Share

บทที่ 109

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update Last Updated: 2024-04-30 18:54:53
เมื่อจ้านเป่ยว่างได้ยินคำพูดดังกล่าว เขารู้สึกปวดใจมาก ก่อนตะโกนว่า "พวกเขาไม่จำเป็นต้องเสียชีวิต กองทัพซวนเจียเป็นกองกำลังหลักเพื่อโจมตีเมือง และเราแค่ทำหน้าที่ช่วยเหลือ แม้ว่าเจ้าจะอยู่ข้างข้า เจ้าก็สามารถให้พวกเขาช่วยบรรทุกหินได้ แทนที่จะให้พวกเขาตายไปเปล่าๆ"

ปี้หมิงไม่สนใจอะไรมาก และสั่งโดยตรงว่า "กองทัพซวนเจียขึ้นไปบนบันไดยาว ใครก็ตามที่ไม่ใช่กองทัพซวนเจีย ให้ถีบออกไปเลย"

ในเมื่อกี้กองทัพซวนเจียตกอยู่ความสับส้น เมื่อพวกเขารู้สึกตัว ก็ปีนขึ้นบันไดอีกครั้งทันที หากพบใครที่ไม่ใช่กองทัพซวนเจีย พวกเขาจะดึงออกมาหรือเตะลง

บุคคลยังคงตกลงไม่หยุด แต่ไม่ได้ถูกหอกแทงเข้า ยังสามารถอยู่รอดได้

เมื่อจ้านเป่ยว่างเห็นว่าได้รับการควบคุมแล้ว เขาก็ผลักยี่ฝางออกไปและพูดว่า "จะร้องไห้ก็ออกไปไกลๆ"

เขาวิ่งไปที่เครื่องโยนหิน แล้วสั่งว่า "บรรทุกหินต่อไปแล้ว โยนหินออกไป"

ยี่ฝางยืนขึ้น ปาดน้ำตา ทันใดนั้นดวงตาของนางก็ดูดุร้ายมาก และสั่งให้ทหารของนางล่าถอยออกไป รอที่จะบุกเข้าไปในเมืองและรีบเร่งเข้าต่อสู้ ทหารภายใต้การบังคับบัญชาของนาง จะต้องแย่งผลงานทางทหารจากซ่งซีซีให้ได้

พี่จ้านจะต้องเสียใจแน่นอน

เซี่
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (1)
goodnovel comment avatar
นารารันย์ ปัญญากุล
การบริการลูกค้าห่วยมากคะ เสียดายเวลาและเสียเงินที่จ่ายไปคะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 110

    สนามรบอยู่ในเมืองซีม่อน ตั้งแต่เริ่มการโจมตีเมือง ประชาชนต่างปิดประตูบ้านแน่นและซ่อนตัวให้ดีเมื่อทหารแคว้นซาบุกเข้ามาที่นี่ พวกเขากดขี่ประชาชนและรังแกพวกผู้หญิง ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าจะเกิดสงครามขนาดใหญ่หลังจากที่เมืองถูกโจมตีให้เปิดออก ทว่าพวกเขาก็หวังอย่างยิ่งว่า กองทัพเป่ยหมิงจะบุกโจมตีเข้ามาและขับไล่ชาวแคว้นซาออกไปการต่อสู้ดำเนินไปอย่างรุนแรง ยี่ฝางติดตามกองทัพเข้าไปในเมือง ไม่นานก็ต่อสู้ถึงแนวหน้า นางไม่ใช่แม่ทัพหญิงเพียงคนเดียว แต่นางเป็นแม่ทัพหญิงคนเดียวที่สวมเสื้อเกราะ เสื้อเกราะนี่สั่งทำโดยพิเศษจากกระทรวงกลาโหมนอกจากนี้ ยังมีผ้าพันคอสีแดงบนชุดเกราะของนาง ซึ่งหมายความว่า นางเป็นผู้หญิงที่กล้าหาญดังนั้น แม้ว่าสถานการณ์การต่อสู้จะวุ่นวายมาก ทว่านางก็ดูสะดุดตาเป็นพิเศษซูลันจีเห็นนางแล้ว และทหารจำนวนมากของเมืองซีจิงก็เห็น นางเช่นกันกลยุทธ์ที่ต่อต้านนางได้เริ่มขึ้นแล้ว นั่นก็คือกลุ่มคนที่นางกำลังต่อสู่นั้นกำลังถอยกลับอย่างต่อเนื่อง นางเป็นคนชอบเอาชนะ ดังนั้นนางจึงต้องการไล่ตามพวกเขาและทำลายล้างพวกเขาทั้งหมดอย่างแน่นอนจ้านเป่ยว่างเห็นดังนั้นก็ตะโกน "ยี่ฝาง จะไล่ตาม

