แชร์

บทที่ 1025

ผู้เขียน: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-09-17 18:00:00
เป็นไปไม่ได้ที่จะซ่อนสิ่งใดในจวนอ๋องเยี่ยนนี้ แม้ว่าจะมีก็อาจเป็นการติดต่อสื่อสารทางจดหมาย แต่สิ่งสำคัญจะต้องถูกซ่อนหรือทำลาย มันจะไม่ง่ายเลยที่จะเข้าสู่ห้องหนังสือ และทะเลาะหรือต่อยกันก็ไม่ได้

พวกเขาเชิญว่านจือมาที่นี่ ย่อมมีจุดประสงค์แอบแฝง ก่อนหน้านี้พวกเขายังไม่รู้ว่ามีจุดประสงค์อะไร แต่ตอนนี้รู้แล้ว

ก่อนมาที่นี่ เดิมทีวางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสที่ดีครั้งนี้เพื่อตรวจสอบดูว่ามีคนถนัดเรื่องศิลปะการต่อสู้ที่จวนอ๋องมีมากเท่าไร มีนักรบสิ้นหวังซ่อนอยู่จวนอ๋องหรือไม่ และหากไม่มีนักรบสิ้นหวังซ่อนตัวอยู่ในจวน งั้นก็สามารถให้ว่านจือมาอีกครั้ง

แต่ตอนนี้พอรู้แล้วว่าอ๋องเยี่ยนกำลังคิดอะไรอยู่ ซ่งซีซีจะไม่ปล่อยให้เสิ่นว่านจือไปเสี่ยงอีก การมองนั้นมันลามกเกินไป แค่คิดดูก็ทำให้ซ่งซีซีรู้สึกขยะแขยง

เหล่าสาวใช้เดินทยอยเข้าไปและวางขนมไว้บนโต๊ะ จู่ๆ ซ่งซีซีก็ลุกขึ้นเดินไปที่สาวใช้ที่ถือขนมพุทราคนหนึ่งโดยไม่ขยับตัว ไม่ถอยหลัง และไม่กระพริบตาด้วยซ้ำ

ชายารองจินมองอย่างตื่นตัว งและเห็นซ่งซีซีชี้ไปที่ขนมพุทราแล้วพูดกับสาวใช้ "ขนมพุทรานี้เป็นของโปรดของท่านอ๋อง เจ้าไปส่งให้ท่านอ๋องที่ห้องโถงหลักเลย"
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1026

    เมื่อกลับมาถึงจวนเป่ยหมิงอ๋อง เสิ่นว่านจือก็ลงจากรถม้าและกระโดดหน้าประตูพระจวนสองสามครั้งเพื่อสลัดสิ่งสกปรกออกไปจากร่างกายของนาง นางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ "ไอ้หน้าด้าน กล้าหวังกับข้าเหรอ ลูกชายก็มีอายุมากกว่าจ้าอีก ไอ้แก่ที่หน้าไม่อายจริงๆ"ขณะที่หัวหน้าลู่เดินเข้ามาและได้ยินคำพูดของเสิ่นว่านจือ เขาถอยหลังไปก้าวหนึ่ง และรู้สึกงุนงง ทำไมคนแก่จะหน้าไม่อายเล่าซ่งซีซีก็โมโหมากและดึงนางเข้าไปในจวน "ต่อไปอย่าไปจวนอ๋องเยี่ยนอีก เขากวาดมองเจ้าจากหัวจรดเท้า แค่นี้ข้าก็รู้สึกทำให้เจ้าได้เสียหาย น่ารังเกียจจริงๆ"นางไม่รู้ว่าอ๋องเยี่ยนที่เห็นคืนนี้ยังคงเป็นอ๋องเยี่ยน ผู้ทะเยอทะยานคนเดิมหรือไม่ ราวกับว่าเปลี่ยนเป็นคนละคนแค่คนหื่นกามชัดๆเมื่อเข้าไปในห้องประชุม เซี่ยหลูโม่บอกกับอาจารย์หยูว่าอ๋องเยี่ยนมีใจกับเสิ่นว่านจือ หลังจากได้ยินสิ่งนี้ อาจารย์หยูก็สับสนเล็กน้อย "ไม่กระมัง ชัดเจนมากเหรอ?""แสดงออกได้ชัดเจนมาก ข้าถึงกับสงสัยว่าเขาแกล้งทำเช่นนั้นหรือเปล่า" ในระหว่างทางกลับมา เซี่ยหลูโม่ก็สับสนบนรถม้าเช่นกัน จากการสอบสวนครั้งก่อน เขาไม่แยแสเรื่องผู้หญิงเลย ไม่ว่าผู้หญิงจะสวยแค่ไหนในสายตาของเขาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-17
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1027

