หลังจากรออีกครึ่งชั่วยาม หลานเอ่อร์ก็ไม่สามารถกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดได้อีก และร่างกายของนางก็เปียกราวกับว่านางถูกดึงออกจากบ่อน้ำ ซ่งซีซีเช็ดเหงื่อให้นางด้วยผ้าเช็ดผ้าและยังคงพูดอยู่ข้างกายนา แต่หลานเอ่อร์เจ็บปวดจนหมดเรี่ยวแรงแล้ว นางฟังอะไรไม่ชัดเจนอีก นางรู้สึกว่าตนเองกำลังจะตายนางพยายามอย่างหนักที่จะลืมตา ดวงตาว่างเปล่าและพยายามพูดออกมาว่า "ให้ตาย... ให้ตายเลยดีกว่า""อย่าพูดเพ้อเจ้อ หมอมหัศจรรย์ดันกำลังจะมา" ซ่งซีซีสำลัก รู้สึกหมดหนทาง นี่เป็นอารมณ์ที่นางกลัวที่สุด ซึ่งหมายความว่านางทำอะไรไม่ได้พระชายาอ๋องฮวยหลั่งน้ำตา "หลานเอ่อร์เป็นเด็กดีนะ อย่าพูดคำท้อแท้แบบนี้ อดทนอีกหน่อย เชื่อฟังท่านพี่เจ้า หมอมหัศจรรย์ดันจะมาแล้ว"หลานเอ่อร์ทำได้เพียงส่งเสียงครวญครางเบาๆ จากปากของนาง และดวงตาก็เปิดกว้างอย่างว่างเปล่า เรี่ยวแรงที่เหลือเล็กน้อยของนางมีไว้ใช้เพื่อต้านทานความเจ็บปวด แต่อวัยวะภายในของนางดูเหมือนจะถูกแทนที่ และนางก็ทนไม่ไหวแล้วภายนอก ในที่สุดคุณนายใหญ่ก็ปิดปากเงียบ และนางเริ่มหวาดกลัวขึ้นมาตอนแรก นางคิดว่าโดนท้อง เลยจะคลอด แต่ไม่เคยคิดว่ามันจะส่งผลร้ายแรงเช่นนี้นางไม่ไ
โดยมีซ่งซีซีและเสิ่นว่านจืออยู่ด้วย และบวกกับฮูหยินเฉิงเอินป๋อยังขอร้องให้หมอมหัศจรรย์ดันรักษาท่านหญิงในห้องคลอด คนที่อยู่ข้างนอกไม่ล้าพูดอะไรเลยแม้แต่น้อย แม้แต่พระชายาอ๋องฮวยก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งและเห็นลมหายใจของลูกอ่อนแรงจึงยอมจำนนด้วยความตื่นตระหนกหมอมหัศจรรย์ดันไม่วอกแวก เขาไม่สามารถช่วยชีวิตเด็กได้ในเวลานี้ มีแต่ช่วยผู้ใหญ่เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงกล้าฉีดยาได้มากขึ้นหลังจากให้ยาดันเสวี่ยเพื่อปกป้องหัวใจจากนั้นก็สั่งให้เพิ่มปริมาณยากระตุ้นให้เกิดการเจ็บครรภ์ ปริมาณนี้ทำให้หมอหลวงตกใจมาก แต่พวกเขาก็เคยได้ยินเกี่ยวกับประสิทธิภาพของยาดันเสวี่ยในการปกป้องหัวใจ ดังนั้นจึงไม่กล้าแสดงความคิดเห็นใดๆและเนื่องจากพวกเขาอยู่หลังฉากบังตาจึงไม่รู้ว่าหมอมหัศจรรย์ดันใช้จุดฝังเข็มอะไร แน่นอนว่าหากเห็นแล้วก็จะยิ่งแปลกใจมากขึ้นต่อไปหมอมหัศจรรย์ดันใช้ยาชะมด ดอกคำฝอย และโสมตานเซิน กลิ่นยาชะมดฟุ้งกระจาย ทำให้ทุกคนหน้าซีด ต้องคำนวณปริมาณยาชะมดอย่างรอบคอบ ไม่เช่นนั้นไม่เพียงแต่จะแท้งบุตรครั้งนี้เท่านั้น ไม่งั้นต่อไปก็มีบุตรยากแล้วเมื่อหมอหลวงได้ยินยาที่เขาสั่ง ได้แต่พูดในใจว่า: หมอมหัศจรรย์ดันนี่กำ
