Share

บทที่ 722

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ทันทีที่เสิ่นว่านจือตื่นขึ้นมา ก็ได้ยินว่าซีซีกำลังจะเข้ารับราชการในราชสำนัก เป็นผู้บัญชาการกองทัพซวนเจียอย่างแท้จริง จากนี้ไปจะรับผิดชอบกองกำลังเมืองหลวง ค่ายลาดตระเวน และทหารรักษาพระราชวังเป็นต้น

ราวกับอยู่ในความฝัน นางส่งเสียงร้อง จากนั้นขยี้ตาแล้วถามว่า "เจ้าจะรับข้าราชการชั่วๆ นั้นจริงๆ หรือ"

ซ่งซีซีหัวเราะเบาๆ "ข้าราชการชั่วๆ อะไรกัน จะเป็นข้าราชการดีๆ ไม่ได้หรือไง?"

"งั้นก็เป็นข้าราชการที่ซื่อสัตย์" เสิ่นว่านจือยกมือขึ้นแล้วใช้นิ้วแตะที่คางจากนั้นเดินรอบๆ ซ่งซีซี "ก็ได้ ซีซีของเราสามารถเป็นข้าราชการที่ซื่อสัตย์ได้"

ซ่งซีซีจำได้ว่าพวกนางเคยอยู่ในแวดวงการต่อสู้ แล้วตอนนั้นก็เหมือนกับพวกนักสู้ทั่วๆ ไปดูถูกข้ารชการท้องถิ่น โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าเป็นผู้ทุจริต ก็จะเรียกพวกเขาว่า "ข้าราชการชั่วๆ"

แน่นอนว่าพวกนางได้พบกับข้าราชการดีๆ เช่นกัน เป็นขุนนางที่ซื่อสัตย์ ทำเพื่อประชาชน และสมเป็นข้าราชการอย่างแท้จริง พวกนางต่างก็ชื่นชมเขามาก

น่าเสียดายที่พวกนางออกไปมองโลกไม่ได้นานเท่าไหรก็ถูกจับตัวกลับไป ยังถูกศิษย์อาจำคุกเป็นเวลาครึ่งเดือน

เมื่อนึกถึงอดีตในภูเขาเหม่ยชาน รอยยิ้มของซ่งซีซีก็ส
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
wipart skulphapnimit
ชอบเเนวสงครามนางเอกเก่งตอนเเรกๆๆสนุกมาก... หลังๆๆก็ชวนติดตาม
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 723

    มีอยู่วันหนึ่ง มีเหตการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในเมืองหลวง คุณท่านหยูได้ยินคนรับใช้ที่ออกไปซื้อของกลับมาเล่าเรื่องแล้วด้วย เขากำชับคนใช้อย่าไปสนใจ หลานชายทำหน้าที่หัวหน้าดูแลจวนในจวนเป่ยหมิงอ๋อง พวกเขาจะไม่เข้าไปยุ่งกับการเมือง แม้แต่พูดถึงคำเดียวก็ไม่ได้แน่นอนว่าคุณท่านหยูไม่คิดว่าเหตุการณ์ในวันนี้จะเกี่ยวข้องกับครอบครัวของเขา อย่างไรก็ตาม เมื่ออาศัยอยู่ในเมืองหลวง พวกเขาจะยึดหลักการข้อเดียวคือต้องระมัดระวังทั้งคำพูดและการกระทำเพื่อไม่ให้สร้างปัญหาให้หลานชายหลังอาหารเช้า คุณท่านอาบแดดในลานบ้าน อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ และหลังจากเข้าฤดูหนาว แสงอาทิตย์จะหายากมาก"ท่านพ่อ ได้ยินเสี่ยวเอ๋อบอกว่าท่านกินข้าวเช้าน้อยมาก รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า" นางหยู ท่านแม่ของอาจารย์หยูเดินเข้าไปถามพ่อตาพลางคารวะให้"กินไม่ลง ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง" คุณท่านหยูลืมตาขึ้นและเห็นลูกสะใภ้ที่ดูเหนื่อยล้า เขาก็ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “ฝันร้ายอีกแล้วเหรอ?”นางหยูไม่สามารถซ่อนความเศร้าของนางได้ "เมื่อเร็ว ๆ นี้ข้ามักจะฝันถึงเสี่ยวไป๋ ไม่รู้ว่าทำไม"คุณท่านหยูถอนหายใจ เขารู้ว่าความฝันที่ลูกสะใภ้บอกว่าฝันถึง ไม่ใช่แ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 724

