แชร์

บทที่ 0378

ผู้เขียน: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-06-06 18:00:00
ท่ามกลางแสงสว่างจ้า ซ่งซีซีนับตัวเงิน เป็นยอดที่ร้านจินทำกำไรมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไม่มีผิด แม้แต่เศษเงินก็ให้ครบ

เมื่อเห็นว่าท่าทีที่นางนับเงินอย่างจริงจังนั้น ท่านหญิงเจียอี้เกลียดชังจนกัดฟันกรอด

แต่เมื่อคิดว่ามันจบเรื่องแล้ว ก็ยังถอนหายใจด้วยความโล่งอก

แต่ใครจะรู้ว่า ซ่งซีซีกล่าวเสริมว่า "พรุ่งนี้ข้าจะขายร้านนี้ต่อ และข้าจะเผยข่าวว่าร้านนี้เป็นท่านป้าและท่านพี่เป็นคนดำเนินกิจการ ด้วยชื่อเสียงของทั้งสองท่าน คนที่มาดูร้านเพราะได้ยินชื่อของพวกท่านต้องเยอะแน่นอน ข้าจะกำหนดราคาพื้นฐานไว้สองแสนห้าหมื่นตำลึง เป็นยังไงบ้าง?"

ใบหน้าของเจียอี้เปลี่ยนไปทันที "อะไรนะ เจ้าจะบอกคนนอกว่าข้ากับท่านแม่เป็นเจ้าของร้านหรือ ไม่ได้การ"

ชื่อเสียงร้านจินจะเป็นยังไงบ้าง? ประการแรก ร้านจินคัดลอกรูปแบบจากร้านอื่น และประการที่สอง วัสดุที่ใช้นั้นหยาบกระด้าง หากแพร่กระจายไป มันจะทำลายชื่อเสียงของนางและท่านแม่ด้วย นางแค่ต้องการหาเงิน และนางไม่ต้องการที่จะยอมรับว่าร้านจินเป็นของนาง

ซ่งซีซีอุทานว่า "ก็จริง ท่านพี่ไม่ได้เป็นคนดำเนินกิจการจริงๆ งั้นหัวหน้าจ้าวเป็นคนของจวนโหวผิงหยาง งั้นบอกคนนอกว่าเป็นร้านของจ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Supattra Pok Panichsamai
แต่ละตอนสั้นจัง.........
goodnovel comment avatar
Saranjit Buawong
นางเอกฉลาด
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 0379

    ซ่งซีซีเอนหลังเก้าอี้ นางตัวสูงและขายาว ดังนั้นจึงดูมีออร่าเป็นพิเศษเมื่อนั่งแบบนี้รอยยิ้มเล็กน้อยปรากฏขึ้นที่มุมริมฝีปากของนาง และดวงตาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม นางดีใจมากที่สนมฮุ่ยไทเฟยไม่ได้ถูกองค์หญิงใหญ่หลอก แม้ว่าคำพูดของนางจะฟังดูเหมือนไม่ค่อยเต็มใจมากนักก็ตามองค์หญิงใหญ่ใช้วิธียั่วยุไม่ได้ผล จึงยิ้ม "คนใดมีความสามารถคนๆ นั้นก็ดูแลบ้าย ไม่มีผิด ทำไมข้าจำได้ว่าเจ้าเคยบอกว่ารังเกียจนางที่เป็นผู้หญิงที่เคยแต่งงานมาล่ะ บอกว่าไม่คู่ควรกับโม่เอ๋อ นี่แค่กี่วังเอง ก็ถูกนางซื้อเป็นพวกแล้ว มีฝีมือจริงๆ สนมฮุ่ยไทเฟย ข้ากังวลว่าต่อไปเจ้าอยู่จวนอ๋อง จะโดนนางหลอกเอาได้"ซ่งซีซีพูดอย่างเย็นชาออกมา "จบกันแค่นี้แหละ ที่เหลือจะทำตามที่ข้าพูด ขอตัวก่อน""เดี๋ยวก่อน!" องค์หญิงใหญ่ตะโกนอย่างเฉียบขาด "ซ่งซีซี อย่ามากเกินไป"ทันทีที่นางตะโกนนั้น สนมฮุ่ยไทเฟยตัวสั่นโดยสัญชาตญาณจู่ๆ ซ่งซีซีก็ระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างรุนแรง "จะมากเกินไปอะไร เรื่องบางเรื่องข้าไม่อยากพูดให้ชัดเจน เพราะไม่อยากให้เจ้าต้องหน้าแตกจนไม่น่าดู ในเมื่อเจ้าไม่กลัวโดนฉีกหน้า งั้นผู้หญิงที่เคยหย่ามาอย่างข้าจะกลัวทำไม หัวหน้าจ้าวไม่ได

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-07
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 380