ฮูหยินเฉิงเอินป๋ออุ้มทารกที่ตายแล้วออกไป และคุณนายใหญ่ก็ร้องไห้ออกมา แต่ฮูหยินเฉิงเอินป๋อเพิกเฉยต่อเขา และเดินตรงไปหาเหลียงเส้า เหลียงเส้าถูกมัดไว้เป็นเวลานานจนร่างกายของเขาดูเหมือนเลือดจะไม่ไหลเวียม ใบหน้าของเขาเป็นสีม่วง"นี่คือบุตรชายของเจ้า เจ้าฆ่าเขาตาย" ฮูหยินเฉิงเอินป๋อยกทารกขึ้นมาเพื่อแสดงให้เขาเห็น น้ำตาบนใบหน้าของนางยังไม่แห้ง ในตอนแรกน้ำเสียงดูนิ่งเงียบ แต่ต่อมากลับเศร้าและโกรธมาก "ต้องถึงยังไงเจ้าจะเลิกก่อกวนสักที ต้องทำอย่างไรเจ้าถึงเลิกวุ่นวาย ดูสิ เจ้าทำให้บุตรชายตนเองต้องตาย เจ้าทำให้ครอบครัวไม่สงบสุข เจ้ากล้าดีทำแบบนี้ได้อย่างไร ก็แค่อาศัยที่ท่านหญิงชอบใจเจ้า เจ้าก็เหยียบย่ำนางตามอำเภอใจ ลูกเนรคุณ นางเป็นตายร้ายดียังไงยังไม่รู้ เจ้าสำนึกผิดบ้างไหม?"เหลียงเส้าพยายามหลบหนีสายตาของเขา โดยไม่ต้องการที่จะมองดูเด็กคนนั้น เขาได้ยินเสียงวุ่นวายและเสียงบ่งบอกอันตรายภายในทั้งหมดแล้ว เขาไม่สามารถบอกความรู้สึกของเขาออกมาได้ในขณะนี้ แต่เขาไม่ต้องการมองดูเด็กคนนั้น ไม่ใช่เขาที่ฆ่าเขา เขาไม่ใช่คนที่ฆ่าเขา"เอาออกไป เอาออกไป!" เขาพึมพำ มีฟองเลือดออกมาจากปาก "ข้าไม่อยากเห็น ข้าไม่อ
บรรดาสตรีจวนเฉิงเอินป๋อเงียบไปหมด ความหดหู่และความเศร้าโศกหลังจากผ่านภัยพิบัติมาได้ ไม่ว่าครอบครัวใดจะเกิดเรื่องแบบนี้ก็ล้วนทุกข์ใจมากคุณนายใหญ่ฟังสิ่งที่ฮูหยินเฉิงเอินป๋อพูดกับเหลียงเส้าจนชัดเจน เป็นอนาคตที่แสนสดใส แต่ตอนนี้มันพังทลายหมดแล้ว เพราะงั้นคุณนายใหญ่จึงไม่เห็นด้วยกับการหย่านี้แต่แม้ว่านางจะไม่เห็นด้วย เมื่อเผชิญหน้ากับใบหน้าเย็นชาของซ่งซีซี นางก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ ก่อนหน้านี้ว่าพระชายาแทรกแซงกิจการฝ่ายในของจวนเฉิงเอินป๋อ แต่ในช่วงเวลาวิกฤติของความเป็นความตาย นางเป็นคนที่ตามหาหมอมหัศจรรย์ดันมา นี่ถึงช่วยชีวิตท่านหญิงได้ดังนั้น คุณนายใหญ่จึงได้แต่มองดูพระชายาอ๋องฮวย และพูดเบาๆ ว่า "หากหย่าแล้วมันไม่ดีกับทั้งสองฝ่าย พระชายา โปรดช่วยโน้มน้าวท่านหญิง อย่าให้พระชายาเป่ยหมิงอ๋องมาตัดสินใจและทำลายชีวิตการแต่งงานของพวกเขา"ทันทีที่พระชายาอ๋องฮวยมองไปที่ซ่งซีซี และกำลังจะพูดอะไร ซ่งซีซีก็พูดอย่างเย็นชา "หากท่านน้ากล้าพูดให้หลานเอ่อร์อยู่ต่อ ข้าจะทำเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่เข้า ถ้าองค์หญิงหมิ่นชิงรู้เรื่องนี้ นางจะให้พ่อสามีของตนเองร้องเรียนเรื่องนี้ให้หับทางราชสำนักแน่
