공유

บทที่ 1016

작가: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
อ๋องเยี่ยนดูใจร้อนเล็กน้อย "กู้ชิงหวู่กลายเป็นคนโปรดของหวังเบียวแล้ว แต่หวังเบียวยังไม่ชนะใจของพวกทหาร ดังนั้นนี่จึงเร่งไม่ได้ ส่วนทางซีจิงก็จะวางแผนอยู่ ต้องรอ เราไม่สามารถไม่ทำอะไรเลยนี่นะ เสิ่นว่านหงไร้ประโยชน์งั้นก็เปลี่ยนเสิ่นว่านจือแทน ข้ารู้สึกว่าสิ่งที่คุณชายพูดไม่สมเหตุสมผล เสิ่นว่านหงและซ่งซีซีต่างเป็นพระชายาทั้งคู่ ข้าไม่เชื่อว่าเสิ่นว่านจือไม่มีความคิดกับตำแหน่งพระชายา ผู้หญิงที่หยิ่งเช่นนาง นางยิ่งต้องการแต่งงานกับคู่ครองมีฐานะสูง ผู้ชายธรรมดาๆคงไม่เข้าตานาง"

อู๋เซี่ยงพยายามโน้มน้าว แต่เขาไม่ยอมฟัง และจมอยู่กับแผนการของเขาเอง ผู้หญิงจะไม่สนใจความบริสุทธิ์ของตนเองได้อย่างไร ถ้ามอบตัวให้เขา ยังกล้าฉีกหน้าเขาหรือไง?

เมื่อถึงเวลามอบตำแหน่งพระชายาให้ นางคงจะมีความสุขมากกว่าใครๆ ทั้งนั้น

ซ่งซีซีกลับจวนอ๋องตั้งนานแล้ว เมื่อหงเซียวมารายงานว่าเสิ่นว่านจือไปที่ จวนอ๋องเยี่ยน นางกำลังหารือเรื่องต่างๆ กับลู่เจิน หลังจากหารือเสร็จ นางก็กลับจวนโดยตรง

เสิ่นว่านจือกลับจวนแล้ว หลังจากตบหน้าเสร็จ นางก็รู้สึกสะใจเล็กน้อย แต่ไม่นานนักก็เริ่มกังวลทันที

ไม่ใช่ว่ากังวลเกี่ยวกับตัวเอง แต่นาง
잠긴 챕터
GoodNovel에서 계속 읽으려면
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

관련 챕터

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1017

    ในห้องโถงด้านข้าง เสิ่นว่านจือมองดูพระชายาอ๋องเยี่ยนที่กำลังขอโทษตนเองอย่างจริงใจด้วยสีหน้าเย็นชา หากนางไม่รู้จักลูกพี่ลูกน้องคนนี้ดีนัก นางก็คงจะเชื่อนางจริงๆ"จริงๆ เลย เจ้าเชื่อพี่นะ เป็นเพราะเจียอี้มาหาข้าและขอร้องให้ข้าช่วยนางแสวงหาความยุติธรรม ข้าใจอ่อนไปเลยยอมช่วยนาง หลังจากที่เจ้าจากไปเมื่อวาน ท่านอ๋องก็ด่าข้าอยู่นาน โดยบอกว่าสร้างโรงงานเพื่อประโยชน์ของผู้หญิง ข้าไม่ควรใส่ร้าย ข้าสำนึกผิดแล้ว เจ้ายกโทษให้พี่ได้ไหม"เสิ่นว่านจือไม่เชื่อแม้แต่คำเดียวเลยไม่เชื่อว่านางใจอ่อนเลยไปช่วยเหลือเจียอี้สักหน่อย และยิ่งไม่เชื่อว่าอ๋องเยี่ยนจะพูดว่า "การสร้างโรงงานเพื่อประโยชน์ของผู้หญิง"ท่านป้าของซีซี อดีตพระชายาอ๋องเยี่ยนได้ตายอย่างไรเล่า คนอื่นอาจไม่รู้ แล้วนางจะไม่รู้ได้อย่างไร?เสิ่นว่านจือฟังนางพูดอย่างใจเย็น แล้วเห็นน้ำตาแห่งความเสียใจของนางไหลออกมาไม่หยุด นางรู้สึกว่าหลังจากลูกพี่ลูกน้องคนนี้เป็นพระชายาอ๋องเยี่ยนแล้ว เรื่องอื่นนางไม่ได้เรียนแต่ทักษะการแสดงกลับเก่งมากทีเดียว ดูท่าว่าในปกติต้องดูการแสดงไม่น้อยเลย"พูดได้ดีมากนะ แต่วันนี้มาเพื่อขอโทษ ทำไมไม่ส่งจดหมายขอพนเล่า แล้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1018

