Share

บทที่ 740

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
เซี่ยหลูโม่ดึงนางเข้าตัวใกล้ แล้วลูบตาที่ช้ำของนางเบาๆ "เจ็บไหม?"

"นิดหน่อย" ซ่งซีซีกลักมือของเขาออกแล้วมองย้อนกลับไป โดยกลัวว่าจะมีใครอยู่ที่นั่น

"ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครเข้ามาหรอก มันเพราะอะไร" เขาถามอย่างเป็นเจ็บใจ

ซ่งซีซีว่านอำนาจมานอน ในที่สุดก็ได้ผ่อนคลายลง นั่งบนเก้าอี้แล้วนวดขอบตา ดูเหมือนบวมกว่ายามเช้านี้เลย ไอ้กุ้นเอ๋อร์ "ก็เช้านี้ฝึกซ้อมทักษะการต่อสู้กับว่านจือ ต่อมากุ้นเอ๋อร์ก็เข้ามา แล้วข้ากับว่านจือโดนเขาทำให้บาดเจ็บโดยไม่ได้ตั้งใจ"

"เดี๋ยวจะหักเงินเขา" เซี่ยหลูโม่รู้สึกทั้งปวดใจและตลก ที่จริงแล้ว กุ้นเอ๋อร์มักจะเป็นคนจริงจัง แต่เมื่อเขาเล่นกับว่านจือและซีซี ท่าทางของเด็กชายที่ภูเขาเหม่ยชานก็กลับมาอีกครั้ง

ซ่งซีซียิ้มและพูดว่า "หักเงินเขาก็เท่ากับเอาชีวิตเขานะ เรื่องเงินไม่เท่าไร แต่โดนศิษย์พี่ซือโซรู้เข้าแล้วไปรายงานอาจารย์ของเขา หากอาจารย์ของเขารู้ว่าโดนปรับเงิน ต้องออกคำสั่งมาสั่งสอนเขาแน่ๆ เลย"

"แค่ขู่เขาน่ะ ไม่ได้จะลงโทษจริงๆ" เซี่ยหลูโม่รู้ว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดี และความสัมพันธ์ตั้งแต่วัยเด็กนี้ก็หายาก ดังนั้นเขาจะไม่ทำลายมันจริงๆ

"เอาล่ะ มาเข้าประเด็นเลย"
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Pim Pim
ฮ่องเต้เจ้าเล่ห์ น่าปล่อยให้โดนยึดบัลลังก์
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 741

    แม่นมฝางอายุมากแล้ว ถูกแยกจากหัวหน้าคนอื่นๆ และถูกขังอยู่ในห้องขังเล็กๆ ตามลำพัง ซึ่งค่อนข้างสะอาดเมื่อเทียบกับห้องขังอื่นๆตั้งแต่นางเข้ามาหอต้าหลี่ ก็ไม่กินอะไรทั้งนั้นและไม่พูดด้วยเฉินยีได้ไปถามนางด้วยตนเอง ชักชวนให้นางกินอะไรสักหน่อย แต่นางกลับนอนอยู่ในห้องขัง ดูเหมือนกำลังรอความตายอยู่ในความเป็นจริง เซี่ยหลูโม่ก็รู้ด้วยว่านางจะไม่พูดอะไรที่ไม่ดีต่อองค์หญิงใหญ่ นางเลี้ยงดูองค์หญิงใหญ่มาตั้งแต่เด็ก ความสัมพันธ์นี้นี้มันไม่ใช่อค่เจ้านายกับคนใช้แล้ว ที่ผ่านมาคนข้างกายขององค์หญิงใหญ่เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก มีเพียงนางคนเดียวเท่านั้นที่ยังเฝ้าอยู่เคียงข้างองค์หญิงใหญ่ด้วยเหตุนี้ นางจึงรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับองค์หญิงใหญ่แม้กระทั่งมีสิ่งเลวร้ายมากมายก็ได้ผ่านมือของนางด้วยซ้ำเซี่ยหลูโม่บอกกับซ่งซีซีว่า "วันนี้เฉินยีสอบปากคำตู้ฉินแล้ว โดยบอกว่าเดิมทีองค์หญิงใหญ่ ได้ออกคำสั่งให้ใบหน้าของท่านอาเจ้าเสียโฉมแล้วค่อยสังหารครอบครัวของพวกเขา แต่เป็นเพราะแม่นมฝางรั้งเรื่องนี้ไว้ ไม่ให้ตู้ฉินไปปฏิบัติตามคำสั่งนี้ มิฉะนั้นครอบครัวพวกเขาคงไปกันหมดแล้ว"ซ่งซีซีพูดด้วยความโกรธ "นางมันบ้าจริงๆ ใช้ทุ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 742

