Share

บทที่ 609

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
เซี่ยหลูโม่และซ่งซีซียืนขึ้นเดินออกไปเกือบจะพร้อมกัน พวกเขาเห็นผมของหวังชิงหลูยุ่งเหยิง และถือมีดสั้นไว้ที่คอของนาง เนื่องจากใช้แรงมากไปหน่อยเลยมีเลือดออก

หงเอ๋อร์ สาวใช้ของนางเดินตามนาง ใบหน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว เมื่อกี้ฮูหยินบอกว่าต้องไปจวนเป่ยหมิงอ๋อง ระหว่างทางก็ซื้อกริชเล่มหนึ่ง นางห้ามไม่ได้

เมื่อเห็นซ่งซีซี ดวงตาของหวังชิงหลูก็แดงก่ำ และเขาตะโกนด้วยความโกรธ "ซ่งซีซี ข้ามีความแค้นอะไรกับเจ้า? ทำไมเจ้าต้องทำร้ายข้าแบบนั้น?"

ซ่งซีซีสั่งหัวหน้าลู่อย่างใจเย็น "ส่งคนไปที่จวนป๋อผิงซีและจวนแม่ทัพเพื่อให้พวกเขาพาจ้านฮูหยินกลับไป"

หัวหน้าลู่ตอบรับและรีบออกไปทำ

ซ่งซีซีพูดกับเซี่ยหลูโม่ว่า "ท่านกลับไป ข้ามาจัดการเอง"

เซี่ยหลูโม่เหลือบมองที่หวังชิงหลู และเห็นนางดูบ้าคลั่ง ยังถือมีดสั้นอยู่ "ระวังด้วย อย่าทำร้ายตัวเองเข้า"

หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็เดินกลับไปและเห็นอ๋องเยี่ยนเดินออกไป เขาเหยียดแขนยาวออกแล้วหยุดเขา "เสด็จอา ดื่มชาต่อ เมื่อกี้พูดถึงไหนแล้ว"

"เกิดอะไรขึ้น? ใครกล้าบุกเข้ามาจวนเป่ยหมิงอ๋อง?" อ๋องเยี่ยนถามเสียงดังด้วยน้ำเสียงเคร่งครัด "ควรถูกตั้งมาตรฐาอีกครั้ง หาใช่ว่าใ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 610

    ในห้องโถงด้านข้าง มีคนสองคนนั่งตรงข้ามกันซ่งซีซีมองที่คอของนางและขมวดคิ้ว "เจ้ายังจะใช้กริชแทงที่คออีกไหม? หากต้องการตายจริงๆ เพียงแค่ชนหัวเข้ากับประตูจวนเป่ยหมิงอ๋องก็ตายได้เลย มาเล่นโวยวายแบบนี้ คนที่เสียหน้าคือเจ้าเอง"หวังชิงหลูปาดน้ำตาด้วยหลังมือเผยให้เห็นใบหน้าที่ซีดเซียวและดื้อรั้น "ซ่งซีซี การทำลายชีวิตแต่งงานของคนอื่นมันจบไม่สวย เจ้าร้ายกาจจริงๆ"ซ่งซีซียืดหลังตรง ซึ่งเป็นท่านั่งประจำของนาง "ข้าทำลายชีวิตแต่งงานของเจ้าอะไรกัน เจ้ากับจ้านเป่ยว่างเป็นยังไงมันเป็นเรื่องของพวกเจ้า ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า เจ้านี่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีจริงๆ ตอนที่จวนแม่ทัพถูกลอบสังหาร ข้าเป็นคนช่วยชีวิตพวกเจ้านะ"หวังชิงหลูพูดอย่างเย็นชา "คนละเรื่องกัน ที่จวนแม่ทัพถูกลอบสังหารที่เจ้ามาช่วยก็ไม่ได้มาเพื่อข้า ข้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณเจ้า"ซ่งซีซีโกรธจนหัวเราะออกมากับคำพูดของนาง "ข้าก็ไม่ต้องการให้เจ้าขอบคุณหรอก ว่ามา ข้าทำอะไรไปทำลายชีวิตแต่งงานของเจ้าล่ะ"หวังชิงหลูกัดฟันกรอด "อย่าแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา เจ้าไม่รู้ว่าเจ้าได้พูดอะไรกับเจ้าสิบเอ็ดฝางเหรอ? เจ้าแค่ไม่อยากให้ข้ามีชีวิตที่ดี เมื่อรู้ว่าข้ากับเจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 611