    ขณะที่รถม้ามุ่งหน้าสู่จวนอ๋อง นางหยูก็ถือกล่องอาหารไม้สองชั้นไว้ในมือ แม้ว่านางจะพยายามกลั้นไว้แล้ว แต่น้ำตาก็ยังคงไหลรินราวกับลูกปัดที่แตกออกสิบแปดปี ทั้งหมดมีวันมากเท่าไร งั้นก็ต้องทนทุกข์ทรมานนานมากเท่านั้น ไม่มีวันลืมนางเสียใจทุกๆ วันว่าทำไมตนเองไม่ปฏิบัติต่อนางให้ดีกว่านั้นพ่อแม่สามี สามีะละ ลูกชายที่บ้านต่างรักใคร่หยูไป๋ มีแต่นางคนเดียวที่เข้มงวดกับนาง เคยตบฝ่ามือของนาง ลงโทษนางให้ขังบริเวณ ให้นางอดอาหาร...หลายปีที่ผ่านมา มีเรื่องมากมายเบลอไป แต่ใบหน้าเล็กๆ นางที่รู้สึกคับข้องใจนั้นยังจำได้ชัดเจน ใบหน้าเล็กๆ อาบน้ำตา และเมื่อถูกสั่งสอนแล้วก็จะเข้ามาใกล้ ทุกฉากรวมๆ กันมันเป็นความทรงจำที่ฝังลึกในใจ ได้โจมตีหัวใจลึกๆ ของนางทุกวันนางยกโทษให้ตัวเองไม่ได้ เด็กก็ไม่ได้ซุกซนมากนัก แล้วทำไมต้องดุนาง? ทำไมต้องตีนาง ? ทำให้ให้นางร้องไห้? ให้ตามใจนางเหมือนคนอื่น ๆ ไม่ได้หรือ?บนรถม้า อาจารย์หยูเล่าให้พวกเขาฟังเรื่องที่หยูไป๋เจอหลังจากที่นางถูกลักพาตัวอย่างละเอียด นางหยูฟังดูแล้วน้ำตาก็หลั่งไม่หยุดนางเกือบตาย และถูกทิ้งให้อยู่ในป่าทั้งๆ ที่ยังเป็นไข้อยู่แต่นางก็โชคดีที่มีคนรับน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 725

    เสิ่นว่านจือชอบเห็นการรวมตัวกันอย่างมีความสุขมากที่สุด แต่กลัวการร้องไห้เมื่อต้องเห็นการแยกจากกันและความตายนางไม่รู้ว่าจะปลอบหยูไป๋อย่างไร ดังนั้นจึงทำได้แค่ลูบหลังหยูไป๋ "เจ้าอย่าเศร้าใจมากเกินไป ล้วนเป็นโชคชะตาเลย หัวหน้ากลุ่มต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วย... แม้ว่าความตายไม่ใช่ทางออกที่ดี แต่อย่างน้อยไม่ได้ตายอย่างทรมาน"ในขณะนี้ เสิ่นว่านจือหวังว่าหัวหน้ากลุ่มจะถูกแทงคอด้วยดาบในขณะที่เขาหลับนอนอยู่จริงๆที่จริงแล้วอาจารย์หยูเสนอแนะให้บอกนางว่าหัวหน้ากลุ่มเสียชีวิตด้วยอาการป่วยแต่ทั้งท่านอ๋องและซีซีต่างไม่เห็นด้วย หยูไป๋มีสิทธิ์รู้ว่าใครเป็นคนฆ่าหัวหน้ากลุ่มนางเองก็คิดเช่นนั้น หากคนฆ่าอาจารย์ของนาง... บ๊ะ บ๊ะๆ แค่สมมต งั้นนางต้องรู้ว่าใครเป็นศัตรูแทนที่จะถูกปกปิดไว้อย่างโง่ๆหยูไป๋ยังคงร้องไห้เศร้าใจ และเสิ่นว่านจือได้แต่พูดว่า "อย่าเศร้าเลย ตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปหาอาจารย์หยู ท่านปู่เจ้า และท่านแม่เจ้าด้วย ท่านพ่อของเจ้าก็กำลังเดินทางมาเมืองหลวงเช่นกัน ข้าเชื่อว่าหากหัวหน้ากลุ่มอยู่ในสวรรค์ได้เห็นเจ้าตามหาคนของครอบครัวเจอ ก็จะดีใจแทนเจ้าแน่ๆ"เมื่อได้ยินว่าจะไปพบกับคนในครอบค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 726