    หลังจากการประชุมยามเช้าเสร็จ เซี่ยหลูโม่นำคดีที่ได้รับกาทบทวนเมื่อเร็วๆ นี้ไปที่ห้องทรงพระอักษรเพื่อไปพบฝ่าบาท และรายงานความคืบหน้าการสอบสวนคดีกบฏตามปกติคดีกบฏยังไม่จบ ดังนั้นหอต้าหลี่จึงยังคงสืบสวนอยู่ และจะมีการรายงานทุกๆ สักพัก มันก็ทำงานตามกฏ ขณะนี้มุ่งความสงสัยไปที่อ๋องเยี่ยน แต่ฝ่าบาทไม่อนุญาตให้หอต้าหลี่ทำการตรวจสอบ ถึงขนาดยังไม่พูดถึงเรื่องนี้อย่างเปิดเผย แม้ว่าเซี่ยหลูโม่จะชี้แจงอย่างชัดเจน แต่เขาก็เงียบตลอดจักรพรรดิ์ซูชิงอ่านเอกสารบันทึกคดีคร่าวๆ ฟังเขาพูดถึงความคืบหน้าของคดีกบฏ และกล่าวว่า "ดูเหมือนว่าจะยังไม่มีความคืบหน้าที่แท้จริง"มีความคืบหน้าได้ แต่ท่านต้องสั่งสิ!จักรพรรดิ์ซูชิงวางเอกสารบันทึกคดีไว้ข้างๆ และตรัสว่า "งั้นก็สอบสวนกันต่อไป""พะย่ะค่ะ!" เซี่ยหลูโม่ตอบรับเมื่อเห็นว่าเขายังคงไม่ยอมจากไป จักรพรรดิ์ซูชิงจึงถามว่า "มีอะไรอีกหรือ"เซี่ยหลูโม่ยิ้มและพูดว่า "มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ เสด็จอาเยี่ยมชวนกระหม่อม และครอบครัวของกระหม่อมไปงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ย้านในคืนนี้"จักรพรรดิ์ซูชิงเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาฉายแววประหลาดใจเล็กน้อย แล้วยิ้ม "จะว่าไปแล้ว เสด็จอากลั

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1019

    อู๋เซี่ยงถอนหายใจเล็กน้อย "หากเป็นผู้หญิงคนอื่นมาใช้ยาของท่านอ๋องก็ไม่เป็นไร แต่คนๆ นี้คือเสิ่นว่านจือ ดังนั้นยาธรรมดาจึงไม่สามารถจัดการกับนางได้"อ๋องเยี่ยนถามว่า "ผลของยาเหล่านี้ก็ล้วนกระตุ้นอารมณ์ไม่ใช่หรือ ยาของเจ้าแตกต่างกันอย่างไรหรือ"อู๋เซี่ยงกล่าวว่า "เอาจริงๆ ว่ายาของท่านอ๋องไม่ได้กระตุ้นอารมณ์ทางเพศ แต่แค่ให้เกิดความปรารถนา ยาของข้าคือยาชนิดหนึ่งของพิษเหมียว สารพิษจะทำให้สมองเป็นอัมพาต ทำให้นางเกิดอารมณ์เราร้อนและรักใคร่กับบุคคลนั้นหลังจากมีเพศสัมพันธ์"อ๋องเยี่ยนดีใจมาก "ด้วยยาวิเศษเช่นนี้ ทำไมคุณชายไม่เอามาให้ตั้งแต่แรกเล่า หากนางมีใจให้ข้า งั้นสิ่งที่ข้าต้องการก็กลายเป็นสิ่งที่นางต้องการสินะ"อู๋เซี่ยงยิ้มอย่างขมขื่น "ท่านอ๋อง สิ่งที่เรียกว่าความรักใคร่นี้ขัดต่อเจตจำนงของผู้คน ดังนั้นจึงสามารถคงอยู่ได้เพียงช่วงระยะเวลาอันสั้นเท่านั้น""จะอยู่ได้นานแค่ไหน" อ๋องเยี่ยนถาม"สิบวันถึงครึ่งเดือน"อ๋องเยี่ยนรับขวดยา และมีแสงสีเข้มแวบขึ้นมาในดวงตาของเขา "จะเป็นอย่างไรบ้างถ้ายาหมดฤทธิ์แล้วเราก็ให้กินยาต่ออีก? มันไม่เท่ากับว่าจะยื้อเวลาให้มีความรู้สึกแบบนี้ตลอดเหรอ?"อู๋เซี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1020