    ดวงตาของนางเย็นชา ราวกับบ่อน้ำแห้งสองแห่ง ไม่มีแสงประกายแต่งอย่างใด แล้วจ้องมองที่ซ่งซีซีทั้งอย่างนั้นซ่งซีซีก็มองดูนางเช่นกัน นางเคยเห็นแม่นมฝางมาก่อนตอนที่ไปจวนองค์หญิงใหญ่ ในเวลานั้น นางสวมชุดผ้าแพรสีฟ้า และความแข็งแกร่งซ่อนอยู่ในทุกริ้วรอยบนใบหน้าของนาง ทำให้คนอื่นมากมายหวาดกลัวแต่ตอนนี้ เสื้อผ้าสีครามของนางมีรอยย่น ผมยุ่งเหยิง ปิ่นปักผมเอียงไม่เป็นท่า ถุงใต้ตาบวมหนักมาก จุดด่างดำบนใบหน้าก็ชัดเจนขึ้นมาก และนางผอมมากความกังวลบวกกับอดอาหารทำให้นางซูบผอม และผอมจนแทบจะมีรูปร่างไม่น่ามองเลยดูเหมือนว่านางจะไม่สนใจสิ่งใดอื่นเลย และกำลังรอความตาย แต่จริงๆ แล้วนางกระวนกระวายใจมาก ไม่เช่นนั้นคงไม่ตกอยู่สภาพแก่เฒ่าจนไร้ชีวิตชีวาเช่นนี้อย่างกะทันหันเฉินยีไปคุยกับนาง แต่นางไม่พูดอะไรสักคำหรือไม่แม้แต่มองเฉินยีด้วยซ้ำตอนนี้เมื่อเผชิญหน้ากับซ่งซีซี นางกลับพูดก่อนว่า "อย่าหวังว่าจะได้ยินคำพูดที่ไม่ดีต่อองค์หญิงจากปากของข้าแม้แต่คำเดียว แนะนำเจ้าอย่าเสียเวลาเลย"ซ่งซีซีกล่าวว่า "ตู้ฉินบอกว่าเจ้าเป็นคนช่วยชีวิตครอบครัวของท่านอาข้า หากไม่ได้เจ้า ครอบครัวของท่านอาข้าก็ไม่อยู่แล้ว สำหรับเร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 743

    ซ่งซีซีไม่คิดว่าคำพูดเหล่านี้ไร้สาระน่าขำ แต่กลับรู้สึกน่าเศร้า ไม่ว่าตอนนี้แม่นมฝางจะคิดอย่างไร สามารถยืยยันได้ว่าก่อนหน้านี้นางก็เคยคิดเช่นนั้นจริงๆซ่งซีซีไม่ได้ไปโต้แย้งกับคำพูดของแม่นมฝาง เพราะจากการที่นางแอบปล่อยให้ครอบครัวของท่านอาโดยไม่ให้องค์หญิงใหญ่รู้ ก็รู้ว่าความคิดของนางแตกต่างออกไปจากเมื่อก่อนแล้ว ที่นางพูดเช่นนี้ในตอนนี้ไม่ได้คิดจะโน้มน้าวใคร แต่เพื่อโน้มน้าวตัวเธอก็เท่านั้น"ได้ ในเมื่อทั้งหมดเป็นฝีมือของแม่นมและตู้ฉิน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์หญิงใหญ่ งั้นแม่นมช่วยบอกทีว่ามีผู้หญิที่ถูกลักพาตัวไปที่จวนองค์หญิงใหญ่ด้วยมือของเจ้ามีกี่คนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีกี่คนที่เสียชีวิต และจำนวนเด็กผู้ชายที่เสียชีวิตมีกี่คน"แม่นมฝางเงียบ แต่สีหน้ากลับดูหม่นหมองเล็กน้อยซ่งซีซีกล่าวต่อว่า "พวกเขาตายแล้ว แม่นมก็ต้องคืนความยุติธรรมให้พวกเขาสิ และให้พ่อแม่และญาติของผู้หญิงที่ถูกลักพาตัวเหล่านั้นรู้ว่าพวกเขาไม่ต้องพยายามค้นหาอีกต่อไป นอกจากนี้ องค์หญิงใหญ่ก่ออาชญากรรมร้ายแรงในข้อหากบฏ ไม่สามารถรอดชีวิตได้หรอก หากเจ้ายอมบอกตัวตนของสตรีเหล่านั้นออกมาให้ก็ถือว่าช่วยทำบุญให้นางแล้ว"

