Share

บทที่ 1372

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update Last Updated: 2025-01-03 18:00:00
เซี่ยทิงเหยียนถือร่มก้าวเข้ามาในลานเรือนของท่านอ๋องฮุย เขาเดินอย่างองอาจตรงเข้าไปในห้อง สั่งให้คนรอบข้างถอยออกไป แม้แต่กู้ชิงหยิงก็ไม่อาจอยู่ด้วย

ท่านอ๋องฮุยเพิ่งเสวยเสร็จ บนโต๊ะยังมีเศษอาหารเหลืออยู่ พวกบ่าวกำลังจะมาเก็บกวาด

เซี่ยทิงเหยียนนั่งลง หยิบตะเกียบและถ้วยของท่านอ๋องฮุยขึ้นมา แล้วลงมือกินเศษอาหารเหล่านั้น

เขายังคงกินด้วยท่าทีสง่างามเช่นเคย แต่กลับทำให้ท่านอ๋องฮุยรู้สึกทั้งโกรธและขยะแขยง

เขาเป็นผู้เลี้ยงดูเซี่ยทิงเหยียนมาตั้งแต่เด็ก กิริยาท่าทางของเขาไม่เคยขาดตกบกพร่องไปจากคุณสมบัติของเจ้าเมืองผู้สงบสำราญ

แต่น่าเสียดายที่เขากลับเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน และความโหดเหี้ยมเกินใคร

เขากินอาหารที่ท่านอ๋องฮุยเหลือจนหมด แล้ววางตะเกียบลง ใช้ผ้าเช็ดปากพลางกล่าวว่า “ไม่ควรปล่อยให้ข้าวปลาเสียเปล่า ลูกหิวพอดี เสด็จพ่อคงไม่ถือสาหรอกนะ?”

ท่านอ๋องฮุยกล่าวเย็นชา “ไม่เป็นไร อย่างไรของที่เหลือก็เอาไปให้หมากินอยู่แล้ว เจ้ากินไปก็เหมาะสมดี”

“ถ้าลูกเป็นหมา แล้วเสด็จพ่อเป็นอะไรล่ะ?” เขายิ้มบางเบา พลางพูดต่อว่า “ลูกมาแจ้งข่าวดีให้เสด็จพ่อฟัง อีกไม่นาน พวกเราจะสมหวังตามที่ปรารถ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1373

    เซี่ยทิงเหยียนกล่าวต่อไปด้วยท่าทีไม่สนใจใคร คล้ายกับแสดงถึงความเก่งกาจในแผนการของตนเองว่าเหนือชั้นเพียงใด “ซูลันจีผู้นี้ ข้าได้ติดต่อเขาเป็นการส่วนตัวมานานแล้ว เมื่อทราบว่าเขาเป็นคนยากที่จะร่วมมือได้ ข้าจึงให้คนไปที่ซีจิง หาใครสักคนแทรกซึมเข้าไปในกลุ่มสายลับ เพื่อใช้งานเขา เช่นนี้ ไม่ว่าพวกเขาจะสืบข่าวใดในเมืองหลวง ข้าก็ล่วงรู้ทั้งสิ้น อีกทั้งยังสามารถใช้สิ่งนี้กระตุ้นให้เกิดความเคลื่อนไหวภายในของซีจิงได้ สุดท้ายข้าก็ได้พบกับซูลันซือ” “ซูลันซือภายใต้รัศมีของพี่ชาย แทบไม่มีความโดดเด่นเลย แต่ข้ารู้ถึงความทะเยอทะยานของเขา อีกทั้งรู้ว่าเขาพร้อมจะแลกทุกอย่างเพื่อเป้าหมาย ครั้งนั้นที่รัชทายาทซีจิงยอมลงสนามรบ ก็เพราะข่าวที่เขาแพร่ออกไปว่า แม่ทัพแนวหน้ากินเบี้ยหวัดเปล่า ฆ่าชาวบ้านบริสุทธิ์เพื่อรายงานผลงานปลอมๆ ทำให้รัชทายาทซีจิงต้องปลอมตัวไปสืบด้วยตนเอง” “เขาไปเมืองลู่เปินเอ่อร์แล้ว เรื่องนี้เป็นผลดีกับเจ้าอย่างไร?” ท่านอ๋องฮุยเอ่ยถาม “แน่นอนว่าข้าเป็นคนออกหน้าเกลี้ยกล่อมเขา เพื่อร่วมมือกับเขา” เซี่ยทิงเหยียนเอ่ยด้วยความเสียดาย “น่าเสียดาย ที่กลางทางเกิดมียี่ฝางโผล่มาทำลายแผนของข้า

    Last Updated : 2025-01-04
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1374

