แชร์

บทที่ 1009

ผู้เขียน: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
การสอบสวนเรื่องนี้ ก็ไม่ต้องให้ซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือออกโรงเอง

หัวหน้าลู่และพ่อย้านของจวนโหวผิงหยางเป็นเพื่อนเก่ามาหลายปีแล้ว ในวันรุ่งขึ้นทั้งสองคนนัดกินข้าวกัน แล้วทุกอย่างก็ชัดเจนแล้ว

ปรากฎว่าเมื่อปีที่แล้วได้แต่งอนุคนใหม่ อนุคนนั้นแซ่จาว พ่อของนางเป็นซิ่วไฉ ส่วนนางเองก็เรียนหนังสือมา ได้หมั้นหมายกันมาแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าคู่หมั้นได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อสองปีก่อน และนางถูกหาว่ามีดวงกินสามี และถูกคนอื่นวิพากษ์วิจารณ์มาตลอด

ไม่รู้ว่าได้พบกับโหวผิงหยางอย่างไร แต่โหวผิงหยางก็ถูกใจนางเข้าแล้ว และแต่งนางเป็นอนุ

ตามที่พ่อบ้านเฟิงบอกว่าที่รับอนุจาวคนนี้มาก็เพราะอยากให้นางช่วยดูแลบ้านด้วย เนื่องจากฮูหยินรองป่วยมานานแล้ว และเมื่อฤดูหนาวที่แล้วนางเกือบเสียชีวิต บัดนี้อากาศเริ่มอุ่นขึ้น อาการของนางถึงดีขึ้นมาหน่อย

อนุจาวคนนี้ดูแลบ้านได้ดีมาก หลังจากที่แต่งเข้ามาก็ตอยช่วยฮูหยินผู้เฒ่าบริหารฝ่ายใน และฮูหยินผู้เฒ่าก็ชอบนางมาก

แน่นอนว่าเจียอี้จะไม่ชอบอนุจาว เพราะงั้นเจียอี้เลยเล่นงานนางทั้งเปิดเผยและลับหลัง โดนฮูหยินผู้เฒ่าดุมาหลายครั้งสดท้ายถึงยอมสงบเสงี่ยมเจียมตัวบ้าง

เมื่อสามเดือนก่อ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1010

    เมื่อซ่งซีซีเห็นเขาวันนี้ได้กลับมาเร็ว ก็ยิ้มหวาน และเลิกคิ้ว "คดีจัดการเสร็จแล้วหรือ?""เปล่า แต่ไม่อยากอยู่ดึกคืนนี้" ดวงตาของเซี่ยหลูโม่สบกับนาง และมีสีหน้าอ่อนลงอย่างไม่รู้ตัว เขาเดินไปนั่งลงข้างๆ ซ่งซีซีด้วยรอยยิ้มอาจารย์หยูสั่งให้คนใช่ชงชา "คอจะลุกไฟอยู่แล้ว ไปทำน้ำชารี่ มาชงน้ำมะนาวมาให้หน่อย""วันนี้อาจารย์หยูยุ่งอะไรมาเหรอ? ถึงขั้นเสียงแหบแห้งไปด้วย" เสิ่นว่านจือถามด้วยรอย"ไปซื้อร้านค้าแล้วต่อรองราคาด้วย" หลังจากที่อาจารย์หยูคารวะซ่งซีซีเสร็จก็นั่งลงนางไม่สนใจเรื่อวซื้อร้านค้า ดังนั้นเสิ่นว่านจือจึงรีบถามเซี่ยหลูโม่ว่า "เมื่อกี้ท่านอ๋องบอกว่ารู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของเจียอี้ มันยังไงกันเหรอ?"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "แต่เดิมนางก็ไม่มีเงินมากนักอยู่แล้ว ตอนที่สืบสวนคดีกบฏของเซี่ยอวี้นและพบว่าเงินทั้งหมดที่ทำโดยร้านค้าของเจียอี้นั้นเป็นของเซี่ยอวี้น และร้านค้ที่ร่วมกับพวกฮูหยินและฉีกุ้ยไทเฟย เต๋อกุ้ยไทเฟยนั้นก็ถูกพันพัวด้วย ก่อนหน้านี้เคยสอบสวนมารอบหนึ่งแล้ว แต่ตราบใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับดคีนี้ก็ถูกปิดร้านหมด นางยังมีร้านส่วนตัวสองแห่ง แต่น่าเสียดายมันอยู่ใต้ชื่อฝู้หม่ากู้ ห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1011

