและเด็ดเดี่ยวดังขึ้นที่ประตู อินหลีรู้สึกตกใจเล็กน้อย หันขวับทันทีเย่จั้นสวมชุดสีขาวเดินเข้ามาจากด้านนอกประตู น้ำเสียงหนักแน่นเป็นจังหวะน่าเชื่อถือเย่จิ่งอวี้ยิ้มเมื่อได้ยินสิ่งนี้และพูดว่า “ข้าได้ตัดสินใจเกี่ยวกับการแต่งงานครั้งนี้แล้ว เมื่อกลับเมืองหลวง ข้าจะจัดพิธีแต่งงานให้พวกท่าน”เย่จั้นฉุดข
เมื่อราตรีกาลมาเยือน อินชิงเสวียนปล่อยให้เสด็จอาและอาหญิงพักอยู่ในห้องหินชั่วคราว ในขณะที่เย่จิ่งหลานพาเสี่ยวหนานเฟิงเข้าไปอยู่ในมิติหลังมื้ออาหารนางได้ทดลองดูแล้ว แต่อินหลีก็ยังไม่สามารถเข้าไปในมิติได้ ไม่อย่างนั้น ทุกคนก็สามารถพักผ่อนในมิติด้วยกันได้แล้วหลังจากปักหลักจัดแจงด้านนี้เสร็จ นางก็เดินช้าๆ ไปยังห้องโถงจื่อชี่ตงไหลลมยามค่ำคืนพัดมา ดวงจันทร์เยือกเย็นราวกับน้ำแม้ว่าจะเป็นเดือนเจ็ดแล้ว แต่บนภูเขาก็ไม่ร้อนเกินไป โดยเฉพาะตอนกลางคืนที่เย็นสบายมากลมพัดผสมกับกลิ่นหอมสดชื่นของพืชพรรณ อันทำให้คนรู้สึกสบายตัวสบายใจแต่ทุกครั้งที่นึกถึงเย่จิ่งหลาน มักจะกังวลเรื่องนี้เสมอ ความกังวลประเภทนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิง แม้ว่าทั้งสองจะเป็นเพื่อนกัน แต่ในอีกแง่หนึ่งก็ยังเป็นญาติกันในโลกนี้ ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังพูด และเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการแสดงออกมา หากไม่มีเรือยักษ์เดินทางไกลที่สร้างโดยเย่จิ่งหลาน การเดินทางไปยังตงหลิวก็จะเป็นเพียงการพูดคุยบนกระดาษเท่านั้นเครื่องมือนำทางขั้นสูงดังกล่าว ยังเปิดโลกการค้นพบใหม่ๆ แก่ต้าโจว ได้ยินม
อินชิงเสวียนหันหลังกลับ และมองไปที่เหมยชิงเกอเมื่อใดที่คนเราแปดเปื้อนไปด้วยอำนาจและความเกลียดชัง จะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงบางอย่างอย่างแน่นอนเหมยชิงเกอที่อยู่ตรงหน้านางแตกต่างจากผู้หญิงที่เล่นกับเสี่ยวหนานเฟิงในมิติอย่างสิ้นเชิง ราวกับคนละคน อินชิงเสวียนได้กลิ่นอายแห่งแข็งกร้าวเผด็จการและความหยิ่งผยองจากตัวนางนี่เป็นสิ่งที่อันตรายมาก สาเหตุที่ผู้อาวุโสหันถูกทำลาย ก็เพราะเขาหลงใหลในลาภยศเกินไปอินชิงเสวียนสามารถเข้าใจความเกลียดชังของเหมยชิงเกอได้ แต่ไม่เห็นด้วยกับความคิดของนาง เพียงแต่มีบางสิ่งที่นางไม่ได้พูดให้ชัดเจน อินชิงเสวียนก็ไม่สามารถพูดอะไรได้มากนางยิ้มอย่างสงบและพูดว่า “มีน้ำใจของผู้อาวุโสชิงเสวียนขอรับไว้ด้วยใจ ข้าแค่หวังว่าลูกของข้าจะเติบโตอย่างมีความสุข ส่วนสิ่งที่เขาอยากทำในอนาคต ข้าจะไม่เข้าไปยุ่งมากเกินไป ถ้าเขาไม่ต้องการเป็นฮ่องเต้ ข้าก็สามารถไปท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจกับเขาได้ จะไม่บังคับเขามากเกินไป”นางยืนขึ้นอย่างช้าๆ เดินไปหาเหมยชิงเกอ และพูดด้วยน้ำเสียงสงบ “ทุกคนมีอิสระและมีสิทธิ์ในการเลือกอนาคตของตนเอง แม้แต่พ่อแม่ ก็ไม่สามารถอาศัยศีลธรรมไปบังคับลูกหล
