Share

บทที่ 116

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update Last Updated: 2024-04-30 18:54:53
ในใจของยี่ฝางตื่นตระหนกอย่างมาก เมื่อลูกพี่ลูกน้องถามจี้นาง นางก็รู้สึกร้อนตัวอย่างเห็นได้ชัด แต่นางก็รีบแก้ต่างว่า "ข้าคิดว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ข้าเป็นทหารเมืองซีจิง ข้าไม่เห็นว่าเป็นเสี่ยวจูจือเลย"

ยี่เทียนหมิงพูดด้วยความโกรธ "เจ้าเล่ห์ ทหารศัตรูจะอยู่เคียงข้างเจ้าได้ยังไง? หาข้อแก้ตัวก็ไม่หายสักข้อที่ให้ดูสมเหตุสมผลหน่อย"

ยี่ฝางระเบิดอารมณ์ออกมา "พอได้แล้ว ตอนนี้เราทุกคนต่างก็เป็นนักโทษของศัตรูแล้ว เราได้สังหารหมู่หมู่บ้านในเมืองลู่เปินเอ่อร์แล้ว พวกเขาจะไม่ปล่อยเราไปง่ายๆ หากมีเวลามาด่าว่าข้าสู้เอาเวลานี้ไปคิดหาทางออกจะดีกว่า"

ยี่เทียนหมิงกล่าวว่า"เจ้าเป็นคนออกคำสั่งให้สังหารหมู่หมู่บ้าน เจ้าบอกว่าหัวหน้าทหารคนนั้นซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักพลเรือน เจ้าบอกว่าทหารบางคนปลอมตัวเป็นสามัญชน ดังนั้นเลยสั่งให้ฆ่าให้หมดโดยไม่ต้องปรานี"

เมื่อรู้ว่าคนข้างนอกสามารถได้ยินเข้า ยี่ฝางจึงพูดเสียงดัง "ข้าแค่ให้คพวกเจ้าฆ่าคนไม่กี่คนเพื่อบีบบังคับหัวกน้าคนนั้นออกมา ไม่ได้ให้พวกเจ้าฆ่าทั้งหมด"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทหารที่ถูกจับกุมคนอื่นๆ ก็ประณามด้วยความโกรธว่า "เจ้าสั่งให้ฆ่าพวกเขาให้หมด และตัดหูพวกเขาออ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (1)
goodnovel comment avatar
43 รภีพร ประกอบทรัพย์
ทำไมจ่ายไปหลายร้อยแล้วไม่ได้อ่านจบเรื่องล่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 117

    แต่ไม่นานนัก ความหวังของยี่ฝางก็พังทลายลงอย่างสิ้นเชิงกองไฟถูกจุดไว้ด้านนอก ประตูไม้ถูกแตะออกด้วยกำลัง และร่างสูงร่างหนึ่งก็ค่อยๆ เดินเข้ามาด้วยความรู้สึกถูกกดขี่อย่างรุนแรงแม้จะหันหลังให้กับกองไฟข้างนอกแล้ว ยี่ฝางยังคงมองเห็นโครงร่างของเขาได้ชัดเจนและรู้ว่าเขาเป็นใครซูลันจี ผู้บังคับบัญชาของเมืองซีจิง ซึ่งนางเคยทำสัญญาสันติภาพกับเขาในเมืองลู่เปินเอ่อร์ยี่ฝางตัวสั่นอย่างรุนแรงพลางพิงกำแพง มองดูซูลันจีด้วยความหวาดกลัวเมื่อทำสัญญาสันติภาพที่ชายแดนเฉิงหลิง ชายผู้นี้ดูแข็งแกร่งและเป็นวีรบุรุษ ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงการกดดัน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ยังมีออร่าที่สง่างาม เรื่องการเจรจาสันติภาพและการทำสัญญากับเขาต่างดำเนินการอย่างราบรื่นและรวดเร็วบางข้อ นางเป็นคนเสนอสเอง เขาตอบตกลงโดยไม่ได้คิดอะไรเลย แต่มีเงื่อนไขเพียงเดียวก็คือหลังจากลงนามแล้ว ให้นางปล่อยคนโดยเร็วที่สุดตอนนั้นเขาช่างพูดง่ายจน ง่ายจนนางคิดว่านี่คือผลงานทางทหารที่พระเจ้ามอบให้นางแต่เวลานี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและความกระหายเลือด ความเยือกเย็นในดวงตาของเขา นางไม่เคยเห็นมาก่อน พร้อมกับความรู้สึกกดขี่ เหมือนก