    หลังจากพูดอย่างนั้นซ่งซีซีก็ปล่อยแขนของนาง นางทรุดตัวลงบนเก้าอี้แล้วเอามือปิดหน้า "ถ้าไม่ใช่เจ้า ถ้าไม่ใช่เจ้าแล้วใครจะทำร้ายข้า ใครจะทำร้ายข้าล่ะ นอกจากเจ้าแล้วยังเป็นผู้ใดได้อีกล่ะ?"ซ่งซีซีพูดไม่ออกและจนใจกับคนแบบนี้จริงๆ นางไม่โกรธเพราะไม่มากพอที่จะให้โกร เห็นๆ อยู่ว่าหวังชิงหลูได้รับการดูแลและการปกป้องอย่างดีจากครอบครัวพ่อแม่ของนางและตระกูลฝาง ดังนั้นนางจึงขาดความสามารถในการคิดขั้นพื้นฐานที่สุดพูดตรงๆ คือเห็นแก่ตัวและโง่เขลานางนั่งลงและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ มันไม่มีประโยชน์ที่จะโกรธกับคนแบบนี้ ใช้เหตุผลอาจไม่ได้ผลด้วย แต่จำเป็นต้องพูด "ข้าถามเจ้าหน่อย ข้ามีความแค้นอะไรกับเจ้าหรือไม่"หวังชิงหลูหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาปาดน้ำตา ดวงตาของนางทั้งแดงก่ำและบวมมาก "ไม่มีความแค้นเหรอ? เจ้าเป็นอดีตภรรยาของจ้านเป่ยว่าง และเราออกเรือนกันในวันเดียวกัน เรื่องสินเดิมเจ้ามีมากกว่าข้าตั้งเยอะ ทำให้ข้าเข้าจวนแม่ทัพนั้นโดนคนอื่นดูถูก"ซ่งซีซีคว้าที่วางแขนของเก้าอี้ หายใจเข้าลึกๆ อีกครั้ง และคลายออกช้าๆ ซึ่งทำให้นางจะเป็นบ้าจริงๆ "สินเดิมหรือ? ข้าจะไปแข่งสินเดิมกับเจ้าเมื่อไร คือเจ้าอยากแข่งกับข้า เจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 612

    นางจีจากจวนป๋อผิงซีมาถึงพร้อมกับสาวใช้มาก่อนผู้คนจากจวนแม่ทัพนางจีเดินเข้าจวน และคารวะต่อไทเฟยก่อน เมื่อเห็นว่าครอบครัวอ๋องเยี่ยนก็อยู่ด้วย ใบหน้าของนางก็ซีดเผือดลงทันที เสียหน้าครั้งใหญ่จริงๆภายใต้การนำทางของเป่าจู นางจีมาที่ห้องโถงด้านข้าง ทันทีที่เข้าไปในห้อง ก็ขอโทษต่อซ่งซีซีก่อน "ท่านพระชายาโปรดยกโทษให้ข้าด้วย คือคุณหนูสามของเราทำมากเกินไป ไปล่วงเกินไทเฟยและพระชายา ข้ากล่าวขอโทษท่านพระชายาเจ้าค่ะ"ซ่งซีซีพยุงนาง และพูดว่า "ฮูหยินมาทันเวลาเลย นำคุณหนูสามของพวกเจ้ากลับไปเถอะ ข้ายังส่งคนไปที่จวนแม่ทัพด้วย แต่ข้าคิดว่าที่จวนแม่ทัพคงไม่มีใครมาจวนอ๋อง งั้นฮูหยินพานางกลับดีกว่า"หวังชิงหลูเงยหน้าขึ้นใช้ดวงตาที่บวมจากการร้องไห้มองดูนางจี นางจีจ้องมองนางอย่างเย็นชา แล้วพูดกับซ่งซีซีว่า "เจ้าค่ะ ข้าจะพานางกลับ แล้วค่อยหาเวลามากล่าวขอโทษอีกที"นางเดินไปหาหวังชิงหลู และพูดด้วยใบหน้าไม่แยแส "เจ้าอยากจะเดินด้วยตนเอง หรือว่าให้ข้าเรียกคนมาจับเจ้าไป?"หวังชิงหลูมองไปที่คนรับใช้อ้วนท้วนที่อยู่ข้างหลัง ไม่ว่านางจะรู้สึกกลุ้มใจหรือโกรธแค่ไหน ก็ได้แต่ยืนขึ้นและเดินจากไปซ่งซีซีพูดอย่างใจเย็น

