แชร์

บทที่ 11

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-27 02:48:04

จางเทียนเคยสร้างบ้านให้คนในหมู่บ้านอยู่หลายหลัง แต่คนงานที่ช่วยเหลือเขาเมื่อเขาบาดเจ็บต่างก็แยกย้ายกันไปหางานอื่นทำ ในยามนี้เขาจึงต้องหาคนในหมู่บ้านที่อยากจะทำงานมาช่วยสร้างเรือนแทน

"ได้ได้ ข้าจะไปถามชาวบ้านให้" ท่านลุงตงย่อมต้องยินดี เพราะชาวบ้านส่วนมากนอกจากทำนาแล้วก็หาของป่า เงินที่ได้มาใช้จ่ายย่อมไม่พอ หากมีงานเข้ามาใครบ้างจะไม่อยากทำ

สองวันต่อมาท่านลุงตงก็นำเอกสารที่ดินมาส่งให้จางเทียนที่เรือนพร้อมทั้งบอกเรื่องที่ชาวบ้านต้องการมาช่วยพวกเขาสร้างเรือน จางเทียนจึงให้ชาวบ้านทั้งหมดมาพบเขาที่เรือนเพื่อดูว่าจำนวนเท่าใด

จากแบบที่ซินหยานอยากได้ คงต้องใช้คนมากเสียหน่อย จางเหลี่ยงก็พาบิดาเข้าเมืองเพื่อไปสั่งซื้อกระเบื้องมามุงหลังคา ซินหยานนางอยากได้อิฐมาสร้างบ้านมากกว่า แต่คงจะแปลกเกินไปสำหรับยุคนี้

เรื่องเรือนหลังใหม่นางก็ปล่อยให้บิดาเป็นผู้จัดการไปเลย ส่วนนางช่วยมารดาดูแลเรื่องอาหารเลี้ยงชาวบ้านที่มาทำงานแทน เพราะยังเอาของออกมาจากระบบของเชาชื่อได้วันละสองครั้ง ซินหยานจึงไม่กังวลเรื่องอาหาร

แต่นางก็ไม่ได้นำเนื้อสดมาทำอาหารมากนัก เพราะกลัวว่าจะถูกชาวบ้านสงสัย แต่มื้อกลางวันที่ครอบครัวรองจางทำเลี้ยงก็ยังมีเนื้อมากอยู่ดีในความคิดของชาวบ้าน

ตลอดระยะเวลาการสร้างเรือน จางเทียนก็ค่อยๆ ปรากฏตัว จากที่เขาต้องกลายเป็นคนพิการตามที่ชาวบ้านรู้ ก็เริ่มใช้ไม้เท้าพยุงตัวเพื่อจัดการเรื่องสร้างเรือน 

ทุกการกระทำของจางเทียนทำให้ชาวบ้านไม่สงสัยว่าเขาหายเป็นปกติได้อย่างไร ทุกคนมีแต่ร่วมยินดีไปกับเข้าด้วย จางเซียนก็เดินมาวนเวียนที่ที่ดินผืนใหม่ของบ้านรองอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่ได้เข้ามาวุ่นวาย

เพียงสามเดือนเรือนหลังใหม่ของตระกูลจางก็เสร็จลง วันฉลองเรือนใหม่คนในหมู่บ้านต่างมาร่วมแสดงความยินดี ผู้นำหมู่บ้านก็มาร่วมงานด้วยเช่นกัน คงมีแต่เรือนของจางเซียนเท่านั้นที่ไม่กล้าโผล่หน้ามา

อาหารที่ใช้เลี้ยงเชาชื่อก็นำออกมาให้อย่างใจกว้าง ตลอดสามเดือนที่ผ่านมาเชาชื่อไม่ได้มีภารกิจใหม่ให้ซินหยานได้ทำ เพราะให้นางจัดการเรื่องเรือนให้เสร็จสิ้นก่อน

"เจ้าไม่มีของขวัญขึ้นบ้านใหม่ให้ข้าหรือ" ซินหยานสื่อสารกับเชาชื่อ

"เหอะ ท่านอยากได้สิ่งใด"

"อืมมม มีบ่อน้ำวิเศษอย่างในนิยายไหม ที่ลงไปแช่ก็รักษาโรคได้ หรือจะเปลี่ยนให้งามขึ้น" 

"มี" ซินหยานอ้าปากค้าง นางไม่คิดว่าของเช่นนี้เชาชื่อก็มีด้วย

"แต่ ท่านต้องทำภารกิจก่อนถึงจะได้ ชิ้นใหญ่เกินไป ข้าให้ไม่ได้"

"ต้องทำอะไร"

"ถึงเวลาท่านก็จะรู้เอง"

"เหอะ ทำเป็นมีความลับ"  

เมื่อส่งชาวบ้านกลับไปหมดแล้ว ซินหยานก็เลือกของตกแต่งบ้านทันที นางนำโต๊ะกินข้าว ตู้เก็บของ เก็บเสื้อผ้า เตียงนอนมาใส่ไว้ทุกห้อง แม้แต่โซฟานางก็ขอเชาชื่อด้วย แต่เอาไว้เพียงในห้องสามห้องเท่านั้น

ทั้งสามคนมองสิ่งของที่บุตรสาวนำออกมาอย่างตกตะลึง จางเทียนเดินลูบคลำสิ่งของอยู่หลายรอบ เพราะเขาที่เป็นช่างไม้ยังอดทึ่งไม่ได้ที่เห็นสิ่งแปลกตาเช่นนี้

"ท่านพ่อ ท่านหาซื้อคนมาช่วยงานเถิดเจ้าค่ะ" ซินหยานพูดขึ้นเมื่อรู้ว่าบิดาต้องการทำเครื่องเรือนขาย

