Share

บทที่ 714

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
นางคว้าผมหลินเฟิ้งเอ๋อจนนางล้มลงกับพื้น เจ็บปวดมากจนน้ำตาไหลแต่ไม่กล้าที่จะส่งเสียง

กองกำลังเมืองหลวงที่ติดตามนางอยู่นั้นก็ไม่กล้าลงมือกับองค์หญิงใหญ่ อย่างหุนหันพลันแล่น เขาได้แต่เรียกอยู่ข้างๆ ว่า "ปล่อยนะ ปล่อยนางไป"

ผมยุ่งเหยิงขององค์หญิงใหญ่ปกคลุมใบหน้าของนางไปครึ่งหนึ่ง และพูดอย่างเคร่งขรึมและเย็นชาว่า "เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร กล้าสั่งข้า กล้าสัมผัสข้าก็ลองดู"

นางลากผมของหลินเฟิ้งเอ๋อ และเข้าหากองกำลังเมืองหลวง กองกำลังเมืองหลวงไม่กล้าทำอะไรนาง ได้แต่ถอยออกไป

ฮูหยินเสนาบดีลุกขึ้นเดินเข้าไปหานาง จากนั้นยกมือขึ้นตบหน้านางอย่างแรงฉาดหนึ่ง "ข้ากล้าแตะต้องเจ้า นังบ้าจะทำอย่างไร"

"ช่างบังอาจ!" องค์หญิงใหญ่ปล่อยหลินเฟิ้งเอ๋อ และต้องการเข้าไปฮูหยินเสนาบดี

เช่นนี้กองกำลังเมืองหลวงไม่กล้าอยู่เฉยๆ ได้อีก และรีบห้ามเข้าไว้ องค์หญิงใหญ่สัมผัสฮูหยินเสนาบดีไม่ได้ และได้เกาใบหน้ากองกำลังเมืองหลวงด้วยเล็บของนาง และเกาใบหน้าของกองกำลังเมืองหลวงเกิดบาดเจ็บด้วย

กองกำลังเมืองหลวงรู้สึกเจ็บมาก เมื่อเห็นว่านางบ้าคลั่งเช่นนี้ เขากัดฟันและแกล้งสะดุดล้ม จากนั้นหันไปทางด้านข้างเพื่อหลีกเลี่ยงมัน องค์ห
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 715

    ทุกคนเห็นเขามีสีหน้าเคร่งขรึม คิดว่าได้ค้นพบสิ่งของไม่ธรรมดาในลานด้านตะวันตกแล้วเซี่ยหลูโม่นั่งลง ซ่งซีซีก็รินชาหนึ่งถ้วยแล้วยื่นให้ "ดื่มน้ำก่อนแล้วข้าจะให้ใคนเอาอาหารที่อุ่นอยู่ในหม้อมาให้ท่าน"เขาไม่มีอะไรจะกินหรือดื่มในคุกใต้ดิน คงหิวแย่แล้วเซี่ยหลูโม่ดื่มน้ำรวดเดียว คอของเขาแห้งจนแทบจะลุกเป็นไฟได้แล้วงหลังจากที่ซ่งซีซีสั่งเสร็จก็กลับไปห้องอ่านหนังสือทันทีเซี่ยหลูโม่ไม่รอให้พวกเขาถามและพูดว่า "ซีซี ครอบครัวท่านอาของเจ้าปลอดภัยดี โชคดีที่ไม่ได้ถูกทรมาน ไม่ได้โดนตี แค่ถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินและคงตกใจไม่น้อย"ซ่งซีซีเบิกตากว้าง "ท่านอาของข้าก็ถูกจับตัวไปจริงๆ เหรอ""อืม ดีที่เขาอยู่ด้วย ไม่เช่นนั้นภรรยาและลูกๆ ของเขาคงจะตกใจตาย"เซี่ยหลูโม่เทน้ำอีกแก้วแล้วดื่มหมดในอึกเดียวก่อนพูดต่อ "คนที่ขังอยู่ในคุกใต้ดินเกือบเป็นอนุภรรยาของฝู้หม่ากู้ทั้งหมด ตอนนี้ได้รับการช่วยให้ออกมาแล้ว แต่มีคนพิการและได้รับบาดเจ็บไปไม่น้อย โหดร้ายสุดๆ อีกอย่าง ที่คุกใต้ดินในลานด้านตะวันตกได้ซ่อนพวกอาวุธ ชุดเกราะ และดินปืนด้วย เดาว่าพวกเขากำลังวางแผนว่าตอนที่เกิดการกบฏ ก็ส่งคนกลุ่มหนึ่งแอบเข้ามาเมืองหลว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 716