    หยูไป๋รู้สึกคับข้องใจมาก เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกอุ้มผู้หญิงอ่อนแอข้างหน้าไว้ ความคับข้องใจทั้งหมดที่ได้รับในอดีตหลั่งไหลออกมาราวกับแม่น้ำที่เปิดประตูนี่คือแม่แท้ๆ ของนาง นางไม่เคยฝันว่าจะได้อุ้มแม่ไว้ในอ้อมแขนแบบนี้จากนั้นอาจารย์หยูก็พาปู่เข้าไปหา หลังจากได้เจอหน้า ชายชราและอาจารย์หยูก็หลั่งน้ำตาทันที และเข้าไปในห้องโถงหลัก นางหยูยังคงจับมือของลูกสาวไว้แน่นไม่ยอมปล่อย หยูไป๋ในความทรงจำของนางแค่เจ็ดขวบเอง บัดนี้ก็อายุยี่สิห้าปีแล้วภาพในความทรงจำของหยูไป๋ค่อยๆ ชัดเจนขึ้น แต่แม่ในความทรงจำของนางยังสาวอยู่ เป็นคนแข็งแกร่ง ตอนที่ดุนาง ขนาดเพื่อนข้างบ้านก็สามารถได้ยิน เวลานี้กลับไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะพูดคุยเสิ่นว่านจือและซ่งซีซีซ่อนตัวอยู่ข้างนอกและเฝ้าดูโดยเช็ดน้ำตาไปด้วยฟังพวกเขาร้องไห้พลางพูดคุยเกี่ยวกับอดีต ทั้งสองคนก็หลั่งน้ำตาเช่นกัน รู้สึกทั้งตื้นตันใจและอึดอัดด้วยปรากฎว่าอาจารย์หยูเป็นคนอบอุ่นตั้งแต่เด็ก และเอ็นดูน้องสาวมากเช่นนั้น ที่แท้นางหยูเคยเป็นผู้หญิงแข็งแกร่ง ที่แท้หยูไป๋เคยเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ จอมซน คล้ายกับตอนที่พวกนางอยู่ใน ภูเขาเหม่ยชานซ่งซีซียังเจียดเว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 727

    ในห้องโถงด้านข้าง อู๋ต้าปั้นเพิ่งกินขนมเสร็จ และดื่มชาหนึ่งแก้ว เมื่อเห็นพระชายาเข้ามา เขาก็ยืนขึ้นด้วยรอยยิ้มเพื่อไหว้นางซ่งซีซีรีบยกมือเพื่อทำท่าปฏิเสธ "อู๋กงกง ไม่ต้องมากพิธี เชิญนั่งเลย"นางรู้ว่าอู๋ต้าปั้นได้ช่วยนางทั้งแบบเปิดเผยและอย่างลับๆ มาไม่น้อย ยังไม่มีโอกาสได้ขอบคุณเขาแบบต่อหน้าจริงๆ วันนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีเลยหลังจากที่อู๋ต้าปั้นนั่งลง ซ่งซีซีก็คารวะให้เขา "กงกง หลายปีที่ผ่านมาข้ารู้ว่าเจ้าช่วยท่านแม่และข้ามากมาย หลังจากที่ข้าแต่งงานเข้าจวนอ๋อง เมื่อต่อหน้าฮ่องเต้ ข้าว่าเจ้าคงช่วยพูดแทนให้ท่านอ๋องไปไม่น้อย ขอบคุณจริงๆ"อู๋ต้าปั้นมองนา ด้วยรอยยิ้มที่สดใส "พระชายากล่าวขอบคุณเช่นนี้ ข้าน้อยไม่กล้ารับเลย รีบนั่งลงเถอะ ข้าน้อยมีเรื่องจะคุยกับท่าน"ซ่งซีซีนั่งลงด้วยสายตาอันอบอุ่น "กงกงพูดได้เลย""สำหรับงานนี้" อู๋ต้าปั้นมองดูนาง สีหน้าค่อยๆ เริ่มจริงจังขึ้น "ท่านแค่ทำงานให้เต็มที่ ในเมื่อฮ่องเต้ไว้ใจท่าน ใช้งานท่าน งั้นก็จะเชื่อใจท่านอย่างเท่าที่ทำได้ แต่พระชายาทรงจำอย่างหนึ่งไว้ สามีภรรยาอย่าเกิดความบาดหมางกัน ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ขอแค่ไม่ได้ทำเรื่องที่ทำให้ผิดหวังงั้น

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 728

    จวนองค์หญิงใหญ่ในปัจจุบันอยู่ในความยุ่งเหยิงคนที่ดูแลจวนทั้งหมดรวมทั้งองค์หญิงใหญ่ถูกนำตัวไป ส่วนทาสในจวนให้อยู่ในจวนองค์หญิงต่อ หอต้าหลี่ส่งคนไปเฝ้าดู อีกเดี๋ยวพอต้องสอบปากคำนั้นก็ต้องนำตัวไปด้วยกองกำลังเมืองหลวงและค่ายลาดตระเวนถอนตัวออก และคดีนี้ถูกส่งมอบให้กับหอต้าหลี่เฉินยี ผู้ช่วยหอต้าหลี่จัดคนไปจัดการกับสตรีเหล่านี้ ส่งจดหมายถึงครอบครัวของพวกนาง เมื่อคดีจบลง หากต้องยึดทรัพย์สินในจวน งั้นจะให้ทางจวนองค์หญิงใหญ่ออกเงินมาชดเชยให้พวกนางสำหรับหลินเฟิ้งเอ๋อ เนื่องจากครอบครัวของนางอยู่ในเมืองหลวงอยู่แล้ว จึงให้นางกลับบ้านก่อน กู้ชิงหลานมารับเอง กู้ชิงหลานเหมือนกับกำลังฝันอยู่ นางไม่กล้าจะเชื่อว่าแผนการไม่ได้เป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำที่ตุลาคม แต่เป็นวันขึ้น ๑ ค่ำที่ตุลาคม พระชายายังปกปิดนางด้วยนางรู้สึกโกรธมาก พระชายาไม่ไว้ใจนาง นางบอกทุกอย่างให้พระชายารู้หมด ถึงขนาดพาท่านพ่อไปด้วย แต่พระชายายังปกปิดแผนการเอาไว้บนรถม้ากลับบ้าน หลินเฟิ้งเอ๋อได้บอกนางว่า "พ่อของลูกไม่คิดที่จะร่วมมือกับพระชายาเลย เขายังเปิดเผยแผนงานวันขึ้น ๑๕ ค่ำให้องค์หญิง หากมิใช่เพราะแผนการของพวกเจ้าได้เลื่อนเวลาขึ้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 729

