Share

บทที่ 1004

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ซ่งซีซียอมรับความจริงข้อนี้มานานแล้ว และถามกุ้นเอ๋อร์ว่า "มีใครมารับศพของนางกลับหรือไม่?"

"ใต้เท้าขงบอกว่าได้ไปหาครอบครัวพ่อแม่ของนางมาแล้ว พ่อแม่ของนางไม่อยู่แล้ว มีพี่ชายและพี่สะใภ้คอยดูแลบ้าน โดยบอกว่าผู้หญิงที่โดนทอดทิ้งยังฆ่าตัวตายด้วยวิธีจมน้ำตายเช่นนั้นเป็นลางร้าย ไม่ยอมมารับนางกลับ"

"ครอบครัวสามีของนางล่ะ" หลังจากที่เสิ่นว่านจือถามออกมา นาวก็รู้สึกว่าคำถามนี้เป็นส่วนเกิน ในเมื่อถูกหย่าแล้วจะมารับนางได้อย่างไร

"ครอบครัวของสามีนางอีกไม่กี่วันก็จะแต่งภรรยาใหม่ จะช่วยจัดงานศพให้นางได้อย่างไร"

เสิ่นว่านจือขมวดคิ้ว "แต่งงานกับคนใหม่เร็วขนาดนี้ ไอ้ผู้ชายชั่วนี้ยังมีหัวใจอยู่หรือเปล่าเนี่ย?"

ซ่งซีซีกล่าวว่า "เกรงว่าถูกใจกันมาตั้งนานแล้ว"

ทันใดนั้นเสิ่นว่านจือก็คิดขึ้นมาว่า "แม่นางเย็บปักคนนั้นถูกหย่าเพราะไม่มีลูก แล้วนางมีสินเดิมหรือเปล่า? สินเดิมก็ถูกสามีนางได้เอาไปใช้แล้วนี่"

ซ่งซีซีกล่าวว่า "ต่างก็เป็นสามัญชนธรรมดา จะมีสินเดิมอันมีค่าที่ไหนกัน ต่อให้มี ตั้งหลายปีแล้วก็คงใช้หมดแล้ว ข้าได้ยินมาว่าแม่นางปักเย็บคนนั้นมีฝีมือเก่งาก ปกติแค่ลำพังงานฝีมือก็ทำเงินไม่น้อย น่าเสียดายก็ใ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1005

    เมื่อได้ยินว่านามสกุลคือหลี่ หลี่ฮูหยินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้ามากยิ่งขึ้นมีโลงศพบางๆ และเสื้อผ้าสองชิ้น ชุดหนึ่งใส่ในตัวหลี่ฮุ่ยซิน และอีกชุดหนึ่งสำหรับฝังศพไปด้วยหลี่ฮูหยินมีเมตตา ไปตามหาร้านเสื้อผ้าที่นางเคยทำงานอยู่ จึงไปซื้อเสื้อผ้าที่นั่น เจ้าของร้านบอกว่าเสื้อผ้าสองตัวที่นางสวมใส่นั้นเป็นชิ้นงานของนางเองหลี่ฮุ่ยซินเกิดเมื่อเดือนมีนาคมสามสิบสี่ปีที่แล้ว และถูกฝังในเดือนมีนาคมปีนี้ วันเกิดและวันตายแค่ห่างกันเพียงแปดวันการตายของหญิงที่ถูกหย่าก็เหมือนกับก้อนหินที่ถูกโยนลงไปในทะเลสาบ มันเพียงแต่สร้างคลื่นเล็กๆ จากนั้นก็ไม่มีการกล่าวถึงอีกเลยทว่ามีนักเล่าเรื่องคนหนึ่งได้เล่าเรื่องที่ทางโรงงานเย็บปักซู่เจินช่วยฝังศพหลี่ฮุ่ยซินออกไป รวมถึงเรื่องใจร้ายใจดำของครอบครัวพ่อแม่และสามีของหลี่ฮุ่ยซินด้วยแขกรับน้ำชาที่ฟังเรื่องราวอย่างนั้นได้สาปแช่งสองสามคำ พอผ่านไปแป๊บเดี๋ยวก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว เพราะพวกเขายอมรับและสนับสนุนกฎเกณฑ์เจ็ดข้อที่ว่าการไม่มีบุตรก็จะถูกไล่ออกจากบ้าน เพียงแต่ครอบครัวของสามีใจร้ายจริงๆ พวกเขาแต่งงานกันมาหลายปีแล้ว ไม่แม้แต่ช่วยเก็บศพด้วยซ้ำ แต่เมื่อเทียบกับค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1006