    ยามโย รถม้าสองคันจากจวนเป่ยหมิงอ๋องมาถึงประตูจวนอ๋องเยี่ยนตรงเวลาเมื่อรถม้ามาถึง ผู้ดูแลประตูก็รีบไปรายงาน ทางจวนอ๋องเยี่ยนเปิดประตูกลางเพื่อต้อนรับเขา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าให้ความสำคัญมากเพียงใดนางเสิ่นและชายารองจินนำอวี้ชิงและอวี้หยินสองคนรอต้อนรับที่หน้าประตู เนื่องจากเสิ่นว่านจือเป็นผู้หญิง เซี่ยหรูเฉาและเซี่ยหรูหลิงจึงไม่ออกมาต้อนรับด้วยเมื่อเห็นรถม้าสองคัน หัวใจของชายารองจินก็เต้นรัว นางรู้ดีถึงแผนการของอ๋องเยี่ยน คืนนี้น่าจะมีเสิ่นว่านจือคนเดียว แล้วทำไมถึงต้องการรถม้าสองคัน?เมื่อเห็นเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีลงจากรถม้า ชายารองจินก็ตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง และรอยยิ้มที่เรียบร้อยบนใบหน้าของนางก็แข็งทื่อทันที ทำไมพวกเขาก็มาด้วยล่ะ"ไหนบอกว่าชวนแค่เสิ่นว่านจือไม่ใช่เหรอ เจ้าเชิญชวนนางยังไงกัน" ชายารองจินกัดฟันกรอดและถามนางเสิ่นที่อยู่ข้างๆ ด้วยเสียงต่ำนางเสิ่นมีความสุขมาก เดิมทีท่านอ๋องแค่ให้นางไปเชิญเสิ่นว่านจือ แต่ตอนนี้ทั้งเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีต่างก็มาด้วย งั้นท่านอ๋องก็ต้องดีใจมากทีเดียวเมื่อนางกำลังอารมณ์ดีนั้นกลับได้ยินน้ำเสียงที่ถามจี้จากชายารองจิน และนางก็ทำหน้าบึ้งตึงทันท

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1021

    อู๋เซี่ยงไม่ไว้ใจจึงชักชวนต่อไป "ท่านอ๋อง หากท่านประสบความสำเร็จ ท่านจะหาผู้หญิงแบบไหนก็ได้หมด เมื่อถึงตอนนั้นท่านจะคิดว่าเสิ่นว่านจือก็ธรรมดาทีเดียว""เอาล่ะ" สีหน้าของอ๋องเยี่ยนค่อนข้างไม่าู้ดี หลังจากพูดว่า "เอาล่ะ" เขาก็รู้สึกถึงความคับข้องใจในใจ เขาไม่สามารถควบคุมมันได้ ความคับข้องใจนี้เกิดขึ้นราวกับพายุแรงที่พุ่งเข้ามา ทำให้เขาระเบิดออกมาในชั่วขณะหนึ่ง "ที่ผ่านมาข้าถือว่าจิตใจผ่องแผ้วบริสุทธิ์มากแล้ว ทุกๆ วันก็ใช้ชีวิตอย่างเข้มงวด ระงับความต้องการของตนเอง และไม่กล้าเดิกข้อผิดพลาดใดๆ หาใช่ว่าข้าไม่มีคนที่ถูกใจ แต่ข้าต่างก็ไม่สนใจ เพราะข้ารู้ว่าหากมกมุ่นอยู่กับความสุกจะมีแต่เป็นผลเสียกับแผนการของตนเอง แต่เสิ่นว่านจือแตกต่างออกไป นางคือคนแรกที่ทำให้ข้าถูกตาต้องใจ ในขณะเดียวกันก็ช่วยข้าได้ นางเป็นตัวเลือกที่เป็นพระชายาอ๋องเยี่ยนที่ดีที่สุดคำพูดเหล่านี้ทำให้อู๋เซี่ยงรู้สึกหวาดกลัวและโกรธด้วย เป็นครั้งแรกที่เขาตำหนิเขาด้วยน้ำเสียงที่เอาจริงเอาจังมาก "ที่ท่านอ๋องบอกว่าถูกใจ หมายความว่ามีใจให้เสิ่นว่านจือเหรอ ชอบนางใช่ไหม หากท่านคิดเช่นนั้น ข้าจะบอกอะไรท่านว่ามันไม่ใช่ นี่เป็นเพียงข้อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1022

    เซี่ยหลูโม่กล่าวด้วยรอยยิ้ม "เสด็จอาจะคิดว่าหลานโกรธกับท่านได้ยังไง หรือว่าเสด็จอาได้ทำอะไรไม่ดีกับหลานเหรอ"อ๋องเยี่ยนหัวเราะและโบกนิ้วต่อหน้าเขา "ชอบเล่นลิ้นเอาเสีย!"เขาเดินไปที่ที่นั่งหลัก ยกเสื้อคลุมขึ้นแล้วนั่งลง "ทุกคนนั่งเถอะ อย่ามัวแต่ยืนอยู่"เขาสวมเสื้อผ้าผ้าไหมชั้นดีที่ปักด้วยลวดลายนกกระเรียนบินด้วยด้ายสีทอง ริมฝีปากดูเหมือนจะถูกย้อมด้วยสีเล็กน้อย ทำให้ดูแดง รู้สึกมีความมั่นใจมาก เสิ่นว่านจือเหลือบมองนางแวบหนึ่ง ไม่รู้ทำไมดูเขาเหมือนนกยูงตัวผู้ที่กำลังรำแพนหางหลังจากที่ทุกคนนั่งแล้ว อู๋เซี่ยงก็เข้ามาพร้อมกับเซี่ยหรูหลิงและเซี่ยหรูเฉา พี่น้องสองคนแต่เดิมก็ชอบซ่งซีซีและเซี่ยหลูโม่มาก แต่ตอนนี้กลับดูเหินห่างเล็กน้อย พวกเขาก็นั่งลงก่อนคารวะ ทั้งสองมีสีหน้าแปลกๆ ไม่กล้าแม้แต่จะสบตามองเซี่ยหลูโม่ตรงๆเซี่ยหลูโม่มองไปที่อู๋เซี่ยง และรู้ว่าเขาเป็นที่ปรึกษาที่อยู่เบื้องหลังคอยให้คำแนะนำแกอ๋องเยี่ยน ไม่รู้ว่าเป็นเขาที่มองผิดหรือเปล่า มักจะรู้สึกว่าเขาได้ทะเลาะกับอ๋องเยี่ยนมายิ่งไปกว่านั้น การทะเลาะกันครั้งนี้ไม่ได้จยลงด้วยดี ดสงตาของทั้งสองยัหลงเหลือความโกรธอยู่ ความโกรธกลายเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1023

