ซ่งซีซีเฝ้าดูโดยไม่หลับตา เสิ่นว่านจือย้ายเก้าอี้มานั่งเฝ้าอยู่นอกม่าน และไม่มีใครกล้าเข้าไปฮูหยินเฉิงเอินป๋อให้คนมาส่งอาหารให้พวกนาง แต่ซ่งซีซีกินไม่ลง เสิ่นว่านจือกินไปสองสามคำ เมื่อนึกถึงหลานเอ่อร์เจ็บปวดจนบิดเบี้ยวร่างกายไปมา นางก็กินไม่ลงเช่นกัน รู้สึกอึดอัดมากในตอนกลางคืน หลานเอ่อร์ตื่นขึ้นมา นางลืมตาขึ้นและตะโกนเรียกท่านพี่ด้วยความงุนงง เมื่อเห็นซ่งซีซีจับมือนางไว้แน่นตลอด เมื่อได้นางเรียกก็ออกแรงมากขึ้น "อยู่ ข้าอยู่นี่"หงเชวี่ยถือโอกาสให้ยานาง นางว่าง่ายมาก หลังจากกินยาเสร็จแล้วก็ไม่ลืมตาขึ้นอีกและนอนต่อไป แต่น้ำตาก็ไหลออกมาจากหางตาของนาง ซ่งซีซีช่วยนางปาดออก "ไม่เป็นไร ช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดเราก็ผ่านมาแล้ว ต่อไปก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ"หลานเอ่อร์ซึ่งพลังงานหมดสิ้นลงราวกับทะเลสาบที่เหือดแห้ง นางต้องกินยาสามครั้งเพื่อทำน้ำกลับมา นางเหนื่อยมากจนหลับไปอีกครั้งหลังจากกินยาเสร็จหงเชวี่ยนอนหลับไปสักพักแล้วจึงเข้ามากระซิบกับซ่งซีซี "พระชายา ท่านไปพักผ่อนสักหน่อยก่อน ข้ามาเฝ้าดูให้""ไม่เป็นไร ข้าไม่ง่วง" ซ่งซีซีส่ายหัว "เจ้าคงเหนื่อยแย่ในกลางวัน เจ้าไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวยามสี่ก
ร่างกายของหลานเอ่อร์ยังอ่อนแอมาก นางรู้ว่าเด็กจากไปแล้ว นางรู้ว่าเด็กจากไปแล้วก่อนที่หมอมหัศจรรย์ดันมานางกลั้นน้ำตาไว้ต่อหน้าท่านพี่และไม่ร้องไห้ อย่างไรก็ตาม เมื่อนางเอข้าพักที่เรือนนั้น พอท่านพี่ออกไป นางก็ห่อผ้าห่มร้องหนักเลยเสิ่นว่านจือต้องการเข้าไปปลอบใจนาง แต่ซ่งซีซีหยุดไว้และส่ายหัว "คำปลอบของผู้ใดก็ไร้ผลหรอก นางต้องผ่านมันด้วยตนเอง"มีความเจ็บปวดบางอย่าง ให้ความปลอบใจจะไม่ได้ช่วยอะไร มีแต่ทำให้หลั่งน้ำตามากขึ้น ทำให้นคำนึงถึงความทรงจำและความเจ็บปวดใจมากขึ้นเท่านั้นหงเซียวเข้ามารายงานว่านางเสิ่นพระชายาอ๋องเยี่ยนและและชายารองจินได้ไปที่จวนป๋อผิงซี หลังจากได้ยินสิ่งนี้ เสิ่นว่านจือก็บอกกับซ่งซีซีซ่งซีซีอึ้งไป เพิ่งนึกถึงการมาเยี่ยมของนางจี ฮูหยินป๋อผิงซีเมื่อวานนี้ มันเป็นวันที่ยาวนานมากจริงๆ และนางก็มีภาพลวงตาว่าการมาเยี่ยมของนางจีเกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว"ภายในขอบเขตที่เหมาะสม ให้จับตาดูอย่างใกล้ชิด แต่อย่าเกินไป เดี๋ยวโดนสังเกตเห็น" ซ่งซีซีกล่าว"ไม่ต้องห่วง พวกนางคือคนที่ได้รับการฝึกฝนจากศิษย์พี่ผิง ทำอะไรรู้การรู้งานอยู่แล้ว"ซ่งซีซีพยักหน้า จากนั้นไปหาศิษย์พี่ซือโซ
