ก่อนหน้านี้ เนื่องจากฝ่าบาทให้ความสำคัญกับคดีดบฏของเซี่ยอวี้นเป็นอย่างมาก ซ่งซีซีจึงไม่ได้เข้าการประชุมที่ราชสำนักวันนี้เป็นครั้งแรกที่ซ่งซีซีเข้าร่มการประชุมที่ราชสำนักหลังจากเสร็จสิ้นคดี ดังนั้นเมื่อเฉินฟูมาถึงจวนอ๋อง ซ่งซีซีและเซี่ยหลูโม่ก็เข้าวังแล้วเฉินฟูไม่เจอคุณหนู เขาจึงเล่าให้เรื่องให้อาจารย์หยูฟังอาจารย์หยูไม่ได้เพิกเฉยเพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับจวนแม่ทัพ เขาเชิญเฉินฟูเข้าไปดื่มชาและคุยเล่นกับแม่นมเหลียงไปก่อน จากนั้นให้ใคนไปตามหาเสิ่นว่านจือมาถามเขารู้ว่าพระชายาให้คนของคุณหนูเสิ่นช่วยจับตาดูว่าจ้านเป่ยว่างได้ไปมาหาสู่กับอ๋องเยี่ยนต่อหรือไม่ ดังนั้นเรื่องของจวนแม่ทัพ นางอาจจะรู้บ้างแต่หลังจากที่เสิ่นว่านจือมาถึง นางหาวพลางพูดว่า "ไม่รู้สิ ไม่ได้จับตาดูจวนแม่ทัพ แค่แอบส่งคนจับตาดูการเคลื่อนไหวของอ๋องเยี่ยนเท่านั้น เขาติดต่อกับใครบ้างข้ารู้ แต่เกิดอะไรขึ้นในจวนแม่ทัพ ข้าไม่รู้เรื่องจริงๆ""นี่มันแปลกจริงๆ" อาจารย์หยูกล่าว"เจ้าไปสนใจเรื่องของจวนแม่ทัพทำไม" เสิ่นว่านจือไม่สนใจ แม้ว่านางจะไม่มีความเกลียดชังต่อนางหมิน แต่ก็ไม่มีความประทับใจที่ดีเช่นกัน"เราไม่สนใจเรื่
หงเชวี่ยกล่าวว่า "แม้ว่าท่านอาจารย์จะไม่ยอมไปรักษาให้ยายแก่ตระกูลจ้าน แต่ก็กินยาดันเสวี่ยอยู่ ดังนั้นทุกครั้งที่นางหมินมาซื้อยา เขาจะสั่งให้เด็กใช้ถามเกี่ยวกับสถานการณ์บ้าง นางหมินรู้จักกับเด็กใช้แล้ว ก็จะบ่นเรื่องไม่สบอารมณ์ด้วย เมื่อวานไม่ได้พูดอะไร แค่เห็นนางเคยร้องไห้ ก่อนหน้านี้นางได้บอกว่าทุกอย่างที่บ้านล้วนต้องให้นางมารับผิดชอบ ยังต้องดูแลแม่สามีด้วย หวังชิงหลูรับผิดชอบทางบัญชี แค่ให้เงินนางเล็กๆ น้อยๆ เอง นางไม่มีเงินใช้ก็ต้องขายของมี่ค่าหรือเอาของของตนเองไปจำนำ ดูเหมือนใช้ชีวิตค่อนข้างหดหู่ใจ"เมื่อมาถึงห้องแม่นมเหลียง เฉินฟูก็อยู่ที่นั่นด้วย ทั้งสองคนกำลังคุยเล่นกัน ส่วนเป่าจูอยู่เคียงข้างแม่นมเหลียงมีสีหน้าไม่ดี เมื่อได้ยินพวกนางพูดถึงนางหมิน แม่นมเหลียงถอนหายใจ "นางอ่อนแอเกินไป ไม่มีความคิดเห็นของตนเองและพึ่งพาตนเองไม่ได้ ครอบครัวพ่อแม่ของนางก็ยิ่งไม่ต้แงพูดถึงเลย พ่อเป็นขุนนางเล็กๆ อยู่ต่างเมือง บอกว่าอยู่ต่างเมืองจริงๆ แล้วถูกไล่ออกไป จวนแม่ทัพจะอยู่ยาก แต่นางก็ไม่มีที่พึ่งพาในครอบครัวพ่อแม่ พ่อเป็นพ่อแท้ๆ แต่แม่เป็นแม่เลี้ยง งั้นพ่อแท้ก็จะกลายเป็นพ่อเลี้ยง ดังนั้นไม่ว
