Share

บทที่ 382

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
คิอไปคิดมา บวกกับอากาศหนาวจัด สมองก็เริ่มสับสนขึ้นมา และกระดูกก็เจ็บเหมื่อยเล็กน้อย

เมื่อกลับมาถึงจวน ซ่งซีซีช่วยพยุงนางลง และสั่งให้คนใช้ทันทีว่า "ทำน้ำขิงร้อนๆ หม้อหนึ่ง ทุกคนต่างก็หนาวจัด มาดื่มน้ำขิงร้อนๆ สักชามเพื่อคลายความหนาวเย็นออกไป"

สนมฮุ่ยไทเฟยรู้สึกละอายใจมากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ซ่งซีซีมีน้ำใจจริงๆ นางยังจำได้ว่านางได้ทนความหนาวเย็นในจวนองค์หญิง ความกตัญญูกตเวทีและความเอาใจใส่ของนางมีผู้ใดสามารถเทียบได้ล่ะ

นางไม่เคยคิดซ่งซีซีไม่ได้ทำเพื่อนาง แต่เพราะเซี่ยหลูโม่โดนลมหนาวพัดอยู่ข้างนอก นางห่วงใยสามีของตนเอง

ห้องครังต้มน้ำขิงมาให้ และแต่ละคนก็หยิบถ้วยหนึ่งขึ้น ซ่งซีซีจ้องมองที่เซี่ยหลูโม่ได้ดื่มไปสองถ้วยก่อนที่จะปล่อยเขาไป จากนั้นก็หันกลับมาเห็นแม่สามีกำลังจิบช้าๆ อยู่ นางก็พูดว่า "เสด็จแม่ดื่มถ้วยหนึงก่อนแล้วกินอาหารร้อนๆ อีกที"

วันนี้ไปที่นั่นก็ตกเย็นแล้ว จากนั้นก็เริ่มตรวจสอบบัญชี ทางจวนองค์หญิงไม่แม้แต่จะให้น้ำกินเลย นับประสาให้อาหารด้วย

"อืม รู้แล้ว" สนมฮุ่ยไทเฟยตอบด้วยเสียงแหบแห้ง นางรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างอธิบายไม่ถูก "ข้าจะดื่มให้หมด"

"ก็ได้ งั้นข้าจะกลับเรือนแช
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Breadiful
นางไม่เคยคิด มุกนี้ได้
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 383

    จะอายไม่อายนั้น สุดท้ายทั้งสองคนก็แช่น้ำด้วยกันหลังจากแช่น้ำเสร็จแล้ว ภายในม่านสีแดงก็ยังคงนัวเนียกันอยู่ ดีที่ทั้งคู่เป็นผู้ฝึกทักษะการต่อสู้มา แม้ว่าพวกเขาจะนอนแค่หนึ่งหรือสองชั่วยาม แต่ก็ยังทนได้เมื่อตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น ก็เห็นหญิงวัยกลางแปลกหน้าสองคนเดินเข้ามารับใช้เซี่ยหลูโม่นี่คือหัวหน้าลู่จัดให้ เดิมทีป้าสองคนนี้ทำงานในห้องเย็บผ้า เนื่องจากตอนนี้ข้างกายท่านอ๋องไม่มีคนใช้ และก็ไม่เหมาะที่จะให้ชายรับใช้เข้าเรือนคอยดูแลเรื่องการแต่งกายในส่วนของสาวใช้ที่อยู่เคียงข้างพระชายา รุ่ยจูและตูงจูไปรับใช้คุณชายรุ่ยเอ๋อร์ ในขณะที่เป่าจู เสวียจูและหมิงจูอยู่เคียงข้างกับพระชายาเพื่อรับใช้นางอย่างใกล้ชิดแม่นมเหลียงดูแลเรื่องเรือนดอกบ๊วยทั้งหมด ย่อมไม่สามารถรบกวนนางมาดูแลหากส่งสาวน้อยไปดูแล เกรงว่าพวกนางอาจมีความคิดอื่นแอบแฝง สู้ไม่ได้ที่จะให้ป้าหยินและป้าฉงจากห้องปักเย็บมาเพื่อรับใช้ท่านอ๋อง ทั้งคู่มีอายุประมาณสี่สิบปี ทำงานจริงจังและละเอียด ไม่เกิดความคิดอื่นฝดได้จะว่าไป ป้าทั้งสองคนนี้ก็ได้รับพระราชทานจากไทเฮาตอนที่ท่านอ๋องสร้างจวนอ๋อง ก่อนหน้านี้รับใช้ไทเฮาอยู่ ดังนั้นจึงคอยไ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 384