    Last Updated : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 111

    ซูลันจีและวิกเตอร์ยังไม่ได้เข้าสู่สนามรบ พวกเขายังเฝ้าดูสงครามจากที่สูงศพนอนอยู่ทั่วเมือง และทุกที่ที่พวกเขามองเห็นได้ก็มีแต่ทหารที่ตายแล้ว เมืองนี้แทบจะย้อมเป็นสีแดงด้วยเลือดและส่วนใหญ่เป็นทหารของเมืองซีจิงและทหารแคว้นซา การต่อสู้ในเมืองนี้ ได้แต่สู้ต่อไปเท่านั้น ไม่มียุทธวิธีใดๆ อีกเลยวิกเตอร์รู้ดีว่าไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องละทิ้งเขตหนานเจียง และเข้าซีม่อน หลังจากที่เขาเข้าไปซีม่อน เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ที่ชาวซีจิงมาช่วยเพียงเพื่อสังหารทหารของแคว้นซางเพื่อระบายความโกรธของพวกเขาและสังหารแม่ทัพหญิงที่ชื่อว่ายี่ฝางด้วยพวกเขาไม่มีความมั่นใจที่จะเอาชนะแคว้นซางได้ ยิ่งไม่ต้องการแบ่งเขตหนานเจียงกับแคว้นซา พวกเขามาเพื่อระบายความโกรธมากกว่าดังนั้น วิกเตอร์จึงรู้สึกโกรธมาก หากไม่ใช่ชาวซีจิงมา พวกเขาอาจจะพ่ายแพ้จนวิ่งหนีไปนานแล้ว ไม่ต้องมาต่อสู้ตั้งหลายครั้งจนทำให้มีทหารเสียชีวิตตั้งมากมายขึ้นไปเขาพูดกับซูลันจีอย่างเย็นชา "ถ้าเจ้าต้องการระบายความโกรธ ทำไมไม่สังหารหมู่ทั้งเมืองล่ะ?"เขาคงรู้ว่าทำไมซูลันจีจึงเกลียดชาวซางมากขนาดนี้ เขาสืบรู้ว่าในระหว่างการต่อสู้ที่ชายแดนเฉิงหลิง มีห

    Last Updated : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 112

    ทหารของแคว้นซาและทหารของเมืองซีจิงต่างล่าถอยไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้กองทัพเป่ยหมิงที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือดนั้นต่างตกตะลึงเมื่อฟังเสียงสัญญาณให้ล่าถอย พวกเขายังคิดว่านี่อาจจะเป็นกลยุทธ์ของแคว้นซาเพื่อล่อลวงศัตรูให้เข้าไปอย่างไรอย่างนั้นแต่พอคิดดูดีๆ อีกที ได้ล่าถอยจากซีม่อน แล้วพวกเขายังจะไล่ตามไปทำไมอีก? เดิมที่ก็ต้องการขับไล่พวกเขาออกไป แต่ไม่ใช่ฆ่าพวกเขาทั้งหมดดังนั้น กองทัพเป่ยหมิงจึงเฝ้าดูกองทหารศัตรูละทิ้งชุดเกราะและหนีออกไปทั้งอย่างนั้นชัยชนะมันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?พวกเขาทั้งหมดเตรียมพร้อมที่จะตายเพื่อประเทศของตน เพราะถึงยังไง ชาวซีจิงก็มาช่วยอย่างยิ่งใหญ่เช่นนี้ พวกเขาจะยอมพ่ายแพ้ง่ายๆ ได้อย่างไร?แม้แต่ผู้บังคับบัญชาเองก็เข้าสู่สนามรบไปต่อสู้เอง ย่อมต้องโหดร้ายอย่างยิ่งแน่ๆ และความจริงก็โหดร้ายอย่างยิ่งจริงๆ มีศพอยู่ทุกหนทุกแห่ง และทั้งเมืองก็เต็มไปด้วยเลือด แม้ว่าหิมะตก แต่ก็ไม่สามารถซ่อนกลิ่นอันท่วมท้นของคาวเลือดได้แต่เมืองซีม่อนนั้นใหญ่มาก และยังมีหมู่บ้านมากมายนอกเหนือจากเมืองแม่ทัพฟางรีบกลับไปที่ค่ายบัญชาการและถามว่า "ท่านผู้บังคับบัญชา ต้องการติดตามพวกเราไ

