หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 1166 น้ำพุวิญญาณช่วยปรับ

แชร์

บทที่ 1166 น้ำพุวิญญาณช่วยปรับ

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-28 16:00:00
ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตรกรรมที่เย่จิ่งอวี้กล่าวถึงนั้น ย่อมไม่ได้กล่าวถึงจิตรกรธรรมดาๆ แต่เป็นยอดฝีมือที่มีการฝึกฝนอย่างลึกซึ้ง

ความคิดแวบขึ้นมาในใจของอินชิงเสวียน และทันใดนั้นนางก็นึกถึงคนผู้หนึ่ง

“ผู้อาวุโสลิ่นก็อยู่ที่นี่ด้วย หากไม่มีวิธีอื่นจริงๆ ก็ลองไปถามเขาดูดีกว่า”

จู่ๆ เย่จั้นก็พยักหน้าเร็วๆ ราวกับเจอฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้าย

“ถูกต้อง ผู้อาวุโสลิ่นมีชื่อเสียงมาหลายปีแล้ว ความสำเร็จในวิชากระบี่และวรยุทธ์นั้นไม่ธรรมดา บางทีเขาอาจจะช่วยเราไขข้อสงสัยของเราได้ เช่นนั้นต้องรบกวนฮองเฮาด้วย”

เย่จั้นประสานมือคารวะค้อมกายถึงพื้น อินชิงเสวียนก็เอื้อมมือไปช่วยเขา แต่ก็คว้าพลาด

ใบหน้าของเย่จิ่งอวี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย

“เสวียนเอ๋อร์ เจ้า...”

อินชิงเสวียนขัดจังหวะเขา พูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าสบายดี ไปคุยกับผู้อาวุโสลิ่นเซียวก่อนเถอะ แล้วเราค่อยหารือเรื่องอื่นในภายหลัง”

นางก้าวสั้นๆ เดินไปที่ประตู เย่จิ่งอวี้เอื้อมมือไปช่วยประคอง พูดด้วยสีหน้ายุ่งงยากใจ “เสวียนเอ๋อร์...”

อินชิงเสวียนโบกมือ

“ถ้าท่านมีคำถามใดๆ ไว้เราค่อยคุยกัน ช่วยคนสำคัญกว่า”

เย่จิ่งอวี้เม้มริมฝีปากล่างอย่างแรง

“ก็ได้”

เขามองออ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1167 ได้รับประโยชน์มหาศาล

    “เสวียนเอ๋อร์!”“อินหลี!”เย่จิ่งอวี้และเย่จั้นรีบถลันเข้ามาพร้อมกันแม้ว่าอินหลีจะสวมเสื้อผ้าอยู่ แต่เมื่อเสื้อผ้าเปียกน้ำยังคงมองเห็นส่วนโค้งได้ชัดเจน สองอาหลานไม่สนใจเรื่องนี้ คนหนึ่งวิ่งไปหาอินหลี และอีกคนวิ่งไปหาอินชิงเสวียนเย่จั้นกดไหล่ของอินหลี แต่ถูกกระแทกถอยหลังไปหลายก้าวด้วยกำลังภายในที่รุนแรงและทะลุทะลวงในร่างกายของอินหลี“นี่มันเกิดอะไรขึ้น”เย่จั้นมองไปที่เย่จิ่งอวี้ที่ประทับฝ่ามือไว้ที่หัวใจด้านหลังของอินชิงเสวียนเดิมทีเขาต้องการช่วยอินชิงเสวียนรักษาอาการบาดเจ็บ แต่กลับถูกทำให้สะเทือนด้วยกำลังภายในมหาศาลจนข้อมือก็สั่นหรือว่าเสวียนเอ๋อร์ได้ดึงเอากำลังภายในของอินหลีออกมา?เดิมทีเสวียนเอ๋อร์ก็ได้รับบาดเจ็บภายในอยู่ แล้วผลกระทบของกำลังภายในนี้ จะทำให้อาการบาดเจ็บของนางแย่ลงอย่างแน่นอน แม้ว่าน้ำพุวิญญาณจะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ แต่ก็ต้องใช้เวลา เย่จิ่งอวี้ย่อมไม่ต้องการให้อินชิงเสวียนทนทุกข์ทรมานอยู่แล้ว“เสวียนเอ๋อร์อย่าตกใจ ใจเย็นมีสติ รวมพลังที่จุดศูนย์ ข้าจะช่วยเจ้าเอง!”หลักการหลักการแห่งเต๋าโอบล้อมรอบทั้งร่างกาย พลังธรรมชาติไม่มีที่สิ้นสุดไหวเวียนในตันเถ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-28
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1168 เขาอยู่ที่นี่แล้ว

