ในช่วงสิบห้าวันนี้ ฮ่องเต้จะเสด็จไปศาลเจ้าจี้เทียนด้วยตนเองและจะไปที่ประตูเมืองเพื่อรับชมดอกไม้ไฟพร้อมกับประชาชนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเมืองหลวงและค่ายลาดตระเวนจำเป็นต้องเตรียมการตั้งแต่เนิ่นๆ และเร่งงานให้กระทรวงโยธาธิการสร้างเวทีสูงด้านนอกหอคอยเพื่อให้ฮ่องเต้และบุคคลสำคัญของราชสำนักได้ชมดอกไม้ไฟหลังจากเยี่ยมพระชายาอ๋องเยี่ยนแล้ว ซ่งซีซีก็คุยกับเขาที่กระท่อมด้านนอกกุ้นเอ๋อร์พักอยู่ที่นี่มาหนึ่งคืน แต่ชุดเครื่องนอนก็ถูดจัดอย่างระเบียบเรียบร้อย แม้ว่าโต๊ะและเก้าอี้จะเก่า แต่ก็ถูกทำความสะอาดอย่างสะอาดเลยซ่งซีซีเล่าสถานการณ์ของจวนอ๋องเยี่ยนให้เขาฟัง และเมื่อได้ยินว่าอ๋องเยี่ยนจะหย่ากับพระชายา เซี่ยหลูโม่ก็รู้สึกประหลาดใจมากเช่นกัน"นี่ก็เหลวไหลเกินไป ไร้บุตรชาย ขี้อิจฉา มีข้อใดที่จะทำให้คนนอกยอมเชื่อล่ะ?""ยังยังก็หาข้อกล่าวหาให้คนเชื่อถือได้ เช่นโรคร้ายแรง" ซ่งซีซีระงับความอึดอัดใจในใจ และไม่สามารถระบายออกมาได้สักที"ยังอยากแต่งงานกับเสิ่นว่านจือ เสด็จอาคิดอะไรอยู่?" เซี่ยหลูโม่ขมวดคิ้ว และเขาเป็นคนเฉลียวฉลาดมาโดยตลอด เรื่องบางเรื่องแค่ใช้สมองคิดสักหน่อยก็เข้าใจในทันที แ
พระชายาอ๋องเยี่ยนคว้าข้อมือของนางอย่างแรง แล้วมองออกไปข้างนอก นางหายใจแรงแต่ก็พยายามให้เสียงเบาลง "ฟังป้านะ เขาไม่ใช่คนดีอะไร เขาสมรู้ร่วมคิดกับองค์หญิงใหญ่"ซ่งซีซีตระหนก "อะไรนะ"นางรีบให้ทุกคนออกไป และขอให้เสิ่นว่านจือเฝ้าประตู"ท่านป้า ท่านพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร"ศีรษะของพระชายาอ๋องเยี่ยนนอนลง และเสียงของนางก็เต็มไปด้วยความกลัวและความเยือกเย็น "ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เขาได้คัดเลือกทหารและซื้อม้าในเมืองเยี่ยนโจวอย่างลับๆ โดยใช้เงินขององค์หญิงใหญ่และชายารองจิน และพวกทหารกับม้าเหล่านี้ถูกซ่อนไว้ในอำเภอหยง"ซ่งซีซีรู้จักอำเภอหยง นั่นเป็นดินที่ฮ่องเต้พระราชทานแก่องค์หญิงใหญ่ และเป็นสินเดิมที่จักรพรรดิองค์ก่อนพระราชทานนาง"อย่าไปมีเรื่องกับเขา อย่าเป็นศัตรูกับเขา เขาไม่ง่ายอย่างที่คนนอกคิด" ลมหายใจของพระชายาอ๋องเยี่ยนเบาลง บางทีอาจจะเป็นเพราะพบกับความลับนี้ นางกลัวเหลือเกิน"ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาสร้างเรื่องรักใคร่อนุภรรยาและทอดทิ้งภรรยาเอก เจ้าคิดว่าเขารักใคร่ชายารองจินจริงๆ หรือ? มันเป็นเพียงการสร้างชื่อเสียงที่ไม่ดีเพื่อลวงตาฮ่องเต้องค์ปัจจุบันก็เท่านั้น"เมื่อได้ยินอ