    Last Updated : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 118

    ด้านนอกประตูไม้ มีเสียงร้องครวญครางดังขึ้นไม่หยุด ซึ่งทำให้ยี่ฝางตกใจจนแทบจะเป็นลมนางรู้ว่าพวกเขาได้รับการลงโทษแบบไหนกัน เพราะนางเคยใช้วิธีลงโทษนี้กับหัวหน้าทหาร... ไม่สิ องค์ชายของเมืองซีจิงการถูกตอน ตัดมันทั้งเป็น และดูมันกลิ้งไปบนพื้นเหมือนกับแมลงที่กำลังบิดตัวหากเขายอมส่งเสียงร้องครวญครางแค่เสียงเดียวก็ได้ คงไม่ถูกทรมานเขาต่อไป แต่เขายังกัดฟัน และปฏิเสธที่จะร้อง ดังนั้นทหารทั้งหมดจึงไปปัสสาวะตามบาดแผลและร่างกายของเขา จากนั้นก็ฟันร่างกายของเขาทีละครั้ง มองดูเลือดผสมกับปัสสาวะเมื่อก่อนตอนที่นางคิดถึงฉากนี้ ยี่ฝางก็รู้สึกสะใจแต่ตอนนี้พอนึกถึงฉากนั้น นางรู้แต่หวาดกลัวไปหมดซูลันจีหยิบกริชออกมา นางกรีดร้อ "อย่า อย่าเข้ามา"ซูลันจีโน้วตัวไปตัดเชือกที่อยู่รอบตัวของนาง เมื่อเห็นนางขดตัวกลมด้วยความกลัว ในใจโกรธถึงที่สุดแล้วรัชทายาทกลับถูกสัตว์ร้ายที่ขี้ขลาดอย่างนางทรมานเชือกถูกตัดออก และมือใหญ่ของเขาก็คว้าผมของนางไว้ ก่อนที่ลากนางออกไปความหนาวเย็นและความเจ็บปวดบนหนังศีรษะล้วนเข้ามาปกคลุมนาง นางน้ำตาคลอเบ้า เมื่อถูกลากออกไปนั้น ซูลันจีจับผมนางโดยทิ้งนางออกไปอย่างแรงมันเป็

    Last Updated : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 119

    และเมื่อนางคิดว่าพวกเขาจะทรมานนางต่อไป นางก็ถูกลากกลับไปที่บ้านไม้ และทุกคนก็ถูกลากกลับไปที่บ้านไม้กองไฟถูกจุดขึ้นในบ้านไม้ เนื่องจากมีลมพัดมาจากทุกทิศทุกทาง ความอบอุ่นเพียงเล็กน้อยที่พวกเขาได้รับมาได้แต่จากไฟถ่านนี้เท่านั้น ดังนั้นทุกคนต่างคลานไปทางไฟถ่านโดยหวังว่าจะขจัดความหนาวเย็นและความเจ็บปวดบนตัวออกกางเกงของยี่ฝางถูกถอดออกหมดแล้ว แต่ความเจ็บปวดที่ต้นขาของนางทำให้นางไม่สามารถขยับขาได้ เนื่องจากในห้องอบอุ่นขึ้นมาหน่อยแล้ว เลือดจึงยังคงไหลอย่างช้าๆ และมีกองเลือดอยู่ใต้ร่างกายของนางแต่ทุกคนต่างอยู่ในสภาพเจ็บมาก เลยไม่มีใครมองมาที่นาง มีเพียงเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดเท่านั้นที่ยังคงดังอยู่มีคนเข้ามา ป้อนยาให้นางชามหนึ่ง ยาที่ผสมกับกลิ่นปัสสาวะทำให้นางเกือบจะอาเจียนออกมาอีกครั้งนางไม่ได้อาเจียนเพราะกลัวว่าจะถูกฉี่อีก นางรู้สึกว่าเมื่อตกอยู่ในกำมือของซูลันจีแล้ว นางไม่มีทางรอดชีวิตได้ หากให้ยาพิษแก่นาง ก็เท่ากับให้นางตาย นางก็จะตายอย่างสบายๆ ก็ไดีหลังจากดื่มยาแล้ว องค์ชายสามคนนั้นก็เข้ามาใช้กำลังต่อยนาง ที่ใบหน้าและร่างกายมีบาดแผลไปทั่ว แต่เขาไม่ได้ใช้มีดมาฟันนาง นอกจากใบ

