Share

บทที่ 0376

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
เมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของนาง องค์หญิงใหญ่ก็รู้สึกหมั่นไส้จากก้นบึ้งของหัวใจ ใบหน้านี้คล้ายกับหน้าแม่ของนางไม่มีผิดเลย

ล้วนเป็นผู้หญิต่ำช้า

รอยยิ้มบนใบหน้าของซ่งซีซียังยิ้มกว้าง "เรามาตรวจบัญชีอย่างเปิดเผย ไม่ทราบว่าทำไมท่านป้าต้องใช้กำลังเช่นนี้ หรือว่าในนั้นมีอะไรแอบแฝงอยู่จริงๆ หรือ รอตรวจสอบบัญชีที่จวนโหวผิงหยางแล้ว เสด็จแม่ ท่านต้องจัดงานเลี้ยงสักหน่อย เพื่อเชิญชวนทุกคนมาพิจารณาเรื่องนี้"

เจียอี้ตะเบ็ง "เจ้าเอาแต่พูดพล่อยๆ จะมีเรื่องแอบแฝงอะไร ที่ผ่านมาไม่ได้ส่งสมุดบัญชีให้สนมฮุ่ยไทเฟยดูหรือไง"

"ช่างบังเอิญจริงๆ สมุดบัญชีที่เจ้าส่งไปที่พระราชวังแตกต่างไปจากสมุดบัญชีที่ข้าพบในร้านจินโดยสิ้นเชิง" ซ่งซีซีมองดูเจียอี้ และเสียงของนางก็เข้มงวด "สมุดบัญชีที่เจ้าส่งไปนั้นขาดทุน แต่สมุดบัญชีที่ร้านจินกลับทำกำไร เจ้าว่ามันไม่มีอะไรแอบแฝงหรือ?"

เจียอี้รู้สึกหงุดหงิดมาก "เจ้าส่งเสียงดังโวยวายทำไม ที่นี่คือจวนองค์หญิง มิใช่จวนจวนเสนาบดีกั๋วกงหรือจวนอ๋องของเจ้า"

ใบหน้าของซ่งซีซีเต็มไปด้วยความเย็นชา "จวนองค์หญิงแล้วทำไม หรือว่าจวนองค์หญิงไม่ใช้เหตุผลเหรอ ในเมื่อเช่นนี้ ดูเหมือนว่าไม่จำเ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Breadiful
แม่สามีคนนี้น่ารัก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 0377

    สองชั่วยามเต็มๆ พอดีเลย ข้างนอกมืดมากแล้ว และอากาศก็ยิ่งหนาวเย็นลงอีกนักบัญชีที่มีเคราเข้ามารายงานว่า "ทูลองค์หญิงใหญ่ ได้ตรวจสอบบัญชีหมดแล้ว ยอดที่ทำออกมานั้นตรงกับยอดของพระชายาไม่มีผิดขอรับ""ช่างบังอาจ!" องค์หญิงใหญ่ทุบถ้วยอีกใบ ส่งเสียงดังกราวซึ่งทำให้สนมฮุ่ยไทเฟยตกใจและตื่นขึ้นมาทันที มองดูเจ้าองค์หญิงใหญ่ที่โกรธแค้นด้วยสายตาที่ลุกลี้ลุกลนองค์หญิงใหญ่พูดอย่างปรี๊ดแตก "คนใช้ชั่ว กลับรายงานบัญชีเท็จและยักยอกเงินของสนมฮุ่ยไทเฟยและท่านหญิงเจียอี้ ข้าจะลงโทษเขาอย่างหนักแน่นอน"ซ่งซีซีปล่อยสนมฮุ่ยไทเฟย แล้วพูดว่า "ตรวจชัดเจนแล้วก็ดี ในเมื่อหัวหน้าจ้าวทุจริต เรื่องนี้ก็ไม่ต้องให้องค์หญิงใหญ่ออกหน้าแล้ว ข้าจะส่งเขาไปที่หอต้าหลี่ และให้เขาคายเงินที่เขาโกงออกมาทั้งหมด""ซีซี!" น้ำเสียงขององค์หญิงใหญ่อ่อนโยนกว่ามาก และนางก็ถอนหายใจ "ท่านพี่ของเจ้าก็มีส่วนผิดเช่นกัน นางดูแลคนได้ไม่ดีนัก และมีคนยักยอกเงินไปมากมายขนาดนี้นางยังไม่รู้เรื่อง หัวหน้าจ้าวก็เป็นคนของจวนโหวผิงหยาง หากเรื่องนี้ไปกันใหญ่ มันจะเป็นผลเสียต่อทั้งจวนโหวผิงหยางและท่านพี่เจ้านะ เอาอย่างนี้ เจ้าเอาคนนั้นมาให้ข้า ข้าจะให