    แต่เดิมอวี้ชิงยังคงกลัวซ่งซีซีอยู่เล็กน้อย แต่หลังจากได้ยินคำพูดนี้ นางก็ลุกขึ้นยืนและพูดด้วยความโกรธจัดทันที "ซ่งซีซี เจ้าใส่ร้ายข้าเช่นนี้ ทำลายชื่อเสียงของข้า มันจะมีประโยชน์อะไรต่อเจ้า"ฃกุ้นเอ๋อร์ตะโกนอย่างแรง "ช่างบังอาจ เสี้ยนจู่ที่ต่ำต้อยยังกล้าเรียกพระชายาด้วยชื่อจริงตรงๆ เหรอ?"ซ่งซีซียกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กุ้นเอ๋อร์ออกไป จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองอวี้ชิง และพูดประชดว่า "จ้าเห็นเจ้าก็ปากร้ายนี่ ทำไมตอนที่เสด็จแม่ของเจ้าถูกรังแกนั้น เจ้าไม่ออกหน้าช่วยพูดให้นางเล่า หากไม่กล้าพูด ก็คอยดูแลนางอยู่ข้างกายก็ได้ ไม่เสียแรงที่นางให้กำเนิดพวกเจ้า"อวี้ชิงปรี๊ดแตก แต่เมื่อเห็นสายตาอันเย็นชาของเซี่ยหลูโม่มองเข้ามา ทำเอานางรู้สึกหนาวสั่นในใจ และไม่กล้าที่จะอ้าปากไปสาปแช่งอีก แต่พูดอย่างไม่พอใจ "เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย เจ้าเก่งมากนักก็ไปดูแลเองสิ ดีแต่ปาก ทำไมไม่ทำเองเล่า เจ้าก็เรียกนางว่าท่านป้าด้วยนะ"ซ่งซีซีหัวเราะเยาะ "สิ่งที่เจ้าพูดนั้นสมเหตุสมผลจริงๆ ที่แท้ถ้าตนเองอกตัญญูก็สามารถไปหาว่าคนอื่นไม่ช่วยให้ ข้าต้องจดจำเอาไว้ เดี๋ยวหาเวลาไปบอกมู่ฮูหยิน เพื่อให้มู่ฮูหยินช่วยเจ้าประกาศสักหน่อย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1024

    อ๋องเยี่ยนด่านาง สั่งให้นางกลับไปสำนึกผิด อย่ามาขายหน้าคนอื่นอีก ชายารองจินเรียกอวี้หยินออกไปพร้อมนางทันทีที่ชายารองจินออกมาจากประตู ก็นำสาวใช้ไล่ตามซ่งซีซีไป แม้ว่าจะไม่มีห้องลับในจวนหลังนี้ แต่ก็ไม่ใช่สถานที่ที่จะบุกเข้าไปได้มั่วๆ นางเสิ่นเป็นคนโง่ กลัวว่าจะถูกหลอกอู๋เซี่ยงแอบสังเกตเซี่ยหลูโม่เงียบๆ แลแม้ว่าเขาจะพูดคุยกับท่านอ๋อง แต่มีสีหน้าไม่ค่อยดี สายตามองออกไปข้างออกเป็นครั้งคราว ราวกับว่าคู่หนุ่มสาวทะเลาะกัน ทั้งโกรธแต่ก็ไม่อยากจากไปบวกกับสายตาที่ไม่แยแสของซ่งซีซีก่อนที่นางจากไป เกรงว่ามันไม่ได้เสแสร้ง อย่างน้อยมีเรื่องหนึ่งที่แน่ใจได้ จุดประสงค์ของซ่งซีซีมาที่จวนอ๋องเยี่ยนเพื่อช่วยแก้แค้นให้พระชายาอ๋องเยี่ยนความโกรธนี้เก็บไว้ในใจของนางมานานแล้ว และอู๋เซี่ยงคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่จะให้นางระบายความโกรธ ก็เป็นเรื่องดี หลังจากที่พวกนางออกไป เป่ยหมิงอ๋องก็ยังอยู่ที่นั่นซึ่งทำให้พูดคุยได้ง่ายขึ้น“หลูโม่ เสด็จแม่ของเจ้าสบายดีไหม" อ๋องเยี่ยนกำลังถามสารทุกข์สุขดิบกับเซี่ยหลูโม่เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ขอบคุณที่เสด็จอาห่วงใย เสด็จแม่สบายดี ไทเฟยหรงได้ดีขึ้นมาบ้างหรือยัง?"“ใน