    ฝนตกหนักเช่นนั้น พวกเขาเดินชมร้านไม่กี่แห่ง จนเห็นร้านจินจิง ร้านทองอันดับหนึ่งในเมืองหลวงยังเปิดอยู่ กู้ชิงหยิงจึงกล่าวว่าต้องการซื้อเครื่องประดับสักสองสามชิ้น ท่านอ๋องฮุยโบกมือใหญ่พร้อมกล่าวว่า “ซื้อ!” เถ้าแก่น้อยจินซึ่งอยู่ในร้าน เห็นว่าเป็นท่านอ๋องฮุยจึงรีบต้อนรับด้วยตนเองและพาขึ้นไปยังห้องพิเศษบนชั้นสาม องครักษ์เงาก็ติดตามไปด้วยเช่นกัน ท่านอ๋องฮุยเคยพากู้ชิงหยิงมาที่นี่หลายครั้ง เป็นลูกค้ารายใหญ่ ด้วยเหตุนี้จึงมีทั้งเถ้าแก่น้อยจิน ผู้จัดการร้าน และลูกจ้างอีกสองคนมาคอยรับใช้ข้างๆ ของว่างแสนประณีตถูกนำมาวางบนโต๊ะ ท่านอ๋องฮุยเรียกให้องครักษ์เงามานั่งดื่มน้ำชาเป็นเพื่อนตน แล้วปล่อยให้กู้ชิงหยิงเลือกของตามใจ องครักษ์เงาไม่กล้านั่งจริงๆ แต่เพราะหน้าที่ของเขาคือคอยเฝ้าดูแลท่านอ๋องฮุย เขาจึงยืนอยู่ข้างๆ เฝ้าดูท่านอ๋องฮุยพูดคุยอย่างออกรสกับเถ้าแก่น้อยจิน คอยระวังว่าทั้งสองจะมีสิ่งใดส่งมอบหรือแลกเปลี่ยนกัน บางครั้ง เขาก็เหลือบมองไปที่กู้ชิงหยิงบ้าง ร่างของนางที่ใหญ่โตกำลังบังเครื่องประดับบนตู้โชว์ เขาจึงเดินไปดูสักสองสามครั้ง เห็นนางกำลังลองกำไลข้อมืออยู่ไม่หยุด จากนั้นก็รีบก

    Last Updated : 2025-01-04
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1375

    องครักษ์เงาเฝ้าจับตาดูลูกจ้างคนนั้นจริงๆ หลังจากห้องบัญชีส่งมอบตั๋วเงินให้แล้วก็ยังไม่พอ ที่ประตูเรือนเขายังค้นตัวอีกครั้ง แต่ไม่พบสิ่งใดจึงปล่อยให้เขาไป ลูกจ้างรู้สึกอับอายแต่ไม่กล้าพูดอะไร เพียงรู้สึกแปลกใจ เพราะร้านจินจิงทำธุรกิจมาหลายปี ลูกค้ามักจะค้างชำระบัญชีแล้วให้มารับตั๋วเงินที่จวน เจ้าของบ้านส่วนใหญ่ยังมีน้ำใจให้ชาหรือของว่าง แต่การค้นตัวแบบจวนอ๋องฮุยนั้นไม่เคยเกิดขึ้น เรื่องนี้ องครักษ์เงารายงานแก่เซี่ยทิงเหยียน เซี่ยทิงเหยียนคิดว่าในเมื่อค้นตัวลูกจ้างแล้ว และเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ตอนอยู่ที่ร้านจินจิง จึงไม่น่ามีเรื่องสำคัญใด อย่างไรเสีย กู้ชิงหยิงก็มักหาเรื่องให้เขาซื้อเครื่องประดับให้นางอยู่เรื่อยๆ เป็นหญิงที่โลภมากคนหนึ่ง เขาสังเกตกู้ชิงหยิงมานานแล้ว เห็นว่านางเป็นคนที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใด ชอบแต่กินดื่มเล่นสนุก และหลงใหลเครื่องประดับทองเงินที่สุด ส่วนเสื้อผ้าอาภรณ์นั้นนางไม่ใคร่สนใจนัก เพราะรูปร่างอ้วนเกินไป ใส่อะไรก็ไม่งดงาม กู้ชิงหยิงเหมาะสมกับบทบาทของนาง การที่ให้นางมาอยู่ข้างกายชายชราแต่แรกก็เพื่อรวบรวมเงินทอง องครักษ์เงาที่ถูกฆ่าไปก่อนหน้านี้เคยได้ยิ

    Last Updated : 2025-01-05
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1376

