ซ่งซีซีหัวเราะแต่ก็ต้องถามให้ชัดเจนกว่านี้ เลยให้เสิ่นว่านจือจับนางกลับมา แล้วผลักนางนั่งลงบนเก้าอี้"เจ้าเคยเจอเขามาเหรอ?"ดวงตาของเซียนหนิงเป็นประกาย "อืม ตอนที่เขาเข้าวังไปคารวะให้หวงโฮ่ว ข้าได้เห็นแล้ว""เจ้าชอบอะไรในตัวเขา" ซ่งซีซีถาม"ไม่รู้สิ แค่มองก็ชอบแล้ว"ซ่งซีซีไม่รู้ว่าฉีลิ่วมีหน้าตาเป็นอย่างไร ชอบแบบนี้ก็เรียกได้ว่าชอบตั้งแต่แรกพบ มันมักจะเพราะรูปร่างหน้าตา"อืม งั้นให้พี่ส่งคนไปถามให้ไหม?""เรื่องนี้ข้าตัดสินใจไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับเสด็จแม่และพี่สะใภ้นะ" เซียนหนิงอดไม่ได้ที่ยกยิ้มขึ้นมา "แต่ก็ได้นะ ลองถามดูก็ได้"ที่จริงแล้ว เรื่องแต่งงานขององค์หญิง ไม่จำเป็นต้องถามก็ได้ หากนางชอบใจผู้ใด ก็แค่ไปขอพระราชโองการเท่านั้นอย่างไรก็ตาม ซ่งซีซียังคงต้องการทราบความคิดเห็นของฉีลิ่ว หากถูกบังคับให้แต่งงานเพียงเพราะความกดดันจากราชวงศ์ งั้นแต่งงานไปก็คงใช้ชีวิจอย่างไม่มีความสุขอยู่ดีนางรู้ความตั้งใจของหวงโฮ่ว ลูกหลานของตระกูลฉีต่างโดดเด่น หากให้เลือกคนจากบรรดาพวกเขาเพื่อแต่งงานกับองค์หญิง งั้นฉีลิ่ว ลูกชายจากบ้านที่สามที่ถือว่าไม่เอาไหนก็เหมาะสมที่สุด จะไม่ทำให้บุรุษอื่
เซี่ยหลูโม่เลิกงานกลับมา ซ่งซีซีก็เล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้เซี่ยหลูโม่ถอดเสื้อคลุมของเขาออกแล้วยื่นให้ป้ายี เขานั่งลงและจิบน้ำชาสองแก้ว ลหังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า "ฉีลิ่วเป็นผู้ลากมากดีชัดๆ ชอบกินชอบเที่ยว นี่ก็คลายๆ กับเซียนหนิง...เหมาะสมกันดี""อีกไม่กี่วัน ตระกูลฉีอาจจะมาสู่ขอ ข้าวางแผนให้ทำตามขั้นตอนงานแต่งงานตามปกติ ข้าถามเซียนหนิงมาแล้ว นางชอบจัดพิธีเหล่านั้นเป็นขั้นเป็นตอนมาก""การแต่งงานของนางงั้นจัดตามความต้องการของนางเถอะ ข้าเป็นพี่ชายของนางที่ต่อสู้อยู่ในสนามรบก็เพื่อให้ท่านแม่และน้องได้ใช้ชีวิตตามที่ตนเองต้องการ"เขาจับมือของซ่งซีซี และนั่งลงด้วยสายตาที่อ่อนโยน "เดิมทีคำพูดนี้ข้าก็อยากจะพูดกับเจ้าเช่นกัน แต่ดูเหมือนจะไม่มีสิทธิ์อะไร เพราะผลงานของท่านพ่อและพี่ชายเจ้า และผลงานของเจ้าเองก็เพียงพอที่จะให้ชีวิตเจ้าอยู่ดีมีสุขตลอดชีวิตแล้ว"ซ่งซีซียิ้ม "ถ้าท่านบอกกับข้า ข้าก็ยังรู้สึกมีความสุขเช่นกัน"ดวงตาของเขาเป็นประกาย "จริงเหรอ? ถ้าอย่างนั้นข้าขอพูดอะไรตรงๆ เจ้าห้ามหนี ตอนแรกที่ข้าไปออกศึกที่เขตหนานเจียง ข้ามีความคิดเดียวก็คือยึดเขตหนานเจียงให้กลับคืน