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 613

    ทันทีที่นางจีจากไป เสิ่นว่านจือก็เข้ามาซ่งซีซีนวดขมับ "เจ้าไม่ได้พาชายารองจินไปเดินเล่นสวนเหรอ?""ไม่อยากสนใจนาง เลยให้แม่นมเหลียงและเด็กผู้หญิงอีกสองสามคนคอยติดตามนาง นางหนีจากกำมือของแม่นมเหลียงไม่ได้หรอก" เสิ่นว่านจือนั่งลงแล้วมองไปที่ซ่งซีซี "เพราะงั้นนังบ้านั้นมาทำอะไร"ซ่งซีซีเห็นข้างนอกไม่มีคน และเล่าเรื่องไร้สาระของหวังชิงหลูให้ฟังหลังจากได้ยินเช่นนี้ เสิ่นว่านจือก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ "นาง กำลังตั้งท้องลูกของจ้านเป่ยว่าง และยังอยากไปเกาะท่านพี่ชายของข้า นางหน้าด้านเกินไปหน่อยไหม โชคดีที่พี่สะใภ้ของนางเป็นคนรู้ถูกผิด ไม่เช่นนั้นพี่ชายของข้าจะยอมรับนางเพราะสำนึกผิดจริงๆ""เอาล่ะ เจ้าเลิกด่าได้แล้ว พี่ชายเจ้ารู้ความจริงแล้ว ก็จะอยู่ห่างจากหวังชิงหลู""ไม่เคยเห็นคนไร้ยางอายขนาดนี้มาก่อนเลย" เสิ่นว่านจือพูดด้วยความโกรธ "ยังมีคนไร้ยางอายอีกคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างนอกสิ ข้าไม่อยากเห็นหน้านางด้วยซ้ำ"ซ่งซีซีรู้ว่านางกำลังพูดถึงนางเสิ่นพระชายาอ๋องเยี่ยน "นางเลือกเอง เจ้าก็อย่าไปโกรธเลย ใช้ชีวิตของตนเองให้ดีก็พอ""พี่สาวข้าไม่ได้โง่ นางไม่เห็นเจตนาของอ๋องเยี่ยนหรือ""อาจเป็นเพราะมองอ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 614

    วันหยุดของเซี่ยหลูโม่ถือว่าถูกอ๋องเยี่ยนทำลายไปครึ่งวันแล้ว สนมฮุ่ยไทเฟยก็ไม่พอใจเช่นกันโดยบอกว่ารังเกียจครอบครัวของอ๋องเยี่ยน แต่ยังต้องการให้นางออกมาสังสรรค์"ข้าเกลียดชายที่ไร้หัวใจและไม่ชอบธรรมเช่นนี้มากที่สุด แม้ว่าเขาเป็นน้องน้องชายกับฮ่องเต้องค์ก่อน แต่ไม่เหมือนฮ่องเต้องค์ก่อนแม้แต่นิดเลย ทรมานภรรยาของตนเองให้คน ไอ้สารเลวจริงๆ"แม่นมเกาชักชวนว่า "พวกเขายืนยันมาหา มีท่านคนเดียวเท่านั้นที่สามารถควบคุมพวกเขาได้เนื่องจากความอาวุโสของท่าน จะให้ท่านอ๋องและพระชายาไปรับมือกับพวกเขาก็คงไม่ได้ เพราะถึงยังไงท่านอ๋องและพระชายาก็เป็นรุ่นน้องของพวกเขา จะให้ผู้ใหญ่มาเยี่ยมรุ่นน้องได้ที่ไหน ให้ท่านออกหน้าทุกอย่างก็สมเหตุสมผลแล้วนี่ ท่านได้ช่วยท่านอ๋องและพระชายาไว้นะ""ข้ารู้ดีว่า ข้าแค่โกรธอยู่ในใจ และต้องการตบหน้าอ๋องเยี่ยนสองที" สนมฮุ่ยไทเฟยมีสีหน้าบึ้งตึง "ในโลกนี้มีผู้ชายที่ไร้หัวใจไม่น้อย แต่ทั้งไร้หัวใจและร้ายกาจแบบนี้ มันน้อยจริงๆ"แม่นมเกาคิดในใจว่าท่าก็ไม่ได้เจอผู้ชายมากนักเซี่ยหลูโม่พาซ่งซีซีกลับไปที่เรือนดอกบ๊วย และพูดว่า "เราเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน ไปเดินเล่นสักหน่อย และคืนนี้ก็กิน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 615

    "อ๊า?""อ๊า?"ณ ห้องโถงหลัก เซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีต่างตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่ฮูหยินไท่ฟู่พูด พวกเขามองหน้ากันและไม่รู้ว่าจะพูดอะไร"ต้องฝากเรื่องนี้ไว้กับท่านอ๋องและพระชายาจริงๆ เฮ้!" ฮูหยินไทฟูถอนหายใจ รอยย่นกลายเป็นพัดเล็กๆ ที่มุมตาของนางซ่งซีซีพูดด้วยความลำบากใจ "แต่สำหรับเรื่องจับคู่ ไม่ควรไปหาแม่สื่อหรือ หรือว่าผู้ใหญ่ที่น่านับถือหน่อย ข้าอายุยังน้อย จะทำงานสำคัญนี้ไม่ได้จริงๆ"ฮูหยินไทฟู่ถอนหายใจอีกครั้ง "ไม่กลัวทำให้ท่านอ๋องและพระชายาต้องหัวเราะ หลานสาวคนนี้ประพฤติตัวดีและมีเหตุผลมาโดยตลอด แค่จู้จี้จุกจิกเกี่ยวกับการแต่งงาน ในอดีตแอบมองหาคนจำนวนมากให้นาง แต่นางล้วนไม่ชอบ มีใจให้เขาเท่านั้น ทางครอบครัวพยายามทยอยเกลี้ยกล่อมนาง แต่นางปฏิเสธที่จะฟัง และบอกว่าแต่งงานกับเขาเท่านั้น เพื่อเรื่องนี้ยังโกรธกับพวกเราสองคนอยู่เลย คำพูดของท่านแม่นาง นางก็ไม่ฟัง เราเห็นนางยืนยันแบบนั้น คิดดูว่าเขาก็เป็นผู้ชายที่ดี จะแต่งก็แต่งเลย ขอแค่นางชอบก็พอ แต่แล้วเมื่อเราหาเมื่อสื่อไปขอพบ เขาไม่ตอบตกลง โดยบอกว่ากลัวทำให้หลานสาวของเราเสียเปรียบ เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องมาขอความช่วยเหลือจากท่านอ๋