최신 챕터

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1476

    จักรพรรดิ์ซูชิงทรงนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนสีพระพักตร์จะค่อยๆ เคร่งขรึมขึ้น "หมอมหัศจรรย์ดันบอกว่า ข้ายังมีชีวิตอยู่ได้อีกสามปี แต่ก่อนหน้านี้ หมอหลวงเคยบอกว่า ข้าน่าจะอยู่ได้หนึ่งปี ทว่าผ่านไปไม่นาน กลับเหลือเพียงแค่หกเดือน ข้าคิดว่า คำของหมอทั้งหลาย เมื่อมาถึงตัวข้า ก็ควรจะต้องลดลงครึ่งหนึ่งเสมอ เช่นนั้น หนึ่งปีครึ่งที่เหลือ อาจจะไม่ได้มีจริงด้วยซ้ำ" "เสด็จพี่ อย่าทรงคิดในแง่ร้าย..." จักรพรรดิ์ซูชิงยกพระหัตถ์ขึ้นปราม "เจ้าฟังข้าก่อน บัดนี้ ข้ามีสติแจ่มชัด มิได้เลอะเลือน เรื่องแต่งตั้งรัชทายาท ต้องรีบจัดการ แต่ปัญหาคือ ข้าไม่กล้าตั้งใคร ยังเหลือเวลาอีกหลายปีกว่าพระจักรพรรดิ์องค์ใหม่จะเติบโตขึ้นปกครองแผ่นดิน มหาเสนาบดีแก่ชราลงแล้ว ข้าไม่รู้ว่าจะฝากบ้านเมืองไว้ในมือใครได้ นอกจากเจ้า" เซี่ยหลูโม่มิได้เอ่ยสิ่งใด เพราะเขารู้ดีว่า ความไว้วางใจและความระแวงของเสด็จพี่ล้วนเกิดขึ้นโดยไร้หลักการ มันมักมาเป็นระยะๆ "ข้า มีพระโอรสสามองค์ เดิมทีมีองค์ชายใหญ่เป็นรัชทายาทโดยธรรมชาติ ตำแหน่งรัชทายาทจึงไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่องค์ชายใหญ่ เขาธรรมดาเกินไป ธรรมดาก็ไม่เป็นไรนัก แต่เขา ขี้เกียจ หยิ่งยะโส

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1475

    ขณะที่ทุกคนกำลังตื่นเต้นกลับต้องพบว่า ดูหรือไม่ดู ก็ไม่ต่างกันเลย เพียงเห็นว่าหมอมหัศจรรย์ดันคีบเข็มไว้ในซอกนิ้วทั้งห้า แล้วในพริบตาเดียว เข็มสี่เล่ม ก็ปักลงจุดได้อย่างแม่นยำ พวกเขาแทบมองเห็นเพียงแค่ภาพลวงตาของมือหนึ่งข้างเท่านั้น แต่ผลลัพธ์กลับแม่นยำและมั่นคง ราวกับว่าทุกอย่างจบลงในพริบตาเดียว ทั้งสี่จุด แม้จะอยู่ไม่ไกลกันนัก แต่การจะหา จุดฝังเข็ม ให้ถูกต้อง และปักเข็มลงไปอย่างแม่นยำโดยไม่ลังเลนั้น ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ ก็ต้องใช้เวลาไม่น้อย แต่หมอมหัศจรรย์ดันกลับทำได้ในพริบตาเดียว หลังจากฝังเข็มแล้ว เขาจึงให้จักรพรรดิ์ซูชิงเสวยซูซื่อตันเพื่อบรรเทาอาการปวด ผลของยาระงับปวดชัดเจนมาก สีพระพักตร์ของจักรพรรดิ์ซูชิงดีขึ้นทันตา ไม่ซีดเผือดเหมือนก่อนหน้านี้ หมอมหัศจรรย์ดันถอนเข็มออก ก่อนจะเขียนตำรับยา จากนั้นจึงหยิบยาดันเสวี่ยออกมาจากหีบยา แล้วกล่าวว่า "ทุกคนต่างคิดว่ายาดันเสวี่ย ใช้เพียงเพื่อบำรุงชีพจร แต่แท้จริงแล้ว มันช่วยฟื้นฟูร่างกายและบำรุงอวัยวะทั้งห้า ได้ด้วย ต่อไป ฮ่องเต้ต้องใช้ยาที่แรงขึ้น ยานี้จึงจำเป็นต้องช่วยคุ้มครอง ตับและไต โดยปกติ ควรเสวยทุกเจ็ดวันหนึ่งเม็ด แต่บัดน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1474