    อาจารย์หยูกล่าวว่า "ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตคนเท่านั้น แต่ยังค้นพบเรื่องใหญ่เช่นนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ผลงานนี้ทางจวนเป่ยหมิงอ๋องของเราไม่สามารถรับได้ ใครไปเสี่ยงชีวิตมาก็ให้เป็นผลงานของคนๆ นั้นสิ อย่าพูดเขาอีกเลย ท่านอ๋องรีบกินเถอะ"อาจารย์หยูไม่ต้องการพูดถึงจ้านเป่ยว่างต่อไปเพื่อไม่ให้พระชายารู้สึกอึดอัด เขาจึงเร่งให้ท่านอ๋องกินข้าวแล้วค่อยไปอาบน้ำ กลิ่นคุกแรงเกินไปแต่เสิ่นว่านจือยังคงไม่พอใจเล็กน้อย "อย่างไรก็ตาม ให้จ้านเป่ยว่างสร้างผลงานโดยใช้ประโยชน์จากแผนการของเรา ข้าก็ไม่สบอารมณ์ ยอมให้ปี้หมิงรับผลงานนี้ไปมากกว่า"นางจะไม่มีวันลืมว่าจ้านเป่ยว่างเคยทำร้ายซีซี และยังพยายามหาทุกวิถีทางยึดสินเดิมของนางแม้ว่าพวกเขาจะออกศึกด้วยกัน แต่พวกเขาก็ไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน นางดูถูกจ้านเป่ยว่างตลอดกาลอาจารย์หยูกล่าวด้วยรอยยิ้ม "แน่นอนว่าปี้หมิงมีผลงานด้วย มิได้ให้จ้านเป่ยว่างแย่งชิงไปหมด จ้านเป่ยว่างก็ไม่ได้เข้าคุกใต้ดินด้วยคนเดียวนี่ คุณหนูเสิ่นไม่จำเป็นต้องจริงจังกับเรื่องนี้หรอก"เสิ่นว่านจือมองไปที่ซ่งซีซี "ซีซี เจ้ายังรู้สึกน่าขยะแขยงหรือเปล่า?"ซ่งซีซีส่ายหัว "พูดตามตรง พอตอนน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 717

    จักรพรรดิ์ซูชิงคิดไม่ถึงว่าจะพบสิ่งที่น่าสะดุ้งใจเช่นนี้ เขาคิดว่ามันเป็นเพียงเครื่องต่างๆ เกี่ยวกับลูกไม้ชั่วร้ายที่ใช้ในฝ่ายในจวน มากเกินไปจริงๆ เขาคิดจะตักเตือนสักหน่อยแต่ก็ไม่เหมาะที่จะสั่งการไปยุ่งเรื่องฝ่ายในของทางจวนองค์หญิง ถึงจะเติมเชื้อไฟให้กับเปลวไฟในช่วงเทศกาลหันอี้จริงๆ แล้วเขาไม่แน่ใจว่าจะคนลงมือกับจวนองค์หญิงใหญ่ในคืนนี้ แต่ช่วงนี้มีข่าวลือมากเกินไป โดยบอกว่าหญิงงามเมืองของเหลียงเส้าคนนั้นคือบุตรีอนุขององค์หญิงใหญ่ เขาส่งคนไปตรวจสอบจวนองค์หญิงและฝู้หม่ากู้ จากนั้นพบว่าฝู้หม่ากู้ได้ไปมาหาสู่กันกับตระกูลหลิน ซึ่งเป็นนักธุรกิจในเมือง และบังเอิญที่ตระกูลหลินมีแม่นางคนนหึ่งเคยไปจวนเป่ยหมิงอ๋องมาหลายครั้งข้อมูลที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอันพวกนั้นไม่สามารถให้เขารับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่บังเอิญที่ทางจวนองค์หญิงกำลังให้พวกพระสงฆ์มาสวดมนต์ทำพิธีในเทศกาลหันอี้ตามเช่นเคย และเสิ่นชิงเหอก็บังเอิญมาที่เมืองหลวงก่อนเทศกาลหันอี้ และเขาคิดถึงว่าซ่งซีซีและองค์หญิงใหญ่มีความขัดแย้งกันก่อนหน้านี้ และคาดเดาว่าเรื่องแอบแฝงขององค์หญิงใหญ่คงเกี่ยวข้องกับตระกูลหลินเขาไม่ค่อยเข้าใจซ่งซีซีมากนัก แต่ก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 718

