Share

บทที่ 388

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
เนื่องจากการแต่งงานของซ่งซีซี เสิ่นว่านจือจึงกลับบ้านครั้งหนึ่งเพื่อให้สมาชิกในครอบครัวของนาง และสถาบันชื่อเยียนมอบของขวัญงานแต่งงานเป็นสินเดิมให้ซ่งซีซี

แม้ว่าเป็นเรื่องเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ทว่าหากอ๋องเยี่ยนไปสู่ขอ ต้องเดินทางจากเยี่ยนโจวไปตระกูลเสิ่นที่เมืองเจียงหนาน ตามระยะทาง งั้นก็คือเวลาไม่นานหลังจากที่นางกลับจากตระกูลเสิ่นไปยังสถาบันชื่อเยียนนี่ อ๋องเยี่ยนก็ไปขอนางแต่งงานเหรอ?

ส่วนตระกูลเสิ่นส่งคนไปจัดสินเดิมให้ซีซี ก็น่าจะเป็นเวลาหลังจากที่นางกลับสถาบันชื่อเยียนไม่กี่วันก็ไปเมืองหลวงจิงแล้ว ดังนั้นตอนรวมตัวกับคนของตระกูลเสิ่นที่เมืองหลวงนั้น พวกเขาน่าจะยังไม่รู้เรื่องนี้

เสิ่นว่านจือระเบิดอารมณ์ทันที "อ๋องเยี่ยนนี่ไม่รู้จักละอายใจบ้างหรือไง เขาอยุเท่าไรแล้ว ยังกล้ามาสู่ขอข้า จดหมายหย่าส่งมาตอนไหน อาจไม่แน่เขาไปสู่ขอก่อนแล้วค่อยส่งจดหมายหย่ามา ไอ้แก่ไม่ตายนี่ ข้าจะฆ่าเขา"

อาจเป็นเพราะเอาแต่พูดถึงอ๋องเยี่ยนๆ พระชายาอ๋องเยี่ยนจึงหลั่งน้ำตา และดวงตาที่หมองคล้ำของนางก็เพ่งความสนใจไปที่ซ่งซีซีอย่างตั้งใจในที่สุด

นางจำได้แล้ว

นางร้องไห้ออกมาด้วยการสะอื้น และร้องไห้อย่างหนักในทันท
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 389

    ด้วยกลัวว่านางจะรู้สึกกระวนกระวายใจอีกครั้ง ชิงเชวี่ยจึงฝังเข็นให้นางอีกครั้ง และให้นางนอนหลับสบายก่อน จากนั้นจึงสั่งยาบรรเทาอาการ ซึ่งต้องกินในช่วงเวลาสองวันนี้เสิ่นว่านจืออ่านจดหมายหย่านั้น แล้วทุบโต๊ะให้พังแล้วด้วยแม่นางจากสำนักแม่ชีชิงมู่มาส่งอาหารเจให้ ชิงเชวี่ยสั่งให้คนไปรับมา และไปกินที่ลานด้านข้างได้รู้จากชิงเชวี่ยว่าเจ้าอาวาสสำนักแม่ชีชิงมู่เป็นคนใจดีและเห็นใจกับพระชายาอ๋องเยี่ยนมากส่วนแม่ชีคนอื่นๆ จะไม่มารบกวนนาง และของกินของใช้ไม่ได้ขาดแคลนนาง เพียงแต่กินเนื้อสัตว์ไม่ได้"ด้วยร่างกายของท่านป้า แม้แต่แกงเนื้อสัตว์ยังไม่ได้กิน มันจะได้ยังไง" ซ่งซีซีถามอย่างเป็นกังวล"แม้ว่าจะให้นางกิน นางก็กินไม่ลง" ชิงเชวี่ยส่ายหัว นางสวมเสื้อผ้าหยาบ คลึมเสื้อกันหนาวหนาๆ เอาไว้ "เดิมทีอยู่จวนอ๋องก็ไม่ค่อยได้กินแกงแล้ว แม้แต่ดมกลิ่นเนื้อสัตว์ก็ไม่ไหว นางเพื่อเรื่องบางเรื่อง ได้กินเจมานานแล้ว"ข่าวที่นางได้ยินมาจากชิงเชวี่ย เหมือนกับที่เสิ่นว่านจือบอกนาง เกือบทั้งหมดท่านป้ามีลูกชายหนึ่งคนและลูกสาวสองคน ลูกชายไม่ได้เป็นลูกแท้ๆ ของนาง เลี้ยงดูเขามาอย่างดีแต่ตอนนี้ก็แค่เป็นคนธรรมดา ไม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 390

