Share

บทที่ 966

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update Last Updated: 2024-09-02 18:53:06
ผลที่ฮูหยินป๋อผิงซีสอบสวนนั้น เซี่ยหลูโม่ได้บอกเขาด้วย และให้ข้อสรุปว่า "สามารถยืนกรานได้แล้วว่าคนที่อยู่เบื้องหลังได้ติดต่อกับยี่ฝางผ่านตระกูลหลิน ให้สาวใช้แจ้งให้นางทราบก่อน แล้วให้นางไปร่วมงานศพท่านแม่ของเจ้า จากนั้นนางหลินก็ไปไว้ทุกข์ด้วย หาโอกาสได้คุยกับนางตามลำพัง หลังจากที่นางหลินพูดคุยกับนางเสร็จแล้ว ทั้งคู่ก็ถูกฆ่าปิดปากไปเลย"

จ้านเป่ยว่างตกใจอย่างมาก "นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ?"

"ดังนั้น ข้าจะไม่พูดอ้อมค้อม ข้าจะบอกเจ้าตรงๆ ตอนที่สืบสวนคดีกบฏของเซี่ยอวี้น ทางหอต้าหลี่ได้สืบเจอว่าตระกูลหลินมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เนื่องจากไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์ว่าพวกเขาเกี่ยวข้องกับดดีกบฏโดยตรง เราจึงไม่ได้ลงมือกับพวกเขา นางหลินไปพบยี่ฝาง และคนที่อยู่ข้างหลังนางก็คือคนที่อยู่เบื้องหลังเซี่ยอวี้น ซึ่งเป็นผู้บงการที่แท้จริงของการก่อกบฏ"

เซี่ยหลูโม่มองเขาแล้วพูดเสริมว่า "ส่วนยี่ฝางมีส่วนร่วมในคดีนี้ แต่นางจะถูกนำตัวไปที่ซีจิง แต่เจ้าเป็นสามีของนาง เมื่อคดีกบฏได้รับการการยืนยัน จวนแม่ทัพของเจ้าจะมีผลกระทบอย่างไร คงมิต้องให้ข้ามาบอกเจ้าก็คงรู้ดีนะ"

ริมฝีปากของจ้านเป่ยว่างสั่นเล็กน้อย เขาเคยทำงานข้างก
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 967

    จ้านเป่ยว่างเหลือบมองไปในทิศทางประตูโดยไม่รู้ตัว นี่ไม่ใช่การกระทำที่เขาทำโดยเจตนา บัดนี้เขามีอารมณ์ที่เศร้าโศก มักจะรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจเปิดเผยให้คนอื่นรู้เรื่องได้ จึงทำตัวอย่างระมัดระวังและลับๆ ล่อๆ ด้วยจิตใต้สำนึกการกระทำที่หลบๆ ซ่อนๆ นี้ทำเอาความหวาดระแวงของยี่ฝางได้น้อยลงไม่น้อย ก็จริงสิ นางรู้ทุกอย่างทุกเรื่องของผู้ชายคนนี้เป็นอย่างดี แล้วนางจะกลัวอะไรกัน"สิ่งที่เจ้าพูดในวันนั้นกลังจากที่ข้ากลับไปก็ได้คิดทบทวนอยู่ ข้ารู้สึกว่าโอกาสในที่ประสบความสำเร็จมันน้อยมาก อีกอย่าง เจ้าก็ไม่ได้บอกข้าว่าเจ้าจะใช้วิธีใดที่จะทำให้ชาวซีจิงนำตัวแม่ทัพใหญ่เซียวไป ดังนั้นข้าจึงไม่แน่ใจว่าทางจวนเป่ยหมิงอ๋องจะออกมือช่วยหรือไม่ และเราสามารถใช้ประโยชน์จากพวกเขาได้จริงๆ หรือไม่"เสียงของเขาเบามากและสายตาที่มองดูยี่ฝางก็ไม่เป็นปกติเล็กน้อย ยามนี้เขายังคงคำนึกถึงพวกเขาได้เป็นคู่สามีภรรยากัน หากใช้วิธีนี้เพื่อหลอกให้นางพูดความจริง ก็เท่ากับทรยศนาง จริงๆ แล้วเขาเองก็รู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก แต่เพื่อให้จวนแม่ทัพไม่ถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้อง เขาก็ต้องทำยี่ฝางขมวดคิ้ว "ข้าบอกว่าจะออกม

    Last Updated : 2024-09-02
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 968