    ซ่งซีซีนึกถึงเงินไม่กี่เบี้ยนั้นนางยังเก็บไปด้วย เห็นได้ชัดว่าจนตรอกไปจริงๆทว่าเรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่เข้า แม้ว่าเดิมทีนางแค่ต้องกันเล่นงานท่านแม่ของอนุจาว แต่สุดท้ายกลับทำให้อนุจาวแท้งลูก จากนั้นยังผลักจ้านเส้าฮวนลงไปในทะเลสาบ ที่จ้านเส้าฮวนว่ายน้ำไม่เป็นนางก็รู้เรื่องด้วย เท่ากับว่านางจงใจจะสังหารจ้านเส้าฮวน"ข้ารู้ว่ามันไม่ควร" เสิ่นว่านจือพูดด้วยสีหน้าจริงจัง "แต่เมื่อจ้านเส้าฮวนถูกผลักลงไปในทะเลสาบ ข้าอยากจะหัวเราะจริงๆ"เมื่อพูดจบแล้วก็กล่าวขอโทษเบาๆ ราวกับชดเชยกับเสียงหัวเราะได้ซ่งซีซีขมวดคิ้วเล็กน้อย "สิ่งที่ข้าไม่เข้าใจคือทำไมนางยังโง่ขนาดนี้ นางไม่ใช่ท่านหญิงอีกแล้ว และทางจวนโหวผิงหยางก็ไม่ชอบนาง ท่านแม่ถูกกักบริเวณ และท่านพ่อของนางถูกประหารชีวิต นางยังก่อเรื่องอะไรกัน ไม่อยากมีชีวิตต่อใช่ไหม""ถ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป แล้วจะขอความช่วยเหลือจากโรงงานเย็บปักได้อย่างไร" อาจารย์หยูกล่าวซ่งซีซีหันศีรษะมองไปที่เซี่ยหลูโม่ "ท่านคิดว่ายังไง"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "อาจมีเรื่องแอบแฝงก็ได้ พ่อบ้านเฟินไม่ทราบต้นสายปลายเหตุทั้งหมด เรื่องอื้อฉาวบางเรื่องในตระกูลใหญ่มักจะถูก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1012

    ยังไม่ทันที่ซ่งซีซีจะไปหาฮูหยินผู้เฒ่าโหวผิงหยาง ในวันรุ่งขึ้นก็มีข่าวลือเกี่ยวกับโรงงานที่ข้างนอกหมดว่ากันว่าพระชายาเป่ยหมิงอ๋องและหลี่ฮูหยินต่างก็เป็นคนจอมปลอม แกล้งทำเป็นคนดี เมื่อมีผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้งไปขอความช่วยเหลือ พวกนางไม่เพียงแต่ปฏิเสธและยังหาเรื่องด้วยเดิมทีก็มีผู้คนจำนวนมากไม่ชอบโรงงานนั้น โดยคิดว่าพวกนางรับผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้งคือท้าทายจริยธรรม ในเมื่อถูกทอดทิ้งก็ย่อมสมควรได้รับมัน ต่อให้เป็นเพราะอิจฉาหรือไม่มีบุตรก็เป็นบาปขณะนี้เกิดข่าวลือขึ้นมาเป็นกระแส เมื่อมีข่าวลือผู้คนก็รุมกันกระทืบซ้ำ ในเวลานั้นประชาชนก็ด่าทอโรงงานยกใหญ่ไปทั่ว มีหาว่าจอมปลอมบ้าง โดนหาว่ามีเจตนาแอบแฝงบ้าง และมีคนหาว่าอยากโกงเงินด้วยในตอนเย็น เสิ่นว่านจือโกรธมากจนทุบโต๊ะแล้วพูดเสียงดังว่า "เจียอี้คนเดียวจะสร้างกระแสเช่นนี้ได้เหรอ ข้าไม่เชื่อหรอก"หลังจากพูดอย่างนั้น ก็วิ่งออกไปราวกับลมกระโชกแรง ซ่งซีซีถามอยู่ข้างหลังว่า "เจ้าจะไปไหน""ตึกว่างจิง หาคนไปสอบสวน" เสิ่นว่านจือจากไปโดยไม่หันกลับมามองนางโกรธมากจนตัวสั่นไปทั้งตัว นางทุ่มเทความพยายามอย่างมากในโรงงาน และมีเจตนาที่ดี นางเห็นอกเห็นใจก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1013