    ซ่งซีซีเงยหน้าขึ้นแล้วถามชิงเชวี่ยว่า "อาการป่วยของท่านป้าข้ายังมีวิธีอื่นไหม สามารถชวนอาจารย์ของเจ้ามาด้วยได้ไหม"ชิงเชวี่ยกล่าวว่า"อาจารย์เคยมามานานแล้ว แต่แค่ไม่ได้บอกคุณหนู อาจารย์บอกว่า นางก็แค่อยู่แบบฆ่าเวลา ไม่รู้จะอยู่ต่ออีกนานแค่ไหน หากหยุดกินยา คงภายในวันสองวันแหละ"ซ่งซีซีเงยหน้าขึ้นมาทันที "หยุดกินยาไม่ได้"ชิงเชวี่ยพูดอย่างจนใจ "แม้ว่าไม่ได้หยุด ถึงสามารถผ่านสิ้นนี้นี้ได้ ก็อาจจะไม่รอดถึงวันที่สิบห้าเดือนหน้าหรอก"ซ่งซีซีหลั่งน้ำตาออกมา นางไม่รู้จริงๆ ว่าท่านป้าของนางจะป่วยหนักขนาดนี้ และหมอมหัศจรรย์ดันก็ไม่ได้บอกนาง หงเชวี่ยมักจะอยากพูดอะไรแต่ก็เงียบตลอด นางน่าจะเดาได้นานแล้ว"ตอนนี้เรากำลังฝังเข็นให้ เพื่อให้นางเจ็บปวดน้อยลง อย่างน้อยเมื่อถึงวันนั้นจริงๆ นางก็จะไม่ได้จากไปอย่างเจ็บปวดมาก" ชิงเชวี่ยปลอบใจนางแบบนี้ในฐานะแพทย์ นางเคยเห็นผู้ป่วยจำนวนมากเสียชีวิต แต่สำหรับพระชายาอ๋องเยี่ยน นางก็รู้สึกเสียใจมากรู้สึกทุกข์ใจมากกว่าคนๆ หนึ่งต้องโชคร้ายขนาดไหนที่ถูกสามีและลูกสาวตนเองรังเกียจและทอดทิ้ง ครอบครัวพ่อแม่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ อยู่สถานที่ห่างไกลมาก ในฤดูหนาวจัดเช่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 391

    "ฮิฮิ ข้าอยากจะแอบบุกเข้าไปในจวนอ๋อง และฆ่าอ๋องเยี่ยนให้จบๆ ไปเลย" เสิ่นว่านจือพูดคนนี้ออกมาหลังจากพลิกตัวไปมาหลายรอบ"อย่าโง่ไปเลย ทำร้ายเชื้อพระวงศ์เจ้าอยากให้ทั้งครอบครัวของเจ้าตายเป็นเพื่อนเจ้าหรือไง" ซ่งซีซีหันไปมองนาง "เจ้ากังวลว่าครอบครัวของเจ้าจะยอมรับการแต่งงานครั้งนี้?"เสิ่นว่านจือวางมือไว้ด้านหลังศีรษะ "ข้าไม่รู้ แต่ท่านพ่อย่อมไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน ท่านปู่มักจะตามใจข้าอยู่เสมอ ดังนั้นข้าเชื่อว่าเขาจะไม่เห็นด้วยเช่นกัน แต่ตระกูลเสิ่นต้องการมีโอกาสเกี่ยวดองกับตระกูลชั้นสูงสักครั้งเพื่อกู้ชื่อเสียงกลับมา ก็กลัวว่าคนในตระกูลอื่นๆ จะให้ความกดดันจนบีบบังคับให้ท่านพ่อและท่านปู่ต้องยอมรับการแต่งงานนี้""ต่อให้ตอบตกลงแล้ว เจ้าก็จะไม่แต่งอยู่ดี""ใช่ ข้าจะไม่แต่ง" น้ำเสียงของเสิ่นว่านจือเต็มไปด้วยความไม่สบอารมณ์ "แต่ในเมื่อตอบตกลงการแต่งงานนี้ ถ้าข้าไม่แต่ง ก็ต้องมีสตรีอื่นในตระกูลที่ต้องมาแต่งแทน จะให้คนอื่นมาเสียสละเพื่อข้า ข้าทำไม่ลงคอ โดยเฉพาะเป็นพี่น้องในตระกูลของข้าด้วย"นางกังวลใจมาก และอยากกลับบ้านของตระกูลเสิ่นนทีเลย"เจ้าจะกลับไหม" ซ่งซีซีถาม"อยากกลับ แต่ข้าจะไม่กล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 392