    เซี่ยหลูโม่เงยหน้าขึ้นมองดูสีหน้าของเขาแล้วพูดว่า "ใช่ หลังจากที่พวกเขาหายตัวไป ทางจวนอ๋องและจวนเสนาบดีกั๋วกงก็ส่งคนจำนวนมากไปตามหาพวกเขา แต่ก็ไม่พบเลย ในที่สุดก็คิดว่าอาจเป็นฝีมือขององค์หญิงใหญ่ จึงเรียกกู้ชิงหลานกลับไปที่จวนองค์หญิงเพื่อสอบถามกับคนใช้ดู และได้พบว่าในคืนที่ภรรยาและลูกๆ ของซ่งจืออันหายตัวไปนั้น องครักษ์ของจวนองค์หญิงได้พาเด็กสองคนและสตรีมีครรภ์เข้าคนหนึ่งไปในคุกใต้ดิน จากนั้นเราถึงตั้งเป้าที่จวนองค์หญิง แต่กระหม่อมก็ไม่กล้าที่จะบุกเข้าไปในจวนองค์หญิงอย่างโจ่งแจ้ง รู้ว่าจวนองค์หญิงจะเชิญชวนพระสงฆ์เข้าจวนในเทศกาลหันอี้ เป็นงานประจำของจวนองค์หญิง อีกอย่างค่ายลาดตระเวนและกองกำลังเมืองหลวงก็จะลาดตระเวนสถานที่นั้นในคืนนั้นเป็นพิเศษด้วย ดังนั้นจึงใช้มือสังหารไปล่อกองกำลังเมืองหลวงและค่ายลาดตระเวนเข้าไปในจวนองค์หญิง และปล่อยให้พวกเขาไปช่วยชีวิตคน"จักรพรรดิ์ซูชิงถาม "นอกเหนือจากนี้ มีอะไรอีกที่เจ้าได้ปิดบังข้าไว้อีกหรือไม่ เจ้าไม่รู้จริงๆ เหรอว่าองค์หญิงใหญ่มีเจตนากบฏ เจ้าไม่รู้ว่าจวนองค์หญิงซ่อนชุดเกราะและอาวุธมากมายเช่นนี้จริงๆ หรือ?"เซี่ยหลูโม่เงยหน้าขึ้นด้วยท่าทางสงบนิ่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 719

    เขาแสร้งทำเป็นครุ่นคิดแล้วพูดว่า "สำหรับแม่ทัพ กระหม่อมยังไม่ได้มีเป้าหมาย"เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิ์ซูชิงไม่พอใจกับคำตอบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้โกรธ "หอต้าหลี่จัดการคดีนี้ก็พอ ที่เหลือข้าจะส่งคนไปสอบสวน""พะย่ะค่ะ!"จักรพรรดิ์ซูชิงหมุนแหวนหยกบนนิ้วหัวแม่มือของเขา "ข้าเคยได้ยินเจ้าบอกว่าช่วงนี้ยังไม่มีแผนจะมีลูกใช่ไหม?""พะย่ะค่ะ ยังไม่มีแผนนี้"จักรพรรดิ์ซูชิงตอบรับอืม "ซีซีเป็นรองผู้บัญชาการของกองทัพซวนเจีย ในเมื่อเจ้าได้รับแต่งตั้งให้เป็นต้าหลี่ซื่อชิงแล้ว งั้นตำแหน่งของเจ้าในฐานะผู้บัญชาการก็จะให้ปลดเลย ข้าวางแผนที่จะเลื่อนซ่งซีซีให้เป็นผู้บัญชาการของกองทัพซวนเจีย"เซี่ยหลูโม่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย "ฝ่าบาทหมายถึงผู้มีอำนาจที่แท้จริงหรือ?""ใช่ นางเข้ารับตำแหน่งโดยตรง"เซี่ยหลูโม่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "เพียงว่าถึงแม้จะมีแม่ทัพหญิงในราชวงศ์ของเรา แต่ก็ไม่มีแบบอย่างที่ให้สตรีมาเป็นขุนนางมาก่อน""ไม่มีมากก่อน งั้นก็จัดให้เป็นคนแรกเลย"เซี่ยหลูโม่ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่พักหนึ่ง ให้ซีซีดูแลความปลอดภัยในเมืองหลวงและพระราชวัง ฮ่องเต้ไม่ได้ไม่ไว้ใจนางอยู่หรือ หรือมีวัตถุปร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 720