ซ่งซีซีบีบแก้มเขาด้วยมือ "หยุดทำหน้าดุๆ แบบนี้ต่อหน้านาง นางจะไม่คิดว่าท่านกำลังจะว่านาง"เซี่ยหลูโม่จับมือนาง ประกบริมฝีปากของนางเบาๆ "ช่วยไม่ได้ น่ะ เกิดมาก็มีสีหน้าดุร้านเช่นนี้""ท่านก็มักจะยิ้มกับข้าไม่ใช่หรือ งั้นก็ยิ้มให้นางมากๆ ด้วย"เซี่ยหลูโม่พยักหน้า "ตกลง ตามที่เจ้า"พูดเลยซ่งซีซีออกไปสั่งว่าไม่จำเป็นต้องส่งอาหารไปที่ห้องไทเฟยอีก นางจะไปตามหาไทเฟยไปยังห้องอาหารด้วยตนเองสนมฮุ่ยไทเฟยทำตัวลังเล และถามอยู่หลายครั้งว่าวันนี้อารมณ์ของเขาเป็นอย่างไร ซ่งซีซีปลอบใจนางว่า "อารมณ์ดีอยู่น่ะ"จากนั้นสนมฮุ่ยไทเฟยถึงรู้สึกโล่งใจ และไปที่ห้องอาหารกับนาง เซี่ยหลูโม่ได้นั่งลงแล้ว เมื่อเขาเห็นนางมาก็ยืนขึ้นพลางพูดว่า "เสด็จแม่มาแล้วหรือ"เขามีรูปร่างที่สูงเพรียว ใบหน้ายังคงสงบนิ่งตามปกติ เผยความสง่างามและออร่าของผู้บัญชาการทหารอย่างไรอย่างนั้นจากนั้นเขาก็ทำตัวเชื่อฟังคำพูดของภรรยาของเขาและค่อยๆ ยิ้มให้สนมฮุ่ยไทเฟยสนมฮุ่ยไทเฟยตกตะลึงในใจของนางก็นึกถึงภาพที่ก่อนจะฮ่องเต้องค์ก่อนจะระเบิดอารมณ์ออกมา เขาก็เผยรอยยิ้มจางๆ เช่นนี้ หรือไม่ก็ยิ้มเยาะ จากนั้นก็เป็นการดุอย่างรุนแรงตอนนี้เ
สนมฮุ่ยไทเฟยกล่าวว่า "คุณหนูจากตระกูลหวังช่างน่าสงสารจริงๆ"เสิ่นว่านจือหัวเราะเยาะ "น่าสงสารอะไรกันล่ะ ล้วนเป็นคนประเภทเดียวกัน พวกท่านคงไม่รู้น่ะ วันที่ซีซีแต่งงานกับผู้บังคับบัญชา นางก็แต่งงานเข้าจวนแม่ทัพด้วย แต่นางพยายามอยากเอาชนะซีซีด้วยทุกวิถีทาง ยังบอกสาวใช้ที่ข้างกายนางว่าสินเดิมของซีซีมีน้อยมากน่าอับอาย หลังๆ มีสินเดิมเพิ่มมาเป็นจำนวนมาก พวกท่านไม่รู็ว่าสีหน้าของนางมันดูแย่ขนาดไหนเชียว""มรเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร" สนมฮุ่ยไทเฟยถาม"แน่นอนว่าเป็นคนของข้าไปสอบสวนมา ตระกูลหวังดูแลจวนก็ไม่เอาไหนเช่นกัน ควบคุมปากของคนใช้ไม่ได้ ถึงยังไงหวังชิงหลูก็เกลียดแค้นซีซีของเราด้วย" เสิ่นว่านจือดูภูมิใจเล็กน้อย และตอนนี้นางก็พบว่าคนที่ศิษย์พี่สาวรองของซีซีให้นั้นใช้งานได้ดีมากทีเดียวซ่งซีซีจำได้ว่าได้พบกับหวังชิงหลูมาสองครั้ง ครั้งแรกไม่มีความรู้สึกใดๆ แต่ครั้งที่สองนางก็รู้สึกถึงอีกฝ่ายไม่เป็นมิตรแล้วนางกล่าวว่า "ถึงยังไงเราก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กันอยู่แล้ว จะเกลียดอะไรนักหนาก็แล้วแต่นาง"สนมฮุ่ยไทเฟยถ่มน้ำลาย "ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีเอาซะ"นางคิดได้ทันทีว่าอำนาจทางทหา