    ในช่วงสิบห้าวันนี้ ฮ่องเต้จะเสด็จไปศาลเจ้าจี้เทียนด้วยตนเองและจะไปที่ประตูเมืองเพื่อรับชมดอกไม้ไฟพร้อมกับประชาชนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเมืองหลวงและค่ายลาดตระเวนจำเป็นต้องเตรียมการตั้งแต่เนิ่นๆ และเร่งงานให้กระทรวงโยธาธิการสร้างเวทีสูงด้านนอกหอคอยเพื่อให้ฮ่องเต้และบุคคลสำคัญของราชสำนักได้ชมดอกไม้ไฟหลังจากเยี่ยมพระชายาอ๋องเยี่ยนแล้ว ซ่งซีซีก็คุยกับเขาที่กระท่อมด้านนอกกุ้นเอ๋อร์พักอยู่ที่นี่มาหนึ่งคืน แต่ชุดเครื่องนอนก็ถูดจัดอย่างระเบียบเรียบร้อย แม้ว่าโต๊ะและเก้าอี้จะเก่า แต่ก็ถูกทำความสะอาดอย่างสะอาดเลยซ่งซีซีเล่าสถานการณ์ของจวนอ๋องเยี่ยนให้เขาฟัง และเมื่อได้ยินว่าอ๋องเยี่ยนจะหย่ากับพระชายา เซี่ยหลูโม่ก็รู้สึกประหลาดใจมากเช่นกัน"นี่ก็เหลวไหลเกินไป ไร้บุตรชาย ขี้อิจฉา มีข้อใดที่จะทำให้คนนอกยอมเชื่อล่ะ?""ยังยังก็หาข้อกล่าวหาให้คนเชื่อถือได้ เช่นโรคร้ายแรง" ซ่งซีซีระงับความอึดอัดใจในใจ และไม่สามารถระบายออกมาได้สักที"ยังอยากแต่งงานกับเสิ่นว่านจือ เสด็จอาคิดอะไรอยู่?" เซี่ยหลูโม่ขมวดคิ้ว และเขาเป็นคนเฉลียวฉลาดมาโดยตลอด เรื่องบางเรื่องแค่ใช้สมองคิดสักหน่อยก็เข้าใจในทันที แ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 393

    พระชายาอ๋องเยี่ยนคว้าข้อมือของนางอย่างแรง แล้วมองออกไปข้างนอก นางหายใจแรงแต่ก็พยายามให้เสียงเบาลง "ฟังป้านะ เขาไม่ใช่คนดีอะไร เขาสมรู้ร่วมคิดกับองค์หญิงใหญ่"ซ่งซีซีตระหนก "อะไรนะ"นางรีบให้ทุกคนออกไป และขอให้เสิ่นว่านจือเฝ้าประตู"ท่านป้า ท่านพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร"ศีรษะของพระชายาอ๋องเยี่ยนนอนลง และเสียงของนางก็เต็มไปด้วยความกลัวและความเยือกเย็น "ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เขาได้คัดเลือกทหารและซื้อม้าในเมืองเยี่ยนโจวอย่างลับๆ โดยใช้เงินขององค์หญิงใหญ่และชายารองจิน และพวกทหารกับม้าเหล่านี้ถูกซ่อนไว้ในอำเภอหยง"ซ่งซีซีรู้จักอำเภอหยง นั่นเป็นดินที่ฮ่องเต้พระราชทานแก่องค์หญิงใหญ่ และเป็นสินเดิมที่จักรพรรดิองค์ก่อนพระราชทานนาง"อย่าไปมีเรื่องกับเขา อย่าเป็นศัตรูกับเขา เขาไม่ง่ายอย่างที่คนนอกคิด" ลมหายใจของพระชายาอ๋องเยี่ยนเบาลง บางทีอาจจะเป็นเพราะพบกับความลับนี้ นางกลัวเหลือเกิน"ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาสร้างเรื่องรักใคร่อนุภรรยาและทอดทิ้งภรรยาเอก เจ้าคิดว่าเขารักใคร่ชายารองจินจริงๆ หรือ? มันเป็นเพียงการสร้างชื่อเสียงที่ไม่ดีเพื่อลวงตาฮ่องเต้องค์ปัจจุบันก็เท่านั้น"เมื่อได้ยินอ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 394

    เมื่อกลับมาถึงเมืองหลวง ก็เป็นวันส่งท้ายปีเก่าแล้วปีใหม่เป็นเทศกาลที่มีความสุขที่สุดและเป็นวันที่รอคอยมากที่สุดแห่งปีสำหรับประชาชน ตามท้องถนนและตรอกซอกซอยเต็มไปด้วยบรรยากาศรื่นเริง ทุกครัวเรือนได้ติดคำอวยพรกลอนคู่ไว้ที่ผนัง กำลังเตรียมจะจุดประทัดเพื่อปัดเป่าสัตว์ร้ายปีใหม่ในวันแห่งครอบครัวอย่างมีความสุขของทุกคนนั้น ท่านป้าก็สิ้นลมอย่างเงียบๆ การตายของนาง ไม่แม้แต่มีผลใดๆ ต่อจวนอ๋องเยี่ยนเลยเพราะท่านอ๋องเยี่ยนพาครอบครัวของเขามาถึงเมืองหลวงแล้ว บางทีอ๋องเยี่ยนอาจยังไม่รู้เรื่องก็ได้ทันทีที่ซ่งซีซีเข้าบ้าน นางก็ได้ยินว่าครอบครัวของอ๋องเยี่ยนมาเยี่ยม สนมฮุ่ยไทเฟยกำลังต้อนรับพวกเขาอยู่ทันทีที่เสิ่นว่านจือมอบแส้ม้าให้ผู้คนดูแลม้า ก็ได้ยินข่าวนี้ นางกำหมัดแน่น อยากจะวิ่งเข้าไปข้างในเพื่อซัดอ๋องเยี่ยนยกใหญ่อย่างรุนแรงเซี่ยหลูโม่ขมวดคิ้ว "ตอนที่ข้าออกจากจวนนั้น พวกเขายังไม่ถึงเมืองหลวง เห็นๆ อยู่ว่าเพิ่งถึงเมืองหลวง แทนที่จะเข้าวังเพื่อไปเข้าเฝ้าไทเฮา กลับมาจวนเป่ยหมิงอ๋องเพื่อเยี่ยมหลานชายอย่างข้า ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเสด็จอาของข้าคนนี้ต่ำเกินไปในอดีตสินะ"ซ่งซีซีทำหน้าไร้อารมณ์