    แม้ว่าเย่จั้นมีหลายสิ่งที่อยากจะถาม แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะถามคำถาม จึงตามเย่จิ่งอวี้ออกไปประตูหินหนักปิดลงทันที แสงในห้องก็หรี่มัวลงเมื่อไม่มีแสงแดดที่ส่องประกาย อินหลีก็รู้สึกเขินอายน้อยลง รู้สึกปลอดภัยมากขึ้นนางมองหญิงสาวคนนี้ที่ดูค่อนข้างคล้ายกับตัวเองด้วยความประหลาดใจ ถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “แม่นาง เจ้าคือ...”นางมองไปรอบๆ แล้วถามว่า “ที่นี่คือที่ไหน”อินชิงเสวียนหยิบเสื้อผ้าที่วางอยู่บนเตียงหินออกมา แล้วพูดกับอินหลี “แม่นางใส่เสื้อผ้าก่อน ข้าจะค่อยๆ อธิบายให้ท่านฟัง”อินหลีก้มศีรษะลง ครั้นจึงตระหนักว่าน้ำในถังนั้นเหมือนกับน้ำโคลน ใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที“นี่...ข้า...ข้าไม่ได้สกปรกขนาดนั้น”อินชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แม่นางสะอาดอยู่แล้ว นี่ไม่ใช่สิ่งสกปรกบนร่างกายของท่าน แต่เป็นความขุ่นมัวของพลังยุทธ์ที่ระบายออกจากร่างกายของท่าน หากต้องการอธิบายในแง่ของวรยุทธ์ จะเรียกว่าการชำระวิญญาณล้างไขกระดูกก็ได้”อินหลีเบิกตากว้างด้วยความไม่เชื่อ เมื่อตอนที่นางยังเป็นเด็ก นางเคยได้ยินพ่อและพี่ชายพูดว่า การบรรลุวรยุทธ์ระดับสูงสุดคือการชำระวิญญาณล้างไขกระดูก นางไม่รู้วรยุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-29
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1169 ในที่สุดก็ตามหาเจ้าเจอ

    ร่างสูงสีขาวยืนอยู่นอกประตู คนผู้นั้นค่อยๆ หันกลับมา เผยให้เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาเยือกเย็นเขาสวมเสื้อคลุมสีขาวราวกับหิมะที่ปลิวไสวไปตามสายลม ไร้ฝุ่นแปดเปื้อน ผมยาวถูกปิ่นปักผมหยกสีขาวแลดูอ่อนโยน แม้จะเป็นเพียงการเคลื่อนไหวที่กะทันหัน แต่ก็เต็มไปด้วยความสูงศักดิ์อินหลีค่อยๆ มองเห็นใบหน้าของคนผู้นั้นได้อย่างชัดเจน คิ้วคมราวกับดาบ จอนก็คมเหมือนมีด จมูกโด่งเป็นสันดั่งยอดเขา ริมฝีปากบางเม้มเล็กน้อย ดูเย็นชามีเอกลักษณ์ของผู้บังคับบัญชาการทหารคือ...เขา!เป็นเขาจริงๆ!เมื่อเปรียบเทียบกับภาพในความทรงจำของอินหลีแล้ว คุณชายเย่ที่อยู่ตรงหน้านางดูมีผ่านเรื่องราวในชีวิตมากกว่าเล็กน้อย แต่โครงร่างยังคงชัดเจนและลึกซึ้งเช่นเดิมมุมปากของอินหลีเริ่มกระตุกอย่างไม่สามารถควบคุมได้คุณ คุณชายเย่?เขามาที่นี่เพื่อตามหาตัวเองงั้นหรือผ่านไปหลายปีแล้ว เขายังไม่ได้แต่งงานหรือลูกและภรรยาของเขาจะยอมให้เขาออกมางั้นหรือถ้าเขามาตามหาตัวเองจริงๆ แล้วตัวเองจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไรแม้ว่าอินหลีจะไม่รู้จักตัวตนของเขา แต่จากการแต่งกายและท่วงท่าของเขา ก็สามารถบอกได้ว่าเขามีภูมิหลังทางครอบครัวที่ไม่ธรรมดา ท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-29
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1170 วิ่งเข้าหากันและกันอย่างอึกทึก