    ตั้งแต่มาที่เมืองหลวง เขามักจะให้นางเสิ่นไปหาเสิ่นว่านจือเสมอ พวกนางมีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด แต่ไม่ได้ติดต่อกันเป็นเวลานาน หากสามาถไปมาหาสู่กันบ่อยๆ งั้นซ่งซีซีบ่อมสู้ความสัมพันธ์ทางสายเลือดไม่ได้ผู้ใดจะไปรู้ว่านางเสิ่นไร้ความสามารถและชอบเล่นตัวด้วย น้อยๆ หลังจากถูกปฏิเสธมาสองสามครั้งก็ไม่ยอมไปอีก โดยบอกว่าลูกพี่ลูกน้องของนางคนนี้ชอบดูถูกคนอื่น นางในฐานะพระชายา ไม่ยอมทนกับความคับข้องใจเช่นนี้ อีกอย่างต่อให้ทั้งสองพี่น้องต้องไปมาหาสู่กัน ก็ควรให้เสิ่นว่านจือมาเยี่ยมนางนี่ทำให้อ๋องเยี่ยนทั้งโกรธและสับสน เขายังส่งคนไปตรวจสอบโดยเฉพาะ เพื่อดูว่าระหว่างสองพี่น้องนี้มีปัญหาอะไรกัน แต่แล้วก็พบว่าไม่มี ตอนสาวๆ ทั้งสองก็ดีต่อกัน แต่หลังๆ เสิ่นว่านจือไปฝึกศิลปะการต่อสู้ที่สถาบันชื่อเยียนที่ภูเขาเหม่ยชาน ดังนั้นพวกนางจึงติดต่อกันน้อยลงสำหรับอ๋องเยี่ยนแล้ว นี่เป็นความสัมพันธ์ที่ซ่อมแซมได้ไม่ว่าเสิ่นว่านจือมาหาถึงที่ด้วยเหตุผลใดก็ตาม มันเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่ทำให้สองพี่น้องคืนดีกันใ ดังนั้นเขาจึงส่งคนไปเชิญนางเสิ่นมาทันทีไม่นานหลังจากนั้น นางเสิ่นก็มาถึงห้องหนังสือพร้อมกับชุนซิ่น นางค่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1014

    เสิ่นว่านจือชี้หน้านาง ดวงตาของนางลุกเป็นไฟ "เสิ่นว่านหง ข้าเตือนเจ้า หากเจ้ายังช่วยเจียอี้เผยแพร่ข่าวลือที่ดีต่อโรงงานเย็บปักซู่เจินล่ะก็ ข้าจะดึงลิ้นของเจ้าออก"หลังจากพูดอย่างนั้น นางก็สะบัดแขนเสื้อแล้วเดินออกไปตั้งแต่ต้นจนจบนางไม่เหลือบมองอ๋องเยี่ยนแม้แต่แวบหนึ่งองครักษ์รวมตัวกันอยู่นอกประตู อ๋องเยี่ยนสะยัดมือเพื่อส่งสัญญาณให้องครักษ์ถอยออกไปเสิ่นว่านจือสบถขึ้นมาเบาอย่างไม่แยแส จากนั้นก็เดินจากไปอ๋องเยี่ยนมองไปที่แผ่นหลังของเสิ่นว่านจือ สวมชุดสีแดงสะดุดตามาก ทำอะไรเด็ดเดี่ยว กล้าหาญและหยิ่งผยอง นี่คือลูกสาวจากตระกูลเสิ่นที่เขาอยากแต่งงานด้วยจริงๆ" ท่านอ๋อง นางตบหน้าข้า เจ้าจะปล่อยนางไปอย่างนี้ได้อย่างไร" นางเสิ่นปิดหน้าและร้องไห้อย่างเสียใจ แก้มข้างหนึ่งทั้งแดงและบวม อีกทั้งร้องไห้อย่างหนักอ๋องเยี่ยนละสายตาและมองดูนาง ความอ่อนโยนในเมื่อกี้ก็หายวาบไปแล้ว เขาขมวดคิ้ว ต่างเป็นสตรีจากตระกูลเสิ่น เหตุใดถึงแตกต่างกันมากเช่นนี้?"ท่านอ๋อง!" เมื่อเห็นเขาแสดงสีหน้าเย็นชาและรังเกียจอีกครั้ง นางเสิ่นก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกน้อยใจ นางก้าวเข้าไปใกล้เขาอีกก้าวหนึ่ง พยายามอยากให้อีกฝ่า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1015

    อ๋องเยี่ยนกลับไปที่ห้องหนังสือ อู๋เซี่ยงวางหนังสือในมือลงแล้วลุกขึ้นถามว่า "ท่านอ๋อง เสิ่นว่านจือมาทำอะไร? พระชายาได้คุยกับนางหรือเปล่า"อ๋องเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา "ไอ้สวะชัดๆ กลับไปติดต่อกับเจียอี้ลับหลัง ยังช่วยเจียอี้ต่อสู้กับซ่งซีซีด้วย"อู๋เซี่ยงส่ายหัว "ท่านอ๋อง การแต่งงานกับนางถือเป็นความผิดพลาดอยู่แล้ว นางไม่มีความสำคัญต่อตระกูลเสิ่น หัวหน้าตระกูลเสิ่นไม่ยอมมาสุงสิงกับท่านมากขึ้นเพื่อนาง งั้นประโยชน์อื่นๆ ยิ่งไม่ต้องพูดเลย""ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรนางโง่มากขนาดนี้? ต่างเป็นลูกสาวตระกูลเสิ่น และเสิ่นว่านจือก็เก่งกว่านางเป็นหมื่นเท่า" อ๋องเยี่ยนนั่งลงและหรี่ตาลงพร้อมกับแสงมืดที่น่ากลัวและเจ้าเล่ห์ในดวงตาเขา "เมื่อกี้เสิ่นว่านจือมาถึงที่ตบหน้าไปฉาดหนึ่งฝห้นาง จากนั้นเตือนต่อหน้าประโยดหนึ่งก็จากไปแล้ว ทั้งเด็ดขาดและตรงไปตรงมา ข้ามองนางด้วยความเสียใจอย่างยิ่ง ถ้าข้าแต่งงานกับนาง ไม่เพียงแต่ได้รับเความช่วยเหลือจากตระกูลเสิ่นอย่างต็มที่ แต่ยังได้รับเความช่วยเหลือจากนางด้วย เสิ่นว่านจือคนหนึ่งจะมีค่ามากกว่าคนของข้าตั้งเท่าไร"อู๋เซี่ยงกล่าวว่า "ท่านอ๋อง ตอนนี้มีคนมุ่งร้ายอยู่ล้อมรอบ ดัง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1016