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 744

    หลังจากที่ซ่งซีซีได้ยินคำพูดเหล่านี้ เปลวไฟแห่งความโกรธเกรี้ยวก็แทบจะกลืนนางลงไป รายละเอียดนั้นน่าสะเทือนใจที่สุดแต่นางพยายามระงับความโกรธอย่างเต็มที่และไม่แสงดออก นางแสร้งทำเป็นไม่สะทกสะท้าน ตั้งสติฟังนางพูดอย่างใจเย็น ยิ่งนางพูดมากเท่าไร ก็สามรถพบหลักฐานจากคำสารภาพของนางมากยิ่งขึ้นเท่านั้น จะสามารถใช้ประโยคตอนที่สอบปากคำองค์หญิงใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นความผิดฐานกบฏหรือความผิดฐานทำร้ายสตรี นางก็หนีไม่พ้นหรอก"ข้ารู้ว่าคราวนี้องค์หญิงจะไม่มีทางรอด แต่นางเคยเป็นเด็กสาวที่ร่าเริงและมีชีวิตชีวาเช่นนั้น ได้สูงศักดิ์อย่างยิ่ง ผู้ชายทุกคนในโลกนี้ก็ต่อแถวให้นางเลือกตามอำเภอใจ ทว่านางกลับตกหลุมรักกับซ่งฮวยอันผู้เป็นนักรบตั้งแต่แรกพบ และซ่งฮวยอันกลับไม่ได้ชอบนางอีก ...ในตอนแรก ข้าแค่อยากทำให้องค์หญิงมีความสุข"แม่นมฝางที่จมอยู่กับความทรงจำของนาง โดยไม่สนใจอีกต่อไปว่าคนตรงหน้าคือใคร นางเก็บงำคำพูดเหล่านี้ไว้นานเกินไป นางก็อยยากจะระบายสักหน่อย อายุเยอะแล้วใจมันก็อ่อนลง เรื่องที่ก่อนหน้านี้ทำจนชินนั้นพอหวนคิดดูในตอนนี้กลับรู้สึกหวาดกลัวจนตัวสั่นด้วยคำพูดของนางไม่ได้เรียงตามลำดับ แค่นึกถึงอะไรก็พูดไ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 745

    เซี่ยหลูโม่และเจ้าหน้าที่บันทึกข้อความออกมาจากด้านหลัง เขาไปกอดซ่งซีซีไว้ในอ้อมแขนก่อนแล้วจึงสั่งคนพาแม่นมฝางออกไปซ่งซีซีกล่าวอย่างใจเย็นว่า "ไปตามหากล่องใต้ต้นพุทรา นางได้จดที่ไปที่มาของผู้หญิงเหล่านั้นไว้""ขอรับ!" เจ้าหน้าที่บันทึกข้อความรับคำสั่งแล้วออกไปซ่งซีซีโน้มตัวไปในอ้อมแขนของเซี่ยหลูโม่ หัวใจและลำคอของนางดูเหมือนจะเต็มไปด้วยสำลีเหม็น เกิดความรู้สึกอึดอัดอย่างอธิบายไม่ได้"ซีซี ไม่ถามแล้ว" เซี่ยหลูโม่พูดอย่างกังวล "สิ่งที่นางพูดนั้นอย่าเก็บไว้ใส่ใจ ท่านพ่อตาไม่ได้ทำผิด แค่นางรักฝ่ายเดียวอย่างหัวปักหัวปำ คิดจะทำร้ายผู้อื่นสุดท้ายก็ต้องเจอกับผลที่ตามมาด้วย"ซ่งซีซีดึงสติกลับมา ใบหน้ายังซีดเล็กน้อย "ข้าไม่เป็นไร ข้าสามารถสอบปากคำต่อไปได้ รอนางกลับมา ข้าจะค่อยๆ ถาม อย่างน้อยตอนนี้เราก็รู้ที่มาของผู้หญิงเหล่านั้นแล้ว สามารถส่งคนไปแจ้งครอบครัวของพวกนางให้ทราบ ไม่ต้องตามหาอีกแล้ว หาไม่เจอแล้ว ไม่ต้องกังวลใจทุกวันอย่างกับครอบครัวอาจารย์หยู ตอนนี้รู้แล้วว่าพวกนางตายแล้ว..."เท้าของนางอ่อนแรงลง ตายแล้ว ไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่มีโอกาสได้เจอกันิีก นางรู้ถึงความเจ็บปวดจากการตายของคนใน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 746

    กู้ชิงหลานตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นเสิ่นว่านจือ จากนั้นก็คิดถึงเรื่องที่พวกนางหลอกลวงตนเอง และรู้สึกไม่สอบอารมณ์เล็กน้อยแม้ว่าพวกนางต้องการให้แผนดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่การหลอกลวงก็คือการหลอกลวง ดังนั้น กู้ชิงหลานจึงทำได้เพียงรักษามารยาทขั้นพื้นฐานที่สุดเท่านั้น "คุณหนูเสิ่น มีอะไรหรือเปล่า"เสิ่นว่านจือไม่ใช่คนประเภทที่มองสีหน้าคนอื่นไม่ออก นางรู้ว่าอีกฝ่ายต้องไม่พอใจแน่ๆ จึงถามด้วยเสียงแผ่วเบาว่า "ขอเข้าไปคุยข้างในได้ไหม"กู้ชิงหลานหลีกทางให้ "เชิญ"นางห็แค่อารมณ์วูบเท่านั้น เพราะนางรู้ดีว่าหากแผนการนี้ไม่ถูกซ่อนไว้จากนาง นางจะต้องบอกพ่ออย่างแน่นอน นางไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าพ่อจะทรยศนางบ้านพักหลังนี้เรียบง่าย มีหลังคากระเบื้อง และสามารถมองเห็นส่วนท้ายได้อย่างรวดเร็ว โดยมีห้องครัวขนาดเล็กด้านนอก ด้านใบบ้านพักมีห้องโถงเล็กๆ และห้องนอนห้องหนึ่งก็เท่านั้นเมื่อเข้าไปจะมองเห็นแสงแดดลอดผ่านเศษหินได้ เห็นๆ อยู่ว่าหลังคาบ้านพักมีรอยแตกลาย และไม่ได้รับการซ่อมแซม หากฝนตกหนัก บ้านพักนี้จะกลายเป็นสระน้ำอย่างแน่นอนแม้ว่าเสิ่นว่านจือจะพยายามอย่างเต็มที่ที่สุดเพื่อมองข้ามมัน แต่นางก็รู้สึกอึ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 747

