ยามโย รถม้าสองคันจากจวนเป่ยหมิงอ๋องมาถึงประตูจวนอ๋องเยี่ยนตรงเวลาเมื่อรถม้ามาถึง ผู้ดูแลประตูก็รีบไปรายงาน ทางจวนอ๋องเยี่ยนเปิดประตูกลางเพื่อต้อนรับเขา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าให้ความสำคัญมากเพียงใดนางเสิ่นและชายารองจินนำอวี้ชิงและอวี้หยินสองคนรอต้อนรับที่หน้าประตู เนื่องจากเสิ่นว่านจือเป็นผู้หญิง เซี่ยหรูเฉาและเซี่ยหรูหลิงจึงไม่ออกมาต้อนรับด้วยเมื่อเห็นรถม้าสองคัน หัวใจของชายารองจินก็เต้นรัว นางรู้ดีถึงแผนการของอ๋องเยี่ยน คืนนี้น่าจะมีเสิ่นว่านจือคนเดียว แล้วทำไมถึงต้องการรถม้าสองคัน?เมื่อเห็นเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีลงจากรถม้า ชายารองจินก็ตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง และรอยยิ้มที่เรียบร้อยบนใบหน้าของนางก็แข็งทื่อทันที ทำไมพวกเขาก็มาด้วยล่ะ"ไหนบอกว่าชวนแค่เสิ่นว่านจือไม่ใช่เหรอ เจ้าเชิญชวนนางยังไงกัน" ชายารองจินกัดฟันกรอดและถามนางเสิ่นที่อยู่ข้างๆ ด้วยเสียงต่ำนางเสิ่นมีความสุขมาก เดิมทีท่านอ๋องแค่ให้นางไปเชิญเสิ่นว่านจือ แต่ตอนนี้ทั้งเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีต่างก็มาด้วย งั้นท่านอ๋องก็ต้องดีใจมากทีเดียวเมื่อนางกำลังอารมณ์ดีนั้นกลับได้ยินน้ำเสียงที่ถามจี้จากชายารองจิน และนางก็ทำหน้าบึ้งตึงทันท
อู๋เซี่ยงไม่ไว้ใจจึงชักชวนต่อไป "ท่านอ๋อง หากท่านประสบความสำเร็จ ท่านจะหาผู้หญิงแบบไหนก็ได้หมด เมื่อถึงตอนนั้นท่านจะคิดว่าเสิ่นว่านจือก็ธรรมดาทีเดียว""เอาล่ะ" สีหน้าของอ๋องเยี่ยนค่อนข้างไม่าู้ดี หลังจากพูดว่า "เอาล่ะ" เขาก็รู้สึกถึงความคับข้องใจในใจ เขาไม่สามารถควบคุมมันได้ ความคับข้องใจนี้เกิดขึ้นราวกับพายุแรงที่พุ่งเข้ามา ทำให้เขาระเบิดออกมาในชั่วขณะหนึ่ง "ที่ผ่านมาข้าถือว่าจิตใจผ่องแผ้วบริสุทธิ์มากแล้ว ทุกๆ วันก็ใช้ชีวิตอย่างเข้มงวด ระงับความต้องการของตนเอง และไม่กล้าเดิกข้อผิดพลาดใดๆ หาใช่ว่าข้าไม่มีคนที่ถูกใจ แต่ข้าต่างก็ไม่สนใจ เพราะข้ารู้ว่าหากมกมุ่นอยู่กับความสุกจะมีแต่เป็นผลเสียกับแผนการของตนเอง แต่เสิ่นว่านจือแตกต่างออกไป นางคือคนแรกที่ทำให้ข้าถูกตาต้องใจ ในขณะเดียวกันก็ช่วยข้าได้ นางเป็นตัวเลือกที่เป็นพระชายาอ๋องเยี่ยนที่ดีที่สุดคำพูดเหล่านี้ทำให้อู๋เซี่ยงรู้สึกหวาดกลัวและโกรธด้วย เป็นครั้งแรกที่เขาตำหนิเขาด้วยน้ำเสียงที่เอาจริงเอาจังมาก "ที่ท่านอ๋องบอกว่าถูกใจ หมายความว่ามีใจให้เสิ่นว่านจือเหรอ ชอบนางใช่ไหม หากท่านคิดเช่นนั้น ข้าจะบอกอะไรท่านว่ามันไม่ใช่ นี่เป็นเพียงข้อ