    Last Updated : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 120

    พวกซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือกำลังนั่งข้างๆ กองไฟเพื่อให้เพิ่มความอุ่นให้ร่างกาย และเม้มริมฝีปากที่แห้งแตก "มีหลักฐานใดที่ว่า นางอยู่ในกองทหารที่ล่าถอยของแคว้นซาหรือ""เปล่า แต่เมื่อสงครามเริ่มขึ้นนั้น นางก็ไล่ตามกลุ่มทหารของเมืองซีจิงไป จากนั้นก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย"เสิ่นว่านจือพูดอย่างเย็นชา "ถ้าอย่างนั้นก็ลองค้นหากองศพทั่วเมืองดูสิว่ามีนางหรือเปล่า""นางจะไม่ตาย" แววตาของจ้านเป่ยว่างฉายแววความโกรธ "เจ้าอย่าไปสาปแช่งนาง ต่างก็เป็นสมาชิกของกองทัพเป่ยหมิง เจ้าจะสาปแช่งสหายร่มกองของเจ้าได้อย่างไร"เสิ่นว่านจือพลิกฝ่ามือของนางแล้วพูดออกมาว่า "สงครมจบลงแล้ว ข้าไม่เป็นทหารอีกเลย อย่าพูดว่าข้ากับนางเป็นสหายร่มกองกัน นางไม่มีค่าพอ"จ้านเป่ยว่างโกรธมากจนไม่อยากพูดกับนาง เขามองไปที่ซ่งซีซี ก่อนพูดอย่างจริงจัง "เป็นข้าที่ทำผิดต่อเจ้า มันไม่เกี่ยวอะไรกับยี่ฝาง ถ้าทหารคนอื่นถูกจับ เจ้าจะไปช่วยชีวิตคนคนนั้นหรือไม่?"ซ่งซีซีถามกลับว่า "ถ้าเป็นทหารคนอื่นถูกจับ เจ้าจะปล่อยให้ทหารตั้งสองหมื่นคนเสี่ยงชีวิตเพื่อไล่ล่ากองทัพที่กำลังล่าถอยของศัตรูหรือไม่"จ้านเป่ยว่างพูดไม่ออกในทันที "นี่..."ซ่งซีซีกล

    Last Updated : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 121

    เมื่อจ้านเป่ยว่างได้ยินเช่นนี้ เขาก็โกรธจัด เขาคว้ามือของนาง แล้วเดินออกไปข้างๆ "ซ่งซีซี เจ้ารู้ว่านางถูกจับแต่ไม่ยอมไปช่วยเหลือนาง เจ้าหมายความว่าอย่างไร เจ้ารู้ใช่ไหมว่านางอยู่ที่ไหน"เสิ่นว่านจือเฆี่ยนแส้ออไปเพื่อบังคับให้จ้านเป่ยว่างปล่อยมือของซ่งซีซี จากนั้นเขาก็ถอยออกไปก้าวหนึ่งเสิ่นว่านจือเดินเจ้าไปหาพร้อมกับน้ำเสียงเย็นชา "หากมีอะไรจะพูด ก็ให้รักษาระยะห่างเอาไว้ด้วย อย่าใกล้ชิดซีซีของเรามากเกินไป"จ้านเป่ยว่างเกลียดชังเสิ่นว่านจือสุดๆ เลย แต่เนื่องจากทักษะการต่อสู้ที่เก่งของนาง และนางไม่ใช่ลูกน้องภายใต้บังตับบัญชาของเขา เลยจัดการได้ยาก เขาจึงต้องอดทนไว้ แล้วถามซ่งซีซีต่อไป "เจ้ารู้ว่านางอยู่ที่ไหนใช่ไหม?"ซ่งซีซีส่ายหัว "ข้าไม่รู้ นางอาจจะอยู่ในทะเลทราย บนทุ่งหญ้า หรือไม่ก็ซ่อนตัวอยู่ในภูเขา แต่ไม่ว่านางจะอยู่ที่ไหน เราจะปล่อยให้กองทัพซวนเจียทั้งหมดไปตามหานางคนเดียวไม่ได้ มันเสี่ยงเกินไป""แล้วเราจะรออะไรที่นี่ รอให้พวกเขาส่งคนกลับมาหรือ?" จ้านเป่ยว่างโกรธมากจนยืนตัวไม่นิ่งอีกเลยดวงตาของซ่งซีซียังคงสงบ "ใช่ รอให้พวกเขาส่งคนกลับมา"จ้านเป่ยว่างมองนางด้วยความประหลาดใจ "เ

    Last Updated : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 122

    ซ่งซีซีมองดูไฟค่อยๆ ตัดลง จากนั้นจึงเติมฟืนลงไปสองสามฟืน นางมองดูไฟกลืนกินฟืนแห้งอย่างรวดเร็ว ไฟได้รุนแรงขึ้น ภาพที่สะท้อนในดวงตาของนางคือ ภาพที่นางกลับมาบ้านท่านพ่อแม่ของนางจากจวนแม่ทัพ และมองเห็นศพเต็มบ้าน มีเลือดเต็มพื้นความเจ็บปวดอันหนักหน่วงจากใจปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทำให้นางหายใจลำบากด้วยนางจะไม่อยากให้ยี่ฝางตายได้ยังไง? แต่การปล่อยให้นางตาย อาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในแก้แค้นนางคิดเช่นนั้น ซูลันจีก็คงคิดเช่นนั้นเช่นกันดังนั้น นางคิดว่าซูลันจีจะไม่ฆ่ายี่ฝาง ที่ผู้บังคับบัญชาให้นางนำกองทัพมารออยู่ที่นี่ อาจเพราะซูลันจีได้ส่งคนไปส่งข่าวให้ผู้บังคับบัญชาแล้วผู้บังคับบัญชาเคยบอกว่า ที่เมืองอีลี่มีสายลับของตัวเอง ดังนั้นก็คงมีสายลับที่ซีม่อนเช่นกันปล่อยให้พวกเขารออยู่ที่นี่เป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และยังเป็นความต้องการของซูลันจีด้วยพอตกดึก ทุกคนต่างก็ทั้งเหนื่อย ง่วงนอน และหิวโหด มันไม่ได้หนาวเพราะมีเชื้อฟืนมากพอที่จะให้กองไฟมีไฟอยู่คนจากทางด้านหลังส่งอาหารมาให้ แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ข้าวผัด แต่ก็สามารถให้ทหารอิ่มท้องได้ในสนามรบ ไม่สนว่ามันคืออาหารอะไร กินได้หมดแหละแม่ทัพ