    เสิ่นว่านจือไม่เข้าใจ "แต่ทำไมล่ะ แม่ของเจ้าเป็นลูกสาวของตระกูลหลิน และเจ้าเป็นหลานสาวของพวกเขาด้งบ ทำไมไม่ให้กลับบ้านล่ะ"กู้ชิงหลานทำท่าให้เงียบ "เบาๆ หน่อย แม่จะได้ยินเข้า"เสิ่นว่านจือพูดตรงๆ ว่า "เราออกไปคุยข้างนอกกันเถอะ พอดีข้าต้องรอหมอหงเชวี่ยมา หงเชวี่ยคิดว่าพวกเจ้าอยู่ที่บ้านตระกูลหลิน งั้นเราไปรอนางที่นั่นกันเลย"ทั้งสองเปิดประตูแล้วเดินออกไป ประตูนี้... เสิ่นว่านจือก้าวออกไปสามก้าวแล้วมองย้อนกลับไป "พวกเขาให้พวกเจ้าอาศัยอยู่บ้านหลังนี้เหรอ?"กู้ชิงหลานพูดอย่างเรียบๆ "เดิมทีบ้านหลังนี้ปล่อยให้เช่น แต่ต่อมาไม่มีใครเช่าอีกเพราะมันทรุดโทรมเกินไป พวกเขาไม่ยอมซ่อมแซม บอกว่าให้เราอยู่เป็นชั่วคราวไปก่อน และรอให้คดีจบลงค่อยให้เรากลับตระกูลหลิน""เจ้าเชื่อเหรอ?" เสิ่นว่านจือถาม"ไม่เชื่อ แต่เราไม่มีที่ไปในตอนนี้ อีกหน่อยข้าจะออกไปหาเงิน พอทำเงินได้ก็จะเปลี่ยนที่พัก""เจ้าจะออกไปหาเงินเหรอ? จะไปหางานอะไร?" เสิ่นว่านจือถามกู้ชิงหลานเดินช้าๆ พลางขมวดคิ้ว "เดิมทีข้ากะว่าจะไปทำงานเป็นคนใช้ข้างกายของพวกคุณหนูจากตระกูลใหญ่ ข้ามีวรยุทธ์... แต่ด้วยตัวตนของข้าคงไม่มีใครกล้ารับข้า เพรา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 748

    เสิ่นว่านจือมองไปกู้ชิงหลานที่กำลังโกรธแค้น ไม่รู้ว่าทำไม แต่เนื่องจากนางลงจากภูเขาเพื่อติดตามซีซีไปออกรบ ต่อมาได้เจอเรื่องไม่เอาไหนที่เมืองหลวงมากมาย ตอนนี้นางมีความอดทนมากขึ้นกว่าเดิมแล้วถ้าเป็นในอดีต นางคงจะเดินจากไปเมื่อได้ยินกู้ชิงหลานพูดแบบนี้ นางเคยใส่ใจความรู้สึกของคนอื่นที่ไหนกัน? นางเป็ยคนเด็ดขาดโดยตลอด แต่ตอนนี้นางอยากเป็นคนมีจิตใจดีตอนนี้ นางพอจะเข้าใจความโกรธและความกลัวของกู้ชิงหลานได้แล้ว นางถูกญาติๆ ของนางหลอกใช้ประโยชน์มาโดยตลอด และไม่ได้รับความไว้วางใจใดๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นางถือว่าฝู้หม่ากู้ แม่และพี่สาวของนางเป็นครอบครัวที่มีสมาชิกสี่คน เป็นหนึ่งเดียวกัน ฝู้หม่ากู้ทรยศนาง ตอนนี้ก็มาบอกนางว่าพี่สาวนางต้องการฆ่าแม่ตนเอง อีกอย่างเรื่องนี้ได้ฟังจากปากของคนนอกคนหนึ่ง แน่นอนว่านางจะไม่เชื่อเลยเสิ่นว่านจือผู้เป็นคนดีก็ไม่โกรธ "นั่นคือความจริง ไม่ว่าเจ้าจะเชื่อหรือไม่ หากคำปากคำของหมอประจำจวนเป็นเรื่องโกหก ก็หลอกคนของหอต้าหลี่ไม่ได้หรอก ส่วนเหตุใดที่พี่สาวเจ้าสามารถสั่งการเขาได้ นั่นเป็นเพราะพี่สาวเจ้าไปหลับนอนกับเขา"กู้ชิงหลานสั่นไปทั้งตัวพลางน้ำตาไหล "หุบปาก เจ