ซ่งซีซีนึกถึงนางหมินเคยเป็นพี่สะใภ้ของตนเอง ค่อนข้างรู้จักนิสัยใจคอของนางนางขี้ขลาดและอ่อนแอ ถือเป็นคนที่ถูกรังแกได้ง่ายที่สุดในจวนแม่ทัพตอนนี้จวนแม่ทัพอยู่ในสถานการณ์เช่นไร นางพอจะรู้บ้าง ฮูหยินผู้เฒ่าแห่งตระกูลจ้านคนนั้นยังไม่หายจากอาการป่วย หวังชิงหลูตั้งครรภ์จะไม่ไปดูแลผู้ป่วย ยี่ฝางยิ่งเป็นไปไม่ได้ นางเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ในเรืองมงคลไม่ออกไปไหน ดังนั้นคนที่ดูแลผู้ป่วยก็มีแต่นางหมินเท่านั้นตอนที่นางอยู่ในจวนแม่ทัพ นางเป็นคนที่คอยดูแลคนไข้ แม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะเรื่องมากแต่ก็ไม่หาเรื่องนางอย่างตามอำเภอใจ เพราะนางมีสินเดิมเป็นจำนวนมากมายและนี่ก็คือสิ่งที่ทำให้นางมีความมั่นใจแต่นางหมินแตกต่างออกไป"น่าจะถูกรังแกแล้วแหละ?" ซ่งซีซีกล่าวเสิ่นว่านจือกล่าวว่า "ได้ถูกรังแกอย่างแน่นอน แค่ดูว่าถูกรังแกมากแค่ไหนที่ทำให้นางออกไปกลางดึก ได้ยินแม่นมเหลียงพูดว่าถ้านางอยู่ในจวนแม่ทัพไปต่อไม่ได้ งั้นนางก็ไม่มีทางอื่นแล้ว อาจารย์หยูได้ส่งคนออกไปค้นหาแล้ว และข้าก็ให้หงเซียวไปสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ตระกูลจ้าน และดูว่ามีได้ส่งคนไปตามหาหรือไม่ คิดว่าฮูหยินใหญ่หายตัวไป พวกเขาก็คงร้อนใจมาก"ซ่งซ
ฮูหยินผู้เฒ่ารองถอนหายใจ "ตอนแรกข้าก็ไม่รู้เรื่องนี้ ตอนนี้ข้าจะไม่ยุ่งกับเรื่องบ้านใหญ่เท่าที่จะทำได้ ข้าอยากจะแยกครอบครัวออกจาพวกเขามานานแล้ว แต่กลัวอยู่เสมอว่าทำให้คนนอกคิดว่าตระกูลจ้านของเราไม่สามัคคีกัน ก็เลยไม่ได้ทำ ช่วงนี้ที่จวนแม่ทัพก็เกิดเรื่องวุ่นวายมากมาย หลังจากที่หวังชิงหลูตั้งครรภ์ จะดูเหมือนว่านางเป็นผู้ดูแลบ้าน แต่จริงๆ แล้วยังคงเป็นฮูหยินใหญ่ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ เพียงแต่เมื่อเบิกเงินต้องถามหวังชิงหลูก่อน ในช่วงนี้ อาการของฮูหยินผู้เฒ่ายังคงกำเริบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฮูหยินใหญ่ยังคอยดูแลอยู่ข้างกาย เจ้าก็รู้นิสัยของคนนั้นด้วย นางดูถูกฮูหยินใหญ่ในทุกๆ ด้าน นางก็ไม่พอใจกับทุกสิ่งที่นางทำ"ซ่งซีซีพยักหน้า "ข้าพอจะเดาสถานการณ์ของฮูหยินใหญ่ได้""เช้าตรู่วันนี้ ฮูหยินใหญ่หายตัวไป พวกเขาค้นหาจวนแม่ทัพไปทั่ว มาหาข้าด้วย ยังบอกว่าข้าซ่อนนางไว้ ข้าบอกว่าไม่มี พวกเขาไม่เชื่อ จนกระทั่งข้าต้องขึ้นอารมณ์ใส่พวกเขาถึงยอมเชื่อ ต่อมาข้าสอบถามกับเรื่องนี้ถึงรู้ว่าฮูหยินใหญ่ทะเลาะกับหวังชิงหลู โดยบอกว่าเพราะเรื่องดูแลบ้าน หวังชิงหลูให้ฮูหยินใหญ่ดูแลบ้านแต่เงินเดือนของจ้านเป่ยว่างแค่ยอมให้สามส