    Last Updated : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 123

    จ้านเป่ยว่างมองนางอย่างอึ้งๆ เขาไม่ทันพูดอะไรอีก ก็ถูกนางพูดตัดหน้าไปก่อนใช่สิ นางเป็นรองผู้บัญชาการของกองทัพซวนเจีย และเป็นแม่ทัพชั้นห้าในราชสำนัก คำพูดที่นางพูดอย่างเบาๆ นั้นกลับเต็มไปด้วยพลังงานคนที่เขานำมาไม่เยอะเท่าไร เลยหวังว่ากองทัพซวนเจียจะไปกับเขาด้วยผู้คนของเขาเหนื่อยล้ามากแล้ว แต่กองทัพซวนเจียก็พักอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน เขาคิดว่าหากพวกเขาเผชิญหน้ากับกองทัพเมืองซีจิงหรือชนเผ่าเร่ร่อน กองทัพซวนเจียก็สามารถต่อสู้ได้เขากระซิบว่า "ข้าต้องการนำกองทัพซวนเจียไปด้วย ถือว่าข้าขอร้องเจ้า ซีซี เมื่อก่อนเป็นข้าที่ทำผิดกับเจ้า เจ้าสามารถลงโทษข้าได้ตามที่เจ้าต้องการ แต่เรารอมาเกือบสองวันแล้ว ยี่ฝางรอไม่ได้แล้ว ข้ารู้ว่าเจ้าเกลียดนาง เมื่อตามหานางเจอ เราสองคนยอมมาขาโทษต่อหน้าเจ้า"ใบหน้าที่ซูบผอมของซ่งซีซีเผยสีหน้าเย็นชา "มันไม่เกี่ยวอะไรกับความแค้นส่วนตัว กองทัพซวนเจียไม่สามารถไปต่อได้อีกแล้ว"จ้านเป่ยว่างกำมัดแน่นแล้วพูดว่า "ซ่งซีซี ข้าก้มหน้ามาขอร้องเจ้าแล้ว เจ้ายังต้องการอะไรอีก"เสิ่นว่านจือเยาะเย้ย "เจ้าก้มหน้าให้แล้วแล้วไงเล่า ท่าทางที่เจ้าขอร้องคนอื่นนี่ดูจริงใจจริงๆ สินะ

    Last Updated : 2024-04-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 124

    สีหน้าของจ้านเป่ยว่างเปลี่ยนไปทันที "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าพวกเขาอยู่บนภูเขา? พวกเขาต้องการคำอธิบายอะไรกัน"ซ่งซีซีเดินออกไปสองสามก้าว จ้านเป่ยว่างเดินตามนางไปอย่างง่อยๆ เมื่อซ่งซีซียืนนิ่ง เขาก็มองดูนางอย่างเงียบๆลมพัดเสียงดัง และเสียงของซ่งซีซีก็เบามาก "ถ้าเจ้าสงบสติอารมณ์แล้วค่อยตั้งใจฟังดู เจ้าจะได้ยินเสียงอื่นที่ไม่ใช่เสียงลม"จ้านเป่ยว่างสงบลงเพื่อตั้งใจฟัง แต่เขาไม่ได้ยินอะไรเลยนอกจากเสียงลมทักษะการต่อสู้ของเขาสู้ซ่งซีซีไม่ได้ และความแข็งแกร่งภายในกำลังยิ่งต้อยกว่า จะได้ยินการเคลื่อนไหวบนภูเขาได้อย่างไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าลมพัดแรงเช่นนี้ ต้องฟังเสียงหายใจของคนเกือบแสนคนด้วยเขารู้สึกว่าซ่งซีซีกำลังเล่นฝีมืออะไรอยู่ เขาอดไม่ได้ที่จะโกรธ "บอกข้าสิ พวกเขาต้องการคำอธิบายอะไร""ใช้สมองของเจ้าไปคิดดูสิ ทำไมผู้คนตั้งหนึ่งแสนคนอยู่บนภูเขาไม่ยอมล่าถอย ทำไมพวกเขาถึงต้องจับยี่ฝาง แล้วทำไมพวกเขาถึงไปสนามรบเขตหนานเจียงหลังจากทำสัญญาสันติภาพแล้วล่ะ"หลังจากซ่งซีซีพูดจบ นางก็เดินกลับโดยปล่อยให้จ้านเป่ยว่างยืนอยู่ที่นั่นตามลำพังด้วยใบหน้าซีดเซียวพระอาทิตย์อัสดงสะท้อนใบหน้าที่มืดมนและห