    ยี่ฝางกระตุกมุมปาก นางได้เก็บเงินไว้จำนวนหนึ่งจริงๆ ไม่ว่าผู้ใดดูแลจวนก็ตาม ส่วนแบ่งที่ของนางก็ขาดไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีเงินหมั้นตอนแต่งงานด้วย จริงๆ แล้วนางได้เก็บไว้ไปบ้าง จะให้ที่บ้านไปทั้งหมดได้อย่างไร?สินเดิมที่พ่อแม่ให้นั้นก็มีแค่น้อยนิด หากนางไม่เก็บเงินหมั้นไว้บางส่วนนางจะไม่ยอมหรอกแต่เงินที่นางเก็บเอาไว้ก็มีไว้เพื่ออนาคตอยู่แล้ว "เงินของข้าเจ้าเอาไปใช้จ่ายได้ แต่ส่วนที่ควรยืมก็ต้องยืมด้วย หลังจากที่ข้าหนีตัวไปก็ไม่เหลืออะไรแล้ว หากไปตัวเปล่าอย่างไม่มีเงินติดตัว จะให้ข้าอดอาหารไม่มีที่นอนก็ไม่ได้สินะ"จ้านเป่ยว่างจงใจมุ่งความสนใจไปเรื่องเงิน เดี๋ยวค่อยถามต่อ ไม่งั้นจะดูออกว่าเขากำลังถามจี้อยู่ จะทำเอายี่ฝางเกิดความสงสัยได้ "เจ้ามีเงินเท่าไหร่ ข้าจะคำนวณดูเอง ให้เจ้าส่วนหนึ่ง ที่เหลือข้าเอาไปจ้างคน หากไม่พอจริงๆ ข้าค่อยไปยืมจากนางอีกที"ยี่ฝางคิดอยู่พักหนึ่งว่าถ้านางไม่ออกเงิน ลำพังไปยืมเงินจากหวังชิงหลูคงไม่ได้เท่าไร แม้ว่าหวังชิงหลูมาจากจวนป๋อ แต่จริงๆ แล้วก็เป็นคนขี้เหนียวด้วย นางจึงตอบว่า"พอจะมีสองสามพันตำลึง แต่ข้าให้เจ้าได้เพียงหนึ่งพันตำลึงเท่านั้น"จ้านเป่ยว่างบอกว

    Last Updated : 2024-09-02
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 969

    จ้านเป่ยว่างยังคงคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้"องค์หญิงใหญ่ไม่สนับสนันทำสงคราม ถ้าขุนนางหญิงที่อยู่ข้างกายนางทำเช่นนี้ ไม่เท่ากับขัดแย้งกับความเห็นขององค์หญิงใหญ่เข้าแล้วหรือ องค์หญิงใหญ่ไม่มีทางเห็นด้วยแน่"ยี่ฝางหัวเราะเยาะ "เกรงว่าความเห็นของนางจะไม่สำคัญแล้วหรอกนะ"จ้านเป่ยว่างตกตะลึง "หมายถึงอะไร? หรือว่าพวกเขาจะมองข้ามอำนาจขององค์หญิงใหญ่เหรอ?"ยี่ฝางกล่าวว่า "ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร นางหลินบอกข้าแบบนี้ ก็ไม่ได้เล่ารายละเอียด แล้วตัวตนของขุนนางหญิงคนนั้นข้ากก็ไม่รู้ด้วย ตอนแรกข้าไม่เชื่อเลยถามคำถามพวกนี้ สิ่งที่นางสัญญากับข้าคือตราบเท่าที่ข้าร่วมมือ เมื่อถึงเวลาหนีพวกเขาก็จะช่วยข้าด้วย แต่ข้าไม่ได้จับผิดเซียวเฉิงโดยไม่ปล่อยมือเพราะเจ้า ดังนั้นพวกเขาอาจจะไม่สนใจข้าก็ได้ เพียงแต่ว่าไม่ว่าข้าจะให้คำสารภาพอย่างไร คาดว่าแผนของพวกเขาจะดำเนินการต่อไปเช่นกัน ข้ายังมีโอกาสอยู่"หลังจากที่จ้านเป่ยว่างตกตะลึง เขาก็จ้องมองนางอย่างนิ่งเงียบ "เจ้าไม่ได้เปลี่ยนคำสารภาพเพื่อข้า เจ้าแค่รู้ว่าพวกเขาอาจไม่น่าเชื่อถือได้ และกลัวว่าพวกเขาจะถีบหัวส่งหลังจากใช้ประโยชน์เสร็จ เพราะงั้นเจ้าจึงมุ่งเป้ามาหาข้า ด

    Last Updated : 2024-09-02
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 970