    Last Updated : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 113

    ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขามีคนเยอะกว่า ยี่ฝางพยายามต่อต้านอยู่ นางมองไปรอบๆ และพบว่ามีทหารของเมืองซีจิงเพิ่มมากขึ้นพวกเขาไม่ได้อยู่ในสนามรบหลัก แต่กลับกำลังรอนางอยู่ที่นี่ นางตระหนักว่านางเคยได้โอกาศทองโดยใช้กลยุทธ์นี้ แต่คราวนี้นางยังคงใช้กลยุทธ์เดิมแต่กลับตกหลุมพรางของศัตรูแล้วยี่ฝางและยี่เทียนหมิง ลูกพี่ลูกน้องของนางเก่งการต่อสู้ และสามารถต้านทานได้ระยะหนึ่ง แต่พวกทหารที่อยู่ข้างๆ พวกเขาต่างเสียชีวิตไปในกองเลือดทีละคน ชาวซีจิงไม่ได้เมตตาแม้แต่น้อย พวกเขาฆ่าคนอย่างไม่ลังเล คนพวกนี้อาจเป็นนักรบโดดเด่นของพวกเขายี่ฝางรู้สึกหวาดกลัวมากจนอยากจะวิ่งหนี แต่ข้างหลังนางล้อมรอบไปด้วยทหารเมืองซีจิงทั้งหมด พวกเขาถือมีดยาวและไม่ก้าวไปข้างหน้า ได้ขัดขวางทางหลบหนีของนางนางทำได้เพียงสู้กลับด้วยความตื่นตระหนก แต่นางก็กลัวจนไม่มีแรงที่จะใช้ท่าได้ เมื่อนางเห็นมีดมุ่งมาเพื่อตัดแขนของนาง นางก็คว้าทหารที่อยู่ข้างหน้านางโดยไม่รู้ตัวเพื่อให้เขามาขัดขวางให้ทหารถูกฟาดที่ศีรษะและเลือดก็ไหลกลั้วคอไม่หยุดทหารคนนั้นหันกลับมาอย่างยากลำบากและมองดูแม่ทัพยี่ด้วยความไม่อยากเชื่อ พวกเขาเคยร่วมมือกันสร้างผลงานที่

    Last Updated : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 114

    ใบหน้าของยี่ฝางซีดเผือด ตาต่อตา ฟันต่อฟัน?นางรู้ดีว่าตนเองทำอะไรกับคนคนนั้นในเวลานั้น แม่ทัพตัวน้อยคนนั้นนำคนกว่าร้อยคน และเขาก็ต่อสู้เก่งด้วย พวกเขาเคยต่อสู้ด้วยกันได้ฆ่าคนของนางไปหลายคน จากนั้นก็หนีไป เพื่อตามหาพวกเขา นางสั่งให้สังหารหมู่หลายหมู่บ้านในเมืองลู่เปินเอ่อร์ เพราะนางสงสัยว่าเขาซ่อนตัวอยู่ในบ้านของประชาชนคนใดคนหนึ่งอยู่นางต้องหาเขาเพื่อล้างแค้นให้กับลูกน้องของนางที่เสียชีวิตไปและสร้างอำนาจให้ตัวเอง ยิ่งกว่านั้น การฆ่าทหารสิบนายนั้นสู้กว่าการฆ่าหัวหน้าทหารคนหนึ่งไปไม่ได้นั่นคือความคิดทั้งหมดของนางในเวลานั้น แต่นางไม่คาดคิดว่าหลังจากจับหัวหน้าทหารตัวน้อยคนนั้นแล้ว เขากลับหยิ่งยโสอย่างยิ่ง และกล่าวหาว่านางละเมิดข้อตกลงระหว่างทั้งสองประเทศ เพราะได้สังหารหมู่พลเรือนคนๆ นี้สาปแช่งอย่างโหดเหี้ยม โดยบอกว่าการสังหารหมู่นั้นถือว่าสร้างบาปไว้ และสาปแช่งพวกเขาไม่มีลูกหลานอีกเลยเป็นเพราะเขาสาปแช่งอย่างโหดเหี้ยมเกินไปจนทำให้เขาถูกลงโทษ ส่วนการดุด่ว่าจะไม่มีลูกหลานอีก งั้นก็จะให้เขาไม่สามารถมีลูกหลานได้อีก เลยตอนเขาเสียก่อนยิ่งมีลูกน้องของนางถึงกับขี้บนตัวของเขา และยัดขี้ให

    Last Updated : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 115

    พวกสายลับในแคว้นซาง พวกเขาได้ทุ่มเทความพยายามมามากแล้ว ต่อมาสายลับก็อยู่ภายใต้การควบคุมของท่านพี่รัชทายาทโดยตรงหลังจากที่ท่านพี่รัชทายาทเกิดเรื่อง พวกสายลับกลับได้สังหารพวกผู้หญิงและเด็กทุกคนในครอบครัวซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงของท่านพี่รัชทายาทเท่านั้น แต่ยังทำให้สถานที่ที่รวบรวมข่าวกรองถูกทำลายหมดซ่งฮวยอันเป็นแม่ทัพที่น่าชื่นชม ผู้ชายทุกคนในครอบครัวของเขาเสียชีวิตในสนามรบเขตหนานเจียง ภรรยาและเด็กของพวกเขาแม้แต่คนรับใช้ที่บ้านต่างก็ไม่มีใครรอดชีวิต เรื่องน่าสังเวชเช่นนี้ กลับเป็นฝีมือของชาวซีจิงเนื่องจากเหตุการณ์นี้ ทำให้พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะเปิดเผยเรื่องที่ยี่ฝางสังหารหมู่ด้วย เลยถูกซ่อนมันไว้ยี่ฝางเป็นผู้บงการ แต่สายลับจากเมืองซีจิงก็ทำสิ่งที่ทั้งโหดร้ายและเลือดเย็นเช่นกัน มีเพียงตระกูลซ่งเท่านั้นที่เป็นเหยื่อ ได้ยินมาว่าที่ตระกูลซ่งเหลือซ่งซีซีเพียงคนเดียว คงเป็นแม่ทัพหญิงคนนั้นที่นางกำลังพูดถึงยี่ฝางยังเข้ามาแทนที่ซ่งซีซี กลายเป็นภรรยาของจ้านเป่ยว่างสิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับเมืองซีจิง แต่เมื่อครอบครัวของซ่งฮวยอันถูกฆ่าตายหมด และซ่งซีซีถูกทอดทิ้ง