เด็กใช้จากร้านขายยาเย่าหวังรู้สึกกับนางหมินเป็นอย่างดี จึงเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ตามที่เขาคาดการณ์ว่า "นางน่าจะมาที่นี่หลังจากจำนำเครื่องประดับของนางเสร็จ เพราะตอนที่นางมา นางยังอยู่ในสภาพมึนงงและมีตั๋วจำนำในมือด้วย ข้าน้อยได้เหลือบมองแวบหนึ่ง และเห็นว่ามันเป็นตั๋วจำนำจากร้านว่านเป่า เมื่อนางมาบอกว่าต้องการซื้อเม็ดซืนเจียวเจ็ดแปดเม็ด ข้าน้อยได้แนะนำให้ซื้อสองเม็ดก็พอ เม็ดหนึ่งกินตอนคลอดบุตร อีกเม็ดหนึ่งกินตอนการอยู่ไฟ ในเวลาอื่นไม่จำเป็นกิน""เห็นออกว่านางเคยร้องไห้มาใช่ไหม""ร้องไห้มาก่อน ได้ร้องไห้แน่ๆ เมื่อเข้ามาน้ำตาฉันไม่แห้งเลย""เอาล่ะ ขอบคุณมาก" ซ่งซีซีไม่ได้ถามมากความ จากนั้นนำซ่งซีซีไปที่ร้านว่านเป่าเนื่องจากนางสวมเครื่องแบบข้าราชการ ตอนถามถึงการจำนำของเมื่อวานโดยฮูหยินใหญ่ของจวนแม่ทัพ พนักงานในร้านจึงหยิบของที่นางจำนำออกมา ซ่งซีซีมองดูและเห็นว่าเป็นของที่นางให้นางหมินในก่อนหน้านี้"นางบอกว่าจะมาไถ่ถอน ไม่ใช่ขายเลย" พนักงานในร้านบอกกับซ่งซีซีกล่าวอีกนัยหนึ่งเมื่อนางจำนำมัน นางยังคงมีความหวังอยู่ในใจโดยคิดว่านางจะไถ่ถอนเครื่องประดับเหล่านี้กลับมา หมายความว่าหลั
ซ่งซีซีมีสีหน้าดีใจ "เจอแล้วเหรอ อยู่ไหน?"ปี้หมิงก้มตัวลงและเอามือค้ำหัวเข่า หายใจเฮือกใหญ่ "อยู่... อยู่ที่สะพานวิญญาณ ท่านรีบไปเถอะ นางกำลังจะกระโดดลงจากสะพาน เราพูดโน้มน้าวแล้วแต่ไม่ได้ผล และไม่กล้าไปช่วยนางอย่างไม่วางแผนก่อน นางร้องขอว่าต้องการพบท่าน แต่ต้องไปเร็วหน่อย ลมมันแรงมาก นางยืนไม่มั่นคง""อ๊า?" จ้านเป่ยว่างผงะและถามด้วยความสับสน "ทำไมต้องกระโดดลงจากสะพานเล่า?"ซ่งซีซีวิ่งออกไปทันทีและตะโกนว่า "เตรียมม้า!"สะพานวิญญาณตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวง ใต้สะพานวิญญาณมีแม่น้ำไหลเชี่ยวที่เรียกว่าแม่น้ำถงหลินการไหลของแม่น้ำถงหลินในบริเวณสะพานวิญญาณจะเชี่ยวกรากมากเพราะด้านบนกว้างและด้านล่างแคบ มีทางลาดชันอีกด้วย น้ำที่ไหลผ่านบริเวณนี้จะเชี่ยวกรากมาก หากตกลงจากสะพานนี้ก็สามารถบอกได้ว่าไม่รอดเลยสะพานนี้เดิมที่ถูกตั้งชื่อว่าสะพานตงหลินที่สอง แต่ด้วยเหตุนี้ ชาวบ้านจึงนิยมเรียกว่าสะพานวิญญาณหลังจากที่จ้านเป่ยว่างตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ฝากให้ปี้หมิงส่งคนไปที่จวนแม่ทัพเพื่อแจ้งให้พี่ชายของเขาทราบ จากนั้นเขาก็ขี่ม้าติดตามตรงไปที่สะพานวิญญาณเสิ่นว่านจือถึงที่นั่นแล