    หยูจินพูดด้วยรอยยิ้ม "มีพระชายาอยู่ จะไม่ให้เจ้าเสียเปรียบหรอก เจ้าแค่ทำงานของเจ้าให้ดี หลังจากทหารประจำจวนเข้าจวนแล้ว จะให้เจ้ามาดูแลและฝึกฝน เหนื่อยเช่นนี้ ย่อมมีค่าตอบแทนพิเศษให้ด้วย"กุ้นเอ๋อร์ไม่อยากได้ยินคำพูดคลุมเครือเช่นนี้ เขาจึงถามตรงๆ ว่า "แล้วเท่าไหร่ล่ะ?"อาจารย์หยูจินชูหนึ่งนิ้วขึ้นแล้วพูดว่า "ยอดนี้"ตอนนี้กุ้นเอ๋อร์มีท่อนไม้แท่งหนึ่งอยู่ในใจและอยากจะฟาดหัวอาจารย์หยูจินตรงๆ เลย จะบอกตรงๆ ไม่ได้หรือไง ต้องให้เขาเดาแบบนี้"แค่บอกว่าจะทำหรือไม่ทำ!" เซี่ยหลูโม่ถาม"ทำ!" กุ้นเอ๋อร์ตอบรับทันที เดี๋ยวค่อยหาโอกาสให้ซีซีไปถามให้ว่ามันเท่าไหร่กันแน่ถึงยังไงงานนี้ต้องทำอยู่แล้ว หากหาเงินส่งกลับนิกายไม่ได้ กุ้นเอ๋อร์โดนแน่ๆ"ได้ เรื่องรับสมัครคนนั้นเจ้าไม่ต้องสนใจ เจ้าแค่เป็นหัวหน้ากล่ม ช่วยฝึกฝนให้พวกเขาดีๆ ก็พอ" อาจารย์หยูจินกล่าวกุ้นเอ๋อร์ตอบว่า "ได้ แต่ในจวนอ๋องแห่งนี้สามารถรองรับคนจำนวนมากเช่นนี้ได้หรือ?"หัวหน้าลู่กล่าวว่า "เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ ด้านหลังจวนอ๋องยังมีพื้นที่ว่าง เราจะหาช่างฝีมือในปีหน้า ตราบใดที่มีเงินเพียงพอ ก็สามารถสร้างเสร็จได้เร็วๆ นี้""แล้ว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 385

    ซ่งซีซีกล่าวว่า "นางป่วย จึงย้ายไปที่สำนักแม่ชีชิงมู่ ข้อแรก นางต้องการสถานที่ที่สงบเพื่อพักฟื้น และข้อที่สอง นางต้องการได้รับการคุ้มครองจากพระโพธิสัตว์ในสำนักแม่ชีชิงมู่"เซียนหนิงไม่เข้าใจ "เป็นเพราะนางป่วย ยิ่งต้องการอยู่ในจวนอ๋องเยี่ยนไม่ใช่หรือ อย่างน้อยหากมีเรื่องอะไร คนในจวนก็จะรู้เรื่องได้"แม้แต่เรื่องที่เซียนหนิงก็เข้าใจ แล้วอ๋องเยี่ยนจะไม่รู้ได้ยังไงอันที่จริงซ่งซีซีกังวลมากจริงๆ อาณาเขตสำหรับอ๋องเยี่ยนอยู่ในเยี่ยนโจว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสำนักแม่ชีชิงมู่และเมืองหลวงมากนักถ้าบอกว่าถูกส่งไปพักฟื้น จะส่งนางกลับเมืองหลวงจะไม่ดีกว่าหรือ? อย่างน้อยในเมืองหลวงมีจวน และมีหมอหลวงและหมอมหัศจรรย์ดันคอยดูแลนางตอนนี้ไปอยู่สำนักแม่ชีชิงมู่แล้ว หมอมหัศจรรย์ดันได้ส่งจวี๋ชุนและชิงเชวี่ยไปดูแลนาง แต่สุดท้ายแล้ว ข้างกายไม่มีคนของตนเอง หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกเหงาซ่งซีซีกล่าวว่า "ข้าไปดูสักหน่อยก็จะรู้แล้ว ช่วงนี้รบกวนเสด็จแม่ช่วยข้าดูแลรุ่ยเอ๋อร์สักหน่อย""ได้ ข้าจัดการให้" เมื่อสนมฮุ่ยไทเฟยเห็นว่าตนเองสามารถช่วยซ่งซีซีได้ นางก็ตบหน้าอกทันทีพลางรับประกันนี่ทำให้องค์หญิงเซียนหนิงดู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 386