    Last Updated : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 116

    ในใจของยี่ฝางตื่นตระหนกอย่างมาก เมื่อลูกพี่ลูกน้องถามจี้นาง นางก็รู้สึกร้อนตัวอย่างเห็นได้ชัด แต่นางก็รีบแก้ต่างว่า "ข้าคิดว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ข้าเป็นทหารเมืองซีจิง ข้าไม่เห็นว่าเป็นเสี่ยวจูจือเลย"ยี่เทียนหมิงพูดด้วยความโกรธ "เจ้าเล่ห์ ทหารศัตรูจะอยู่เคียงข้างเจ้าได้ยังไง? หาข้อแก้ตัวก็ไม่หายสักข้อที่ให้ดูสมเหตุสมผลหน่อย"ยี่ฝางระเบิดอารมณ์ออกมา "พอได้แล้ว ตอนนี้เราทุกคนต่างก็เป็นนักโทษของศัตรูแล้ว เราได้สังหารหมู่หมู่บ้านในเมืองลู่เปินเอ่อร์แล้ว พวกเขาจะไม่ปล่อยเราไปง่ายๆ หากมีเวลามาด่าว่าข้าสู้เอาเวลานี้ไปคิดหาทางออกจะดีกว่า"ยี่เทียนหมิงกล่าวว่า"เจ้าเป็นคนออกคำสั่งให้สังหารหมู่หมู่บ้าน เจ้าบอกว่าหัวหน้าทหารคนนั้นซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักพลเรือน เจ้าบอกว่าทหารบางคนปลอมตัวเป็นสามัญชน ดังนั้นเลยสั่งให้ฆ่าให้หมดโดยไม่ต้องปรานี"เมื่อรู้ว่าคนข้างนอกสามารถได้ยินเข้า ยี่ฝางจึงพูดเสียงดัง "ข้าแค่ให้คพวกเจ้าฆ่าคนไม่กี่คนเพื่อบีบบังคับหัวกน้าคนนั้นออกมา ไม่ได้ให้พวกเจ้าฆ่าทั้งหมด"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทหารที่ถูกจับกุมคนอื่นๆ ก็ประณามด้วยความโกรธว่า "เจ้าสั่งให้ฆ่าพวกเขาให้หมด และตัดหูพวกเขาออ

    Last Updated : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 117

    แต่ไม่นานนัก ความหวังของยี่ฝางก็พังทลายลงอย่างสิ้นเชิงกองไฟถูกจุดไว้ด้านนอก ประตูไม้ถูกแตะออกด้วยกำลัง และร่างสูงร่างหนึ่งก็ค่อยๆ เดินเข้ามาด้วยความรู้สึกถูกกดขี่อย่างรุนแรงแม้จะหันหลังให้กับกองไฟข้างนอกแล้ว ยี่ฝางยังคงมองเห็นโครงร่างของเขาได้ชัดเจนและรู้ว่าเขาเป็นใครซูลันจี ผู้บังคับบัญชาของเมืองซีจิง ซึ่งนางเคยทำสัญญาสันติภาพกับเขาในเมืองลู่เปินเอ่อร์ยี่ฝางตัวสั่นอย่างรุนแรงพลางพิงกำแพง มองดูซูลันจีด้วยความหวาดกลัวเมื่อทำสัญญาสันติภาพที่ชายแดนเฉิงหลิง ชายผู้นี้ดูแข็งแกร่งและเป็นวีรบุรุษ ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงการกดดัน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ยังมีออร่าที่สง่างาม เรื่องการเจรจาสันติภาพและการทำสัญญากับเขาต่างดำเนินการอย่างราบรื่นและรวดเร็วบางข้อ นางเป็นคนเสนอสเอง เขาตอบตกลงโดยไม่ได้คิดอะไรเลย แต่มีเงื่อนไขเพียงเดียวก็คือหลังจากลงนามแล้ว ให้นางปล่อยคนโดยเร็วที่สุดตอนนั้นเขาช่างพูดง่ายจน ง่ายจนนางคิดว่านี่คือผลงานทางทหารที่พระเจ้ามอบให้นางแต่เวลานี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและความกระหายเลือด ความเยือกเย็นในดวงตาของเขา นางไม่เคยเห็นมาก่อน พร้อมกับความรู้สึกกดขี่ เหมือนก