เซี่ยหลูโม่รอมานาน แต่นางก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ เขาไม่ได้รู้สึกผิดหวังแต่อย่างใด สักวันนางจะตกหลุมรักเขาจริงๆ แล้วจะบอกเขาด้วยตนเองชีวิตของพวกเขายังคงยาวนานมาก เขาจะค่อยๆ รอวันรุ่งขึ้น ซ่งซีซีพาเสิ่นว่านจือและหงเชวี่ยไปที่จวนเฉิงเอินป๋อ และนำของขวัญมากมายไปด้วยฮูหยินเฉิงเอินป๋อนำครอบครัวออกมาเพื่อต้อนรับพวกนางเหลียงเส้าเป็นบุตรชายคนโตของภรรยาเอก และเป็นซื่อจื่อจวนป๋อ (ตำแหน่งทายาทผู้สืบทอดบรรดาศักดิ์ 'ป๋อ') มีภูมิหลังที่ดีและมีหน้าตา จริงที่ว่าเป็นายในฝันของสตรีมากมายซ่งซีซีเป็นถึงพระชายา จวนเฉิงเอินป๋อจึงต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ได้ยินมาว่าเฉิงเอินป๋อมีอนุมากมาย แต่วันนี้ไม่ได้เห็นพวกนางเลย เห็นเพียงฮูหยินจากบอนรองบ้านสามและบ้านสี่นำลูกๆ มาด้วยฮูหยินเฉิงเอินป๋อมีอายุเพียงประมาณสี่สิบปี นางเป็นคนอ้วนนิดหน่อย แต่ทั่วทั้งตัวของนางก็แสดงออกถึงความฉลาดและความสง่างามของนายหญิงคุณชายและคุณหนูจากจวนเฉิงเอินป๋อต่างออกมาพบ ซ่งซีซีมอบของขวัญด้วยตนเอง และพูดคุยกับพวกเขาอยู่สักพัก จากนั้นฮูหยินเฉิงเอินป๋อก็เรียกให้พวกเขาออกไปจากนั้นดวงตาของซ่งซีซีก็ตกลงไปที่ใบหน้าของหลานเอ่อร์ ท้องน้อยข
แต่มันก็สายเกินไปแล้ว ก่อนที่ยายคนนั้นจะเดินออกไป สตรีที่สวมกระโปรงหรูปักดอกดาดตะกั่วสีแดงที่ส่งเสียงเมื่อกี้ก็เดินเข้ามา และยังคลุมเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกอันล้ำค่าด้วยซ่งซีซีเหลือบมองดูแวบหนึ่ง และเห็นว่าผมของสตรีคนนี้เป็นสีเข้มและเป็นประกาย คิ้วงดงาม ผิวขาวราวกับหิมะ และใบหน้าของนางหาที่ติไม่ได้จริงๆปิ่นปักผมหยกสีขาวลายยู่อี่ปักเข้าไปในมวย มีแปะกลีบดอกไม้ที่ด้านข้างของมวย และต่างหูทับทิมคู่หนึ่งห้อยลงมาจากติ่งหูของนางเอวของนางบางและนุ่มนวลมาก ในขณะที่นางเดินนั้น มีท่าทีสง่างาม ทั้งมีเสน่ห์แต่ไม่มากเกินไปและมีความสดใสแฝงด้วยฮูหยินเฉิงเอินป๋อขมวดคิ้วเมื่อเห็นนางเข้ามา ยัยตัวแสบนี่ไม่อยู่ในห้องให้ดีๆ ออกมาขัดหูขัดตาแขกผู้มีเกียรติหลังจากเห็นนางเข้าไปในห้องโถงดอกไม้ ก็มองอย่างไม่แยแส จากนั้นก็ไหว้ให้ "คารวะฮูหยิน ข้าได้ยินมาว่าที่จวนมีแขกผู้มีเกียรติมาเยี่ยม ไม่อนุญาตให้ข้าเข้ามาห้องโถงดอกไม้ ข้าตั้งใจมาขอพบแขกผู้มีเกียรติ ไม่งั้นเดี๋ยวจะเสียมารยาทเอา"หลานเอ่อร์เงียบมาตลอด เมื่อเห็นนางเข้ามาอย่างเย่อหยิ่ง ไม่เห็นท่านพี่อยู่ในสายตาเลย จึงดุขึ้นด้วยเสียงสั่นเครือทันที "เจ้ามาทำ