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 616

    เขาเหลือบมองซีซีอย่างลับๆ และโล่งใจเมื่อเห็นว่านางไม่ได้โกรธ เดี๋ยวเขาต้องตบหน้าตนเองให้แรงสักหน่อยเห็นได้ชัดว่าไทฟู่ชื่นชอบหลานสาวคนนี้จริงๆหยานหรูอวี้ดูเหมือนจะเป็นหลานสาวคนเล็กของไทฟู่ และคนที่อายุน้อยที่สุดจะต้องเป็นคนที่ได้รับความรักใคร่มากที่สุด"ทั้งสองคนรีบร้อนไหม? วันนี้เรา...""รีบร้อน ยัยเด็กน้อยนั้นหลั่งน้ำตาแล้ว" ไทฟู่ร้อนใจมากจนเขาเอามือถูหัวเข่าไปมา และอยากจะให้พวกเขาไปตามหาเจ้าสิบเอ็ดทันที "แม้ว่านางจะดื้อรั้น แต่หากคำตอบจากตระกูลฝางสามารถทำให้นางเชื่อใจได้ นางก็สามารถยอมรับมัน และปล่อยมันไป นางจะไม่มีวันยืดเยื้อไม่ยอมเลิก"ฮูหยินไทฟู่ก็ว่า "ใช่ บัดนี้แค่บอกว่าไม่อยากให้เสียเปรียบ ยัยเด็กน้อยคิดว่ามันพูดส่งเดช ถ้าไม่ชอบก็แค่บอกว่าไม่ชอบ ยัยเด็กน้อยอยากฟังความจริง นางคนนี้ ชอบเอาจริงเอาจังมาก"เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ทำให้เซี่ยหลูโม่รู้สึกสิ้นหวังไปเลย วันนี้เขาไม่สามารถพาภรรยาไปดูพระอาทิตย์ตกที่ภูเขาว่านจินได้เขาปกปิดความผิดหวังและพูดว่า "เอาล่ะ ข้าจะส่งคนให้เจ้าสิบเอ็ดมาที่นี่ ทั้งสองท่านอยากจะอยู่ด้วยหรือไม่?""เราสองก็ไม่อยู่ที่นี่แล้วแหละ รบกวนท่านอ๋องและพระช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 617

    ซ่งซีซียิ้มและพูดว่า "ไม่อยู่ที่นี่จะไปไหนล่ะ? อีเดียวพี่ชายเจ้าจะมา มีคุณหนูคนหนึ่งชอบใจเขา และต้องการถามความคิดเห็นจากเขา แต่ในความเป็นจริงเขาปฏิเสธไปแล้ว ดังนั้นคราวนี้ที่เชิญชวนเขามาเพื่ออยากถามว่าตกลงเขาไม่ถูกใจคุณหนูคนนั้นหรือว่าเขายังไม่มีแผนจะแต่งงานกัน?"เสิ่นว่านจือเลิกคิดขึ้นด้วยความดีใจและรีบเข้ามา "จริงเหรอ? คุณหนูไหนที่มีรสนิยมสุดยอดเช่นนี้ ถูกใจพี่ชายข้าเข้าล่ะ บอกให้หน่อย""หลานสาวของหยานไท่ฟู่ หยานหรูอวี้" ซ่งซีซีทำท่าให้เงียบ "อย่าเผยแพร่เรื่องนี้ให้คนนอกรู้ มันยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน""นางเหรอ?" เสิ่นว่านจือกระโดดขึ้นทันทีที่นางเพิ่งนั่งลงและตกใจมาก "พี่ชายข้าโง่หรือเปล่าเนี่น คุณหนูหยานเนี่นนะ ทำไมเขาถึงปฏิเสธ เป็นคุณหนูที่ดีเหลือเกิน ทั้งมีมรยาททั้งมีน้ำใจ มากความสามารถ มีหน้าตาดีด้วย ตระกูลใหญ่โตมากมายก็คิดฝันจะแต่งนางเป็นลูกสะใภ้แต่ก็ไม่มีโอกาสนี่""อย่าส่งเสียงดัง" ซ่งซีซีจ้องมองนางเสิ่นว่านจือนั่งลงและยิ้ม "ดีใจไปหน่อย แต่คุณหนูหยานชอบใจเขาจริงๆ เหรอ? มันคงไม่ใช่แค่ตัดสินอารมณ์ชั่ววูบสินะ?""นั่นคือสิ่งที่ข้ากังวล คาดว่าพี่ชายเจ้า…" ซ่งซีซีหยุดชั่วคราว "จะ