    กู้ชิงหลานรู้สึกใจสั่น "ไม่ได้หรอก ถ้านางต้องการหาครอบครัวที่มีอำนาจร่ำรวยให้เป็นที่พึ่งพาจริงๆ งั้นเหลียงถ้านฮัวคนนั้นก็ไม่เลวมิใช่หรือ เหลียงเส้าคนนั้นก็ชอบใจนางมาก"ในใจของของหลินเฟิ้งเอ๋อเต็มไปด้วยความขมขื่น "เหลียงเส้าเป็นซื่อจื่อของจวนเฉิงเอินป๋อ และเป็นถ้านฮัวด้วย เขาแต่งงานกับท่านหญิงหยงอันจากจวนอ๋องฮวย นางไม่มีความหวังที่จะเป็นภรรยาเอกได้ นอกจากนี้ เหลียงเส้าปากบอกว่ารักนางแต่ไม่เคยทำอะไรเพื่อนางเลย รักใครนางเช่นนั้น กลับไม่กล้าแต่งตั้งให้นางเป็นภรรยาที่เท่าเทียมกันด้วยซ้ำ"กู้ชิงหลานอึ้งไป "ภรรยาที่เท่าเทียมกันเหรอ?"ขณะที่รถม้าเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ หลินเฟิ้งเอ๋อพูดด้วยสายตาที่แผ่วเบา "ใช่ นางบอกว่ามีแต่เป็นภรรยาที่เท่าเทียมเท่านั้นจึงจะสามารถมีโอกาสที่จะครองตำแหน่งภรรยาเอกหลังจากที่ภรรยาคนแรกตายไป ถ้าไม่สามารถเป็นภรรยาที่เท่าเทียมได้ งั้นได้แต่เป็นแค่อนุ ต่อให้นายหญิงเสียชีวิต นางก็เป็นภรรยาเอกไม่ได้ นางบอกว่านางเป็นอนุภรรยาได้ แต่ไม่มีทางเป็นอนุภรรยาไปตลอดชีวิต"กู้ชิงหลานรู้สึกสับสนอยู่มาก และพึมพำ "เป็นเรื่องปกติที่พี่สาวไม่ต้องการเป็นอนุภรรยา หากมิใช่จำเป็นจริงๆ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 730

    วันนี้ หอต้าหลี่ยุ่งมากจริงๆ ต้าหลี่ซื่อชิงออกคำสั่งและยกเลิกวันหยุดทั้งหมดของเจ้าหน้าที่สำนัก แม้แต่ต้าหลี่เฉิง (ชื่อตำแหน่งงานในหอต้าหลี่)สวีผิงอันยังอยู่บ้านเพื่อไว้ทุกข์ กำลังกังวลอยู่ว่าหลัวจากกับไว้ทุกข์เสร็จ ตำแหน่งงานนี้ยังจะรักษาไว้อยู่หรือไม่ แต่แล้วกับเกิดคดีกบฏ หลังจากท่านอ๋องรายงานกับฮ่องเต้แล้ว เขาก็สวมเครื่องแบบกลับหอต้าหลี่เลยองค์หญิงใหญ่และฝู้หม่ากู้ถูกนำตัวกลับไปที่หอต้าหลี่ เซี่ยหลูโม่จะสอบปากคำนางด้วยตนเอง และเส้าชิง(เส้าชิงเป็นตำแหน่งงานรองจากต้าหลี่ซื่อชิง)เฉินยีรับผิดชอบสอบปากคำฝู้หม่ากู้ ส่วนพวกผู้ดูแลจวน ทาส หมอประจำจวนและคนใช้ต่างๆ ก็มอบให้เป็นหน้าที่ของต้าหลี่เฉิงสวีผิงอันและต้าหลี่เจิ้ง(ตำแหน่งต้าหลี่เจิ้งรองจากต้าหลี่เฉิง)หลูเจิ้งยี่มาสอบปากคำเซี่ยหลูโม่ไม่รีบร้อนที่จะสอบปากคำองค์หญิงใหญ่ แต่กลับให้คนขนส่งอาวุธทั้งหมดจากจวนองค์หญิงไปยังหอต้าหลี่เพื่อเป็นหลักฐานทางกายภาพคนอื่นๆ ก็เริ่มสอบปากคำแล้วหลังจากยุ่งจนฟ้ามืด แค่สอบปากคำไปไม่กี่คนเท่านั้น เซี่ยหลูโม่สั่งให้มีการสอบสวนเป็นกะ ก็คือไม่หยุด ดังนั้นเฉินยีจึงรวบรวมข้อมูลที่ได้สอบสวนมาและรายงานให้เซี