    เมื่ออาจารย์หยูเห็นว่ากุ้นเอ๋อร์พูดไม่ตรงเรื่อง จึงรีบพูดขึ้นว่า "ท่านเมิ่ง ไม่สามารถยกท่านอ๋องขึ้นมาเป็นตัวอย่างได้ แน่นอนว่ามีผู้ชายแบบนี้อยู่ด้วย แต่วันนี้เราไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้ว"แต่กุ้นเอ๋อร์กลับมีท่าทางเห็นอกเห็นใจและจริงใจ และพูดขึ้นต่อว่า "จือจือ บอกว่าจะไม่แต่งงาน ข้าก็เห็นด้วย ไม่แต่งงานก็ไม่ต้องเจ็บปวด ความรักของคนหนุ่มสาวร้อนแรงมากแค่ไหน เมื่อเวลาผ่านไปมันก็น่าขยะแขยง ผิวเหล็กเคลือบทองก็สามารถหลุด เหล็กก็ยังเป็นสนิม บังเอิญมาก หนุ่มสาวที่มีความรักให้กันก็ยังเป็นแบบนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง โจรเฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างอ๋องเยี่ยนที่ไม่เคยลิ้มรสความหวานของรักมาก่อน เมื่อมีผู้หญิงอย่างจือจือเข้ามาในชีวิตของเขา ไม่เพียงสามารถบรรเทาจิตใจที่แห้งเหี่ยวของเขา นางยังมีความสามารถช่วยเหลือเขา เขาก็เป็นเหมือนสุนัขตัวผู้ที่กำลังมีความรัก ท่าทางน่าเกลียดทุกแบบก็แสดงออกมาทั้งหมด"อาจารย์หยูฟังจนงงแล้ว ครู่หนึ่งถึงจะถามขึ้นว่า "นี่คือสิ่งที่อาจารย์ของเจ้าพูดเช่นกันใช่ไหม? "ถ้าไม่เพราะเชียนเคยผ่านมาแล้ว เขาจะพูดถ้อยคำแห่งความผันผวนของชีวิตเช่นนี้ออกมาได้ยังไง? กุ้นเอ๋อร์ก็พูดไม่ออกแล้วจริง ๆ"ใช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-18
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1028

    เช้าวันต่อมาเซี่ยหลูโม่ก็เข้าวัง ได้รับคดีที่ได้พิจารณาแล้วกลับมา พร้อมกับพูดขึ้นว่า "ได้ยินซีซีพูดว่า กล้วยไม้ในจวนอ๋องเยี่ยนกำลังบานสะพรั่ง และมีหลากหลายพันธุ์ ในจวนก็มีคนมีความสามารถมากมาย บ่าวแต่ละคนก็มีวรยุทธติดกาย"จักรพรรดิ์ซูชิงตกตะลึง อู๋เยว่ได้แอบสืบจวนอ๋องเยี่ยนมาเป็นเวลานานแล้ว แม้แต่คนที่อ๋องเยี่ยนซ่อนไว้ในเมืองหลวงนานขนาดนี้สืบไม่เจอ แต่พวกเขาไปครั้งเดียวก็สามารถสืบได้แล้วหรือ?อู๋เยว่เพียงพูดว่า ไม่พบองครักษ์อะไรในจวนอ๋องเยี่ยนเลย เขากังวลว่านักรบสิ้นหวังเหล่านั้นจะซุ่มซ่อนอยู่รอบๆ อู๋เยว่คิดว่าวรยุทธของนักรบสิ้นหวังเหล่านั้นเก่งกล้า ดังนั้นจึงไม่กล้าบุ่มบ่ามเข้าไปจักรพรรดิ์ซูชิงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง "นักรบสิ้นหวัง? "เมื่อคำถามนี้ถูกพูดออกมา เซี่ยหลูโม่ยิ้มให้ "ไม่ใช่"จักรพรรดิ์ซูชิงมองเขา และพูดขึ้นด้วยความโกรธว่า : "เจ้าหัวเราะอะไร? สนุกอะไร? "รอยยิ้มของเซี่ยหลูโม่ยิ่งสะดุดตามากขึ้น "ช่วงนี้กระหม่อมชอบยิ้มโดยไม่มีความหมาย"จักรพรรดิ์ซูชิงเหลือบมองเขาแวบหนึ่งแล้วยิ้ม "บ้า"สองพี่น้องมองหน้ากัน จากนั้นก็หันกลับมายิ้ม รอยยิ้มนี้มีพลังที่บอกไม่ถูก ทำให้กำแพงป้อง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-18
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1029