    ซ่งซีซีขมวดคิ้ว "ทำไมนางถึงไปที่นั่นได้เล่า"โรงงานเย็บปักซู่เจินเคยประกาศต่อโลกภายนอก เป็นสถานที่รับผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้งและไม่มีที่ไป ทั้งยังไม่สามารถหาเลี้ยงชีพได้ระยะหนึ่ง แม้ว่าเจียอี้จะถูกหย่าแล้ว แต่นางก็ไม่ถึงขั้นเลี้ยงตนเองไม่ได้ เท่าที่ซ่งซีซีรู้ เจียอี้มีบ้านพักและร้านค้าหลายแห่งและแม้จะหย่าร้างแล้ว นางก็ยังสามารถมีชีวิตที่หรูหราต่อไปได้คนใช้ของตระกูลหลี่กล่าวว่า "นางบอกว่าไม่มีที่ไป เอะอะโวยวายจะเข้าไปให้ได้ ยังด่าฮูหยินด้วย โดยบอกว่าตั้งโรงงานไว้เพื่อรับผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้ง งั้นนางก็ตรงตามเงื่อนไข ถ้านางไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปละก็ งั้นที่ก่อตั้งโรงงานนั้นไว้ก็แค่เสแสร้ง แกล้งทำเป็นมีเมตตา ฮูหยินถูกยั่วให้โมโหเลยสั่งข้าน้อยมาบอกพระชายาและคุณหนูเสิ่นสักหน่อยเจ้าค่ะ"เมื่อเสิ่นว่านจือได้ยินว่าหลี่ฮูหยินถูกรังแก นางจะยอมทนได้ยังไง และพูดขึ้นทันทีว่า "ข้าจะไปเดี๋ยวนี้"เจ้ากรมหลี่มักจะพูดเสมอว่าหลี่ฮูหยินเป็นผู้หญิงห้าวๆ แต่หลี่ฮูหยินมีเหตุผล เมื่อเจอกับเจียอี้ที่ชอบเอาแต่ใจงี่เง่าก็รับมือยากเช่นกัน โดยเฉพาะตอนนี้เจียอี้ถูกไล่ออกจากบ้าน นางก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว แต่หลี่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1007

    เจียอี้ ผู้ซึ่งเย่อหยิ่งไม่หยุดนั้น จู่ๆ ก็เงียบบลงเมื่อเห็นซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือนางจับชายเสื้อผ้า ยกคางขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าอยู่ในสภาพตกอับก็ไม่ยอมก้มศีรษะ มีต่างหูผีเสื้อทองคู่เล็กห้อยอยู่บนหูของนาง ซึ่งไม่เข้ากับการแต่งตัวของนาง ราวกับว่ายังรักษาศักดิ์ศรีและความเป็นคนมีหน้ามีตาอยู่เล็กน้อยนางมาคนเดียวโดยไม่มีแม้แต่สาวใช้อยู่ข้างกายเลย"พระชายา คุณหนูเสิ่น พวกเจ้ามาพอดี" หลี่ฮูหยินโกรธมากจนหน้าแดง "ข้าเคยเห็นคนงี่เง่าและไร้เหตุผลมาเยอะแล้ว แต่ข้าไม่เคยเห็นคนมาทำเกะกะระรานขนาดนี้มาก่อน ไม่เพียงแต่จะเข้ามาโรงงาน ยังเรียกร้องให้เราเปลี่ยนชื่อด้วย พอถามนางว่าเหตุผลที่ถูกหย่า กลับนิ่งเงียบไม่ยอมบอก"ที่หลี่ฮูหยินโกรธก็เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อก่อตั้งโรงงานแรกๆ ซ่งซีซีและหลี่ฮูหยินก็ตั้งกฎขึ้นมาแล้ว หากมีคนถูกไล่ออกเนื่องจากทำสิ่งเลวร้ายหรือเป็นอันตรายต่อคนอื่น ทางโรงงานจะไม่รับดังนั้นพอเจียอี้มาก็ต้องถามต้นสายปลายเหตุก่อนแล้วค่อยทำการสอบสวนอีกทีตอนนี้นางพูดอ้อมแอ้มไม่บอกเหตุผล และยังคงเย่อหยิ่งและกำเริบเสิบสาน แล้วจะให้หลี่ฮูหยินไม่โกรธได้อย่างไร?ซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือนั่งลง เจียอ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1008