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1518

    จักรพรรดิ์ซูชิงทรงประชุมหารือกับขุนนางในห้องทรงอักษรยาวนานจนถึงดึกดื่น สุดท้ายเป็นหมอมหัศจรรย์ดันที่ต้องเข้าไปขัดจังหวะ แจ้งว่าดึกมากแล้ว พระองค์ถึงกับเหยียดพระกรพลางแย้มพระสรวล “ถึงกับดึกเพียงนี้แล้วรึ? เช่นนั้นก็เลิกประชุมเถิด ประตูวังใกล้จะปิดแล้ว”แม้จะเป็นช่วงเวลาดึกมากแล้ว แต่พระองค์กลับยังดูสดชื่น โดยเฉพาะบนพระพักตร์ที่มีเลือดฝาดขึ้น ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนผู้ที่ประชวรเลยซ่งซีซีรอให้เซี่ยหลูโม่ประชุมเสร็จ ก่อนจะออกจากวังกลับจวนพร้อมกันนางอ่อนล้ามาก พิงไหล่ของเซี่ยหลูโม่แล้วเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัวเมื่อรถม้ามาถึงหน้าจวน เซี่ยหลูโม่อุ้มนางขึ้นมา ซ่งซีซีรับรู้ได้รางๆ แต่ก็ขี้เกียจจะตื่น เลยปล่อยให้เขาอุ้มเข้าไป อ้อมแขนอบอุ่นแข็งแกร่งช่างสบายเหลือเกินตลอดสามเดือนที่ผ่านมา นอกจากตอนอยู่ที่ด่านเฉิงหลิง นางแทบไม่มีคืนไหนที่สามารถนอนหลับได้อย่างสนิทใจ แต่เมื่อกลับถึงจวน ก็รู้สึกผ่อนคลายลงอย่างสมบูรณ์ ดำดิ่งสู่ห้วงนิทราลึกทว่า…นอนหลับไปก็ยังรู้สึกว่ามีมือร้อนจัดคู่หนึ่งลูบไล้ไปทั่วร่างนางยังคงหลับตา เอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า “ลืมที่ท่านลุงดันบอกไปแล้วหรือ?”เสียงร้อนผ่าวกระซิบข

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1517

    วันที่ 15 เดือนสิบ คณะทูตจึงเดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงในที่สุดกองทัพซวนเจียได้รับคำสั่งให้แยกย้ายไปพักก่อน ขณะที่หลี่เต๋อฮวยและขุนนางจากสำนักหงหลู่ต้องเข้าเฝ้าพระองค์เพื่อถวายรายงาน ส่วนฉินอ๋องที่ตลอดทางอ่อนแอราวกับช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตอนนี้กลับกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที กล่าวว่าจะเข้าเฝ้าพร้อมกับพวกเขาด้วยส่วนซ่งซีซีนั้น ถูกเซี่ยหลูโม่ที่เฝ้ารออยู่ที่ประตูเมืองรับตัวกลับจวนไปก่อนแล้วช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาสั่งให้คนคอยเฝ้ารอที่ประตูเมืองทุกวัน บางครั้งตอนพักกลางวันก็ยังมารอด้วยตนเอง และวันนี้ก็บังเอิญได้พบกันจริงๆขณะที่หลี่เต๋อฮวยและคนอื่นๆเข้าเฝ้าในวัง ซ่งซีซีก็ได้เข้าไปคารวะฮุ่ยไท่เฟยก่อนแล้วเมื่อฮุ่ยไท่เฟยรู้ว่านางเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ก็ให้รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซ่งซีซีและเซี่ยหลูโม่ถวายคำนับก่อนออกไป และกลับไปยังเรือนเหมยฮวาหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ริมฝีปากของนางกลับดูบวมขึ้นเล็กน้อย รุ่ยจูที่เห็นถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนจะเหลือบมองไปทางท่านอ๋อง พระชายาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ท่านอ๋องยืนกรานจะปรนนิบัติด้วยตัวเอง แต่ดูเหมือนจะปรนนิบัติได้ไม่ดีเท่าไรน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1516