อ๋องฮวยในห้องโถงด้านข้างได้ยินว่าซ่งซีซีตัดสินจะส่งหลานเอ่อร์ออกจากจวนเฉิงเอินป๋อ อีกทั้งหลานเอ่อร์ก็อยากหย่ากับเหลียงเส้าด้วย เขาโกรธมาก เขาที่เป็นพ่อคนยังไม่ตายนี่ จะมาให้นางมาตัดสินได้อย่างไรขณะที่เขากำลังจะให้คนไปตามหาซ่งซีซีมาเพื่อซักถาม เซี่ยหลูโม่ก็มาเป็นอาจารย์หยูไปหอต้าหลี่เพื่อตามหาเขา หลังจากที่เขาอธิบายสถานการณ์คร่าวๆ ก็ทิ้งงานรีบมาที่นี่ชายไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปในลานด้านใน แต่เดินตรงไปที่ห้องโถงด้านข้าง เมื่อได้ยินอ๋องฮวยตะโกนด้วยความโกรธว่า "จะมาให้นางมาตัดสินแทนหลานเอ่อร์ได้อย่างไร? ให้นางหย่าก็เท่ากับทำลายชีวิตการแต่งงานของนาง ทำเรื่องชั่วเช่นนี้ มีข้าอยู่ นางกล้าหรือ?"ทันทีที่อ๋องฮวยพูดจบ ก็เห็นเสื้อคลุมสีม่วงปรากฏขึ้น เซี่ยหลูโม่สาวเท้าเข้ามาเขาเหลือบมองอย่างเย็นชาและเห็นผู้ชายทุกคนในจวนเฉิงเอินป๋อต่างยืนขึ้นเพื่อไหว้ให้เขาเพิกเฉยต่อพวกเขาและมองดูใบหน้าของอ๋องฮวย "เมื่อกี้เสด็จอาพูดถึงพระชายาของหลานหรือเปล่า นางทำเรื่องชั่วอะไรหรือ เป็นนางที่ช่วยชีวิตหลานเอ่อร์มากกว่า นางเป็นคนตัดสินให้หลานเอ่อร์หย่ากับไอ้คนสารเลวที่รักใคร่อนุทอดทิ้งภรรยาเอกอย่างกับเหลียงเส
เซี่ยหลูโม่ถามว่า "ตอนนี้นางเป็นยังไงบ้าง? เด็กคนนั้นไม่อยู่แล้วจริงๆ หรือ?""ไม่อยู่แล้ว นางเกือบจะเลือดออกเยอะ โชคดีที่หมอมหัศจรรย์ดันอยู่ที่นี่ ดังนั้นเอาชีวิตรอดแล้ว แต่ต้องพักฟื้นอย่างน้อยถึงปีถึงกับหายดี ตอนนี้นางหลับไปแล้ว เมื่อนางตื่นขึ้นคงต้องเศร้าใจอีก"เซี่ยหลูโม่ถอนหายใจ "ถึงยังไงก็ตั้งครรภ์มาสิบเดือนเลย นางต้องเศร้าใจอยู่แล้ว"ใบหน้าของซ่งซีซีซีดเล็กน้อย "นางเกือบจะไม่รอดด้วย ศิษย์น้อง อย่าปล่อยเหลียงเส้าไป อย่างน้อยต้องให้เขาติดคุกสักสองสามปี""ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้า" เซี่ยหลูโม่รู้สึกเจ็บปวดใจเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นนางดูบอบบางแต่แข็งแกร่งท่ามกลางสายลมในฤดูใบไม้ร่วง เมื่อหลานเอ่อร์คลอดนั้น ซีซีคงจะกลัวมากกลัวที่จะสูญเสียหลานเอ่อร์ไปดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นยา เหลียงเส้า!"รอจนกว่าหลานเอ่อร์ออกไปก่อนค่อยดำเนินการ" ซ่งซีซีกล่าว "เผื่อสร้างปัญหาอะไรให้นางอีก ถ้าจับตัวเหลียงเส้าออกไปตอนนี้ จะต้องมีคนจำนวนมากร้องขอหลานเอ่อร์อย่างแน่นอน ข้าไม่ต้องการให้คนพวกนั้นมารบกวนนาง""เอาล่ะ ข้าจะกลับไปที่หอต้าหลี่ก่อน พรุ่งนี้เจ้าพาหลานเอ่อร์ออกไปแล้ว ข้าค่อยส่งคนไปจับกุมเหลียงเส้า