"พ่อก็คิดอยู่เหมือนกัน พรุ่งนี้ว่าจะเข้าเมืองไปหาซื้อทาสหลวง" 

หากซื้อทาสเรื่องสัญญาที่มีอยู่ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าสิ่งของที่ขายหรือทำจะถูกนำออกไปขายให้ช่างคนอื่น แต่หากจ้างชาวบ้าน เมื่อทำเป็นแล้วพวกเขาย่อมอยากจะเป็นเจ้าของกิจการเช่นกัน

ตู้ เตียงอาจจะมีคนเลียนแบบได้ง่าย แต่โต๊ะกินข้าวที่ตรงกลางหมุนได้จางเทียนคิดว่าคงยังไม่มีผู้ได้ทำออกมาได้ หากเขาลงมือทำก่อนคงกอบโกยเงินได้มากมาย

"ท่านพี่ ท่านอยากเข้าสำนักศึกษาหรือไม่เจ้าคะ" ซินหยานเอ่ยถามจางเหลี่ยงที่ตอนนี้กำลังนอนอยู่บนโซฟา

"อยาก" จางเหลี่ยงลุกขึ้นนั่งอย่างไว เขาเห็นสหายในหมู่บ้านได้ร่ำเรียนอยู่หลายคน บุตรชายของท่านลุงใหญ่ก็ได้ร่ำเรียนแต่เมื่อถึงเวลาที่เขาจะได้เข้าเรียนบ้างกลับบอกว่าไม่มีเงินส่งให้เขาเรียน

"เช่นนั้นท่านก็ตามท่านพ่อไปในเมืองพรุ่งนี้เถิดเจ้าค่ะ" ซินหยานก็อยากให้พี่ชายมีความรู้ติดตัว ไม่ต้องถึงกับได้เป็นขุนนางหรอก เพียงเอาตัวรอดได้ก็พอ

"ได้ พรุ่งนี้พ่อจะพาเจ้าไปที่สำนักศึกษา" จางเทียนมองบุตรทั้งสองอย่างรักใคร่

"เจ้าไม่อยากไได้สิ่งใดบ้างหรือ" จางเทียนเอ่ยถามซินหยาน

"ไม่เจ้าค่ะ เอ่อ ท่านพ่อ ซื้อเมล็ดผักมาด้วยเจ้าค่ะ ที่ดินที่เหลือข้าไม่อยากทิ้งให้เปล่าประโยชน์เจ้าค่ะ" 

"ใช่แล้วท่านพี่ ข้าก็คิดเช่นเดียวกับหยานเออร์" ชุยเหมยนางก็อยากจะปลูกผัก ปลูกข้าวไว้ขาย

ยามค่ำคืนเชาชื่อก็ส่งเสียงปลุกซินหยานให้ตื่นขึ้น

"มีอันใด" ซินหยานเอาหมอนมาอุดหูแต่ก็ไม่ได้ช่วยอันใด

"มีภารกิจพิเศษเข้ามา ท่านต้องไปเดี๋ยวนี้ขอรับ" 

"ตอนนี้เนี้ยนะ" ซินหยานขยี้ผมอย่างหงุดหงิด นางกำลังหลับอย่างสบาย

"ใช่ขอรับ ท่านต้องไปช่วยคนบนภูเขา ตอนนี้ท่านผู้นั้นกำลังได้รับอันตรายจากมือสังหาร" เชาชื่อส่งเสียงพูดดังขึ้น

"เหอะ จะตายเกี่ยวอันใดกับข้า"

"ถ้าท่านไม่ทำ ระบบการใช้งานจะถูกตัดขาดทันที สิ่งของที่ท่านได้รับจะหายไปทั้งหมดขอรับ"

"บ้าบอ" ซินหยานตะโกนเสียงดังจนบิดามารดา จางเหลี่ยงต้องวิ่งมาที่ห้องของนาง

"มีอันใดหยานเออร์" จางเทียนร้องถามอย่างเป็นห่วง

"ไม่มีอันใดเจ้าค่ะ ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านพี่ไปนอนต่อเถิดเจ้าค่ะ"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   บทที่ 12

    ซินหยานเดินกลับไปส่งทุกคนที่ห้อง เพราะนางไม่อยากให้พวกเขารู้เรื่องที่นางต้องไปทำ หากรู้ท่านพ่อ ท่านพี่ของนางต้องตามไปด้วยแน่ นางไม่อยากจะห่วงหน้าพะวงหลังเมื่อส่งทุกคนเรียบร้อยแล้ว เชาชื่อก็นำชุดอำพรางสีดำออกมาให้นาง"แม้แต่ชุดเจ้าก็เตรียมไว้พร้อม" ซินหยานอดที่จะเอ่ยค่อนแคะเชาชื่อมิได้"ไปได้แล้วขอรับ""รู้แล้ว" ซินหยานกระโดดออกทางหน้าต่างแล้วรีบวิ่งไปทางภูเขาทันที"เจ้าไม่มีตัวช่วยให้ข้าเลยหรือ" ซินหยานหยุดพัก เพราะร่างกายนางในยามนี้อ่อนแอกว่าภพก่อนมากนักเชาชื่อกลอกตาก่อนจะส่งยามาให้นางหนึ่งขวด ซินหยานมองขวดยาในมือ นางไม่เอ่ยถามแต่คิดว่าคงเป็นตัวช่วยที่ดี นางจึงยกขึ้นดื่มจนหมดเพียงชั่วลมหายใจเดียว สายตาของนางก็มองทุกสิ่งในความมืดชัดเช่นในตอนกลางวัน ตัวของซินหยานในยามนี้ความเหน็ดเหนื่อยจากการวิ่งมาหายไปสิ้นนางเริ่มออกวิ่งอีกครั้งจึงได้รู้ว่าฝีเท้าที่ใช้วิ่งเร็วและเบาขึ้น เมื่อลองกระโดดตัวของซินหยานก็ลอยไปอยู่บยยอดไม่ได้อย่างใจนึก"วิเศษ" นางหัวเราะร่าอย่างชอบใจ"จะไม่ทันแล้วขอรับ" เชาชื่อเอ่ยเตือนซินหยานจึงต้องรีบมุ่งหน้าไปทางที่เชาชื่อบอก ประสาทการรับรู้ การได้ยินของนางชัดขึ้น เส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-27
  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   บทที่ 13