เมื่อกลับมาถึงเมืองหลวง ก็เป็นวันส่งท้ายปีเก่าแล้วปีใหม่เป็นเทศกาลที่มีความสุขที่สุดและเป็นวันที่รอคอยมากที่สุดแห่งปีสำหรับประชาชน ตามท้องถนนและตรอกซอกซอยเต็มไปด้วยบรรยากาศรื่นเริง ทุกครัวเรือนได้ติดคำอวยพรกลอนคู่ไว้ที่ผนัง กำลังเตรียมจะจุดประทัดเพื่อปัดเป่าสัตว์ร้ายปีใหม่ในวันแห่งครอบครัวอย่างมีความสุขของทุกคนนั้น ท่านป้าก็สิ้นลมอย่างเงียบๆ การตายของนาง ไม่แม้แต่มีผลใดๆ ต่อจวนอ๋องเยี่ยนเลยเพราะท่านอ๋องเยี่ยนพาครอบครัวของเขามาถึงเมืองหลวงแล้ว บางทีอ๋องเยี่ยนอาจยังไม่รู้เรื่องก็ได้ทันทีที่ซ่งซีซีเข้าบ้าน นางก็ได้ยินว่าครอบครัวของอ๋องเยี่ยนมาเยี่ยม สนมฮุ่ยไทเฟยกำลังต้อนรับพวกเขาอยู่ทันทีที่เสิ่นว่านจือมอบแส้ม้าให้ผู้คนดูแลม้า ก็ได้ยินข่าวนี้ นางกำหมัดแน่น อยากจะวิ่งเข้าไปข้างในเพื่อซัดอ๋องเยี่ยนยกใหญ่อย่างรุนแรงเซี่ยหลูโม่ขมวดคิ้ว "ตอนที่ข้าออกจากจวนนั้น พวกเขายังไม่ถึงเมืองหลวง เห็นๆ อยู่ว่าเพิ่งถึงเมืองหลวง แทนที่จะเข้าวังเพื่อไปเข้าเฝ้าไทเฮา กลับมาจวนเป่ยหมิงอ๋องเพื่อเยี่ยมหลานชายอย่างข้า ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเสด็จอาของข้าคนนี้ต่ำเกินไปในอดีตสินะ"ซ่งซีซีทำหน้าไร้อารมณ์
ทันทีที่คำว่าสำนักแม่ชีชิงมู่ออกมา สีหน้าของสมาชิกทั้งเจ็ดคนในครอบครัวอ๋องเยี่ยนก็เปลี่ยนไปในทันทีทันที่ที่คุณชายใหญ่เซี่ยหรูหลิงกำลังจะนั่งลง เมื่อได้ยินคำพูดนี้ก็ถามว่า "สำนักแม่ชีชิงมู่ งั้นท่านพี่รู้ไหมว่าอาการของเสด็จแม่ของข้าเป็นยังไงบ้าง""ไม่ยังไง!" ซ่งซีซีมองไปที่เซี่ยหรูหลิง "ถ้าเจ้าห่วงใยนาง ทำไมไม่ไปเยี่ยมเองล่ะ"เซี่ยหรูหลิงเหลือบมองอ๋องเยี่ยนแวบหนึ่ง อ๋องเยี่ยนมีสีหน้าเย็นชา แต่ไม่ได้พูดอะไร"น้อง...น้องอยู่ในสถานบันศึกษา ไม่มีเวลาไป" เขาตอบอย่างตะกุกตะกัก"จริงเหรอ? มีคนมากมายในจวนอ๋องเยี่ยนต่างก็ไม่มีเวลาเหรอ แค่ส่งสาวใช้เพียงสองคนไปรับใช้ ถ้าไม่ใช่เพราะจวี๋ชุนและชิงเชวี่ยที่เป็นลูกศิษย์ของหมอมหัศจรรย์ดันอยู่ด้วย นางจะมีชีวิตอยู่ในสำนักแม่ชีชิงมู่ได้กี่วันกัน?"เดิมทีเสี้ยวจู่อวี้หยินก็ดูถูกพี่สะใภ้ที่เคยหย่ามาก่อนอยู่แล้ว เมื่อได้ยินนางพูดแบบนี้ ก็ทำหน้าไม่พอใจ "ข้ากลับไม่รู้ว่าพี่สะใภ้ของข้ามีงานอดิเรกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านสินะ"ดวงตาของซ่งซีซีราวกับมีดคมฟันที่ใบหน้าของเสี้ยนจู่อวี้หยิน "ข้าก็ไม่รู้ว่ามีลูกสาวที่อกตัญญูเช่นนี้ในโลกนี้""เจ้า!" ดวงตาของเสี้ยนจู่