    หลังจากที่เซี่ยหลูโม่จากไป อู๋ต้าปั้นก็เข้าไปในห้องโถงหลัก "ฝ่าบาท อีกครึ่งชั่วยามก็ถึงเวลาเข้าประชุมยามเช้าแล้ว ข้าน้อยช่วยฝ่าบาทเปลี่ยนเสื้อผ้า""อืม เปลี่ยนที่นี่เถอะ" จักรพรรดิ์ซูชิงยกมือขึ้นแล้วพูดอู๋ต้าปั้นออกมาจากห้องโถงและเทศนา "ขันที นำเสื้อคลุมมังกรมา เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฝ่าบาท"ไม่นานหลังจากนั้น พวกขันทีก็ถือเสื้อคลุมมังกรและมงกุฎปีกทองทยอยเข้ามาอู๋ต้าปั้นสั่งทุกคนออกไป และเปลี่ยนเสื้อผ้าให้จักรพรรดิ์ซูชิงด้วยตนเอง สีหน้าของจักรพรรดิ์ซูชิงยังคงบึ้งตึง แต่เมื่อเทียบกับตอนที่ได้ยินข่าวในแรกๆ ก็ดูอ่อนลงไม่น้อยเลยจักรพรรดิ์ซูชิงมองดูเขา "ไม่เข้าใจว่าทำไมข้าถึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นผู้บัญชาการกองทัพซวนเจียหรือ"อู๋ต้าปั้นจัดการเข็มขัดปักมังกรของเขาแล้วพูดว่า "ฝ่าบาททรงฉลาด ฝ่าบาททรงทำเช่นนี้ย่อมมีเหตุผลของพระองค์"จักรพรรดิ์ซูชิงกางมือออก ให้เขาจัดการรักแร้แล้วพูดอย่างใจเย็น "ทำไมองค์หญิงใหญ่ถึงอยากกบฏ ให้ข้าออกจากตำแหน่งแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไรกัน""ข้าน้อยคิดว่าองค์หญิงใหญ่ไม่น่าจริงๆ ฝ่าบาททรงปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดี""องค์หญิงที่มีความเป็นไปได้ก่อกบฏต่ำที่สุดก็มีส่วนร่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 721

    หลังจากออกจากวัง เซี่ยหลูโม่ก็กลับจวนก่อน และบอกอาจารย์หยูที่เพิ่งหลับไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ และให้เขาบอกพระชายาตอนนางตื่นขึ้นมาอาจารย์หยูได้ยินเช่นนี้ เขาก็ไม่ง่วงนอนอีกเลย เดิมทีเขาคิดว่าหลังจากพระชายาตื่นขึ้นแล้วให้พระชายาพาเขาไปพบน้องสาว แต่บัดนี้ฮ่องเต้ทำเช่นนี้เพื่ออะไร เขาก็ยังต้องใช้สมองไปติดนอนหลับไม่ได้อีกเลยเมื่อรอซ่งซีซีตื่นขึ้น และแต่งตัวเรียบร้อยออกมา เขาก็ไปบอกนางด้วยตนเอง "ท่านอ๋องกลับมาบอกว่าฮ่องเต้กะจะเลื่อนตำแหน่งท่านให้เป็นผู้บัญชาการของกองทัพซวนเจีย ซึ่งรับผิดชอบกองกำลังเมืองหลวง ค่ายลาดตระเวน ทหารรักษาพระราชวังและองครักษ์รักษาพระองค์ด้วย แต่ข้ายังคิอไม่ออกว่าฮ่องเต้ทำเช่นนี้เพื่ออะไร"ซ่งซีซีไม่อยากจะเชื่อเลย "มีอำนาจจริงๆ เหรอ?""มีอำนาจจริงๆ"ซ่งซีซีตกตะลึงมาก "ในราชวงศ์ของเรายังไม่มีแบบอย่างใดที่สตรีเข้ารับราชการในราชสำนัก แม้ว่าเป็นยี่ฝางที่สร้างผลงานในตอนแรก ก็แค่จัดให้ทำงานในสำนักงานท้องถิ่น แม้ว่าข้าจะดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการ แต่ข้าก็ไม่เคยถามไถ่เรื่องของกองทัพซวนเจียเลย แค่ในนามและมีรายได้ประจำปีเท่านั้นเอง"ให้สตรีไปออกศึกกับเข้ารับข้ารชการมันแตก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 722