    เมื่อจางเหลี่ยงเดินออกมาจากประตูข้างกำแพงเรือนก็พบน้องสาวในชุดสีดำ แขนข้างซ้ายของนางยังมีเลือดไหลออกมา แล้วยังมีบุรุษมาจากที่ใดไม่รู้ยืนอยู่ด้านหลัง"หยานเออร์เจ้าไปที่ใดมา เหตุใดทั้งบาดเจ็บเช่นนี้" ซินหยานกลอกตามองบน"ไว้ข้าเล่าให้ท่านฟังทีหลังเจ้าค่ะ" ซินหยานตบไปที่หลังมือของจางเหลี่ยง เพราะยามนี้พี่ชายของนางเกือบจะหลั่งน้ำตาออกมาแล้ว"แล้วนี่ผู้ใด" จางเหลี่ยงชี้ไปที่ด้านหลังของซินหยาน"คนผ่านทางเจ้าค่ะ ขอพักที่เรือนหนึ่งคืน ฝากท่านพี่ดูแลด้วยเจ้าค่ะ ข้าขอตัวก่อน" ซินหยานตบบ่าของพี่ชายก่อนที่นางจะเดินเข้าเรือนไปจางเหลี่ยงมองไปที่มู่หยางอย่างงงงวย เพราะน้องสาวทิ้งเรื่องที่ทำไว้แล้วให้เขาจัดการ"เช่นนั้นท่านตามข้ามาขอรับ" จางเหลี่ยงเดินนำมู่หยางไปที่ห้องรับรองภายในเรือน"ท่านต้องการอะไรเรียกข้าได้ขอรับ ข้าอยู่ห้องด้านข้างของท่าน" จางเหลี่ยงเมื่อส่งมู่หยางแล้วก็ออกจากห้องไปก่อนที่เขาจะไปเข้าได้บอกวิธีใช้ห้องน้ำ อ่างอาบน้ำให้มู่หยางไว้แล้ว หากน้องสาวกล้าพามาก็คงไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องใด นี่คือสิ่งที่จางเหลี่ยงคิดไปเองมู่หยางมองสิ่งของที่อยู่ในห้องอย่างประหลาดใจ เครื่องเรือนและที่นอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   บทที่ 14

    จางเทียนกับจางเหลี่ยงต้องเข้าเมืองเพื่อไปจัดการเรื่องทาสและสำนักศึกษา จึงต้องรีบออกเดินทางกัน"คุณชายมู่ท่านจะเข้าเมืองพร้อมข้าเลยหรือไม่" จางเทียนเอ่ยถามมู่หยาง"ข้ายังไปไม่ได้ขอรับ แต่ฝากท่านนำจดหมายฉบับนี้ไปส่งที่สำนักศึกษาให้อาจารย์หูขอรับ"มู่หยางที่ยังไม่อยากปรากฏตัว เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้ เขาจึงได้แต่ส่งข่าวเรื่องที่เขาอยู่ที่หมู่บ้านฟาตงให้คนของเขารู้เท่านั้น จางเทียนก็ไม่ได้เอ่ยถามเขารับจดหมายมาเก็บไว้อย่างไรก็ต้องไปที่สำนักศึกษาอยู่แล้ว"หากท่านยังกลัวมือสังหาร ข้าไปส่งท่านได้นะเจ้าค่ะ" ซินหยานเขยิบตาให้มู่หยางอย่างซุกซน"ไม่รบกวนคุณหนูจาง" มู่หยางถลึงตามองซินหยาน เพราะรู้ทันเรื่องที่นางคิดว่าตัวเขาไม่เอาไหน"ท่านพ่อท่านอย่าลืมของของข้าเล่าเจ้าค่ะ" ซินหยานเอ่ยเตือนบิดาเรื่องเมล็ดผักของนาง"ได้ได้" จางเทียนลูบหัวบุตรสาวก่อนจะเดินไปที่รถม้าที่จางเหลี่ยงนำมาจอดรอตนอยู่ที่หน้าเรือนแล้ว"คุณชายมู่ท่านพักผ่อนตามสบายเลยนะเจ้าค่ะ" ชุยเหมยดึงตัวบุตรสาวเข้าไปห้องเพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น"เจ้าบอกแม่มาประเดี๋ยวนี้ว่าเจ้าไปช่วยชีวิตคุณชายมู่ไว้ได้อย่างไร" ชุยเหมยมองบุตรสาวอย่างคาดค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   บทที่ 1

