Share

บทที่ 8 เธอนอนกับใคร?

ชายที่อยู่ในห้องนั่งอยู่บนเก้าอี้วีลแชร์ เขามีรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าออกอาการป่วยเล็กน้อยแต่ยังไม่อาจซ่อนความสง่าและความหล่อเหลาของเขาได้ ความพิการทางร่างกายของเขาซ่อนบุคลิกแข็งแกร่งของเขาไม่ได้เลยสักนิด

คิ้วหนาและดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลง นิสัยท่าทางของชายคนนี้เหมือนกับชายหนุ่มในโรงแรมในปารีสคืนนั้นทุกประการ

เหมือนกว่าโม่เหยียนซะอีก!

ในขณะนั้นเอง บอดี้การ์ดคนหนึ่งจากอีกห้องพูดกับเธอว่า: “ประธานโม่ตั้งใจมารอคุณที่นี่ครับ คุณเหมย”

ประธานโม่...

มีข่าวลือว่าบุคคลที่รับผิดชอบโม่นั้นซื่อกรุ๊ป ไม่ใช่ใครอื่นหอกแต่เป็น โม่ฉีเฉิน นายน้อยคนรองตระกูลโม่ ว่ากันว่าเขามีอารมณ์รุนแรง อาศัยอยู่ต่างประเทศมาหลายปีและไม่เคยกลับเข้ามาในประเทศ และเขาเป็น...คนพิการ...

เธอไม่ได้สงสัยว่าทำไมโม่ฉีเฉินถึงปรากฏตัวในห้องของเธอ เพราะถึงยังไงทั่วเมืองไหวเฉิงก็คืออาณาเขตของเขา

ดูเหมือนจะมีจุดอ่อนที่ไม่อาจแตะต้องอยู่ในดวงตายาวเรียวและเหินห่างคู่นั้น เธออยากหลีกเลี่ยง แต่การหลบดวงตาดำขลับของเขากลับเป็นเรื่องยาก

โม่ฉีเฉินดูเหมือนชายในความทรงจำของเธอคืนนั้นมาก

เหมยเหมยควบคุมสีหน้าของเธอ พยายามนึกถึงความทรงจำที่กระจัดกระจายในโรงแรมคืนนั้น แก้มของเธอแดงระเรื่อขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

ชายหนุ่มคนนั้นแรงดีมาก ไม่มีทางเป็นคนพิการแน่ ถ้าโม่ฉีเฉินไม่สามารถขยับร่างกายส่วนล่างได้ ถ้าอย่างนั้นผู้ชายในโรงแรมคืนนั้น... คือโม่เหยียนใช่รึเปล่านะ?

เธอแอบลังเลในใจเล็กน้อย

หากแต่เธอมักรู้สึกเสมอว่าสายตาที่โม่ฉีเฉินมองเธอนั้นช่างซับซ้อน

“ผมตกลงเงื่อนไขที่คุณเสนอให้โม่เหยียน แต่ผมเองก็มีเงื่อนไขเหมือนกัน”

โม่ฉีเฉินขัดจังหวะความคิดของเธอ น้ำเสียงอันเย็นชาแฝงไปด้วยความเย่อหยิ่ง

“อะไรนะคะ?”

“คุณต้องแต่งเข้าตระกูลโม่” โม่ฉีเฉินเม้มริมฝีปากบางของเขา เผยให้เห็นความเฉยเมยเล็กน้อย: “และต้องเป็นการแต่งงานแบบปิดบัง”

“เพราะอะไรคะ” เหมยเหมยขมวดคิ้วเล็กน้อย

“เพราะอะไร...คุณไม่รู้เหรอ?” โม่ฉีเฉินจ้องมองเธอด้วยสายตาเรียวแหลม

เพราะเรื่องที่เกิดอะไรขึ้นที่โรงแรมคืนนั้น?