    เมื่อได้พักฟื้นอยู่ห้าวันที่ด่านเฉิงหลิง ฉินอ๋องก็ฟื้นตัวขึ้นมาบ้างแล้วเมื่อฉินอ๋องหายดี ก็ถึงเวลาต้องออกเดินทางกลับเมืองหลวงแม้จะอาลัยเพียงใด ซ่งซีซีก็ทำได้เพียงกลั้นน้ำตากล่าวคำอำลา นางคุกเข่าคารวะต่อหน้าแม่ทัพใหญ่เซียวอยู่หลายครั้ง จนแทบจะทำให้ท่านน้ำตาคลอหลี่เต๋อฮวยเป็นผู้ที่เคารพนับถือแม่ทัพใหญ่เซียวที่สุด เมื่อซ่งซีซีเพียงแค่น้ำตาคลอ แต่เขากลับปิดหน้าและร้องไห้ออกมาเต็มที่ เพราะเขารู้ว่า บางทีตลอดชีวิตนี้ อาจไม่มีโอกาสได้พบกับท่านแม่ทัพผู้เฝ้ารักษาด่านเฉิงหลิงมาเป็นสิบๆ ปีอีกแล้วแม่ทัพใหญ่เซียวเข้าสู่วัยชราโดยสมบูรณ์ เมื่อมองดูอีกครั้งก็ดูแก่ชรากว่าครั้งก่อนอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าฮ่องเต้จะพระราชทานอนุญาตให้ท่านกลับเมืองหลวงได้ แต่ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางอันยากลำบาก ทายาทตระกูลเซียวก็คงไม่ยอมให้ท่านเดินทางกลับอีกแล้วแม่ทัพใหญ่เซียวสนทนากับหลี่เต๋อฮวยอยู่ครู่หนึ่ง ทว่าแทนที่จะบรรเทาความรู้สึกของเขา กลับทำให้เขาร้องไห้หนักกว่าเดิมเสียอีกด้านนางหนานผู้เป็นป้าใหญ่ ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยถามถึงเรื่องของ พระชายาอ๋องฮวยเลย จนกระทั่งถึงเวลาต้องอำลากัน นางจึงดึงซ่งซีซีไปค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1515

    การเดินทางกลับเริ่มขึ้นในช่วงต้นเดือนเก้าอากาศไม่ร้อนจัดอีกต่อไป เริ่มมีความเย็นสบายแผ่วเบาซูลันจีนำทัพออกมาส่งด้วยตัวเอง พาพวกเขาไปจนถึงเมืองลู่เปินเอ่อร์ตลอดเส้นทางขากลับ ไม่มีการลอบสังหารเกิดขึ้น ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นเมื่อข้ามภูเขาสลับซับซ้อนมาได้ ก็เข้าสู่เขตแดนของแคว้นซางเดิมทีพวกเขาไม่ได้แจ้งแม่ทัพใหญ่เซียวล่วงหน้า คิดว่าคงไม่มีใครมารับ แต่ทันทีที่เข้าสู่ชายแดนแคว้นซาง ก็พบว่าจ้านเป่ยว่างนำทัพเซียวเจียจวินรออยู่ที่นั่นเมื่อเห็นว่าพวกเขากลับมาโดยปลอดภัย จ้านเป่ยว่างก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกอย่างเห็นได้ชัด เขากระตุ้นม้าเข้ามาใกล้ ก่อนลงจากหลังม้าแล้วทำความเคารพฉินอ๋อง หลี่เต๋อฮวยและขุนนางท่านอื่นๆ “ท่านอ๋อง เสนาบดีหลี่ ท่านขุนนางทั้งหลาย แม่ทัพใหญ่เซียวสั่งให้ข้านำทัพมาคอยเฝ้ารอที่นี่ทุกวัน เพื่อคุ้มกันพวกท่านกลับไปยังเฉิงหลิงกวน”หลี่เต๋อฮวยเอ่ยถามด้วยความสงสัย “แม่ทัพใหญ่รู้ได้อย่างไรว่าพวกเราจะกลับมาวันนี้?”จ้านเป่ยว่างตอบว่า “แม่ทัพใหญ่ไม่ทราบ เพียงแต่สั่งให้ข้าและกองทัพมาเฝ้าอยู่ที่นี่ทุกวัน”“ที่แท้เป็นเช่นนี้” หลี่เต๋อฮวยรู้สึกว่าแม่ทัพใหญ่เซียวเป็นคนรอบคอบย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1514