    สืออีถูกปลุกโดยเสียงโทรศัพท์ ปลายสายจากให้เธอเข้าไปพบหัวหน้าองค์กรโดยด่วน สืออีลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว เธอไม่ได้รับงานมาเกือบเดือนแล้ว เพราะงานในช่วงนี้ขององค์กรมีแต่ระดับล่าง เธอไม่จำเป็นต้องลงมือทำด้วยตนเอง งานแต่ละครั้งที่ได้รับเป็นระดับP (perfect) ค่าตอบแทนที่ได้ก็ทำให้เธอใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างสุขสบาย สืออี ถูกญาติส่งตัวไปอยู่สถานสงเคราะห์ตั้งแต่อายุเพียงสามขวบ เพราะสูญเสียบิดามารดาจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ญาติทั้งสองฝ่ายก็ไม่อยากจะรับเลี้ยงเธอตอนอายุเจ็ดขวบ ก็มีคนมารับเลี้ยงเพียงแต่เธอถูกเลี้ยงให้เป็นนักฆ่าขององค์กรใต้ดิน ความสามารถรอบด้าน ทั้งความเฉลียวฉลาดทำให้องค์กรเริ่มจะหวาดกลัวเธอสืออีก็รู้ตัวดีว่าอีกไม่นานเธอคงต้องถูกกำจัด จากประสบการณ์ที่ได้รู้เห็นมาจนอายุ ยี่สิบเจ็ดปี เพียงแต่ไม่รู้ว่าเวลานั้นจะมาถึงเมื่อไหร่สืออียืนอยู่หน้าประตูห้องสีดำสนิทที่คุ้นเคย เธอถอนหายใจออกมาก่อนจะเคาะประตูเพื่อขอเข้าไปด้านใน"เข้ามา" เสียงบุรุษสูงวัยเอ่ยอนุญาต"สวัสดีค่ะ หัวหน้า" สืออีก้มหัวลง"สืออี ฉันมีงานให้เธอทำ ครั้งนี้ยากเสียหน่อยแต่แลกกับอิสรภาพก็น่าจะนับว่าคุ้มสำหรับเธอ" หัวห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   บทที่ 2

    ครอบครัวจางเห็นบุตรสาวที่จมน้ำฟื้นขึ้นมาแล้วก็รีบพาตัวนางกลับเรือนเพื่อไปตามท่านหมอในหมู่บ้านมารักษา ในยามนี้นับว่าจางซินหยานพ้นอันตรายแล้วที่จางซินหยานตกลงไปในน้ำไม่มีผู้ใดพบเห็นเหตุการณ์คงต้องรอให้นางฟื้นขึ้นมาจึงจะสอบถามรายละเอียดได้เท่านั้นสืออีที่อยู่ในร่างของซินหยานนางฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในยามค่ำคืน เมื่อมองไปรอบห้องก็พบว่าห้องที่เธอนอนอยู่มีเพียงเตียงนอนขนาดไม่ได้กว้างไปกว่าตัวเธอสักเท่าใดนัก ข้างหัวเตียงมีตู้ใบเก่า ๆ ที่น่าจะไว้เก็บเสื้อผ้า ห้องเล็กเพียงนี้ไม่อาจจะนำโต๊ะหรือเก้าอี้เข้ามาวางไว้ด้านในได้ ผนังห้อง เพดานที่ทำจากดินเริ่มมีรอยแตกร้าวให้พบเห็น หลังคาที่เธอเงยหน้าขึ้นมองอยู่ก็ทำมาจากหญ้าแห้งไม่อยากจะคิดว่าหากเกิดพายุฝนหรือหิมะจะมีสภาพเช่นใด หมอนที่ใช้หนุนก็แข็งราวกับหิน เพราะทำมาจากท่อนไม้ เตียงไม้ไผ่ที่มีเพียงผ้าเก่า ๆ ผืนบางปูรองเพื่อเท่านั้น ให้ความรู้สึกปวดเนื้อปวดตัวยิ่งกว่าเดิมสืออีลุกขึ้นนั่ง เธอยกมือขึ้นกุมศีรษะเพราะความเจ็บปวดที่แล่นเข้าสู่หัวในยามนี้ ทำให้ต้องทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง ความทรงจำของร่างเดิมไหลเป็นภาพชีวิตของจางซินหยาน ใบหน้าของบิดามารดา พี่ชาย แ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   บทที่ 3

    ตอนที่ซินหยานตกลงไปในน้ำมีพี่ชายที่ไปด้วยในตอนนั้นช่วยไว้ได้ทัน เมื่อซินหยานอายุได้ สิบหกหนาว ก็ได้ช่วยชีวิตท่านแม่ทัพเจ้าไว้ เพราะตลอดเวลาซินหยานนางได้ดูแลท่านแม่ทัพอย่างดี เขาจึงรับนางเป็นอนุซินหยานเมื่ออยู่ที่จวนท่านแม่ทัพ แม้จะสุขสบาย นอกจากจะเป็นอนุแล้วนางยังเป็นผู้มีพระคุณคอยช่วยเหลือท่านแม่ทัพด้วย แต่นางไม่เคยได้ความรักจากท่านแม่ทัพเลยทุกครั้งที่มาค้างที่เรือนของนางก็เหมือนจะมาเพราะถูกฮูหยินเอกบังคับเสียมากกว่า ตลอดชีวิตที่เหลือของนางไม่มีบุตรเป็นของตนเอง เพราะท่านแม่ทัพต้องมีบุตรเพียงแค่ฮูหยินของตนเท่านั้นจนวาระสุดท้ายของชีวิตซินหยาน นางก็ไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากท่านแม่ทัพเลยสักครั้ง สืออี เมื่อนึกถึงนิยายที่นางอ่าน นางก็ได้แต่ถอนหายใจกับความรักที่โง่เขลาของซินหยานในเมื่อนางมาที่นี่แล้วเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นกับนางเป็นแน่"ระบบกำลังประมวลผล" สืออี กระโดดลุกขึ้นจากที่นอนเมื่อได้ยินเสียงปริศนานางมองไปทั่วรอบห้องเพื่อหาต้นตอของเสียงที่ได้ยิน แต่ก็หาไม่พบ"โปรดแจ้งชื่อของคุณ" เสียงดังขึ้นอีกครั้ง สืออีจึงได้รู้ว่าเสียงมาจากในหัวของนางเอง"สืออี" นางพูดขึ้น"ไม่มีในสารบบ"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   บทที่ 4