    “ท่าน...ตามหาข้าหรือ”เมื่อมองดูดวงตาสุกใสดั่งเต็มเปี่ยมไปด้วยธาราในฤดูใบไม้ร่วง เย่จั้นยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ไม่งั้นจะมีใครอีก เจ็ดปีแล้ว ข้าส่งคนไปสืบตามหาทุกที่ ถ้าข้าไม่ได้มาที่ตำหนักเทพโดยบังเอิญ เกรงว่าชั่วชีวิตนี้คงไม่ได้เจอเจ้าอีก”รูม่านตาของอินหลีหดลงพลัน อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกมา หมายจะหยิกแก้มตัวเองอย่างแรงต้องฝันอยู่แน่ๆ คุณชายเย่ สูงตระหง่านดั่งต้นหยกต้านลม ผู้ชายแบบนี้จะคิดเรื่องแม่ชีได้อย่างไรปลายนิ้วยังไม่ทันแตะใบหน้า ก็ถูกกอบกุมด้วยฝ่ามืออันอบอุ่น“ถ้าเจ้ายังไม่เชื่อ ก็ลองตรวจดูอุณหภูมิของข้าอย่างละเอียด ดูว่าข้ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่”เย่จั้นวางมือที่สั่นเทาเล็กน้อยบนท่อนอกของตัวเองเมื่อรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจอันหนักแน่น อินหลีก็ตระหนักได้ในที่สุดเป็นความสัมพันธ์เช่นนี้นี่เอง ไม่ใช่แค่ตัวเองที่รู้สึกฝ่ายเดียว แต่เป็นการวิ่งเข้าหากันและกันอย่างอึกทึกโดยไม่มีเสียงใดๆ แม้ว่านางจะถูกผูกมัดด้วยขนบธรรมเนียมประเพณีมาตั้งแต่เด็ก แต่ในขณะนี้ ก็ยังไม่สามารถควบคุมความรู้สึกตัวเองได้ ยื่นแขนไปกอดเย่จั้นอย่างอดไม่ได้เรียกเสียงสะอื้น “คุณชายเย่...”ขณะที่ทั้งส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-29
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1171 ดวงตะวันดวงน้อย