    Last Updated : 2024-04-30

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1340

    ซ่งซีซีนั่งกลับลงบนเก้าอี้ กล่าวว่า “เรื่องที่พวกเจ้าทุจริตนั้น ฝ่าบาททรงทราบดีแล้ว ตอนนี้ที่ทรงให้ข้าสอบสวนเป็นการส่วนตัว ก็เพื่อมอบโอกาสให้พวกเจ้า หากพูดความจริง หัวของเจ้าจะยังปลอดภัย หากให้ข้อมูลที่มีค่าเพิ่มเติม อย่างมากก็แค่ถูกเนรเทศไปทำงานนอกเมือง ยังสามารถโลดแล่นในวงราชการได้”เกาหมิงอวี้ที่มีประสบการณ์ในราชสำนักมานานย่อมรู้ดีว่าให้ข้อมูลที่มีค่ามากขึ้น หมายถึงการขายเจ้านายและผู้ใต้บังคับบัญชาเขาไม่มีข้อสงสัยในคำพูดของซ่งซีซีด้วยสองเหตุผล หนึ่งคือ ช่วงนี้อู๋เยว่และคนของเขาตรวจสอบทางน้ำอยู่เสมอ สองคือ ซ่งซีซีออกหน้ามาสอบสวนด้วยตัวเอง หากไม่มีพระราชโองการจากฝ่าบาท นางไม่จำเป็นต้องลงมือเอง จะส่งใครมาทรมานเขาก็ได้แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าซ่งซีซีวิเคราะห์เขาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และคาดการณ์ความคิดของเขาไปก่อนแล้ว“พวกเจ้าทุจริตทั้งระบบ ท่าทีของจินชางหมิงเป็นอย่างไร?”เกาหมิงอวี้ครุ่นคิดก่อนตอบว่า “จะว่าไปจริงๆ แล้ว เขาเป็นคนเริ่มเปิดทางให้เราทุจริต โดยอ้างว่าเป็นค่าเหนื่อยของเรา เมื่อเริ่มต้นแล้ว เราลองเบิกเงินเกินมาเล็กน้อย เขาก็ไม่ว่าอะไร จากนั้นเรากล้าขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาเขาเตือนเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1339

    หลังจากเฝ้าสังเกตอยู่สองวัน ซ่งซีซีตัดสินใจลงมือกับเกาหมิงอวี้ รองหัวหน้ากรมจัดการแม่น้ำเกาหมิงอวี้อายุสามสิบห้าปี รับราชการในกรมโยธามาแล้วห้าปี เขามีพื้นเพมาจากครอบครัวชาวไร่ชาวนา เมื่อยังเยาว์วัยพ่อแม่เสียชีวิต เพื่อให้เขาได้เรียนในสำนักที่ดีที่สุด เขาดูดทรัพย์สมบัติของพี่น้องจนหมดสิ้นหลังสอบจอหงวนได้ เขาเข้ารับราชการ และกลายเป็นคนโลภเงินอย่างที่สุด ขี้เหนียวอย่างยิ่งยวด ทอดทิ้งพี่น้องที่เคยเลี้ยงดูเขาไปเหมือนของไร้ค่า และไม่ติดต่อพวกเขาอีกเลยยังไม่หมดแค่นั้น เขาอ้างความหึงหวงเป็นเหตุผลในการหย่ากับภรรยาคนแรก แล้วแต่งงานกับบุตรสาวของอาจารย์ผู้มีพระคุณอาจารย์ผู้มีพระคุณของเขาคืออธิการสำนักไป๋หยุน ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว ลูกสาวคนเดียวของอาจารย์แต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างดีเขาคือคนไร้ค่าและทรยศทว่าคนไร้ค่าเช่นนี้กลับใช้งานได้ดี เพราะความโลภ โกรธ หลง และความเห็นแก่ตัวของเขา มีจุดอ่อนที่สามารถกดดันจนยอมพูดทุกอย่างคืนนั้น ซ่งซีซีสั่งให้กุ้นเอ๋อร์จับตัวเขามายังเรือนทางตะวันตกของเมือง ขังเขาไว้หนึ่งคืน ให้เขาหวาดกลัวและหิวโหย จากนั้นค่อยสอบสวนในวันถัดไปเกาห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1338