    เซี่ยหลูโม่รีบกลับจวนและมาที่ห้องประชุม อาจารย์กำลังนั่งอยู่ที่ที่นั่งหลักรอให้ทุกคนกลับมารายงานเขาให้อาจารย์หยูไปสืบข้อมูลของขุนนางหญิงทั้งสามคนที่มาในครั้งนี้ เพื่อตรวจดูให้ละเอียดมากหน่อยยามจือที่หอฮุยตงเสิ่นว่านจือดื่มชาไปเยอะมาก และรู้สึกกลั้นไว้ไม่หยุดแล้ว จึงบอกกับองครักษ์ของซีจิงว่าจะไปเข้าห้องส้วม ส่วนซ่งซีซีก็ลุกขึ้นไปพร้อมกันด้วยองครักษ์ซีจิงตามหาสาวใช้ที่สามารถพูดภาษาซางมา จากนั้นพาพวกนางไปห้องส้วมเมื่อเดินผ่านลานหลักของหอฮุยตง กลับได้เห็นแสงไฟสว่างจ้าในข้างใน และเสียงปากเสียงดังมาออก ซ่งซีซีมองดูแวบหนึ่งและเห็นว่าพวกนักการทูตเกือบทั้งหมดนั่งอยู่ข้างใน และขุนนางหญิงที่อยู่ข้างกายองค์หญิงใหญ่ก็อยู่ที่นั่นด้วย ที่นั่นมีคนมากกว่าสิบกว่าคนกำลังพูดจาโต้ตอบกัน มีเสียงไม่ได้ดังมากนัก แต่สีหน้าของบางคนก็ดูเคร่งขรึมและบางคนก็ดูโกรธๆซ่งซีซีเข้าใจภาษซีจิงแค่บางคำ จึงไม่เข้าใจว่าพวกเขากำลังโต้เถียงกันเรื่องอะไรอยู่ แค่เข้าใจคำว่า "อันตราย" และ "อันตรายมาก" เท่านั้นซ่งซีซียืนนิ่งและต้องการฟังให้ชัดเจนมากกว่านี้ แต่ถูกสาวใช้เร่งให้ออกไปซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือเดินไปยังห้องส

    Last Updated : 2024-09-02
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 971

    ห้องประชุมของจวนเป่ยหมิงอ๋องอาจารย์หยูจัดเรียงข้อมูลทั้งหมดของขุนนางหญิงสามคนนั้นออกมา เซี่ยงผิง อันหวินหลูและฮั่วหย้าถิง"กล่าวได้ว่าทั้งสามคนนี้ล้วนเป็นคนสนิทขององค์หญิงใหญ่ ผู้หญิงของซีจิงเป็นขุนนางที่ราชสำนัก ล้วนไม่สามารถดำรงตำแหน่งที่สำคัญได้ เซี่ยงผิงเป็นขุนนางหญิงคนแรกที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นสู่ระดับชั้นห้า องค์หญิงใหญ่ให้ความสำคัญกับนางมาก รองมาก็คือฮั่วหย้าถิง บุตรีของฮูหยินเอกของผู้นำตระกูลฮั่วในซีจิง ภรรยาของซูลันจีคือป้าของนาง คนสุดท้ายคืออันหวินหลู อันหวินหลูคนนี้เป็นลูกสาวของสามัญชน เรียนหนังสืออย่างหนักและสุดท้ายได้สอบติดขุนนางเป็นอันดับที่หนึ่ง ติดตามข้างกายองค์หญิงใหญ่ช่วยจัดการธุรกิจการเมืองด้วย พวกนางทั้งสามได้ติดตามองค์หญิงใหญ่ตั้งแต่อดีตฮ่องเต้ยังอยู่ ข้อมูลที่เราสืบสวนในก่อนหน้านี้คือทั้งสามคนนี้ภักดีต่อองค์หญิงเป็นอย่างมาก"เซี่ยหลูโม่หยิบข้อมูลของทั้งสามคนขึ้นมาและพิจารณาอย่างรอบคอบ รวมถึงชื่อ อายุ นิสัย ต้นกำเนิด ทะเบียนบ้าน การแต่งงาน ครอบครัว รวมถึงวันที่พวกนางเข้ารับเป็นขุนนางและสิ่งที่พวกนางทำหลังจากที่เซี่ยหลูโม่อ่านมารอบหนึ่งแล้ว เขาก็กลับไปดู

    Last Updated : 2024-09-02
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 972

    ซ่งซีซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "เจ้าไปเชิญลุงดันมาที่นี่ก่อน แล้วข้าจะคิดหาวิธีเข้าไปสอบสวนดูอีกที"ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ไปตามกาหมอมหัศจรรย์ดันมาได้เตรียมตัวให้พร้อมจะดีกว่าเสิ่นว่านจือกล่าวว่า "ได้ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้"เสิ่นว่านจือออกไปแล้วรีบขี่ม้าออกเดินทาง ตอนกลางคืนยังค่อนข้างหนาว ต้องลำบากหมอมหัศจรรย์ดันจริงๆนางพบกับกุ้นเอ๋อร์ในครึ่งทาง แต่กุ้นเอ๋อร์ดูเหมือนจะไม่เห็นนาง และขี่ตรงผ่านนางไป นางตะโกนเสียงดัง หลังจากใช้เวลาสักพักก่อนจะได้ยินเสียงกีบม้ากลับมาซ่งซีซีให้กองกำลังเมืองหลวงเฝ้าประตูไว้ และไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าไป หากเป็นกลอุบาย ก็กลัวว่านางจะไม่ลงมือ พวกเขาได้จัดคนไว้ ยังไงก็ควรให้ระวังตัวหน่อยนางออกจากห้องเล็กของผู้ดูแลประตู และเดินไปรอบๆ หอฮุยตง เนื่องจากข้างนอกหอฮุยตงล้วนเป็นคนของนางเอง จึงไม่ได้เป็นอะไรที่นางเดินรอบๆ อยู่ข้างนอกหลังจากเดินไปสักพัก นางก็บินเข้าไปจากกำแพงหลังลานเห็นได้ชัดว่าระบบการป้องกันข้างในไม่แน่นหนาขนาดนั้น ไม่รู้ว่าทิ้งช่องโหว่ไว้โดยเจตนาหรือไม่นางรู้ว่าองค์หญิงใหญ่อาศัยอยู่ในลานด้านตะวันออก แต่สถานที่ ที่นางยืนอยู่ห่างจากลานด้านต