    ซินหยานนางเล่าเรื่องระหว่างที่นางได้หมดสติไปแล้วได้ไปเห็นโลกใบใหม่ที่ไม่เหมือนในตอนนี้ ข้าวของเครื่องใช้ บ้านเรือนความแตกต่างระหว่างสองพื้นที่ แม้แต่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายสิ่งที่นางได้ติดตัวมาก็ไม่รู้ว่าคือสิ่งใด แต่หากนางทำตามภารกิจได้ นางจะสามารถเลือกสิ่งของจากระบบกำหนดให้ได้หนึ่งอย่างทั้งสามเมื่อฟังจบต่างก็มีสีหน้าที่ไม่อยากเชื่อ แต่ไม่เชื่อก็คงไม่ได้ เพราะเห็นอยู่ว่ามีสิ่งของปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขาจริง"อันตรายหรือไม่" จางเทียนเอ่ยถามอย่างกังวลเรื่องที่วิญญาณของบุตรสาวออกจากร่างจนไปพบเจอเรื่องน่าตกใจ เขาก็หวาดกลัวที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้แล้ว แต่หากสิ่งที่นางต้องทำหลังจากนี้เสี่ยงอันตรายเขาก็ไม่อยากให้บุตรสาวได้ทำ แม้มันจะทำให้ความเป็นอยู่ของพวกเขาดีขึ้นก็ตาม"คงไม่เจ้าค่ะ อย่างที่พวกท่านเห็นสิ่งแรกที่ข้าทำก็คือทำความรู้จักกับผู้ใดก็ได้สามคน" ซินหยานยักไหล่อย่างไม่กังวลเรื่องในภพก่อนนางเสี่ยงอันตรายมากเพียงใดแทบไม่ได้กับสิ่งเหล่านี้สักนิด ในยามนี้นางจะหวาดกลัวสิ่งใดอีก แม้ความตายนางก็ประสบมาแล้ว"เช่นนั้น หากมีสิ่งใดที่อันตรายไม่ทำได้หรือไม่" ชุยเหมยเอ่ยถามอย่างกังวล"ก็คงได้เจ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   บทที่ 5

    ทั้งสองบอกเล่าเรื่องที่จำเป็นต้องขึ้นเขาให้บิดามารดาฟัง ก่อนที่จางเหลี่ยงจะนำขวดยาออกมาส่งให้บิดาได้ดื่ม จางเทียนมองดูบุตรทั้งสองด้วยดวงตาที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตา"หยานเออร์ ลำบากเจ้าแล้ว" เพราะตนบุตรสาวจึงต้องทำตามคำสั่งของสิ่งใดก็ไม่รู้เพื่อได้ยามารักษาตน"ลำบากอันใดกันท่านพ่อ เรื่องเพียงเท่านี้ ข้าทำได้อยู่แล้วเจ้าค่ะ" ซินหยานมองไปที่จางเทียนอย่างจริงใจซินหยานไม่คิดว่าครอบครัวที่นางเพิ่งจะพบเจอจะมอบความรักความห่วงใยให้นางอย่างแท้จริง ในภพก่อนนนางพบเจอแต่คนที่เขามาหาผลประโยชน์กับนางเท่านั้นเมื่อเห็นสายตาของความห่วงใย ความกังวลจากคนทั้งสามในครอบครัว ซินหยานอดที่จะหวั่นไหวไม่ได้ นางคิดเพียงว่าหากช่วยให้ความเป็นอยู่ของครอบครัวจางดีขึ้นนางจะออกไปใช้ชีวิตของนางเองแต่ในยามนี้ความคิดทั้งหมดได้หยุดลง กลายเป็นว่านางเริ่มจะหวงแหนความรัก ความหวังดีที่ทั้งสามคนในครอบครัวมอบให้นางแล้ว"ท่านพ่อ ท่านกินยาเถิดเจ้าค่ะ" ซินหยานเร่งให้จางเทียนดื่มยาลงไปจางเทียนยกยาขึ้นดื่มท่ามกลางสายตาของภรรยาและบุตรทั้งสองที่มองมาอย่างมีความหวัง เมื่อยาลงสู่คอของจางเทียน ร่างกายของเขาก็ร้อนรุ่มทันที ก่อนที่ขาข้างที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24

บทล่าสุด

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   บทที่ 14

    จางเทียนกับจางเหลี่ยงต้องเข้าเมืองเพื่อไปจัดการเรื่องทาสและสำนักศึกษา จึงต้องรีบออกเดินทางกัน"คุณชายมู่ท่านจะเข้าเมืองพร้อมข้าเลยหรือไม่" จางเทียนเอ่ยถามมู่หยาง"ข้ายังไปไม่ได้ขอรับ แต่ฝากท่านนำจดหมายฉบับนี้ไปส่งที่สำนักศึกษาให้อาจารย์หูขอรับ"มู่หยางที่ยังไม่อยากปรากฏตัว เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้ เขาจึงได้แต่ส่งข่าวเรื่องที่เขาอยู่ที่หมู่บ้านฟาตงให้คนของเขารู้เท่านั้น จางเทียนก็ไม่ได้เอ่ยถามเขารับจดหมายมาเก็บไว้อย่างไรก็ต้องไปที่สำนักศึกษาอยู่แล้ว"หากท่านยังกลัวมือสังหาร ข้าไปส่งท่านได้นะเจ้าค่ะ" ซินหยานเขยิบตาให้มู่หยางอย่างซุกซน"ไม่รบกวนคุณหนูจาง" มู่หยางถลึงตามองซินหยาน เพราะรู้ทันเรื่องที่นางคิดว่าตัวเขาไม่เอาไหน"ท่านพ่อท่านอย่าลืมของของข้าเล่าเจ้าค่ะ" ซินหยานเอ่ยเตือนบิดาเรื่องเมล็ดผักของนาง"ได้ได้" จางเทียนลูบหัวบุตรสาวก่อนจะเดินไปที่รถม้าที่จางเหลี่ยงนำมาจอดรอตนอยู่ที่หน้าเรือนแล้ว"คุณชายมู่ท่านพักผ่อนตามสบายเลยนะเจ้าค่ะ" ชุยเหมยดึงตัวบุตรสาวเข้าไปห้องเพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น"เจ้าบอกแม่มาประเดี๋ยวนี้ว่าเจ้าไปช่วยชีวิตคุณชายมู่ไว้ได้อย่างไร" ชุยเหมยมองบุตรสาวอย่างคาดค