    อ๋องเยี่ยนดูใจร้อนเล็กน้อย "กู้ชิงหวู่กลายเป็นคนโปรดของหวังเบียวแล้ว แต่หวังเบียวยังไม่ชนะใจของพวกทหาร ดังนั้นนี่จึงเร่งไม่ได้ ส่วนทางซีจิงก็จะวางแผนอยู่ ต้องรอ เราไม่สามารถไม่ทำอะไรเลยนี่นะ เสิ่นว่านหงไร้ประโยชน์งั้นก็เปลี่ยนเสิ่นว่านจือแทน ข้ารู้สึกว่าสิ่งที่คุณชายพูดไม่สมเหตุสมผล เสิ่นว่านหงและซ่งซีซีต่างเป็นพระชายาทั้งคู่ ข้าไม่เชื่อว่าเสิ่นว่านจือไม่มีความคิดกับตำแหน่งพระชายา ผู้หญิงที่หยิ่งเช่นนาง นางยิ่งต้องการแต่งงานกับคู่ครองมีฐานะสูง ผู้ชายธรรมดาๆคงไม่เข้าตานาง"อู๋เซี่ยงพยายามโน้มน้าว แต่เขาไม่ยอมฟัง และจมอยู่กับแผนการของเขาเอง ผู้หญิงจะไม่สนใจความบริสุทธิ์ของตนเองได้อย่างไร ถ้ามอบตัวให้เขา ยังกล้าฉีกหน้าเขาหรือไง?เมื่อถึงเวลามอบตำแหน่งพระชายาให้ นางคงจะมีความสุขมากกว่าใครๆ ทั้งนั้นซ่งซีซีกลับจวนอ๋องตั้งนานแล้ว เมื่อหงเซียวมารายงานว่าเสิ่นว่านจือไปที่ จวนอ๋องเยี่ยน นางกำลังหารือเรื่องต่างๆ กับลู่เจิน หลังจากหารือเสร็จ นางก็กลับจวนโดยตรงเสิ่นว่านจือกลับจวนแล้ว หลังจากตบหน้าเสร็จ นางก็รู้สึกสะใจเล็กน้อย แต่ไม่นานนักก็เริ่มกังวลทันทีไม่ใช่ว่ากังวลเกี่ยวกับตัวเอง แต่นาง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1017

    ในห้องโถงด้านข้าง เสิ่นว่านจือมองดูพระชายาอ๋องเยี่ยนที่กำลังขอโทษตนเองอย่างจริงใจด้วยสีหน้าเย็นชา หากนางไม่รู้จักลูกพี่ลูกน้องคนนี้ดีนัก นางก็คงจะเชื่อนางจริงๆ"จริงๆ เลย เจ้าเชื่อพี่นะ เป็นเพราะเจียอี้มาหาข้าและขอร้องให้ข้าช่วยนางแสวงหาความยุติธรรม ข้าใจอ่อนไปเลยยอมช่วยนาง หลังจากที่เจ้าจากไปเมื่อวาน ท่านอ๋องก็ด่าข้าอยู่นาน โดยบอกว่าสร้างโรงงานเพื่อประโยชน์ของผู้หญิง ข้าไม่ควรใส่ร้าย ข้าสำนึกผิดแล้ว เจ้ายกโทษให้พี่ได้ไหม"เสิ่นว่านจือไม่เชื่อแม้แต่คำเดียวเลยไม่เชื่อว่านางใจอ่อนเลยไปช่วยเหลือเจียอี้สักหน่อย และยิ่งไม่เชื่อว่าอ๋องเยี่ยนจะพูดว่า "การสร้างโรงงานเพื่อประโยชน์ของผู้หญิง"ท่านป้าของซีซี อดีตพระชายาอ๋องเยี่ยนได้ตายอย่างไรเล่า คนอื่นอาจไม่รู้ แล้วนางจะไม่รู้ได้อย่างไร?เสิ่นว่านจือฟังนางพูดอย่างใจเย็น แล้วเห็นน้ำตาแห่งความเสียใจของนางไหลออกมาไม่หยุด นางรู้สึกว่าหลังจากลูกพี่ลูกน้องคนนี้เป็นพระชายาอ๋องเยี่ยนแล้ว เรื่องอื่นนางไม่ได้เรียนแต่ทักษะการแสดงกลับเก่งมากทีเดียว ดูท่าว่าในปกติต้องดูการแสดงไม่น้อยเลย"พูดได้ดีมากนะ แต่วันนี้มาเพื่อขอโทษ ทำไมไม่ส่งจดหมายขอพนเล่า แล้