    Last Updated : 2024-09-02
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 973

    หลังจากนั้นไม่นาน ผิงหวูจูงก็ปรากฏตัวที่หน้าประตูหอฮุยตง นางคงไม่ได้มาคนเดียว เพราะเมื่อกี้ที่ซ่งซีซีเจอนาง นางสวมชุดดำกลางคืน ตอนนี้นางสวมชุดธรรมดา และชุดดำกลางคืนก็ไม่อยู่ในมือด้วย"ศิษย์พี่ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?" ซ่งซีซีรีบเข้าไปถามนางผิงหวูจูงกล่าวว่า "ข้าฟังอยู่บนหลังคาขององค์หญิงใหญ่อยู่พักหนึ่ง องค์หญิงใหญ่หมดสติ มีสาวใช้หลายคนคอยดูแลนาง ข้าฟังพวกนางพูดคุยกัน ไม่นานหลังจากที่องค์หญิงใหญ่กลับมาจากสำนักหงลู่ จู่ๆ นางก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นมาและถึงกับกัดคนด้วย อาละวาดไปได้สักพักก็สลบไป""เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นมาและกัดคนเหรอ? หรือว่าเป็นโรคประสาทกระมัง?" เสิ่นว่านจือรู้สึกประหลาดใจมาก"พี่ได้ยินที่ลานหลักใช่ไหม? พวกเขาได้พูดอะไรกัน?" ซ่งซีซีถาม"ทะเลาะกันที่ลานหลัก บางคนบอกว่าจะไปตามหาหมอหลวงหรือท่านลุงดัน แต่มีคนไม่เห็นด้วย เนื่องจากข้าได้ฟังจากบนหลังคา เพราะฉะนั้นข้าจึงไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายไม่เห็นด้วยและฝ่ายที่สนับสนุน""แล้วได้ยินเสียงผู้หญิงที่ไม่เห็นด้วยกับการตามหาหมอมหัศจรรย์หรือไม่?""มี" เมื่อผิงหวูจูงได้เห็นกุ้นเอ๋อร์ก็รู้ว่าพวกนางได้รู้เรื่องของขุนนางหญิง "แต่ไม

    Last Updated : 2024-09-02
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 974

    แม้ว่าเซี่ยงผิงจะเป็นขุนนางหญิงที่ธรรมดามาก แต่นางก็ได้รับความไว้วางใจและความสำคัญจากองค์หญิงใหญ่ เพราะเมื่อกี้นางต่อต้านอย่างรุนแรง จึงทำให้คนที่เดิมทีให้ความสนับสนุนนั้นกลับเปลียนใจต่อต้านเช่นกันอย่างไรก็ตาม ก็มีนักการทูตสองสามคนเห็นด้วยที่ตามหาหมอมหัศจรรย์ดันจากแคว้นซางมา ชื่อเสียงของหมอมหัศจรรย์ดันดังไปถึงซีจิง ตอนแรกที่อดีตฮ่องเต้ทรงพระประชวร ก็มีขุนนางเสนอว่าให้ไปเชิญหมอมหัศจรรย์ดันมารักษาให้ เพียงแต่ว่าอดีตฮ่องเต้ไม่ต้องการมอบชีวิตของตนเองไว้กับมือของชาวซาง เรื่องนี้ถึงไม่ได้ดำเนินต่อพวกเขาเริ่มโต้เถียงกันอีกครั้ง เมื่อเห็นดังนั้น ซ่งซีซีและผิงหวูจูงจึงช่วยพยุงหมอมหัศจรรย์ดันขึ้นมา และวิ่งไปทางเรือนตะวันออก"หยุดพวกนางเอาไว้" เซี่ยงผิงกรีดร้อง"ฟังข้านะ ฟังข้า…" เสิ่นว่านจือก้าวไปข้างหน้าและจับมือของเซี่ยงผิง "เราทำแบบนี้ก็เพื่อองค์หญิงใหญ่ ข้างกายองค์หญิงใหญ่มีสาวใช้อยู่ หากเราต้องการลงมือทำอะไร คนของพวกเจ้าก็มองเห็นได้หมด""ใช่ ใช่" กุ้นเอ๋อร์ห้ามซูลันซือไว้ "ไม่ต้องกังวล มันเป็นเพียงการวินิจฉัยชีพจรเท่านั้น หมอหลวงของพวกเจ้าอยู่ไหน? ให้รีบตามไปด้วย มีหมอหลวงอยู่ข้างๆ ด