    เมื่อเจียอี้เห็นซ่งซีซีและคนอื่ๆ ขยิบตาให้กัน นางก็ใจร้อนขึ้นมาทันที โดยไม่สนว่าซ่งซีซีจะเป็นคนที่นางจะไปมีเรื่องได้หรือไม่ ก็ตะโกนเสียงดังว่า "พวกเจ้าต่างก็จอมปลอมจริงๆ ไม่อยากรับผู้หญิงที่ถูกรังแกและทอดทิ้งอย่างแท้จริงด้วยซ้ำ มาแกล้งทำเป็นใจดี ข้าจะไปเปิดโปงพวกเจ้าเดี๋ยวนี้"นางตะโกนแบบนี้ แต่กลับไม่ได้ลุกขึ้น ยังนั่งจ้องมองหลี่ฮูหยินด้วยความโกรธซ่งซีซีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นการกระทำของอีกฝ่าย ในตอนแรกที่ได้ยินสาวใช้ของหลี่ฮูหยินมารายงาน นางคิดว่าเจียอี้มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหาแต่พอเห็นสภาพของนางที่โรงงาน ก็รู้สึกว่ามันคงไม่ใช่อย่างที่คิดตอนนี้เห็นนางเอาแต่อาละวาด แต่ไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่แม้แต่ขยับก้น มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ? คงไม่ใช่นางถูกไล่ออกจากบ้าน และใช้ชีวิตอย่างยากลำบากจริงๆ เหรอ"ได้ยินว่าเจ้าวางแผนที่จะเปลี่ยนชื่อโรงงานเย็บปักซู่เจินของเราเหรอ" เสิ่นว่านจือก็รู้สึกถึงว่ามีบางอย่างผิดปกติ และน้ำเสียงของนางก็ไม่ได้ก้าวร้าวนัก หลักๆ คือเมื่อเห็นนางอยากจะทำตัวกำเริบเสิบสานแต่ทำไม่ได้ก็รู้สึกน่าขันเจียอี้เบะปาก "ข้าแค่คิดว่ามันเป็นลางร้ายที่จะตั้งชื่อด้วยชื่อของคนตาม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1009

    การสอบสวนเรื่องนี้ ก็ไม่ต้องให้ซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือออกโรงเองหัวหน้าลู่และพ่อย้านของจวนโหวผิงหยางเป็นเพื่อนเก่ามาหลายปีแล้ว ในวันรุ่งขึ้นทั้งสองคนนัดกินข้าวกัน แล้วทุกอย่างก็ชัดเจนแล้วปรากฎว่าเมื่อปีที่แล้วได้แต่งอนุคนใหม่ อนุคนนั้นแซ่จาว พ่อของนางเป็นซิ่วไฉ ส่วนนางเองก็เรียนหนังสือมา ได้หมั้นหมายกันมาแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าคู่หมั้นได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อสองปีก่อน และนางถูกหาว่ามีดวงกินสามี และถูกคนอื่นวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดไม่รู้ว่าได้พบกับโหวผิงหยางอย่างไร แต่โหวผิงหยางก็ถูกใจนางเข้าแล้ว และแต่งนางเป็นอนุตามที่พ่อบ้านเฟิงบอกว่าที่รับอนุจาวคนนี้มาก็เพราะอยากให้นางช่วยดูแลบ้านด้วย เนื่องจากฮูหยินรองป่วยมานานแล้ว และเมื่อฤดูหนาวที่แล้วนางเกือบเสียชีวิต บัดนี้อากาศเริ่มอุ่นขึ้น อาการของนางถึงดีขึ้นมาหน่อยอนุจาวคนนี้ดูแลบ้านได้ดีมาก หลังจากที่แต่งเข้ามาก็ตอยช่วยฮูหยินผู้เฒ่าบริหารฝ่ายใน และฮูหยินผู้เฒ่าก็ชอบนางมากแน่นอนว่าเจียอี้จะไม่ชอบอนุจาว เพราะงั้นเจียอี้เลยเล่นงานนางทั้งเปิดเผยและลับหลัง โดนฮูหยินผู้เฒ่าดุมาหลายครั้งสดท้ายถึงยอมสงบเสงี่ยมเจียมตัวบ้างเมื่อสามเดือนก่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1010

    เมื่อซ่งซีซีเห็นเขาวันนี้ได้กลับมาเร็ว ก็ยิ้มหวาน และเลิกคิ้ว "คดีจัดการเสร็จแล้วหรือ?""เปล่า แต่ไม่อยากอยู่ดึกคืนนี้" ดวงตาของเซี่ยหลูโม่สบกับนาง และมีสีหน้าอ่อนลงอย่างไม่รู้ตัว เขาเดินไปนั่งลงข้างๆ ซ่งซีซีด้วยรอยยิ้มอาจารย์หยูสั่งให้คนใช่ชงชา "คอจะลุกไฟอยู่แล้ว ไปทำน้ำชารี่ มาชงน้ำมะนาวมาให้หน่อย""วันนี้อาจารย์หยูยุ่งอะไรมาเหรอ? ถึงขั้นเสียงแหบแห้งไปด้วย" เสิ่นว่านจือถามด้วยรอย"ไปซื้อร้านค้าแล้วต่อรองราคาด้วย" หลังจากที่อาจารย์หยูคารวะซ่งซีซีเสร็จก็นั่งลงนางไม่สนใจเรื่อวซื้อร้านค้า ดังนั้นเสิ่นว่านจือจึงรีบถามเซี่ยหลูโม่ว่า "เมื่อกี้ท่านอ๋องบอกว่ารู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของเจียอี้ มันยังไงกันเหรอ?"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "แต่เดิมนางก็ไม่มีเงินมากนักอยู่แล้ว ตอนที่สืบสวนคดีกบฏของเซี่ยอวี้นและพบว่าเงินทั้งหมดที่ทำโดยร้านค้าของเจียอี้นั้นเป็นของเซี่ยอวี้น และร้านค้ที่ร่วมกับพวกฮูหยินและฉีกุ้ยไทเฟย เต๋อกุ้ยไทเฟยนั้นก็ถูกพันพัวด้วย ก่อนหน้านี้เคยสอบสวนมารอบหนึ่งแล้ว แต่ตราบใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับดคีนี้ก็ถูกปิดร้านหมด นางยังมีร้านส่วนตัวสองแห่ง แต่น่าเสียดายมันอยู่ใต้ชื่อฝู้หม่ากู้ ห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1011