ซ่งซีซีคิดถึงความเป็นไปได้นี้และกล่าวว่า "มันเป็นไปได้จริงๆ จริงๆ แล้วเหล่าเซี่ยคนนี้ เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึก คนประเภทนี้มีแนวโน้มที่จะตกลงไปในกับดักนี้มากที่สุด"ดวงตาของเสิ่นว่านจือเบิกกว้าง "ข้าพูดแบบนี้ เจ้ายังเห็นด้วยหรือ อย่างน้อยเจ้าก็โต้แย้งข้าสักหน่อยสิ เจ้าฟังดูแล้วไม่รู้อึดอัดใจบ้างหรือ?"ซ่งซีซีตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง "ไม่ใช่วิเคราะห์เรื่องนี้เหรอ? มันไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ สักหน่อย แล้วทำไมถึงรู้สึกอึดอัดล่ะ?""ข้าก็ว่าสมมุตินะ""เรื่องสมมุติจะเห็นมันเป็นจริงได้อย่างไร"เสิ่นว่านจือมองดูนาง และอดไม่ได้ที่จะเอานิ้วจิ้มหน้าผากของนาง "เจ้าเนี่ย ข้าสงสัยจริงๆ ว่าเจ้ามีความรู้สึกต่อเหล่าเซี่ยจริงๆ หรือเปล่า แม้ว่าข้าจะไม่เคยรักใครเลย แต่คนที่เป็นของข้าก็ต้องเป็นของข้าเท่านั้น ใครที่มีใจให้เขา แม้ว่าข้าแค่ได้ยินแค่คิดอย่างนั้นเอง ข้าก็จะไม่สบอารฒณ์ จะไม่พอใจ""ตระหนี่!" ซ่งซีซีเหลือบมองนาง "เมื่อเกิดเรื่องจริงๆ ค่อยมาโกรธก็ไม่สายนี่ เรื่องที่ยังไม่เคยเกิด แค่จินตนาเองแล้วก็อารมณ์เสียเอง ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของตนเองแต่ยังทำร้ายร่างกายของตนเองด้วย ยิ่งกว่านั้น
ซ่งซีซียิ้ม "ใช่ อย่างกับฮูหยินป๋อผิงซีด้วย สามารถแยกแยะอะไรถูกอะไรผิดได้ เรื่องระหว่างหวังชิงหลูและเจ้าสิบเอ็ด นางสามารถอยู่เข้าข้างเหตุผลแทนที่ไปช่วยคนในครอบครัวตนเอง สามารถทำเช่นนี้ได้ ถือว่าหายากจริงๆ ในตระกูลชั้นสูงมักจะยึดหลักการว่าเมื่อคนหนึ่งรุ่งเรืองงั้นทั้งครอบครัวจะรุ่งเรืองไป หากคนใดตนหนึ่งตกอับงั้นก็จะตกอับไปพร้อมกัน นางทำเช่นนี้ได้ถือว่าไม่ง่ายเลย""อืม คนที่เจ้าชื่นชม ข้าก็ชื่นชมด้วย" เสิ่นว่านจือเชิดถูที่ซ่งซีซี "ไม่รู้ว่าลูกพี่ลูกน้องของข้าตอนนี้อยู่ในจวนป๋อผิงซีกำลังคุยอะไรกับฮูหยินป๋อผิงซีสินะ คาดว่ากำลังช่วยท่านอ๋องคนแก่คนนั้นพยายามโน้มน้าวป๋อผิงซีหวังเบียวให้ไปเป็นพวกเลย"วันนี้จวนป๋อผิงซีเอิกเกริกมากจริงๆฮูหยินผู้เฒ่า นางจีฮูหยินป๋อผิงซี นางหลานฮูหยินรอง และผู้อาวุโสของตระกูลหวังบ้างต่างก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตานางเสิ่นและชายารองจินมาถึงพร้อมกับสาวใช้ องขวัญถูกกองไว้บนโต๊ะ มันสูงเท่ากับเนินเขา ซึ่งแสดงให้เห็นว่านางเสิ่นทุ่มเงินไปมากขนาดไหนเชียวนางเสิ่นหาใช่คนเจ้าแผนการ แต่นางก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อแสดงสถานะของตนในฐานะพระชายาเอก และทำให้ดูเหนือกว่าชายารอง