    Last Updated : 2024-09-02

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1390

    จีซูเซิ่นสอบถามอย่างละเอียดว่านางพบเขาได้อย่างไร ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพไหน และเขาพาเด็กมาด้วยหรือไม่ หวังชิงหรูกล่าวว่า “เมื่อวานข้าออกไปซื้อหม้อตุ๋น ตั้งใจจะทำยาบำรุงให้ท่านแม่ พอซื้อเสร็จออกมา เขาก็เดินเข้ามา ตอนนั้นข้าตกใจมาก คิดว่าเป็นคนร้าย เขาเรียกข้าว่าน้องสาม พอได้ยินเสียงข้าก็จำได้ทันที ใบหน้าของเขาดำคล้ำ คิ้วก็ถูกโกนจนหมด ทั้งตัวผอมจนแทบจำไม่ได้ ถ้าไม่เพ่งดูดีๆ ข้าคงไม่เชื่อว่าเป็นพี่ใหญ่” หวังชิงหรูนึกย้อนถึงเมื่อวาน และคำพูดของพี่สะใภ้ใหญ่เมื่อครู่ ก็ยังรู้สึกใจสั่น “เขาไม่ได้พาเด็กมาด้วย มาเพียงลำพัง เขาบอกว่าตอนนั้นถูกบังคับให้หนี ตอนนี้ทุกที่มีหมายจับเขา ติดตัวไม่มีเงิน แถมยังมีลูกต้องเลี้ยง จึงลำบากมาก เขาให้ข้ากลับไปคุยกับท่านแม่เพื่อช่วยหาเงินสามพันตำลึงให้” “ถ้าหาเงินมาได้ จะส่งให้เขาอย่างไร?” จีซูเซิ่นรีบถาม “เขาไม่ได้บอก เพียงแต่ให้ข้าหาเงินมาให้ได้ก่อน แล้วเขาจะหาทางมาหาข้าเอง” หวังชิงหรูกล่าว จีซูเซิ่นด่าในใจว่า เขาไม่ได้ระวังตัวกับคนอื่น แต่กลับใช้ความระมัดระวังทั้งหมดกับคนในครอบครัวตัวเอง นางคิดครู่หนึ่งก่อนถามว่า “เขาไม่มีคิ้วแล้ว?” “ใช่ คงโก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1389

    จีซูเซิ่นกำลังเย็บเสื้อผ้าให้ลูกสาว เมื่อตัดเย็บเสร็จ นางก็ปักลวดลายตกแต่งลงไป ทุกวันนี้ลูกสาวของนางอาศัยอยู่ในจวนเป่ยหมิงอ๋อง จึงไม่สมควรให้ข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดมาจากจวนอ๋อง ความคิดของนางยุ่งเหยิง คำพูดของพระชายาอ๋องที่พูดกับนาง นางเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดขึ้น หากหวังเบียวจนตรอก เขาย่อมกลับมายังเมืองหลวง แต่หลังจากเขากลับมาแล้ว เขาจะมาหานางทันทีหรือไม่ ก็ยังไม่แน่นอน เขาน่าจะพยายามหาฮูหยินผู้เฒ่าก่อน และเมื่อรู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าไม่มีความสามารถช่วยเหลือเขาได้ จึงจะมาหานาง แต่ฮูหยินผู้เฒ่ารักลูกชายมาก นางย่อมพยายามทุกวิถีทาง วันนี้แม้จะเพียงติดตามพวกนางตลอดทางโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าวันพรุ่งนี้หรือวันถัดไปจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น การที่หวังเบียวกลับมายังเมืองหลวง ก็เพียงเพราะต้องการเงิน เขาไม่อาจอยู่ในเมืองหลวงได้เป็นเวลานาน ฮูหยินผู้เฒ่าไม่มีเงินติดตัว แต่การอยู่ในเมืองหลวงมาหลายปี ทำให้นางมีเครือข่ายอยู่บ้าง ยืมจากตรงนั้นเล็กน้อย ตรงนี้เล็กน้อย ก็เท่ากับลากคนอื่นให้ลำบากไปด้วย อย่างไรก็ตาม นางป่วยหนักออกไปไหนไม่ได้ และคงไม่กล้าหน้าห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1388