บทล่าสุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1474

    จักรพรรดิ์ซูชิง ทรงเงียบอยู่ชั่วขณะ ก่อนมีพระบัญชาให้จัดเตรียมห้องพักในตำหนักข้างเคียงของตำหนักเฉียนหยาง พร้อมทั้งส่งแพทย์จากสำนักหมอหลวงมาคอยดูแลหมอมหัศจรรย์ดัน พร้อมกันนั้น ทรงมีพระบัญชาให้จางฉีเหวินและฉีกุ้ยเป็นองครักษ์ส่วนตัวของหมอมหัศจรรย์ดัน คอยติดตามดูแลเขาตลอดเวลา พระองค์ทรงทราบดีว่าจางฉีเหวินเป็นศิษย์ของเสิ่นว่านจือ การให้เขาคุ้มครองหมอมหัศจรรย์ดัน ก็เพื่อให้หมอมหัศจรรย์ดันรู้สึกวางใจ แต่เพื่อให้พระองค์เองก็วางใจได้เช่นกัน จึงทรงส่งฉีกุ้ยไปด้วยอีกคน ยิ่งไปกว่านั้น พระองค์ยังมีพระบัญชาให้สำนักหมอหลวงปฏิบัติตามคำสั่งของหมอมหัศจรรย์ดันเป็นอันดับแรก อำนาจนี้ยิ่งใหญ่ไม่น้อย แต่แท้จริงแล้ว พระองค์หวังให้สำนักหมอหลวงเป็นฝ่ายจัดหายา หมอมหัศจรรย์ดันมิได้ใส่ใจเรื่องนี้ ขอเพียงมีคนทำตามคำสั่งก็เพียงพอแล้ว แต่จากการที่จักรพรรดิ์ซูชิงทรงส่งจางฉีเหวินและฉีกุ้ยไป อาจมองออกได้ว่า พระองค์มิได้ไว้วางพระทัยผู้คนจากฝ่ายใน บัดนี้ พระองค์และหมอมหัศจรรย์ดัน มีชะตาเดียวกัน หากหมอมหัศจรรย์ดันตาย พระองค์ก็ตาย หากหมอมหัศจรรย์ดันมีชีวิตอยู่ พระองค์ก็อาจอยู่ได้อีกอย่างน้อยสามปี สามปีไม่ยาว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1473

    ณ ตำหนักเฉียนหยาง อู๋ย่วนเจิ้งและหมอหลวงหลินยืนอยู่ด้านข้างเซี่ยหลูโม่กับอู๋ต้าปั้นก็อยู่ข้างเตียง ต่างเฝ้ารอให้หมอมหัศจรรย์ดันตรวจชีพจร หลังจากตรวจชีพจรแล้วหมอมหัศจรรย์ดันถามถึงบันทึกชีพจรในอดีตและสูตรยาที่ใช้รักษาก่อนหน้านี้ หมอหลวงหลิน นำบันทึกมาให้เขา พลางกล่าวด้วยท่าทีเคารพ “หมอดัน โปรดตรวจดูเถิด” ในวังหลวงแห่งนี้ ไม่มีผู้ใดกล้าเรียกเขาว่าหมอมหัศจรรย์อีกแล้ว เพราะสำนักหมอหลวงก็เคยผ่านการกวาดล้างครั้งใหญ่เช่นกัน หมอมหัศจรรย์ดันรับบันทึกมา เปิดดูทีละหน้า ภายในตำหนักเงียบสนิท มีเพียงเสียงกระดาษที่เขาพลิกเท่านั้นที่ดังขึ้น ทุกคนกลั้นหายใจ นี่คือความหวังสุดท้าย หากหมอมหัศจรรย์ดันบอกว่าพระอาการมีเวลาเพียงสามเดือน เช่นนั้นก็เหลือเวลาเพียงสามเดือนจริงๆ จักรพรรดิ์ซูชิงดูเหมือนสงบนิ่ง แต่ดวงตาหดเล็กลง ฝ่าพระหัตถ์ชื้นไปด้วยเหงื่อ พระองค์กำลังรอคอยคำพิพากษาครั้งสุดท้าย หมอมหัศจรรย์ดัน ไม่พลาดแม้แต่คำเดียว อ่านจนครบทุกหน้า จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นเอ่ยถาม “บันทึกชีพจรระบุว่ามีอาการปวดต่อเนื่องกว่าหนึ่งเดือน กลางคืนมิอาจข่มพระเนตร และแทบไม่อาจเสวยได้เลย” นี่เป็นเพียงการกล่าวยืนย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1472