    จักรพรรดิซูชิงมีราชโองการให้อู๋เยว่พาคนไปควบคุมงานโดยตรง ทว่า จินชางหมิงรับมือได้อย่างคล่องแคล่ว พาอู๋เยว่ไปตรวจสอบผลสำเร็จด้วยตนเองหลังจากเริ่มงานมาเป็นเวลานาน อ่างเก็บน้ำก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์คุณภาพของอ่างเก็บน้ำนั้นยอดเยี่ยม เขื่อนที่สร้างขึ้นมั่นคงดั่งกำแพงทองหลังจากตรวจสอบอ่างเก็บน้ำแล้ว ก็ไปตรวจสอบทางน้ำ ทุกพื้นที่ได้ขุดลอกเสร็จเรียบร้อย ส่วนเขื่อนที่เสียหายก่อนหน้านี้ก็ได้รับการซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงแล้วอู๋เยว่ยังส่งคนไปพูดคุยกับคนงานก่อสร้างทางน้ำ ชายฉกรรจ์แต่ละคนที่ผิวคล้ำแดด ดูซื่อๆ ขัดเขินเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าขุนนางส่วนใหญ่ถามอะไรก็ตอบสิ่งนั้น หากให้พวกเขาบอกความไม่พอใจอะไร พวกเขามักลังเลครู่หนึ่งก่อนที่จะถามว่าอาหารสามารถปรับปรุงได้ไหม โดยเฉพาะเพิ่มหมูติดมันให้หน่อยอู๋เยว่คิดว่าคนเหล่านี้เป็นคนเรียบง่าย ไม่มีปัญหาอะไร และไม่มีความเคียดแค้นในแววตาเขายังพาคนไปดูที่พักชั่วคราวของคนงานก่อสร้างเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกระท่อมไม้และกระท่อมหญ้าแฝก ภายในมีเพียงที่นอนใหญ่ที่รองรับคนได้เจ็ดแปดคน ดูรกเล็กน้อยในกระท่อมไม่มีอาวุธ เครื่องมือที่ต้องใช้ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1337

    ซ่งซีซีแทบจะหัวเสียจนอกแตกตาย นางรู้สึกว่าเส้นผมสีขาวกำลังจะงอกออกมาบนหน้าผาก ไม่แปลกใจเลยที่ขุนนางในราชสำนักแต่ละคนดูแก่ก่อนวัย หรือแม้แต่เสนาบดีมู่ที่อายุเพียงหกสิบกว่า ผมก็หงอกไปกว่าครึ่งนางไปหาเสนาบดีมู่ด้วยความขุ่นเคือง หวังว่าเขาจะช่วยอะไรได้บ้างและกล่าวบางคำสนับสนุนนางต่อหน้าฮ่องเต้เสนาบดีมู่ยิ้มพลางมองนาง "แค่นี้ก็ถึงกับโกรธเลยหรือ?"ซ่งซีซีตอบ "มิกล้าโกรธเจ้าค่ะ แต่เรื่องนี้ชะลอความคืบหน้า และข้ากลัวว่าจะทำให้ผู้ต้องสงสัยตื่นตัว จนถูกชิงโอกาสไป ฝ่าบาทไม่ไว้ใจข้าเลย"เสนาบดีมู่ย้อนถาม "เขาไม่เชื่อเจ้าอย่างสมบูรณ์ก็เป็นเรื่องปกติ ต่อให้เป็นเจ้า หากคนใต้บัญชาไม่ได้ยกหลักฐานมาสนับสนุนคำพูด เจ้าจะเชื่อพวกเขาโดยไม่ตรวจสอบหรือ?"ซ่งซีซีกล่าว "แต่เขาไม่มีหลักฐานว่าท่านอ๋องมีความทะเยอทะยานใดๆ แต่เขาก็ยังระแวงทุกทางมิใช่หรือ?""ก็เพราะไม่มีหลักฐาน เขาจึงระแวง หากมีหลักฐาน เขาคงลงมือไปนานแล้ว" เสนาบดีมู่ถอนหายใจเบาๆ "ความจริงแล้ว หลายเรื่องไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เจ้าคิด โดยเฉพาะการตัดสินใจสำคัญในราชสำนัก ต้องผ่านการหารือและอภิปรายหลายครั้ง บางเรื่องใช้เวลาเป็นปีจึงจะเดินหน้าได้ อีก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1336