    อันเฟิงชินอ๋องกล่าวว่า “การเดินทางครั้งนี้ มิใช่เพียงเพื่อซีจิงและแคว้นซาง แต่ก็เพื่อเป่ยถังของเราด้วย มิจำเป็นต้องกล่าวขอบคุณ ระหว่างแคว้นต่อแคว้น สิ่งที่มาก่อนคือผลประโยชน์ มีเพียงความสัมพันธ์ส่วนตัวเท่านั้น ที่จะสามารถปฏิบัติต่อกันด้วยใจจริง”ซ่งซีซีรับคำสอน แต่ก็นึกสงสัย จึงเอ่ยถามว่า “ท่านเคยรู้จักอาจารย์เหรินหยางอวิ๋นของข้าหรือไม่?”อันเฟิงชินอ๋องหัวเราะเบาๆ “รู้จัก เขาเคยมาเยือนเป่ยถัง และเคยพำนักอยู่ที่ไจ้ซิงโหลวอยู่ช่วงหนึ่ง แม่ทัพองครักษ์เงาของข้า ‘เฮยอิ่ง’ สนิทสนมกับอาจารย์ของเจ้ามาก พวกเขามักดื่มสุราด้วยกันเป็นประจำ”“เช่นนี้เองหรือ” ซ่งซีซีนึกถึงบรรดาผู้สวมชุดดำพวกนั้น ไม่รู้ว่าคนไหนคือเฮยอิ่ง หากไม่ได้พบหน้าสักครั้ง คงเป็นเรื่องน่าเสียดายอันเฟิงชินอ๋องคล้ายจะมองออกถึงความคิดของนาง ยิ้มพลางกล่าวว่า “อีกสามปี หรืออาจห้าปี พวกเราจะไปเยือนแคว้นซาง ถึงตอนนั้น ข้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จักกับเฮยอิ่ง”ซ่งซีซีกำลังจะกล่าวขอบคุณ ทว่าเสิ่นว่านจือก็ถามขึ้นก่อน “เหตุใดต้องเป็นสามปีหรือห้าปี? ไปเร็วกว่านี้ไม่ได้หรือ? พวกเราตั้งตารอให้ท่านกับพระชายามาเยือน”อันเฟิงชินอ๋องเพียงยิ้ม แต่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1513

    หลังจากเดินสำรวจอยู่สองวัน ซูลันจีก็กล่าวกับซ่งซีซีว่า “แคว้นของท่านมีหมอเทวดาผู้หนึ่ง นามว่าหมอมหัศจรรย์ดัน เขาได้คิดค้นยาชนิดหนึ่งชื่อว่ายาดันเสวี่ย ซึ่งมีสมุนไพรสำคัญชนิดหนึ่งเป็นส่วนประกอบ นั่นคือเสวี่ยเหอฮวา ทว่าแคว้นของท่านผลิตได้น้อยมาก หนานเจียงเองก็มี แต่เติบโตอยู่บนยอดเขาหิมะ เก็บเกี่ยวได้ยากยิ่ง และมีปริมาณน้อย แต่ในซีจิงของเรา เสวี่ยเหอฮวามิใช่ของหายาก บนภูเขาสูงสามารถพบเห็นได้ทั่วไป หมอมหัศจรรย์ดันที่ใช้สมุนไพรชนิดนี้ ต้องลักลอบซื้อจากพ่อค้ายาในซีจิง ราคาจึงแพงมาก ด้วยต้นทุนขนาดนี้ ขายยาดันเสวี่ยไปหนึ่งเม็ด เขาก็ขาดทุนหนึ่งเม็ด”ซ่งซีซีทราบดีว่ายาดันเสวี่ยเป็นยาที่หายาก เนื่องจากมีสมุนไพรบางชนิดที่หาไม่ครบ แต่ท่านลุงดันก็ไม่เคยบอกอย่างชัดเจนว่าสมุนไพรตัวใดที่ขาดอย่างไรก็ตาม หากเขาต้องซื้อยาจากพ่อค้าชาวซีจิง ก็สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงต้องปิดเป็นความลับ เพราะก่อนหน้านี้ ซีจิงและแคว้นซางมิได้มีการค้าขายกันโดยตรง โดยเฉพาะสมุนไพร ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษซูลันจีและจักรพรรดินีหยวนซินต่างคิดไปในทิศทางเดียวกัน พวกเขาสืบเรื่องนี้อย่างละเอียดขนาดนี้ นั่นหมายความว่าพวกเขาต

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1512

    ตำแหน่งที่เขานั่ง แสดงถึงจุดยืนของเป่ยถังในการเจรจาครั้งนี้!เป็นกลาง!ซ่งซีซีอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอีกครั้งว่า การที่แคว้นเข้มแข็งนั้นดีเพียงใดการเจรจาในช่วงแรกเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ คำพูดซ้ำไปซ้ำมา ถูกเน้นย้ำไม่รู้จบ ล่ามของทั้งสองฝ่ายทำหน้าที่แปล โดยส่วนใหญ่เป็นการกล่าวถึงปัญหาทางประวัติศาสตร์นี่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หากเริ่มต้นด้วยการยอมถอยแต่แรก ก็จะต้องถอยไปเรื่อยๆดังนั้น การเจรจาครั้งแรกจึงไม่ได้ข้อสรุปใดๆ เป็นเพียงการลองเชิงขีดจำกัดของกันและกันในวันรุ่งขึ้น การเจรจาครั้งที่สองเริ่มต้นขึ้น ตอนแรกก็ยังคงเน้นย้ำเรื่องเดิมสองรอบ จนกระทั่งอันเฟิงชินอ๋องเอ่ยขึ้นว่า “ถ่วงเวลาเช่นนี้ไม่มีความหมาย สองแคว้นของพวกเจ้าโต้เถียงกันเรื่องพรมแดนมาหลายสิบปีแล้ว นี่ไม่ใช่ปัญหาที่จะสามารถแก้ไขได้ในวันเดียว เราพักเรื่องพรมแดนไว้ก่อน ข้าอยากรู้ว่าพวกเจ้ามีความตั้งใจจะทำสัญญาสันติระหว่างสองแคว้นหรือไม่ และจะไม่ละเมิดต่อกัน?”ทุกคนล้วนให้คำตอบที่แน่ชัด ต่างกล่าวว่าตนมาโดยมีความหวังที่ดี อยากให้สองแคว้นยุติความขัดแย้งอันเฟิงชินอ๋องหยิบแผ่นรายการออกมาแผ่นหนึ่ง บนกระดาษระบุรายการสินค้าของ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1511