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 0378

    ท่ามกลางแสงสว่างจ้า ซ่งซีซีนับตัวเงิน เป็นยอดที่ร้านจินทำกำไรมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไม่มีผิด แม้แต่เศษเงินก็ให้ครบเมื่อเห็นว่าท่าทีที่นางนับเงินอย่างจริงจังนั้น ท่านหญิงเจียอี้เกลียดชังจนกัดฟันกรอดแต่เมื่อคิดว่ามันจบเรื่องแล้ว ก็ยังถอนหายใจด้วยความโล่งอกแต่ใครจะรู้ว่า ซ่งซีซีกล่าวเสริมว่า "พรุ่งนี้ข้าจะขายร้านนี้ต่อ และข้าจะเผยข่าวว่าร้านนี้เป็นท่านป้าและท่านพี่เป็นคนดำเนินกิจการ ด้วยชื่อเสียงของทั้งสองท่าน คนที่มาดูร้านเพราะได้ยินชื่อของพวกท่านต้องเยอะแน่นอน ข้าจะกำหนดราคาพื้นฐานไว้สองแสนห้าหมื่นตำลึง เป็นยังไงบ้าง?"ใบหน้าของเจียอี้เปลี่ยนไปทันที "อะไรนะ เจ้าจะบอกคนนอกว่าข้ากับท่านแม่เป็นเจ้าของร้านหรือ ไม่ได้การ"ชื่อเสียงร้านจินจะเป็นยังไงบ้าง? ประการแรก ร้านจินคัดลอกรูปแบบจากร้านอื่น และประการที่สอง วัสดุที่ใช้นั้นหยาบกระด้าง หากแพร่กระจายไป มันจะทำลายชื่อเสียงของนางและท่านแม่ด้วย นางแค่ต้องการหาเงิน และนางไม่ต้องการที่จะยอมรับว่าร้านจินเป็นของนางซ่งซีซีอุทานว่า "ก็จริง ท่านพี่ไม่ได้เป็นคนดำเนินกิจการจริงๆ งั้นหัวหน้าจ้าวเป็นคนของจวนโหวผิงหยาง งั้นบอกคนนอกว่าเป็นร้านของจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 0379

    ซ่งซีซีเอนหลังเก้าอี้ นางตัวสูงและขายาว ดังนั้นจึงดูมีออร่าเป็นพิเศษเมื่อนั่งแบบนี้รอยยิ้มเล็กน้อยปรากฏขึ้นที่มุมริมฝีปากของนาง และดวงตาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม นางดีใจมากที่สนมฮุ่ยไทเฟยไม่ได้ถูกองค์หญิงใหญ่หลอก แม้ว่าคำพูดของนางจะฟังดูเหมือนไม่ค่อยเต็มใจมากนักก็ตามองค์หญิงใหญ่ใช้วิธียั่วยุไม่ได้ผล จึงยิ้ม "คนใดมีความสามารถคนๆ นั้นก็ดูแลบ้าย ไม่มีผิด ทำไมข้าจำได้ว่าเจ้าเคยบอกว่ารังเกียจนางที่เป็นผู้หญิงที่เคยแต่งงานมาล่ะ บอกว่าไม่คู่ควรกับโม่เอ๋อ นี่แค่กี่วังเอง ก็ถูกนางซื้อเป็นพวกแล้ว มีฝีมือจริงๆ สนมฮุ่ยไทเฟย ข้ากังวลว่าต่อไปเจ้าอยู่จวนอ๋อง จะโดนนางหลอกเอาได้"ซ่งซีซีพูดอย่างเย็นชาออกมา "จบกันแค่นี้แหละ ที่เหลือจะทำตามที่ข้าพูด ขอตัวก่อน""เดี๋ยวก่อน!" องค์หญิงใหญ่ตะโกนอย่างเฉียบขาด "ซ่งซีซี อย่ามากเกินไป"ทันทีที่นางตะโกนนั้น สนมฮุ่ยไทเฟยตัวสั่นโดยสัญชาตญาณจู่ๆ ซ่งซีซีก็ระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างรุนแรง "จะมากเกินไปอะไร เรื่องบางเรื่องข้าไม่อยากพูดให้ชัดเจน เพราะไม่อยากให้เจ้าต้องหน้าแตกจนไม่น่าดู ในเมื่อเจ้าไม่กลัวโดนฉีกหน้า งั้นผู้หญิงที่เคยหย่ามาอย่างข้าจะกลัวทำไม หัวหน้าจ้าวไม่ได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 380