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โครงการก่อสร้างแม่น้ำได้เกณฑ์แรงงานจากในและรอบๆ เมืองหลวง โดยเป็นกลุ่มคนงานและแรงงานหนักกลุ่มเดียวกันหน่วยงานด้านแม่น้ำทั้งหมดอยู่ภายใต้การนำของจินชางหมิง เขาใช้ข้ออ้างเรื่องการซ่อมแซมแม่น้ำและโครงการระบายน้ำเข้ายึดครองภูเขาและที่ดินจำนวนไม่น้อยบ้านเรือนถูกสร้างขึ้นอย่างกระจัดกระจายในพื้นที่เหล่านี้ โดยไม่ได้จัดเป็นชุมชนที่มีขนาดใหญ่ คนงานแม่น้ำและแรงงานบางส่วนอาศัยอยู่ในบริเวณนี้เส้นทางแม่น้ำที่พวกเขาครอบครองกระจัดกระจายไปในทุกทิศ เมื่ออาจารย์หยูทำเครื่องหมายและเชื่อมจุดบนแผนที่ พบว่าพื้นที่เหล่านี้โอบล้อมพระราชวังหลวงไว้เหมือนตาข่ายที่กางปิดหากพวกเขาเป็นทหารลับของนกต่อ การเฝ้าประตูเมืองจะไร้ประโยชน์ เพราะพวกเขาอยู่ในเมืองหลวงมาตลอด และเมื่อไม่มีงานทำ พวกเขาก็สำรวจภูมิประเทศจนคุ้นเคย แม้แต่ค่ายลาดตระเวนหรือทหารรักษาการณ์อาจยังไม่รู้จักเส้นทางในเมืองหลวงดีเท่าพวกเขาซ่งซีซีมองดูแผนที่ด้วยความตระหนก แต่ก็ยังตั้งคำถามว่า "พวกเขาได้รับที่ดินเหล่านี้ ต้องได้รับการอนุมัติจากกรมโยธาธิการและฝ่าบาทใช่หรือไม่?""ถูกต้อง แต่ถ้าใช้เพื่อการซ่อมแซมแม่น้ำและระบายน้ำ ก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1335

    กล่องผ้าไหมสีแดงเข้มชิ้นนั้นเต็มไปด้วยฝุ่น ว่านกงกงเป่าฝุ่นออกก่อนจะใช้แขนเสื้อเช็ด แล้วเปิดกลไกอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหยิบหยกชิ้นหนึ่งออกมาเขาส่งสัญญาณให้มอบหยกชิ้นนั้นแก่เสนาบดีมู่เสนาบดีมู่รับมาด้วยความสงสัย เมื่อมองดู เห็นว่าหยกทรงวงแหวนชิ้นนี้แกะสลักลวดลายมังกร ชัดเจนว่าเป็นของจักรพรรดิ์องค์ก่อน"ท่านเสนาบดีลองดูด้านหลัง" ว่านกงกงกล่าวเมื่อเสนาบดีมู่พลิกดูด้านหลัง เขาถึงกับตะลึงจนเหมือนร่างแข็งทื่อด้านหลังยังคงมีลวดลายมังกร แต่ลวดลายนี้ห่อหุ้มใบเมเปิลหนึ่งใบ และข้างใบเมเปิลนั้นยังมีอักษร "สือ" เล็กๆ แกะสลักไว้ใบเมเปิลและตัวอักษรแบ่งพื้นที่คนละด้าน ใบหนึ่งใหญ่ ใบหนึ่งเล็กซ่งซีซีก็เห็นเช่นกัน แต่ไม่เข้าใจความหมายเสนาบดีมู่ถอนหายใจและอธิบายเบาๆ "สือจิ้ง เป็นนามอักษรของจักรพรรดิ์องค์ก่อน ส่วนชิวเหมิงเคยเดินทางในยุทธภพช่วงหนึ่ง และได้รับสมญานามว่า 'คุณชายเหล็กแห่งใบเมเปิล'""หยกชิ้นนี้จักรพรรดิ์องค์ก่อนประทานให้แม่ทัพชิว ด้านหลังเดิมมีเพียงลวดลายมังกร แต่ใบเมเปิลและอักษร 'สือ' นั้น แม่ทัพชิวแกะสลักเพิ่มเอง หยกนี้เขาพกติดตัวตลอด ใส่ไว้ในถุงผ้าไหม แต่ไม่รู้อย่างไรถูกจักรพรรดิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1334

    อย่างไรเสีย หัวข้อสนทนานี้เป็นเรื่องที่พูดยาก เสนาบดีมู่จึงดื่มชาสองสามอึกก่อนจะกล่าวว่า "ความจริงเรื่องนี้ข้าเองก็ไม่แน่ใจ ในตอนนั้นมีการประกาศว่าชิวเหมิงกระทำการหมิ่นพระเกียรติ จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงกริ้วและปลดเขาออกจากตำแหน่ง ก่อนจะพระราชทานยศเจวี๋ยให้แทน มีข่าวลือเล็กๆ น้อยๆ หลุดออกมาจากในวังว่าเขาและอาจารย์ฉีมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือบางอย่าง เมื่อจักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงทราบ ก็ไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้ ด้วยความโกรธจึงตรัสคำดูหมิ่นเขาอย่างรุนแรง รวมถึงการลดตำแหน่ง ทำให้ชิวเหมิงรู้สึกหมดกำลังใจจนตัดสินใจออกจากเมืองหลวงไป"สำหรับเหตุผลนี้ ซ่งซีซีเคยคาดเดาไว้บ้าง แต่คิดว่าในฐานะคนที่ทำงานใกล้ชิดราชวงศ์ ไม่น่าจะกล้าแสดงความคิดหรือความรู้สึกเช่นนั้นออกมา อีกทั้งนางก็รู้จักอุปนิสัยของจักรพรรดิ์องค์ก่อนดี จึงยิ่งไม่น่าจะไม่ระมัดระวังตัวและหากการลดตำแหน่งเกิดจากเรื่องนี้ ก็ดูเหมือนจะเป็นการทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่แต่จากที่ได้ฟัง บางทีชิวเหมิงอาจมองจักรพรรดิ์องค์ก่อนเป็นเพื่อนจริงๆ จึงไม่ได้ปิดบังตัวเองมากนัก หรืออาจเพราะเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงไม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1333