    Last Updated : 2024-04-30

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1340

    ซ่งซีซีนั่งกลับลงบนเก้าอี้ กล่าวว่า “เรื่องที่พวกเจ้าทุจริตนั้น ฝ่าบาททรงทราบดีแล้ว ตอนนี้ที่ทรงให้ข้าสอบสวนเป็นการส่วนตัว ก็เพื่อมอบโอกาสให้พวกเจ้า หากพูดความจริง หัวของเจ้าจะยังปลอดภัย หากให้ข้อมูลที่มีค่าเพิ่มเติม อย่างมากก็แค่ถูกเนรเทศไปทำงานนอกเมือง ยังสามารถโลดแล่นในวงราชการได้”เกาหมิงอวี้ที่มีประสบการณ์ในราชสำนักมานานย่อมรู้ดีว่าให้ข้อมูลที่มีค่ามากขึ้น หมายถึงการขายเจ้านายและผู้ใต้บังคับบัญชาเขาไม่มีข้อสงสัยในคำพูดของซ่งซีซีด้วยสองเหตุผล หนึ่งคือ ช่วงนี้อู๋เยว่และคนของเขาตรวจสอบทางน้ำอยู่เสมอ สองคือ ซ่งซีซีออกหน้ามาสอบสวนด้วยตัวเอง หากไม่มีพระราชโองการจากฝ่าบาท นางไม่จำเป็นต้องลงมือเอง จะส่งใครมาทรมานเขาก็ได้แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าซ่งซีซีวิเคราะห์เขาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และคาดการณ์ความคิดของเขาไปก่อนแล้ว“พวกเจ้าทุจริตทั้งระบบ ท่าทีของจินชางหมิงเป็นอย่างไร?”เกาหมิงอวี้ครุ่นคิดก่อนตอบว่า “จะว่าไปจริงๆ แล้ว เขาเป็นคนเริ่มเปิดทางให้เราทุจริต โดยอ้างว่าเป็นค่าเหนื่อยของเรา เมื่อเริ่มต้นแล้ว เราลองเบิกเงินเกินมาเล็กน้อย เขาก็ไม่ว่าอะไร จากนั้นเรากล้าขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาเขาเตือนเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1339

    หลังจากเฝ้าสังเกตอยู่สองวัน ซ่งซีซีตัดสินใจลงมือกับเกาหมิงอวี้ รองหัวหน้ากรมจัดการแม่น้ำเกาหมิงอวี้อายุสามสิบห้าปี รับราชการในกรมโยธามาแล้วห้าปี เขามีพื้นเพมาจากครอบครัวชาวไร่ชาวนา เมื่อยังเยาว์วัยพ่อแม่เสียชีวิต เพื่อให้เขาได้เรียนในสำนักที่ดีที่สุด เขาดูดทรัพย์สมบัติของพี่น้องจนหมดสิ้นหลังสอบจอหงวนได้ เขาเข้ารับราชการ และกลายเป็นคนโลภเงินอย่างที่สุด ขี้เหนียวอย่างยิ่งยวด ทอดทิ้งพี่น้องที่เคยเลี้ยงดูเขาไปเหมือนของไร้ค่า และไม่ติดต่อพวกเขาอีกเลยยังไม่หมดแค่นั้น เขาอ้างความหึงหวงเป็นเหตุผลในการหย่ากับภรรยาคนแรก แล้วแต่งงานกับบุตรสาวของอาจารย์ผู้มีพระคุณอาจารย์ผู้มีพระคุณของเขาคืออธิการสำนักไป๋หยุน ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว ลูกสาวคนเดียวของอาจารย์แต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างดีเขาคือคนไร้ค่าและทรยศทว่าคนไร้ค่าเช่นนี้กลับใช้งานได้ดี เพราะความโลภ โกรธ หลง และความเห็นแก่ตัวของเขา มีจุดอ่อนที่สามารถกดดันจนยอมพูดทุกอย่างคืนนั้น ซ่งซีซีสั่งให้กุ้นเอ๋อร์จับตัวเขามายังเรือนทางตะวันตกของเมือง ขังเขาไว้หนึ่งคืน ให้เขาหวาดกลัวและหิวโหย จากนั้นค่อยสอบสวนในวันถัดไปเกาห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1338