    นับเงินอีกแล้ว ตัวเงินไม่พอ ก็ใช้แท่งทองคำมาแทนดูเหมือนว่าองค์หญิงใหญ่จะมีเงินเก็บเยอะอยู่ การหาเงินมากกว่าสองแสนตำลึงนั้นจึงไม่นับว่าเป็นเรื่องยากก่อนหน้านี้ก็ประเมินนางต่ำเกินไปแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นางได้เลี้ยงดูทหารประจำจวนและคนรับใช้หลายร้อยคน ยังมักจะจัดงานเลี้ยงด้วย สวมเสื้อผ้าที่หรูหรา เครื่องประดับราคาแพง และของกินของใช้ล้วนเป็นของดีทั้งนั้นเพียงเห็นท่าทางที่นางออกเงินนั้นราวกับหัวใจของนางกำลังจะมีเลือดไหลอยู่ ซ่งซีซีคิดว่าเงินก้อนนี้คงเข้าถึงจุดอ่อนของนางแล้วครั้งนี้พวกนางแตกคอกันจริงๆแต่ได้คืนสิ่งที่สมควรได้รับและเงินที่ถูกโกงนั้น อย่างน้อยก็ไม่ได้เสียเปรียบ ส่วนเรื่องที่แตกคอกับนาง มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกแล้ว ความสามัคคีอันเสแสร้งนี้เช่นนี้ก็ไม่จำเป็นต้องรักษาต่อกลับจวน!เมื่อสองแม่ลูกองค์หญิงใหญ่เฝ้าดูการจากไปของนาง ไม่มีความสุภาพเหมือนตอนที่นางมาแม้แต่น้อย และหลังตรงของนางก็แสดงความรู้สึกครอบงำ"ซ่งซีซี!" องค์หญิงใหญ่กัดฟันกรอด เวลานี้ตนเองทำอะไรไม่ได้นางเลยเจียอี้ยังรู้สึกเจ็บปวดใจมาก "น้ำพักน้ำแรงที่นางพยายามมาหลายมีนี้เสียเปล่าไปหมด ทั้งหมดเป็นเพราะนั

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 381

    เซี่ยหลูโม่และจางต้าจ้วงเป็นผู้นำทาง และรถม้าก็ตามอยู่ข้างหลังอย่างช้าๆสนมฮุ่ยไทเฟยจับมือซ่งซีซี และมีความสุขมากจนไม่รู้จะอธิบายยังไง "ข้าไม่คาดคิดจริงๆ ว่าเจ้าจะทำให้พวกนางคืนเงินทั้งหมดได้ คนอื่นเป็นยังไงไม่รู้ แต่ข้ารู้จักองค์หญิงใหญ่เป็นอย่างดี นางดูใจดีกับทุกคน แต่จริงๆ แล้วเนางกลับเป็นคนเผด็จการมาก"ซ่งซีซีค่อยๆ ดึงมือของนางออกแล้วพูดว่า "ถ้ารู้ว่านางเป็นคนยังไงต่อไปก็สุงสิงกับนางให้น้อยลงก็ได้"สนมฮุ่ยไทเฟยตอบกลับว่าอืม หลังจากคิดดูอีกทีแล้วก็รู้สึกเป็นห่วง "แค่กังวลว่าหลังจากแตกคอกับนางแล้ว ต่อไปนางจะพูดจาให้ร้ายเราเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกฮูหยิน เพื่อทำลายชื่อเสียงของเรา""แค่นี้มีอะไรต้องกังวล" ซ่งซีซีกล่าวอย่างใจเย็น"แน่นอนว่าเจ้าไม่ต้องห่วง ชื่อเสียงของเจ้าเสียตั้งแต่แรกแล้ว แต่ข้าเพิ่งออกจากวัง จะเสื่อมเสียชื่อเสียงไม่ได้"ซ่งซีซีชายตาแลดูนางแวบหนึ่ง เมื่อพูดคุยกับคนของตนเองก็พูดแทงใจดำทุกคำเลยสนมฮุ่ยไทเฟยตระหนักได้ว่านางพูดอะไรผิด และรีบแก้ตัวว่า "นั่นไม่ใช่อย่างนั้นนะ นี่ไง เซียนหนิงกำลังหาคู่ครองอยู่ องค์หญิงใหญ่ได้ไปมาหาสู่กับตระกูลชั้นสูงมากมายอย่างใกล้ชิด กลัวว่า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 382

    คิอไปคิดมา บวกกับอากาศหนาวจัด สมองก็เริ่มสับสนขึ้นมา และกระดูกก็เจ็บเหมื่อยเล็กน้อยเมื่อกลับมาถึงจวน ซ่งซีซีช่วยพยุงนางลง และสั่งให้คนใช้ทันทีว่า "ทำน้ำขิงร้อนๆ หม้อหนึ่ง ทุกคนต่างก็หนาวจัด มาดื่มน้ำขิงร้อนๆ สักชามเพื่อคลายความหนาวเย็นออกไป"สนมฮุ่ยไทเฟยรู้สึกละอายใจมากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ซ่งซีซีมีน้ำใจจริงๆ นางยังจำได้ว่านางได้ทนความหนาวเย็นในจวนองค์หญิง ความกตัญญูกตเวทีและความเอาใจใส่ของนางมีผู้ใดสามารถเทียบได้ล่ะนางไม่เคยคิดซ่งซีซีไม่ได้ทำเพื่อนาง แต่เพราะเซี่ยหลูโม่โดนลมหนาวพัดอยู่ข้างนอก นางห่วงใยสามีของตนเองห้องครังต้มน้ำขิงมาให้ และแต่ละคนก็หยิบถ้วยหนึ่งขึ้น ซ่งซีซีจ้องมองที่เซี่ยหลูโม่ได้ดื่มไปสองถ้วยก่อนที่จะปล่อยเขาไป จากนั้นก็หันกลับมาเห็นแม่สามีกำลังจิบช้าๆ อยู่ นางก็พูดว่า "เสด็จแม่ดื่มถ้วยหนึงก่อนแล้วกินอาหารร้อนๆ อีกที"วันนี้ไปที่นั่นก็ตกเย็นแล้ว จากนั้นก็เริ่มตรวจสอบบัญชี ทางจวนองค์หญิงไม่แม้แต่จะให้น้ำกินเลย นับประสาให้อาหารด้วย"อืม รู้แล้ว" สนมฮุ่ยไทเฟยตอบด้วยเสียงแหบแห้ง นางรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างอธิบายไม่ถูก "ข้าจะดื่มให้หมด""ก็ได้ งั้นข้าจะกลับเรือนแช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 383