    นางไม่ได้ไปหา หวังเยว่จาง ในอดีตนางอาจหน้าหนาพอที่จะคิดว่า เขาอย่างไรก็เป็นสายเลือดของจวนป๋อผิงซี เมื่อครอบครัวหรือญาติเกิดปัญหา การช่วยเหลือย่อมเป็นหน้าที่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ตอนนี้นางจะไม่ทำเช่นนั้นอีก นางเข้าใจความจริงบางประการว่า ในวันที่จวนป๋อผิงซีรุ่งเรือง เขาไม่เคยได้สัมผัสแม้เศษเสี้ยวของเกียรติยศนั้น แต่พอถึงวันที่ล่มจม กลับต้องการให้เขายื่นมือช่วยเหลือ นางทำเช่นนั้นไม่ได้ ส่วนเรื่องว่าจะไปหาพี่สะใภ้ใหญ่เพื่อพูดเรื่องนี้หรือไม่ นางลังเลใจยิ่งนัก เพราะอย่างไรเสีย นางก็ไม่อยากให้พี่ใหญ่ตาย นางนั่งอยู่ใต้ต้นไหว มองเหม่อลอยอยู่นาน พอดีศิษย์พี่ซือโซยกตะกร้าไหมเดินผ่านมา เมื่อเห็นนางก็รีบเลี้ยวหลบไปทางอื่น ท่าทางเหมือนไม่อยากเผชิญหน้ากับนาง หวังชิงหรูนึกถึงเรื่องเข้าใจผิดก่อนหน้านี้ รีบเรียกนางไว้ “ศิษย์พี่ซือโซ ขอโทษเรื่องเมื่อครู่นี้ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น” ศิษย์พี่ซือโซเหลือบมองนางแวบหนึ่ง “อืม” พูดจบ นางก็เตรียมเดินจากไป หวังชิงหรูคิดถึงนิสัยของหญิงสาวในยุทธภพเหล่านี้ ที่มักซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา ไม่คิดอะไรซับซ้อน จึงถามว่า “ศิษย์พี่ซือโซ ข้าขอพูดคุย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1387

    หวังชิงหรูรู้ว่าศิษย์พี่ซือโซเข้าใจผิด แต่ก็ไม่ได้รีบอธิบาย เพราะในใจยังว้าวุ่น นางปิดประตู ยกยาเข้าไปแล้วกล่าวว่า “ท่านแม่ ดื่มยาก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อยคิดหาวิธีแก้ทีหลัง” ฮูหยินผู้เฒ่าส่ายหน้า มองหน้านางพลางกล่าวว่า “ชิงเอ๋อร์ เจ้าลองถามใจตัวเองดูว่าพี่ชายของเจ้าเคยปฏิบัติกับเจ้าอย่างไร?” หวังชิงหรูขมวดคิ้วเล็กน้อย “ท่านแม่ พวกเราไม่มีความสามารถจะช่วยเขาได้ พวกเรายังอาศัยอยู่ในโรงงาน เงินที่ใช้ซื้อยาของท่านยังเป็นของแม่นางเสิ่นเลย” ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวว่า “เจ้าคิดผิด เงินเหล่านี้ล้วนเป็นของเยว่จาง เขาแม้จะไม่ได้ยอมรับพวกเรา แต่ช่วงนี้เขาก็ไม่ได้หยุดช่วยเหลือเราเลย” หวังชิงหรูกล่าวว่า “แม้ว่าเงินจะเป็นของเขา พวกเราก็ไม่มีสิทธิ์จะขอให้เขาเอาเงินไปช่วยพี่ใหญ่ของเรา” “เงินเหล่านั้น” ฮูหยินผู้เฒ่ากัดฟัน กล่าวความจริงออกมาว่า “ไม่ใช่ของเขา ในตอนนั้นที่เขากลับมา พี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้าแนะนำให้ชดเชยเขา จึงโอนที่ดินและร้านค้าให้เขาบางส่วน” “ในเมื่อโอนให้เขาไปแล้ว และเขาก็ช่วยเหลือพวกเราอย่างลับๆ เสมอมา ยังจะให้เขาคืนกลับมาอีกหรือ? ท่านแม่ เรื่องนี้ไม่ยุติธรรมสำหรับเขาเลย” ฮู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1386