    ซ่งซีซีคิดทบทวนเรื่องอดีตในใจ และพูดเศร้าๆ ว่า "ข้าแค่กลัวว่าอาการของนางจะแย่ลงกะทันหัน มันจะเกี่ยวข้องกับข้าด้วย"เดิมทีเสิ่นว่านจือต้องการซ่อนสิ่งนี้ แต่เนื่องจากนางเดาได้ นางจึงบอกว่า "ถูกต้อง ตอนแรกนางไม่รู้ มันเป็นนางจินที่จงใจบอกนาง หลังจากที่นางรู้เรื่องแล้วก็อาเจียนเลือดออกมา และอาการของนางก็แย่ลง ข่าวนี้ไม่ได้สืบมาจากร้านอวี๋นยี่ เป็นหงเชวี่ยบอกข้า โดยบอกว่าให้ข้าพิจารณาเองว่าจะบอกเจ้าหรือไม่""ฉันพอจะเดาได้" ซ่งซีซีพูดอย่างเศร้าๆ "นางคือแม่สื่อสำหรับการแต่งงานของข้า แม้ว่านางเป็นแม่สื่อที่แนะนำและรับประกัน แต่จริงๆ แล้วท่านแม่ของข้าก็สอบถามมากเช่นกัน หลายปีมานี้จวนแม่ทัพตกอับก็จริง แต่ไม่ได้สร้างปัญหาไว้ บวกกับนางหมินไร้ความสามารถ หลังจากข้าแต่งเข้าไปก็ไม่ต้องกังวลเรื่องโดนพี่สะใภ้รังแก ส่วนบ้านใหญ่กับบ้านรองก็สามารถรักษาความสามัคคีกัน อย่างน้อยให้คนอื่นเห็นแล้วเป็นเช่นนั้น""อย่าคิดมาก รอจนกว่าเจ้าจะพบท่านป้าของเจ้าที่สำนักแม่ชีชิงมู่แล้ว ค่อยวางแผนต่อ" เสิ่นว่านจือปลอบใจคนไม่เก่ง โดยคิดเสมอว่าหากต้องการจัดการเรื่อง ก็ต้องให้คนที่เกี่ยวข้องมีใจอยากจะแก้ถึงจะทำได้ไม่ว่าย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 387

    ทันใดนั้นดวงตาของเสิ่นว่านจือกลับเต็มไปด้วยน้ำตา นางพิงไหล่ของซ่งซีซี และสะอื้นว่า "ข้าเคยคิดอย่างไรมาก่อนล่ะ ข้าหวังว่านักวิชาการคนนั้นจะปฏิบัติต่อนางอย่างไม่ดีและนางจะเสียใจ จากนั้นหลังจากนักวิชาการคนนั้นได้ทนทุกข์ทรมานในโลกนี้แล้ว ก็รู้สึกเสียใจด้วย พวกเขากลายเป็นศัตรูกันและสาปแช่งกัน"ซ่งซีซีลูบไหล่ของนาง "เจ้าไม่ใช่คนเลวทรามขนาดนั้น""ข้าคิดแบบนี้จริงๆ ข้าเลวทราม แต่แค่เจ้าไม่รู้" ดวงตาของเสิ่นว่านจือว่างเปล่า "ตอนนี้นอกจากข้าแล้ว คนที่บ้านล้วนไม่ชอบพวกเขา แม้แต่คนใช้เก่าในจวน ก็ยังแอบด่าพวกเขาว่าเป็นคนนำโชคร้ายให้ที่บ้าน""แล้วทำไมพวกเขาถึงกลับมาล่ะ"เสิ่นว่านจือกล่าวว่า "สุขภาพของท่านย่าแย่ลง ท่านอาข้าเลลยอยากกลับไปพบนางสักครั้ง บางทีอาจจะคิดถึงคนในครอบครัว เลยเช่าบ้านพักแถวบ้าน วันเว้นวันก็จะมาคุกเข่าที่หน้าประตู โดยคิดว่าพอเวลาผ่านไปนานๆ แล้ว ท่านย่าจะยอมพบนางสักครั้ง ทว่าท่านปู่ท่านย่าจะยอมเจอนางได้ยังไง ยิ่งไม่มีทางให้นางเหยียบเข้าไปประตูตระกูลเสิ่นแม้แต่ก้าวเดียว ไม่เช่นนั้นมันจะยากที่จะสงบสติอารมณ์โกรธของคนอื่นๆ ในตระกูล"ซ่งซีซีคิดว่าเป็นเช่นนี้จริงๆ สตรีของตระกูลเสิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 388

    เนื่องจากการแต่งงานของซ่งซีซี เสิ่นว่านจือจึงกลับบ้านครั้งหนึ่งเพื่อให้สมาชิกในครอบครัวของนาง และสถาบันชื่อเยียนมอบของขวัญงานแต่งงานเป็นสินเดิมให้ซ่งซีซีแม้ว่าเป็นเรื่องเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ทว่าหากอ๋องเยี่ยนไปสู่ขอ ต้องเดินทางจากเยี่ยนโจวไปตระกูลเสิ่นที่เมืองเจียงหนาน ตามระยะทาง งั้นก็คือเวลาไม่นานหลังจากที่นางกลับจากตระกูลเสิ่นไปยังสถาบันชื่อเยียนนี่ อ๋องเยี่ยนก็ไปขอนางแต่งงานเหรอ?ส่วนตระกูลเสิ่นส่งคนไปจัดสินเดิมให้ซีซี ก็น่าจะเป็นเวลาหลังจากที่นางกลับสถาบันชื่อเยียนไม่กี่วันก็ไปเมืองหลวงจิงแล้ว ดังนั้นตอนรวมตัวกับคนของตระกูลเสิ่นที่เมืองหลวงนั้น พวกเขาน่าจะยังไม่รู้เรื่องนี้เสิ่นว่านจือระเบิดอารมณ์ทันที "อ๋องเยี่ยนนี่ไม่รู้จักละอายใจบ้างหรือไง เขาอยุเท่าไรแล้ว ยังกล้ามาสู่ขอข้า จดหมายหย่าส่งมาตอนไหน อาจไม่แน่เขาไปสู่ขอก่อนแล้วค่อยส่งจดหมายหย่ามา ไอ้แก่ไม่ตายนี่ ข้าจะฆ่าเขา"อาจเป็นเพราะเอาแต่พูดถึงอ๋องเยี่ยนๆ พระชายาอ๋องเยี่ยนจึงหลั่งน้ำตา และดวงตาที่หมองคล้ำของนางก็เพ่งความสนใจไปที่ซ่งซีซีอย่างตั้งใจในที่สุดนางจำได้แล้วนางร้องไห้ออกมาด้วยการสะอื้น และร้องไห้อย่างหนักในทันท