    จะอายไม่อายนั้น สุดท้ายทั้งสองคนก็แช่น้ำด้วยกันหลังจากแช่น้ำเสร็จแล้ว ภายในม่านสีแดงก็ยังคงนัวเนียกันอยู่ ดีที่ทั้งคู่เป็นผู้ฝึกทักษะการต่อสู้มา แม้ว่าพวกเขาจะนอนแค่หนึ่งหรือสองชั่วยาม แต่ก็ยังทนได้เมื่อตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น ก็เห็นหญิงวัยกลางแปลกหน้าสองคนเดินเข้ามารับใช้เซี่ยหลูโม่นี่คือหัวหน้าลู่จัดให้ เดิมทีป้าสองคนนี้ทำงานในห้องเย็บผ้า เนื่องจากตอนนี้ข้างกายท่านอ๋องไม่มีคนใช้ และก็ไม่เหมาะที่จะให้ชายรับใช้เข้าเรือนคอยดูแลเรื่องการแต่งกายในส่วนของสาวใช้ที่อยู่เคียงข้างพระชายา รุ่ยจูและตูงจูไปรับใช้คุณชายรุ่ยเอ๋อร์ ในขณะที่เป่าจู เสวียจูและหมิงจูอยู่เคียงข้างกับพระชายาเพื่อรับใช้นางอย่างใกล้ชิดแม่นมเหลียงดูแลเรื่องเรือนดอกบ๊วยทั้งหมด ย่อมไม่สามารถรบกวนนางมาดูแลหากส่งสาวน้อยไปดูแล เกรงว่าพวกนางอาจมีความคิดอื่นแอบแฝง สู้ไม่ได้ที่จะให้ป้าหยินและป้าฉงจากห้องปักเย็บมาเพื่อรับใช้ท่านอ๋อง ทั้งคู่มีอายุประมาณสี่สิบปี ทำงานจริงจังและละเอียด ไม่เกิดความคิดอื่นฝดได้จะว่าไป ป้าทั้งสองคนนี้ก็ได้รับพระราชทานจากไทเฮาตอนที่ท่านอ๋องสร้างจวนอ๋อง ก่อนหน้านี้รับใช้ไทเฮาอยู่ ดังนั้นจึงคอยไ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 384

    หยูจินพูดด้วยรอยยิ้ม "มีพระชายาอยู่ จะไม่ให้เจ้าเสียเปรียบหรอก เจ้าแค่ทำงานของเจ้าให้ดี หลังจากทหารประจำจวนเข้าจวนแล้ว จะให้เจ้ามาดูแลและฝึกฝน เหนื่อยเช่นนี้ ย่อมมีค่าตอบแทนพิเศษให้ด้วย"กุ้นเอ๋อร์ไม่อยากได้ยินคำพูดคลุมเครือเช่นนี้ เขาจึงถามตรงๆ ว่า "แล้วเท่าไหร่ล่ะ?"อาจารย์หยูจินชูหนึ่งนิ้วขึ้นแล้วพูดว่า "ยอดนี้"ตอนนี้กุ้นเอ๋อร์มีท่อนไม้แท่งหนึ่งอยู่ในใจและอยากจะฟาดหัวอาจารย์หยูจินตรงๆ เลย จะบอกตรงๆ ไม่ได้หรือไง ต้องให้เขาเดาแบบนี้"แค่บอกว่าจะทำหรือไม่ทำ!" เซี่ยหลูโม่ถาม"ทำ!" กุ้นเอ๋อร์ตอบรับทันที เดี๋ยวค่อยหาโอกาสให้ซีซีไปถามให้ว่ามันเท่าไหร่กันแน่ถึงยังไงงานนี้ต้องทำอยู่แล้ว หากหาเงินส่งกลับนิกายไม่ได้ กุ้นเอ๋อร์โดนแน่ๆ"ได้ เรื่องรับสมัครคนนั้นเจ้าไม่ต้องสนใจ เจ้าแค่เป็นหัวหน้ากล่ม ช่วยฝึกฝนให้พวกเขาดีๆ ก็พอ" อาจารย์หยูจินกล่าวกุ้นเอ๋อร์ตอบว่า "ได้ แต่ในจวนอ๋องแห่งนี้สามารถรองรับคนจำนวนมากเช่นนี้ได้หรือ?"หัวหน้าลู่กล่าวว่า "เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ ด้านหลังจวนอ๋องยังมีพื้นที่ว่าง เราจะหาช่างฝีมือในปีหน้า ตราบใดที่มีเงินเพียงพอ ก็สามารถสร้างเสร็จได้เร็วๆ นี้""แล้ว