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1520

    ครรภ์ของฝูเจาอี๋ เดิมทีก็มั่นคงดี หมอหลวงเองก็กล่าวว่าไม่มีปัญหาใหญ่อันใด แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด พอเข้าสู่เดือนเหมันต์ ครรภ์นี้กลับเริ่มไม่มั่นคง อีกทั้งยังมีเลือดออกถึงสองครั้งหมอหลวงจินทุ่มเทสรรพวิธีเพื่อรักษาครรภ์ของนางไว้ ทำให้พอประคองสถานการณ์ได้ แต่นางก็ต้องนอนพักอยู่บนเตียง ยังไม่อาจลุกเดินไปไหนได้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด หมอหลวงย่อมให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ตรวจสอบทั้งอาหารการกินและข้าวของที่ใช้ในวังอย่างละเอียด ทว่ากลับไม่พบความผิดปกติใดๆ จึงคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากการที่ฝ่าบาทเสวยโอสถมาเป็นเวลานาน จึงทำให้ครรภ์นี้ไม่มั่นคงจักรพรรดิ์ซูชิงทรงเป็นกังวลอย่างยิ่งกับครรภ์นี้ นับตั้งแต่นางต้องนอนพักรักษาครรภ์ ฝ่าบาทก็ทรงเสด็จมาเยี่ยมเกือบวันเว้นวัน บางคราก็ทรงประทับร่วมเสวยพระกระยาหารเมื่อเอาใจใส่สิ่งหนึ่ง ก็ย่อมละเลยอีกสิ่งหนึ่งไป ทำให้ช่วงนี้ฝ่าบาทแทบไม่ได้เสด็จไปยังตำหนักของซูเฟย อีกทั้งยังมิได้ทรงเรียกองค์ชายสามเข้าพบที่ห้องพระอักษรเลยส่วนเต๋อเฟยนั้น เนื่องจากต้องดูแลกิจการในวังหลัง เมื่อพอมีเวลาว่างก็มักจะพาองค์ชายรองมาเยี่ยมฝูเจาอี๋ด้วย ดังนั้นจึงได้มีโอกา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1519

    ในวังหลัง เดิมทีมีผู้คาดเดาเกี่ยวกับพระอาการของฝ่าบาทไม่น้อย แม้ยามนี้ฝูเจาอี๋จะตั้งครรภ์ ทว่าหมอมหัศจรรย์กลับพำนักอยู่ในวัง เป็นหลักฐานว่าพระวรกายของฝ่าบาทหาใช่เพียงต้องบำรุงรักษาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นดังนั้น การที่ฝ่าบาทโปรดปรานเช่นนี้ ทำให้บางคนเริ่มอยู่นิ่งไม่ได้โดยเฉพาะฮองเฮา นางรับรู้เรื่องพระอาการของฝ่าบาทอยู่บ้าง ตอนนี้หมอมหัศจรรย์กลับเข้าวังเพื่อถวายการรักษา ผลลัพธ์จะเป็นเช่นไรนางไม่อาจคาดเดา เพียงแต่รู้สึกว่าฝ่าบาทอาจอยู่ในช่วงที่พละกำลังถดถอยเต็มที่แล้วครรภ์ของฝูเจาอี๋ นางไม่ได้ใส่ใจ ไม่ว่าบุตรในครรภ์จะเป็นชายหรือหญิงก็ยังไม่อาจทราบได้ ต่อให้เป็นองค์ชาย ก็ยังไม่ถึงคราวของเขาแต่การที่ฝ่าบาททรงเอ็นดูองค์ชายสามถึงเพียงนี้ กลับทำให้นางรู้สึกถึงภัยคุกคามเดิมทีฝ่าบาทให้ทางเลือกแก่นาง นางเลือกตำแหน่งฮองเฮา เลือกมีชีวิตรอด ทว่าหลังจากนิ่งเฉยมาพักหนึ่ง นางก็เข้าใจว่าฝ่าบาทจะไม่ทรงละทิ้งองค์ชายใหญ่ได้รวดเร็วเพียงนั้น ยิ่งตอนนี้องค์ชายใหญ่ขยันขันแข็งศึกษาหาความรู้ แม้แต่ไท่ฝู่และเสด็จอายังเอ่ยปากชม นางยังสืบมาว่าฝ่าบาททรงพอพระทัยองค์ชายใหญ่อยู่ไม่น้อยองค์ชายรองและองค์ชายสามล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1518