ซ่งซีซีเฝ้าดูโดยไม่หลับตา เสิ่นว่านจือย้ายเก้าอี้มานั่งเฝ้าอยู่นอกม่าน และไม่มีใครกล้าเข้าไปฮูหยินเฉิงเอินป๋อให้คนมาส่งอาหารให้พวกนาง แต่ซ่งซีซีกินไม่ลง เสิ่นว่านจือกินไปสองสามคำ เมื่อนึกถึงหลานเอ่อร์เจ็บปวดจนบิดเบี้ยวร่างกายไปมา นางก็กินไม่ลงเช่นกัน รู้สึกอึดอัดมากในตอนกลางคืน หลานเอ่อร์ตื่นขึ้นมา นางลืมตาขึ้นและตะโกนเรียกท่านพี่ด้วยความงุนงง เมื่อเห็นซ่งซีซีจับมือนางไว้แน่นตลอด เมื่อได้นางเรียกก็ออกแรงมากขึ้น "อยู่ ข้าอยู่นี่"หงเชวี่ยถือโอกาสให้ยานาง นางว่าง่ายมาก หลังจากกินยาเสร็จแล้วก็ไม่ลืมตาขึ้นอีกและนอนต่อไป แต่น้ำตาก็ไหลออกมาจากหางตาของนาง ซ่งซีซีช่วยนางปาดออก "ไม่เป็นไร ช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดเราก็ผ่านมาแล้ว ต่อไปก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ"หลานเอ่อร์ซึ่งพลังงานหมดสิ้นลงราวกับทะเลสาบที่เหือดแห้ง นางต้องกินยาสามครั้งเพื่อทำน้ำกลับมา นางเหนื่อยมากจนหลับไปอีกครั้งหลังจากกินยาเสร็จหงเชวี่ยนอนหลับไปสักพักแล้วจึงเข้ามากระซิบกับซ่งซีซี "พระชายา ท่านไปพักผ่อนสักหน่อยก่อน ข้ามาเฝ้าดูให้""ไม่เป็นไร ข้าไม่ง่วง" ซ่งซีซีส่ายหัว "เจ้าคงเหนื่อยแย่ในกลางวัน เจ้าไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวยามสี่ก
ร่างกายของหลานเอ่อร์ยังอ่อนแอมาก นางรู้ว่าเด็กจากไปแล้ว นางรู้ว่าเด็กจากไปแล้วก่อนที่หมอมหัศจรรย์ดันมานางกลั้นน้ำตาไว้ต่อหน้าท่านพี่และไม่ร้องไห้ อย่างไรก็ตาม เมื่อนางเอข้าพักที่เรือนนั้น พอท่านพี่ออกไป นางก็ห่อผ้าห่มร้องหนักเลยเสิ่นว่านจือต้องการเข้าไปปลอบใจนาง แต่ซ่งซีซีหยุดไว้และส่ายหัว "คำปลอบของผู้ใดก็ไร้ผลหรอก นางต้องผ่านมันด้วยตนเอง"มีความเจ็บปวดบางอย่าง ให้ความปลอบใจจะไม่ได้ช่วยอะไร มีแต่ทำให้หลั่งน้ำตามากขึ้น ทำให้นคำนึงถึงความทรงจำและความเจ็บปวดใจมากขึ้นเท่านั้นหงเซียวเข้ามารายงานว่านางเสิ่นพระชายาอ๋องเยี่ยนและและชายารองจินได้ไปที่จวนป๋อผิงซี หลังจากได้ยินสิ่งนี้ เสิ่นว่านจือก็บอกกับซ่งซีซีซ่งซีซีอึ้งไป เพิ่งนึกถึงการมาเยี่ยมของนางจี ฮูหยินป๋อผิงซีเมื่อวานนี้ มันเป็นวันที่ยาวนานมากจริงๆ และนางก็มีภาพลวงตาว่าการมาเยี่ยมของนางจีเกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว"ภายในขอบเขตที่เหมาะสม ให้จับตาดูอย่างใกล้ชิด แต่อย่าเกินไป เดี๋ยวโดนสังเกตเห็น" ซ่งซีซีกล่าว"ไม่ต้องห่วง พวกนางคือคนที่ได้รับการฝึกฝนจากศิษย์พี่ผิง ทำอะไรรู้การรู้งานอยู่แล้ว"ซ่งซีซีพยักหน้า จากนั้นไปหาศิษย์พี่ซือโซ