    ทุกคนหันมาคิดถึงสถานการณ์ของท่านอ๋องฮุย แม้แต่การส่งจดหมายยังต้องทำอย่างวกวนและซับซ้อน ชัดเจนว่าสถานการณ์ของเขานั้นลำบากอย่างยิ่ง ก่อนหน้านี้ที่เสิ่นว่านจือและพรรคพวกไปพักที่นั่น พวกเขาแทบไม่รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ กระทั่งใกล้จะจากไปจึงพบว่าลุงกวนมีท่าทีไม่ชอบมาพากล “ท่านอ๋องฮุยทำเช่นนี้ถือว่าเป็นการตัดญาติขาดมิตรเพื่อความถูกต้องแล้ว” อาจารย์หยูพูดด้วยความเคารพ ในฐานะลูกหลานตระกูลเซี่ย เขาคงไม่ต้องการเห็นศึกกบฏชิงบัลลังก์นี้ โดยเฉพาะผู้ก่อกบฏนั้นคือบุตรชายของเขาเอง ดังนั้น ท่านอ๋องฮุยน่าจะกำลังเจ็บปวดอย่างที่สุด จากการสืบสวนก่อนหน้านี้ที่ทราบเบื้องลึกบางส่วน อาจารย์หยูกล่าวด้วยความสะเทือนใจ “เซี่ยทิงเหยียนใช้ชื่อของเขาเป็นเครื่องมือในการก่อกบฏและช่วงชิงบัลลังก์ ทำให้เขาต้องทนแบกรับความเสื่อมเสียเช่นนี้ในบั้นปลายชีวิต” ในเมื่อเป็นพ่อกับลูก แม้เขาจะถูกผลักดันขึ้นสู่บัลลังก์ก็ตาม คนทั้งแผ่นดินย่อมไม่เชื่อว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ ชนชั้นขุนนางและสามัญชนต่างก็ประณามเขาทั้งคำพูดและลายลักษณ์อักษร กองกำลังหลักของศัตรูก็ต้องมุ่งเป้าหมายมาที่เขา ทุกคนค่อยๆ สงบอารมณ์และกลับมามีสต

    Last Updated : 2025-01-05
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1

    ในเรือนเหวินซี โคมไฟที่อยู่หน้าทางเดินส่องภาพกระดาษตัดบนโครงตาข่ายหน้าต่าง และสะท้อนมันลงบนผนังบ้านราวกับสัตว์ขนาดยักษ์อย่างไรอย่างนั้นซ่งซีซีนั่งบนเก้าอี้ไม้ที่มีพนักพิง ประสานมือไว้ข้างหน้า ร่างเพรียวบางห่อด้วยเสื้อผ้าเรียบๆ นางมองไปที่คนอยู่ตรงหน้า ซึ่งเป็นสามีที่เพิ่งต่างงานของนาง ซึ่งนางรอคอยมานานหนึ่งปีชุดเกราะทหารที่ดูค่อนข้างเก่าของจ้านเป่ยว่างยังไม่ได้ถอด และเขาดูสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาของเขามีความรู้สึกขอโทษแฝงไว้ "ซีซี ได้ออกพระราชกฤษฎีกาให้สมรสกันแล้ว ยี่ฝางจะต้องแต่งเข้ามาอย่างแน่นอน"ซ่งซีซีประสานมือไว้หน้าลำตัว ดวงตาของนางมืดมัว นางถามอย่างสงสัย "ไทโฮ่วเคยกล่าวไว้ว่าแม่ทัพยี่ฝางเป็นแบบอย่างสำหรับผู้หญิงในใต้หล้า นางยอมที่จะเป็นอนุภรรยาหรือ? "ดวงตาที่หนักอึ้งของจ้านเป่ยว่างฉายแววความไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย "ไม่ ไม่ใช่อนุภรรยา นางเป็นภรรยาเท่าเทียม ไม่ต่างจากเจ้า"ซ่งซีซียังคงนิ่งเฉยและพูดว่า "ท่านแม่ทัพรู้ดีว่าภรรยาเท่าเทียมแค่ฟังดูดีเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วนางก็เป็นอนุภรรยาอยู่ดี"จ้านเป่ยว่างขมวดคิ้ว "จะอนุอะไรกัน นางกับข้ามีใจให้กันในสนามรบและตกหลุมรักกัน อีกอย่างเ

    Last Updated : 2024-04-03
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 2

    จ้านเป่ยว่างจนใจเล็กน้อย "ทำไมต้องหาเรื่องด้วยล่ะ? นี่คือพระราชทานสมรสที่ฝ่าบาทออกให้ และแม้ว่ายี่ฝางจะเข้ามา พวกเจ้าก็อยู่คนละเรือนกัน และนางก็จะไม่แย่งชิงสิทธิในการบริหารครอบครัวกับเจ้า ซีซี สิ่งที่เจ้าให้สำคัญนั้นนางไม่สนหรอก""ท่านคิดว่าข้าสนใจอยากกุมอำนาจดูแลบ้านเหรอ?" ซ่งซีซีถามกลับ มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นผู้นำที่ดูแลจวนแม่ทัพ แค่ยาที่หมอมหัศจรรย์ดันออกให้ฮูหยินผู้เฒ่ากินในแต่ละเดือนก็ต้องเสียเงินหลายสิบตำลึง ไหนจะของกินของใช้ของทุกคน ไหนจะมีญาติพี่น้องและเพื่อนต้องติดต่ออีก ต้องใช้เงินไปหมดจวนแม่ทัพมีแค่มีชื่อเสียงเท่านั้น ในปีที่ผ่านมา เงินสินเดิมของนางใช้อุดหนุนไปไม่น้อยเลย แต่นี่คือผลที่นางแลกมางั้นหรือจ้านเป่ยว่างหมดความอดทนโดยสิ้นเชิง "ช่างเถอะ ข้าไม่อยากเสียน้ำลายกับเจ้า ข้าแค่ต้องแจ้งให้เจ้าทราบเรื่องก็เท่านั้น ไม่ว่าเจ้าจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม เจ้าไม่สามารถเปลี่ยนใจข้าได้"ซ่งซีซีเฝ้าดูเขาเดินจากไปอย่างเย็นชา รู้สึกตัวเองน่าขำมากทีเดียว"คุณหนู" เป่าจูเช็ดน้ำตาอยู่ข้างๆ "ท่านเขยเขารังแกคนมากเกินไปจริงๆ""อย่าเรียกไปมั่ว!" ซ่งซีซีเหลือบมองนางเบาๆ "เขาและข้ายังไม่ได้