    ทันทีที่เสิ่นว่านจือตื่นขึ้นมา ก็ได้ยินว่าซีซีกำลังจะเข้ารับราชการในราชสำนัก เป็นผู้บัญชาการกองทัพซวนเจียอย่างแท้จริง จากนี้ไปจะรับผิดชอบกองกำลังเมืองหลวง ค่ายลาดตระเวน และทหารรักษาพระราชวังเป็นต้นราวกับอยู่ในความฝัน นางส่งเสียงร้อง จากนั้นขยี้ตาแล้วถามว่า "เจ้าจะรับข้าราชการชั่วๆ นั้นจริงๆ หรือ"ซ่งซีซีหัวเราะเบาๆ "ข้าราชการชั่วๆ อะไรกัน จะเป็นข้าราชการดีๆ ไม่ได้หรือไง?""งั้นก็เป็นข้าราชการที่ซื่อสัตย์" เสิ่นว่านจือยกมือขึ้นแล้วใช้นิ้วแตะที่คางจากนั้นเดินรอบๆ ซ่งซีซี "ก็ได้ ซีซีของเราสามารถเป็นข้าราชการที่ซื่อสัตย์ได้"ซ่งซีซีจำได้ว่าพวกนางเคยอยู่ในแวดวงการต่อสู้ แล้วตอนนั้นก็เหมือนกับพวกนักสู้ทั่วๆ ไปดูถูกข้ารชการท้องถิ่น โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าเป็นผู้ทุจริต ก็จะเรียกพวกเขาว่า "ข้าราชการชั่วๆ"แน่นอนว่าพวกนางได้พบกับข้าราชการดีๆ เช่นกัน เป็นขุนนางที่ซื่อสัตย์ ทำเพื่อประชาชน และสมเป็นข้าราชการอย่างแท้จริง พวกนางต่างก็ชื่นชมเขามากน่าเสียดายที่พวกนางออกไปมองโลกไม่ได้นานเท่าไหรก็ถูกจับตัวกลับไป ยังถูกศิษย์อาจำคุกเป็นเวลาครึ่งเดือนเมื่อนึกถึงอดีตในภูเขาเหม่ยชาน รอยยิ้มของซ่งซีซีก็ส

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1605

    ข้ามองดูหลิวเซิ่งพูดยั่วยุนางไม่หยุด คล้ายจะจงใจยั่วยุให้นางคิดสั้น ไม่ได้มีเจตนาจะลงมือฆ่าเอง“ครอบครัวเจ้าตายหมดแล้ว เจ้ายังจะอยู่ต่อไปอย่างครึ่งคนครึ่งผี บ้าๆ บอๆ เช่นนี้อีกหรือ? เจ้าก็แค่สวะ ครอบครัวเจ้าก็เป็นสวะ! ยังจะกล้ามาหัวเราะเยาะข้าว่าสอบไม่ติดอีกหรือ? พวกเจ้ามันสมควรตายทั้งบ้าน เจ้าดูเชือกที่ห้องเก็บฟืนสิ ใช้มันแขวนคอตัวเองเสีย แล้วจะได้ไปอยู่กับครอบครัวเจ้า”“หากเจ้ายังไม่ตาย พวกเขาจะต้องตกนรกสิบแปดชั้น ถูกไฟเผาทุกวัน ถูกควักหัวใจ ถอนลิ้น เพราะพวกเจ้ามันใจดำอำมหิต ชอบใส่ร้ายป้ายสี นี่คือกรรมสนองที่สวรรค์ประทานให้ พวกทำชั่วไม่สมควรมีชีวิตอยู่”ข้ายิ่งฟังยิ่งโกรธจนแทบระเบิด คนทำชั่วคือเขาชัดๆ แต่กลับพลิกกลับความหมายเสียอย่างหน้าด้านๆแม่นางสุ่ยในยามนี้ก็บ้าเสียแล้ว หากถูกเขายั่วยุหนักเข้า ก็อาจคิดฆ่าตัวตายได้จริงๆข้าเปิดประตูพุ่งออกไป ห้องข้ากับห้องแม่นางสุ่ยอยู่ติดกัน พอข้าไปถึง หลิวเซิ่งยังไม่ทันตั้งตัว ยังปิดปากแม่นางสุ่ยอยู่เมื่อเห็นข้า แววตาเขาก็สั่นไหว รีบปล่อยมือทันทีแม่นางสุ่ยตกใจจนน้ำตาร่วง แต่นางไม่ได้ส่งเสียงร้อง แม้แต่เสียงสะอื้นก็ไม่มีข้าจ้องหน้าเขาแ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1604