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 389

    ด้วยกลัวว่านางจะรู้สึกกระวนกระวายใจอีกครั้ง ชิงเชวี่ยจึงฝังเข็นให้นางอีกครั้ง และให้นางนอนหลับสบายก่อน จากนั้นจึงสั่งยาบรรเทาอาการ ซึ่งต้องกินในช่วงเวลาสองวันนี้เสิ่นว่านจืออ่านจดหมายหย่านั้น แล้วทุบโต๊ะให้พังแล้วด้วยแม่นางจากสำนักแม่ชีชิงมู่มาส่งอาหารเจให้ ชิงเชวี่ยสั่งให้คนไปรับมา และไปกินที่ลานด้านข้างได้รู้จากชิงเชวี่ยว่าเจ้าอาวาสสำนักแม่ชีชิงมู่เป็นคนใจดีและเห็นใจกับพระชายาอ๋องเยี่ยนมากส่วนแม่ชีคนอื่นๆ จะไม่มารบกวนนาง และของกินของใช้ไม่ได้ขาดแคลนนาง เพียงแต่กินเนื้อสัตว์ไม่ได้"ด้วยร่างกายของท่านป้า แม้แต่แกงเนื้อสัตว์ยังไม่ได้กิน มันจะได้ยังไง" ซ่งซีซีถามอย่างเป็นกังวล"แม้ว่าจะให้นางกิน นางก็กินไม่ลง" ชิงเชวี่ยส่ายหัว นางสวมเสื้อผ้าหยาบ คลึมเสื้อกันหนาวหนาๆ เอาไว้ "เดิมทีอยู่จวนอ๋องก็ไม่ค่อยได้กินแกงแล้ว แม้แต่ดมกลิ่นเนื้อสัตว์ก็ไม่ไหว นางเพื่อเรื่องบางเรื่อง ได้กินเจมานานแล้ว"ข่าวที่นางได้ยินมาจากชิงเชวี่ย เหมือนกับที่เสิ่นว่านจือบอกนาง เกือบทั้งหมดท่านป้ามีลูกชายหนึ่งคนและลูกสาวสองคน ลูกชายไม่ได้เป็นลูกแท้ๆ ของนาง เลี้ยงดูเขามาอย่างดีแต่ตอนนี้ก็แค่เป็นคนธรรมดา ไม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 390

    ซ่งซีซีเงยหน้าขึ้นแล้วถามชิงเชวี่ยว่า "อาการป่วยของท่านป้าข้ายังมีวิธีอื่นไหม สามารถชวนอาจารย์ของเจ้ามาด้วยได้ไหม"ชิงเชวี่ยกล่าวว่า"อาจารย์เคยมามานานแล้ว แต่แค่ไม่ได้บอกคุณหนู อาจารย์บอกว่า นางก็แค่อยู่แบบฆ่าเวลา ไม่รู้จะอยู่ต่ออีกนานแค่ไหน หากหยุดกินยา คงภายในวันสองวันแหละ"ซ่งซีซีเงยหน้าขึ้นมาทันที "หยุดกินยาไม่ได้"ชิงเชวี่ยพูดอย่างจนใจ "แม้ว่าไม่ได้หยุด ถึงสามารถผ่านสิ้นนี้นี้ได้ ก็อาจจะไม่รอดถึงวันที่สิบห้าเดือนหน้าหรอก"ซ่งซีซีหลั่งน้ำตาออกมา นางไม่รู้จริงๆ ว่าท่านป้าของนางจะป่วยหนักขนาดนี้ และหมอมหัศจรรย์ดันก็ไม่ได้บอกนาง หงเชวี่ยมักจะอยากพูดอะไรแต่ก็เงียบตลอด นางน่าจะเดาได้นานแล้ว"ตอนนี้เรากำลังฝังเข็นให้ เพื่อให้นางเจ็บปวดน้อยลง อย่างน้อยเมื่อถึงวันนั้นจริงๆ นางก็จะไม่ได้จากไปอย่างเจ็บปวดมาก" ชิงเชวี่ยปลอบใจนางแบบนี้ในฐานะแพทย์ นางเคยเห็นผู้ป่วยจำนวนมากเสียชีวิต แต่สำหรับพระชายาอ๋องเยี่ยน นางก็รู้สึกเสียใจมากรู้สึกทุกข์ใจมากกว่าคนๆ หนึ่งต้องโชคร้ายขนาดไหนที่ถูกสามีและลูกสาวตนเองรังเกียจและทอดทิ้ง ครอบครัวพ่อแม่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ อยู่สถานที่ห่างไกลมาก ในฤดูหนาวจัดเช่