    Last Updated : 2024-04-03
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 3

    เป่าจูหยิบรายการสินเดิมมา "ในเวลาหนึ่งปีนี้ ท่านได้อุดหนุนเงินไปมากกว่าหกพันตำลึง แต่ร้านค้า บ้านพัก และสวนต่างไม่ได้แตะต้องเลย ใบรับรองเงินฝากของฮูหยิงที่เก็บไว้ในร้านฝากเงินตอนมีชีวิต และโฉนดบ้าน โฉนดที่ดิน ฯลฯ ทั้งหมดอยู่ในกล่องแถมได้ปิดไว้เรียบร้อย""อืม!" ซ่งซีซีดูรายการนั้น ท่านแม่ของนางให้สินเดิมก้อนโตแก่นางในเวลานั้น คงกลัวว่านางจะต้องทนทุกข์ในครอบครัวของสามี และนางรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างรุนแรงขึ้นมาเป่าจูถามอย่างเศร้าๆ จากด้านข้าง "คุณหนู เราจะไปที่ไหนได้บ้าง หรือว่าจะกลับจวนโหวเหรอ ไม่งั้นเรากลับภูเขาเหม่ยชานดีไหม"สายตาของนางแวบภาพที่ทั้งจวนเต็มไปด้วยเลือดและศพอันน่าสลดใจของคนในครอบครัว นางรู้สึกเจ็บปวดใจทันที "ไปไหนก็ได้ ยังไงก็ดีกว่าอยู่ที่นี่""พอท่านไปแล้ว มันก็ให้พวกเขาได้สมหวังสินะ"ซ่งซีซีพูดดรียบๆ "ถ้าอย่างนั้นก็ให้พวกเขาได้สมหวังเถอะ หากข้าอยู่ต่อ ก็จะใช้ชีวิตอย่างทรมานเมื่อต้องเห็นพวกเขารักใคร่กัน เป่าจู ยามนี้ จวนโหวเหลือข้าเพียงคนเดียว ข้าต้องอยู่ดีกินดีเพื่อที่พ่อแม่และพี่ๆ ของข้าที่อยู่ในสวรรค์ได้หายห่วง""คุณหนู!" เป่าจูร้องไห้อย่างหนัก นางเป็นผู้รับใช้ที่

    Last Updated : 2024-04-03
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 4

    ฮูหยินผู้เฒ่าฝืนยิ้ม "จะชอบหรือไม่ยังให้คำตอบไม่ได้ เพิ่งพบกันครั้งแรก แต่ในเมื่อฝ่าบาททรงพระราชทานอภิเษกสมรสแล้ว มันก็เป็นเรื่องที่กำหนดไว้แล้ว ต่อไปนางและเป่ยว่างร่วมือกันเพื่อสร้างผลงานในกองทัพ ส่วนเจ้าจัดการดูแลเรื่องฝ่ายในของจวนแม่ทัพ เพลิดเพลินกับความสำเร็จทางการทหารที่พวกเขาต่อสู้มา ช่างดีเหลือเกิน""ดีจริงๆ!" ซ่งซีซียิ้ม "แต่ให้แม่ทัพยี่เป็นแค่อนุภรรยาคงไม่เหมาะกับสถานะของนางสินะ"ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มแล้วกล่าวว่า "เจ้าเด็กโง่เอ๊ย นางจะเป็นแค่อนุภรรยาได้ยังไง ในเมื่อฝ่าพระบาททรงพระราชทานอภิเษกสมรสแล้ว อีกอย่างนางยังเป็นผู้บัญชาการทหาร เป็นข้าราชการในราชสำนักด้วย ข้าราชการจะเป็นอนุภรรยาได้ยังไง เป็นภรรยาที่เท่าเทียมกัน ไม่มีใครเหนือกว่า"ซ่งซีซีกล่าวว่า "ไม่มีใครเหนือกว่างั้นเหรอ ราชวงศ์ของเรามีกฎเช่นนี้หรือ"ฮูหยินผู้เฒ่าดูเย็นชาเล็กน้อย "ซีซี เจ้าเป็นคนมีเหตุผลเสมอ ในเมื่อเจ้าได้แต่งเข้าตระกูลจ้านแล้ว ควรตามกฏของตระกูลจ้านก่อน หลังจากได้รับตรวจสอบโดยกระทรวงกลาโหมแล้ว ยี่ฝางสร้างผลงานโดดเด่นกว่าเป่ยว่างในสงครามครั้งนี้ ต่อไปสองสามีภรรยาพวกเขามีใจเดียวกันกัน บวกกับมีเจ้าดูแลฝ่าย