    จักรพรรดิซูชิงมีราชโองการให้อู๋เยว่พาคนไปควบคุมงานโดยตรง ทว่า จินชางหมิงรับมือได้อย่างคล่องแคล่ว พาอู๋เยว่ไปตรวจสอบผลสำเร็จด้วยตนเองหลังจากเริ่มงานมาเป็นเวลานาน อ่างเก็บน้ำก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์คุณภาพของอ่างเก็บน้ำนั้นยอดเยี่ยม เขื่อนที่สร้างขึ้นมั่นคงดั่งกำแพงทองหลังจากตรวจสอบอ่างเก็บน้ำแล้ว ก็ไปตรวจสอบทางน้ำ ทุกพื้นที่ได้ขุดลอกเสร็จเรียบร้อย ส่วนเขื่อนที่เสียหายก่อนหน้านี้ก็ได้รับการซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงแล้วอู๋เยว่ยังส่งคนไปพูดคุยกับคนงานก่อสร้างทางน้ำ ชายฉกรรจ์แต่ละคนที่ผิวคล้ำแดด ดูซื่อๆ ขัดเขินเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าขุนนางส่วนใหญ่ถามอะไรก็ตอบสิ่งนั้น หากให้พวกเขาบอกความไม่พอใจอะไร พวกเขามักลังเลครู่หนึ่งก่อนที่จะถามว่าอาหารสามารถปรับปรุงได้ไหม โดยเฉพาะเพิ่มหมูติดมันให้หน่อยอู๋เยว่คิดว่าคนเหล่านี้เป็นคนเรียบง่าย ไม่มีปัญหาอะไร และไม่มีความเคียดแค้นในแววตาเขายังพาคนไปดูที่พักชั่วคราวของคนงานก่อสร้างเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกระท่อมไม้และกระท่อมหญ้าแฝก ภายในมีเพียงที่นอนใหญ่ที่รองรับคนได้เจ็ดแปดคน ดูรกเล็กน้อยในกระท่อมไม่มีอาวุธ เครื่องมือที่ต้องใช้ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1337

    ซ่งซีซีแทบจะหัวเสียจนอกแตกตาย นางรู้สึกว่าเส้นผมสีขาวกำลังจะงอกออกมาบนหน้าผาก ไม่แปลกใจเลยที่ขุนนางในราชสำนักแต่ละคนดูแก่ก่อนวัย หรือแม้แต่เสนาบดีมู่ที่อายุเพียงหกสิบกว่า ผมก็หงอกไปกว่าครึ่งนางไปหาเสนาบดีมู่ด้วยความขุ่นเคือง หวังว่าเขาจะช่วยอะไรได้บ้างและกล่าวบางคำสนับสนุนนางต่อหน้าฮ่องเต้เสนาบดีมู่ยิ้มพลางมองนาง "แค่นี้ก็ถึงกับโกรธเลยหรือ?"ซ่งซีซีตอบ "มิกล้าโกรธเจ้าค่ะ แต่เรื่องนี้ชะลอความคืบหน้า และข้ากลัวว่าจะทำให้ผู้ต้องสงสัยตื่นตัว จนถูกชิงโอกาสไป ฝ่าบาทไม่ไว้ใจข้าเลย"เสนาบดีมู่ย้อนถาม "เขาไม่เชื่อเจ้าอย่างสมบูรณ์ก็เป็นเรื่องปกติ ต่อให้เป็นเจ้า หากคนใต้บัญชาไม่ได้ยกหลักฐานมาสนับสนุนคำพูด เจ้าจะเชื่อพวกเขาโดยไม่ตรวจสอบหรือ?"ซ่งซีซีกล่าว "แต่เขาไม่มีหลักฐานว่าท่านอ๋องมีความทะเยอทะยานใดๆ แต่เขาก็ยังระแวงทุกทางมิใช่หรือ?""ก็เพราะไม่มีหลักฐาน เขาจึงระแวง หากมีหลักฐาน เขาคงลงมือไปนานแล้ว" เสนาบดีมู่ถอนหายใจเบาๆ "ความจริงแล้ว หลายเรื่องไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เจ้าคิด โดยเฉพาะการตัดสินใจสำคัญในราชสำนัก ต้องผ่านการหารือและอภิปรายหลายครั้ง บางเรื่องใช้เวลาเป็นปีจึงจะเดินหน้าได้ อีก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1336