    สุดท้ายข้าก็ทำได้เพียงลอบเฝ้าติดตามแม่นางสุ่ยในเงามืดข้าคิดว่า ฆาตกรที่ฆ่าล้างครอบครัวนาง ย่อมต้องมีแรงจูงใจเป็นแน่หากโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ไม่เพราะรัก ก็ต้องเพราะแค้น หรือไม่ก็เพราะเงินทอง อย่างไรเสียย่อมต้องมีสักอย่างแม่นางสุ่ยยังมีชีวิตอยู่ แล้วฆาตกรจะสามารถหลบหนีไปได้อย่างสงบเช่นนั้นหรือ?มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า พอเรื่องราวเงียบไปแล้ว ฆาตกรจะย้อนกลับมาฆ่านางอีกครั้ง?การคาดคะเนนี้ดูจะมีเหตุผล แต่ประเด็นสำคัญคือ ข้าไม่อาจหาทิศทางอื่นได้อีกแล้วเถ้าแก่สวีเดิมทีจ้างแม่นมมาคอยดูแลแม่นางสุ่ย แต่แม่นางสุ่ยนั้นหวาดกลัวคนแปลกหน้าอย่างยิ่ง ดังนั้นเถ้าแก่สวีจึงได้แต่ขอร้องให้เพื่อนบ้านโดยรอบแวะเวียนมาดูบ้าง ส่งอาหารมาให้บ้างมารดาของหลิวเซิ่งจะมาทุกวันเว้นวัน เพื่ออาบน้ำล้างหน้าให้แม่นางสุ่ย คอยดูแลให้สะอาดเรียบร้อยข้าพบว่าตระกูลหลิวยังปฏิบัติต่อนางด้วยดี เพียงแต่หลิวเซิ่งผู้นั้นกลับไม่เคยมา หนึ่งคือเขาต้องกลับไปยังโรงเรียน สองคืออาจเพราะในใจก็ยังมีความคับแค้นอยู่บ้าง เพราะคำกล่าวหาของแม่นางสุ่ยที่ทำให้เขาต้องติดคุกอยู่ช่วงหนึ่งชายหนุ่มผู้เป็นบัณฑิตย่อมมีความเย่อหยิ่งในใจบ้าง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1603

    ก่อนจะไปยังหนานเจียง ข้าไม่เคยมีแผนการใดในชีวิต ไม่มีเป้าหมาย ไม่เคยมีสิ่งใดที่อยากทำเป็นพิเศษเมื่อยึดหนานเจียงกลับคืนมาแล้วเดินทางกลับสู่เมืองหลวง เสียงโห่ร้องยินดีจากราษฎรทำให้ข้ารู้สึกว่า หากมนุษย์ใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมายไปวันๆ เช่นนั้นจะไม่สูญเปล่าหรือ?ข้าจึงเริ่มครุ่นคิดถึงความหมายของชีวิตจากการติดตามย่างก้าวของซีซี ข้าก็ได้ทำสิ่งต่างๆ มากมาย ตั้งแต่โรงงานช่างไปจนถึงสถาบันการศึกษาหย่าจวินหญิงมากหลายล้วนประสบชะตาน่าเวทนา และข้ามีความสามารถที่จะช่วยพวกนางได้ ข้าคิดว่า นี่คงเป็นหนึ่งในความหมายของชีวิตว่าเป็น “หนึ่ง” ก็หมายความว่ายังอาจมี “สอง” และ “สาม” ตามมาได้มิใช่ข้าจะโอ้อวดตนเอง แต่เนื้อแท้ของข้าคือคนที่ชังความชั่วโดยสันดานดังนั้น เมื่อได้ยินว่ามีฆาตกรฆ่าคนจำนวนมาก แต่กลับลอยนวลเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ไม่อาจเอาผิดได้ ข้าย่อมโกรธเคืองนัก ข้าเห็นว่า คนฆ่าย่อมต้องชดใช้ด้วยชีวิตแรกเริ่ม ข้าไม่ได้กระทำการอันใดหุนหันพลันแล่น เพียงแต่เดินตามแนวทางของสำนักเขตจิงจ้าว สืบสาวเรื่องราวต่อไป และส่งมอบหลักฐานที่ได้มาให้แก่เจ้ากรมแห่งสำนักเขตจิงจ้าวจนกระทั่งข้าได้พบกับคดีหนึ่งที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1602

    ดอกเหมยบนภูเขาเหม่ยชานบานแล้ว ร่วงโรยแล้วเช่นกันในใจข้าย่อมอดเคืองนางไม่ได้ กลับบ้านไปแล้ว ก็จะทอดทิ้งพวกข้าด้วยหรือ? ไม่นึกถึงน้ำใจไมตรีที่มีต่อกันตลอดหลายปีมานี้เลยหรือ?เฉินเฉินก็ด่านางว่าไร้หัวใจ ไปก็แล้วไป ไยจึงไม่แม้แต่จะส่งจดหมายมาสักฉบับ?นานวันเข้าพวกข้าก็เลิกพูดถึงนางเสียเอง ราวกับว่าการไม่เอ่ยชื่อนางเลย คือการแก้แค้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อผู้ละทิ้งพวกข้าต่างก็ตกลงกันไว้ว่า หากนางกลับมายังภูเขาเหม่ยชานอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็จะไม่ไปพบนาง ไม่พูดกับนางสักคำ แม้นางจะให้คนส่งจดหมายมา ข้าก็จะไม่ตอบกลับ แม้แต่จะอ่านยังไม่อ่านวันเวลาผ่านไปกลางดาบคมและเงาเย็น พวกข้าทุกคนต่างฝึกฝนวิชาให้แกร่งกล้า ราวกับได้ตกลงกันไว้แล้วว่า หากยังไม่ตาย ก็จะฝึกจนสุดกำลังแม้ไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจา แต่ข้าย่อมรู้ว่าในใจของทุกคนคิดไม่ต่างกัน ย่อมไม่มีวันเป็น ‘นางที่ยิ้มแย้ม’ ได้อีกแล้ว เพราะเจ้าหวังห้าเล่าว่า ตั้งแต่นางจากเขาลงไป ท่านอาจารย์ก็ไม่เคยยิ้มอีกเลย มีแต่สีหน้าเคร่งเครียดทุกเมื่อเชื่อวันพวกข้าไม่รู้ว่านางประสบเรื่องราวใด แต่ข้าก็ฝึกฝนจนกล้าแข็ง เพียงรอวันที่นางต้องการข้า ดาบในมือย่อมพร้อมชักออกจา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1601