    Last Updated : 2024-04-03

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1376

    ทุกคนหันมาคิดถึงสถานการณ์ของท่านอ๋องฮุย แม้แต่การส่งจดหมายยังต้องทำอย่างวกวนและซับซ้อน ชัดเจนว่าสถานการณ์ของเขานั้นลำบากอย่างยิ่ง ก่อนหน้านี้ที่เสิ่นว่านจือและพรรคพวกไปพักที่นั่น พวกเขาแทบไม่รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ กระทั่งใกล้จะจากไปจึงพบว่าลุงกวนมีท่าทีไม่ชอบมาพากล “ท่านอ๋องฮุยทำเช่นนี้ถือว่าเป็นการตัดญาติขาดมิตรเพื่อความถูกต้องแล้ว” อาจารย์หยูพูดด้วยความเคารพ ในฐานะลูกหลานตระกูลเซี่ย เขาคงไม่ต้องการเห็นศึกกบฏชิงบัลลังก์นี้ โดยเฉพาะผู้ก่อกบฏนั้นคือบุตรชายของเขาเอง ดังนั้น ท่านอ๋องฮุยน่าจะกำลังเจ็บปวดอย่างที่สุด จากการสืบสวนก่อนหน้านี้ที่ทราบเบื้องลึกบางส่วน อาจารย์หยูกล่าวด้วยความสะเทือนใจ “เซี่ยทิงเหยียนใช้ชื่อของเขาเป็นเครื่องมือในการก่อกบฏและช่วงชิงบัลลังก์ ทำให้เขาต้องทนแบกรับความเสื่อมเสียเช่นนี้ในบั้นปลายชีวิต” ในเมื่อเป็นพ่อกับลูก แม้เขาจะถูกผลักดันขึ้นสู่บัลลังก์ก็ตาม คนทั้งแผ่นดินย่อมไม่เชื่อว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ ชนชั้นขุนนางและสามัญชนต่างก็ประณามเขาทั้งคำพูดและลายลักษณ์อักษร กองกำลังหลักของศัตรูก็ต้องมุ่งเป้าหมายมาที่เขา ทุกคนค่อยๆ สงบอารมณ์และกลับมามีสต

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1375

    องครักษ์เงาเฝ้าจับตาดูลูกจ้างคนนั้นจริงๆ หลังจากห้องบัญชีส่งมอบตั๋วเงินให้แล้วก็ยังไม่พอ ที่ประตูเรือนเขายังค้นตัวอีกครั้ง แต่ไม่พบสิ่งใดจึงปล่อยให้เขาไป ลูกจ้างรู้สึกอับอายแต่ไม่กล้าพูดอะไร เพียงรู้สึกแปลกใจ เพราะร้านจินจิงทำธุรกิจมาหลายปี ลูกค้ามักจะค้างชำระบัญชีแล้วให้มารับตั๋วเงินที่จวน เจ้าของบ้านส่วนใหญ่ยังมีน้ำใจให้ชาหรือของว่าง แต่การค้นตัวแบบจวนอ๋องฮุยนั้นไม่เคยเกิดขึ้น เรื่องนี้ องครักษ์เงารายงานแก่เซี่ยทิงเหยียน เซี่ยทิงเหยียนคิดว่าในเมื่อค้นตัวลูกจ้างแล้ว และเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ตอนอยู่ที่ร้านจินจิง จึงไม่น่ามีเรื่องสำคัญใด อย่างไรเสีย กู้ชิงหยิงก็มักหาเรื่องให้เขาซื้อเครื่องประดับให้นางอยู่เรื่อยๆ เป็นหญิงที่โลภมากคนหนึ่ง เขาสังเกตกู้ชิงหยิงมานานแล้ว เห็นว่านางเป็นคนที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใด ชอบแต่กินดื่มเล่นสนุก และหลงใหลเครื่องประดับทองเงินที่สุด ส่วนเสื้อผ้าอาภรณ์นั้นนางไม่ใคร่สนใจนัก เพราะรูปร่างอ้วนเกินไป ใส่อะไรก็ไม่งดงาม กู้ชิงหยิงเหมาะสมกับบทบาทของนาง การที่ให้นางมาอยู่ข้างกายชายชราแต่แรกก็เพื่อรวบรวมเงินทอง องครักษ์เงาที่ถูกฆ่าไปก่อนหน้านี้เคยได้ยิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1374