    ซ่งซีซีนึกถึงเงินไม่กี่เบี้ยนั้นนางยังเก็บไปด้วย เห็นได้ชัดว่าจนตรอกไปจริงๆทว่าเรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่เข้า แม้ว่าเดิมทีนางแค่ต้องกันเล่นงานท่านแม่ของอนุจาว แต่สุดท้ายกลับทำให้อนุจาวแท้งลูก จากนั้นยังผลักจ้านเส้าฮวนลงไปในทะเลสาบ ที่จ้านเส้าฮวนว่ายน้ำไม่เป็นนางก็รู้เรื่องด้วย เท่ากับว่านางจงใจจะสังหารจ้านเส้าฮวน"ข้ารู้ว่ามันไม่ควร" เสิ่นว่านจือพูดด้วยสีหน้าจริงจัง "แต่เมื่อจ้านเส้าฮวนถูกผลักลงไปในทะเลสาบ ข้าอยากจะหัวเราะจริงๆ"เมื่อพูดจบแล้วก็กล่าวขอโทษเบาๆ ราวกับชดเชยกับเสียงหัวเราะได้ซ่งซีซีขมวดคิ้วเล็กน้อย "สิ่งที่ข้าไม่เข้าใจคือทำไมนางยังโง่ขนาดนี้ นางไม่ใช่ท่านหญิงอีกแล้ว และทางจวนโหวผิงหยางก็ไม่ชอบนาง ท่านแม่ถูกกักบริเวณ และท่านพ่อของนางถูกประหารชีวิต นางยังก่อเรื่องอะไรกัน ไม่อยากมีชีวิตต่อใช่ไหม""ถ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป แล้วจะขอความช่วยเหลือจากโรงงานเย็บปักได้อย่างไร" อาจารย์หยูกล่าวซ่งซีซีหันศีรษะมองไปที่เซี่ยหลูโม่ "ท่านคิดว่ายังไง"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "อาจมีเรื่องแอบแฝงก็ได้ พ่อบ้านเฟินไม่ทราบต้นสายปลายเหตุทั้งหมด เรื่องอื้อฉาวบางเรื่องในตระกูลใหญ่มักจะถูก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1012

    ยังไม่ทันที่ซ่งซีซีจะไปหาฮูหยินผู้เฒ่าโหวผิงหยาง ในวันรุ่งขึ้นก็มีข่าวลือเกี่ยวกับโรงงานที่ข้างนอกหมดว่ากันว่าพระชายาเป่ยหมิงอ๋องและหลี่ฮูหยินต่างก็เป็นคนจอมปลอม แกล้งทำเป็นคนดี เมื่อมีผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้งไปขอความช่วยเหลือ พวกนางไม่เพียงแต่ปฏิเสธและยังหาเรื่องด้วยเดิมทีก็มีผู้คนจำนวนมากไม่ชอบโรงงานนั้น โดยคิดว่าพวกนางรับผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้งคือท้าทายจริยธรรม ในเมื่อถูกทอดทิ้งก็ย่อมสมควรได้รับมัน ต่อให้เป็นเพราะอิจฉาหรือไม่มีบุตรก็เป็นบาปขณะนี้เกิดข่าวลือขึ้นมาเป็นกระแส เมื่อมีข่าวลือผู้คนก็รุมกันกระทืบซ้ำ ในเวลานั้นประชาชนก็ด่าทอโรงงานยกใหญ่ไปทั่ว มีหาว่าจอมปลอมบ้าง โดนหาว่ามีเจตนาแอบแฝงบ้าง และมีคนหาว่าอยากโกงเงินด้วยในตอนเย็น เสิ่นว่านจือโกรธมากจนทุบโต๊ะแล้วพูดเสียงดังว่า "เจียอี้คนเดียวจะสร้างกระแสเช่นนี้ได้เหรอ ข้าไม่เชื่อหรอก"หลังจากพูดอย่างนั้น ก็วิ่งออกไปราวกับลมกระโชกแรง ซ่งซีซีถามอยู่ข้างหลังว่า "เจ้าจะไปไหน""ตึกว่างจิง หาคนไปสอบสวน" เสิ่นว่านจือจากไปโดยไม่หันกลับมามองนางโกรธมากจนตัวสั่นไปทั้งตัว นางทุ่มเทความพยายามอย่างมากในโรงงาน และมีเจตนาที่ดี นางเห็นอกเห็นใจก