    ทว่า ซ่งซีซีสังเกตเห็นว่าบรรดาญาติวงศ์ตระกูลและขุนนางของซีจิงดูเหมือนไม่รู้เรื่องที่เป่ยถังจะเข้ามาแทรกแซงการเจรจา พวกเขาล้วนเผยสีหน้าตกตะลึงหลังจากตกตะลึง พวกเขากลับแสดงความยินดีและมั่นใจออกมา คิดดูแล้วพวกเขาก็คงเห็นว่าการที่เป่ยถังเข้าร่วมเป็นการช่วยหนุนหลังซีจิงเห็นเช่นนี้ซ่งซีซีกลับรู้สึกวางใจขึ้นเล็กน้อยเพราะหากเป็นเช่นนั้นจักรพรรดินีหยวนซินย่อมสามารถแจ้งพวกเขาล่วงหน้าได้ อย่างน้อยก็ควรให้ขุนนางที่ร่วมเจรจารับรู้แต่นางเหตุใดจึงไม่กล่าวถึงเรื่องนี้เล่าดูเหมือนว่ามีเพียงความเป็นไปได้หนึ่งเดียว นางเองก็หวังให้ต่างฝ่ายต่างยอมผ่อนปรนกัน อีกทั้งบรรดาขุนนางในราชสำนักที่สนับสนุนนางนั้นมีไม่มาก ดังนั้นนางจึงเชิญเป่ยถังอันเฟิงชินอ๋องมา เพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับได้เช่นนี้ก็สามารถอธิบายได้ว่าคืนก่อนที่จักรพรรดินีหยวนซินเรียกนางและเสิ่นว่านจือเข้าเฝ้าในวัง เหตุใดนางจึงกล่าวถ้อยคำว่าความปรารถนามิอาจเป็นจริง การสอบเข้ารับราชการของสตรีเป็นเพียงตัวอย่างที่ยกขึ้นมา นางต้องการสื่อว่าหลายๆ นโยบายล้วนผลักดันได้ยากหลังจากวิเคราะห์เหตุการณ์โดยละเอียดซ่งซีซีพลันรู้สึกมองโลกในแง่ดีขึ้นหลังจากง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1510

    ในสถานการณ์เช่นนี้ ปกติแล้วทุกคนมักจะไม่มีความอยากอาหารมากนัก อาหารแต่ละจานมักจะถูกชิมเพียงคำเดียวก่อนจะให้คนยกออกไปแต่สำหรับคนของเป่ยถัง พวกเขาดูเหมือนให้ความเคารพต่ออาหารอย่างแท้จริง ไม่ว่าอาหารจะเป็นอะไร พวกเขากินจนหมดสิ้น ไม่มีการเหลือทิ้ง แม้แต่จอกสุราที่รินเต็ม ก็หมดลงในพริบตา ข้ารับใช้ที่ดูแลพวกเขาคงจะเหนื่อยไม่น้อยเสิ่นว่านจือนึกถึงมื้ออาหารที่หอชุนหม่าน วันนั้นพวกเขาก็กินจนเกลี้ยงจาน ไม่มีแม้แต่เศษอาหารเหลืออยู่นางอยากพูดอะไรกับซ่งซีซี แต่ในห้องโถงแห่งนี้นอกจากเสียงเคี้ยวอาหารแล้ว ก็ไม่มีเสียงอื่นใดอีกเลย นางจึงพูดออกไปไม่ได้ทว่า เพียงสบตากันหนึ่งครั้ง พวกนางก็เข้าใจความคิดของกันและกันเสิ่นว่านจืออยากจะบอกว่า การที่คนของเป่ยถังปรากฏตัวในที่นี้ อาจเกี่ยวข้องกับการเจรจาสงบศึกซ่งซีซีเองก็คิดเช่นนั้นแต่ยังไม่อาจคาดเดาได้ว่าพวกเขามาเพื่อเป็นผู้ไกล่เกลี่ย หรือมาเพื่อช่วยฝ่ายซีจิง หากเป็นอย่างแรก การเจรจาก็คงสำเร็จลุล่วงได้โดยง่าย และอาจลงนามข้อตกลงกันได้ในเวลาไม่นานแต่หากเป็นอย่างหลัง นั่นหมายความว่านี่จะกลายเป็นศึกยืดเยื้อ เพราะหากเป่ยถังหนุนหลังซีจิงอยู่ แคว้นซางก็

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status