    วันที่สองหลังจากเจียอี้เข้ามาอยู่ในโรงงานเย็บปัก ทั่วทั้งเมืองหลวงก็มีข่าวลือแพร่สะพัดเกี่ยวกับต้นสายปลายเหตุของเรื่องที่เจียอี้ถูกหย่า เล่าลือว่าวางแผนฆ่าทายาทของจวนโหวผิงหยาง ไม่ยอมรับอนุ ผลักอนุตกน้ำเพื่อจะเอาชีวิตนางเมื่อเล่าลือไปเรื่อยๆ ก็มีคนพูดเรื่องที่นางปล่อยเงินดอกเบี้ยสูงออกมาคนที่ชั่วร้ายเช่นนี้ จวนโหวผิงหยางกลับไม่ส่งนางให้กับทางการ แต่เพียงจัดการง่ายๆ แค่ไล่นางออกไปจากจวน และโรงงานเย็บปักซู่เจินก็ยิ่งกว่า กล้ารับคนแบบนั้นกลับไป แล้วยังจัดหาที่พักอาหารให้นางอีกซ่งซีซีได้เริ่มเก็บกวาดภารกิจตรวจสอบค่ายลาดตระเวนแล้ว นางไม่รู้เรื่องที่โรงงานเย็บปักซู่เจินถูกด่าอีกครั้งจนไม่เหลือดีด้วยซ้ำนางเพิ่งรู้เรื่องนี้ในวันที่เก็บกวาดภารกิจตรวจสอบวันสุดท้าย เมื่อกลับไปถามเสิ่นว่านจือ เสิ่นว่านจือก็ร้อนใจมากเช่นกัน นางพูดขึ้นว่า "หงเซียวได้ไปสืบมาแล้ว ไม่ใช่ข่าวที่นางเสิ่นเผยแพร่ออกมา ข้าดูจากจวนโหวผิงหยางแล้ว เพราะเจียอี้ถูกหย่า จวนโหวผิงหยางไม่ได้พูดออกไป มีเพียงคนที่รู้ในจวนโหวผิงหยางที่พูดออกไป คนๆ นี้ต้องการฆ่าเจียอี้ให้ตาย"ซ่งซีซีพูดขึ้นว่า : "ทำแบบนี้ไม่เพียงฆ่าเจียอี้เท่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-18
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1030

    เนื่องจากจวนโหวผิงหยางกำลังจัดงานศพ ซ่งซีซีไม่สามารถส่งจดหมายขอพบอีก เพียงแต่ข่าวลือข้างนอกได้สร้างกระแสรุนแรงมาก นางต้องการยุติมันแต่ไม่รู้ว่าความจริงมันเป็นอย่างไรจึงไม่สามารถชี้แจงให้จึงทำอะไรไม่ได้ทางหงเซียวสอบสวนกลับมา โดยบอกว่าข่าวดังกล่าวมาจากจวนโหวผิงหยางจริงๆ หงเซียวได้สอบสวนอย่างรอบคอบ ค้นหาอย่างละเอียด แถมยัใช้เงินเพื่อสอบถามด้วย จากนั้นก็พบแหล่งที่มาของข่าวเหล่านั้นคือคนรับใช้ของจวนโหวผิงหยางเนื่องจากเจียอี้เคยใจจืดใจดำและโหดร้ายกับคนรับใช้มาก่อน พวกเขาจึงต้องการแก้แค้นเจียอี้ฃผู้เล่าเรื่องยังกล่าวก็มีท่าทีโกรธเกรี้ยว โดยบอกว่าหลังจากทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว เขาจะต้องเผยแพร่ข่าวออกไปอย่างกว้างขวางเพื่อให้ผู้คนทราบเกี่ยวกับความชั่วร้ายของเจียอี้ให้เยอะๆหงเซียวยังถามพวกเขาว่า "ในเมื่อเล่าเรื่องเพื่อคืนความยุติธรรม แล้วพวกเจ้าแน่ใจหรือว่ามันคือความจริง"นักเล่าเรื่องหลายคนมองดูนางด้วยความประหลาดใจ "มันย่อมเป็นความจริงสิ นางคือผู้ใด นางเป็นลูกสาวของเซี่ยอวี้น ถูกฝ่าบาทปลดออกจากตำแหน่งท่านหญิง เห็นได้ชัดว่านางต้องมีความเกี่ยวข้องกับคดีกบฏ กล้าก่อกบฏ งั้นทำร้ายคนในเรือนไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-18
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1031

    เสิ่นว่านจือยืนกรานในความคิดของตนเอง "แต่ถ้าขับไล่เจียอี้ออกไป เราจะไม่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับเนเรื่องวุ่นวายนี้อีกเลย""แล้วอนาคตล่ะ หากอนาคตจะเกิดเรื่องวุ่นวายเช่นนี้อีกล่ะ จริงๆ แล้วข้าคิดว่าเหตุการณ์ของเจียอี้นี้ก็ดีเช่นกัน มันจะให้โอกาสเราฝึกซ้อมก่อน หากเจอเรื่องเดียวกันในอนาคตก็มีประสบการณ์กฎเกณฑ์ด้วย ควรจะทิ้งอคติไปก่อนและสอบสวนมันให้ชัดเจน ถ้าเป็นจริงก็ไล่นางออก ถ้าไม่ก็ให้โอกาสนาง เป็นไง"นางกล่าวเสริมว่า "จือจือ การทิ้งอคติมันสำคัญมาก เพราะผู้หญิงทุกคนที่ถูกหย่านั้นอาจถูกตั้งข้อหาต่างๆ ถ้าเราตัดสินคนอื่นด้วยคำพูดภายนอกงั้นก็ไม่มีใครจะมา"เสิ่นว่านจือกล่าวอย่างหดหู่ "ข้ารู้ว่าสิ่งที่เจ้าพูดนั้นมีเหตุผล หากมองจากมุมมองของโรงงานเราจำเป็นต้องทำเช่นนี้ แต่โดยส่วนตัวข้าแล้ว มันยากสำหรับข้าที่จะยอมรับเจียอี้ อีกอย่างนางเรื่องไม่ดีมาเยอะจริงๆ ให้ไล่ออกไปตรงๆ จะไม่ดีหรือ หรือว่าเจ้าไม่เกลียดเจียอี้เหรอ?""เกลียด" ซ่งซีซีตอบอย่างเด็ดขาด"งั้นเกลียดก็จบเรื่องแล้วนี่ ขนาดตนเองก็เกลียด แล้วทำไมโรงงานต้องไปรับนางเล่า ก่อนหน้านี้ข้าก็คิดถึงสถานการณ์โดยรวมและอยากจะตรวจสอบเรื่องทั้งหมดนี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-18
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1032