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1437

    หลานเจี่ยนกูกูถูก ‘ส่ง’ ออกจากจวนอ๋องด้วยท่าทีที่ไม่เป็นมิตรจากคนในจวน แม้กระทั่งตอนเดินออกไปยังถูกส่งสายตาเหยียดหยามจากทุกทิศทาง ระหว่างทางกลับวัง นางยังคงไม่แน่ใจว่าพระชายาอ๋องจะเข้าวังหรือไม่ เพราะดูเหมือนว่าพระชายาอ๋องไม่ได้ตอบรับและไม่ได้ปฏิเสธอย่างชัดเจน ฮองเฮาเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะหาพระชายารองให้ท่านอ๋องจริงๆ สิ่งที่นางพูดไปเป็นเพียงการกดดันพระชายาอ๋อง เพื่อใช้เป็นข้ออ้างให้พระชายาอ๋องลาออกจากตำแหน่ง ถึงแม้พระชายาอ๋องจะไม่ลาออก ฮองเฮาก็ไม่ได้คิดจะส่งพระชายารองหรือสนมใดๆ เข้าไปในจวนอ๋องจริงๆ แต่หลานเจี่ยนกูกูไม่คาดคิดว่าพระชายาอ๋องจะโกรธถึงเพียงนี้ ถึงขนาดไม่สนใจรักษามารยาทหรือเก็บอารมณ์ และไล่ตนออกมาทันที หากพระชายาอ๋องไม่เข้าวัง เรื่องเข้าใจผิดนี้ก็คงไม่อาจอธิบายได้อย่างชัดเจน แต่… หลานเจี่ยนกูกูถอนหายใจเฮือกใหญ่ พร้อมตั้งคำถามในใจว่านี่เป็นเพียงแค่ความเข้าใจผิดจริงหรือ? ความจริงแล้ว นางเองก็คิดว่าการมีสตรีเป็นขุนนางในราชสำนักนั้นเป็นเรื่องดี หากพระชายาอ๋องต้องลาออก นางกลับรู้สึกเสียดายเสียด้วยซ้ำ คิดเช่นนี้แล้ว หลานเจี่ยนกูกูก็รู้สึกผิดที่ตัวเองดูเหมือน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1436

    ฉีฮองเฮากลับไปยังตำหนักฉางชุนด้วยสภาพเหมือนคนวิญญาณหลุดออกจากร่าง ประโยคที่ฮ่องเต้ตรัสว่า ‘สละตำแหน่งฮองเฮา’ ยังคงดังก้องในหัวของนาง ทุกคำล้วนเหมือนสายฟ้าฟาดที่กระแทกใจนางอย่างหนัก ความคิดของนางชะงักงัน มือเท้าอ่อนล้าไปหมด "ฮองเฮาเพคะ ฝ่าบาทคงเพียงตรัสด้วยความโกรธ โปรดอย่าใส่พระทัยนักเลยเพคะ" หลานเจี่ยนกูกูเห็นว่านางหน้าซีดเซียวเหมือนคนไร้ชีวิต ก็พูดปลอบด้วยความเป็นห่วง ฉีฮองเฮารู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก กดหน้าอกไว้ น้ำตาไหลพรากไม่หยุด "เพียงคำพูดด้วยความโกรธ แต่สามารถกล่าวถึงการปลดข้าจากตำแหน่งได้อย่างนั้นหรือ? ฝ่าบาทไม่เคยพูดคำใดด้วยความโกรธ นั่นแสดงว่าพระองค์ทรงตั้งใจจริง" "เป็นไปไม่ได้เพคะ ฝ่าบาทจะให้เสิ่นว่านจือ สตรีจากตระกูลพ่อค้า ขึ้นเป็นฮองเฮาได้อย่างไร?" หลานเจี่ยนกูกูที่อยู่ด้านนอกก็ได้ยินเสียงของฮ่องเต้เช่นกัน จึงกล่าวอย่างหนักแน่น ฉีฮองเฮาน้ำตาไหลเปื้อนทั่วใบหน้า "เจ้ามองไม่ออกหรือ? ไม่ใช่เสิ่นว่านจือหรอก แต่เป็นซ่งซีซีต่างหาก" หลานเจี่ยนกูกูอุทาน "นั่นยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ ซ่งซีซีเป็นพระชายาเป่ยหมิงอ๋อง ฝ่าบาทต่อให้ทรงเลอะเลือนเพียงใด ก็ไม่มีวันยกตำแหน่งฮอง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1435