    ฝนตกหนักเช่นนั้น พวกเขาเดินชมร้านไม่กี่แห่ง จนเห็นร้านจินจิง ร้านทองอันดับหนึ่งในเมืองหลวงยังเปิดอยู่ กู้ชิงหยิงจึงกล่าวว่าต้องการซื้อเครื่องประดับสักสองสามชิ้น ท่านอ๋องฮุยโบกมือใหญ่พร้อมกล่าวว่า “ซื้อ!” เถ้าแก่น้อยจินซึ่งอยู่ในร้าน เห็นว่าเป็นท่านอ๋องฮุยจึงรีบต้อนรับด้วยตนเองและพาขึ้นไปยังห้องพิเศษบนชั้นสาม องครักษ์เงาก็ติดตามไปด้วยเช่นกัน ท่านอ๋องฮุยเคยพากู้ชิงหยิงมาที่นี่หลายครั้ง เป็นลูกค้ารายใหญ่ ด้วยเหตุนี้จึงมีทั้งเถ้าแก่น้อยจิน ผู้จัดการร้าน และลูกจ้างอีกสองคนมาคอยรับใช้ข้างๆ ของว่างแสนประณีตถูกนำมาวางบนโต๊ะ ท่านอ๋องฮุยเรียกให้องครักษ์เงามานั่งดื่มน้ำชาเป็นเพื่อนตน แล้วปล่อยให้กู้ชิงหยิงเลือกของตามใจ องครักษ์เงาไม่กล้านั่งจริงๆ แต่เพราะหน้าที่ของเขาคือคอยเฝ้าดูแลท่านอ๋องฮุย เขาจึงยืนอยู่ข้างๆ เฝ้าดูท่านอ๋องฮุยพูดคุยอย่างออกรสกับเถ้าแก่น้อยจิน คอยระวังว่าทั้งสองจะมีสิ่งใดส่งมอบหรือแลกเปลี่ยนกัน บางครั้ง เขาก็เหลือบมองไปที่กู้ชิงหยิงบ้าง ร่างของนางที่ใหญ่โตกำลังบังเครื่องประดับบนตู้โชว์ เขาจึงเดินไปดูสักสองสามครั้ง เห็นนางกำลังลองกำไลข้อมืออยู่ไม่หยุด จากนั้นก็รีบก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1373

    เซี่ยทิงเหยียนกล่าวต่อไปด้วยท่าทีไม่สนใจใคร คล้ายกับแสดงถึงความเก่งกาจในแผนการของตนเองว่าเหนือชั้นเพียงใด “ซูลันจีผู้นี้ ข้าได้ติดต่อเขาเป็นการส่วนตัวมานานแล้ว เมื่อทราบว่าเขาเป็นคนยากที่จะร่วมมือได้ ข้าจึงให้คนไปที่ซีจิง หาใครสักคนแทรกซึมเข้าไปในกลุ่มสายลับ เพื่อใช้งานเขา เช่นนี้ ไม่ว่าพวกเขาจะสืบข่าวใดในเมืองหลวง ข้าก็ล่วงรู้ทั้งสิ้น อีกทั้งยังสามารถใช้สิ่งนี้กระตุ้นให้เกิดความเคลื่อนไหวภายในของซีจิงได้ สุดท้ายข้าก็ได้พบกับซูลันซือ” “ซูลันซือภายใต้รัศมีของพี่ชาย แทบไม่มีความโดดเด่นเลย แต่ข้ารู้ถึงความทะเยอทะยานของเขา อีกทั้งรู้ว่าเขาพร้อมจะแลกทุกอย่างเพื่อเป้าหมาย ครั้งนั้นที่รัชทายาทซีจิงยอมลงสนามรบ ก็เพราะข่าวที่เขาแพร่ออกไปว่า แม่ทัพแนวหน้ากินเบี้ยหวัดเปล่า ฆ่าชาวบ้านบริสุทธิ์เพื่อรายงานผลงานปลอมๆ ทำให้รัชทายาทซีจิงต้องปลอมตัวไปสืบด้วยตนเอง” “เขาไปเมืองลู่เปินเอ่อร์แล้ว เรื่องนี้เป็นผลดีกับเจ้าอย่างไร?” ท่านอ๋องฮุยเอ่ยถาม “แน่นอนว่าข้าเป็นคนออกหน้าเกลี้ยกล่อมเขา เพื่อร่วมมือกับเขา” เซี่ยทิงเหยียนเอ่ยด้วยความเสียดาย “น่าเสียดาย ที่กลางทางเกิดมียี่ฝางโผล่มาทำลายแผนของข้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1372

    เซี่ยทิงเหยียนถือร่มก้าวเข้ามาในลานเรือนของท่านอ๋องฮุย เขาเดินอย่างองอาจตรงเข้าไปในห้อง สั่งให้คนรอบข้างถอยออกไป แม้แต่กู้ชิงหยิงก็ไม่อาจอยู่ด้วย ท่านอ๋องฮุยเพิ่งเสวยเสร็จ บนโต๊ะยังมีเศษอาหารเหลืออยู่ พวกบ่าวกำลังจะมาเก็บกวาด เซี่ยทิงเหยียนนั่งลง หยิบตะเกียบและถ้วยของท่านอ๋องฮุยขึ้นมา แล้วลงมือกินเศษอาหารเหล่านั้น เขายังคงกินด้วยท่าทีสง่างามเช่นเคย แต่กลับทำให้ท่านอ๋องฮุยรู้สึกทั้งโกรธและขยะแขยง เขาเป็นผู้เลี้ยงดูเซี่ยทิงเหยียนมาตั้งแต่เด็ก กิริยาท่าทางของเขาไม่เคยขาดตกบกพร่องไปจากคุณสมบัติของเจ้าเมืองผู้สงบสำราญ แต่น่าเสียดายที่เขากลับเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน และความโหดเหี้ยมเกินใคร เขากินอาหารที่ท่านอ๋องฮุยเหลือจนหมด แล้ววางตะเกียบลง ใช้ผ้าเช็ดปากพลางกล่าวว่า “ไม่ควรปล่อยให้ข้าวปลาเสียเปล่า ลูกหิวพอดี เสด็จพ่อคงไม่ถือสาหรอกนะ?” ท่านอ๋องฮุยกล่าวเย็นชา “ไม่เป็นไร อย่างไรของที่เหลือก็เอาไปให้หมากินอยู่แล้ว เจ้ากินไปก็เหมาะสมดี” “ถ้าลูกเป็นหมา แล้วเสด็จพ่อเป็นอะไรล่ะ?” เขายิ้มบางเบา พลางพูดต่อว่า “ลูกมาแจ้งข่าวดีให้เสด็จพ่อฟัง อีกไม่นาน พวกเราจะสมหวังตามที่ปรารถ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1371