    จีซูเซิ่นไม่ได้บอกเรื่องนี้แก่ฮูหยินผู้เฒ่าและหวังชิงหรู ในวันรุ่งขึ้นขณะที่พวกนางออกไปตรวจที่ร้านขายยาเย่าหวัง นางแปลงตัวเป็นชาวนาและแอบตามไป เพียงแต่ตลอดทางจากไปจนกลับ ไม่มีใครเข้ามาใกล้รถลาของพวกนาง และระหว่างทางรถลานั้นก็ไม่ได้หยุดเลย หลังจากกลับมาถึงโรงงาน หวังชิงหรูก็เริ่มต้มยา ในโรงงานไม่มีใครคอยรับใช้ ทุกคนต้องผลัดกันทำอาหาร ตอนแรกหวังชิงหรูทำอะไรไม่เป็นเลย แม้แต่การก่อไฟยังต้องใช้เวลาฝึกถึงสามวัน อาหารมื้อแรกที่นางทำถึงกับกินไม่ได้เลย คนในโรงงานช่วยเหลือกัน แต่ก็ล้อกันด้วย พวกเขาหัวเราะเยาะว่านางมีร่างกายเหมือนฮูหยิน แต่โชคชะตาไม่ใช่ฮูหยินตอนแรกนางโกรธและรู้สึกน้อยใจ คิดว่าทำไมต้องมาเจอกับความลำบากเช่นนี้ นางถึงขั้นคิดว่าพวกเขาตั้งใจกลั่นแกล้ง จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อเจียอี้มาที่โรงงานเพื่อเยี่ยม นางลงมือทำอาหารเอง มันอาจจะไม่เลิศรส แต่ก็รสชาติกลมกล่อมพอดี นางนิ่งเงียบไป หวังชิงหรูรู้ดีว่าเจียอี้เคยเป็นคนอย่างไร อดีตท่านหญิงที่หยิ่งยโส แต่หลังจากถูกหย่าแล้วได้รับการพากลับมา นางยังสามารถลดตัวเองลงและลงมือทำอาหารให้กลุ่มสตรีที่ถูกทอดทิ้งเหล่านี้ได้ ที่สำค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1385

    สถานการณ์ของหวังเบียวทำให้ซ่งซีซีแปลกใจไม่น้อย นางคิดว่าเขาจะพาคนสนิทหนีไปซ่อนได้อย่างน้อยสองสามปี ใครจะคาดคิดว่า ระหว่างทางเขาจะถูกปล้นทรัพย์สิน แม้แต่อนุที่รักก็ยังทอดทิ้งเขา ไม่รู้ว่าในเวลานั้น เขาเคยเสียใจต่อความโง่เขลาของตัวเองบ้างหรือไม่ คนวัยกลางคน กลับยังหลงเชื่อในความรักแท้ คิดจะทิ้งภรรยาที่อยู่เคียงข้างและดูแลเขามากว่าสิบปี สุดท้ายกลับถูกคนอื่นทิ้งเสียเอง นับว่าเป็นกรรมที่ตามสนอง แต่กรรมที่เขาได้รับยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ด้วยนิสัยของกู้ชิงหวู่ ตอนที่จากไปนางต้องเคยดูถูกเหยียดหยามเขาอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับที่นางเคยดูถูกเหลียงเส้า กู้ชิงหวู่ใช้ความงามของตัวเองเป็นเครื่องมือ แต่ในขณะเดียวกันก็เกลียดชังชายที่หลงใหลในความงามของนางอย่างยุติธรรม ในความเป็นจริง ซ่งซีซีคิดว่าหวังเบียวอาจไม่ได้อยู่ที่อำเภอหยง เพราะด้วยสถานะของเขาในฐานะผู้หลบหนี เขาไม่สามารถปรากฏตัวด้วยหน้าตาที่แท้จริง และไม่กล้าพำนักในที่ใดที่หนึ่งนานเกินไป ได้แต่หนีซุกซ่อน เขายังพาลูกไปด้วยอีก ซ่งซีซีคิดว่า หากเขาจนตรอก เขาอาจจะแอบกลับเมืองหลวงหรือไม่?แม้เขาจะโง่ แต่ก็ไม่ถึงกับโง่สิ้นดี เขารู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1384

    กู้ชิงหวู่กำหมัดแน่น ดวงตาเปล่งประกายแห่งความโกรธ "ดังนั้นข้าถึงบอกว่า สวรรค์ไม่ยุติธรรม ไยต้องเป็นเช่นนี้?" "เจ้าพูดเอง ด้วยชาติกำเนิดที่ดีของข้า รวมถึงสตรีหน้าเหลืองที่เจ้ากล่าวถึง นางก็เป็นสตรีผู้สูงศักดิ์" ซ่งซีซีตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่เต็มไปด้วยท่าทีเหนือกว่า กู้ชิงหวู่เกลียดชังท่าทางเช่นนี้ที่สุด มันเหมือนกับอดีตองค์หญิงใหญ่ที่อยู่บนหอคอยสูง ในขณะที่ตนต้องก้มต่ำอยู่ในโคลนตม นางโกรธจัด หน้าอกสะท้อนขึ้นลง "ถึงจะเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์แล้วอย่างไร? ก็ยังถูกสามีรังเกียจอยู่ดีมิใช่หรือ?" "หวังเบียวหรือ? นางไม่เคยใส่ใจเขาเลย มีแต่เจ้าที่มองเขาเหมือนสมบัติ" ซ่งซีซีตอบอย่างไม่ใส่ใจ "สำหรับข้า เขาก็ไม่ใช่สมบัติอะไร แค่ขยะชิ้นหนึ่ง" กู้ชิงหวู่ตอบด้วยแววตาดุดัน ซ่งซีซีหัวเราะเยาะ "ข้ารู้ว่าไม่ใช่เช่นนั้น เจ้าถึงกับให้กำเนิดบุตรให้เขา ทั้งที่รู้ว่าการหนีจากสนามรบเป็นความผิดร้ายแรง เจ้ากลับไม่สนใจและหนีตามเขาไป ข้าเคยเจอคนปากไม่ตรงกับใจเช่นเจ้ามานักต่อนัก" "ไร้สาระ!" กู้ชิงหวู่ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว ใบหน้าแดงก่ำ แต่ไม่นานก็หัวเราะเยาะ "ฮะ คิดจะหลอกข้าหรือ? ใช่ ข้ารักเขาจนถ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1383