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1600

    แต่จะว่าไปแล้ว สตรีเช่นข้า ก็เป็นที่โปรดปรานของบุรุษไม่น้อยที่ภูเขาเหม่ยชาน มีบุรุษมากมายชื่นชอบข้า เด็กหนุ่มวัยกำลังขึ้นหนวดอ่อนส่งจดหมายรักให้ข้าเขินๆ อายๆ ส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่าข้าก็ไม่เคยเปิดดู ต่อหน้าพวกเขาก็ฉีกมันทิ้งเสียเลยในเมื่อยามนั้น ข้ายังไม่ได้เข้าใจตรรกะของคำปฏิญาณที่ตนตั้งไว้ดีนัก ในใจก็ยังมีคำว่า "ไม่แต่ง" ขวางอยู่เต็มอกข้าฉีกจดหมายรักต่อหน้าพวกเขา ข้ารู้ว่าตนโหดร้าย แต่ขอโทษเถิด ในเมื่อข้าคือสตรีที่ตั้งใจว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องรักใคร่ชั่วชีวิต ข้าย่อมต้องใจแข็ง ไม่ปล่อยให้พวกเขามีแม้แต่นิดเดียวของความหวังร้องไห้เสียในตอนนี้ ยังดีกว่าติดบ่วงในวันหน้า จนเจ็บปวดปานฉีกหัวใจแม้พวกเขาจะบอกหน้าตาเศร้าว่าให้ข้าช่วยส่งจดหมายรักให้ซ่งซีซีก็ตาม ข้าก็ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยหึๆ ยังไม่ทันได้เป็นบุรุษเต็มตัว ก็รู้จักใช้เล่ห์กลยั่วยวนหญิงเสียแล้วที่ภูเขาเหม่ยชาน เพื่อนเล่นที่ดีที่สุดของข้าก็คือพวกซีซี หมั่นโถว เฉินเฉิน และกุ้นเอ๋อร์อ้อ เคยมีอยู่ช่วงหนึ่ง ศิษย์พี่ใหญ่ของเฉินเฉินก็มาเล่นกับพวกเราด้วย แต่น่าเสียดาย ต่อมาเขาก็ลงเขาไปผดุงคุณธรรมเสียแล้ว แต่เฉินเฉินบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1599

    ข้า...เสิ่นว่านจือคนดีคนเดิม ยังคงอยากจะบ่นอยู่ บ่นถึงบุรุษของข้าหวังเยว่จาง เจ้านี่ช่างสมกับเป็นบุตรของท่านฮูหยินผู้เฒ่าหวังเสียจริงก่อนแต่งงานเราก็ตกลงกันไว้ชัดเจนแล้วว่า ต่อแต่นี้ไปไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใด เขาห้ามแทรกแซง ห้ามห้ามปราม และห้ามเข้าร่วมโดยเด็ดขาดผลสุดท้าย เพิ่งแต่งได้ปีเดียว เขาก็ฉีกสัญญาทิ้งหมดสิ้น จะทำด้วยทุกเรื่องตามข้าสิ่งที่ข้าทำนั้น เขาเกี่ยวข้องได้หรือ? ย่อมไม่ได้ สำนักว่านซงมีกฎเข้มงวด อีกทั้งยังมีอาจารย์อาผู้เหี้ยมโหดนั่งประจำอยู่ หากรู้ว่าข้าพาหวังเยว่จางไปตัดหัวคน เกรงว่าจะบดกระดูกข้าเป็นผุยผงไปแล้วแต่เขาว่า เดิมเขาก็เป็นคนในยุทธภพ คนในยุทธภพล้วนถือความสะใจเป็นใหญ่ ทั้งบุญคุณและความแค้น ไม่ว่าเป็นของผู้ใด ก็ล้วนต้องตอบแทนอีกทั้งเราทำอย่างลับๆ สถาบันว่านซงเหมินย่อมไม่รู้เรื่องแต่พี่ห้า ท่านเข้าสังกัดกรมกลาโหมไปแล้วนะ ท่านก็เป็นขุนนางแล้ว จะยังพูดเรื่องยุทธภพสะใจล้างแค้นอะไรอีกเล่า?สิ่งที่ข้าทำ แม้แต่ซ่งซีซีก็ยังไม่รู้ทั้งหมด หรือหากนางรู้ นางก็คงเลือกที่จะปิดหูปิดตาเสีย เพราะว่ามันขัดแย้งกับสถานะ เข้าใจหรือไม่?ข้า...เสิ่นว่านจือ ไม่ย่างกรายเข้าสู่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1598