    คำทำนายของสำนักฉินเทียนไม่ผิด ปีนี้ฝนตกชุกจริงๆ วันที่ 18 เดือนเจ็ด เมืองหลวงมีฝนตกหนัก ที่ชานเมืองหลวง สายลับของหนิงจวิ้นอ๋องพบเห็นกองกำลังหนึ่งเร่งฝ่าสายฝนมุ่งตรงสู่เมืองหลวง พวกเขาเป็นชาวบ้านจากไร่นา การเข้าเมืองจึงไม่ใช่เรื่องยากนัก เมื่อสายลับจำได้ว่าผู้นำกองกำลังนั้นคือชิวเหมิง เขาจึงรีบแบกตะกร้าผลไม้เข้าเมืองทันที ไม่มีใครสนใจกับชาวบ้านแบบนี้ เพราะทุกวันมีคนจากหมู่บ้านถือผลไม้เข้ามาในเมืองมากมาย บ้างก็มาตั้งแผงขาย บ้างก็นำไปเสนอขายให้กับบ้านขุนนางผู้มีเกียรติดังนั้น เขาจึงสามารถมาถึงประตูหลังของจวนอ๋องฮุยได้อย่างราบรื่น เมื่อประตูเปิดออก เขาก็รีบแทรกตัวเข้าไปอย่างรวดเร็ว ภายในห้องหนังสือ เซี่ยทิงเหยียนนั่งตัวตรง สีหน้าสงบ หลังจากฟังรายงานเสร็จ “เจ้ามั่นใจว่าเห็นอาจารย์ชิวหรือ?” เซี่ยทิงเหยียนถามเสียงเรียบโดยไม่แสดงความตื่นเต้นใดๆ ยิ่งในช่วงเวลาเช่นนี้ เขายิ่งต้องรักษาความสงบนิ่ง “ทูลท่านอ๋อง ข้าเห็นอย่างชัดเจน เป็นอาจารย์ชิวแน่นอน” “ฝนตกหนักขนาดนี้ เจ้าดูได้ชัดเจนหรือ?” เซี่ยทิงเหยียนกล่าวขณะเสียงฝนที่กระทบหลังคาดังก้องจนแทบกลบเสียงเขา “เห็นชัดเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1370

    ในที่สุด อ๋องเยี่ยนก็เพิ่งตระหนักได้ว่าเขาพ่ายแพ้อย่างหมดท่าแล้ว ริมฝีปากเขาสั่นระริก ขาทั้งสองข้างอ่อนแรงจนทรุดนั่งลงกับพื้น ความหวาดกลัวและความตื่นตระหนกถูกขยายใหญ่ขึ้นในจิตใจ เขานึกถึงจุดจบของกบฏในประวัติศาสตร์ที่ล้มเหลว ยิ่งทำให้เขารู้สึกหนาวเย็นไปทั้งร่าง แต่ก่อน เขาไม่ใช่ว่าจะไม่เคยคิดจุดจบหากพ่ายแพ้มาก่อน แต่ก็คิดเสมอว่าหากต้องล้มเหลว อย่างมากเขาก็คงแค่ยอมให้ตนเองถูกประหารชีวิต หรือไม่ก็จบชีวิตตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงความทุกข์ทรมานจากการถูกทรมานต่าง ๆทว่า ตอนนี้เขากลายเป็นนักโทษในคุก ทั้งปิ่นปักผมยังถูกยึดไป ผมเผ้ายุ่งเหยิง ถูกกักขังอยู่ในห้องขังที่ล้อมด้วยซี่ลูกกรงเหล็กสามด้าน อีกด้านเป็นผนังแข็งแกร่ง แม้จะพุ่งศีรษะชนผนังก็อาจไม่ถึงตาย ด้านนอกคุกมีคนคอยเฝ้าอย่างแน่นหนา ต่อให้คิดจะตาย ก็อาจไม่สมหวังและยิ่งต้องทนทรมานมากกว่าเดิม สิ่งที่มากกว่านั้นคือความไม่ยอมพอใจในโชคชะตา ทำไมเขาถึงตกต่ำได้ถึงเพียงนี้? ต่อให้ล้มเหลว อย่างน้อยคนข้างกายก็ควรจะเป็นผู้ที่พร้อมตายไปด้วยกัน แต่ในตอนนี้แม้จะมีคนอยู่ แต่ก็ไม่ได้มีใจเดียวกัน เขามองทั้งสองคนด้วยความแค้นเคือง ก่อนหัวเราะเส