    จักรพรรดิ์ซูชิง ทรงเงียบอยู่ชั่วขณะ ก่อนมีพระบัญชาให้จัดเตรียมห้องพักในตำหนักข้างเคียงของตำหนักเฉียนหยาง พร้อมทั้งส่งแพทย์จากสำนักหมอหลวงมาคอยดูแลหมอมหัศจรรย์ดัน พร้อมกันนั้น ทรงมีพระบัญชาให้จางฉีเหวินและฉีกุ้ยเป็นองครักษ์ส่วนตัวของหมอมหัศจรรย์ดัน คอยติดตามดูแลเขาตลอดเวลา พระองค์ทรงทราบดีว่าจางฉีเหวินเป็นศิษย์ของเสิ่นว่านจือ การให้เขาคุ้มครองหมอมหัศจรรย์ดัน ก็เพื่อให้หมอมหัศจรรย์ดันรู้สึกวางใจ แต่เพื่อให้พระองค์เองก็วางใจได้เช่นกัน จึงทรงส่งฉีกุ้ยไปด้วยอีกคน ยิ่งไปกว่านั้น พระองค์ยังมีพระบัญชาให้สำนักหมอหลวงปฏิบัติตามคำสั่งของหมอมหัศจรรย์ดันเป็นอันดับแรก อำนาจนี้ยิ่งใหญ่ไม่น้อย แต่แท้จริงแล้ว พระองค์หวังให้สำนักหมอหลวงเป็นฝ่ายจัดหายา หมอมหัศจรรย์ดันมิได้ใส่ใจเรื่องนี้ ขอเพียงมีคนทำตามคำสั่งก็เพียงพอแล้ว แต่จากการที่จักรพรรดิ์ซูชิงทรงส่งจางฉีเหวินและฉีกุ้ยไป อาจมองออกได้ว่า พระองค์มิได้ไว้วางพระทัยผู้คนจากฝ่ายใน บัดนี้ พระองค์และหมอมหัศจรรย์ดัน มีชะตาเดียวกัน หากหมอมหัศจรรย์ดันตาย พระองค์ก็ตาย หากหมอมหัศจรรย์ดันมีชีวิตอยู่ พระองค์ก็อาจอยู่ได้อีกอย่างน้อยสามปี สามปีไม่ยาว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1473

    ณ ตำหนักเฉียนหยาง อู๋ย่วนเจิ้งและหมอหลวงหลินยืนอยู่ด้านข้างเซี่ยหลูโม่กับอู๋ต้าปั้นก็อยู่ข้างเตียง ต่างเฝ้ารอให้หมอมหัศจรรย์ดันตรวจชีพจร หลังจากตรวจชีพจรแล้วหมอมหัศจรรย์ดันถามถึงบันทึกชีพจรในอดีตและสูตรยาที่ใช้รักษาก่อนหน้านี้ หมอหลวงหลิน นำบันทึกมาให้เขา พลางกล่าวด้วยท่าทีเคารพ “หมอดัน โปรดตรวจดูเถิด” ในวังหลวงแห่งนี้ ไม่มีผู้ใดกล้าเรียกเขาว่าหมอมหัศจรรย์อีกแล้ว เพราะสำนักหมอหลวงก็เคยผ่านการกวาดล้างครั้งใหญ่เช่นกัน หมอมหัศจรรย์ดันรับบันทึกมา เปิดดูทีละหน้า ภายในตำหนักเงียบสนิท มีเพียงเสียงกระดาษที่เขาพลิกเท่านั้นที่ดังขึ้น ทุกคนกลั้นหายใจ นี่คือความหวังสุดท้าย หากหมอมหัศจรรย์ดันบอกว่าพระอาการมีเวลาเพียงสามเดือน เช่นนั้นก็เหลือเวลาเพียงสามเดือนจริงๆ จักรพรรดิ์ซูชิงดูเหมือนสงบนิ่ง แต่ดวงตาหดเล็กลง ฝ่าพระหัตถ์ชื้นไปด้วยเหงื่อ พระองค์กำลังรอคอยคำพิพากษาครั้งสุดท้าย หมอมหัศจรรย์ดัน ไม่พลาดแม้แต่คำเดียว อ่านจนครบทุกหน้า จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นเอ่ยถาม “บันทึกชีพจรระบุว่ามีอาการปวดต่อเนื่องกว่าหนึ่งเดือน กลางคืนมิอาจข่มพระเนตร และแทบไม่อาจเสวยได้เลย” นี่เป็นเพียงการกล่าวยืนย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1472