    จักรพรรดิ์ซูชิงทรงประชุมหารือกับขุนนางในห้องทรงอักษรยาวนานจนถึงดึกดื่น สุดท้ายเป็นหมอมหัศจรรย์ดันที่ต้องเข้าไปขัดจังหวะ แจ้งว่าดึกมากแล้ว พระองค์ถึงกับเหยียดพระกรพลางแย้มพระสรวล “ถึงกับดึกเพียงนี้แล้วรึ? เช่นนั้นก็เลิกประชุมเถิด ประตูวังใกล้จะปิดแล้ว”แม้จะเป็นช่วงเวลาดึกมากแล้ว แต่พระองค์กลับยังดูสดชื่น โดยเฉพาะบนพระพักตร์ที่มีเลือดฝาดขึ้น ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนผู้ที่ประชวรเลยซ่งซีซีรอให้เซี่ยหลูโม่ประชุมเสร็จ ก่อนจะออกจากวังกลับจวนพร้อมกันนางอ่อนล้ามาก พิงไหล่ของเซี่ยหลูโม่แล้วเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัวเมื่อรถม้ามาถึงหน้าจวน เซี่ยหลูโม่อุ้มนางขึ้นมา ซ่งซีซีรับรู้ได้รางๆ แต่ก็ขี้เกียจจะตื่น เลยปล่อยให้เขาอุ้มเข้าไป อ้อมแขนอบอุ่นแข็งแกร่งช่างสบายเหลือเกินตลอดสามเดือนที่ผ่านมา นอกจากตอนอยู่ที่ด่านเฉิงหลิง นางแทบไม่มีคืนไหนที่สามารถนอนหลับได้อย่างสนิทใจ แต่เมื่อกลับถึงจวน ก็รู้สึกผ่อนคลายลงอย่างสมบูรณ์ ดำดิ่งสู่ห้วงนิทราลึกทว่า…นอนหลับไปก็ยังรู้สึกว่ามีมือร้อนจัดคู่หนึ่งลูบไล้ไปทั่วร่างนางยังคงหลับตา เอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า “ลืมที่ท่านลุงดันบอกไปแล้วหรือ?”เสียงร้อนผ่าวกระซิบข

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1517

    วันที่ 15 เดือนสิบ คณะทูตจึงเดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงในที่สุดกองทัพซวนเจียได้รับคำสั่งให้แยกย้ายไปพักก่อน ขณะที่หลี่เต๋อฮวยและขุนนางจากสำนักหงหลู่ต้องเข้าเฝ้าพระองค์เพื่อถวายรายงาน ส่วนฉินอ๋องที่ตลอดทางอ่อนแอราวกับช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตอนนี้กลับกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที กล่าวว่าจะเข้าเฝ้าพร้อมกับพวกเขาด้วยส่วนซ่งซีซีนั้น ถูกเซี่ยหลูโม่ที่เฝ้ารออยู่ที่ประตูเมืองรับตัวกลับจวนไปก่อนแล้วช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาสั่งให้คนคอยเฝ้ารอที่ประตูเมืองทุกวัน บางครั้งตอนพักกลางวันก็ยังมารอด้วยตนเอง และวันนี้ก็บังเอิญได้พบกันจริงๆขณะที่หลี่เต๋อฮวยและคนอื่นๆเข้าเฝ้าในวัง ซ่งซีซีก็ได้เข้าไปคารวะฮุ่ยไท่เฟยก่อนแล้วเมื่อฮุ่ยไท่เฟยรู้ว่านางเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ก็ให้รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซ่งซีซีและเซี่ยหลูโม่ถวายคำนับก่อนออกไป และกลับไปยังเรือนเหมยฮวาหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ริมฝีปากของนางกลับดูบวมขึ้นเล็กน้อย รุ่ยจูที่เห็นถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนจะเหลือบมองไปทางท่านอ๋อง พระชายาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ท่านอ๋องยืนกรานจะปรนนิบัติด้วยตัวเอง แต่ดูเหมือนจะปรนนิบัติได้ไม่ดีเท่าไรน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1516

    เมื่อได้พักฟื้นอยู่ห้าวันที่ด่านเฉิงหลิง ฉินอ๋องก็ฟื้นตัวขึ้นมาบ้างแล้วเมื่อฉินอ๋องหายดี ก็ถึงเวลาต้องออกเดินทางกลับเมืองหลวงแม้จะอาลัยเพียงใด ซ่งซีซีก็ทำได้เพียงกลั้นน้ำตากล่าวคำอำลา นางคุกเข่าคารวะต่อหน้าแม่ทัพใหญ่เซียวอยู่หลายครั้ง จนแทบจะทำให้ท่านน้ำตาคลอหลี่เต๋อฮวยเป็นผู้ที่เคารพนับถือแม่ทัพใหญ่เซียวที่สุด เมื่อซ่งซีซีเพียงแค่น้ำตาคลอ แต่เขากลับปิดหน้าและร้องไห้ออกมาเต็มที่ เพราะเขารู้ว่า บางทีตลอดชีวิตนี้ อาจไม่มีโอกาสได้พบกับท่านแม่ทัพผู้เฝ้ารักษาด่านเฉิงหลิงมาเป็นสิบๆ ปีอีกแล้วแม่ทัพใหญ่เซียวเข้าสู่วัยชราโดยสมบูรณ์ เมื่อมองดูอีกครั้งก็ดูแก่ชรากว่าครั้งก่อนอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าฮ่องเต้จะพระราชทานอนุญาตให้ท่านกลับเมืองหลวงได้ แต่ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางอันยากลำบาก ทายาทตระกูลเซียวก็คงไม่ยอมให้ท่านเดินทางกลับอีกแล้วแม่ทัพใหญ่เซียวสนทนากับหลี่เต๋อฮวยอยู่ครู่หนึ่ง ทว่าแทนที่จะบรรเทาความรู้สึกของเขา กลับทำให้เขาร้องไห้หนักกว่าเดิมเสียอีกด้านนางหนานผู้เป็นป้าใหญ่ ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยถามถึงเรื่องของ พระชายาอ๋องฮวยเลย จนกระทั่งถึงเวลาต้องอำลากัน นางจึงดึงซ่งซีซีไปค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1515