    ฮองเฮาตกพระทัย รีบก้มหน้าลง ดวงตาที่หม่นหมองฉายแววไม่พอใจ นางไม่คาดคิดว่าหลังจากที่ผู้คนในวังหลังพูดถึงเรื่องนี้ ฮ่องเต้กลับปกป้องซ่งซีซีก่อน และความพิโรธของพระองค์นั้นมีเพื่อซ่งซีซีเพียงผู้เดียว หากเรื่องนี้มิได้เกิดจากความคิดที่ไม่เหมาะสมของซ่งซีซี ก็ย่อมเป็นฮ่องเต้ที่ทรงกระทำเอง พระองค์จึงรับความผิดทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว ฮองเฮารู้สึกสับสน เพราะฮ่องเต้ทรงให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของพระองค์เองเป็นที่สุด เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เหตุใดพระองค์จึงไม่ฉวยโอกาสผลักความผิดไปที่ซ่งซีซี เพื่อรักษาพระเกียรติของตน? เหตุใดจึงต้องปกป้องซ่งซีซีก่อน? หากพระองค์ตรัสแบบเดียวกันนี้ต่อเหล่าขุนนางในราชสำนัก ก็ย่อมจะถูกกล่าวหาว่าฮ่องเต้ทรงกระทำการอันเหลวไหล ความคิดหลากหลายประการถาโถมเข้าสู่จิตใจของฉีฮองเฮา นางอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องในอดีตที่ฮ่องเต้เคยตรัสว่าอยากให้ซ่งซีซีเข้าวัง หรือว่าฮ่องเต้จะมีใจให้ซ่งซีซีจริง? หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็ถือว่าน่าหัวเราะสิ้นดี ตั้งแต่วันที่นางแต่งงานกับฮ่องเต้ นางก็รู้ว่า ผู้ชายคนนี้จะไม่มีวันเป็นของนางเพียงผู้เดียว ความรักหรือความชื่นชอบล้วนไม่สำคั

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1434

    ดังที่อาจารย์หยูวิตกไว้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยพยายามลอบถามจากเหล่าข้ารับใช้ในจวนเป่ยหมิงอ๋อง โชคดีที่ได้เตือนล่วงหน้าไว้แล้ว ข้ารับใช้เหล่านั้นจึงตอบกลับไปเพียงว่าไม่ทราบในทุกคำถาม แต่ยิ่งจวนเป่ยหมิงอ๋องปิดปากเงียบ ก็ยิ่งทำให้ผู้อื่นสงสัย เพราะเหตุการณ์นี้ดูผิดปกติอย่างยิ่ง การเสด็จออกจากวังของฮ่องเต้ มิใช่เรื่องเล่าที่สามารถเกิดขึ้นง่ายๆ ด้วยการนำคนเพียงไม่กี่คนออกไปตรวจเยี่ยมบ้านเมือง แม้จะเป็นงานมงคลในจวนของขุนนางชั้นสูง หากฮ่องเต้จะเสด็จด้วยพระองค์เอง ย่อมต้องมีพระราชโองการล่วงหน้าเพื่อให้เจ้าของบ้านเตรียมการรับเสด็จ บางครั้งถึงขั้นต้องซ่อมแซมบ้าน ปูพรม หรือตกแต่งด้วยดอกไม้ เตรียมอาหารและข้าวของต่างๆ แต่การเสด็จไปยังจวนของขุนนางกลางดึก โดยมีเพียงเกี้ยวหนึ่งหลังและคนไม่กี่คน ย่อมเป็นสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น เป่ยหมิงอ๋องเองก็อยู่ที่หนานเจียงในขณะนี้ แต่ปัญหาใหญ่คือ พระชายาเป่ยหมิงอ๋อง ซึ่งในตอนนี้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการซ่ง กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่จวน และก่อนหน้านี้ ฮ่องเต้มักทรงเรียกให้นางไปยังห้องพระอักษรเพื่อร่วมปรึกษา ใครจะทราบว่าพวกเขาหารือกันจริงหรือไม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1433