    เป่าจูไม่ได้คิดลึกซึ้งมากนัก แค่คิดว่าด้วยเหตุการณ์นี้ทำให้พวกนางทั้งสองเกิดความบาดหมางขึ้นมามันจะไม่คุ้มเอาเสีย "ข้าน้อยแค่คิดว่าที่ผ่านมา ไม่ว่าท่านจะทำอะไรคุณหนูเสิ่นก็สนับสนุนท่านตลอด ข้าน้อยรู้สึกว่าไม่งั้นก็ทำตามที่นางบอกสักครั้งหนึ่งจะดีไหม ซ้ำยังไม่มีหลักฐานได้พิสูจน์ว่านอกจากคนรับใช้ของจวนโหวผิงหยางแล้วยังมีคนอื่นสร้างปัญหาให้นี่เจ้าคะ""เรื่องบางเรื่องเราต้องกันไว้ดีกว่าแก้นะ เป่าจู ข้ารู้ว่าตนเองทำอะไรอยู่ เจ้าไม่ต้องห่วง" ซ่งซีซีเท้าคาง แล้วครุ่นคิด "อีกหน่อยเดี๋ยวข้าไปจะโรงงาน"หงเซียวก็ยืนอยู่ข้างๆ ยังไม่ได้ออกไป จริงๆ แล้วนางเห็นด้วยกับความคิดของพระชายา เพิ่งจะก่อตั้งแรกๆ ก็เกิดวุ่นวายเช่นนี้ โรงงานต้องมีกฎเกณฑ์ของมันถึงจะถูก "พระชายา ให้ข้าไปเป็นเพื่อนท่านเถอะ"ซ่งซีซีเงยหน้าขึ้นมองหงเซียว แล้วพูดว่า "หงเซียว เจ้าไม่จำเป็นต้องไปกับข้า เจ้าตรวจสอบต่อไปและดูว่าเป็นเพราะมีใครถูกจ้างให้เผยแพร่ข่าวลือหรือไม่""เจ้าค่ะ!" หงเซียวรับคำสั่งแล้วออกไปซ่งซีซีเชิญหัวหน้าลู่เข้ามาและขอให้เขาไปถามไถ่กับพ่อบ้านเฟินดูว่าคนใช้ที่โดนเจียอี้ทรมานนั้นมีเท่าไร คนที่ก่อกวนอย่างรุนแรงนั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-18
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1033

    ซ่งซีซีกระโดดไปด้านนอกศาลาเก็บดอกกุหลาบดอกหนึ่งแล้วกัดเข้าปาก จากนั้นกระโดดสามครั้งติดต่อกันก็แล้วปีนขึ้นจากราวบันไดและนั่งข้างๆ เสิ่นว่านจือเขากางแขนออก หันหน้าให้เสิ่นว่านจือ และดันดอกกุหลาบที่กัดในปากไปให้เสิ่นว่านจือ มีรอยยิ้มในดวงตา และหน้าผากมีเม็ดเหงื่อออกเสิ่นว่านจือรับดอกไม้ด้วยมือข้างเดียวแล้วพูดด้วยความโกรธว่า "เอาล่ะ เป็นถึงพระชายานี่น่ะ การตีลังกาแบบนี้ไม่อายคนอื่นเหรอ? ยังจะเอาชื่อเสียงอีกไหมเนี่ย?""ใครใช้ให้ข้าไปทำให้คุณหนูเสิ่นผู้แสนดีของเราไม่พอใจเข้าเล่า" แก้มของซ่งซีซีแดงเล็กน้อยแต่ก็ยิ้มอย่างสดใส "แล้วคุณหนูเสิ่นยกโทษให้ข้าหรือเปล่าเนี่ย""ข้าไม่ได้โกรธเจ้าจริงๆ ไปเถอะ ไปหาเจียอี้ที่โรงงาน" เสิ่นว่านจือบีบแขนของนางอย่างแรงและจ้องมองกุ้นเอ๋อร์อีกครั้ง "ยังหัวเราะอยู่เหรอ? ขากรรไกรจะผิดปกติแล้ว"กุ้นเอ๋อร์ไม่สามารถระงับหัวเราะได้ และปาดน้ำตาขณะหัวเราะ "น่าขำจริงๆ ดูเหมือนลิงเลย"ซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือเพิกเฉยต่อเขาและเดินออกจากศาลาติดๆ กันเสิ่นว่านจือเดินตามหลัง พอเดินไปไม่นานก็เอาเท้าเตะก้นของซ่งซีซี และสาปแช่งว่า "ไอ้สารเลว"ซ่งซีซีหันหน้ากลับมาและแลบลิ้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-18