เซี่ยหลูโม่กล่าวด้วยรอยยิ้ม "เสด็จอาจะคิดว่าหลานโกรธกับท่านได้ยังไง หรือว่าเสด็จอาได้ทำอะไรไม่ดีกับหลานเหรอ"อ๋องเยี่ยนหัวเราะและโบกนิ้วต่อหน้าเขา "ชอบเล่นลิ้นเอาเสีย!"เขาเดินไปที่ที่นั่งหลัก ยกเสื้อคลุมขึ้นแล้วนั่งลง "ทุกคนนั่งเถอะ อย่ามัวแต่ยืนอยู่"เขาสวมเสื้อผ้าผ้าไหมชั้นดีที่ปักด้วยลวดลายนกกระเรียนบินด้วยด้ายสีทอง ริมฝีปากดูเหมือนจะถูกย้อมด้วยสีเล็กน้อย ทำให้ดูแดง รู้สึกมีความมั่นใจมาก เสิ่นว่านจือเหลือบมองนางแวบหนึ่ง ไม่รู้ทำไมดูเขาเหมือนนกยูงตัวผู้ที่กำลังรำแพนหางหลังจากที่ทุกคนนั่งแล้ว อู๋เซี่ยงก็เข้ามาพร้อมกับเซี่ยหรูหลิงและเซี่ยหรูเฉา พี่น้องสองคนแต่เดิมก็ชอบซ่งซีซีและเซี่ยหลูโม่มาก แต่ตอนนี้กลับดูเหินห่างเล็กน้อย พวกเขาก็นั่งลงก่อนคารวะ ทั้งสองมีสีหน้าแปลกๆ ไม่กล้าแม้แต่จะสบตามองเซี่ยหลูโม่ตรงๆเซี่ยหลูโม่มองไปที่อู๋เซี่ยง และรู้ว่าเขาเป็นที่ปรึกษาที่อยู่เบื้องหลังคอยให้คำแนะนำแกอ๋องเยี่ยน ไม่รู้ว่าเป็นเขาที่มองผิดหรือเปล่า มักจะรู้สึกว่าเขาได้ทะเลาะกับอ๋องเยี่ยนมายิ่งไปกว่านั้น การทะเลาะกันครั้งนี้ไม่ได้จยลงด้วยดี ดสงตาของทั้งสองยัหลงเหลือความโกรธอยู่ ความโกรธกลายเ
แต่เดิมอวี้ชิงยังคงกลัวซ่งซีซีอยู่เล็กน้อย แต่หลังจากได้ยินคำพูดนี้ นางก็ลุกขึ้นยืนและพูดด้วยความโกรธจัดทันที "ซ่งซีซี เจ้าใส่ร้ายข้าเช่นนี้ ทำลายชื่อเสียงของข้า มันจะมีประโยชน์อะไรต่อเจ้า"ฃกุ้นเอ๋อร์ตะโกนอย่างแรง "ช่างบังอาจ เสี้ยนจู่ที่ต่ำต้อยยังกล้าเรียกพระชายาด้วยชื่อจริงตรงๆ เหรอ?"ซ่งซีซียกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กุ้นเอ๋อร์ออกไป จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองอวี้ชิง และพูดประชดว่า "จ้าเห็นเจ้าก็ปากร้ายนี่ ทำไมตอนที่เสด็จแม่ของเจ้าถูกรังแกนั้น เจ้าไม่ออกหน้าช่วยพูดให้นางเล่า หากไม่กล้าพูด ก็คอยดูแลนางอยู่ข้างกายก็ได้ ไม่เสียแรงที่นางให้กำเนิดพวกเจ้า"อวี้ชิงปรี๊ดแตก แต่เมื่อเห็นสายตาอันเย็นชาของเซี่ยหลูโม่มองเข้ามา ทำเอานางรู้สึกหนาวสั่นในใจ และไม่กล้าที่จะอ้าปากไปสาปแช่งอีก แต่พูดอย่างไม่พอใจ "เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย เจ้าเก่งมากนักก็ไปดูแลเองสิ ดีแต่ปาก ทำไมไม่ทำเองเล่า เจ้าก็เรียกนางว่าท่านป้าด้วยนะ"ซ่งซีซีหัวเราะเยาะ "สิ่งที่เจ้าพูดนั้นสมเหตุสมผลจริงๆ ที่แท้ถ้าตนเองอกตัญญูก็สามารถไปหาว่าคนอื่นไม่ช่วยให้ ข้าต้องจดจำเอาไว้ เดี๋ยวหาเวลาไปบอกมู่ฮูหยิน เพื่อให้มู่ฮูหยินช่วยเจ้าประกาศสักหน่อย