    การเดินทางกลับเริ่มขึ้นในช่วงต้นเดือนเก้าอากาศไม่ร้อนจัดอีกต่อไป เริ่มมีความเย็นสบายแผ่วเบาซูลันจีนำทัพออกมาส่งด้วยตัวเอง พาพวกเขาไปจนถึงเมืองลู่เปินเอ่อร์ตลอดเส้นทางขากลับ ไม่มีการลอบสังหารเกิดขึ้น ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นเมื่อข้ามภูเขาสลับซับซ้อนมาได้ ก็เข้าสู่เขตแดนของแคว้นซางเดิมทีพวกเขาไม่ได้แจ้งแม่ทัพใหญ่เซียวล่วงหน้า คิดว่าคงไม่มีใครมารับ แต่ทันทีที่เข้าสู่ชายแดนแคว้นซาง ก็พบว่าจ้านเป่ยว่างนำทัพเซียวเจียจวินรออยู่ที่นั่นเมื่อเห็นว่าพวกเขากลับมาโดยปลอดภัย จ้านเป่ยว่างก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกอย่างเห็นได้ชัด เขากระตุ้นม้าเข้ามาใกล้ ก่อนลงจากหลังม้าแล้วทำความเคารพฉินอ๋อง หลี่เต๋อฮวยและขุนนางท่านอื่นๆ “ท่านอ๋อง เสนาบดีหลี่ ท่านขุนนางทั้งหลาย แม่ทัพใหญ่เซียวสั่งให้ข้านำทัพมาคอยเฝ้ารอที่นี่ทุกวัน เพื่อคุ้มกันพวกท่านกลับไปยังเฉิงหลิงกวน”หลี่เต๋อฮวยเอ่ยถามด้วยความสงสัย “แม่ทัพใหญ่รู้ได้อย่างไรว่าพวกเราจะกลับมาวันนี้?”จ้านเป่ยว่างตอบว่า “แม่ทัพใหญ่ไม่ทราบ เพียงแต่สั่งให้ข้าและกองทัพมาเฝ้าอยู่ที่นี่ทุกวัน”“ที่แท้เป็นเช่นนี้” หลี่เต๋อฮวยรู้สึกว่าแม่ทัพใหญ่เซียวเป็นคนรอบคอบย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1514

    อันเฟิงชินอ๋องกล่าวว่า “การเดินทางครั้งนี้ มิใช่เพียงเพื่อซีจิงและแคว้นซาง แต่ก็เพื่อเป่ยถังของเราด้วย มิจำเป็นต้องกล่าวขอบคุณ ระหว่างแคว้นต่อแคว้น สิ่งที่มาก่อนคือผลประโยชน์ มีเพียงความสัมพันธ์ส่วนตัวเท่านั้น ที่จะสามารถปฏิบัติต่อกันด้วยใจจริง”ซ่งซีซีรับคำสอน แต่ก็นึกสงสัย จึงเอ่ยถามว่า “ท่านเคยรู้จักอาจารย์เหรินหยางอวิ๋นของข้าหรือไม่?”อันเฟิงชินอ๋องหัวเราะเบาๆ “รู้จัก เขาเคยมาเยือนเป่ยถัง และเคยพำนักอยู่ที่ไจ้ซิงโหลวอยู่ช่วงหนึ่ง แม่ทัพองครักษ์เงาของข้า ‘เฮยอิ่ง’ สนิทสนมกับอาจารย์ของเจ้ามาก พวกเขามักดื่มสุราด้วยกันเป็นประจำ”“เช่นนี้เองหรือ” ซ่งซีซีนึกถึงบรรดาผู้สวมชุดดำพวกนั้น ไม่รู้ว่าคนไหนคือเฮยอิ่ง หากไม่ได้พบหน้าสักครั้ง คงเป็นเรื่องน่าเสียดายอันเฟิงชินอ๋องคล้ายจะมองออกถึงความคิดของนาง ยิ้มพลางกล่าวว่า “อีกสามปี หรืออาจห้าปี พวกเราจะไปเยือนแคว้นซาง ถึงตอนนั้น ข้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จักกับเฮยอิ่ง”ซ่งซีซีกำลังจะกล่าวขอบคุณ ทว่าเสิ่นว่านจือก็ถามขึ้นก่อน “เหตุใดต้องเป็นสามปีหรือห้าปี? ไปเร็วกว่านี้ไม่ได้หรือ? พวกเราตั้งตารอให้ท่านกับพระชายามาเยือน”อันเฟิงชินอ๋องเพียงยิ้ม แต่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1513