    ซ่งซีซีกล่าว “หากหมอมหัศจรรย์ดันยอมเข้าวังมา ก็ย่อมจะทำเต็มกำลังแน่นอนเพคะ” ไทเฮาทรงนิ่งไปชั่วขณะ จากนั้นน้ำพระเนตรก็ร่วงเงียบๆ “แม้จะทำสุดความสามารถ แต่ก็ยากจะรักษาชีวิตไว้ได้ ขอเพียงสามารถยืดเวลาออกไปอีกหน่อย ให้จัดการเรื่องรากฐานแผ่นดินให้เรียบร้อย” เห็นพระนางหลั่งน้ำตาซ่งซีซีก็พลอยรู้สึกหดหู่ไปด้วย ก่อนหน้านี้เคยได้ยินเสด็จแม่กล่าวว่า ไทเฮาเป็นสตรีที่มีจิตใจเข้มแข็งนัก หยาดน้ำตาของพระองค์มีค่ามาก ต่อให้เป็นเรื่องใหญ่เพียงใด ก็ไม่เคยยอมหลั่งน้ำตาแม้แต่หยดเดียว นางไม่รู้ว่าควรปลอบพระทัยอย่างไร และก็นึกได้ว่า สิ่งที่ไทเฮาต้องการตอนนี้ คงไม่ใช่คำปลอบโยน นางจึงทำได้เพียงเฝ้าอยู่เคียงข้างอย่างเงียบๆ เซี่ยหลูโม่เดินทางไปยังร้านขายยาเย่าหวัง และได้พบกับหมอมหัศจรรย์ดัน วันนี้หลังจากมีพระบัญชาเรียกเข้าวัง อาจารย์หยูก็มาที่ร้านขายยาเย่าหวังเพื่อแจ้งข่าว ดังนั้นหมอมหัศจรรย์ดันจึงเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าแล้ว ครั้งนี้ เขาไม่ได้พาศิษย์ไปด้วย แต่เดินทางกับเซี่ยหลูโม่เพียงลำพัง ชิงเชวี่ยและหงเชวี่ยอยากตามไปด้วย แต่ถูกเขาดุไล่ให้กลับไป บนรถม้าเซี่ยหลูโม่รับปากกับเขาว่าจะปกป้องท่านให้ปลอด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1471

    ซ่งซีซีคุกเข่าอยู่เพียงชั่วครู่ แต่กลับรู้สึกเหมือนผ่านไปชั่วชีวิต ในที่สุด ก็ได้ยินเสียงถอนพระปัสสาสะเบาๆ ของจักรพรรดิ์ซูชิง ก่อนที่พระองค์จะแย้มพระสรวล “เจ้าเด็กนี่ เหตุใดถึงกลายเป็นคนเอาแต่ใจไปเสียแล้ว?” ซ่งซีซีรู้สึกคลายความกังวลลงเล็กน้อย แรกเริ่มนั้น นางทั้งโกรธและรู้สึกอัดอั้น จึงกล่าวคำนั้นออกไปโดยไม่ยั้งคิด แต่หลังจากนั้น สิ่งที่กล่าวไปมีส่วนที่เหมือนเป็นการเดิมพัน นางหวาดกลัวอยู่ในใจ เพราะไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า เมื่อจักรพรรดิ์ที่ใกล้สิ้นพระชนม์แล้วตัดสินใจอย่างโหดเหี้ยม จะเป็นเช่นไร เพียงแต่ เมื่อจักรพรรดิ์ซูชิงตรัสถามคำนั้นออกมา ไม่ว่านางจะชี้แจงอย่างไร ก็คงไร้ความหมาย มีเพียงการใช้วิธีดื้อรั้นเอาแต่ใจเช่นนี้เท่านั้น ที่อาจจะได้ผล “ลุกขึ้นเถิด” จักรพรรดิ์ซูชิง ตรัสด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้นมาก ใบหน้าซูบซีดเหลืองซีดนั้นมีรอยยิ้มบางๆ ปรากฏ “เจ้านี่นะ ยังเหมือนตอนเด็กไม่มีผิด ปากเจ้าไม่เคยยอมเสียเปรียบเลย ถามเพียงคำเดียว กลับเล่นงานข้าเสียยกใหญ่ จริงๆ แล้ว ข้าก็จนใจจะทำอย่างไรกับเจ้าได้” พระองค์ทอดพระเนตรมองซ่งซีซีแววพระเนตรล้ำลึก “เจ้าล่ะ ไปถือสากอะไรกับคนใกล้ตาย? ไ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1470