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 395

    ทันทีที่คำว่าสำนักแม่ชีชิงมู่ออกมา สีหน้าของสมาชิกทั้งเจ็ดคนในครอบครัวอ๋องเยี่ยนก็เปลี่ยนไปในทันทีทันที่ที่คุณชายใหญ่เซี่ยหรูหลิงกำลังจะนั่งลง เมื่อได้ยินคำพูดนี้ก็ถามว่า "สำนักแม่ชีชิงมู่ งั้นท่านพี่รู้ไหมว่าอาการของเสด็จแม่ของข้าเป็นยังไงบ้าง""ไม่ยังไง!" ซ่งซีซีมองไปที่เซี่ยหรูหลิง "ถ้าเจ้าห่วงใยนาง ทำไมไม่ไปเยี่ยมเองล่ะ"เซี่ยหรูหลิงเหลือบมองอ๋องเยี่ยนแวบหนึ่ง อ๋องเยี่ยนมีสีหน้าเย็นชา แต่ไม่ได้พูดอะไร"น้อง...น้องอยู่ในสถานบันศึกษา ไม่มีเวลาไป" เขาตอบอย่างตะกุกตะกัก"จริงเหรอ? มีคนมากมายในจวนอ๋องเยี่ยนต่างก็ไม่มีเวลาเหรอ แค่ส่งสาวใช้เพียงสองคนไปรับใช้ ถ้าไม่ใช่เพราะจวี๋ชุนและชิงเชวี่ยที่เป็นลูกศิษย์ของหมอมหัศจรรย์ดันอยู่ด้วย นางจะมีชีวิตอยู่ในสำนักแม่ชีชิงมู่ได้กี่วันกัน?"เดิมทีเสี้ยวจู่อวี้หยินก็ดูถูกพี่สะใภ้ที่เคยหย่ามาก่อนอยู่แล้ว เมื่อได้ยินนางพูดแบบนี้ ก็ทำหน้าไม่พอใจ "ข้ากลับไม่รู้ว่าพี่สะใภ้ของข้ามีงานอดิเรกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านสินะ"ดวงตาของซ่งซีซีราวกับมีดคมฟันที่ใบหน้าของเสี้ยนจู่อวี้หยิน "ข้าก็ไม่รู้ว่ามีลูกสาวที่อกตัญญูเช่นนี้ในโลกนี้""เจ้า!" ดวงตาของเสี้ยนจู่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 396

    ทันใดนั้นสีหน้าของอ๋องเยี่ยนก็เปลี่ยนไป ทำไมจดหมายหย่ายังเก็บไว้อยู่? ผู้คนที่ทำงานนั้น ไม่ได้เรื่องสักคนเซี่ยหรูหลิงรับจดหมายหย่าด้วยมือทั้งสองข้างพลางสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ลายมือในจดหมายหย่านั้นเขาจะอ่านไม่ออกได้ยังไง เป็นลายมือของท่านพ่อ เขาเป็นคนเขียนกับมือเองเขาเงยหน้าขึ้นมองอ๋องเยี่ยน และกำหมัดแน่น "เสด็จพ่อ ท่านจะอธิบายอย่างไร"อ๋องเยี่ยนเม้มริมฝีปาก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ความซื่อสัตย์และจริงใจก็หายวับไปหมด แต่กลับเป็นสีหน้าฉายแววอำมหิตแทนชายารองจินรีบพยายามแก้ต่างว่า "จะเป็นเสด็จพ่อของเจ้าเขียนให้ได้ยังไง? เห็นๆ อยู่ว่ามีคนลอกเลียนแบบลายมือของเสด็จพ่อเจ้า เสด็จพ่อของเจ้าจะหย่ากับเสด็จแม่ของเจ้าได้ยังไง"นางมองไปรอบๆ และไม่กล้าเอาเรื่องซ่งซีซี ได้แต่ถามจี้เสิ่นว่านจือว่า "เจ้าเป็นคนเอาจดหมายหย่าออกมาใช่ไหม เจ้ามีความแค้นอะไรกับจวนอ๋องเยี่ยนของเรากัน กลับต้องการใช้จดหมายหย่าปลอมเพื่อยั่วยุพระชายา ส่งผลให้นางอาการกำเริบอีก"เสิ่นว่านจือพูดอย่างเย็นชา "ไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร หากไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร ทำไมถึงไปตระกูลเสิ่นเพื่อสู่ขอข้าล่ะ อ๋องเยี่ยนและข้าไม่เคยเจอหน้าก