หนึ่งในกองกำลังเมืองหลวงรีบไปหาคบเพลิง เสิ่นว่านจือเห็นนางหลับตาราวกับว่าง่วงนอนและหนาวมาก ตัวสั่นเทาไปหมด "นางหมิน เจ้าอย่าเพิ่งหลับตา ไม่ใช่อยากเจอซีซีหรือ นางจะมาแล้ว อย่าเพิ่งหลับตานะ"นางหมินลืมตาขึ้นและมองไปที่แม่น้ำที่ไหลเชี่ยวเบื้องล่าง นางขี้ขลาดมาตลอดชีวิต และเวลานี้นางก็กลัวเช่นกัน แต่การยืนอยู่ที่นี่ นางรู้สึกมันดีกว่าการยืนอยู่จวนแม่ทัพเสียอีกนางแค่กระโดดลงและทุกอย่างก็จะจบลงนางจำไม่ได้ว่าทำไมมาที่นี่ สมองของนางไม่ทำงานแล้ว นอกจากรู้สึกหนาว นางไม่มีความรู้สึกอะไรอีกนางยังมีตั๋วจำนำอยู่กับตัว นางต้องการคืนตั๋วจำนำให้กับซ่งซีซี โดยกล่าวขอโทษกับนาง และกล่าวขอบคุณอีกทีขอโทษเพราะตอนที่จ้านเป่ยว่างบอกว่าจะไล่ภรรยาออกไปนั้น นางอยู่ห่างๆ โดยไม่กล้าพูดอะไรสักคำกล่าวขอบคุณเพราะตอนที่ซ่งซีซีอยู่ในจวนแม่ทัพ ปฏิบัติต่อนางอย่างจริงใจเครื่องประดับที่นางเอาไปจำนำนั้น นางไม่มีโอกาสไปไถ่ถอนกลับมาแล้ว งั้นให้ซ่งซีซีไปไถ่ถอนแล้วกัน มันเป็นของของนาง แต่น่าเสียดายที่นางใช้เงินไปจนหมดแล้ว หวังว่านางจะไม่โกรธตนเองเสียงกีบม้าทะลุเสียงลมมุ่งตรงไปที่สะพานซ่งซีซีมาถึงก่อน และเสิ่นว่า
จู่ๆ หัวใจของซ่งซีซีก็เต้นไม่เป็นจังหวะ จ้านเป่ยว่างกำลังจะรีบพุ่งเข้าไปแต่ถูกเสิ่นว่านจือเตะไปที่เข่า "เจ้าอย่าไปกระตุ้นอารมณ์ของนางอีกเลย"จ้านเป่ยว่างคุกเข่าลงข้างหนึ่ง เสิ่นว่านจือกดหัวของเขาแล้วตะโกนกับนางหมินว่า "เขาคุกเข่าลงแล้ว เขามาขอโทษเจ้า หากเจ้าไม่พอใจอะไรก็พูดมาได้เลย จะว่าจะด่าก็ได้หมด""ไร้ประโยชน์!" นางหมินคร่ำครวญและบ่นไปพร้อมๆ กัน "ไร้ประโยชน์หรอก เหมือนกันแหละ พวกเขาจะไล่ข้าออกไป ข้าไม่มีบ้านพ่อแม่ให้กลับ ข้าไม่มีเงินแล้ว สินเดิมของข้าล้วนขายหมดแล้ว หลังจากหย่าแล้ว ข้าจะอดอาหารตาย งั้นก็สู้ให้ตายตอนนี้จะดีซะกว่า""อย่าโง่นัก ลองคิดถึงเด็กของเจ้าสิ" ซ่งซีซีขยิบตาให้เสิ่นว่านจือ และให้เสิ่นว่านจือจับจ้านเป่ยว่างไว้ไม่ให้เขาพูดต่อ "เจ้าบอกว่าพวกเขาตบเจ้า ทำไมถึงตบเจ้า เจ้าบอกข้าเลย ข้าแก้แค้นให้เจ้า"ขณะที่นางพูดก็ก้าวไปข้างหน้าโดยเงียบๆตามความเร็วปัจจุบัน ถ้านางบินไปมันเทียบความเร็วที่นางหมินกระโดดลงไปไม่ได้ หากนางกระโดดลงไป งั้นนางก็ไม่แน่ใจจะช่วยนางในแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวได้"ไม่มีเงิน" นางหมินร้องไห้ น้ำเสียงมีแต่ความสิ้นหวัง "ข้าทำอะไรก็ผิดหมด ซื้อยาดันเสวี่ยไ