    ซ่งซีซีไม่ชอบให้นำบิดาของนางมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้นัก เพราะไม่ว่าฮ่องเต้จะตรัสสิ่งใด ก็ล้วนไม่เกี่ยวกับบิดาของนางเลย ไม่มีความจำเป็นต้องเน้นย้ำถึงความจงรักภักดีของบิดาต่อแผ่นดิน เพื่อนำมาเป็นกรอบบังคับคำตอบที่นางจะกล่าวต่อไป แต่เห็นได้ชัดว่า นางจะชอบหรือไม่ ไม่ได้อยู่ในขอบเขตที่ฮ่องเต้จะใส่พระทัย นางกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ฮ่องเต้มีเรื่องใดจะถามก็ตรัสเถิด หม่อมฉันฟังอยู่” ความเจ็บปวดเสียดลึกถึงกระดูก ทำให้จักรพรรดิ์ซูชิงไม่เลือกที่จะลองหยั่งเชิงเหมือนเคย แต่รับสั่งตรงไปตรงมาแทน “เจ้าน่าจะเป็นผู้ที่รู้จักเซี่ยหลูโม่ดีที่สุด เจ้าคิดว่า หากข้าสวรรคต แล้วเขาได้เป็นผู้สำเร็จราชการแทน จะสังหารฮ่องเต้องค์เยาว์แล้วตั้งตนเป็นจักรพรรดิ์หรือไม่?” ซ่งซีซีใจหายวาบ โทสะพลันแล่นขึ้นมาปรากฏในดวงตาเซี่ยหลูโม่ผ่านพ้นจากความเป็นความตายในหนานเจียงกลับมาอย่างยากลำบาก มิควรถูกกล่าวหาอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ นางรู้สึกเจ็บแทนเขา น้ำเสียงจึงเย็นเยียบขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และพูดเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว “ฮ่องเต้ ข้ากับเซี่ยหลูโม่เป็นสามีภรรยากันเพียงสามปี จะนับได้อย่างไรว่าเป็นผู้ที่รู้จักเขาดีที่สุด? ผู้ที่รู้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1469

    จักรพรรดิ์ซูชิงได้ส่งอู๋ต้าปั้นไปร้านขายยาเย่าหวังเพื่อหาหมอมหัศจรรย์ดันเมื่อห้าวันก่อน ตอนนั้น คนของร้านขายยาเย่าหวังบอกว่าหมอมหัศจรรย์ดันได้ออกจากเมืองไปแล้ว และไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อใด อู๋ต้าปั้นกลับมารายงาน จักรพรรดิ์ซูชิงจึงเข้าใจได้ทันทีว่าสาเหตุนั้นมาจากเรื่องในอดีต เมื่อครั้งที่เสด็จพ่อของพระองค์ทรงสังหารหมอชื่อดังในหมู่ประชาชน ทำให้หมอมหัศจรรย์ดันไม่ต้องการเข้าวังมารักษา พระองค์เคยคิดจะส่งคนไปพาตัวหมอมหัศจรรย์ดันมา ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใด บนผืนแผ่นดินนี้ล้วนเป็นดินแดนของจักรพรรดิ์ ย่อมหาวิธีตามหาเขาเจอแน่นอน แต่หากหมอมหัศจรรย์ดันไม่เต็มใจ ต่อให้พาตัวเขามา ก็คงไร้ประโยชน์ แน่นอนว่าจักรพรรดิ์ซูชิงทรงทราบดีว่ายังมีผู้ที่สามารถเชิญเขามาได้ นั่นคือซ่งซีซี เพียงแต่พระองค์ยังทรงปิดบังอาการประชวร ไม่ต้องการให้เหล่าขุนนางทั้งหลายล่วงรู้เร็วจนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่อยากให้เซี่ยหลูโม่รู้เร็วจนเกินไป เขาเพิ่งสร้างผลงานจากสนามรบกลับมา เป็นที่เลื่อมใสของประชาชน หากได้รู้เรื่องพระอาการประชวรของพระองค์ และเตรียมการแต่เนิ่นๆ การกระทำของเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะประสบความสำ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1468

    งานเลี้ยงฉลองชัยชนะในวันรุ่งขึ้นถูกยกเลิก ทางวังส่งคนมาแจ้งว่า ฮ่องเต้ทรงเป็นหวัด ไอหนักมาก แม้ว่างานเลี้ยงฉลองจะไม่ได้จัดขึ้น แต่ราชโองการว่าด้วยการปูนบำเหน็จแก่ผู้มีความชอบก็ถูกประกาศออกมาอย่างรวดเร็ว ฝางเทียนสวี ได้รับแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพใหญ่ของหนานเจียง เลื่อนตำแหน่งเป็นแม่ทัพผู้พิทักษ์แผ่นดินชั้นเอก ฉีหลิน และแม่ทัพท่านอื่นๆ ได้รับเลื่อนยศเป็นขุนนางฝ่ายทหารชั้นสามและชั้นรองสาม ยังคงประจำการที่หนานเจียง มีการจัดสรรเงินทุนเพื่อสร้าง จวนแม่ทัพ ที่หนานเจียง พร้อมอนุญาตให้นำครอบครัวไปอยู่ด้วย สำหรับทหารที่เสียชีวิตในการรบ ทางการจัดสรรเงินเยียวยาให้ครอบครัว ทหารที่บาดเจ็บได้รับเงินปลอบขวัญคนละสิบตำลึงเงิน ทุกคนที่มีความชอบล้วนได้รับการจัดสรรรางวัลอย่างชัดเจน เว้นแต่ เซี่ยหลูโม่ ที่ยังไม่มีการกำหนดรางวัลแน่นอน ในเบื้องต้น พระองค์ได้รับ ทองคำพันตำลึง ผ้าไหมห้าสิบพับ และยังคงดำรงตำแหน่ง ต้าหลี่ซื่อชิง เช่นเดิม ในราชโองการประกาศยกย่องเซี่ยหลูโม่เป่ยหมิงอ๋องว่าได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อแผ่นดิน พรรณนาความดีความชอบด้วยถ้อยคำสละสลวย แต่ก็ยังเป็นเพียง วาจาชื่นชมที่ไร้เนื้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1467

