Share

บทที่ 11 กวาดเรียบไม่มีเหลือ

“เหอะ!”

ผู้ถือหุ้นอาวุโสของเหมยซื่อกรุ๊ปสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไป พร้อมทิ้งคำพูดรุนแรงเอาไว้ “ไม่ช้าก็เร็วเราจะเคลียหนี้ของวันนี้!”

เหมยเหลียนตงดูหดหู่ใจ พ่อแม่ตระกูลหลีต่างก็ถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อันที่จริง พวกเขารู้อยู่ในใจว่าลูกชายของพวกเขานิสัยเป็นยังไง เมื่อพวกเขาเห็นลูกชายของตัวเองกับเหมยเสี่ยวตี๋พากันหลบขณะที่พวกเขาเข้ามา พวกเขาก็เข้าใจทุกอย่างดี

แต่ตัวตนของเหมยเสี่ยวตี๋เป็นใคร? สถานะของหญิงสาวจากตระกูลเล็กที่แตกหน่อออกมาจากตระกูลเหมยจะเทียบกับเหมยเหมยได้ยังไง?

ในเวลานี้ พวกเขาต้องปลอบใจเหมยเหมยก่อน...

หลีรั่วเชี่ยนเห็นสายตาพ่อแม่ของเขา และก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่ออธิบาย “เหมยเหมย เชื่อผมเถอะ เมื่อคืนเราไม่ได้ทำอะไรกันเลย...”

เหมยเหมยผลักมือของหลีรั่วเชี่ยนออกไป และร้องไห้ก่อนจะจากไป แม่ตระกูลหลีรีบคว้าเธอไว้: “เด็กดี ดูสิพิธีหมั้นใกล้เข้ามาแล้ว หนูจะออกไปไม่ได้นะ”

“คุณป้า หลีรั่วเชี่ยนทำแบบนี้ลับหลังหนูโดยไม่มีคำอธิบายสักคำ แล้วจะบังคับให้หนูแต่งงานกับเขาเหรอคะ?”

ดวงตาของเธอมุ่งมั่น คำถามของเธอทำเอาแม่ตระกูลหลีหมดหนทางฉุดรั้ง เธอหันกลับมาและตะโกนด้วยความโกรธที่เหมยเหลียนตง: “ทั้งหมดเป็นความผิดเหมยเสี่ยวตี๋ลูกสาวตัวดีของคุณนั่นละ เธอพยายามจะแต่งงานเข้าตระกูลหลีของฉัน บอกเลยว่าไม่มีทาง!”

“เลิกใส่ร้ายกันเดี๋ยวนี้นะ! ใครพยายาม? พูดมาให้ชัด ๆ เดี๋ยวนี้นะ!” เฉินอวี้ฟังร้อนใจและพุ่งตัวเข้ามาปกป้องลูกสาวของตัวเอง

“พูดถึงใครเหรอ? ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นหรอก!”

สุนัขสองตัวกำลังกัดกัน เหมยเหมยถือโอกาสจากไป

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องตอนนี้ถูกบันทึกไว้ในกล้องที่ติดตั้งโดยถูเจียเออร์ และจะเป็นอาวุธหนักให้เธอใช้ฆ่าคู่รักผีเน่านี่ด้วยมือของเธอเอง!

*

เวลา 9 โมงเช้า

ในช่วงเริ่มต้นของงานหมั้น แขกทุกคนก็ได้รับแจ้งว่าพิธีหมั้นของตระกูลหลีและตระกูลเหมยถูกยกเลิก!

“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อคืนยังดี ๆ อยู่เลยไม่ใช่เหรอ?”

“ฉันได้ยินคนพูดว่านายน้อยหลีคบชู้ละ...”

แขกที่ออกจากที่นี่ต่างก็กำลังพูดคุยกัน อาศัยจังหวะที่ทุกคนตื่นตระหนก เหมยเหมยกับถูเจียเออร์รวมตัวกันเพื่อกรอง “ภาพ” ที่กล้องถ่ายไว้เมื่อคืนนี้

เธอเลือกภาพถ่ายสองสามภาพที่โฟกัสเบลอแล้วบอกกับถูเจียเออร์ว่า “ส่งภาพพวกนี้ออกไปก่อน”

“แค่นี้เหรอ?”

ถูเจียเออร์ รู้สึกประหลาดใจ: “ทำไมเธอไม่ปล่อยวิดีโอโจมตีพวกนั้นซะ? ทำไมยังปล่อยให้พวกนั้นรอดอีก? รูปพวกนี้ไม่ค่อยชัดพวกเขาต้องไม่ยอมรับแน่!”