    สถานที่อันเป็นมงคลนี้ถูกเลือกโดยสำนักโหรหลวง เป็นสถานที่ที่งดงามด้วยภูเขาและสายน้ำ มีหมู่บ้านอยู่ใกล้ๆ สองแห่ง แม้จะเรียกว่าด้านข้างพระราชสุสาน แต่ความจริงแล้วห่างจากพระราชสุสานถึงสามสิบลี้ หลังจากงานศพ กู้ชิงหยิงมาพบซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือเพื่อกล่าวลา บอกว่าจะไปสร้างกระท่อมเล็กๆ อยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียงเพื่อเฝ้าสุสานของบิดาบุญธรรม เสิ่นว่านจือถามว่านางต้องการความช่วยเหลือเรื่องเงินหรือไม่ นางตอบว่าไม่จำเป็น เพราะนางจะขายเครื่องประดับที่เคยซื้อไว้ ก็เพียงพอจะกลายเป็นคนมีฐานะเล็กๆ ได้ วันที่นางจากไปพอดีกับวันที่เจ้าสิบเอ็ดฝางคุมตัวอ๋องเยี่ยนและคนอื่นๆ กลับเมืองหลวง นางยืนอยู่ที่ประตูเมือง มองเข้าไปในรถนักโทษที่มีอ๋องเยี่ยนและอ๋องฮวย ความเกลียดชังพลันผุดขึ้นในใจ แต่เมื่อเห็นชาวบ้านต่างด่าทอและโยนใบไม้เน่าใส่พวกเขา นางก็รู้สึกคลายความโกรธ เพราะคิดว่าคนชั่วได้กรรมของตนเองแล้ว สำหรับนาง นับจากนี้ก็เป็นอิสระแล้ว ไม่มีใครหรือสิ่งใดมาผูกมัดนางได้อีก ในการคุมตัวครั้งนี้ ยังมีข้าราชการของหนิงโจวและชิวเหมิงถูกนำตัวกลับมาด้วย สิ่งที่ทำให้ซ่งซีซีประหลาดใจคือ นางยังเห็นกู้ชิงหวู่ด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1382

    ใช้เวลาห้าวันกว่าจะกวาดล้างเศษซากกบฏได้หมดสิ้น เจ้าสิบเอ็ดฝางและมู่ฉงกุยส่งข่าวชัยชนะมาว่าได้จับชิวเหมิงกบฏตัวสำคัญเป็นเชลย พร้อมนำตัวอ๋องเยี่ยน อ๋องหวย และอู๋เซียงผู้ทรยศกลับมายังเมืองหลวง ซึ่งอีกไม่นานจะมาถึง ยกเว้นเพียงหวังเบียวที่ยังคงหลบหนี นอกนั้นกบฏส่วนใหญ่ล้วนถูกจับกุมได้หมดแล้ว วันที่ 25 เดือนเจ็ด สำนักราชวังจัดพิธีศพให้ท่านอ๋องฮุย เพราะเหตุการณ์กบฏของเซี่ยทิงเหยียน พิธีศพจึงจัดอย่างเรียบง่าย และจักรพรรดิ์ซูชิงทรงเรียกขุนนางมาหารือว่าท่านอ๋องฮุยควรได้ฝังในสุสานอ๋องหรือไม่ แม้ว่าท่านอ๋องฮุยจะบริสุทธิ์ แต่ความผิดของเซี่ยทิงเหยียนเป็นโทษที่เกี่ยวพันถึงทั้งตระกูล ซ่งซีซีไม่ได้รับการเรียกตัวให้เข้าร่วมพิธี นางจึงพาผู้คนจากจวนเป่ยหมิงอ๋องมาร่วมงานศพของอ๋องฮุย พิธีศพจัดอย่างเรียบง่าย ไม่มีขุนนางมาร่วมงาน นอกจากจักรพรรดิ์จะทรงอนุญาตให้อ๋องฮุยฝังในสุสานอ๋อง มิฉะนั้นจะไม่มีใครกล้าเข้าร่วม กู้ชิงหยิงสวมชุดไว้ทุกข์คุกเข่าเผากระดาษหน้าโลงศพ ศพของอ๋องฮุยถูกบรรจุในโลงแล้วแต่ยังไม่ได้ปิดฝา เมื่อซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือมาถึง ยังสามารถไปดูหน้าศพครั้งสุดท้ายได้ มีโลงศพสา

DMCA.com Protection Status