Pinakabagong kabanata

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1568

    หัวหน้าตระกูลเสิ่นรอจนเสิ่นว่านจือคำนับครบสามครั้ง ถึงได้กลั้นสะอื้นเอาไว้ได้ “ลุกขึ้นเถิด เจ้าเด็กไร้หัวใจ” เสิ่นว่านจือค่อยๆ ลุกขึ้น ดวงตาเอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำใส นางเงยหน้าขึ้น บีบไล่น้ำตากลับคืน ในชั่วขณะนั้นจู่ๆ นางก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา เสียใจที่ตัวเองดื้อดึงเกินไป ไม่ยอมให้ญาติพี่น้องมาร่วมงาน ดันเลือกความสะดวกสบาย อยากจัดงานแต่งที่เมืองหลวง “ท่านพ่อ วันนี้เมื่อจัดงานมงคลเสร็จแล้ว พวกเราจะติดตามท่านกลับบ้าน ไปจัดงานเลี้ยงที่บ้านอีกครั้ง รอจัดงานที่บ้านเสร็จแล้ว ค่อยกลับไปจัดอีกครั้งที่สำนัก ดีหรือไม่เจ้าคะ?” หัวหน้าตระกูลเสิ่นย่อมรู้สึกยินดีเป็นธรรมดา เพียงแต่ก็อดสงสารลูกสาวที่จะต้องเดินทางไปมาลำบากไม่ได้ “เจ้าเคยพูดมิใช่หรือว่า เจียงหนานไม่มีสหาย ไม่อยากกลับไปจัดงานที่นั่น?” “ลูกไม่มีมากก็จริง แต่ท่านพ่อมี ท่านปู่ก็มี ลูกจะเห็นแก่ตัวเพียงลำพังไม่ได้ ทำให้ท่านต้องเสียหน้าไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ” หัวหน้าตระกูลเสิ่นมองลูกสาวอย่างทั้งปลื้มใจและปวดร้าวในใจ พูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ลูกสาวที่รู้ความถึงเพียงนี้ วันนี้จะต้องออกเรือน เป็นสะใภ้บ้านอื่นเสียแล้ว” เสิ่นว่านจือเดินเข้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1567

    ซ่งซีซีคิดว่าวันนี้ยังมีเวลาได้พูดคุยกับเสิ่นว่านจืออย่างเต็มที่ แต่กลับลืมเสียสนิทว่าวันแต่งงานนั้น มีเรื่องจุกจิกมากมายเพียงใด สาวช่างแต่งเจ้าสาวที่เชิญมาโดยเฉพาะได้มาถึงแล้ว ลงมือแต่งหน้า จัดแต่งผมให้ นับได้เพียงชั่วยามเดียวก็ผ่านไปแล้ว เสิ่นว่านจือหน้าตางดงามสดใสอยู่แล้ว ยิ่งอยู่ใต้ฝีมือของช่างที่เชี่ยวชาญ ก็ยิ่งงามจนบุปผายังอาย กลางวันทานเพียงอาหารง่ายๆ พอเสร็จแล้ว แขกผู้ร่วมส่งตัวเจ้าสาวก็ค่อยๆ ทยอยกันมาถึง เดิมทีภรรยาของพี่ชายคนโตของฝ่ายเจ้าบ่าวคือสตรีสกุลจี ไม่ควรจะมาที่นี่ แต่จีซูเซิ่นกลับยืนกรานจะมา นางบอกว่า นางก็เป็นคนฝ่ายเจ้าบ่าว และก็เป็นฝ่ายเจ้าสาวด้วย ไม่ขัดแย้งกันสักหน่อย อย่างไรก็เป็นวันมงคล จะอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่ทุกคนมีความสุขก็พอแล้ว ตอนที่สวมชุดเจ้าสาว เสิ่นว่านจือกลับรู้สึกประหม่าอย่างไร้สาเหตุ นางจะแต่งงานจริงๆ แล้วหรือ? แต่งงานหมายถึงต้องดูแลบ้าน มีลูก ไม่อาจใช้ชีวิตอิสระเสรีได้เหมือนเดิมอีกต่อไป เป่าจูยังเคยพูดว่าแต่งงาน แต่ตอนนี้นางก็ยังไม่แต่งเลยนี่นา นางหันขวับไปมองเป่าจู “ทำไมเจ้าถึงไม่แต่งงานกันล่ะ” เป่าจูถึงกับอึ้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1566