Pinakabagong kabanata

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1600

    แต่จะว่าไปแล้ว สตรีเช่นข้า ก็เป็นที่โปรดปรานของบุรุษไม่น้อยที่ภูเขาเหม่ยชาน มีบุรุษมากมายชื่นชอบข้า เด็กหนุ่มวัยกำลังขึ้นหนวดอ่อนส่งจดหมายรักให้ข้าเขินๆ อายๆ ส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่าข้าก็ไม่เคยเปิดดู ต่อหน้าพวกเขาก็ฉีกมันทิ้งเสียเลยในเมื่อยามนั้น ข้ายังไม่ได้เข้าใจตรรกะของคำปฏิญาณที่ตนตั้งไว้ดีนัก ในใจก็ยังมีคำว่า "ไม่แต่ง" ขวางอยู่เต็มอกข้าฉีกจดหมายรักต่อหน้าพวกเขา ข้ารู้ว่าตนโหดร้าย แต่ขอโทษเถิด ในเมื่อข้าคือสตรีที่ตั้งใจว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องรักใคร่ชั่วชีวิต ข้าย่อมต้องใจแข็ง ไม่ปล่อยให้พวกเขามีแม้แต่นิดเดียวของความหวังร้องไห้เสียในตอนนี้ ยังดีกว่าติดบ่วงในวันหน้า จนเจ็บปวดปานฉีกหัวใจแม้พวกเขาจะบอกหน้าตาเศร้าว่าให้ข้าช่วยส่งจดหมายรักให้ซ่งซีซีก็ตาม ข้าก็ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยหึๆ ยังไม่ทันได้เป็นบุรุษเต็มตัว ก็รู้จักใช้เล่ห์กลยั่วยวนหญิงเสียแล้วที่ภูเขาเหม่ยชาน เพื่อนเล่นที่ดีที่สุดของข้าก็คือพวกซีซี หมั่นโถว เฉินเฉิน และกุ้นเอ๋อร์อ้อ เคยมีอยู่ช่วงหนึ่ง ศิษย์พี่ใหญ่ของเฉินเฉินก็มาเล่นกับพวกเราด้วย แต่น่าเสียดาย ต่อมาเขาก็ลงเขาไปผดุงคุณธรรมเสียแล้ว แต่เฉินเฉินบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1599

    ข้า...เสิ่นว่านจือคนดีคนเดิม ยังคงอยากจะบ่นอยู่ บ่นถึงบุรุษของข้าหวังเยว่จาง เจ้านี่ช่างสมกับเป็นบุตรของท่านฮูหยินผู้เฒ่าหวังเสียจริงก่อนแต่งงานเราก็ตกลงกันไว้ชัดเจนแล้วว่า ต่อแต่นี้ไปไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใด เขาห้ามแทรกแซง ห้ามห้ามปราม และห้ามเข้าร่วมโดยเด็ดขาดผลสุดท้าย เพิ่งแต่งได้ปีเดียว เขาก็ฉีกสัญญาทิ้งหมดสิ้น จะทำด้วยทุกเรื่องตามข้าสิ่งที่ข้าทำนั้น เขาเกี่ยวข้องได้หรือ? ย่อมไม่ได้ สำนักว่านซงมีกฎเข้มงวด อีกทั้งยังมีอาจารย์อาผู้เหี้ยมโหดนั่งประจำอยู่ หากรู้ว่าข้าพาหวังเยว่จางไปตัดหัวคน เกรงว่าจะบดกระดูกข้าเป็นผุยผงไปแล้วแต่เขาว่า เดิมเขาก็เป็นคนในยุทธภพ คนในยุทธภพล้วนถือความสะใจเป็นใหญ่ ทั้งบุญคุณและความแค้น ไม่ว่าเป็นของผู้ใด ก็ล้วนต้องตอบแทนอีกทั้งเราทำอย่างลับๆ สถาบันว่านซงเหมินย่อมไม่รู้เรื่องแต่พี่ห้า ท่านเข้าสังกัดกรมกลาโหมไปแล้วนะ ท่านก็เป็นขุนนางแล้ว จะยังพูดเรื่องยุทธภพสะใจล้างแค้นอะไรอีกเล่า?สิ่งที่ข้าทำ แม้แต่ซ่งซีซีก็ยังไม่รู้ทั้งหมด หรือหากนางรู้ นางก็คงเลือกที่จะปิดหูปิดตาเสีย เพราะว่ามันขัดแย้งกับสถานะ เข้าใจหรือไม่?ข้า...เสิ่นว่านจือ ไม่ย่างกรายเข้าสู่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1598