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1369

    หากทำศึกในพื้นที่เปิด พวกเขายังสามารถถอยร่นไปพลางสู้ไปพลางได้ ตราบใดที่สามารถถอยไปยังจุดยุทธศาสตร์ที่ได้เปรียบ สถานการณ์ก็พลิกกลับได้ง่าย ดังนั้น เจ้าสิบเอ็ดฝางจึงต้องหาทางตัดเส้นทางถอยของพวกเขา ล้อมให้ติดอยู่ที่นี่จนกว่าจะเอาชนะได้ หรือพวกเขายอมแพ้ ในเมืองเยี่ยนโจว อู๋เซี่ยงก็ถูกจับกุม และถูกคุมขังรวมกับอ๋องเยี่ยนและคนอื่นๆ เมื่ออ๋องฮวยเห็นดังนั้น ก็ร้องขึ้นอย่างตกใจ “อาจารย์อู๋เซี่ยง เจ้าถูกจับด้วยได้อย่างไร? หรือว่าชิวเหมิงพ่ายแพ้แล้ว?” เสื้อผ้าของอู๋เซี่ยงขาดวิ่น มีบาดแผลหลายแห่ง เลือดที่มุมปากก็แห้งกรังไปแล้ว เขาดูอิดโรยอย่างยิ่ง อ๋องเยี่ยนในตอนนั้นยังไม่ตระหนักว่าเขาถูกทรยศ ทั้งคืนเขาเอาแต่กังวลว่าทำไมไม่มีใครมาช่วย คิดว่าคงพึ่งพาชิวเหมิงไม่ได้แล้ว แต่เขายังคงหวังว่าเฮ่อซวงจื้อจะนำกองกำลังส่วนตัวมาช่วย แม้ชิวเหมิงจะไม่มาถึง แต่เฮ่อซวงจื้อจะต้องมา เมื่อเห็นว่าอู๋เซี่ยงถูกจับมาด้วย หัวใจที่คอยพะวงของเขาก็แทบจะมอดไหม้ไปสิ้น เขาเคยคิดถึงความเป็นไปได้ที่จะล้มเหลว แม้กระทั่งตอนที่ยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อล่อศัตรูให้เข้ามาในเมือง เขาก็เตรียมใจไว้แล้วสำหรับความพ่ายแพ้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1368

    จินซิวเต๋อก็สับสนไม่แพ้กัน “ข้าก็ไม่รู้ ท่านชิวเหมิงบอกข้าด้วยปากของตนเอง” อู๋เซี่ยงเริ่มตื่นตระหนก ชิวเหมิงขึ้นชื่อว่าเป็นผู้วางแผนไร้ที่ติ เขาพูดเองว่าจะมาถึงก่อนตะวันตกดิน ก็ย่อมจะมาถึงก่อนเวลา ไม่ใช่หลังเวลา “หรือจะมีกองซุ่มโจมตีระหว่างทาง? เป็นไปไม่ได้ ข่าวก่อนหน้านี้รายงานว่า กองทัพของมู่ฉงกุยกระจายตัวไปปราบโจรและเดินทางไปยังแคว้นเยว่แล้ว ไม่มีทางกลับมาได้ทันเวลา” “ถ้ามีกองทัพซุ่มโจมตีระหว่างทาง ท่านชิวเหมิงคงส่งข่าวมาแล้ว พวกเขามีสายสืบอยู่” จินซิวเต๋อพูดด้วยใบหน้าซีดเผือด “ท่านอาจารย์ แล้วเราจะทำอย่างไร? พวกเราไม่อาจสู้กองทัพเมืองหลวงได้เลย” อู๋เซี่ยงสูดหายใจลึกๆ หลายครั้งก่อนจะกล่าวอย่างสงบ “ตอนนี้พวกเราทำได้เพียงปกป้องตัวเอง หาทางหนีออกไปเพื่อสมทบกับชิวเหมิง” “ถ้าเช่นนั้น เมืองเยี่ยนโจวก็ต้องแตกแน่” จินซิวเต๋อพูดอย่างร้อนรน “พวกเรามีครอบครัวมากมาย จะอพยพพวกเขาไปได้อย่างไร? ประตูเมืองถูกปิดหมดแล้ว เราทำได้แค่หนีไปทางเขาโต้วขุย แต่มีคนแก่ เด็ก และสตรีมากมาย เราจะทำอย่างไรดี?” อู๋เซี่ยงสั่งการเหล่าบ่าวไพร่และองครักษ์ในจวนอ๋องเยี่ยน “ตอนนี้ไม่ต้องสนใจมากนัก เอาต

DMCA.com Protection Status