    อาจารย์ฉีมอบหมายให้ซ่งซีซีตามหาบุคคลหนึ่งชื่อชิวเหมิงบรรพบุรุษของตระกูลชิวเคยร่วมรบสร้างแคว้นกับจักรพรรดิ์ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นขุนนางตลอดกาลในฐานติ้งปังโหว แต่ต่อมาชิวเหมิงกลับล่วงเกินจักรพรรดิ์องค์ก่อน และถูกลดตำแหน่งลงเป็นผิงอันป๋อเขาจึงย้ายออกจากเมืองหลวงไปปลีกวิเวกที่แถบเจียงหนาน และดูเหมือนว่าคนในเมืองหลวงที่จำเขาได้คงเหลือน้อยเต็มที"เขาไม่เคยแต่งงานเลยตลอดชีวิต และห้างชิวเจียก็เป็นของเขา"ซ่งซีซีประหลาดใจ "เขาคือเจ้าของเบื้องหลังของห้างชิวเจียอย่างนั้นหรือ?"ห้างชิวเจียในแถบเจียงหนานถือเป็นกิจการใหญ่โต แม้ทรัพย์สินจะไม่เทียบเท่าตระกูลเสิ่น แต่ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมและมีเครือข่ายความสัมพันธ์กว้างขวางในแคว้นซางมีคนแซ่ชิวอยู่ไม่น้อย ประกอบกับชิวเหมิงที่ซ่อนตัวและไม่พบปะใครเลย ทำให้ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะเป็นเจ้าของห้างชิวเจียแต่ห้างชิวเจียมีอายุเกินร้อยปี เป็นป้ายเก่าแก่ ก่อนที่ชิวเหมิงจะออกจากเมืองหลวง ก็ไม่เคยมีข่าวว่าครอบครัวเขาทำธุรกิจหงเซียวรีบอธิบาย "เดิมทีห้างชิวเจียไม่ได้เป็นของชิวเหมิง แต่ภายหลังเมื่อเขาไปถึงเจียงหนาน ห้างชิวเจียประส

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1332

    ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับจินชางหมิงถูกส่งมาถึงมืออาจารย์หยูจินชางหมิง เป็นชาวเยี่ยนโจว อายุ 47 ปี สอบได้ตำแหน่งซิ่วไฉตอนอายุ 13 ปี และจวี่เหรินตอนอายุ 18 ปี ในตอนนั้นเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะในเยี่ยนโจวแต่หลังสอบจวี่เหรินได้ เขาถูกชะลอไม่ให้เดินทางไปสอบในเมืองหลวงเพราะมารดาป่วย เขาจึงหางานทำในสำนักอำเภอที่เยี่ยนโจว และได้ตำแหน่งเลขานุการเส้นทางการเลื่อนตำแหน่งของเขาไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งเยี่ยนโจวและกรมโยธาธิการต่างให้คะแนนว่าเขาเป็นคนมีวิสัยทัศน์และลงมือทำจริงในการประเมินผลสามปีครั้งของกรมการปกครอง เขาได้คะแนนดีเยี่ยมว่ากันว่าการเป็นหัวหน้ากรมแม่น้ำเพียงอย่างเดียวเป็นการฝังพรสวรรค์ของเขา บ้างก็ว่าเขาไม่มีสายสัมพันธ์ที่ดี มิฉะนั้นเขาคงได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปเป็นรองเสนาบดีกรมโยธาธิการแล้วแคว้นต้าซางมีข้าราชการแบบเขาอยู่มากมาย ตำแหน่งไม่สูงนัก แต่ทำงานทุกอย่างราบรื่น ไม่มีความทะเยอทะยานมาก และทำงานเงียบๆ อย่างมีประสิทธิภาพเขาไม่ได้โดดเด่น ไม่มีเรื่องให้พูดถึง มีภรรยาหลวงหนึ่งคน ภรรยาน้อยหนึ่งคน ลูกชายหนึ่งคน ลูกสาวหนึ่งคน และคนรับใช้สามคน บ้านที่เขาอยู่เดิมเป็นบ้านเช่า เพิ

DMCA.com Protection Status