บทล่าสุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1390

    จีซูเซิ่นสอบถามอย่างละเอียดว่านางพบเขาได้อย่างไร ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพไหน และเขาพาเด็กมาด้วยหรือไม่ หวังชิงหรูกล่าวว่า “เมื่อวานข้าออกไปซื้อหม้อตุ๋น ตั้งใจจะทำยาบำรุงให้ท่านแม่ พอซื้อเสร็จออกมา เขาก็เดินเข้ามา ตอนนั้นข้าตกใจมาก คิดว่าเป็นคนร้าย เขาเรียกข้าว่าน้องสาม พอได้ยินเสียงข้าก็จำได้ทันที ใบหน้าของเขาดำคล้ำ คิ้วก็ถูกโกนจนหมด ทั้งตัวผอมจนแทบจำไม่ได้ ถ้าไม่เพ่งดูดีๆ ข้าคงไม่เชื่อว่าเป็นพี่ใหญ่” หวังชิงหรูนึกย้อนถึงเมื่อวาน และคำพูดของพี่สะใภ้ใหญ่เมื่อครู่ ก็ยังรู้สึกใจสั่น “เขาไม่ได้พาเด็กมาด้วย มาเพียงลำพัง เขาบอกว่าตอนนั้นถูกบังคับให้หนี ตอนนี้ทุกที่มีหมายจับเขา ติดตัวไม่มีเงิน แถมยังมีลูกต้องเลี้ยง จึงลำบากมาก เขาให้ข้ากลับไปคุยกับท่านแม่เพื่อช่วยหาเงินสามพันตำลึงให้” “ถ้าหาเงินมาได้ จะส่งให้เขาอย่างไร?” จีซูเซิ่นรีบถาม “เขาไม่ได้บอก เพียงแต่ให้ข้าหาเงินมาให้ได้ก่อน แล้วเขาจะหาทางมาหาข้าเอง” หวังชิงหรูกล่าว จีซูเซิ่นด่าในใจว่า เขาไม่ได้ระวังตัวกับคนอื่น แต่กลับใช้ความระมัดระวังทั้งหมดกับคนในครอบครัวตัวเอง นางคิดครู่หนึ่งก่อนถามว่า “เขาไม่มีคิ้วแล้ว?” “ใช่ คงโก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1389

    จีซูเซิ่นกำลังเย็บเสื้อผ้าให้ลูกสาว เมื่อตัดเย็บเสร็จ นางก็ปักลวดลายตกแต่งลงไป ทุกวันนี้ลูกสาวของนางอาศัยอยู่ในจวนเป่ยหมิงอ๋อง จึงไม่สมควรให้ข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดมาจากจวนอ๋อง ความคิดของนางยุ่งเหยิง คำพูดของพระชายาอ๋องที่พูดกับนาง นางเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดขึ้น หากหวังเบียวจนตรอก เขาย่อมกลับมายังเมืองหลวง แต่หลังจากเขากลับมาแล้ว เขาจะมาหานางทันทีหรือไม่ ก็ยังไม่แน่นอน เขาน่าจะพยายามหาฮูหยินผู้เฒ่าก่อน และเมื่อรู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าไม่มีความสามารถช่วยเหลือเขาได้ จึงจะมาหานาง แต่ฮูหยินผู้เฒ่ารักลูกชายมาก นางย่อมพยายามทุกวิถีทาง วันนี้แม้จะเพียงติดตามพวกนางตลอดทางโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าวันพรุ่งนี้หรือวันถัดไปจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น การที่หวังเบียวกลับมายังเมืองหลวง ก็เพียงเพราะต้องการเงิน เขาไม่อาจอยู่ในเมืองหลวงได้เป็นเวลานาน ฮูหยินผู้เฒ่าไม่มีเงินติดตัว แต่การอยู่ในเมืองหลวงมาหลายปี ทำให้นางมีเครือข่ายอยู่บ้าง ยืมจากตรงนั้นเล็กน้อย ตรงนี้เล็กน้อย ก็เท่ากับลากคนอื่นให้ลำบากไปด้วย อย่างไรก็ตาม นางป่วยหนักออกไปไหนไม่ได้ และคงไม่กล้าหน้าห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1388