เหมยเหมยขมวดคิ้วและมองดูโม่ฉีเฉิน เขาดูเป็นคนสงบและมีเหตุผล เหมือนกับพ่อแม่ที่มาตามเช็ดก้นให้ความผิดของลูกอย่างโม่เหยียนไม่มีผิด

แปลว่าชายหนุ่มในคืนนั้น คือโม่เหยียนจริงสินะ

แต่เธอสงสัย โม่เหยียนอยู่จุดสูงสุดในสายอาชีพ การแอบแต่งงานจะเป็นประโยชน์ต่อเขาในตอนนี้เหรอ?

เธอรู้สึกสงสัยเล็กน้อย ก่อนจะขมวดคิ้วและสูดหายใจ จากนั้นก็จ้องมองไปที่โถกํายานข้างเตียง ดูเหมือนเธอจะต้องแก้ไขปัญหาอื่นก่อน

เธอเดินไปหยิบโถกํายาน ก่อนจะหันกลับมาแล้วพูดว่า “ประธานโม่อยู่ในห้องของฉันนานแค่ไหนแล้วคะ?”

“สิบนาที”

ดวงตาของโม่ฉีเฉินเปลี่ยนไปพร้อมกับมองดูเธออย่างตื่นตัว

“รอฉันอีกพักนะคะ แล้วฉันจะกลับมา” เธอมองใบหน้าแดงก่ำของโม่ฉีเฉิน แล้วเดินออกไปพร้อมกับพูด

“คุณกล้าให้ประธานโม่รอคุณเหรอ?”

บอดี้การ์ดของโม่ฉีเฉินที่อยู่ด้านหลังก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดเธอ และพูดด้วยน้ำเสียงไม่สุภาพเท่าไหร่นัก

เหมยเหมยหันกลับมาอย่างสงบ ก่อนจะเขย่าโถกำยานในมือของเธอเบา ๆ แล้วพูดว่า “ถ้าประธานโม่ไม่อยากถูกเจ้าสิ่งนี้มาบงการ ฉันควรจะเปลี่ยนมันโดยเร็วที่สุดดีกว่านะคะ”

แม้ว่าโถกำยานในห้องของเธอจะเหมือนกับในห้องพักอื่น ๆ แต่กลิ่นหอมก็แตกต่างกันเล็กน้อย ตัวเธอเองก็ไม่ได้เข้าใจส่วนผสมผิดปกติที่อยู่ในนี้มากนัก แต่เธอมั่นใจว่าจะต้องมีส่วนผสมที่ทำให้ผู้คนเกิดอารมณ์ลุ่มหลงมัวเมาใส่เอาไว้แน่

คิ้วของโม่ฉีเฉินขยับเล็กน้อย รู้สึกถึงความร้อนเล็กน้อยที่เพิ่มขึ้นบริเวณหน้าอก เขาส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดหลีกทางให้เธอ

เหมยเหมยเดินออกไปโดยใช้ไม้ค้ำพร้อมกับสั่งโดยไม่หันกลับมามอง: “เพื่อสุขภาพของประธานโม่ ทางที่ดีควรเปิดหน้าต่างในห้องเพื่อการระบายอากาศตอนนี้นะคะ”

เธอเดินออกมาด้านนอก ก่อนจะยื่นโถกำยานให้นักสืบเอกชนของเธอ ก่อนจะสั่งการ “สลับโถกำยานในห้องของฉันกับของเหมยเสี่ยวตี๋ ให้เธอได้รับกรรมกับสิ่งที่ตัวเองทำสักหน่อย”

เมื่อเธอกลับมาก็เห็นว่าหน้าต่างภายในห้องเปิดกว้างและรอยแดงบนแก้มของโม่ฉีเฉินดูเหมือนจะลดลงเล็กน้อย

โม่ฉีเฉินยังมองดูผู้หญิงร่างเล็กตรงหน้าเขาอีกครั้ง เขาเพิ่งให้คนของเขาไปตรวจดูกล้องวงจรปิดภายใน และพบว่าเหมยเสี่ยวตี๋เคยไปที่ห้องของเหมยเหมยก่อนงานเลี้ยงจะเริ่ม และยังได้สัมผัสกับโถกำยานกับหัวเตียงของเธอ...

แต่กลิ่นขอกำยานนั่นเบาบางมาก เธอรู้ได้ยังไงว่ามันมีปัญหา

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status