    บางครั้งข้าก็สอนศิษย์ทั้งหลายให้กล้าเผชิญหน้ากับชีวิต กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด แต่ตัวข้าเองกลับมิอาจกระทำได้เช่นนั้นหลายปีมานี้ ข้าแทบไม่ได้พบหน้าเขาเลย หากรู้ว่าเขาจะไปที่ใด ข้าย่อมหลีกเลี่ยงไม่ไปเมื่อครั้งที่ข้ายังดื้อดึงอยู่ เคยถูกพี่สะใภ้ตำหนิว่าข้ายังติดหนี้เจ้าสิบเอ็ดฝางอยู่ แต่ในใจข้ากลับไม่ยอมรับนัก ยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป ข้าน้อยใจไปเพื่ออะไรเล่า? ใครเป็นคนที่ติดหนี้ข้ากัน? ฟ้าดินเมตตาข้าไม่มากพอแล้วหรือ? ทุกสิ่งล้วนเป็นผลจากการกระทำของข้าเองทั้งสิ้นหลายครา ข้าเปิดกระดาษเขียนจดหมาย ตั้งใจจะเขียนถึงเขาเพื่อขอขมาจากใจจริงแต่ยามจับพู่กันลงหมึก พอหมึกหยดลงกระดาษกลับเขียนไม่ออกแม้แต่คำเดียวข้ากลัวว่าจดหมายขอขมานั้นจะดูแปลกประหลาดเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาระแวง หรือแม้แต่ทำให้จ้านเป่ยว่างคิดมากแม้ว่าตอนนี้ ข้ากับจ้านเป่ยว่างจะมิได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ต้องการทำลายความสงบเช่นนี้ระหว่างนั้น จ้านเป่ยว่างเคยกลับมาสองสามครั้ง อาจเพราะเห็นกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งในห้องหนังสือของข้า เขาจึงสั่งให้เตรียมเหล้าหนึ่งเหยือก กับกับข้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1597

    ข้ามาอยู่ชายแดนเฉิงหลิงได้หนึ่งเดือนแล้ว ก็กำลังครุ่นคิดว่าจะทำสิ่งใดดีในนามแล้ว ข้าคือภรรยาของจ้านเป่ยว่าง ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรากลับมีน้อยนัก เขามักพำนักอยู่ในค่ายทหาร มีเพียงบางครั้งที่กลับมามองข้าสองสามตาด้วยเหตุนี้ ข้าจึงมีเวลาว่างมากมาย พอจะทำกิจการเล็กๆ ได้ชายแดนเฉิงหลิงนั้นต่างจากที่ข้าคาดไว้เล็กน้อย เดิมทีข้าคิดว่าดินแดนชายขอบย่อมแร้นแค้น ขาดแคลนสิ่งของ แต่เหนือความคาดหมาย ที่นี่แทบจะมีทุกอย่างขาย ยกเว้นเพียงเครื่องประดับล้ำค่าและผ้าไหมชั้นดีจากแคว้นสู่เท่านั้นสิ่งเหล่านี้ก็หาใช่ว่าไม่มีไม่ เพียงแต่ว่าหลังจากพ่อค้าเดินทางนำมาถึงแล้ว ก็มักเก็บไว้รอส่งไปขายแก่พวกขุนนางมั่งคั่งในซีจิงชาวบ้านที่ชายแดนเฉิงหลิงซื้อเครื่องประดับเพียงเพื่อความสวยงาม ไม่ได้ใส่ใจว่าล้ำค่าหรือไม่ข้ากำลังตรองว่าจะค้าขายสิ่งใดดี เพียงแต่ไม่ว่าคิดจะค้าขายอะไร สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือต้องซื้อร้านก่อนมิใช่หรือ?ดังนั้น ข้าจึงพาบ่าวชายและสาวใช้เดินไปตามตรอกซอกซอย ค้นหาร้านค้าที่เหมาะสมการมาครั้งนี้ พี่สะใภ้ใหญ่ให้เงินติดตัวข้ามาด้วย พี่สะใภ้รองกับว่านจือก็ให้มาบ้าง รวมกับเงินที่ข้าเก็บไว้เอง ที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1596