    นางไม่ได้ไปหา หวังเยว่จาง ในอดีตนางอาจหน้าหนาพอที่จะคิดว่า เขาอย่างไรก็เป็นสายเลือดของจวนป๋อผิงซี เมื่อครอบครัวหรือญาติเกิดปัญหา การช่วยเหลือย่อมเป็นหน้าที่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ตอนนี้นางจะไม่ทำเช่นนั้นอีก นางเข้าใจความจริงบางประการว่า ในวันที่จวนป๋อผิงซีรุ่งเรือง เขาไม่เคยได้สัมผัสแม้เศษเสี้ยวของเกียรติยศนั้น แต่พอถึงวันที่ล่มจม กลับต้องการให้เขายื่นมือช่วยเหลือ นางทำเช่นนั้นไม่ได้ ส่วนเรื่องว่าจะไปหาพี่สะใภ้ใหญ่เพื่อพูดเรื่องนี้หรือไม่ นางลังเลใจยิ่งนัก เพราะอย่างไรเสีย นางก็ไม่อยากให้พี่ใหญ่ตาย นางนั่งอยู่ใต้ต้นไหว มองเหม่อลอยอยู่นาน พอดีศิษย์พี่ซือโซยกตะกร้าไหมเดินผ่านมา เมื่อเห็นนางก็รีบเลี้ยวหลบไปทางอื่น ท่าทางเหมือนไม่อยากเผชิญหน้ากับนาง หวังชิงหรูนึกถึงเรื่องเข้าใจผิดก่อนหน้านี้ รีบเรียกนางไว้ “ศิษย์พี่ซือโซ ขอโทษเรื่องเมื่อครู่นี้ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น” ศิษย์พี่ซือโซเหลือบมองนางแวบหนึ่ง “อืม” พูดจบ นางก็เตรียมเดินจากไป หวังชิงหรูคิดถึงนิสัยของหญิงสาวในยุทธภพเหล่านี้ ที่มักซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา ไม่คิดอะไรซับซ้อน จึงถามว่า “ศิษย์พี่ซือโซ ข้าขอพูดคุย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1387

    หวังชิงหรูรู้ว่าศิษย์พี่ซือโซเข้าใจผิด แต่ก็ไม่ได้รีบอธิบาย เพราะในใจยังว้าวุ่น นางปิดประตู ยกยาเข้าไปแล้วกล่าวว่า “ท่านแม่ ดื่มยาก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อยคิดหาวิธีแก้ทีหลัง” ฮูหยินผู้เฒ่าส่ายหน้า มองหน้านางพลางกล่าวว่า “ชิงเอ๋อร์ เจ้าลองถามใจตัวเองดูว่าพี่ชายของเจ้าเคยปฏิบัติกับเจ้าอย่างไร?” หวังชิงหรูขมวดคิ้วเล็กน้อย “ท่านแม่ พวกเราไม่มีความสามารถจะช่วยเขาได้ พวกเรายังอาศัยอยู่ในโรงงาน เงินที่ใช้ซื้อยาของท่านยังเป็นของแม่นางเสิ่นเลย” ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวว่า “เจ้าคิดผิด เงินเหล่านี้ล้วนเป็นของเยว่จาง เขาแม้จะไม่ได้ยอมรับพวกเรา แต่ช่วงนี้เขาก็ไม่ได้หยุดช่วยเหลือเราเลย” หวังชิงหรูกล่าวว่า “แม้ว่าเงินจะเป็นของเขา พวกเราก็ไม่มีสิทธิ์จะขอให้เขาเอาเงินไปช่วยพี่ใหญ่ของเรา” “เงินเหล่านั้น” ฮูหยินผู้เฒ่ากัดฟัน กล่าวความจริงออกมาว่า “ไม่ใช่ของเขา ในตอนนั้นที่เขากลับมา พี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้าแนะนำให้ชดเชยเขา จึงโอนที่ดินและร้านค้าให้เขาบางส่วน” “ในเมื่อโอนให้เขาไปแล้ว และเขาก็ช่วยเหลือพวกเราอย่างลับๆ เสมอมา ยังจะให้เขาคืนกลับมาอีกหรือ? ท่านแม่ เรื่องนี้ไม่ยุติธรรมสำหรับเขาเลย” ฮู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1386