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1431

    จักรพรรดิ์ซูชิงดูเหมือนจะทรงได้สติขึ้นมากกว่าตอนที่อยู่ในวัง ไม่ได้ทรงเลื่อนลอยเหมือนก่อนหน้านี้ พระองค์ทรงแย้มพระสรวล “ไม่ต้องเคร่งครัดนัก ทำตัวตามสบาย เฮ้อ ข้าเพียงรู้สึกอึดอัดในใจเลยอยากมาที่จวนอ๋องเพื่อสนทนากับอาจารย์เสิ่น” ซ่งซีซีจึงกล่าว “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระหม่อมคงไม่ขัดพระองค์และศิษย์พี่ ขออนุญาตกลับไปพักผ่อน” “ไม่ต้องรีบไป ในเมื่อมาแล้วก็มาร่วมพูดคุยกันเถิด” จักรพรรดิ์ซูชิงทรงมองนางด้วยสายพระเนตรที่ดูเป็นห่วง “อาการบาดเจ็บของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” ซ่งซีซีที่เพิ่งยันตัวลุกขึ้นต้องวางมือลงอีกครั้ง ตอบว่า “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงห่วงใย กระหม่อมดีขึ้นมากแล้ว เพียงแต่หมอหลวงกำชับให้พักฟื้นบนเตียงสักระยะ” “อืม” จักรพรรดิ์ซูชิงพยักพระพักตร์ “บาดเจ็บกล้ามเนื้อและกระดูก ควรต้องพักรักษาให้ดี” แม้พระองค์จะตรัสเช่นนั้น แต่ก็ไม่ได้ทรงอนุญาตให้นางกลับไป ทั้งห้องจึงมีทั้งผู้ที่นั่งและยืนอยู่เงียบๆ เพื่อรอพระราชดำรัส ผ่านไปสักพัก จักรพรรดิ์ซูชิงทรงทำลายความเงียบขึ้นก่อน “มีอาหารว่างหรือไม่? ข้าหิวแล้ว” อู๋ต้าปั้นเมื่อได้ยินรีบกล่าว “ฝ่าบาทยังมิได้เสวยอาหารค่ำ รีบจัดเตร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1430

    ข่าวคราวเรื่องราวในห้องหนังสือและตำหนักฉือหนิงได้ถูกนำขึ้นกราบทูลถึงพระกรรณของจักรพรรดิ์ซูชิง ทำให้พระองค์ทรงรู้สึกกระวนกระวายและอึดอัดพระทัยยิ่งนัก รวมทั้งการวางแผนงานตลอดหลายวันที่ผ่านมา ยิ่งทำให้พระอาการปวดศีรษะรุนแรงขึ้นจนแทบแตกออกเป็นเสี่ยงๆ พระองค์ทรงยกเลิกการกักบริเวณฮองเฮา โดยแท้จริงแล้วก็เพื่อเตรียมตัวให้องค์ชายใหญ่ หากจะทรงแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาท ตำแหน่งนี้ย่อมไม่อาจมีมารดาที่ถูกกักบริเวณได้ ตอนแรกทรงคิดว่า ช่วงเวลากักบริเวณนี้ ฮองเฮาคงจะได้สำนึกผิด ทราบดีว่าการตามใจบุตรไม่ต่างอะไรกับการผลักดันบุตรไปสู่ความตาย แต่ใครจะคาดคิดว่าฮองเฮาไม่เพียงไม่สำนึกผิด กลับยิ่งเชื่อว่าการมีพระโอรสอยู่ใกล้ตัวจะช่วยเสริมความมั่นคงให้ตำแหน่งพระมเหสีของนาง เนื่องจากไม่ค่อยอยากอาหาร พระกระยาหารค่ำในวันนั้น พระองค์เสวยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อประทังพระอุทร ก่อนเสวยยา พระองค์จำเป็นต้องเสวยยา เพราะแต่ละวันผ่านไปนับเป็นกำไร แต่ด้วยวันสุดท้ายของพระชนม์ชีพที่นับถอยหลังเข้ามาใกล้ หลังจากทรงวางแผนการ พระทัยกลับเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น พระองค์ทรงทราบดีว่าทุกคนล้วนต้องผ่านความตายนี้ แต