    ในห้องหนังสือ โคมไฟยังคงส่องสว่าง หลังจากฟังคำพูดของเสิ่นชิงเหอแล้ว ซ่งซีซีถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก "เช่นนี้ ข้าจะได้หายไวๆ เสียที ข้ารู้สึกอึดอัดแทบบ้าแล้ว" อาจารย์หยูกล่าว "คืนนี้ช่างน่าหวาดเสียวเสียจริง" เสิ่นชิงเหอมองซ่งซีซี พลางถอนหายใจเบาๆ "หากเขาเอาอย่างเยี่ยนอ๋องจริงๆ เกรงว่าศิษย์น้องคงต้องทำตามแบบเซี่ยถิงเหยียนแล้วกระมัง" "เขารู้จักชั่งน้ำหนักผลลัพธ์" อาจารย์หยูกล่าว ซ่งซีซีรู้สึกหงุดหงิด "ข้าว่าเขาช่างไร้เหตุผลยิ่งนัก ตอนข้ายังเล็ก เขาสนิทสนมกับพี่ชายทั้งสองของข้าและมองข้าเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง ต่อมาพอข้าเข้าราชสำนัก เขาก็ปฏิบัติต่อข้าในฐานะขุนนางโดยแท้ แล้วเหตุใดจู่ๆ เขาถึงมีความคิดเช่นนี้ขึ้นมาได้?" อาจารย์หยูกล่าว "มันใช่จะเกิดขึ้นกะทันหันหรือ? พระชายาอ๋องลืมหรือไม่ว่า ตอนที่กลับมาจากการกอบกู้หนานเจียง เขาเคยคิดจะให้ท่านเข้าไปในวังเป็นสนมของเขา" "ข้าเข้าใจมาตลอดว่า เขาต้องการใช้ข้าเพื่อบังคับให้ศิษย์น้องสละอำนาจในกองทัพเสียอีก" อีกทั้งในตอนนั้น ด้วยความที่ข้าเป็นบุตรีของซ่งฮวยอัน การให้ข้าเข้าวังยังเป็นการป้องกันไม่ให้ใครที่มีจิตคิดร้ายแต่งข้าไปอีกด้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1432

    ภาพวาดของเสิ่นชิงเหอนั้นฝีมือประณีตยิ่งนัก ละเอียดอ่อนและสมจริงราวกับมีชีวิต ทุกคนมองดูภาพวาดบนกระดาษ จากนั้นจึงหันไปมองจักรพรรดิ์ซูชิงที่ยังประทับอยู่บนเก้าอี้โดยไม่ทรงแสดงอาการอ่อนล้าแม้แต่น้อย ราวกับว่าพระองค์ได้ก้าวเข้าไปอยู่ในภาพนั้นแล้ว แม้แต่สีพระพักตร์ก่อนหน้านี้ก็เหมือนถ่ายทอดออกมาได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน รายละเอียดต่างๆ ไม่ถูกมองข้าม แม้แต่ริ้วรอยบางๆ รอบดวงพระเนตร เส้นผมสีขาวที่ข้างพระเกศา ปานสีดำเล็กๆ ใต้ริมพระโอษฐ์ด้านขวา และร่องพระโอษฐ์ ทุกอย่างถูกถ่ายทอดไว้อย่างครบถ้วน แม้ว่าฉลองพระองค์จะยังไม่ได้ลงสี แต่ลวดลายบนฉลองพระองค์ก็ถูกวาดออกมาอย่างครบถ้วนไร้ข้อผิดพลาด จักรพรรดิ์ซูชิงทอดพระเนตรภาพของพระองค์เองอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก พระองค์ทรงนิ่งไปครู่ใหญ่ก่อนจะยกพระหัตถ์แตะพระพักตร์ของพระองค์เอง “ข้าดูแก่ขึ้นจริงๆ” ตามปกติพระองค์แทบไม่ได้ส่องคันฉ่อว แม้จะส่องก็ไม่ได้ชัดเจนเท่านี้ “ฝ่าบาทมิได้แก่เลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเห็นว่าฝ่าบาทยังดูเหมือนเพิ่งจะยี่สิบต้นๆ เท่านั้นเอง” อู๋ต้าปั้นกล่าวประจบ จักรพรรดิ์ซูชิงทรงแย้มพระสรวล ทอดพระเนตรอู๋ต้าปั้นพร้อมส่ายพระพักตร์เล็

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1431

    จักรพรรดิ์ซูชิงดูเหมือนจะทรงได้สติขึ้นมากกว่าตอนที่อยู่ในวัง ไม่ได้ทรงเลื่อนลอยเหมือนก่อนหน้านี้ พระองค์ทรงแย้มพระสรวล “ไม่ต้องเคร่งครัดนัก ทำตัวตามสบาย เฮ้อ ข้าเพียงรู้สึกอึดอัดในใจเลยอยากมาที่จวนอ๋องเพื่อสนทนากับอาจารย์เสิ่น” ซ่งซีซีจึงกล่าว “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระหม่อมคงไม่ขัดพระองค์และศิษย์พี่ ขออนุญาตกลับไปพักผ่อน” “ไม่ต้องรีบไป ในเมื่อมาแล้วก็มาร่วมพูดคุยกันเถิด” จักรพรรดิ์ซูชิงทรงมองนางด้วยสายพระเนตรที่ดูเป็นห่วง “อาการบาดเจ็บของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” ซ่งซีซีที่เพิ่งยันตัวลุกขึ้นต้องวางมือลงอีกครั้ง ตอบว่า “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงห่วงใย กระหม่อมดีขึ้นมากแล้ว เพียงแต่หมอหลวงกำชับให้พักฟื้นบนเตียงสักระยะ” “อืม” จักรพรรดิ์ซูชิงพยักพระพักตร์ “บาดเจ็บกล้ามเนื้อและกระดูก ควรต้องพักรักษาให้ดี” แม้พระองค์จะตรัสเช่นนั้น แต่ก็ไม่ได้ทรงอนุญาตให้นางกลับไป ทั้งห้องจึงมีทั้งผู้ที่นั่งและยืนอยู่เงียบๆ เพื่อรอพระราชดำรัส ผ่านไปสักพัก จักรพรรดิ์ซูชิงทรงทำลายความเงียบขึ้นก่อน “มีอาหารว่างหรือไม่? ข้าหิวแล้ว” อู๋ต้าปั้นเมื่อได้ยินรีบกล่าว “ฝ่าบาทยังมิได้เสวยอาหารค่ำ รีบจัดเตร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1430