“ไม่ได้”เหมยชิงเกอปฏิเสธทันที นางพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “นางและข้าแยกทางกันมาตั้งแต่เด็ก ถ้ายอมรับความเป็นแม่ลูกกันอย่างกะทันหัน นางจะไม่สามารถยอมรับได้อย่างแน่นอน และตัวการสำคัญทั้งหมดนี้ก็คือเฮ่อยวนเท่านั้น มีเพียงการฆ่าเฮ่อยวน ข้าถึงจะให้คำอธิบายกับนางได้ฉุยอวี้กล่าวว่า “ชิงเสวียนมีจิตใจแข็งแกร่งมาก ถ้าเราไม่ใช้เหตุผลนี้ เกรงว่าคงยากที่จะรั้งนางไว้ได้”เหมยชิงเกอขมวดคิ้วและพูดว่า “เจ้ากับอวิ๋นลี่ช่วยข้าคิดหาทางเข้า ไม่ว่าอย่างไร ก็ห้ามให้นางลงจากภูเขาเด็ดขาด”“นี่มัน...”เรื่องนี้ค่อนข้างยากจริงๆเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่ฮ่องเต้จะอยู่ข้างนอกเป็นเวลานาน อินชิงเสวียนมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับฮ่องเต้หนุ่ม ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้เขากลับไปเพียงลำพังทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมาในใจของฉุยอวี้“ถ้าศิษย์พี่ใหญ่เต็มใจที่จะโน้มน้าวเย่จิ่งอวี้ อาจมีความหวังอยู่บ้าง”เหมยชิงเกอแค่นเสียงหึและพูดว่า “ผู้ชายไม่มีใครดี ต่อให้เขาจะเป็นฮ่องเต้แล้วอย่างไร วันนี้เขาไม่แต่งตั้งนางสนม ก็ไม่ได้หมายความว่าวันหน้าเขาจะไม่แต่งตั้งนางสนมอีก ในฐานะฮ่องเต้ เขาถูกชะตาลิขิตให้เป็นคนใจร้ายไร้
“ท่านพี่พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร”กงซวินอวิ๋นเฟิงถามอย่างไม่เข้าใจเฮ่อยวนยิ้มอย่างขมขื่น“ไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ เป็นแค่ความสับสนล้วนๆ”กงซวินอวิ๋นเฟิงพูดอย่างอ่อนโยน “หากท่านพี่ไม่ต้องการเป็นศัตรูของตำหนักเทพ เราก็สามารถมอบทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ให้พวกเขาก็ได้ ผู้คนในอิ๋นเฉิงชอบความสงบมาโดยตลอด ยกเว้นรองเจ้าเมืองตู้แล้ว ก็ไม่มีใครหมกมุ่นอยู่กับวรยุทธ์ ทุกคนต่างเป็นเพียงหนุ่มทำไร่สาวทอผ้า ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ดำเนินชีวิตแบบสบายๆ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว”เฮ่อยวนเหลือบมองไปด้านข้างแล้วถามว่า “เจ้าคิดอย่างนั้นจริงๆ หรือ”กงซวินอวิ๋นเฟิงถามกลับ “ไม่ใช่แบบนั้นหรอกหรือ ท่านดูสิว่าใครเต็มใจที่จะต่อสู้อย่างกล้าหาญ ครองยุทธจักรอย่างเผด็จการ ทุกคนต่างมุ่งความสนใจไปที่ชีวิตเล็กๆ ของตัวเอง อย่างสงบเรียบง่าย นั่นแหละถึงจะเป็นชีวิตของมนุษย์อย่างแท้จริง”เฮ่อยวนยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย“ฮูหยินกล่าวถูกต้อง แม้ว่าอิ๋นเฉิงจะยืนอยู่บนจุดสูงสุดในยุทธจักร แต่ทุกคนต่างพิถีพิถันเรื่องอาหาร ล้วนปรารถนาชีวิตที่สงบสุข เช่นนี้แล้ว ข้าจะเรียกรวมพลผู้อาวุโสหลักทุกคนในวันพรุ่งนี้ คราวนี้ข้าจะมอบทางสู่วิถี