    เพียงแต่ ข้ากับซีซีพบกันแทบทุกวัน หากนางไม่มาหาข้าที่สถาบันชื่อเยียน ข้าก็จะไปหานางที่สำนักว่านซง ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงยังคงได้พบหวังเยว่จางอยู่เสมอทว่า ทุกคราที่เขาเห็นข้า ก็จะส่งสายตาเคียดแค้นมาให้ ราวกับข้าเป็นผู้ล่วงเกินเขากระนั้นครั้งหนึ่งข้าทนไม่ไหว เอ่ยถามเขาว่าจะมองเขม่นข้าไปถึงไหน เขากลับว่าข้าเป็นคนแพร่ข่าวลือ ว่าเขาไปเที่ยวหอนางโลมข้าก็โกรธแทบขาดใจ! เขาประพฤติเสียเอง ไม่รู้จักสำนึก กลับมาโทษคนที่บริสุทธิ์ ข้าไม่ได้แพร่ข่าวลือเสียหน่อย!ข้าแค่เล่าเรื่องนี้ให้สหายสนิทของข้าฟัง แล้วจะนับว่าแพร่ข่าวลือได้อย่างไร?ข้าโมโหจนต่อยเขาไปหนึ่งหมัด แล้วก็ประกาศตัดขาดกับเขาเสียเลยต่อมา ซีซีกลับบ้าน ข้าคิดว่าไม่นานนางก็คงกลับมาเช่นเคย แต่ครานี้ นางกลับหายไปเนิ่นนาน มิได้กลับสำนักภูเขาเหม่ยชานอีกเลยข้าไปที่สำนักว่านซงเพื่อถามหา แต่มิมีผู้ใดยอมปริปากแม้แต่คนเดียวด้วยความร้อนใจ ข้าคิดจะพาเฉินเฉินกับมันโถวออกเดินทางไปเมืองหลวงตามหานาง ก่อนออกเดินทาง หวังเยว่จางก็มาหาเราครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเขามีสีหน้าเคร่งขรึม เขาบอกพวกเราว่า ซีซีมีเรื่องในบ้าน บิดาและพี่ชายล้วนเสียชีวิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1600

    แต่จะว่าไปแล้ว สตรีเช่นข้า ก็เป็นที่โปรดปรานของบุรุษไม่น้อยที่ภูเขาเหม่ยชาน มีบุรุษมากมายชื่นชอบข้า เด็กหนุ่มวัยกำลังขึ้นหนวดอ่อนส่งจดหมายรักให้ข้าเขินๆ อายๆ ส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่าข้าก็ไม่เคยเปิดดู ต่อหน้าพวกเขาก็ฉีกมันทิ้งเสียเลยในเมื่อยามนั้น ข้ายังไม่ได้เข้าใจตรรกะของคำปฏิญาณที่ตนตั้งไว้ดีนัก ในใจก็ยังมีคำว่า "ไม่แต่ง" ขวางอยู่เต็มอกข้าฉีกจดหมายรักต่อหน้าพวกเขา ข้ารู้ว่าตนโหดร้าย แต่ขอโทษเถิด ในเมื่อข้าคือสตรีที่ตั้งใจว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องรักใคร่ชั่วชีวิต ข้าย่อมต้องใจแข็ง ไม่ปล่อยให้พวกเขามีแม้แต่นิดเดียวของความหวังร้องไห้เสียในตอนนี้ ยังดีกว่าติดบ่วงในวันหน้า จนเจ็บปวดปานฉีกหัวใจแม้พวกเขาจะบอกหน้าตาเศร้าว่าให้ข้าช่วยส่งจดหมายรักให้ซ่งซีซีก็ตาม ข้าก็ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยหึๆ ยังไม่ทันได้เป็นบุรุษเต็มตัว ก็รู้จักใช้เล่ห์กลยั่วยวนหญิงเสียแล้วที่ภูเขาเหม่ยชาน เพื่อนเล่นที่ดีที่สุดของข้าก็คือพวกซีซี หมั่นโถว เฉินเฉิน และกุ้นเอ๋อร์อ้อ เคยมีอยู่ช่วงหนึ่ง ศิษย์พี่ใหญ่ของเฉินเฉินก็มาเล่นกับพวกเราด้วย แต่น่าเสียดาย ต่อมาเขาก็ลงเขาไปผดุงคุณธรรมเสียแล้ว แต่เฉินเฉินบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1599