    เซี่ยหลูโม่กุมมือของซ่งซีซีไว้แน่น เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ข้าไม่มีวันยอมรับพระชายารองหรืออนุภรรยา ข้าไม่มีใจให้ผู้ใดนอกจากเจ้า เจ้าต้องเชื่อใจข้าเสมอ" ซ่งซีซีจ้องมองเขาด้วยสายตาอ่อนโยน "แน่นอนว่าข้าย่อมเชื่อ มิฉะนั้นข้าคงไม่ปฏิเสธเรื่องนี้โดยเด็ดขาด" เขาดึงนางเข้ามาโอบกอด ทั้งสองพิงพาอิงแอบกัน ความไว้เนื้อเชื่อใจที่มีต่อกันทำให้พวกเขามั่นคง ไม่หวั่นไหวต่อเรื่องราวใดๆ "อาการป่วยของฮ่องเต้ ได้ให้หมอมหัศจรรย์ดันตรวจหรือไม่?" เซี่ยหลูโม่ถาม ซ่งซีซีส่ายหน้าเบาๆ ในอ้อมแขนของเขา "ไม่เคย ฮ่องเต้ไม่เอ่ยปากเอง ย่อมไม่มีใครกล้ากล่าวแนะนำ ไทเฮาก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้" เซี่ยหลูโม่ถอนหายใจเบาๆ "เขาดูแก่ลงไปสิบปี ตอนที่ข้าพบเขาครั้งแรก ข้ายังตกใจไม่น้อย" ซ่งซีซีพบจักรพรรดิซูชิงเป็นครั้งคราว นางไม่ได้รู้สึกว่าเขาดูแก่ลงขนาดนั้น แต่ก็แน่นอนว่าเขาซูบซีดและอิดโรยไปมาก ดวงตาก็ขุ่นมัวลง ซ่งซีซีกล่าว "เจ้ากรมทั้งหกและข้าไม่มีใครแนะนำหมอมหัศจรรย์ดัน เพราะตอนที่เขาเสด็จออกจากวังมาที่จวนอ๋อง ได้กล่าวไว้ว่าจะไปหาหมอมหัศจรรย์ดันโดยส่วนตัว ดังนั้นเจ้ากรมทั้งหกจึงไม่คิดแนะนำซ้ำ แต่ที่ข้าแปลก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1466

    หลังจากจัดการบาดแผลเรียบร้อยแล้ว ซ่งซีซีเป็นผู้ไปส่งหมอมหัศจรรย์ดันและศิษย์ของเขาด้วยตนเอง ระหว่างทาง หมอมหัศจรรย์ดันยังคงกำชับเบาๆ "จดจำไว้ให้ดี ห้ามใช้พลังภายในอีกเป็นอันขาด การต่อสู้ก็ไม่ได้ เขาบาดเจ็บที่ตันเถียน เดิมทีก็ฝืนใช้พลังภายในไปแล้ว ยังฝืนเดินทางกลับมาอย่างเร่งรีบทั้งที่บาดแผลยังไม่หายดี ตอนที่ข้าจับชีพจรให้ เขายังพยายามฝืนกักลมปราณปกป้องร่างกาย นี่เป็นเรื่องที่อันตรายถึงชีวิตจริงๆ ตอนนี้เขาเปราะบางราวกับเปลือกไข่ หากมีใครคิดปองร้ายเขาเวลานี้ คงเป็นเรื่องง่ายดายยิ่ง ดังนั้นต้องระมัดระวังให้ถึงที่สุด เข้าใจหรือไม่?" "อีกอย่าง เรื่องของเขา ยิ่งมีคนน้อยคนรู้ยิ่งดี สถานการณ์เช่นนี้ จิตใจมนุษย์ไว้ใจไม่ได้ที่สุด" ซ่งซีซีรู้ดีว่าท่านลุงดันเป็นคนรอบคอบ คำเตือนของเขาก็เพื่อตัวนางและสามี จะไม่ซาบซึ้งได้อย่างไร นางจึงรีบรับคำและให้คำมั่น ภายในจวน อาจารย์หยูสั่งให้ทุกคนแยกย้ายออกไป เพื่อให้ท่านอ๋องได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ หลังจากที่เดินทางมาอย่างเหน็ดเหนื่อย และต้องรบในหิมะและความหนาวเย็นเป็นเวลานาน จนต้องดื่มน้ำหิมะทำให้กระเพาะและม้ามได้รับความเสียหาย เขาจำเป็นต้องพักผ่อนแล

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status