ทันใดนั้นสีหน้าของอ๋องเยี่ยนก็เปลี่ยนไป ทำไมจดหมายหย่ายังเก็บไว้อยู่? ผู้คนที่ทำงานนั้น ไม่ได้เรื่องสักคนเซี่ยหรูหลิงรับจดหมายหย่าด้วยมือทั้งสองข้างพลางสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ลายมือในจดหมายหย่านั้นเขาจะอ่านไม่ออกได้ยังไง เป็นลายมือของท่านพ่อ เขาเป็นคนเขียนกับมือเองเขาเงยหน้าขึ้นมองอ๋องเยี่ยน และกำหมัดแน่น "เสด็จพ่อ ท่านจะอธิบายอย่างไร"อ๋องเยี่ยนเม้มริมฝีปาก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ความซื่อสัตย์และจริงใจก็หายวับไปหมด แต่กลับเป็นสีหน้าฉายแววอำมหิตแทนชายารองจินรีบพยายามแก้ต่างว่า "จะเป็นเสด็จพ่อของเจ้าเขียนให้ได้ยังไง? เห็นๆ อยู่ว่ามีคนลอกเลียนแบบลายมือของเสด็จพ่อเจ้า เสด็จพ่อของเจ้าจะหย่ากับเสด็จแม่ของเจ้าได้ยังไง"นางมองไปรอบๆ และไม่กล้าเอาเรื่องซ่งซีซี ได้แต่ถามจี้เสิ่นว่านจือว่า "เจ้าเป็นคนเอาจดหมายหย่าออกมาใช่ไหม เจ้ามีความแค้นอะไรกับจวนอ๋องเยี่ยนของเรากัน กลับต้องการใช้จดหมายหย่าปลอมเพื่อยั่วยุพระชายา ส่งผลให้นางอาการกำเริบอีก"เสิ่นว่านจือพูดอย่างเย็นชา "ไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร หากไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร ทำไมถึงไปตระกูลเสิ่นเพื่อสู่ขอข้าล่ะ อ๋องเยี่ยนและข้าไม่เคยเจอหน้าก
เซี่ยหรูหลิงปาดน้ำตาพลางเดินไปหาเซี่ยหลูโม่ กำลังเตรียมจะถาม แต่อ๋องเยี่ยนก็ตะโกนใส่เขาว่า "ไม่ได้ยินหรือว่า คนอื่นเขารังเกียจเราจะนำโชคร้ายให้ รีบกลับซะ!"น้ำตาของเซี่ยหรูหลิงร่วงหล่นอีกครั้ง เขายกมือไหว้ให้เซี่ยหลูโม่และซ่งซีซี รูปร่างที่เรียวยาวและผอมแห้งของเขาราวกับใบหลิวที่ปลิวไปตามสายลม จากนั้นก็เดินตามไปด้วยก้าวที่เดินโซเซพวกคุณชายและเสี้ยนจู่นั้นต่างก็สบถขึ้นมาเบาและจากไปพร้อมกัน ทว่ามีแต่ชายารองจินยังคงรักษาความสุภาพที่เหมาะสมได้ และไหว้ให้สนมฮุ่ยไทเฟย "ไทเฟยดูแลตัวเองให้ดีๆ ด้วย หม่อมฉันขอตัวกลับก่อนเพคะ"เมื่อชายารองจินจากไป ยังมองไปที่เสิ่นว่านจืออยู่สักพัก ดวงตาของนางฉายแววอย่างมีเลศนัย เสิ่นว่านจือก็กลอกตามองบนใส่นางตรงๆสนมฮุ่ยไทเฟยอยู่ในภาวะสับสนตลอดเวลาเมื่อกี้นางยังคุยกับพวกเขาอย่างสนุกสนานเลย และแต่ละคนดูสุภาพและปากหวานด้วย กลับเป็นคนเนรคุณเช่นนี้?เมื่อพระชายาอ๋องเยี่ยนสิ้นพระชนม์ มีเพียงเซี่ยหรูหลิงเท่านั้นที่ร้องไห้ และคนอื่นๆ ไม่แม้แต่มีความโศกเศร้าบนใบหน้าเลยด้วยซ้ำโดยเฉพาะเสี้ยนจู่ทั้งสองเป็นนั้นยังเป็นลูกทางสายเลือดของพระชายาอ๋องเยี่ยน กลับปล่อยให้เส