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โครงการก่อสร้างแม่น้ำได้เกณฑ์แรงงานจากในและรอบๆ เมืองหลวง โดยเป็นกลุ่มคนงานและแรงงานหนักกลุ่มเดียวกันหน่วยงานด้านแม่น้ำทั้งหมดอยู่ภายใต้การนำของจินชางหมิง เขาใช้ข้ออ้างเรื่องการซ่อมแซมแม่น้ำและโครงการระบายน้ำเข้ายึดครองภูเขาและที่ดินจำนวนไม่น้อยบ้านเรือนถูกสร้างขึ้นอย่างกระจัดกระจายในพื้นที่เหล่านี้ โดยไม่ได้จัดเป็นชุมชนที่มีขนาดใหญ่ คนงานแม่น้ำและแรงงานบางส่วนอาศัยอยู่ในบริเวณนี้เส้นทางแม่น้ำที่พวกเขาครอบครองกระจัดกระจายไปในทุกทิศ เมื่ออาจารย์หยูทำเครื่องหมายและเชื่อมจุดบนแผนที่ พบว่าพื้นที่เหล่านี้โอบล้อมพระราชวังหลวงไว้เหมือนตาข่ายที่กางปิดหากพวกเขาเป็นทหารลับของนกต่อ การเฝ้าประตูเมืองจะไร้ประโยชน์ เพราะพวกเขาอยู่ในเมืองหลวงมาตลอด และเมื่อไม่มีงานทำ พวกเขาก็สำรวจภูมิประเทศจนคุ้นเคย แม้แต่ค่ายลาดตระเวนหรือทหารรักษาการณ์อาจยังไม่รู้จักเส้นทางในเมืองหลวงดีเท่าพวกเขาซ่งซีซีมองดูแผนที่ด้วยความตระหนก แต่ก็ยังตั้งคำถามว่า "พวกเขาได้รับที่ดินเหล่านี้ ต้องได้รับการอนุมัติจากกรมโยธาธิการและฝ่าบาทใช่หรือไม่?""ถูกต้อง แต่ถ้าใช้เพื่อการซ่อมแซมแม่น้ำและระบายน้ำ ก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1335

    กล่องผ้าไหมสีแดงเข้มชิ้นนั้นเต็มไปด้วยฝุ่น ว่านกงกงเป่าฝุ่นออกก่อนจะใช้แขนเสื้อเช็ด แล้วเปิดกลไกอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหยิบหยกชิ้นหนึ่งออกมาเขาส่งสัญญาณให้มอบหยกชิ้นนั้นแก่เสนาบดีมู่เสนาบดีมู่รับมาด้วยความสงสัย เมื่อมองดู เห็นว่าหยกทรงวงแหวนชิ้นนี้แกะสลักลวดลายมังกร ชัดเจนว่าเป็นของจักรพรรดิ์องค์ก่อน"ท่านเสนาบดีลองดูด้านหลัง" ว่านกงกงกล่าวเมื่อเสนาบดีมู่พลิกดูด้านหลัง เขาถึงกับตะลึงจนเหมือนร่างแข็งทื่อด้านหลังยังคงมีลวดลายมังกร แต่ลวดลายนี้ห่อหุ้มใบเมเปิลหนึ่งใบ และข้างใบเมเปิลนั้นยังมีอักษร "สือ" เล็กๆ แกะสลักไว้ใบเมเปิลและตัวอักษรแบ่งพื้นที่คนละด้าน ใบหนึ่งใหญ่ ใบหนึ่งเล็กซ่งซีซีก็เห็นเช่นกัน แต่ไม่เข้าใจความหมายเสนาบดีมู่ถอนหายใจและอธิบายเบาๆ "สือจิ้ง เป็นนามอักษรของจักรพรรดิ์องค์ก่อน ส่วนชิวเหมิงเคยเดินทางในยุทธภพช่วงหนึ่ง และได้รับสมญานามว่า 'คุณชายเหล็กแห่งใบเมเปิล'""หยกชิ้นนี้จักรพรรดิ์องค์ก่อนประทานให้แม่ทัพชิว ด้านหลังเดิมมีเพียงลวดลายมังกร แต่ใบเมเปิลและอักษร 'สือ' นั้น แม่ทัพชิวแกะสลักเพิ่มเอง หยกนี้เขาพกติดตัวตลอด ใส่ไว้ในถุงผ้าไหม แต่ไม่รู้อย่างไรถูกจักรพรรดิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1334

    อย่างไรเสีย หัวข้อสนทนานี้เป็นเรื่องที่พูดยาก เสนาบดีมู่จึงดื่มชาสองสามอึกก่อนจะกล่าวว่า "ความจริงเรื่องนี้ข้าเองก็ไม่แน่ใจ ในตอนนั้นมีการประกาศว่าชิวเหมิงกระทำการหมิ่นพระเกียรติ จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงกริ้วและปลดเขาออกจากตำแหน่ง ก่อนจะพระราชทานยศเจวี๋ยให้แทน มีข่าวลือเล็กๆ น้อยๆ หลุดออกมาจากในวังว่าเขาและอาจารย์ฉีมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือบางอย่าง เมื่อจักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงทราบ ก็ไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้ ด้วยความโกรธจึงตรัสคำดูหมิ่นเขาอย่างรุนแรง รวมถึงการลดตำแหน่ง ทำให้ชิวเหมิงรู้สึกหมดกำลังใจจนตัดสินใจออกจากเมืองหลวงไป"สำหรับเหตุผลนี้ ซ่งซีซีเคยคาดเดาไว้บ้าง แต่คิดว่าในฐานะคนที่ทำงานใกล้ชิดราชวงศ์ ไม่น่าจะกล้าแสดงความคิดหรือความรู้สึกเช่นนั้นออกมา อีกทั้งนางก็รู้จักอุปนิสัยของจักรพรรดิ์องค์ก่อนดี จึงยิ่งไม่น่าจะไม่ระมัดระวังตัวและหากการลดตำแหน่งเกิดจากเรื่องนี้ ก็ดูเหมือนจะเป็นการทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่แต่จากที่ได้ฟัง บางทีชิวเหมิงอาจมองจักรพรรดิ์องค์ก่อนเป็นเพื่อนจริงๆ จึงไม่ได้ปิดบังตัวเองมากนัก หรืออาจเพราะเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงไม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1333