“ยังไม่ถึงเวลา”

เหมยเหมยอธิบายอย่างใจเย็น

“แล้วเมื่อไหร่ล่ะ?” ถูเจียเออร์ถามอย่างไม่เต็มใจ

“พวกเขาทำกับฉันแบบนี้ ถ้าฉันไม่เลือกเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม ให้ทุกคนรู้เรื่องอื้อฉาวที่พวกเขาทำ ฉันจะเผชิญต่อความรู้สึกที่ตัวเองมีตลอดช่วงสองปีนี้ได้ยังไง”

เหมยเหมยกล่าวอย่างมั่นใจ: “วันมะรืนนี้เป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีของหลีซื่อกรุ๊ป ตระกูลหลีได้เชิญบุคคลสำคัญทางธุรกิจและสื่อเกือบทั้งหมดในเมืองไหวเฉิง ถึงตอนนั้นหนูจะกวาดล้างพวกเขาให้หมด!”

**

เหมยเหมยและถูเจียเออร์แยกทางกันหลังจากวางแผน เธอกลับบ้าน และทันทีที่เข้าบ้าน เธอก็เห็นแม่ที่กลับมาจากต่างประเทศ

นับตั้งแต่พ่อของเธอเสียชีวิต แม่ของเธอคอยวิ่งทำงานหนักเพื่อเหมยซื่อกรุ๊ปเพียงลำพัง ไม่เพียงแต่เธอจะต้องดูแลธุรกิจที่ซบเซา แต่เธอยังต้องระวังแรงกดดันจากอำนาจของอาสามในหมู่คณะกรรมการบริหารอยู่เสมอ

“พอแม่มาถึงงานหมั้นลูกแม่ก็ได้ยินว่าเกิดเรื่อง ลูกเสียใจรึเปล่า” แม่ตระกูลเหมยลุกขึ้นหยิบไม้ค้ำจากมือของเธอแล้วช่วยเธอนั่งลง

เมื่อมองรอยยิ้มของแม่ เหมยเหมยก็รู้สึกราวกับมีความกล้ามหาศาลประดังประเดเข้ามาในหัวใจของเธอ: “แม่คะ ถ้าหนูจะบอกว่า ที่จริงหนูไม่อยากแต่งงานมานานแล้วละคะ”

แม่ตระกูลเหมยมองเธอด้วยสายตารักใคร่และยิ้มอย่างสงบ: “แม่รู้อยู่แล้วเชียวว่าลูกแม่มีขอบเขต”

เหมยเหมยค่อย ๆ ยิ้มออกมา เธอซุกหัวเข้าในอ้อมแขนของแม่ รู้สึกว่าความรักอันลึกซึ้งกำลังเติมเต็มความว่างเปล่าอันหนาวเหน็บในหัวใจของเธอ

“เหมยเหมย หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ แม่ตัดสินใจให้ลูกเข้าสู่เหมยซื่อกรุ๊ปอย่างเป็นทางการ”

เสียงสงบของแม่ทำให้เหมยเหมยตกใจจนต้องนั่งตัวตรงและมองเธอด้วยความประหลาดใจ: “แม่คะ แต่ว่าพ่อบอกว่าหนูไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมในบริษัทไม่ใช่เหรอคะ?”

พ่อตระกูลเหมยทิ้งพินัยกรรมไว้ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต ข้อความด้านในห้ามไม่ให้เธอเข้าร่วมในธุรกิจของบริษัท ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม่ของเธอทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในคณะกรรมการบริหารเพียงลำพัง เธอพยายามเข้าร่วมบริษัทเพื่อช่วยหลายครั้งแต่ก็ถูกแม่ปฏิเสธ

โดยไม่คาดคิด ครั้งนี้แม่ของเธอยอมตอบรับด้วยตนเอง?

แม่ตระกูลเหมยลูบไล้ผมยาวของเหมยเหมย ดวงตาของเธอเป็นประกาย: “เหมยเหมยของแม่โตแล้วสินะ”

“ได้”

เหมยเหมยบีบมือแม่ของเธอแล้วพูดอย่างมั่นใจ: “แม่ ไม่ต้องกังวลนะคะ ต่อไปมีหนูอยู่ แม่จะได้ไม่ต้องทนลำบากคนเดียวแล้ว”

ดวงตาของคุณแม่ตระกูลเหมยแดงขึ้นมาเล็กน้อย แน่นอนว่าเธอไม่อยากให้ลูกสาวถูกดูดเขาไปอยู่ท่ามกลางพายุ แต่ถ้าหากไม่พบเจอความยากลำบาก ลูกของเธอจะมีเกราะป้องกันได้ยังไง?

ก่อนนอนแม่และลูกสาวต่างคนต่างกลับเข้าห้องของตัวเอง

คุณแม่ตระกูลเหมยปิดประตูให้สนิทก่อนจะมายืนอยู่หน้ารูปถ่ายของคุณพ่อตระกูลเหมย: “บางอย่างโชคชะตาของเธอก็พามา อยากหนีก็ไม่พ้น ถ้าต่อไปคนพวกนั้นยังมาอีก คุณคงจะไม่โทษฉันใช่ไหมคะ” เธอพึมพำอยู่ลำพัง

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status