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1429

    ฮองเฮาเลือกเวลาอย่างเหมาะสม ไปยังห้องหนังสือเพื่อรับองค์ชายใหญ่ แล้วจึงพากันกลับไปยังตำหนักฉือหนิงเพื่อถวายพระพรไทเฮา กลุ่มคนที่ตามหลังมานั้นอลังการยิ่งนัก แม้แต่องค์ชายใหญ่ยังถูกข้ารับใช้ตัวน้อยอุ้มกลับมา พอมาถึงประตูตำหนักจึงวางเขาลง ฮองเฮาจัดระเบียบอาภรณ์ให้เรียบร้อย แล้วจูงมือองค์ชายใหญ่เข้าไปด้านใน ทำความเคารพด้วยการคุกเข่าตามธรรมเนียม ถวายพระพรไทเฮาอย่างครบถ้วน แต่ไทเฮากลับมิทรงอนุญาตให้นางลุกขึ้นทันที เพียงเรียกองค์ชายใหญ่เข้าไปใกล้ "วันนี้ไทฟู่ชมเจ้าหรือไม่?" องค์ชายใหญ่หดคอเล็กน้อย มองไทเฮาอย่างระมัดระวัง ก่อนตอบเสียงเบา "วันนี้ไทฟู่ลืมชมขอรับ" ฮองเฮาที่ยังคุกเข่าอยู่รีบเสริมว่า "เสด็จแม่ ไทฟู่เข้มงวดนัก มิชมผู้ใดง่ายๆ" แน่นอนว่าฮองเฮาหาได้ทราบไม่ว่า ไทเฮาเคยตกลงกับไทฟู่ว่าหากองค์ชายใหญ่ประพฤติดีและตั้งใจเรียน ไทฟู่จะกล่าวชมเมื่อตอนเลิกเรียน หากมิใช่ก็จะเงียบเสีย ด้วยเหตุนี้ ไทเฮาจึงทรงทราบถึงความประพฤติขององค์ชายใหญ่ในแต่ละวันโดยง่าย ไทเฮามิทรงตอบคำของฉีฮองเฮา เพียงตรัสกับองค์ชายใหญ่อย่างเรียบๆ ว่า "ยังจำกฎเกณฑ์ได้หรือไม่?" องค์ชายใหญ่หน้าซีด รีบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1428

    สองแม่ลูกพูดคุยกันในห้องทรงพระอักษรเกือบสองชั่วโมง หลังจากไทเฮาเสด็จกลับ จักรพรรดิ์ซูชิงมีพระราชโองการให้ปลดโทษกักบริเวณของฮองเฮา แต่ยังไม่คืนสิทธิ์การบริหารวังหลังให้ ฉีฮองเฮาเมื่อได้ยินคำประกาศจากอู๋ต้าปั้น ก็แทบไม่เชื่อหูตัวเอง ไฉนถึงยกเลิกโทษกักบริเวณอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่ในทันใดนั้น นางก็คิดได้ว่าคงเป็นเพราะคำพูดที่ให้นักเลงปากมอมแพร่ออกไปก่อนหน้านี้ได้ผล ฮองเฮายังมีชีวิตอยู่ แต่จะส่งรัชทายาทไปเลี้ยงดูในวังไทเฮา เช่นนี้ไม่สมเหตุสมผล ดังนั้น หลังจากนางได้รับการปลดโทษ นางไม่ได้รีบไปขอบคุณพระมหากษัตริย์ แต่เลือกไปที่โรงเรียนหลวงเพื่อเยี่ยมองค์ชายใหญ่ เมื่อองค์ชายใหญ่เห็นฮองเฮา ทรงดีพระทัยจนสุดขีด ไม่สนใจว่าไทฟู่ยังสอนอยู่ รีบลุกขึ้นพุ่งตัวราวกับนกที่พ้นกรง กระโจนเข้าสู่อ้อมอกของฉีฮองเฮา "เสด็จแม่ ลูกคิดถึงท่านเหลือเกิน ท่านจะพาลูกกลับไปเมื่อไหร่พ่ะย่ะค่ะ?" ฮองเฮาก้มลงจับบ่าของพระองค์ ลูบเส้นผม แล้วสังเกตดูอย่างถี่ถ้วน เมื่อเห็นว่าไม่ได้สวมเสื้อขนสัตว์ และตัวผอมลงมาก คางแหลม นางก็อดปวดใจไม่ได้ "เหตุใดเจ้าผอมเช่นนี้? ที่วังเสด็จย่าไม่ได้เลี้ยงดูอย่างดีหรือ?" องค์