    จีซูเซิ่นไม่ได้บอกเรื่องนี้แก่ฮูหยินผู้เฒ่าและหวังชิงหรู ในวันรุ่งขึ้นขณะที่พวกนางออกไปตรวจที่ร้านขายยาเย่าหวัง นางแปลงตัวเป็นชาวนาและแอบตามไป เพียงแต่ตลอดทางจากไปจนกลับ ไม่มีใครเข้ามาใกล้รถลาของพวกนาง และระหว่างทางรถลานั้นก็ไม่ได้หยุดเลย หลังจากกลับมาถึงโรงงาน หวังชิงหรูก็เริ่มต้มยา ในโรงงานไม่มีใครคอยรับใช้ ทุกคนต้องผลัดกันทำอาหาร ตอนแรกหวังชิงหรูทำอะไรไม่เป็นเลย แม้แต่การก่อไฟยังต้องใช้เวลาฝึกถึงสามวัน อาหารมื้อแรกที่นางทำถึงกับกินไม่ได้เลย คนในโรงงานช่วยเหลือกัน แต่ก็ล้อกันด้วย พวกเขาหัวเราะเยาะว่านางมีร่างกายเหมือนฮูหยิน แต่โชคชะตาไม่ใช่ฮูหยินตอนแรกนางโกรธและรู้สึกน้อยใจ คิดว่าทำไมต้องมาเจอกับความลำบากเช่นนี้ นางถึงขั้นคิดว่าพวกเขาตั้งใจกลั่นแกล้ง จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อเจียอี้มาที่โรงงานเพื่อเยี่ยม นางลงมือทำอาหารเอง มันอาจจะไม่เลิศรส แต่ก็รสชาติกลมกล่อมพอดี นางนิ่งเงียบไป หวังชิงหรูรู้ดีว่าเจียอี้เคยเป็นคนอย่างไร อดีตท่านหญิงที่หยิ่งยโส แต่หลังจากถูกหย่าแล้วได้รับการพากลับมา นางยังสามารถลดตัวเองลงและลงมือทำอาหารให้กลุ่มสตรีที่ถูกทอดทิ้งเหล่านี้ได้ ที่สำค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1385

    สถานการณ์ของหวังเบียวทำให้ซ่งซีซีแปลกใจไม่น้อย นางคิดว่าเขาจะพาคนสนิทหนีไปซ่อนได้อย่างน้อยสองสามปี ใครจะคาดคิดว่า ระหว่างทางเขาจะถูกปล้นทรัพย์สิน แม้แต่อนุที่รักก็ยังทอดทิ้งเขา ไม่รู้ว่าในเวลานั้น เขาเคยเสียใจต่อความโง่เขลาของตัวเองบ้างหรือไม่ คนวัยกลางคน กลับยังหลงเชื่อในความรักแท้ คิดจะทิ้งภรรยาที่อยู่เคียงข้างและดูแลเขามากว่าสิบปี สุดท้ายกลับถูกคนอื่นทิ้งเสียเอง นับว่าเป็นกรรมที่ตามสนอง แต่กรรมที่เขาได้รับยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ด้วยนิสัยของกู้ชิงหวู่ ตอนที่จากไปนางต้องเคยดูถูกเหยียดหยามเขาอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับที่นางเคยดูถูกเหลียงเส้า กู้ชิงหวู่ใช้ความงามของตัวเองเป็นเครื่องมือ แต่ในขณะเดียวกันก็เกลียดชังชายที่หลงใหลในความงามของนางอย่างยุติธรรม ในความเป็นจริง ซ่งซีซีคิดว่าหวังเบียวอาจไม่ได้อยู่ที่อำเภอหยง เพราะด้วยสถานะของเขาในฐานะผู้หลบหนี เขาไม่สามารถปรากฏตัวด้วยหน้าตาที่แท้จริง และไม่กล้าพำนักในที่ใดที่หนึ่งนานเกินไป ได้แต่หนีซุกซ่อน เขายังพาลูกไปด้วยอีก ซ่งซีซีคิดว่า หากเขาจนตรอก เขาอาจจะแอบกลับเมืองหลวงหรือไม่?แม้เขาจะโง่ แต่ก็ไม่ถึงกับโง่สิ้นดี เขารู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1384

    กู้ชิงหวู่กำหมัดแน่น ดวงตาเปล่งประกายแห่งความโกรธ "ดังนั้นข้าถึงบอกว่า สวรรค์ไม่ยุติธรรม ไยต้องเป็นเช่นนี้?" "เจ้าพูดเอง ด้วยชาติกำเนิดที่ดีของข้า รวมถึงสตรีหน้าเหลืองที่เจ้ากล่าวถึง นางก็เป็นสตรีผู้สูงศักดิ์" ซ่งซีซีตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่เต็มไปด้วยท่าทีเหนือกว่า กู้ชิงหวู่เกลียดชังท่าทางเช่นนี้ที่สุด มันเหมือนกับอดีตองค์หญิงใหญ่ที่อยู่บนหอคอยสูง ในขณะที่ตนต้องก้มต่ำอยู่ในโคลนตม นางโกรธจัด หน้าอกสะท้อนขึ้นลง "ถึงจะเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์แล้วอย่างไร? ก็ยังถูกสามีรังเกียจอยู่ดีมิใช่หรือ?" "หวังเบียวหรือ? นางไม่เคยใส่ใจเขาเลย มีแต่เจ้าที่มองเขาเหมือนสมบัติ" ซ่งซีซีตอบอย่างไม่ใส่ใจ "สำหรับข้า เขาก็ไม่ใช่สมบัติอะไร แค่ขยะชิ้นหนึ่ง" กู้ชิงหวู่ตอบด้วยแววตาดุดัน ซ่งซีซีหัวเราะเยาะ "ข้ารู้ว่าไม่ใช่เช่นนั้น เจ้าถึงกับให้กำเนิดบุตรให้เขา ทั้งที่รู้ว่าการหนีจากสนามรบเป็นความผิดร้ายแรง เจ้ากลับไม่สนใจและหนีตามเขาไป ข้าเคยเจอคนปากไม่ตรงกับใจเช่นเจ้ามานักต่อนัก" "ไร้สาระ!" กู้ชิงหวู่ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว ใบหน้าแดงก่ำ แต่ไม่นานก็หัวเราะเยาะ "ฮะ คิดจะหลอกข้าหรือ? ใช่ ข้ารักเขาจนถ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1383