    หลังจากเดินสำรวจอยู่สองวัน ซูลันจีก็กล่าวกับซ่งซีซีว่า “แคว้นของท่านมีหมอเทวดาผู้หนึ่ง นามว่าหมอมหัศจรรย์ดัน เขาได้คิดค้นยาชนิดหนึ่งชื่อว่ายาดันเสวี่ย ซึ่งมีสมุนไพรสำคัญชนิดหนึ่งเป็นส่วนประกอบ นั่นคือเสวี่ยเหอฮวา ทว่าแคว้นของท่านผลิตได้น้อยมาก หนานเจียงเองก็มี แต่เติบโตอยู่บนยอดเขาหิมะ เก็บเกี่ยวได้ยากยิ่ง และมีปริมาณน้อย แต่ในซีจิงของเรา เสวี่ยเหอฮวามิใช่ของหายาก บนภูเขาสูงสามารถพบเห็นได้ทั่วไป หมอมหัศจรรย์ดันที่ใช้สมุนไพรชนิดนี้ ต้องลักลอบซื้อจากพ่อค้ายาในซีจิง ราคาจึงแพงมาก ด้วยต้นทุนขนาดนี้ ขายยาดันเสวี่ยไปหนึ่งเม็ด เขาก็ขาดทุนหนึ่งเม็ด”ซ่งซีซีทราบดีว่ายาดันเสวี่ยเป็นยาที่หายาก เนื่องจากมีสมุนไพรบางชนิดที่หาไม่ครบ แต่ท่านลุงดันก็ไม่เคยบอกอย่างชัดเจนว่าสมุนไพรตัวใดที่ขาดอย่างไรก็ตาม หากเขาต้องซื้อยาจากพ่อค้าชาวซีจิง ก็สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงต้องปิดเป็นความลับ เพราะก่อนหน้านี้ ซีจิงและแคว้นซางมิได้มีการค้าขายกันโดยตรง โดยเฉพาะสมุนไพร ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษซูลันจีและจักรพรรดินีหยวนซินต่างคิดไปในทิศทางเดียวกัน พวกเขาสืบเรื่องนี้อย่างละเอียดขนาดนี้ นั่นหมายความว่าพวกเขาต

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1512

    ตำแหน่งที่เขานั่ง แสดงถึงจุดยืนของเป่ยถังในการเจรจาครั้งนี้!เป็นกลาง!ซ่งซีซีอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอีกครั้งว่า การที่แคว้นเข้มแข็งนั้นดีเพียงใดการเจรจาในช่วงแรกเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ คำพูดซ้ำไปซ้ำมา ถูกเน้นย้ำไม่รู้จบ ล่ามของทั้งสองฝ่ายทำหน้าที่แปล โดยส่วนใหญ่เป็นการกล่าวถึงปัญหาทางประวัติศาสตร์นี่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หากเริ่มต้นด้วยการยอมถอยแต่แรก ก็จะต้องถอยไปเรื่อยๆดังนั้น การเจรจาครั้งแรกจึงไม่ได้ข้อสรุปใดๆ เป็นเพียงการลองเชิงขีดจำกัดของกันและกันในวันรุ่งขึ้น การเจรจาครั้งที่สองเริ่มต้นขึ้น ตอนแรกก็ยังคงเน้นย้ำเรื่องเดิมสองรอบ จนกระทั่งอันเฟิงชินอ๋องเอ่ยขึ้นว่า “ถ่วงเวลาเช่นนี้ไม่มีความหมาย สองแคว้นของพวกเจ้าโต้เถียงกันเรื่องพรมแดนมาหลายสิบปีแล้ว นี่ไม่ใช่ปัญหาที่จะสามารถแก้ไขได้ในวันเดียว เราพักเรื่องพรมแดนไว้ก่อน ข้าอยากรู้ว่าพวกเจ้ามีความตั้งใจจะทำสัญญาสันติระหว่างสองแคว้นหรือไม่ และจะไม่ละเมิดต่อกัน?”ทุกคนล้วนให้คำตอบที่แน่ชัด ต่างกล่าวว่าตนมาโดยมีความหวังที่ดี อยากให้สองแคว้นยุติความขัดแย้งอันเฟิงชินอ๋องหยิบแผ่นรายการออกมาแผ่นหนึ่ง บนกระดาษระบุรายการสินค้าของ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status