    ซ่งซีซีกล่าว “หากหมอมหัศจรรย์ดันยอมเข้าวังมา ก็ย่อมจะทำเต็มกำลังแน่นอนเพคะ” ไทเฮาทรงนิ่งไปชั่วขณะ จากนั้นน้ำพระเนตรก็ร่วงเงียบๆ “แม้จะทำสุดความสามารถ แต่ก็ยากจะรักษาชีวิตไว้ได้ ขอเพียงสามารถยืดเวลาออกไปอีกหน่อย ให้จัดการเรื่องรากฐานแผ่นดินให้เรียบร้อย” เห็นพระนางหลั่งน้ำตาซ่งซีซีก็พลอยรู้สึกหดหู่ไปด้วย ก่อนหน้านี้เคยได้ยินเสด็จแม่กล่าวว่า ไทเฮาเป็นสตรีที่มีจิตใจเข้มแข็งนัก หยาดน้ำตาของพระองค์มีค่ามาก ต่อให้เป็นเรื่องใหญ่เพียงใด ก็ไม่เคยยอมหลั่งน้ำตาแม้แต่หยดเดียว นางไม่รู้ว่าควรปลอบพระทัยอย่างไร และก็นึกได้ว่า สิ่งที่ไทเฮาต้องการตอนนี้ คงไม่ใช่คำปลอบโยน นางจึงทำได้เพียงเฝ้าอยู่เคียงข้างอย่างเงียบๆ เซี่ยหลูโม่เดินทางไปยังร้านขายยาเย่าหวัง และได้พบกับหมอมหัศจรรย์ดัน วันนี้หลังจากมีพระบัญชาเรียกเข้าวัง อาจารย์หยูก็มาที่ร้านขายยาเย่าหวังเพื่อแจ้งข่าว ดังนั้นหมอมหัศจรรย์ดันจึงเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าแล้ว ครั้งนี้ เขาไม่ได้พาศิษย์ไปด้วย แต่เดินทางกับเซี่ยหลูโม่เพียงลำพัง ชิงเชวี่ยและหงเชวี่ยอยากตามไปด้วย แต่ถูกเขาดุไล่ให้กลับไป บนรถม้าเซี่ยหลูโม่รับปากกับเขาว่าจะปกป้องท่านให้ปลอด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1471

    ซ่งซีซีคุกเข่าอยู่เพียงชั่วครู่ แต่กลับรู้สึกเหมือนผ่านไปชั่วชีวิต ในที่สุด ก็ได้ยินเสียงถอนพระปัสสาสะเบาๆ ของจักรพรรดิ์ซูชิง ก่อนที่พระองค์จะแย้มพระสรวล “เจ้าเด็กนี่ เหตุใดถึงกลายเป็นคนเอาแต่ใจไปเสียแล้ว?” ซ่งซีซีรู้สึกคลายความกังวลลงเล็กน้อย แรกเริ่มนั้น นางทั้งโกรธและรู้สึกอัดอั้น จึงกล่าวคำนั้นออกไปโดยไม่ยั้งคิด แต่หลังจากนั้น สิ่งที่กล่าวไปมีส่วนที่เหมือนเป็นการเดิมพัน นางหวาดกลัวอยู่ในใจ เพราะไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า เมื่อจักรพรรดิ์ที่ใกล้สิ้นพระชนม์แล้วตัดสินใจอย่างโหดเหี้ยม จะเป็นเช่นไร เพียงแต่ เมื่อจักรพรรดิ์ซูชิงตรัสถามคำนั้นออกมา ไม่ว่านางจะชี้แจงอย่างไร ก็คงไร้ความหมาย มีเพียงการใช้วิธีดื้อรั้นเอาแต่ใจเช่นนี้เท่านั้น ที่อาจจะได้ผล “ลุกขึ้นเถิด” จักรพรรดิ์ซูชิง ตรัสด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้นมาก ใบหน้าซูบซีดเหลืองซีดนั้นมีรอยยิ้มบางๆ ปรากฏ “เจ้านี่นะ ยังเหมือนตอนเด็กไม่มีผิด ปากเจ้าไม่เคยยอมเสียเปรียบเลย ถามเพียงคำเดียว กลับเล่นงานข้าเสียยกใหญ่ จริงๆ แล้ว ข้าก็จนใจจะทำอย่างไรกับเจ้าได้” พระองค์ทอดพระเนตรมองซ่งซีซีแววพระเนตรล้ำลึก “เจ้าล่ะ ไปถือสากอะไรกับคนใกล้ตาย? ไ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1470

    ซ่งซีซีไม่ชอบให้นำบิดาของนางมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้นัก เพราะไม่ว่าฮ่องเต้จะตรัสสิ่งใด ก็ล้วนไม่เกี่ยวกับบิดาของนางเลย ไม่มีความจำเป็นต้องเน้นย้ำถึงความจงรักภักดีของบิดาต่อแผ่นดิน เพื่อนำมาเป็นกรอบบังคับคำตอบที่นางจะกล่าวต่อไป แต่เห็นได้ชัดว่า นางจะชอบหรือไม่ ไม่ได้อยู่ในขอบเขตที่ฮ่องเต้จะใส่พระทัย นางกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ฮ่องเต้มีเรื่องใดจะถามก็ตรัสเถิด หม่อมฉันฟังอยู่” ความเจ็บปวดเสียดลึกถึงกระดูก ทำให้จักรพรรดิ์ซูชิงไม่เลือกที่จะลองหยั่งเชิงเหมือนเคย แต่รับสั่งตรงไปตรงมาแทน “เจ้าน่าจะเป็นผู้ที่รู้จักเซี่ยหลูโม่ดีที่สุด เจ้าคิดว่า หากข้าสวรรคต แล้วเขาได้เป็นผู้สำเร็จราชการแทน จะสังหารฮ่องเต้องค์เยาว์แล้วตั้งตนเป็นจักรพรรดิ์หรือไม่?” ซ่งซีซีใจหายวาบ โทสะพลันแล่นขึ้นมาปรากฏในดวงตาเซี่ยหลูโม่ผ่านพ้นจากความเป็นความตายในหนานเจียงกลับมาอย่างยากลำบาก มิควรถูกกล่าวหาอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ นางรู้สึกเจ็บแทนเขา น้ำเสียงจึงเย็นเยียบขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และพูดเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว “ฮ่องเต้ ข้ากับเซี่ยหลูโม่เป็นสามีภรรยากันเพียงสามปี จะนับได้อย่างไรว่าเป็นผู้ที่รู้จักเขาดีที่สุด? ผู้ที่รู้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1469