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   บทที่ 13

    เมื่อจางเหลี่ยงเดินออกมาจากประตูข้างกำแพงเรือนก็พบน้องสาวในชุดสีดำ แขนข้างซ้ายของนางยังมีเลือดไหลออกมา แล้วยังมีบุรุษมาจากที่ใดไม่รู้ยืนอยู่ด้านหลัง"หยานเออร์เจ้าไปที่ใดมา เหตุใดทั้งบาดเจ็บเช่นนี้" ซินหยานกลอกตามองบน"ไว้ข้าเล่าให้ท่านฟังทีหลังเจ้าค่ะ" ซินหยานตบไปที่หลังมือของจางเหลี่ยง เพราะยามนี้พี่ชายของนางเกือบจะหลั่งน้ำตาออกมาแล้ว"แล้วนี่ผู้ใด" จางเหลี่ยงชี้ไปที่ด้านหลังของซินหยาน"คนผ่านทางเจ้าค่ะ ขอพักที่เรือนหนึ่งคืน ฝากท่านพี่ดูแลด้วยเจ้าค่ะ ข้าขอตัวก่อน" ซินหยานตบบ่าของพี่ชายก่อนที่นางจะเดินเข้าเรือนไปจางเหลี่ยงมองไปที่มู่หยางอย่างงงงวย เพราะน้องสาวทิ้งเรื่องที่ทำไว้แล้วให้เขาจัดการ"เช่นนั้นท่านตามข้ามาขอรับ" จางเหลี่ยงเดินนำมู่หยางไปที่ห้องรับรองภายในเรือน"ท่านต้องการอะไรเรียกข้าได้ขอรับ ข้าอยู่ห้องด้านข้างของท่าน" จางเหลี่ยงเมื่อส่งมู่หยางแล้วก็ออกจากห้องไปก่อนที่เขาจะไปเข้าได้บอกวิธีใช้ห้องน้ำ อ่างอาบน้ำให้มู่หยางไว้แล้ว หากน้องสาวกล้าพามาก็คงไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องใด นี่คือสิ่งที่จางเหลี่ยงคิดไปเองมู่หยางมองสิ่งของที่อยู่ในห้องอย่างประหลาดใจ เครื่องเรือนและที่นอ

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   บทที่ 12

    ซินหยานเดินกลับไปส่งทุกคนที่ห้อง เพราะนางไม่อยากให้พวกเขารู้เรื่องที่นางต้องไปทำ หากรู้ท่านพ่อ ท่านพี่ของนางต้องตามไปด้วยแน่ นางไม่อยากจะห่วงหน้าพะวงหลังเมื่อส่งทุกคนเรียบร้อยแล้ว เชาชื่อก็นำชุดอำพรางสีดำออกมาให้นาง"แม้แต่ชุดเจ้าก็เตรียมไว้พร้อม" ซินหยานอดที่จะเอ่ยค่อนแคะเชาชื่อมิได้"ไปได้แล้วขอรับ""รู้แล้ว" ซินหยานกระโดดออกทางหน้าต่างแล้วรีบวิ่งไปทางภูเขาทันที"เจ้าไม่มีตัวช่วยให้ข้าเลยหรือ" ซินหยานหยุดพัก เพราะร่างกายนางในยามนี้อ่อนแอกว่าภพก่อนมากนักเชาชื่อกลอกตาก่อนจะส่งยามาให้นางหนึ่งขวด ซินหยานมองขวดยาในมือ นางไม่เอ่ยถามแต่คิดว่าคงเป็นตัวช่วยที่ดี นางจึงยกขึ้นดื่มจนหมดเพียงชั่วลมหายใจเดียว สายตาของนางก็มองทุกสิ่งในความมืดชัดเช่นในตอนกลางวัน ตัวของซินหยานในยามนี้ความเหน็ดเหนื่อยจากการวิ่งมาหายไปสิ้นนางเริ่มออกวิ่งอีกครั้งจึงได้รู้ว่าฝีเท้าที่ใช้วิ่งเร็วและเบาขึ้น เมื่อลองกระโดดตัวของซินหยานก็ลอยไปอยู่บยยอดไม่ได้อย่างใจนึก"วิเศษ" นางหัวเราะร่าอย่างชอบใจ"จะไม่ทันแล้วขอรับ" เชาชื่อเอ่ยเตือนซินหยานจึงต้องรีบมุ่งหน้าไปทางที่เชาชื่อบอก ประสาทการรับรู้ การได้ยินของนางชัดขึ้น เส