    อาจารย์ฉีมอบหมายให้ซ่งซีซีตามหาบุคคลหนึ่งชื่อชิวเหมิงบรรพบุรุษของตระกูลชิวเคยร่วมรบสร้างแคว้นกับจักรพรรดิ์ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นขุนนางตลอดกาลในฐานติ้งปังโหว แต่ต่อมาชิวเหมิงกลับล่วงเกินจักรพรรดิ์องค์ก่อน และถูกลดตำแหน่งลงเป็นผิงอันป๋อเขาจึงย้ายออกจากเมืองหลวงไปปลีกวิเวกที่แถบเจียงหนาน และดูเหมือนว่าคนในเมืองหลวงที่จำเขาได้คงเหลือน้อยเต็มที"เขาไม่เคยแต่งงานเลยตลอดชีวิต และห้างชิวเจียก็เป็นของเขา"ซ่งซีซีประหลาดใจ "เขาคือเจ้าของเบื้องหลังของห้างชิวเจียอย่างนั้นหรือ?"ห้างชิวเจียในแถบเจียงหนานถือเป็นกิจการใหญ่โต แม้ทรัพย์สินจะไม่เทียบเท่าตระกูลเสิ่น แต่ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมและมีเครือข่ายความสัมพันธ์กว้างขวางในแคว้นซางมีคนแซ่ชิวอยู่ไม่น้อย ประกอบกับชิวเหมิงที่ซ่อนตัวและไม่พบปะใครเลย ทำให้ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะเป็นเจ้าของห้างชิวเจียแต่ห้างชิวเจียมีอายุเกินร้อยปี เป็นป้ายเก่าแก่ ก่อนที่ชิวเหมิงจะออกจากเมืองหลวง ก็ไม่เคยมีข่าวว่าครอบครัวเขาทำธุรกิจหงเซียวรีบอธิบาย "เดิมทีห้างชิวเจียไม่ได้เป็นของชิวเหมิง แต่ภายหลังเมื่อเขาไปถึงเจียงหนาน ห้างชิวเจียประส

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1332

    ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับจินชางหมิงถูกส่งมาถึงมืออาจารย์หยูจินชางหมิง เป็นชาวเยี่ยนโจว อายุ 47 ปี สอบได้ตำแหน่งซิ่วไฉตอนอายุ 13 ปี และจวี่เหรินตอนอายุ 18 ปี ในตอนนั้นเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะในเยี่ยนโจวแต่หลังสอบจวี่เหรินได้ เขาถูกชะลอไม่ให้เดินทางไปสอบในเมืองหลวงเพราะมารดาป่วย เขาจึงหางานทำในสำนักอำเภอที่เยี่ยนโจว และได้ตำแหน่งเลขานุการเส้นทางการเลื่อนตำแหน่งของเขาไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งเยี่ยนโจวและกรมโยธาธิการต่างให้คะแนนว่าเขาเป็นคนมีวิสัยทัศน์และลงมือทำจริงในการประเมินผลสามปีครั้งของกรมการปกครอง เขาได้คะแนนดีเยี่ยมว่ากันว่าการเป็นหัวหน้ากรมแม่น้ำเพียงอย่างเดียวเป็นการฝังพรสวรรค์ของเขา บ้างก็ว่าเขาไม่มีสายสัมพันธ์ที่ดี มิฉะนั้นเขาคงได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปเป็นรองเสนาบดีกรมโยธาธิการแล้วแคว้นต้าซางมีข้าราชการแบบเขาอยู่มากมาย ตำแหน่งไม่สูงนัก แต่ทำงานทุกอย่างราบรื่น ไม่มีความทะเยอทะยานมาก และทำงานเงียบๆ อย่างมีประสิทธิภาพเขาไม่ได้โดดเด่น ไม่มีเรื่องให้พูดถึง มีภรรยาหลวงหนึ่งคน ภรรยาน้อยหนึ่งคน ลูกชายหนึ่งคน ลูกสาวหนึ่งคน และคนรับใช้สามคน บ้านที่เขาอยู่เดิมเป็นบ้านเช่า เพิ

DMCA.com Protection Status