    นับเงินอีกแล้ว ตัวเงินไม่พอ ก็ใช้แท่งทองคำมาแทนดูเหมือนว่าองค์หญิงใหญ่จะมีเงินเก็บเยอะอยู่ การหาเงินมากกว่าสองแสนตำลึงนั้นจึงไม่นับว่าเป็นเรื่องยากก่อนหน้านี้ก็ประเมินนางต่ำเกินไปแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นางได้เลี้ยงดูทหารประจำจวนและคนรับใช้หลายร้อยคน ยังมักจะจัดงานเลี้ยงด้วย สวมเสื้อผ้าที่หรูหรา เครื่องประดับราคาแพง และของกินของใช้ล้วนเป็นของดีทั้งนั้นเพียงเห็นท่าทางที่นางออกเงินนั้นราวกับหัวใจของนางกำลังจะมีเลือดไหลอยู่ ซ่งซีซีคิดว่าเงินก้อนนี้คงเข้าถึงจุดอ่อนของนางแล้วครั้งนี้พวกนางแตกคอกันจริงๆแต่ได้คืนสิ่งที่สมควรได้รับและเงินที่ถูกโกงนั้น อย่างน้อยก็ไม่ได้เสียเปรียบ ส่วนเรื่องที่แตกคอกับนาง มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกแล้ว ความสามัคคีอันเสแสร้งนี้เช่นนี้ก็ไม่จำเป็นต้องรักษาต่อกลับจวน!เมื่อสองแม่ลูกองค์หญิงใหญ่เฝ้าดูการจากไปของนาง ไม่มีความสุภาพเหมือนตอนที่นางมาแม้แต่น้อย และหลังตรงของนางก็แสดงความรู้สึกครอบงำ"ซ่งซีซี!" องค์หญิงใหญ่กัดฟันกรอด เวลานี้ตนเองทำอะไรไม่ได้นางเลยเจียอี้ยังรู้สึกเจ็บปวดใจมาก "น้ำพักน้ำแรงที่นางพยายามมาหลายมีนี้เสียเปล่าไปหมด ทั้งหมดเป็นเพราะนั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-07
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 381

    เซี่ยหลูโม่และจางต้าจ้วงเป็นผู้นำทาง และรถม้าก็ตามอยู่ข้างหลังอย่างช้าๆสนมฮุ่ยไทเฟยจับมือซ่งซีซี และมีความสุขมากจนไม่รู้จะอธิบายยังไง "ข้าไม่คาดคิดจริงๆ ว่าเจ้าจะทำให้พวกนางคืนเงินทั้งหมดได้ คนอื่นเป็นยังไงไม่รู้ แต่ข้ารู้จักองค์หญิงใหญ่เป็นอย่างดี นางดูใจดีกับทุกคน แต่จริงๆ แล้วเนางกลับเป็นคนเผด็จการมาก"ซ่งซีซีค่อยๆ ดึงมือของนางออกแล้วพูดว่า "ถ้ารู้ว่านางเป็นคนยังไงต่อไปก็สุงสิงกับนางให้น้อยลงก็ได้"สนมฮุ่ยไทเฟยตอบกลับว่าอืม หลังจากคิดดูอีกทีแล้วก็รู้สึกเป็นห่วง "แค่กังวลว่าหลังจากแตกคอกับนางแล้ว ต่อไปนางจะพูดจาให้ร้ายเราเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกฮูหยิน เพื่อทำลายชื่อเสียงของเรา""แค่นี้มีอะไรต้องกังวล" ซ่งซีซีกล่าวอย่างใจเย็น"แน่นอนว่าเจ้าไม่ต้องห่วง ชื่อเสียงของเจ้าเสียตั้งแต่แรกแล้ว แต่ข้าเพิ่งออกจากวัง จะเสื่อมเสียชื่อเสียงไม่ได้"ซ่งซีซีชายตาแลดูนางแวบหนึ่ง เมื่อพูดคุยกับคนของตนเองก็พูดแทงใจดำทุกคำเลยสนมฮุ่ยไทเฟยตระหนักได้ว่านางพูดอะไรผิด และรีบแก้ตัวว่า "นั่นไม่ใช่อย่างนั้นนะ นี่ไง เซียนหนิงกำลังหาคู่ครองอยู่ องค์หญิงใหญ่ได้ไปมาหาสู่กับตระกูลชั้นสูงมากมายอย่างใกล้ชิด กลัวว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-07
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 382