    อินชิงเสวียนถอนหายใจเบาๆ ก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า “ข้ารู้แล้ว”เมื่อเห็นหญิงสาวก้มหน้าหดหัวอันแสดงท่าทางจำนน หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็เต้นรัว ไม่ได้ที่จะโน้มตัวลงหานาง“เด็จพ่อ เด็จแม่~”เสียงแหลมใสไร้เดียงสาแบบเด็กๆ ของเสี่ยวหนานเฟิงดังมาจากด้านหลัง ใบหน้าของอินชิงเสวียนก็เปลี่ยนเป็นสีแดงนางกระแอมไอเบาๆ แล้วหันกลับมาอุ้มเสี่ยวหนานเฟิง“ลูกรักหลับสบายดีหรือไม่”เสี่ยวหนานเฟิงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ยิ้มเห็นฟันแล้วกล่าวว่า “ดี อุ่นสบาย”เสี่ยวหนานเฟิงหันตัวกลับมาพิงร่างของอินชิงเสวียน ทันใดนั้นก็เห็นลูกกลมๆ เรืองแสงที่เหนือศีรษะ จึงอดไม่ได้ที่จะตะโกนอย่างตื่นเต้น “เด็จแม่ เด็จพ่อ อาทิตย์ขึ้น~”ครั้นมองตามทิศทางปลายนิ้วของเสี่ยวหนานเฟิง ก็เห็นดวงตะวันลอยอยู่บนท้องฟ้า เปล่งรัศมีอันอบอุ่นออกมาอินชิงเสวียนรู้สึกประหลาดใจเป็นดวงอาทิตย์จริงๆ เมื่อแสงตะวันสาดส่องพืชผลที่เติบโตอย่างดุเดือด ก็รู้สึกประหลาดใจอีกครั้งนางหลับตาลง และพบว่ามีดวงตะวันดวงเล็กๆ อยู่ในร่างกายหรือว่ามิติถึงขั้นสูงสุดนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงตามสภาพร่างกายของนาง? ที่ทำให้มิติเกิดการเปลี่ยนแปลงไปด้วยเย่จิ่งอวี้ก็ประหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-29
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1172 ถกเถียงเรื่องเป่ยไห่

    เย่จิ่งอวี้ใช้วิชาตัวเบา หลังจากผลุบๆ โผล่ๆ ไม่กี่ครั้งก็ไม่เห็นเงาคนอีก อินชิงเสวียนทั้งเป็นห่วงเย่จิ่งอวี้ และเป็นห่วงเย่จิ่งหลาน แต่ไม่ต้องการให้เสี่ยวหนานเฟิงเห็นฉากที่รุนแรงเช่นนี้ทว่าเสี่ยวหนานเฟิงคุ้นเคยกับสิ่งแปลกๆ มานานแล้ว ตั้งแต่เขาเกิดมา ก็มีความรุนแรงและการนองเลือดอยู่ตลอดเวลา ทำให้เขาไม่ขี้ขลาดตาขาวเหมือนเด็กคนอื่นๆ อยู่แล้ว ในความคิดแบบเด็กๆ ของเขา เด็จพ่อและเด็จแม่คือผู้ที่เก่งกาจมากที่สุดในโลกมาโดยตลอดจากนั้นก็โอบแขนรอบคอของอินชิงเสวียน พูดด้วยเสียงแหลมใดอันไร้เดียงสาแบบเด็กๆ ว่า “เด็จแม่ไปหาเด็จพ่อเถอะ ลูกอยู่เล่นทรานส์ฟอร์เมอร์สในมิติเองได้”อินชิงเสวียนทำใจไม่ได้“เจ้าอยู่คนเดียว จะสนุกหรือ”เสี่ยวหนานเฟิงพยักหน้าอย่างรู้ความ“สนุกสิ ทรานส์ฟอร์เมอร์สสามารถสู้กับอุลตร้าแมนได้ ลูกชอบ”“งั้นก็ได้ ไปจะดูหน่อย ถ้าไม่มีอะไร แม่จะมาหาเจ้า”“อื้อ เด็จแม่ไปเถอะ ไม่ต้องห่วงลูก”เสี่ยวหนานเฟิงเม้มริมฝีปากอันอ่อนนุ่ม แล้วจูบบนใบหน้าอินชิงเสวียนอย่างแรง“แล้วพบกันใหม่น้า”เขาโบกมือเล็กๆ ไปมา“ได้ เป็นเด็กดีรอแม่นะ”อินชิงเสวียนนึกในใจ ครั้นแล้วเสี่ยวหนานเฟิงก็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-30
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1173 เจ้าสำนักฉุยได้โปรดยอมรับด้วย