อ๋องเยี่ยนด่านาง สั่งให้นางกลับไปสำนึกผิด อย่ามาขายหน้าคนอื่นอีก ชายารองจินเรียกอวี้หยินออกไปพร้อมนางทันทีที่ชายารองจินออกมาจากประตู ก็นำสาวใช้ไล่ตามซ่งซีซีไป แม้ว่าจะไม่มีห้องลับในจวนหลังนี้ แต่ก็ไม่ใช่สถานที่ที่จะบุกเข้าไปได้มั่วๆ นางเสิ่นเป็นคนโง่ กลัวว่าจะถูกหลอกอู๋เซี่ยงแอบสังเกตเซี่ยหลูโม่เงียบๆ แลแม้ว่าเขาจะพูดคุยกับท่านอ๋อง แต่มีสีหน้าไม่ค่อยดี สายตามองออกไปข้างออกเป็นครั้งคราว ราวกับว่าคู่หนุ่มสาวทะเลาะกัน ทั้งโกรธแต่ก็ไม่อยากจากไปบวกกับสายตาที่ไม่แยแสของซ่งซีซีก่อนที่นางจากไป เกรงว่ามันไม่ได้เสแสร้ง อย่างน้อยมีเรื่องหนึ่งที่แน่ใจได้ จุดประสงค์ของซ่งซีซีมาที่จวนอ๋องเยี่ยนเพื่อช่วยแก้แค้นให้พระชายาอ๋องเยี่ยนความโกรธนี้เก็บไว้ในใจของนางมานานแล้ว และอู๋เซี่ยงคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่จะให้นางระบายความโกรธ ก็เป็นเรื่องดี หลังจากที่พวกนางออกไป เป่ยหมิงอ๋องก็ยังอยู่ที่นั่นซึ่งทำให้พูดคุยได้ง่ายขึ้น“หลูโม่ เสด็จแม่ของเจ้าสบายดีไหม" อ๋องเยี่ยนกำลังถามสารทุกข์สุขดิบกับเซี่ยหลูโม่เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ขอบคุณที่เสด็จอาห่วงใย เสด็จแม่สบายดี ไทเฟยหรงได้ดีขึ้นมาบ้างหรือยัง?"“ใน
เป็นไปไม่ได้ที่จะซ่อนสิ่งใดในจวนอ๋องเยี่ยนนี้ แม้ว่าจะมีก็อาจเป็นการติดต่อสื่อสารทางจดหมาย แต่สิ่งสำคัญจะต้องถูกซ่อนหรือทำลาย มันจะไม่ง่ายเลยที่จะเข้าสู่ห้องหนังสือ และทะเลาะหรือต่อยกันก็ไม่ได้พวกเขาเชิญว่านจือมาที่นี่ ย่อมมีจุดประสงค์แอบแฝง ก่อนหน้านี้พวกเขายังไม่รู้ว่ามีจุดประสงค์อะไร แต่ตอนนี้รู้แล้วก่อนมาที่นี่ เดิมทีวางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสที่ดีครั้งนี้เพื่อตรวจสอบดูว่ามีคนถนัดเรื่องศิลปะการต่อสู้ที่จวนอ๋องมีมากเท่าไร มีนักรบสิ้นหวังซ่อนอยู่จวนอ๋องหรือไม่ และหากไม่มีนักรบสิ้นหวังซ่อนตัวอยู่ในจวน งั้นก็สามารถให้ว่านจือมาอีกครั้งแต่ตอนนี้พอรู้แล้วว่าอ๋องเยี่ยนกำลังคิดอะไรอยู่ ซ่งซีซีจะไม่ปล่อยให้เสิ่นว่านจือไปเสี่ยงอีก การมองนั้นมันลามกเกินไป แค่คิดดูก็ทำให้ซ่งซีซีรู้สึกขยะแขยงเหล่าสาวใช้เดินทยอยเข้าไปและวางขนมไว้บนโต๊ะ จู่ๆ ซ่งซีซีก็ลุกขึ้นเดินไปที่สาวใช้ที่ถือขนมพุทราคนหนึ่งโดยไม่ขยับตัว ไม่ถอยหลัง และไม่กระพริบตาด้วยซ้ำชายารองจินมองอย่างตื่นตัว งและเห็นซ่งซีซีชี้ไปที่ขนมพุทราแล้วพูดกับสาวใช้ "ขนมพุทรานี้เป็นของโปรดของท่านอ๋อง เจ้าไปส่งให้ท่านอ๋องที่ห้องโถงหลักเลย"