    คิอไปคิดมา บวกกับอากาศหนาวจัด สมองก็เริ่มสับสนขึ้นมา และกระดูกก็เจ็บเหมื่อยเล็กน้อยเมื่อกลับมาถึงจวน ซ่งซีซีช่วยพยุงนางลง และสั่งให้คนใช้ทันทีว่า "ทำน้ำขิงร้อนๆ หม้อหนึ่ง ทุกคนต่างก็หนาวจัด มาดื่มน้ำขิงร้อนๆ สักชามเพื่อคลายความหนาวเย็นออกไป"สนมฮุ่ยไทเฟยรู้สึกละอายใจมากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ซ่งซีซีมีน้ำใจจริงๆ นางยังจำได้ว่านางได้ทนความหนาวเย็นในจวนองค์หญิง ความกตัญญูกตเวทีและความเอาใจใส่ของนางมีผู้ใดสามารถเทียบได้ล่ะนางไม่เคยคิดซ่งซีซีไม่ได้ทำเพื่อนาง แต่เพราะเซี่ยหลูโม่โดนลมหนาวพัดอยู่ข้างนอก นางห่วงใยสามีของตนเองห้องครังต้มน้ำขิงมาให้ และแต่ละคนก็หยิบถ้วยหนึ่งขึ้น ซ่งซีซีจ้องมองที่เซี่ยหลูโม่ได้ดื่มไปสองถ้วยก่อนที่จะปล่อยเขาไป จากนั้นก็หันกลับมาเห็นแม่สามีกำลังจิบช้าๆ อยู่ นางก็พูดว่า "เสด็จแม่ดื่มถ้วยหนึงก่อนแล้วกินอาหารร้อนๆ อีกที"วันนี้ไปที่นั่นก็ตกเย็นแล้ว จากนั้นก็เริ่มตรวจสอบบัญชี ทางจวนองค์หญิงไม่แม้แต่จะให้น้ำกินเลย นับประสาให้อาหารด้วย"อืม รู้แล้ว" สนมฮุ่ยไทเฟยตอบด้วยเสียงแหบแห้ง นางรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างอธิบายไม่ถูก "ข้าจะดื่มให้หมด""ก็ได้ งั้นข้าจะกลับเรือนแช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-08
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 383

    จะอายไม่อายนั้น สุดท้ายทั้งสองคนก็แช่น้ำด้วยกันหลังจากแช่น้ำเสร็จแล้ว ภายในม่านสีแดงก็ยังคงนัวเนียกันอยู่ ดีที่ทั้งคู่เป็นผู้ฝึกทักษะการต่อสู้มา แม้ว่าพวกเขาจะนอนแค่หนึ่งหรือสองชั่วยาม แต่ก็ยังทนได้เมื่อตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น ก็เห็นหญิงวัยกลางแปลกหน้าสองคนเดินเข้ามารับใช้เซี่ยหลูโม่นี่คือหัวหน้าลู่จัดให้ เดิมทีป้าสองคนนี้ทำงานในห้องเย็บผ้า เนื่องจากตอนนี้ข้างกายท่านอ๋องไม่มีคนใช้ และก็ไม่เหมาะที่จะให้ชายรับใช้เข้าเรือนคอยดูแลเรื่องการแต่งกายในส่วนของสาวใช้ที่อยู่เคียงข้างพระชายา รุ่ยจูและตูงจูไปรับใช้คุณชายรุ่ยเอ๋อร์ ในขณะที่เป่าจู เสวียจูและหมิงจูอยู่เคียงข้างกับพระชายาเพื่อรับใช้นางอย่างใกล้ชิดแม่นมเหลียงดูแลเรื่องเรือนดอกบ๊วยทั้งหมด ย่อมไม่สามารถรบกวนนางมาดูแลหากส่งสาวน้อยไปดูแล เกรงว่าพวกนางอาจมีความคิดอื่นแอบแฝง สู้ไม่ได้ที่จะให้ป้าหยินและป้าฉงจากห้องปักเย็บมาเพื่อรับใช้ท่านอ๋อง ทั้งคู่มีอายุประมาณสี่สิบปี ทำงานจริงจังและละเอียด ไม่เกิดความคิดอื่นฝดได้จะว่าไป ป้าทั้งสองคนนี้ก็ได้รับพระราชทานจากไทเฮาตอนที่ท่านอ๋องสร้างจวนอ๋อง ก่อนหน้านี้รับใช้ไทเฮาอยู่ ดังนั้นจึงคอยไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-08
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 384

    หยูจินพูดด้วยรอยยิ้ม "มีพระชายาอยู่ จะไม่ให้เจ้าเสียเปรียบหรอก เจ้าแค่ทำงานของเจ้าให้ดี หลังจากทหารประจำจวนเข้าจวนแล้ว จะให้เจ้ามาดูแลและฝึกฝน เหนื่อยเช่นนี้ ย่อมมีค่าตอบแทนพิเศษให้ด้วย"กุ้นเอ๋อร์ไม่อยากได้ยินคำพูดคลุมเครือเช่นนี้ เขาจึงถามตรงๆ ว่า "แล้วเท่าไหร่ล่ะ?"อาจารย์หยูจินชูหนึ่งนิ้วขึ้นแล้วพูดว่า "ยอดนี้"ตอนนี้กุ้นเอ๋อร์มีท่อนไม้แท่งหนึ่งอยู่ในใจและอยากจะฟาดหัวอาจารย์หยูจินตรงๆ เลย จะบอกตรงๆ ไม่ได้หรือไง ต้องให้เขาเดาแบบนี้"แค่บอกว่าจะทำหรือไม่ทำ!" เซี่ยหลูโม่ถาม"ทำ!" กุ้นเอ๋อร์ตอบรับทันที เดี๋ยวค่อยหาโอกาสให้ซีซีไปถามให้ว่ามันเท่าไหร่กันแน่ถึงยังไงงานนี้ต้องทำอยู่แล้ว หากหาเงินส่งกลับนิกายไม่ได้ กุ้นเอ๋อร์โดนแน่ๆ"ได้ เรื่องรับสมัครคนนั้นเจ้าไม่ต้องสนใจ เจ้าแค่เป็นหัวหน้ากล่ม ช่วยฝึกฝนให้พวกเขาดีๆ ก็พอ" อาจารย์หยูจินกล่าวกุ้นเอ๋อร์ตอบว่า "ได้ แต่ในจวนอ๋องแห่งนี้สามารถรองรับคนจำนวนมากเช่นนี้ได้หรือ?"หัวหน้าลู่กล่าวว่า "เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ ด้านหลังจวนอ๋องยังมีพื้นที่ว่าง เราจะหาช่างฝีมือในปีหน้า ตราบใดที่มีเงินเพียงพอ ก็สามารถสร้างเสร็จได้เร็วๆ นี้""แล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-08
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 385