    บางครั้งข้าก็สอนศิษย์ทั้งหลายให้กล้าเผชิญหน้ากับชีวิต กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด แต่ตัวข้าเองกลับมิอาจกระทำได้เช่นนั้นหลายปีมานี้ ข้าแทบไม่ได้พบหน้าเขาเลย หากรู้ว่าเขาจะไปที่ใด ข้าย่อมหลีกเลี่ยงไม่ไปเมื่อครั้งที่ข้ายังดื้อดึงอยู่ เคยถูกพี่สะใภ้ตำหนิว่าข้ายังติดหนี้เจ้าสิบเอ็ดฝางอยู่ แต่ในใจข้ากลับไม่ยอมรับนัก ยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป ข้าน้อยใจไปเพื่ออะไรเล่า? ใครเป็นคนที่ติดหนี้ข้ากัน? ฟ้าดินเมตตาข้าไม่มากพอแล้วหรือ? ทุกสิ่งล้วนเป็นผลจากการกระทำของข้าเองทั้งสิ้นหลายครา ข้าเปิดกระดาษเขียนจดหมาย ตั้งใจจะเขียนถึงเขาเพื่อขอขมาจากใจจริงแต่ยามจับพู่กันลงหมึก พอหมึกหยดลงกระดาษกลับเขียนไม่ออกแม้แต่คำเดียวข้ากลัวว่าจดหมายขอขมานั้นจะดูแปลกประหลาดเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาระแวง หรือแม้แต่ทำให้จ้านเป่ยว่างคิดมากแม้ว่าตอนนี้ ข้ากับจ้านเป่ยว่างจะมิได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ต้องการทำลายความสงบเช่นนี้ระหว่างนั้น จ้านเป่ยว่างเคยกลับมาสองสามครั้ง อาจเพราะเห็นกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งในห้องหนังสือของข้า เขาจึงสั่งให้เตรียมเหล้าหนึ่งเหยือก กับกับข้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1597

    ข้ามาอยู่ชายแดนเฉิงหลิงได้หนึ่งเดือนแล้ว ก็กำลังครุ่นคิดว่าจะทำสิ่งใดดีในนามแล้ว ข้าคือภรรยาของจ้านเป่ยว่าง ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรากลับมีน้อยนัก เขามักพำนักอยู่ในค่ายทหาร มีเพียงบางครั้งที่กลับมามองข้าสองสามตาด้วยเหตุนี้ ข้าจึงมีเวลาว่างมากมาย พอจะทำกิจการเล็กๆ ได้ชายแดนเฉิงหลิงนั้นต่างจากที่ข้าคาดไว้เล็กน้อย เดิมทีข้าคิดว่าดินแดนชายขอบย่อมแร้นแค้น ขาดแคลนสิ่งของ แต่เหนือความคาดหมาย ที่นี่แทบจะมีทุกอย่างขาย ยกเว้นเพียงเครื่องประดับล้ำค่าและผ้าไหมชั้นดีจากแคว้นสู่เท่านั้นสิ่งเหล่านี้ก็หาใช่ว่าไม่มีไม่ เพียงแต่ว่าหลังจากพ่อค้าเดินทางนำมาถึงแล้ว ก็มักเก็บไว้รอส่งไปขายแก่พวกขุนนางมั่งคั่งในซีจิงชาวบ้านที่ชายแดนเฉิงหลิงซื้อเครื่องประดับเพียงเพื่อความสวยงาม ไม่ได้ใส่ใจว่าล้ำค่าหรือไม่ข้ากำลังตรองว่าจะค้าขายสิ่งใดดี เพียงแต่ไม่ว่าคิดจะค้าขายอะไร สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือต้องซื้อร้านก่อนมิใช่หรือ?ดังนั้น ข้าจึงพาบ่าวชายและสาวใช้เดินไปตามตรอกซอกซอย ค้นหาร้านค้าที่เหมาะสมการมาครั้งนี้ พี่สะใภ้ใหญ่ให้เงินติดตัวข้ามาด้วย พี่สะใภ้รองกับว่านจือก็ให้มาบ้าง รวมกับเงินที่ข้าเก็บไว้เอง ที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1596