    นายท่านป๋ออันถูกหวังเยว่จางเหน็บแนมอยู่ไม่น้อย ท้ายที่สุดก็ยอมปล่อยเส้าหมิ่นออกมา ให้เส้าหมิ่นไปขอความเห็นใจ ถึงได้ช่วยชีวิตคุณชายเส้าเอาไว้เรื่องราวคลี่คลาย พวกเขาก็กล่าวขอบคุณหวังเยว่จางอย่างสุดซึ้ง แม้จะรู้ว่าถูกจงใจบีบไว้ แต่จะทำเช่นไรได้เล่า ใครใช้ให้บุตรชายของตนประพฤติผิด ไร้คุณธรรม ถูกจับได้คาหนังคาเขาเล่า?เส้าหมิ่นรู้ว่ามารดาของตนเคยกลั่นแกล้งเสี่ยวอวี่ เขาจึงอดทนไว้ก่อน รอจนแต่งงานแล้วจึงกล่าวขอแยกเรือนทันทีเขามิได้ทะเลาะกับทางบ้าน เพราะราชสำนักแคว้นซางสอบคุณธรรมข้าราชการเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณธรรมแห่งความกตัญญู หากมีตราบาปว่าอกตัญญู วันหน้าอย่าหวังจะยืนหยัดในวงราชการเหตุผลที่เขาขอแยกเรือนก็สมเหตุสมผล กล่าวว่าสำคัญต่ออนาคต การสอบใกล้เข้ามาแล้ว คนในเรือนมากเกินไปย่อมรบกวนสมาธิ หากแยกเรือนไปจะได้เตรียมสอบอย่างสงบเพราะเขาเป็นบุตรที่กตัญญูมาโดยตลอด อีกทั้งฮูหยินเส้าเพิ่งก่อเรื่องใหญ่ขึ้นมา รู้ดีว่าเบื้องหลังของหวังจืออวี่มั่นคงนัก จึงมิได้ขัดขวางมากนัก อนุญาตให้พวกเขาแยกเรือนไปเรื่องนี้ถูกจัดการอย่างเงียบเชียบ มิได้ก่อผลกระทบอันใด ไม่มีผู้ใดเอ่ยคำซุบซิบนินทาเด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1595

    ตอนนี้เองที่ข้าพึ่งเข้าใจเจตนาของซีซี เส้าฮูหยินนำคนไปก่อเรื่องถึงตระกูลหวังจนเสียหน้า เช่นนั้นก็ต้องไปขอขมาถึงที่นั่นด้วย และใช้เรื่องที่เส้าซื่อจื่อประพฤติตัวต่ำทรามมาจับจุดอ่อนตระกูลเส้า ต่อจากนี้ ต่อให้จืออวี่แต่งเข้ามา พวกเขาก็จะไม่กล้ารังแกอีกทั้งมีคนหนุนหลัง ทั้งมีเรื่องให้ถือไพ่เหนือกว่าแต่วันนี้ข้ามาเพื่อระบายความโกรธ เป้าหมายก็เส้าฮูหยิน ข้าย่อมไม่ยอมจากไปง่ายๆข้ารอจนปี้หมิงกับคนของเขาออกไปหมด จึงกล่าวกับเส้าฮูหยินว่า “เมื่อครู่ได้ยินท่านพูดว่าจวนป๋อเจวี๋ยของพวกท่านเป็นตระกูลขุนนางผู้ดีฟังแล้วช่างน่าขัน ตระกูลขุนนางผู้ดีที่ไหนจะทำเรื่องล่อลวงภรรยาน้อย บุกบ้านผู้อื่นอาละวาดไร้เหตุผล? วันนี้ข้าตั้งใจจะฉีกหน้าตระกูลเส้าให้ขาดเป็นชิ้นๆ อยู่แล้ว แต่เพราะเห็นว่าเส้าหมิ่นรักเสี่ยวอวี่ด้วยใจจริง ข้าจึงไม่อยากทำให้เรื่องเลวร้ายจนเด็กทั้งสองต้องอับอาย แต่เรื่องที่เสี่ยวอวี่ถูกกดขี่ ข้าไม่อาจปล่อยผ่านได้ เด็กคนนี้ข้าเสิ่นว่านจือเลี้ยงดูมาเองกับมือ จะยอมให้ใครรังแกไม่ได้ เจ้าอาศัยว่าตัวเองเป็นจวนป๋อเจวี๋ย ก็เลยกล้ารังแกตระกูลหวังที่ไร้บรรดาศักดิ์ ตอนเจ้ารังแกผู้อื่นก็อย่ามาโทษคนอื่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1594

    ดูสีหน้าของคนตระกูลเส้าหลังจากข้าพูดจบแต่ละคำ…แต่ละคนเหมือนถูกสาปกลายเป็นท่อนไม้ ยืนนิ่งไม่ไหวติง ก็รู้แล้วว่าเหล่าขุนนางใหญ่โตในเมืองหลวงล้วนไม่ให้ตระกูลเส้าเข้าสมาคมด้วย แม้แต่เรื่องนี้ก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำข้าฉวยจังหวะที่เส้าฮูหยินยังตกตะลึง กล่าวเย็นชาต่อว่า “ใครไม่รู้ว่านายท่านสามบ้านข้ารักเสี่ยวอวี่ที่สุด? นางถูกทำให้เจ็บช้ำน้ำใจถึงเพียงนี้ นายท่านสามของข้าก็เสียใจแทบคลั่ง ข้าต้องพูดทั้งปลอบทั้งเตือน จึงห้ามเขาไว้ได้ ไม่เช่นนั้น วันนี้เขาคงไปฟ้องไทเฮาไปแล้ว ในเมื่อข้ามาแล้ว เช่นนั้นใครเป็นคนลงมือ ก็ออกมายอมรับโทษเสีย”หวังเยว่จางมีหลายสถานะในเมืองหลวง แต่ที่ผู้คนรู้จักมากที่สุด ก็คือสามีของข้าเสิ่นว่านจือ ศิษย์แห่งสถาบันว่านซงเหมิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายคลังยุทโธปกรณ์แห่งกรมทหาร อีกทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการหลายแห่งของว่านซงเหมินในเมืองหลวงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลหวัง ถูกจงใจทำให้ดูเลือนราง แต่ในยามจำเป็น ก็ย่อมนำมาใช้งานได้ในบรรดาสถานะทั้งจริงทั้งเท็จเหล่านี้ ต่อให้มีผู้สงสัยว่ามีความเกี่ยวพันกับไทเฮา ก็ย่อมไม่มีใครกล้าปฏิเสธ เพราะไทเฮานั้นเคารพอาจารย์เหรินแห่งว่านซงเหมินอย่างย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1593