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   บทที่ 11

    จางเทียนเคยสร้างบ้านให้คนในหมู่บ้านอยู่หลายหลัง แต่คนงานที่ช่วยเหลือเขาเมื่อเขาบาดเจ็บต่างก็แยกย้ายกันไปหางานอื่นทำ ในยามนี้เขาจึงต้องหาคนในหมู่บ้านที่อยากจะทำงานมาช่วยสร้างเรือนแทน"ได้ได้ ข้าจะไปถามชาวบ้านให้" ท่านลุงตงย่อมต้องยินดี เพราะชาวบ้านส่วนมากนอกจากทำนาแล้วก็หาของป่า เงินที่ได้มาใช้จ่ายย่อมไม่พอ หากมีงานเข้ามาใครบ้างจะไม่อยากทำสองวันต่อมาท่านลุงตงก็นำเอกสารที่ดินมาส่งให้จางเทียนที่เรือนพร้อมทั้งบอกเรื่องที่ชาวบ้านต้องการมาช่วยพวกเขาสร้างเรือน จางเทียนจึงให้ชาวบ้านทั้งหมดมาพบเขาที่เรือนเพื่อดูว่าจำนวนเท่าใดจากแบบที่ซินหยานอยากได้ คงต้องใช้คนมากเสียหน่อย จางเหลี่ยงก็พาบิดาเข้าเมืองเพื่อไปสั่งซื้อกระเบื้องมามุงหลังคา ซินหยานนางอยากได้อิฐมาสร้างบ้านมากกว่า แต่คงจะแปลกเกินไปสำหรับยุคนี้เรื่องเรือนหลังใหม่นางก็ปล่อยให้บิดาเป็นผู้จัดการไปเลย ส่วนนางช่วยมารดาดูแลเรื่องอาหารเลี้ยงชาวบ้านที่มาทำงานแทน เพราะยังเอาของออกมาจากระบบของเชาชื่อได้วันละสองครั้ง ซินหยานจึงไม่กังวลเรื่องอาหารแต่นางก็ไม่ได้นำเนื้อสดมาทำอาหารมากนัก เพราะกลัวว่าจะถูกชาวบ้านสงสัย แต่มื้อกลางวันที่ครอบครัวรองจา

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   บทที่10

    ชาวบ้านที่เห็นว่าเรื่องจบแล้วต่างก็แยกย้ายกันกลับไป เหลือเพียงผู้นำหมู่บ้านที่ยังข้องใจเรื่องของนางจูกับซินหยานที่ยังไม่ยอมกลับเท่านั้น"เกิดเรื่องอันใดกันแน่ เจ้าถึงยอมตัดขาดเช่นนี้" เพราะครั้งที่แล้วที่แยกเรือนเขาบอกให้ทำเรื่องตัดขาดเสียแต่จางเทียนไม่ยอม"อวี้เออร์ผลักน้องสาวข้าตกน้ำขอรับ" จางเหลี่ยงที่ไม่อาจเก็บความแค้นไว้ได้แล้วก็พูดออกมา"จริงหรือหยานเออร์" ผู้นำหมู่บ้านหันไปมองซินหยานอย่างตกตะลึงหากเป็นเรื่องจริง ยู้อวี้ก็ถือว่ามีความผิดหากซินหยานจะเอาเรื่องน่าก็อาจจะติดคุกหรือไม่ก็ถูกส่งไปใช้แรงงาน"จริงเจ้าค่ะ" ซินหยานเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นให้ผู้ใหญ่บ้านฟัง"เพ้ย เป็นเพียงแม่นางน้อยแต่คิดจะฆ่าคนแล้ว" ผู้นำหมู่บ้านตงสบถออกมาจางเทียนขอให้ผู้นำหมู่บ้านเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เพราะเขาไม่อยากทำลายอนาคตของยู้อวี้ หากชาวบ้านล่วงรู้นางคงหาคนมาตบแต่งไม่ได้"ข้าเข้าใจ หากเจ้าไม่เอาเรื่องข้าก็ไม่ยุ่ง" ผู้นำหมู่บ้านกลับเรือนของเขาไปก่อนที่ผู้นำหมู่บ้านจะกลับไปจางเทียนเอ่ยเรื่องที่เขาจะขอซื้อที่ดินที่ติดกับเรือนของเขาด้วย วันพรุ่งนี้จะให้ชุยเหมยและบุตรไปคุยที่เรือนผู้นำหมู่บ้า

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   บทที่9

    สองพี่น้องเมื่อถึงเรือนก็บังคับรถม้าเข้าไปเก็บด้านในเรือนทันที พร้อมบอกบิดามารดาเรื่องที่อาจจะมีชาวบ้านมาที่เรือนเพื่อดูรถม้า เพียงไม่นานเสียงร้องเรียกหน้าเรือนก็ดังขึ้น"อาเทียนอยู่หรือไม่" จางเซียนตะโกนเรียกน้องชายเสียงดังสี่คนพ่อแม่ลูกเตรียมรับมือไว้พร้อมแล้ว ข้าวของภายในเรือนก็ถูกซินหยานเก็บเข้าไปไว้ในช่องเก็บของ ของนางแล้ว"มีอันใดหรือขอรับ" จางเทียนที่ถูกจางเหลี่ยงและชุยเหมยพยุงออกมาจากเรือนจางเซียนเบือนหน้าหนีเมื่อเห็นอาการของน้องชายยังไม่ได้ดีขึ้น ชาวบ้านที่ตามมาก็ส่งเสียงพูดคุยกันจนจับใจความไม่ได้"หากเจ้ามีเงินเหตุใดถึงไม่นำไปรักษา" ชาวบ้านในกลุ่มพูดขึ้น"ต้องรักษาอยู่แล้วขอรับ เพียงแต่ข้าดินทางลำบากจึงให้อาเหลี่ยงซื้อรถม้าไว้ใช้งาน""เจ้ามีเงินมากเพียงนั้นทำไมไม่นึกถึงพี่ชายของเจ้าบ้าง" นางจูพี่สะใภ้ของจางเทียนเอ่ยขึ้น"หากข้าจำไม่ผิด พวกท่านต้องการแยกครอบครัวมิใช่หรือขอรับ อีกอย่างข้าก็ไม่ได้อะไรที่ข้าควรจะได้มาสักอย่าง" จางเทียนจ้องมองพี่สะใภ้อย่างดุดัน"เหอะ ในหนังสือแยกบ้าน ท่านลุงเขียนไว้แล้วมิใช่หรือว่าทั้งสองครอบครัวไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกัน ยามที่ท่านพ่อข้าเกือบพิก