    จักรพรรดิ์ซูชิงได้ส่งอู๋ต้าปั้นไปร้านขายยาเย่าหวังเพื่อหาหมอมหัศจรรย์ดันเมื่อห้าวันก่อน ตอนนั้น คนของร้านขายยาเย่าหวังบอกว่าหมอมหัศจรรย์ดันได้ออกจากเมืองไปแล้ว และไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อใด อู๋ต้าปั้นกลับมารายงาน จักรพรรดิ์ซูชิงจึงเข้าใจได้ทันทีว่าสาเหตุนั้นมาจากเรื่องในอดีต เมื่อครั้งที่เสด็จพ่อของพระองค์ทรงสังหารหมอชื่อดังในหมู่ประชาชน ทำให้หมอมหัศจรรย์ดันไม่ต้องการเข้าวังมารักษา พระองค์เคยคิดจะส่งคนไปพาตัวหมอมหัศจรรย์ดันมา ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใด บนผืนแผ่นดินนี้ล้วนเป็นดินแดนของจักรพรรดิ์ ย่อมหาวิธีตามหาเขาเจอแน่นอน แต่หากหมอมหัศจรรย์ดันไม่เต็มใจ ต่อให้พาตัวเขามา ก็คงไร้ประโยชน์ แน่นอนว่าจักรพรรดิ์ซูชิงทรงทราบดีว่ายังมีผู้ที่สามารถเชิญเขามาได้ นั่นคือซ่งซีซี เพียงแต่พระองค์ยังทรงปิดบังอาการประชวร ไม่ต้องการให้เหล่าขุนนางทั้งหลายล่วงรู้เร็วจนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่อยากให้เซี่ยหลูโม่รู้เร็วจนเกินไป เขาเพิ่งสร้างผลงานจากสนามรบกลับมา เป็นที่เลื่อมใสของประชาชน หากได้รู้เรื่องพระอาการประชวรของพระองค์ และเตรียมการแต่เนิ่นๆ การกระทำของเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะประสบความสำ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1468

    งานเลี้ยงฉลองชัยชนะในวันรุ่งขึ้นถูกยกเลิก ทางวังส่งคนมาแจ้งว่า ฮ่องเต้ทรงเป็นหวัด ไอหนักมาก แม้ว่างานเลี้ยงฉลองจะไม่ได้จัดขึ้น แต่ราชโองการว่าด้วยการปูนบำเหน็จแก่ผู้มีความชอบก็ถูกประกาศออกมาอย่างรวดเร็ว ฝางเทียนสวี ได้รับแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพใหญ่ของหนานเจียง เลื่อนตำแหน่งเป็นแม่ทัพผู้พิทักษ์แผ่นดินชั้นเอก ฉีหลิน และแม่ทัพท่านอื่นๆ ได้รับเลื่อนยศเป็นขุนนางฝ่ายทหารชั้นสามและชั้นรองสาม ยังคงประจำการที่หนานเจียง มีการจัดสรรเงินทุนเพื่อสร้าง จวนแม่ทัพ ที่หนานเจียง พร้อมอนุญาตให้นำครอบครัวไปอยู่ด้วย สำหรับทหารที่เสียชีวิตในการรบ ทางการจัดสรรเงินเยียวยาให้ครอบครัว ทหารที่บาดเจ็บได้รับเงินปลอบขวัญคนละสิบตำลึงเงิน ทุกคนที่มีความชอบล้วนได้รับการจัดสรรรางวัลอย่างชัดเจน เว้นแต่ เซี่ยหลูโม่ ที่ยังไม่มีการกำหนดรางวัลแน่นอน ในเบื้องต้น พระองค์ได้รับ ทองคำพันตำลึง ผ้าไหมห้าสิบพับ และยังคงดำรงตำแหน่ง ต้าหลี่ซื่อชิง เช่นเดิม ในราชโองการประกาศยกย่องเซี่ยหลูโม่เป่ยหมิงอ๋องว่าได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อแผ่นดิน พรรณนาความดีความชอบด้วยถ้อยคำสละสลวย แต่ก็ยังเป็นเพียง วาจาชื่นชมที่ไร้เนื้

앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status