    เย่จิ่งหลานหงุดหงิด แต่ก็ยังพูดอย่างอดทน “ข้าเองก็ไม่รู้ สิ่งเดียวที่ผิดแปลกก็มีแค่เรื่องนี้ ส่วนเรื่องอื่น ข้าไม่รู้อะไรเลย”อินชิงเสวียนพูดด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนว่า “ตามสุภาษิตที่กล่าวไว้ว่า เมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ย่อมมีสาเหตุบางอย่าง ในเมื่อโมริตะคาวาสึบาเมะเป็นคนที่ถูกเนรเทศ เช่นนั้นจึงต้องเป็นคนชั่วช้าสามานย์อย่างที่สุด เขาสามารถซ่อนตัวอยู่ในเกาะตงหลิวมานานหลายปี กระทำความชั่วร้ายนับไม่ถ้วน แต่กลับไม่กระตุ้นศิลาตอบสวรรค์ เขาต้องมีวิธีการบางอย่างเป็นแน่ ตอนนี้เกาะตงหลิวถูกทำลายไปแล้ว เขาจะเกลียดแค้นเย่จิ่งหลานก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้” เย่จิ่งอวี้พยักหน้าและกล่าวว่า “เสวียนเอ๋อร์วิเคราะห์สมเหตุสมผล ท่านนักพรตโปรดตรวจสอบอย่างละเอียดด้วย”ชิงหมิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เรื่องนี้อาตมภาพไม่สามารถตัดสินใจได้ จะส่งจดหมายถึงอาจารย์เพื่อให้ท่านตัดสินใจ หากมีความจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากโยม ก็โปรดอย่าหลบเลี่ยง”เย่จิ่งหลานได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ ขณะที่กำลังจะอ้าปาก อินชิงเสวียนก็ห้ามเขาไว้“หากท่านนักพรตปฏิบัติด้วยความยุติธรรม เราจะให้ความร่วมมือเป็นแน่ หากเจ้ามี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-30
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1174 นิ่งเฉย

    ฉุยอวี้หันไปมองฉางเฮิ่นเทียน“คนเช่นเจ้า คาดเดาได้ยาก เจ้าเคยทรยศข้ามาแล้วหนหนึ่ง จะให้ข้าเชื่อใจเจ้าได้อย่างไร”ฉางเฮิ่นเทียนคุกเข่าลงและพูดว่า “ทุกอย่างล้วนทำไปเพราะความจำเป็น เจ้าสำนักฉุยโปรดยกโทษให้ด้วย ข้าน้อยไม่ขอให้เจ้าสำนักฉุยดูแลแต่อย่างใด แค่อยากให้รับข้าน้อยให้อยู่ที่นี่ ก็พึงพอใจมากแล้ว”ฉุยอวี้มีสีหน้าเคลือบแคลงสงสัย“เจ้าคิดอย่างนั้นจริงๆ หรือ”ฉางเฮิ่นเทียนก้มหัวแล้วพูดว่า “ข้าน้อยออกมาจากอิ๋นเฉิง ต้องถูกจับกุมแน่ๆ ตอนนี้ไม่มีที่อยู่แล้ว มีเพียงตำหนักเทพหอทองคำเท่านั้นที่ทัดเทียมกับอิ๋นเฉิง ถึงจะรับรองความปลอดภัยของข้าได้”ฉุยอวี้พยักหน้า คำพูดนี้สมเหตุสมผล“ถ้าแค่อยากอยู่ที่นี่ ก็ไม่ใช่ปัญหา”“ขอบพระคุณเจ้าสำนักฉุย ขอบพระคุณเจ้าสำนักฉุย”ฉางเฮิ่นเทียนก้มหัวซ้ำแล้วซ้ำอีก ท่าทางตื้นตันใจมากฉุยอวี้พูดเบาๆ “ลุกขึ้นเถอะ ข้ารับรองได้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่ได้ แต่เจ้าควรสำรวมตัวไว้ให้ดี หากกล้าก่อปัญหา อย่าหาว่าข้าไม่ปรานีกับเจ้า”“ข้าน้อยไม่กล้า สิ่งเดียวที่ต้องการคือที่อยู่อาศัย”“อยากพักที่ไหน เจ้าก็บอกมาได้”“สถานที่เงียบสงบก็พอ ข้าน้อยไม่กล้าจู้จี้จุกจิก”“เช่นน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-30

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status