    ซ่งซีซีกล่าวว่า "นางป่วย จึงย้ายไปที่สำนักแม่ชีชิงมู่ ข้อแรก นางต้องการสถานที่ที่สงบเพื่อพักฟื้น และข้อที่สอง นางต้องการได้รับการคุ้มครองจากพระโพธิสัตว์ในสำนักแม่ชีชิงมู่"เซียนหนิงไม่เข้าใจ "เป็นเพราะนางป่วย ยิ่งต้องการอยู่ในจวนอ๋องเยี่ยนไม่ใช่หรือ อย่างน้อยหากมีเรื่องอะไร คนในจวนก็จะรู้เรื่องได้"แม้แต่เรื่องที่เซียนหนิงก็เข้าใจ แล้วอ๋องเยี่ยนจะไม่รู้ได้ยังไงอันที่จริงซ่งซีซีกังวลมากจริงๆ อาณาเขตสำหรับอ๋องเยี่ยนอยู่ในเยี่ยนโจว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสำนักแม่ชีชิงมู่และเมืองหลวงมากนักถ้าบอกว่าถูกส่งไปพักฟื้น จะส่งนางกลับเมืองหลวงจะไม่ดีกว่าหรือ? อย่างน้อยในเมืองหลวงมีจวน และมีหมอหลวงและหมอมหัศจรรย์ดันคอยดูแลนางตอนนี้ไปอยู่สำนักแม่ชีชิงมู่แล้ว หมอมหัศจรรย์ดันได้ส่งจวี๋ชุนและชิงเชวี่ยไปดูแลนาง แต่สุดท้ายแล้ว ข้างกายไม่มีคนของตนเอง หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกเหงาซ่งซีซีกล่าวว่า "ข้าไปดูสักหน่อยก็จะรู้แล้ว ช่วงนี้รบกวนเสด็จแม่ช่วยข้าดูแลรุ่ยเอ๋อร์สักหน่อย""ได้ ข้าจัดการให้" เมื่อสนมฮุ่ยไทเฟยเห็นว่าตนเองสามารถช่วยซ่งซีซีได้ นางก็ตบหน้าอกทันทีพลางรับประกันนี่ทำให้องค์หญิงเซียนหนิงดู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-09
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 386

    ซ่งซีซีคิดทบทวนเรื่องอดีตในใจ และพูดเศร้าๆ ว่า "ข้าแค่กลัวว่าอาการของนางจะแย่ลงกะทันหัน มันจะเกี่ยวข้องกับข้าด้วย"เดิมทีเสิ่นว่านจือต้องการซ่อนสิ่งนี้ แต่เนื่องจากนางเดาได้ นางจึงบอกว่า "ถูกต้อง ตอนแรกนางไม่รู้ มันเป็นนางจินที่จงใจบอกนาง หลังจากที่นางรู้เรื่องแล้วก็อาเจียนเลือดออกมา และอาการของนางก็แย่ลง ข่าวนี้ไม่ได้สืบมาจากร้านอวี๋นยี่ เป็นหงเชวี่ยบอกข้า โดยบอกว่าให้ข้าพิจารณาเองว่าจะบอกเจ้าหรือไม่""ฉันพอจะเดาได้" ซ่งซีซีพูดอย่างเศร้าๆ "นางคือแม่สื่อสำหรับการแต่งงานของข้า แม้ว่านางเป็นแม่สื่อที่แนะนำและรับประกัน แต่จริงๆ แล้วท่านแม่ของข้าก็สอบถามมากเช่นกัน หลายปีมานี้จวนแม่ทัพตกอับก็จริง แต่ไม่ได้สร้างปัญหาไว้ บวกกับนางหมินไร้ความสามารถ หลังจากข้าแต่งเข้าไปก็ไม่ต้องกังวลเรื่องโดนพี่สะใภ้รังแก ส่วนบ้านใหญ่กับบ้านรองก็สามารถรักษาความสามัคคีกัน อย่างน้อยให้คนอื่นเห็นแล้วเป็นเช่นนั้น""อย่าคิดมาก รอจนกว่าเจ้าจะพบท่านป้าของเจ้าที่สำนักแม่ชีชิงมู่แล้ว ค่อยวางแผนต่อ" เสิ่นว่านจือปลอบใจคนไม่เก่ง โดยคิดเสมอว่าหากต้องการจัดการเรื่อง ก็ต้องให้คนที่เกี่ยวข้องมีใจอยากจะแก้ถึงจะทำได้ไม่ว่าย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-09