    นายท่านป๋ออันถูกหวังเยว่จางเหน็บแนมอยู่ไม่น้อย ท้ายที่สุดก็ยอมปล่อยเส้าหมิ่นออกมา ให้เส้าหมิ่นไปขอความเห็นใจ ถึงได้ช่วยชีวิตคุณชายเส้าเอาไว้เรื่องราวคลี่คลาย พวกเขาก็กล่าวขอบคุณหวังเยว่จางอย่างสุดซึ้ง แม้จะรู้ว่าถูกจงใจบีบไว้ แต่จะทำเช่นไรได้เล่า ใครใช้ให้บุตรชายของตนประพฤติผิด ไร้คุณธรรม ถูกจับได้คาหนังคาเขาเล่า?เส้าหมิ่นรู้ว่ามารดาของตนเคยกลั่นแกล้งเสี่ยวอวี่ เขาจึงอดทนไว้ก่อน รอจนแต่งงานแล้วจึงกล่าวขอแยกเรือนทันทีเขามิได้ทะเลาะกับทางบ้าน เพราะราชสำนักแคว้นซางสอบคุณธรรมข้าราชการเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณธรรมแห่งความกตัญญู หากมีตราบาปว่าอกตัญญู วันหน้าอย่าหวังจะยืนหยัดในวงราชการเหตุผลที่เขาขอแยกเรือนก็สมเหตุสมผล กล่าวว่าสำคัญต่ออนาคต การสอบใกล้เข้ามาแล้ว คนในเรือนมากเกินไปย่อมรบกวนสมาธิ หากแยกเรือนไปจะได้เตรียมสอบอย่างสงบเพราะเขาเป็นบุตรที่กตัญญูมาโดยตลอด อีกทั้งฮูหยินเส้าเพิ่งก่อเรื่องใหญ่ขึ้นมา รู้ดีว่าเบื้องหลังของหวังจืออวี่มั่นคงนัก จึงมิได้ขัดขวางมากนัก อนุญาตให้พวกเขาแยกเรือนไปเรื่องนี้ถูกจัดการอย่างเงียบเชียบ มิได้ก่อผลกระทบอันใด ไม่มีผู้ใดเอ่ยคำซุบซิบนินทาเด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1595

    ตอนนี้เองที่ข้าพึ่งเข้าใจเจตนาของซีซี เส้าฮูหยินนำคนไปก่อเรื่องถึงตระกูลหวังจนเสียหน้า เช่นนั้นก็ต้องไปขอขมาถึงที่นั่นด้วย และใช้เรื่องที่เส้าซื่อจื่อประพฤติตัวต่ำทรามมาจับจุดอ่อนตระกูลเส้า ต่อจากนี้ ต่อให้จืออวี่แต่งเข้ามา พวกเขาก็จะไม่กล้ารังแกอีกทั้งมีคนหนุนหลัง ทั้งมีเรื่องให้ถือไพ่เหนือกว่าแต่วันนี้ข้ามาเพื่อระบายความโกรธ เป้าหมายก็เส้าฮูหยิน ข้าย่อมไม่ยอมจากไปง่ายๆข้ารอจนปี้หมิงกับคนของเขาออกไปหมด จึงกล่าวกับเส้าฮูหยินว่า “เมื่อครู่ได้ยินท่านพูดว่าจวนป๋อเจวี๋ยของพวกท่านเป็นตระกูลขุนนางผู้ดีฟังแล้วช่างน่าขัน ตระกูลขุนนางผู้ดีที่ไหนจะทำเรื่องล่อลวงภรรยาน้อย บุกบ้านผู้อื่นอาละวาดไร้เหตุผล? วันนี้ข้าตั้งใจจะฉีกหน้าตระกูลเส้าให้ขาดเป็นชิ้นๆ อยู่แล้ว แต่เพราะเห็นว่าเส้าหมิ่นรักเสี่ยวอวี่ด้วยใจจริง ข้าจึงไม่อยากทำให้เรื่องเลวร้ายจนเด็กทั้งสองต้องอับอาย แต่เรื่องที่เสี่ยวอวี่ถูกกดขี่ ข้าไม่อาจปล่อยผ่านได้ เด็กคนนี้ข้าเสิ่นว่านจือเลี้ยงดูมาเองกับมือ จะยอมให้ใครรังแกไม่ได้ เจ้าอาศัยว่าตัวเองเป็นจวนป๋อเจวี๋ย ก็เลยกล้ารังแกตระกูลหวังที่ไร้บรรดาศักดิ์ ตอนเจ้ารังแกผู้อื่นก็อย่ามาโทษคนอื่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1594

    ดูสีหน้าของคนตระกูลเส้าหลังจากข้าพูดจบแต่ละคำ…แต่ละคนเหมือนถูกสาปกลายเป็นท่อนไม้ ยืนนิ่งไม่ไหวติง ก็รู้แล้วว่าเหล่าขุนนางใหญ่โตในเมืองหลวงล้วนไม่ให้ตระกูลเส้าเข้าสมาคมด้วย แม้แต่เรื่องนี้ก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำข้าฉวยจังหวะที่เส้าฮูหยินยังตกตะลึง กล่าวเย็นชาต่อว่า “ใครไม่รู้ว่านายท่านสามบ้านข้ารักเสี่ยวอวี่ที่สุด? นางถูกทำให้เจ็บช้ำน้ำใจถึงเพียงนี้ นายท่านสามของข้าก็เสียใจแทบคลั่ง ข้าต้องพูดทั้งปลอบทั้งเตือน จึงห้ามเขาไว้ได้ ไม่เช่นนั้น วันนี้เขาคงไปฟ้องไทเฮาไปแล้ว ในเมื่อข้ามาแล้ว เช่นนั้นใครเป็นคนลงมือ ก็ออกมายอมรับโทษเสีย”หวังเยว่จางมีหลายสถานะในเมืองหลวง แต่ที่ผู้คนรู้จักมากที่สุด ก็คือสามีของข้าเสิ่นว่านจือ ศิษย์แห่งสถาบันว่านซงเหมิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายคลังยุทโธปกรณ์แห่งกรมทหาร อีกทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการหลายแห่งของว่านซงเหมินในเมืองหลวงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลหวัง ถูกจงใจทำให้ดูเลือนราง แต่ในยามจำเป็น ก็ย่อมนำมาใช้งานได้ในบรรดาสถานะทั้งจริงทั้งเท็จเหล่านี้ ต่อให้มีผู้สงสัยว่ามีความเกี่ยวพันกับไทเฮา ก็ย่อมไม่มีใครกล้าปฏิเสธ เพราะไทเฮานั้นเคารพอาจารย์เหรินแห่งว่านซงเหมินอย่างย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1593