    ปลายฤดูใบไม้ร่วงเดือนสิบ เป็นฤกษ์มงคลแต่งงานของหวังเยว่จางกับเสิ่นว่านจือ แท้จริงแล้วเมื่อปีที่แล้วในคืนเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง เสิ่นว่านจือก็ตอบรับคำขอแต่งงานของหวังเยว่จางแล้ว ตลอดเส้นทางที่เคียงข้างกันมานี้ นางรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่คู่ควรให้นางมอบหัวใจให้โดยแท้จริง ตอนที่นางตอบตกลง นางก็ตั้งใจจริงอย่างที่สุดว่าจะแต่งงาน จึงให้อารมณ์ในห้วงขณะนั้นเป็นผู้ตัดสิน ผ่านมาหนึ่งปีเต็มกว่าจะจัดพิธีแต่งงานได้ มิใช่เพราะต้องเตรียมของหมั้นหรือของสินเดิมมากมายอย่างไรเสีย ของเวืยเดืใของเสิ่นว่านจือ ทางตระกูลเสิ่นก็เริ่มจัดเตรียมตั้งแต่ปีที่นางถือกำเนิด ทุกปีก็เติมเพิ่มเข้าไป บัดนี้ถึงกับซื้อบ้านและเรือนสวนในเมืองหลวงไว้ให้แล้ว ส่วนของหมั้น ทางภูเขาเหม่ยชานก็เตรียมไว้ตั้งนานแล้ว ที่เรื่องแต่งงานล่าช้าออกมาจนถึงตอนนี้ เป็นเพราะความเห็นไม่ลงรอยกัน ทั้งตระกูลเสิ่น สถาบันชื่อเยียน สถาบันว่านซงเหมิน รวมทั้งตัวเสิ่นว่านจือเอง ต่างก็มีความเห็นไม่ตรงกัน เสิ่นว่านจืออยากออกเรือนจากจวนอ๋อง แล้วให้หวังเยว่จางมารับตนกลับไปที่บ้านเรือนของเขา วิธีนี้สะดวกยิ่ง ไม่ต้องเดินทางไกลกลับไปถึงเจียงหนาน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1565

    วันที่สองเดือนสอง มังกรเงยหัวขึ้น หมอมหัศจรรย์ดันกลับมาจากสำนักเทพโอสถแล้ว เดินทางเหน็ดเหนื่อยฝ่าลมฝุ่นมาตลอดทาง พอเข้าเมืองหลวงได้ก็รีบเข้าวังทันที ยังมิได้กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียด้วยซ้ำ ขณะนั้นจักรพรรดิ์ซูชิงกำลังทรงหารือราชกิจในห้องทรงพระอักษร เมื่อทรงได้ยินว่าหมอมหัศจรรย์ดันมาขอเข้าเฝ้า ก็ทรงให้ขุนนางออกไปทั้งหมด เหลือเพียงเซี่ยหลูโม่ แล้วเชิญหมอมหัศจรรย์ดันเข้าตำหนัก หมอมหัศจรรย์ดันออกจากเมืองหลวงไปหนึ่งปีกับหนึ่งเดือนแล้ว รูปกายดูแก่ลงมาก ผมข้างหูขาวโพลน จักรพรรดิ์ซูชิงเสด็จลงมาประคองเขาที่ยังมิทันได้คำนับ การรอคอยตลอดหนึ่งปีนี้ บัดนี้ใกล้ได้รับคำตอบแล้ว แต่พระองค์กลับทรงรู้สึกหวั่นเกรงขึ้นมา “วางใจเถิด” หมอมหัศจรรย์ดันกล่าวคำสองคำก่อนเป็นอันดับแรก ทำให้พระทัยของจักรพรรดิ์ซูชิงกับเซี่ยหลูโม่ที่แขวนอยู่ค่อยๆ วางลง เมื่อเชิญหมอมหัศจรรย์ดันนั่งเรียบร้อยแล้ว เขาก็ทอดถอนใจแล้วกล่าวว่า “เดิมทีเคยเขียนจดหมายมาบอกว่าอาการทรงตัว ไร้ภัยถึงชีวิต แต่ยังไม่ทันได้ส่งจดหมายนานก็เกิดอาการป่วยไอเป็นเลือดขึ้นมา โรครุนแรงฉับพลัน ข้าคิดว่าเขาคงทนไม่ไหวเสียแล้ว คนแทบจะสิ้นใจไปแ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1564

    ฝนฤดูใบไม้ผลิชุ่มฉ่ำดั่งน้ำมัน แม้เป็นฝนเดือนสี่ ก็ไม่ถือว่ามาสายจักรพรรดิ์ซูชิงยืนอยู่ที่หน้ามุขนอกห้องทรงพระอักษร ทอดพระเนตรโคมลมพลิ้วไหวท่ามกลางสายฝนยามราตรี สิ่งที่ทอดพระเนตรดูประหนึ่งความฝัน ประหนึ่งความจริง เงาร่างของเซี่ยหลูโม่เลือนหายไปในสายฝนเนิ่นนานแล้ว มองก็ไม่เห็นอีกต่อไป พระทัยของพระองค์เต็มไปด้วยความขมขื่น ระลึกถึงภาพที่เขากลืนโอสถนั้นลงไปอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ มิได้มีแม้แต่เสี้ยววินาทีของความลังเล ขณะเดียวกันที่พระองค์รู้สึกวางพระทัย ก็กลับเจ็บปวด เป็นพระองค์เองที่บีบบังคับพระอนุชาให้ถึงจุดนี้ ทั้งเขาและภรรยาก็ยังหนุ่มสาวนัก ไม่จำเป็นต้องมีอนุ ก็สามารถให้กำเนิดบุตรชายหญิงได้สามถึงห้าคน แต่เมื่อกินโอสถนั้นลงไปแล้ว สายโลหิตของเขาก็ขาดสะบั้น แม้จะสามารถรับบุตรบุญธรรม แต่ถึงอย่างไรก็หาใช่สายเลือดของตนเอง จะไม่ให้นับเป็นความอาลัยได้อย่างไร? ในฐานะพี่ชาย พระองค์รู้สึกเสียดายและเจ็บปวดอย่างหาที่เปรียบมิได้ แต่ในฐานะฮ่องเต้ พระองค์ก็สามารถวางพระทัยได้อย่างแท้จริง ความรู้สึกขัดแย้งนี้ ทำให้พระองค์ทอดถอนพระทัยเบาๆ ตรัสว่า “ในใต้หล้า จะมีหนทางใดเล่าที่สมบูรณ์