บทล่าสุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1344

    แม้ว่าจะไม่ถูกต้องตามระเบียบ แต่ก่อนที่นางจีจะกลับไป ซ่งซีซีก็สั่งให้คนไปซื้อโจ๊กเนื้อบดสองหม้อ โดยอ้างว่าเป็นของชาวบ้านที่ต้องการขอบคุณฮูหยินจีสำหรับการแจกจ่ายโจ๊กตลอดหลายปีที่ผ่านมา และตอนนี้ต้องการตอบแทนบุญคุณครั้งนี้นางจีร้องไห้ด้วยความซาบซึ้งใจ นางหวังว่าลูกๆ จะได้ดื่มโจ๊กอุ่นๆ สักคำ แม้เพียงนิดเดียวหลังออกจากหอต้าหลี่ ซ่งซีซีครุ่นคิดแล้วสั่งให้อาจารย์หยูไปเล่าถึงเรื่องที่ชาวบ้านบริจาคโจ๊กให้เป็นที่แพร่หลายเดิมทีผู้คนยังจดจำความมีน้ำใจของนางจีที่แจกจ่ายโจ๊กได้ แต่ช่วงนี้เรื่องราวนั้นเริ่มเงียบหายไปตอนนี้จึงเหมาะที่จะใช้โอกาสนี้จุดกระแสเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้งอาจารย์หยูจึงแต่งเรื่องเล็กน้อย โดยเล่าว่าชาวบ้านที่มอบโจ๊กเดิมทีเป็นคนเร่ร่อนชานเมืองหลวงที่อดอยากจนเกือบตาย ดื่มโจ๊กที่โรงทานหลายวันติดต่อกัน และก่อนออกจากเมืองหลวง โรงทานยังมอบเสบียงให้เขาห่อหนึ่งแม้ปัจจุบันชีวิตของเขาก็ไม่ได้ดีขึ้นนัก แต่เมื่อได้ยินว่าผู้มีพระคุณของเขาประสบเคราะห์ เขาจึงรีบเดินทางมาที่เมืองหลวงและซื้อโจ๊กอุ่นๆ สองหม้อมาส่งที่เรือนจำ พร้อมร้องขอให้นำไปให้ผู้มีพระคุณเซี่ยหรูหลิงซึ่งดูแลเรือนจำ เ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1343

    นางถามว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าและหวังชิงหลูมีอันตรายถึงชีวิตหรือไม่?”หงเชวี่ยตอบว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าอาการยังพอรับได้ แต่ถ้าหวังชิงหลูไข้สูงไม่ลด ก็อาจเป็นอันตรายได้ นางเครียดเกินไป ตอนที่พบนาง นางจับมือข้าไว้แน่น ถามว่าตัวเองจะตายหรือไม่ พูดแต่เรื่องเพ้อเจ้อ เดี๋ยวโทษคนนั้น เดี๋ยวโทษคนนี้ บางครั้งก็โทษตัวเองที่ตัดสินใจผิดพลาดหลายอย่าง”ซ่งซีซีไม่ได้พูดอะไร นางไม่มีสิทธิ์ตัดสินชีวิตของผู้อื่น เพียงแต่หวังว่านางจะไม่ทำให้ฮูหยินจีลำบากไปกว่านี้หากหวังชิงหลูเสียชีวิตในเรือนจำ จะสร้างความหวาดกลัวให้กับคนในตระกูลหวัง ซึ่งจะเพิ่มภาระทางจิตใจให้กับฮูหยินจีอย่างแน่นอน“หงเชวี่ย อีกสองวันเจ้าไปดูพวกเขาอีกทีนะ”หงเชวี่ยพยักหน้า “เจ้าค่ะ”ซ่งซีซีคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อีกสองวันเจ้าไป ข้าจะไปกับเจ้าด้วย”นางอยากพูดคุยกับฮูหยินจีตามลำพัง เพราะในที่สิ้นหวังเช่นเรือนจำนั้น หากไม่มีแม้แต่คนพูดคุย มีเพียงเสียงร้องไห้ที่ไม่สิ้นสุด วันเวลาก็จะยืดยาวราวกับไม่มีที่สิ้นสุดอย่างไรก็ตาม ตอนนี้นางมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ เนื่องจากฝ่าบาททรงพระประชวรและงดราชกิจ นางจึงต้องไปพบเสนาบดีมู่เพื่อแจ้งเรื่องจินชางหมิงเปล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1342