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ก็สวมชุดออกงาน ดูหรูหราและสง่างามเกินจะพรรณนาได้อยู่แล้วซ่งซีซีทาแป้งเขียนคิ้วเบาๆ เพื่อปกปิดใบหน้าที่ซีดเซียวของนาง และยังปกปิดรอยฟกช้ำใต้ตาด้วย เพื่อไม่ให้คนอื่นมองเห็นความซีดเซียวของนางงานเลี้ยงของราชวงศ์ บอกว่าเป็นงานรวมญาติครอบครัว แต่ต้องปฏิบัติตามมารยาทและกฎเกณฑ์มากมายนางส่องกระจกจก หายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้ง และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อระงับความเจ็บปวดใจที่คนในครอบครัวเสียไปนางบอกตนเองว่านางชินแล้ว ชินแล้วก็ดีแล้ว ชินแล้วมันจะไม่อึดอัดใจขนาดนั้นบุคคลในกระจกนั้นสวมชุดหรูหรา และมวยสูง บนศีรษะเต็มไปด้วยไข่มุกและหยก สร้อยคอที่ทำจากไข่มุกตงจูนั้นเปล่งประกายแวววาวและห้อยยาวอยู่ที่หน้าอกนี่คือสินเดิมที่อาจารย์มอบให้ ไข่มุกตงจูในหลายกล่องนั้นมีผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป แต่บรรจุแย่งกล่องไว้ต่างหูยังเป็นไข่มุกตงจูซึ่งปกคลุมใบหูส่วนล่างทั้งหมด และความฟุ่มเฟือยนั้นก็ไม่อาจบรรยายได้ไฝ่ใต้ตาของนางงดงามมาก และดูเหมือนว่าเป็นคราบเลือดจุดหนึ่ง เผยให้เห็นรัศมีแห่งการฆาตกรรมนางลดคิ้วลงเพื่อปกปิดความโกรธอันรุนแรงที่ฉายออกมาในใจของนางเซี่ยหลูโม่เข้ามาจับมือนาง แล้วพูดเบ
แต่จะปล่อยให้เสด็จแม่ปลอบใจต่อไปไม่ได้เลย คำปลอบใจของนางยิ่งจี้ใจดำขึ้นไปอีกนางจับมือรุ่ยเอ๋อร์ แล้วพูดว่า "ไม่เป็นไร อาแค่อารมณ์เสียนิดนึง แต่พอคิดว่างานเลี้ยงในวังคืนนี้จะมีของกินมากมาย จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาแล้วนะ"น้ำเสียงที่ผ่อนคลายของนางหลอกลวงเซียนหนิงและรุ่ยเอ๋อร์ได้ รวมถึงไทเฟยที่ซื่อๆ ด้วยแม้ว่าไทเฟยผู้โง่เขลาจะอึดอัดใจเรื่องพระชายาอ๋องเยี่ยน แต่งานเลี้ยงในวังก็ครึกครื้น มิใช่ครึกครื้นอย่างธรรมดา ผู้ใดบ้างจะไม่ชอบล่ะในพระราชวังเอิกเกริกจริงๆ บรรยากาศครึกครื้นเพื่อฉลองปีใหม่ มีโคมไฟและของประดับตกแต่งหลากสีสันอยู่ทั่วทุกแห่ง และโคมไฟลมแก้วก็แขวนอยู่ในทุกทางเดิน ทำให้พระราชวังดูสว่างเหมือนอยู่ในกลางวันอ๋องเยี่ยนกำลังนำครอบครัวทั้งหมดของเขาไปเข้าเฝ้าไทเฮาและฮ่องเต้ ฮองไทเฮาไม่ชอบน้องชายของฮ่องเต้องค์ก่อนคนนี้ ก็เป็นเพราะเขาทำอะไรไม่ได้เรื่อง เรื่องอื้อฉาวที่เขารักใคร่อนุภรรยาและทอดทิ้งภรรยาเอกก็แพร่กระจายไปยังเมืองหลวงแล้วเมื่อตอนนี้เห็นพระชายาอ๋องเยี่ยนไม่ได้ติดตามมา นางพอจะเดาได้ว่าอาการของนางไม่ค่อยดีนัก ในช่วงสองปีที่ผ่านมา อาการของนางกำเริบบ่อยๆ และเป็นหมอมหัศจรรย์