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1427

    รุ่งขึ้น เสนาบดีมู่มาถึงสำนักหมอหลวง บรรดาหมอหลวงทั้งหมด รวมทั้งเจ้าสำนักอยู่พร้อมหน้า เสนาบดีมู่ประทับนั่งลงก่อนมองพวกเขาด้วยแววตาหนักอึ้ง "ข้าถามพวกเจ้าเพียงคำเดียว โรคของฝ่าบาท พวกเจ้ามีความมั่นใจหรือไม่?" เหล่าแพทย์เงียบไปพักใหญ่ ก่อนที่อู๋ย่วนเจิ้งจะเงยหน้าที่ตาแดงก่ำเพราะอดหลับอดนอนขึ้นมองเสนาบดีมู่แล้วส่ายหน้า "ไม่มีขอรับ" "ไม่มีเลยหรือ?" เสนาบดีมู่ถามด้วยท่าทีเหมือนไม่ยอมแพ้ "แม้แต่ความหวังเล็กๆ หรือวิธีการสักนิด?" ในความเงียบงันอีกครั้ง ดวงตาของเสนาบดีมู่ค่อยๆ หมองลงจนไร้แสง เขาถอนหายใจยาว "หากระดมกำลังจากสำนักหมอหลวงทั้งหมด จะยืดเวลาออกไปได้ถึงสองปีหรือไม่?" อู๋ย่วนเจิ้งมีสีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด "ท่านเสนาบดี โรคปอดทรุดนี้กำเริบอย่างรุนแรง อย่าว่าแต่สองปีเลย เพียงหนึ่งปีก็...ยากมากพ่ะย่ะค่ะ" ครั้งนี้ถึงคราวเสนาบดีมู่เงียบไปนาน ก่อนทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่ง "ระวังคำพูดของพวกเจ้าด้วย" เขาค่อยๆ เดินออกจากสำนักหมอหลวง พลางกระชับเสื้อคลุมให้แน่น ฤดูหนาวผ่านเข้ามาเร็วนัก อากาศยิ่งหนาวจนแทงกระดูก ไทเฮาดูเหมือนจะไม่ยุ่งเกี่ยว แต่แสงไฟในสำนักหมอหลวงสว่างตล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1426

    คืนนี้ เสนาบดีมู่พักอยู่ในวัง จักรพรรดิ์ซูชิงยังคงไม่ได้เสด็จไปยังฝ่ายใน หรือแม้แต่ห้องบรรทมของพระองค์เอง แต่กลับพักผ่อนอยู่บนเตียงลั่วฮั่นในห้องทรงพระอักษร เสนาบดีมู่มองพระองค์เสวยยาเสร็จ แล้วหยิบขนมหวานมอบให้ จักรพรรดิ์ซูชิงรับมาแต่ยังไม่เสวย ทรงยิ้มด้วยสายตา "จำได้ว่าเมื่อครั้งยังเยาว์ เสด็จพ่อเคยทรงลงโทษข้าในห้องทรงพระอักษร พอออกมา ท่านเสนาบดีจะให้ขนมหวานข้าหนึ่งชิ้น พร้อมคำให้กำลังใจ" เสนาบดีมู่มองพระองค์ "ใช่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมก็ยังจำได้ ฝ่าบาทเคยตรัสกับกระหม่อมว่า จะทรงเป็นจักรพรรดิ์ผู้ทรงธรรม" "ข้าทำให้ท่านผิดหวังหรือไม่?" จักรพรรดิ์ซูชิงเสวยขนมหวานเข้าไป น้ำเสียงจึงพร่ามัว เสนาบดีมู่กล่าว "ไม่เลยพ่ะย่ะค่ะ ในใจของกระหม่อม ฝ่าบาททรงเป็นจักรพรรดิ์ผู้ทรงธรรม" "ข้าไม่ใช่" จักรพรรดิ์ซูชิงตรัสด้วยความเศร้าหมอง "ข้ายังมีปณิธานอีกมาก แต่เกรงว่าจะไม่มีโอกาสทำได้" "สำนักหมอหลวงยังไม่ได้ลงความเห็นแน่ชัด ฝ่าบาทไม่ควรทรงหมดกำลังใจ" เสนาบดีมู่กล่าวปลอบ แม้ถ้อยคำจะดูแห้งแล้ง "ข้าเพียงมีเรื่องให้เสียใจอยู่บ้าง แต่ยิ่งกว่านั้น ข้าคิดการณ์ใหญ่" จักรพรรดิ์ซูชิงเอนกายลงบน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1425

    เรื่องนี้ใหญ่เกินไป ทำให้ซ่งซีซีสมองมึนงง คิดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ หากฝ่าบาทเสด็จสวรรคต องค์ชายใหญ่แทบไม่มีข้อกังขาว่าจะขึ้นเป็นฮ่องเต้ และคาดว่าไม่นานตำแหน่งองค์รัชทายาทจะถูกแต่งตั้ง เมื่อฮ่องเต้หนุ่มเยาว์ขึ้นครองราชย์ จำเป็นต้องมีคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และไม่ใช่เพียงคนเดียว ซึ่งจะทำให้ราชสำนักแบ่งพรรคแบ่งฝ่าย สถานการณ์ในราชสำนักจะวุ่นวาย หากไม่มีการแต่งตั้งคณะผู้สำเร็จราชการ อาจเป็นไทเฮาหรือฉีฮองเฮาที่ปกครองราชสำนักแทน ฮองเฮาเป็นคนทะเยอทะยาน แม้ตอนนี้ถูกกักบริเวณก็ยังคงวางแผนเพื่อองค์ชายใหญ่ ตระกูลฉีมีอำนาจใหญ่โต แม้ช่วงนี้จะถูกฝ่าบาทกดดัน แต่หากฝ่าบาทเสด็จสวรรคต และองค์ชายใหญ่ขึ้นครองราชย์ ตระกูลฉีก็จะกลับมาผงาดอีกครั้ง ใครจะไม่อยากได้อำนาจ? เสนาบดีมู่ชราภาพและมีความคิดที่จะวางมือ แม้เขาอยากจะช่วยค้ำจุนฮ่องเต้พระองค์ใหม่ แต่สถานการณ์ในตอนนั้นอาจไม่เอื้ออำนวย นี่เป็นเรื่องในอนาคต สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ หากฝ่าบาทเหลือเวลาเพียงหนึ่งปี พระองค์ย่อมจะกวาดล้างอุปสรรคและภัยคุกคามทั้งหมดเพื่อเปิดทางให้องค์ชายใหญ่ก่อนเสด็จสวรรคต และจวนเป่ยหมิงอ๋องก็คือภัยคุกคามที่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1424