    เนื่องจากฝ่าบาททรงส่งชีกุ้ยไปปฏิบัติหน้าที่ข้างนอก งานดูแลเรือนจำจึงถูกมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของหอต้าหลี่ดูแล และผู้ที่รับหน้าที่นี้คือเซี่ยหรูหลิงไม่นานนัก เซี่ยหรูหลิงก็เดินทางมาที่จวนเป่ยหมิงอ๋องเพื่อพบซ่งซีซี บอกว่ามีเรื่องที่เขาตัดสินใจไม่ได้ และขอให้ซ่งซีซีช่วยแนะนำซ่งซีซีรีบกินข้าวเพียงสองสามคำแล้วออกมาพบเขา เพราะกังวลว่าอาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับฮูหยินจีและเด็กๆแต่เมื่อได้ฟังสิ่งที่เซี่ยหรูหลิงกล่าว นางก็พบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับฮูหยินผู้เฒ่าและหวังชิงหลูทั้งสองคนหลังจากถูกส่งตัวเข้าเรือนจำก็วิตกกังวลทุกวัน อีกทั้งอาหารยังแย่ยิ่งกว่าอาหารที่เคยให้สุนัขกิน หลังจากนั้นไม่กี่วันก็เริ่มอาเจียนและท้องเสียก่อนหน้านี้ ซ่งซีซีเคยให้ยากับฮูหยินจี ซึ่งรวมถึงยาสำหรับอาการท้องเสียและปวดท้องเพราะไม่ชินสภาพแวดล้อม ยาทำให้อาการดีขึ้น แต่เพราะต้องกินอาหารแบบนั้นต่อไป อาการจึงกลับมาแย่ลงอีก และหวังชิงหลูก็มีไข้สูงฮูหยินผู้เฒ่าร้องขออย่างน่าสงสารให้ช่วยหาหมอ เซี่ยหรูหลิงไม่กล้าตัดสินใจ จึงออกมาขอคำปรึกษาจากซ่งซีซีซ่งซีซีถามว่า “แล้วคนอื่นล่ะ? มีอาการเหมือนกันหรือไม่?”“เดิมที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1341

    แต่ครั้งนี้เมื่อเข้าไปในวัง กลับไม่ได้พบฝ่าบาท อู๋ต้าปั้นออกมาแจ้งข่าวว่า วันนี้ฝ่าบาทไอจนมีเลือดปนและเกือบหมดสติ ตอนนี้หมอหลวงกำลังรักษาซ่งซีซีรีบถาม “เป็นเพราะพระวรกายอ่อนแอ หรือถูกลอบวางยาพิษ?”คำถามนี้ชัดเจนว่าแฝงด้วยความระแวง หากเป็นสถานการณ์ปกติหรือคนอื่น ซ่งซีซีคงไม่กล้าถามแต่สถานการณ์ตอนนี้แตกต่างออกไป อีกทั้งคนที่นางเผชิญหน้าอยู่คืออู๋ต้าปั้น นางจึงถามอู๋ต้าปั้นถอนหายใจ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “หมอหลวงวินิจฉัยว่าไม่ได้ถูกวางยาพิษ แต่เพราะฝ่าบาททรงวิตกกังวลอย่างหนัก พักผ่อนน้อยและเบื่ออาหาร อีกทั้งสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้ทรงติดเชื้อและไอมาแล้วหลายวัน แม้จะดื่มยามาหลายวันแต่ไม่ได้ผล วันนี้ไอไม่หยุดจนกระทั่งมีเลือดปนและแทบหายใจไม่ออก”เมื่อได้ยินว่าไม่ใช่การวางยาพิษ ซ่งซีซีก็โล่งใจขึ้นเล็กน้อย หากเป็นการวางยาพิษ ก็หมายความว่ามีคนแฝงตัวเข้ามาในวังแล้ว ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ยากลำบากยิ่งขึ้นการไอเป็นเลือดอาจเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ได้ ซ่งซีซีจึงยังไม่จากไป แต่เฝ้ารออยู่ด้านนอกเพื่อรอหมอหลวงออกมาแจ้งสถานการณ์นอกจากซ่งซีซีแล้ว ยังมีขุนนางอีกหลายคนที่รอเพื่อกราบทูลเรื่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1340