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1563

    ทันทีที่ซ่งซีซีเห็นยาทำหมัน นางก็รู้สึกตระหนกในใจ เอ่ยเสียงเบา “ฝ่าบาททรงระแวงเจ้าอีกแล้วหรือ?”เซี่ยหลูโม่ส่ายหน้า “ตอนนี้ไม่ระแวงแล้ว กลับกัน พระองค์ทรงไว้เนื้อเชื่อใจอย่างมาก บรรดาราชฎีกาส่วนใหญ่ก็ต้องผ่านมือข้ากับท่านเจ้ากรมก่อนถึงโต๊ะทรงพระอักษรของพระองค์เสียอีก”“เช่นนั้นแล้วไยต้องคิดถึงเรื่องนี้?” ซ่งซีซีไม่เข้าใจ“พิจารณาอยู่สามข้อ” เซี่ยหลูโม่วางยาเม็ดนั้นลงเบาๆ แล้วจับมือนางไว้แน่น “ข้อแรก ฝ่าบาทที่ไว้ใจข้าในยามนี้ ก็เพราะเพิ่งผ่านเรื่องราวมากมายมา อีกทั้งพระอาการก็ทรงทรงตัว จึงปลอดโปร่งจากความระแวง แต่หากวันใดพระอาการทรุด ข้ากลับมีอำนาจล้นมือ แล้วยังมีบุตรชายอีก... เช่นนั้น ข้าจะกลายเป็นภัยคุกคามในสายพระเนตรแน่นอน”ซ่งซีซีพยักหน้าเข้าใจ “เช่นนั้นเราก็รอสักสองสามปีก็ได้ไม่ใช่หรือ? เดิมทีท่านก็เคยกินยาครั้งหนึ่ง มันควบคุมได้ถึงห้าปีมิใช่หรือ? ตอนนี้ก็ครบห้าปีแล้ว กินอีกเม็ดก็อยู่ได้อีกห้าปีมิใช่หรือ?”เซี่ยหลูโม่กำมือแน่นขึ้น “ยานี่ก็คือเม็ดที่สอง ครั้งแรกกินแล้วคุมได้ห้าปี แต่ครั้งที่สอง... จะเป็นหมันถาวร ชิงเชวี่ยบอกว่า หากข้าไม่กิน... เจ้าต้องดื่มยาคุมกำเนิด ยานั้นทำร้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1562

    สุดท้าย พระสนมเต๋อเฟยก็ทนไม่ไหว... นางจากไปแล้วตั้งแต่ที่รู้ว่าองค์ชายรองกลายเป็นคนปัญญาอ่อน และถูกส่งไปอยู่วัดใช้ชีวิตที่เหลือ นางก็ดูเหมือนจะหมดแรงใจความเจ็บปวดเหมือนหนามที่ฝังแน่นในกระดูก ทรมานนางทุกลมหายใจ กระทั่งคืนหนึ่งที่เหน็บหนาว นางก็จากไปอย่างเงียบงันไทเฮาออกคำสั่งด้วยตนเอง จัดการส่งข้ารับใช้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมดออกจากวัง ส่วนจัดการอย่างไร ซ่งซีซีและผู้อื่นก็ไม่มีใครล่วงรู้ได้ในวังหลัง... ชั่วพริบตาเดียว ฮองเฮากับสองพระสนมผู้มีอำนาจต่างสิ้นชีพ ไทเฮาเองก็สุขภาพไม่ดี จึงให้พระสนมกงเฟยรับหน้าที่ดูแลวังหลังชั่วคราวจักรพรรดิ์ซูชิงไม่คิดจะตั้งฮองเฮาขึ้นใหม่อีก วังหลังเรียบง่ายหน่อย ย่อมลดปัญหาตามมาได้แต่พระสนมกงเฟยกลับไร้ความสามารถ ทำให้เกิดปัญหาขึ้นแทบทุกสามวัน สองวัน แค่เรื่องจัดสรรเบี้ยหวัดค่าอาหารเครื่องนุ่งห่มของพระสนมฝ่ายใน รวมถึงเงินเดือนของข้าราชบริพารในวัง ก็ทำให้เกิดความวุ่นวายกันทั้งตำหนักนางต้องการชื่อเสียงว่าเป็นหญิงผู้รู้จักประหยัดมัธยัสถ์ ลดค่าใช้จ่ายในวัง จึงลดเงินเดือน ลดเครื่องแต่งกายฤดูใบไม้ผลิของฝ่ายใน ให้ตัดเพียงชุดเดียว ประหยัดเงินไปได้ไม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1561