ในจวนยังได้เชิญกลุ่มงิ้วมาในวันนี้ เพราะมาตรฐานในการต้อนรับพระชายาจะเรียบง่ายไปไม่ได้ และต้องเตรียมทั้งหมดเท่าที่จะทำได้แต่พอถามแล้วกลับไม่มีใครอยากดูงิ้ว เลยแล้วไปพวกนางอยู่จนถึงเย็น จากนั้นชายารองจินก็ยิ้มแล้วพูดว่า "ท่านอ๋องของเราอยู่ที่เยี่ยนโจวมาโดยตลอดและแทบไม่ได้กลับเมืองหลวงเลย ดังนั้นเราจึงไม่ค่อยมีเพื่อนในเมืองหลวงมากนัก วันนี้เราสามารถพูดคุยกับฮูหยินอย่างสนุกสนาน ถือว่าเรามีวาสนาต่อกันจริงๆ ไม่งั้นเดี๋ยวหาเวลาไปเที่ยวที่จวนอ๋องเยี่ยนดีไหม คุณชายอู๋เซี่ยงที่เดินทางกลับเมืองหลวงพร้อมกับเราเป็นปรมาจารย์ทำนายที่มีชื่อเสียงในแคว้นซางของเรา จะถามโชคลาภ อนาคตหรือว่าสุขภาพล้วนแม่นยำหมด"ดวงตาของฮูหยินผู้เฒ่าเป็นประกาย "คุณชายอู๋เซี่ยง? เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากทีเดียวนี่ ขอท่านพระชายาช่วยแนะนำให้นะ เรารู้สึกซาบซึ้งใจจริงๆ"ชายารองจินพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ฮูหยินผู้เฒ่า งั้นเราตกลงตามนี้นะ ท่านต้องมาถือว่าให้เกียรติเรานะ"ใบหน้าของนางจีแข็งทื่อด้วยรอยยิ้ม พอไปมาสู่กันเช่นนี้ งั้นสองตระกูลก็ถือว่าใกล้ชิดแล้ว อย่างน้อยคนนอกจะมองว่าเห็นคนสนิทกันไม่ได้อย่างแน่นอน!สมองของนางจีคิดท
อย่างไรก็ตาม พอเข้าหอต้าหลี่แล้ว คิดจะช่วยออกมาอย่างง่ายๆ ได้อย่างไรหญิงชราอดอาหารประท้วง หากถูกแพร่กระจายออกไปก็จะคิดว่าคนของทางจวนเฉิงเอินป๋อไม่กตัญญู ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าไม่ค่อยมีความหวัง แต่ก็ใช้ความสัมพันธ์เท่าที่จะทำได้เพื่อหาคนไปขอร้องความเมตตาจากฮ่องเต้เฉิงเอินป๋อพอมีเส้นสายบ้าง โดยบอกกับเขาว่าในสถานการณ์นี้ ตราบใดที่ท่านหญิงให้อภัยเขาและยอมปล่อยเขาไป งั้นเหลียงเส้าก็มีความเป็นไปได้ที่จะได้รับการปล่อยตัวแต่ผู้ใดในจวนเฉิงเอินป๋อจะกล้าไปหาท่านหญิงล่ะ? ไม่มีหน้าไปทำและไม่กล้าด้วย เพราะพระชายาเป่ยหมิงอ๋องก็เฝ้าอยู่ที่นั่นในที่สุด เฉิงเอินป๋อก็ไปขอความช่วยเหลือกับอ๋องฮวย ตอนที่ทางหอต้าหลี่มาจับตัวเหลียงเส้านั้น อ๋องฮวยได้ออกหน้าช่วย ดูเหมือนว่าเขายังไม่ต้องการให้ท่านหญิงและเหลียงเส้าหย่ากัน ดังนั้นเขาจึงทำได้แต่ขอให้สองสามีภรรยาพวกเขาไปโน้มน้าวใจท่านหญิงแล้วอ๋องฮวยรับปาก ส่วนเขาจะไปจริงหรือไม่ คนของจวนเฉิงเอินป๋อก็ไม่รู้เรื่องพระชายาอ๋องฮวยอยากเจอหลานเอ่อร์มาโดยตลอด แต่เรื่องถึงขนาดนี้ พระราชโองการก็มาแล้ว คงต้องหย่าแน่ๆ ไม่มีทางอื่นแล้ว เพราะงั้นนางก็เลยอยากรับหล