    ข้าชื่อเสิ่นว่านจือ เรื่องอื่นไว้ทีหลัง ข้าขอระบายเรื่องหนึ่งก่อนเถิดมันช่างเกินจะทนได้แล้ว!ตระกูลเส้าเป็นเพียงจวนป๋อเจวี๋ยเล็กๆ เท่านั้น ฮูหยินตระกูลเส้ากลับกล้าโอหังถึงเพียงนี้ ข้าเสิ่นว่านจือมีชีวิตอยู่มานาน ปากมากปากจัดก็เห็นมาหลายคน แต่พวกสตรีที่ปากมากในหมู่ผู้มีอำนาจ ข้ายังได้พบเพียงไม่กี่คนพอรู้ว่าเสี่ยวอวี่ถูกลากออกไปตบหน้า แล้วถูกกล่าวหาว่าไร้ยางอายไปยั่วยวนบุรุษ ข้าก็แทบอยากจะพังประตูตระกูลเส้าไปเตะใครสักคน ลากคนออกมาแล้วตบกลับให้สาสมใจซีซีเองก็โกรธ แต่เตือนข้าว่าเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว อย่าเพิ่งเอาแต่ระบายอารมณ์ ให้รีบไปดูเสี่ยวอวี่กับหวังชิงหรูก่อน เผื่อว่าทั้งสองจะทำเรื่องไม่คาดฝันต้องยอมรับว่าซีซีเป็นขุนนางมาหลายปี ย่อมมีวิจารณญาณในการแยกแยะเรื่องเร่งด่วนกับเรื่องสำคัญข้าจึงรีบเร่งไปยังตระกูลหวัง แล้วก็ได้รู้ว่าเสี่ยวอวี่กรีดข้อมือ ส่วนหวังชิงหรูก็ไล่สาวใช้ในเรือนออก ข้าจึงรู้สึกทันทีว่าจะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่จริงอย่างที่คาด หิมะยังไม่ทันตก หวังชิงหรูก็คิดจะแขวนคอตัวเองให้เป็นหมูตากแห้ง ข้าโกรธจนฟาดหน้านางไปหนึ่งฉาดที่จริงช่วงหลังมานี้ข้าเป็นคนอารมณ์ดีมาก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1592

    ข้ารู้ตัวอย่างแท้จริงว่าตนเองผิดมหันต์นั้น...เกิดขึ้นเมื่อใดกันนะ?มิใช่ตอนที่เจ้าสิบเอ็ดฝางกลับมา มิใช่ตอนที่หย่าขาดกับจ้านเป่ยว่าง และก็ไม่ใช่ตอนที่ตระกูลหวังประสบเคราะห์กรรมแต่เป็นตอนที่อวี่เจี่ยเอ่อร์กำลังจะออกเรือนตอนที่ตระกูลหวังตกอับ ข้าอยู่ในคุก เกือบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในอดีต ข้าก็รู้ว่าตัวเองมีเรื่องผิด ข้ายินดีจะขัดเกลาความแข็งกร้าว เปลี่ยนแปลงตนเองแต่ในตอนนั้น ข้ายังไม่อาจเรียกได้ว่าได้สำนึกอย่างแท้จริง เพราะข้ายังคิดว่าทั้งหมดคือเรื่องของตนเอง ต่อให้ต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใด ก็เป็นข้าเองที่รับกรรม ใครอื่นล้วนไม่มีสิทธิ์มาตัดสินข้ารู้ดีว่าพี่สะใภ้ใหญ่ต้องลำบากวุ่นวายเพราะความเอาแต่ใจของข้า ต้องวิ่งวุ่นไปทั่ว ข้าอาจเคยชินกับการที่นางดูแลข้าเช่นนี้ จึงมีทั้งความรู้สึกขอบคุณและเคารพนางแต่เรื่องราวในอดีตของข้า ข้ามิเคยอยากย้อนกลับไปคิด เพราะนั่นคือการทำร้ายตนเอง เป็นความทุกข์ทรมานกระทั่งวันที่อวี่เจี่ยเอ่อร์กำลังจะหมั้นหมาย ข้าจึงเริ่มพลิกดูตัวเองทุกแง่ทุกมุม ให้ความเสียใจแทรกซึมกัดกินหัวใจทุกลมหายใจอวี่เจี่ยเอ่อร์กับคุณชายเส้าหมิ่นแห่งจวนป

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status