    ซ่งซีซีนั่งกลับลงบนเก้าอี้ กล่าวว่า “เรื่องที่พวกเจ้าทุจริตนั้น ฝ่าบาททรงทราบดีแล้ว ตอนนี้ที่ทรงให้ข้าสอบสวนเป็นการส่วนตัว ก็เพื่อมอบโอกาสให้พวกเจ้า หากพูดความจริง หัวของเจ้าจะยังปลอดภัย หากให้ข้อมูลที่มีค่าเพิ่มเติม อย่างมากก็แค่ถูกเนรเทศไปทำงานนอกเมือง ยังสามารถโลดแล่นในวงราชการได้”เกาหมิงอวี้ที่มีประสบการณ์ในราชสำนักมานานย่อมรู้ดีว่าให้ข้อมูลที่มีค่ามากขึ้น หมายถึงการขายเจ้านายและผู้ใต้บังคับบัญชาเขาไม่มีข้อสงสัยในคำพูดของซ่งซีซีด้วยสองเหตุผล หนึ่งคือ ช่วงนี้อู๋เยว่และคนของเขาตรวจสอบทางน้ำอยู่เสมอ สองคือ ซ่งซีซีออกหน้ามาสอบสวนด้วยตัวเอง หากไม่มีพระราชโองการจากฝ่าบาท นางไม่จำเป็นต้องลงมือเอง จะส่งใครมาทรมานเขาก็ได้แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าซ่งซีซีวิเคราะห์เขาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และคาดการณ์ความคิดของเขาไปก่อนแล้ว“พวกเจ้าทุจริตทั้งระบบ ท่าทีของจินชางหมิงเป็นอย่างไร?”เกาหมิงอวี้ครุ่นคิดก่อนตอบว่า “จะว่าไปจริงๆ แล้ว เขาเป็นคนเริ่มเปิดทางให้เราทุจริต โดยอ้างว่าเป็นค่าเหนื่อยของเรา เมื่อเริ่มต้นแล้ว เราลองเบิกเงินเกินมาเล็กน้อย เขาก็ไม่ว่าอะไร จากนั้นเรากล้าขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาเขาเตือนเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1339

    หลังจากเฝ้าสังเกตอยู่สองวัน ซ่งซีซีตัดสินใจลงมือกับเกาหมิงอวี้ รองหัวหน้ากรมจัดการแม่น้ำเกาหมิงอวี้อายุสามสิบห้าปี รับราชการในกรมโยธามาแล้วห้าปี เขามีพื้นเพมาจากครอบครัวชาวไร่ชาวนา เมื่อยังเยาว์วัยพ่อแม่เสียชีวิต เพื่อให้เขาได้เรียนในสำนักที่ดีที่สุด เขาดูดทรัพย์สมบัติของพี่น้องจนหมดสิ้นหลังสอบจอหงวนได้ เขาเข้ารับราชการ และกลายเป็นคนโลภเงินอย่างที่สุด ขี้เหนียวอย่างยิ่งยวด ทอดทิ้งพี่น้องที่เคยเลี้ยงดูเขาไปเหมือนของไร้ค่า และไม่ติดต่อพวกเขาอีกเลยยังไม่หมดแค่นั้น เขาอ้างความหึงหวงเป็นเหตุผลในการหย่ากับภรรยาคนแรก แล้วแต่งงานกับบุตรสาวของอาจารย์ผู้มีพระคุณอาจารย์ผู้มีพระคุณของเขาคืออธิการสำนักไป๋หยุน ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว ลูกสาวคนเดียวของอาจารย์แต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างดีเขาคือคนไร้ค่าและทรยศทว่าคนไร้ค่าเช่นนี้กลับใช้งานได้ดี เพราะความโลภ โกรธ หลง และความเห็นแก่ตัวของเขา มีจุดอ่อนที่สามารถกดดันจนยอมพูดทุกอย่างคืนนั้น ซ่งซีซีสั่งให้กุ้นเอ๋อร์จับตัวเขามายังเรือนทางตะวันตกของเมือง ขังเขาไว้หนึ่งคืน ให้เขาหวาดกลัวและหิวโหย จากนั้นค่อยสอบสวนในวันถัดไปเกาห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1338

    จักรพรรดิซูชิงมีราชโองการให้อู๋เยว่พาคนไปควบคุมงานโดยตรง ทว่า จินชางหมิงรับมือได้อย่างคล่องแคล่ว พาอู๋เยว่ไปตรวจสอบผลสำเร็จด้วยตนเองหลังจากเริ่มงานมาเป็นเวลานาน อ่างเก็บน้ำก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์คุณภาพของอ่างเก็บน้ำนั้นยอดเยี่ยม เขื่อนที่สร้างขึ้นมั่นคงดั่งกำแพงทองหลังจากตรวจสอบอ่างเก็บน้ำแล้ว ก็ไปตรวจสอบทางน้ำ ทุกพื้นที่ได้ขุดลอกเสร็จเรียบร้อย ส่วนเขื่อนที่เสียหายก่อนหน้านี้ก็ได้รับการซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงแล้วอู๋เยว่ยังส่งคนไปพูดคุยกับคนงานก่อสร้างทางน้ำ ชายฉกรรจ์แต่ละคนที่ผิวคล้ำแดด ดูซื่อๆ ขัดเขินเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าขุนนางส่วนใหญ่ถามอะไรก็ตอบสิ่งนั้น หากให้พวกเขาบอกความไม่พอใจอะไร พวกเขามักลังเลครู่หนึ่งก่อนที่จะถามว่าอาหารสามารถปรับปรุงได้ไหม โดยเฉพาะเพิ่มหมูติดมันให้หน่อยอู๋เยว่คิดว่าคนเหล่านี้เป็นคนเรียบง่าย ไม่มีปัญหาอะไร และไม่มีความเคียดแค้นในแววตาเขายังพาคนไปดูที่พักชั่วคราวของคนงานก่อสร้างเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกระท่อมไม้และกระท่อมหญ้าแฝก ภายในมีเพียงที่นอนใหญ่ที่รองรับคนได้เจ็ดแปดคน ดูรกเล็กน้อยในกระท่อมไม่มีอาวุธ เครื่องมือที่ต้องใช้ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1337