    ข่าวคราวเรื่องราวในห้องหนังสือและตำหนักฉือหนิงได้ถูกนำขึ้นกราบทูลถึงพระกรรณของจักรพรรดิ์ซูชิง ทำให้พระองค์ทรงรู้สึกกระวนกระวายและอึดอัดพระทัยยิ่งนัก รวมทั้งการวางแผนงานตลอดหลายวันที่ผ่านมา ยิ่งทำให้พระอาการปวดศีรษะรุนแรงขึ้นจนแทบแตกออกเป็นเสี่ยงๆ พระองค์ทรงยกเลิกการกักบริเวณฮองเฮา โดยแท้จริงแล้วก็เพื่อเตรียมตัวให้องค์ชายใหญ่ หากจะทรงแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาท ตำแหน่งนี้ย่อมไม่อาจมีมารดาที่ถูกกักบริเวณได้ ตอนแรกทรงคิดว่า ช่วงเวลากักบริเวณนี้ ฮองเฮาคงจะได้สำนึกผิด ทราบดีว่าการตามใจบุตรไม่ต่างอะไรกับการผลักดันบุตรไปสู่ความตาย แต่ใครจะคาดคิดว่าฮองเฮาไม่เพียงไม่สำนึกผิด กลับยิ่งเชื่อว่าการมีพระโอรสอยู่ใกล้ตัวจะช่วยเสริมความมั่นคงให้ตำแหน่งพระมเหสีของนาง เนื่องจากไม่ค่อยอยากอาหาร พระกระยาหารค่ำในวันนั้น พระองค์เสวยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อประทังพระอุทร ก่อนเสวยยา พระองค์จำเป็นต้องเสวยยา เพราะแต่ละวันผ่านไปนับเป็นกำไร แต่ด้วยวันสุดท้ายของพระชนม์ชีพที่นับถอยหลังเข้ามาใกล้ หลังจากทรงวางแผนการ พระทัยกลับเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น พระองค์ทรงทราบดีว่าทุกคนล้วนต้องผ่านความตายนี้ แต

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1429

    ฮองเฮาเลือกเวลาอย่างเหมาะสม ไปยังห้องหนังสือเพื่อรับองค์ชายใหญ่ แล้วจึงพากันกลับไปยังตำหนักฉือหนิงเพื่อถวายพระพรไทเฮา กลุ่มคนที่ตามหลังมานั้นอลังการยิ่งนัก แม้แต่องค์ชายใหญ่ยังถูกข้ารับใช้ตัวน้อยอุ้มกลับมา พอมาถึงประตูตำหนักจึงวางเขาลง ฮองเฮาจัดระเบียบอาภรณ์ให้เรียบร้อย แล้วจูงมือองค์ชายใหญ่เข้าไปด้านใน ทำความเคารพด้วยการคุกเข่าตามธรรมเนียม ถวายพระพรไทเฮาอย่างครบถ้วน แต่ไทเฮากลับมิทรงอนุญาตให้นางลุกขึ้นทันที เพียงเรียกองค์ชายใหญ่เข้าไปใกล้ "วันนี้ไทฟู่ชมเจ้าหรือไม่?" องค์ชายใหญ่หดคอเล็กน้อย มองไทเฮาอย่างระมัดระวัง ก่อนตอบเสียงเบา "วันนี้ไทฟู่ลืมชมขอรับ" ฮองเฮาที่ยังคุกเข่าอยู่รีบเสริมว่า "เสด็จแม่ ไทฟู่เข้มงวดนัก มิชมผู้ใดง่ายๆ" แน่นอนว่าฮองเฮาหาได้ทราบไม่ว่า ไทเฮาเคยตกลงกับไทฟู่ว่าหากองค์ชายใหญ่ประพฤติดีและตั้งใจเรียน ไทฟู่จะกล่าวชมเมื่อตอนเลิกเรียน หากมิใช่ก็จะเงียบเสีย ด้วยเหตุนี้ ไทเฮาจึงทรงทราบถึงความประพฤติขององค์ชายใหญ่ในแต่ละวันโดยง่าย ไทเฮามิทรงตอบคำของฉีฮองเฮา เพียงตรัสกับองค์ชายใหญ่อย่างเรียบๆ ว่า "ยังจำกฎเกณฑ์ได้หรือไม่?" องค์ชายใหญ่หน้าซีด รีบ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status