    ข้า...เสิ่นว่านจือคนดีคนเดิม ยังคงอยากจะบ่นอยู่ บ่นถึงบุรุษของข้าหวังเยว่จาง เจ้านี่ช่างสมกับเป็นบุตรของท่านฮูหยินผู้เฒ่าหวังเสียจริงก่อนแต่งงานเราก็ตกลงกันไว้ชัดเจนแล้วว่า ต่อแต่นี้ไปไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใด เขาห้ามแทรกแซง ห้ามห้ามปราม และห้ามเข้าร่วมโดยเด็ดขาดผลสุดท้าย เพิ่งแต่งได้ปีเดียว เขาก็ฉีกสัญญาทิ้งหมดสิ้น จะทำด้วยทุกเรื่องตามข้าสิ่งที่ข้าทำนั้น เขาเกี่ยวข้องได้หรือ? ย่อมไม่ได้ สำนักว่านซงมีกฎเข้มงวด อีกทั้งยังมีอาจารย์อาผู้เหี้ยมโหดนั่งประจำอยู่ หากรู้ว่าข้าพาหวังเยว่จางไปตัดหัวคน เกรงว่าจะบดกระดูกข้าเป็นผุยผงไปแล้วแต่เขาว่า เดิมเขาก็เป็นคนในยุทธภพ คนในยุทธภพล้วนถือความสะใจเป็นใหญ่ ทั้งบุญคุณและความแค้น ไม่ว่าเป็นของผู้ใด ก็ล้วนต้องตอบแทนอีกทั้งเราทำอย่างลับๆ สถาบันว่านซงเหมินย่อมไม่รู้เรื่องแต่พี่ห้า ท่านเข้าสังกัดกรมกลาโหมไปแล้วนะ ท่านก็เป็นขุนนางแล้ว จะยังพูดเรื่องยุทธภพสะใจล้างแค้นอะไรอีกเล่า?สิ่งที่ข้าทำ แม้แต่ซ่งซีซีก็ยังไม่รู้ทั้งหมด หรือหากนางรู้ นางก็คงเลือกที่จะปิดหูปิดตาเสีย เพราะว่ามันขัดแย้งกับสถานะ เข้าใจหรือไม่?ข้า...เสิ่นว่านจือ ไม่ย่างกรายเข้าสู่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1598

    บางครั้งข้าก็สอนศิษย์ทั้งหลายให้กล้าเผชิญหน้ากับชีวิต กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด แต่ตัวข้าเองกลับมิอาจกระทำได้เช่นนั้นหลายปีมานี้ ข้าแทบไม่ได้พบหน้าเขาเลย หากรู้ว่าเขาจะไปที่ใด ข้าย่อมหลีกเลี่ยงไม่ไปเมื่อครั้งที่ข้ายังดื้อดึงอยู่ เคยถูกพี่สะใภ้ตำหนิว่าข้ายังติดหนี้เจ้าสิบเอ็ดฝางอยู่ แต่ในใจข้ากลับไม่ยอมรับนัก ยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป ข้าน้อยใจไปเพื่ออะไรเล่า? ใครเป็นคนที่ติดหนี้ข้ากัน? ฟ้าดินเมตตาข้าไม่มากพอแล้วหรือ? ทุกสิ่งล้วนเป็นผลจากการกระทำของข้าเองทั้งสิ้นหลายครา ข้าเปิดกระดาษเขียนจดหมาย ตั้งใจจะเขียนถึงเขาเพื่อขอขมาจากใจจริงแต่ยามจับพู่กันลงหมึก พอหมึกหยดลงกระดาษกลับเขียนไม่ออกแม้แต่คำเดียวข้ากลัวว่าจดหมายขอขมานั้นจะดูแปลกประหลาดเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาระแวง หรือแม้แต่ทำให้จ้านเป่ยว่างคิดมากแม้ว่าตอนนี้ ข้ากับจ้านเป่ยว่างจะมิได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ต้องการทำลายความสงบเช่นนี้ระหว่างนั้น จ้านเป่ยว่างเคยกลับมาสองสามครั้ง อาจเพราะเห็นกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งในห้องหนังสือของข้า เขาจึงสั่งให้เตรียมเหล้าหนึ่งเหยือก กับกับข้า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status