    ข้าชื่อเสิ่นว่านจือ เรื่องอื่นไว้ทีหลัง ข้าขอระบายเรื่องหนึ่งก่อนเถิดมันช่างเกินจะทนได้แล้ว!ตระกูลเส้าเป็นเพียงจวนป๋อเจวี๋ยเล็กๆ เท่านั้น ฮูหยินตระกูลเส้ากลับกล้าโอหังถึงเพียงนี้ ข้าเสิ่นว่านจือมีชีวิตอยู่มานาน ปากมากปากจัดก็เห็นมาหลายคน แต่พวกสตรีที่ปากมากในหมู่ผู้มีอำนาจ ข้ายังได้พบเพียงไม่กี่คนพอรู้ว่าเสี่ยวอวี่ถูกลากออกไปตบหน้า แล้วถูกกล่าวหาว่าไร้ยางอายไปยั่วยวนบุรุษ ข้าก็แทบอยากจะพังประตูตระกูลเส้าไปเตะใครสักคน ลากคนออกมาแล้วตบกลับให้สาสมใจซีซีเองก็โกรธ แต่เตือนข้าว่าเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว อย่าเพิ่งเอาแต่ระบายอารมณ์ ให้รีบไปดูเสี่ยวอวี่กับหวังชิงหรูก่อน เผื่อว่าทั้งสองจะทำเรื่องไม่คาดฝันต้องยอมรับว่าซีซีเป็นขุนนางมาหลายปี ย่อมมีวิจารณญาณในการแยกแยะเรื่องเร่งด่วนกับเรื่องสำคัญข้าจึงรีบเร่งไปยังตระกูลหวัง แล้วก็ได้รู้ว่าเสี่ยวอวี่กรีดข้อมือ ส่วนหวังชิงหรูก็ไล่สาวใช้ในเรือนออก ข้าจึงรู้สึกทันทีว่าจะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่จริงอย่างที่คาด หิมะยังไม่ทันตก หวังชิงหรูก็คิดจะแขวนคอตัวเองให้เป็นหมูตากแห้ง ข้าโกรธจนฟาดหน้านางไปหนึ่งฉาดที่จริงช่วงหลังมานี้ข้าเป็นคนอารมณ์ดีมาก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1592

    ข้ารู้ตัวอย่างแท้จริงว่าตนเองผิดมหันต์นั้น...เกิดขึ้นเมื่อใดกันนะ?มิใช่ตอนที่เจ้าสิบเอ็ดฝางกลับมา มิใช่ตอนที่หย่าขาดกับจ้านเป่ยว่าง และก็ไม่ใช่ตอนที่ตระกูลหวังประสบเคราะห์กรรมแต่เป็นตอนที่อวี่เจี่ยเอ่อร์กำลังจะออกเรือนตอนที่ตระกูลหวังตกอับ ข้าอยู่ในคุก เกือบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในอดีต ข้าก็รู้ว่าตัวเองมีเรื่องผิด ข้ายินดีจะขัดเกลาความแข็งกร้าว เปลี่ยนแปลงตนเองแต่ในตอนนั้น ข้ายังไม่อาจเรียกได้ว่าได้สำนึกอย่างแท้จริง เพราะข้ายังคิดว่าทั้งหมดคือเรื่องของตนเอง ต่อให้ต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใด ก็เป็นข้าเองที่รับกรรม ใครอื่นล้วนไม่มีสิทธิ์มาตัดสินข้ารู้ดีว่าพี่สะใภ้ใหญ่ต้องลำบากวุ่นวายเพราะความเอาแต่ใจของข้า ต้องวิ่งวุ่นไปทั่ว ข้าอาจเคยชินกับการที่นางดูแลข้าเช่นนี้ จึงมีทั้งความรู้สึกขอบคุณและเคารพนางแต่เรื่องราวในอดีตของข้า ข้ามิเคยอยากย้อนกลับไปคิด เพราะนั่นคือการทำร้ายตนเอง เป็นความทุกข์ทรมานกระทั่งวันที่อวี่เจี่ยเอ่อร์กำลังจะหมั้นหมาย ข้าจึงเริ่มพลิกดูตัวเองทุกแง่ทุกมุม ให้ความเสียใจแทรกซึมกัดกินหัวใจทุกลมหายใจอวี่เจี่ยเอ่อร์กับคุณชายเส้าหมิ่นแห่งจวนป

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status