เมื่อกลับมาถึงจวนเป่ยหมิงอ๋อง เสิ่นว่านจือก็ลงจากรถม้าและกระโดดหน้าประตูพระจวนสองสามครั้งเพื่อสลัดสิ่งสกปรกออกไปจากร่างกายของนาง นางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ "ไอ้หน้าด้าน กล้าหวังกับข้าเหรอ ลูกชายก็มีอายุมากกว่าจ้าอีก ไอ้แก่ที่หน้าไม่อายจริงๆ"ขณะที่หัวหน้าลู่เดินเข้ามาและได้ยินคำพูดของเสิ่นว่านจือ เขาถอยหลังไปก้าวหนึ่ง และรู้สึกงุนงง ทำไมคนแก่จะหน้าไม่อายเล่าซ่งซีซีก็โมโหมากและดึงนางเข้าไปในจวน "ต่อไปอย่าไปจวนอ๋องเยี่ยนอีก เขากวาดมองเจ้าจากหัวจรดเท้า แค่นี้ข้าก็รู้สึกทำให้เจ้าได้เสียหาย น่ารังเกียจจริงๆ"นางไม่รู้ว่าอ๋องเยี่ยนที่เห็นคืนนี้ยังคงเป็นอ๋องเยี่ยน ผู้ทะเยอทะยานคนเดิมหรือไม่ ราวกับว่าเปลี่ยนเป็นคนละคนแค่คนหื่นกามชัดๆเมื่อเข้าไปในห้องประชุม เซี่ยหลูโม่บอกกับอาจารย์หยูว่าอ๋องเยี่ยนมีใจกับเสิ่นว่านจือ หลังจากได้ยินสิ่งนี้ อาจารย์หยูก็สับสนเล็กน้อย "ไม่กระมัง ชัดเจนมากเหรอ?""แสดงออกได้ชัดเจนมาก ข้าถึงกับสงสัยว่าเขาแกล้งทำเช่นนั้นหรือเปล่า" ในระหว่างทางกลับมา เซี่ยหลูโม่ก็สับสนบนรถม้าเช่นกัน จากการสอบสวนครั้งก่อน เขาไม่แยแสเรื่องผู้หญิงเลย ไม่ว่าผู้หญิงจะสวยแค่ไหนในสายตาของเขาก
เมื่ออาจารย์หยูเห็นว่ากุ้นเอ๋อร์พูดไม่ตรงเรื่อง จึงรีบพูดขึ้นว่า "ท่านเมิ่ง ไม่สามารถยกท่านอ๋องขึ้นมาเป็นตัวอย่างได้ แน่นอนว่ามีผู้ชายแบบนี้อยู่ด้วย แต่วันนี้เราไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้ว"แต่กุ้นเอ๋อร์กลับมีท่าทางเห็นอกเห็นใจและจริงใจ และพูดขึ้นต่อว่า "จือจือ บอกว่าจะไม่แต่งงาน ข้าก็เห็นด้วย ไม่แต่งงานก็ไม่ต้องเจ็บปวด ความรักของคนหนุ่มสาวร้อนแรงมากแค่ไหน เมื่อเวลาผ่านไปมันก็น่าขยะแขยง ผิวเหล็กเคลือบทองก็สามารถหลุด เหล็กก็ยังเป็นสนิม บังเอิญมาก หนุ่มสาวที่มีความรักให้กันก็ยังเป็นแบบนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง โจรเฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างอ๋องเยี่ยนที่ไม่เคยลิ้มรสความหวานของรักมาก่อน เมื่อมีผู้หญิงอย่างจือจือเข้ามาในชีวิตของเขา ไม่เพียงสามารถบรรเทาจิตใจที่แห้งเหี่ยวของเขา นางยังมีความสามารถช่วยเหลือเขา เขาก็เป็นเหมือนสุนัขตัวผู้ที่กำลังมีความรัก ท่าทางน่าเกลียดทุกแบบก็แสดงออกมาทั้งหมด"อาจารย์หยูฟังจนงงแล้ว ครู่หนึ่งถึงจะถามขึ้นว่า "นี่คือสิ่งที่อาจารย์ของเจ้าพูดเช่นกันใช่ไหม? "ถ้าไม่เพราะเชียนเคยผ่านมาแล้ว เขาจะพูดถ้อยคำแห่งความผันผวนของชีวิตเช่นนี้ออกมาได้ยังไง? กุ้นเอ๋อร์ก็พูดไม่ออกแล้วจริง ๆ"ใช