    สถานที่อันเป็นมงคลนี้ถูกเลือกโดยสำนักโหรหลวง เป็นสถานที่ที่งดงามด้วยภูเขาและสายน้ำ มีหมู่บ้านอยู่ใกล้ๆ สองแห่ง แม้จะเรียกว่าด้านข้างพระราชสุสาน แต่ความจริงแล้วห่างจากพระราชสุสานถึงสามสิบลี้ หลังจากงานศพ กู้ชิงหยิงมาพบซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือเพื่อกล่าวลา บอกว่าจะไปสร้างกระท่อมเล็กๆ อยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียงเพื่อเฝ้าสุสานของบิดาบุญธรรม เสิ่นว่านจือถามว่านางต้องการความช่วยเหลือเรื่องเงินหรือไม่ นางตอบว่าไม่จำเป็น เพราะนางจะขายเครื่องประดับที่เคยซื้อไว้ ก็เพียงพอจะกลายเป็นคนมีฐานะเล็กๆ ได้ วันที่นางจากไปพอดีกับวันที่เจ้าสิบเอ็ดฝางคุมตัวอ๋องเยี่ยนและคนอื่นๆ กลับเมืองหลวง นางยืนอยู่ที่ประตูเมือง มองเข้าไปในรถนักโทษที่มีอ๋องเยี่ยนและอ๋องฮวย ความเกลียดชังพลันผุดขึ้นในใจ แต่เมื่อเห็นชาวบ้านต่างด่าทอและโยนใบไม้เน่าใส่พวกเขา นางก็รู้สึกคลายความโกรธ เพราะคิดว่าคนชั่วได้กรรมของตนเองแล้ว สำหรับนาง นับจากนี้ก็เป็นอิสระแล้ว ไม่มีใครหรือสิ่งใดมาผูกมัดนางได้อีก ในการคุมตัวครั้งนี้ ยังมีข้าราชการของหนิงโจวและชิวเหมิงถูกนำตัวกลับมาด้วย สิ่งที่ทำให้ซ่งซีซีประหลาดใจคือ นางยังเห็นกู้ชิงหวู่ด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1382

    ใช้เวลาห้าวันกว่าจะกวาดล้างเศษซากกบฏได้หมดสิ้น เจ้าสิบเอ็ดฝางและมู่ฉงกุยส่งข่าวชัยชนะมาว่าได้จับชิวเหมิงกบฏตัวสำคัญเป็นเชลย พร้อมนำตัวอ๋องเยี่ยน อ๋องหวย และอู๋เซียงผู้ทรยศกลับมายังเมืองหลวง ซึ่งอีกไม่นานจะมาถึง ยกเว้นเพียงหวังเบียวที่ยังคงหลบหนี นอกนั้นกบฏส่วนใหญ่ล้วนถูกจับกุมได้หมดแล้ว วันที่ 25 เดือนเจ็ด สำนักราชวังจัดพิธีศพให้ท่านอ๋องฮุย เพราะเหตุการณ์กบฏของเซี่ยทิงเหยียน พิธีศพจึงจัดอย่างเรียบง่าย และจักรพรรดิ์ซูชิงทรงเรียกขุนนางมาหารือว่าท่านอ๋องฮุยควรได้ฝังในสุสานอ๋องหรือไม่ แม้ว่าท่านอ๋องฮุยจะบริสุทธิ์ แต่ความผิดของเซี่ยทิงเหยียนเป็นโทษที่เกี่ยวพันถึงทั้งตระกูล ซ่งซีซีไม่ได้รับการเรียกตัวให้เข้าร่วมพิธี นางจึงพาผู้คนจากจวนเป่ยหมิงอ๋องมาร่วมงานศพของอ๋องฮุย พิธีศพจัดอย่างเรียบง่าย ไม่มีขุนนางมาร่วมงาน นอกจากจักรพรรดิ์จะทรงอนุญาตให้อ๋องฮุยฝังในสุสานอ๋อง มิฉะนั้นจะไม่มีใครกล้าเข้าร่วม กู้ชิงหยิงสวมชุดไว้ทุกข์คุกเข่าเผากระดาษหน้าโลงศพ ศพของอ๋องฮุยถูกบรรจุในโลงแล้วแต่ยังไม่ได้ปิดฝา เมื่อซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือมาถึง ยังสามารถไปดูหน้าศพครั้งสุดท้ายได้ มีโลงศพสา

DMCA.com Protection Status