    กล้ามเนื้อทั่วร่างของฮองเฮาเกร็งตึง เหงื่อไหลชุ่มนางมองผ้าขาวที่กำลังจะคล้องคอลงมา พลางตะโกนอย่างลนลาน “ไม่... ยังไม่สาย! ฝ่าบาททรงรักองค์ชายใหญ่ จะปล่อยให้เขาไร้มารดาได้อย่างไร? ข้าต้องไปดูแลเขาด้วยตัวเอง! พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์แย่งสิทธิ์ของข้าในฐานะมารดา!”“อีกอย่าง ซ่งซีซีเคยกล่าวไว้ นางว่าองค์ชายใหญ่รักข้ามาก เป็นเขาพูดด้วยปากของเขาเอง! ตอนนี้เขาบาดเจ็บสาหัส โดดเดี่ยวไร้คนดูแล จะปล่อยให้เขาไปสำนักเทพโอสถเพียงลำพังได้อย่างไร? ข้าต้องอยู่ข้างเขา... ข้าต้องไปอยู่กับเขา!”ผ้าขาวคล้องคอเข้าพอดี ฮองเฮากรีดร้องเสียงแหลม “ฝ่าบาท! ฝ่าบาท พระองค์จะใจร้ายปานนี้ไม่ได้! หม่อมฉันผิดอะไร? พระสนมเต๋อเฟยวางแผนฆ่าองค์ชายใหญ่ยังไม่ถูกประหาร แต่พระองค์กลับจะฆ่าหม่อมฉัน! หม่อมฉันก็แค่เอาแต่ใจ ไม่เคยฆ่าใครสักคน!”อู๋ต้าปั้นหยุดมือลง คำบางคำ เขาไม่ควรพูด แต่เมื่อนึกถึงองค์ชายใหญ่ที่บาดเจ็บสาหัส เขาก็อดไม่ได้ เอ่ยเสียงเย็นชา “ฮองเฮาจะบอกว่าตนไม่เคยทำร้ายใครหรือ? เรื่องของฝูเจาอี๋ กระหม่อมจะยังไม่พูดถึง แต่กับองค์ชายใหญ่ที่ตกม้าเช่นนั้น ฮองเฮาก็มีส่วนไม่น้อยเลยนะพ่ะย่ะค่ะ”ฉีฮองเฮาเบิกตากว้าง มือกำผ้าขาวแน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1560

    เสียงร่ำไห้ของฉีฮองเฮาชะงักทันที นางชะงักนิ่งไป ก่อนเอ่ยถามเสียงสั่น “ฝ่าบาทตรัสว่าอะไรนะ? เจิ้งเอ่อร์ยังไม่ตายหรือ?”เป็นไปได้อย่างไร? มิใช่ว่าจัดพิธีศพแล้วหรือ? ขุนนางทั่วทั้งราชสำนักล้วนรู้กันทั้งนั้นจักรพรรดิ์ซูชิงมองนาง พลางกล่าวว่า “เขายังไม่ตาย แต่บาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองหัก ต่อให้รักษาหาย ก็ไม่มีทางยืนขึ้นได้อีก หมอมหัศจรรย์ดันส่งเขาไปยังสำนักเทพโอสถ ถ้ารักษาหาย เขาก็จะใช้ชีวิตอย่างไม่เปิดเผยนาม ถ้ารักษาไม่หาย สำนักเทพโอสถ ก็ถือเป็นที่พำนักที่ดีอยู่แล้ว”ฮองเฮามองดูพระองค์ ไม่เหมือนตรัสล้อเล่น ความหวังและความยินดีพุ่งพล่านขึ้นในใจ แต่แล้วก็ตามมาด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจ “หากเขายังไม่ตาย เหตุใดต้องจัดพิธีศพ? เหตุใดไม่รักษาที่เมืองหลวง? บางทีบาดแผลของเขาอาจไม่ร้ายแรงถึงเพียงนั้น ฝ่าบาททรงถูกหมอมหัศจรรย์ดันหลอกก็เป็นได้ หมอผู้นี้เป็นลุงของซ่งซีซี ซ่งซีซีอยากผลักดันองค์ชายสามขึ้นเป็นรัชทายาทมาโดยตลอด!”จักรพรรดิ์ซูชิงถามกลับทันควัน “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าซ่งซีซีต้องการผลักดันองค์ชายสามขึ้นเป็นรัชทายาท?”ฉีฮองเฮารีบพูดเสียงร้อนรน “ตอนก่อตั้งโรงงานทอผ้า มารดาของหม่อมฉันให้หม่อมฉันอ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status