    ซ่งซีซีแทบจะหัวเสียจนอกแตกตาย นางรู้สึกว่าเส้นผมสีขาวกำลังจะงอกออกมาบนหน้าผาก ไม่แปลกใจเลยที่ขุนนางในราชสำนักแต่ละคนดูแก่ก่อนวัย หรือแม้แต่เสนาบดีมู่ที่อายุเพียงหกสิบกว่า ผมก็หงอกไปกว่าครึ่งนางไปหาเสนาบดีมู่ด้วยความขุ่นเคือง หวังว่าเขาจะช่วยอะไรได้บ้างและกล่าวบางคำสนับสนุนนางต่อหน้าฮ่องเต้เสนาบดีมู่ยิ้มพลางมองนาง "แค่นี้ก็ถึงกับโกรธเลยหรือ?"ซ่งซีซีตอบ "มิกล้าโกรธเจ้าค่ะ แต่เรื่องนี้ชะลอความคืบหน้า และข้ากลัวว่าจะทำให้ผู้ต้องสงสัยตื่นตัว จนถูกชิงโอกาสไป ฝ่าบาทไม่ไว้ใจข้าเลย"เสนาบดีมู่ย้อนถาม "เขาไม่เชื่อเจ้าอย่างสมบูรณ์ก็เป็นเรื่องปกติ ต่อให้เป็นเจ้า หากคนใต้บัญชาไม่ได้ยกหลักฐานมาสนับสนุนคำพูด เจ้าจะเชื่อพวกเขาโดยไม่ตรวจสอบหรือ?"ซ่งซีซีกล่าว "แต่เขาไม่มีหลักฐานว่าท่านอ๋องมีความทะเยอทะยานใดๆ แต่เขาก็ยังระแวงทุกทางมิใช่หรือ?""ก็เพราะไม่มีหลักฐาน เขาจึงระแวง หากมีหลักฐาน เขาคงลงมือไปนานแล้ว" เสนาบดีมู่ถอนหายใจเบาๆ "ความจริงแล้ว หลายเรื่องไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เจ้าคิด โดยเฉพาะการตัดสินใจสำคัญในราชสำนัก ต้องผ่านการหารือและอภิปรายหลายครั้ง บางเรื่องใช้เวลาเป็นปีจึงจะเดินหน้าได้ อีก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1336

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โครงการก่อสร้างแม่น้ำได้เกณฑ์แรงงานจากในและรอบๆ เมืองหลวง โดยเป็นกลุ่มคนงานและแรงงานหนักกลุ่มเดียวกันหน่วยงานด้านแม่น้ำทั้งหมดอยู่ภายใต้การนำของจินชางหมิง เขาใช้ข้ออ้างเรื่องการซ่อมแซมแม่น้ำและโครงการระบายน้ำเข้ายึดครองภูเขาและที่ดินจำนวนไม่น้อยบ้านเรือนถูกสร้างขึ้นอย่างกระจัดกระจายในพื้นที่เหล่านี้ โดยไม่ได้จัดเป็นชุมชนที่มีขนาดใหญ่ คนงานแม่น้ำและแรงงานบางส่วนอาศัยอยู่ในบริเวณนี้เส้นทางแม่น้ำที่พวกเขาครอบครองกระจัดกระจายไปในทุกทิศ เมื่ออาจารย์หยูทำเครื่องหมายและเชื่อมจุดบนแผนที่ พบว่าพื้นที่เหล่านี้โอบล้อมพระราชวังหลวงไว้เหมือนตาข่ายที่กางปิดหากพวกเขาเป็นทหารลับของนกต่อ การเฝ้าประตูเมืองจะไร้ประโยชน์ เพราะพวกเขาอยู่ในเมืองหลวงมาตลอด และเมื่อไม่มีงานทำ พวกเขาก็สำรวจภูมิประเทศจนคุ้นเคย แม้แต่ค่ายลาดตระเวนหรือทหารรักษาการณ์อาจยังไม่รู้จักเส้นทางในเมืองหลวงดีเท่าพวกเขาซ่งซีซีมองดูแผนที่ด้วยความตระหนก แต่ก็ยังตั้งคำถามว่า "พวกเขาได้รับที่ดินเหล่านี้ ต้องได้รับการอนุมัติจากกรมโยธาธิการและฝ่าบาทใช่หรือไม่?""ถูกต้อง แต่ถ้าใช้เพื่อการซ่อมแซมแม่น้ำและระบายน้ำ ก

DMCA.com Protection Status