สิ่งของทั้งหมดบนรถม้าถูกขนลงและวางไว้นอกห้องโถงหลักของจวนอ๋องฮวยพระชายาอ๋องฮวยไม่ได้มองเลย นางแค่ทำหน้าบึ้งตึงซ่งซีซีกล่าวว่า "ถ้าพระชายาอ๋องฮวยไม่ตรวจดูตอนนี้ เดี๋ยวค่อยตรวจที่หลังก็ได้ หากมีสิ่งใดขาดหายไปก็แค่ส่งคนมาแจ้งหน่อย ส่วนของขวัญที่ท่านแม่มอบให้พระชายาอ๋องฮวยนั้นก็คืนมาให้ด้วยนะ ข้าจำได้ว่ามียาของร้านขายยาเย่าหวังไม่น้อยเลย"พระชายาอ๋องฮวยหันหลังออกไปพูดอย่างเย็นชา "ยากินหมดตั้งนานแล้ว ให้ข้าคืนให้อย่างไร เจ้าทำเช่นนี้มิกลัวท่านแม่ของเจ้าจะเสียใจเหรอ?"ซ่งซีซีกล่าวว่า "ท่านแม่เอ็นดูหลานเอ่อร์มาโดยตลอด ถ้านางรู้ว่าเจ้าปฏิบัติต่อหลานเอ่อร์เช่นนี้ ข้าเชื่อว่านางจะตัดความเป็นพี่น้องกับเจ้าด้วยเช่นกัน"มีน้ำตาในดวงตาของพระชายาอ๋องฮวย "ซีซี ทำไมเจ้ากลายเป็นแบบนี้ ไม่แม้แต่เห็นน้าอยู่ในสายตา บีบบังคับให้น้องของเจ้าหย่า น้าทำอะไรให้เจ้าไม่พอใจกัน เป็นเพราะตอนที่เจ้าหย่ากับจ้านเป่ยว่างนั้น น้าไม่ได้ออกหน้าช่วยเจ้าหรือ""อย่าพูดเรื่องเก่าๆ อีก หวังว่าพระชายาจะเป็นคนทำอะไรเด็ดขาดหน่อย"พระชายาอ๋องฮวยมองดูนางด้วยสีหน้าโศกเศร้าและเสียใจ "น้าคุยกับเจ้าดีๆ ได้ไหม? เราสองครอบครัวไม่
ซ่งซีซีจะปล่อยให้นางสมหวังได้อย่างไร? ในเมื่อนางไม่กลัวที่จะหน้าแตก ไม่กลัวจะทำให้ทางจวนอ๋องฮวยและจวนเฉิงเอินป๋อเสียหน้า งั้นก็เอาเลยซ่งซีซีกล่าวอย่างเคร่งเครียด "ก่อนอื่น เมื่อเหลียงเส้ารักใคร่อนุไม่สนใจภรรยาเอกนั้น หลานเอ่อร์ได้ขอความช่วยเหลือจากครอบครัวพ่อแม่ของนาง แต่พวกเจ้าแค่อยู่เฉยๆ ยังให้นางอดทนเอาไว้ เป็นถึงท่านหญิงผู้สูงศักดิ์และเป็นภรรยาเอกของซื่อจื่อกลับต้องยอมให้หญิงงามเมืองคนหนึ่ง มิทราบว่าพวกเจ้าได้คำนึงถึงศักดิ์ศรีของราชวงศ์หรือไม่ ที่สอง ครั้งแรกที่หลานเอ่อร์ถูกเหลียงเส้าทุบตีอย่างหนักจนต้องนอนพักบนเตียงเพื่อดูแลครรภ์ เจ้ากับท่านอ๋องไม่เคยออกหน้าเพื่อตำหนิเหลียงเส้าสักคำ แต่เพียงสั่งคนส่งอาหารเสริมไปที่จวนเฉิงเอินป๋อ แล้วให้นางอดทนต่อ รอให้เหลียงเส้ากลับเนื้อกลับใจ ที่สาม ที่หลานเอ่อร์แท้งบุตรเพราะถูกเหลียงเส้าผลักลงบันไดหิน และเกือบจะไม่รอดเลย ในช่วงเวลาวิกฤตนั้นคนที่นางเรียกคือท่านพี่ มิใช่เป็นเสด็จแม่อย่างกับเจ้า ตอนที่ฮ่องเต้ทรงทราบเรื่องนี้ก็โกรธที่เหลียงเส้าใจร้ายกับภรรยาของเขา และปฏิบัติต่อท่านหญิงอย่างโหดร้าย แทนที่จะรู้สึกห่วงใยเป็นทุกข์ใจกับลูกสาวตอนเอง กลั