    ผู้ที่ควรมาเยี่ยมก็มาเยี่ยมกันครบแล้ว ซ่งซีซีจึงสามารถพักฟื้นได้อย่างสบายใจ มีเพียงหมอหลวงหลินที่ยังมาเยี่ยมบ้างเป็นครั้งคราว พร้อมนำยารักษาและยาลดรอยแผลเป็นมาให้ อาจารย์หยูมักจะคอยอยู่ข้างๆ คอยกล่าวขอบคุณหมอหลวงหลิน และฝากให้ช่วยกราบทูลขอบพระทัยฝ่าบาท วันหนึ่ง หมอหลวงหลินมาพร้อมกับอู๋ต้าปั้น อาจารย์หยูเห็นว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยาก จึงเชิญหมอหลวงหลินออกไปอ้างว่าขอคำแนะนำเรื่องรอยแผลเป็น เพื่อเปิดโอกาสให้พระชายาได้พูดคุยกับอู๋ต้าปั้นตามลำพัง ซ่งซีซีเชิญอู๋ต้าปั้นนั่งลงแล้วถามว่า "ฝ่าบาททรงส่งท่านมาหรือ?" อู๋ต้าปั้นถือพัดขนนกวางไว้ที่ข้อศอก มองไปที่องครักษ์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักแล้วกล่าวว่า "ฝ่าบาททรงส่งข้ามา และข้าก็อยากมาเอง พระชายาบาดเจ็บดีขึ้นบ้างหรือไม่?" ซ่งซีซีลังเลเล็กน้อย ก่อนมองเขาตรงๆ แล้วถามว่า "ท่านคิดว่า บาดแผลข้าหายดีแล้วหรือ?" อู๋ต้าปั้นถอนหายใจ "พระชายาโปรดอภัย บาดแผลดีขึ้นบ้างแล้ว แต่ยังไม่สามารถเดินได้" ซ่งซีซีฝืนยิ้ม "อย่างที่ท่านว่ามา ดีขึ้นบ้างแล้ว แต่ยังเดินไม่ได้" "พระชายาอย่าใจร้อน รีบพักฟื้นเถิด" อู๋ต้าปั้นกล่าว ซ่งซีซีพูดเบาๆ "ข้าก็ใจร้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1423

    หยานหรูอวี้ย่อตัวคำนับ "เช่นนั้นข้าคงไม่รบกวนพวกท่าน ขอตัวเจ้าค่ะ" "เดินทางดีๆ นะ!" จีซูเซิ่นยิ้มส่งด้วยความอบอุ่น หลังจากหยานหรูอวี้จากไป จีซูเซิ่นหันไปมองหวังชิงหรู เห็นแววตาของนางที่เคยสดใสกลับมืดมนและเต็มไปด้วยความเศร้าใจ จีซูเซิ่นรู้ว่านางกำลังเสียใจอีกครั้งจึงกล่าวว่า "เรื่องที่ผ่านมาแล้วคิดไปก็ไร้ประโยชน์ เข้าไปข้างในเถอะ" การที่หวังชิงหรูมาหาซ่งซีซีในวันนี้ ต้องใช้ความกล้าอย่างมหาศาล เพราะนางติดค้างซ่งซีซีทั้งคำขอโทษและคำขอบคุณ ที่บอกว่ามากับพี่สะใภ้ในวันนี้ ที่จริงแล้วคือการเผชิญหน้ากับเรื่องราวในอดีต แต่ทว่านางอาจจะประเมินตัวเองสูงเกินไป แม้จะสามารถโน้มน้าวใจตัวเองให้เผชิญหน้ากับซ่งซีซีได้ แต่ในวินาทีที่เห็นหยานหรูอวี้ นางก็รู้สึกอธิบายไม่ถูก เหมือนโดนบางสิ่งกระแทกอย่างแรงจนสมองโล่งว่างเปล่า รอยยิ้มที่ยกขึ้นมาก็ดูฝืนเหลือเกิน นางกลัวเหลือเกินว่าจะร้องไห้ออกมา นางเดินตามพี่สะใภ้ทั้งสองเข้าไปในห้องรับรองอย่างไร้ชีวิตชีวา และเมื่อได้พบซ่งซีซี น้ำตาก็เอ่อท้นอยู่ในดวงตา ซ่งซีซีมองนางแวบหนึ่ง ก่อนเชื้อเชิญทุกคนให้นั่งลงพร้อมรอยยิ้ม และรินชาให้ จีซูเซิ่นมองดู

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status