หลานเอ่อร์ลุกขึ้นและพาซ่งซีซีออกไป และบังเอิญเห็นเยียนหลิวถูกเสิ่นว่านจือจับผมไว้ในขณะนี้ นางไม่หยิ่งหรือเย็นชา แก้มทั้งสองข้างเต็มไปด้วยรอยตบหลายฉาดอย่างชัดเจน หน้าบวมด้วย เห็นๆ อยู่ว่าเสิ่นว่านจือลงมือได้โหดเหี้ยมมากเพีบงใดเมื่อเสิ่นว่านจือเห็นพวกนางออกมา จากนั้นผลักนางด้วยความรังเกียจ "ไสหัวออกไป!"เยียนหลิวพยายามให้ยืนนิ่ง แต่ยังคงเงยคางมองไปที่หลานเอ่อร์ "ฮูหยินซื่อจื่อ แขกของเจ้าช่างป่าเถื่อนจริงๆ แต่ข้าต้องขอบคุณแขกของเจ้าด้วย ซื่อจื่อจะต้องรักข้ามากยิ่งขึ้น"หลังจากพูดอย่างนั้น นางก็กุมท้องแล้วจากไปพร้อมกับความช่วยเหลือจากสาวใช้จู่ๆ ใบหน้าของหลานเอ่อร์ก็ซีดลง และน้ำตาก็ไหลลงมาอย่างไม่หยุดซ่งซีซีพานางกลับไปที่ห้องโถงด้านข้างในลานบ้านที่นางอาศัยอยู่ เอาผ้าเช็ดหน้าปาดน้ำตาให้นาง แล้วถอนหายใจ "นางก็กดขี่เจ้าเช่นนี้หรือ หลานเอ่อร์ เจ้าเป็นถึงท่านหญิงน่ะ!"หลานเอ่อร์สะอื้น "ท่านหญิงจะมีประโยชน์อะไร? เขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเสด็จพ่อและเสด็จแม่ของข้า อีกอย่าง ต่อให้เสด็จพ่อแม่ของข้าอยากจะช่วยอะไรเขาเรื่องอาชีพขนนุงก็ช่วยไม่ได้หรอก"ท่านอ๋องที่มีแค่ในนาม ไร้อำนาจ ไม่รู้หาผลประ
เสิ่นว่านจือและซ่งซีซีต่างก็กราดเกรี้ยวอย่างมาก เหลียงเส้าคนนี้ช่างโหดร้ายขนาดไหน? เขาเอาเงินของอนุเหวินไปเพื่อแต่งงานกับคนที่เขารัก ทว่าเขากลับตบหน้านางเพียงคำพูดคำเดียวซ่งซีซีถามด้วยความโกรธทันที "เขาเคยใช้กำลังกับเจ้าหรือเปล่า"หลานเอ่อร์กล่าวว่า "ยังไม่เคย"ซ่งซีซีกล่าวว่า "ตอนนี้ไม่ได้ลงมือ แล้วผู้ใดจะไปรู้ว่าอนาคตเป็นยังไง หญิงงามเมืองคนนั้นกล้าหยิ่งต่อหน้าข้ามากขนาดนี้ในวันนี้ ไม่อาจรับประกันได้ว่านางจะไม่ไปหาเรื่องเจ้า นางออกมาจากซ่อง แม้ว่าเป็นสตรีที่หาเงินด้วยความสามารถด้านศิลปะ แต่ฝีมือของนางก็ไม่เบาเลย"นางจับไหล่ของหลานเอ่อร์ แล้วพูดว่า "คนที่ติดตามเจ้ามามีเท่าไร เพียงพอที่จะปกป้อเจ้าหรือไม่"หลานเอ่อร์กล่าวว่า "มีสาวใช้สี่คนและยายคนหนึ่ง"ซ่งซีซีคิดที่จะกลับไปหารือกับกุ้นเอ๋อร์ และให้เขาเขียนจดหมายกลับไปถึงนิกายเพื่อถามว่าสามารถขอศิษย์พี่สาวสักสองคนมาเป็นองรักษ์ได้ได้หรือไม่ไม่รู้ว่าอาจารย์ของเขาจะตอบตกลงหรือไม่ แต่เดิมอาจารย์ของเขาไม่เห็นด้วยให้ลูกศิษย์หญิงลงจากภูเขาเพื่อหาเลี้ยงชีพแต่มันเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น เมื่อเด็กคลอดออกมามีอายุได้หนึ่งเดือน ก็จะให้พวก