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   บทที่ 8

    ในยามนี้จางเหลี่ยงถูกซินหยานลากออกมาจากร้านยา เพราะสติของเขาล่องลอยไปเสียแล้ว"หากท่านยังเป็นเช่นนี้ ข้าจะทิ้งท่านแล้วนะเจ้าค่ะ" ซินหยานที่ลากพี่ชายมาได้ไม่ไกลก็หยิกแขนของจางเหลี่ยงอย่างแรง"โอ๊ย เบาๆ น้องน้อย พี่รู้แล้ว" จางเหลี่ยงเดินลูบแขนตามซินหยานไป"เจ้าจะไปที่ใด" จางเหลี่ยงเอ่ยถาม เพราะทางที่ซินหยานพาเขามาไม่ใช่ทางที่จะไปขึ้นเกวียนวัวกลับหมู่บ้าน"ข้าจะซื้อรถม้าเจ้าค่ะ" ซินหยานมองค้อนพี่ชาย ตลอดทางที่นางเดินถามทางมาเขาไม่ได้สังเกตเลยหรือไง"เจ้าว่าจะซื้อรถม้าหรือ ผู้ใดจะขับ" จางเหลี่ยงเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ"ท่านอย่างไรเล่า" ซินหยานเริ่มลากพี่ชายอีกครั้ง เมื่อเห็นเขายืนนิ่งตกตะลึงอีกแล้วสองพี่น้องมาหยุดอยู่ที่โรงค้าสัตว์ นายหน้าเดินเข้ามาสอบถามทั้งคู่ว่าต้องการสิ่งใด เมื่อรู้ว่าหาซื้อรถม้าก็มองอย่างดูแคลน เพราะการแต่งตัวของทั้งคู่ดูไม่น่าจะมีเงินมากมาซื้อรถม้าได้"เช่นนั้นก็ไปที่อื่นเจ้าค่ะ" ซินหยานเดินออกจากร้านแรกทันที ทั้งคู่มาหยุดอยู่ที่ร้านเกือบสุดท้าย นายหน้าเข้ามาทักทายอย่างดี พร้อมพาทั้งคู่เลือกม้าอย่างเต็มใจ ซินหยานเดินเลือกไปตามคอกม้าอย่างใจเย็น นางยังไม่พบตัว

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   บทที่ 7

    รุ่งเช้าสองพี่น้องก็เตรียมตัวเข้าเมือง ชุยเหมยส่งค่าเกวียนและค่าเข้าเมืองให้จางเหลี่ยงเก็บไว้ ก่อนที่ทั้งคู่จะแบกตะกร้าที่มีโสมด้านในขึ้นหลังออกไปจากเรือนจางเหลี่ยงเดินนำหน้าซินหยานเพื่อนำทางไปขึ้นเกวียนวัวหน้าหมู่บ้าน ซินหยานมองไปที่สองแม่ลูกที่นั่งอยู่บนเกวียน จากความทรงจำเดิมนางจำได้ทันทีว่าคือป้าสะใภ้ใหญ่และยู้อวี้ลูกพี่ลูกน้องของนาง"เหอะ มีปัญญาจ่ายค่าเกวียนด้วยหรือ" ยู้อวี้มองสองพี่น้องอย่างดูแคลนซินหยานมองจ้องเข้าไปในดวงตาของยู้อวี้อย่างดุดัน จนยู้อวี้หวาดกลัวจนเหงื่อซึมออกมาตามแผ่นหลัง แววตาของซินหยานที่มองมาที่นางในครั้งนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน คนที่เป็นฝ่ายหวาดกลัวต้องเป็นซินหยานมิใช่นาง"มองบ้าอะไร" ยู้อวี้ตวาดซินหยานเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่นางหวาดกลัว"เจ้าคงไม่อยากให้ข้าพูดตรงนี้ใช่หรือไม่" ซินหยานแสยะยิ้มออกมา"พูดอันใด เจ้ากล้าหรือ" ยู้อวี้ถลึงตาห้ามอย่างดุร้าย"อยากรู้หรือไม่เล่าว่าข้ากล้าหรือไม่" ซินหยานขึ้นไปนั่งบนเกวียน พร้อมทั้งกระซิบเสียงเย็นข้างหูของยู้อวี้ยู้อวี้จำต้องก้มหน้าลงตลอดการเดินทาง แม้มารดาจะเอ่ยถามว่าพูดเรื่องอันใดกันนางก็ไม่กล้าเอ่ยออกมาสักคำ เพราะต

  • วาสนานี้ข้ามิอยากได้   บทที่ 6

    วันต่อมาฟ้ายังไม่สว่างสามคนพ่อลูกก็เตรียมตัวขึ้นเขา โดยมีชุยเหมยเตรียมเสบียงอาหารไว้ให้อย่างเต็มที่ เพราะของที่ซินหยานนำออกมาอย่างเนื้อสดอยู่ได้ไม่นานเมื่อคืนก่อนที่จะแยกย้ายซินหยานบอกเรื่องที่นางได้แผนที่หาของป่ามาจากเชาชื่อแล้ว ทั้งสามจึงตัดสินใจจะขึ้นเขาเพื่อไปขุดสมุนไพรไปขายในเมืองเช่นนี้ซินหยานนางก็จะได้ทั้งเงินและทำภารกิจสำเร็จอีกด้วย ตอนที่สามพ่อลูกออกจากเรือนชาวบ้านยังไม่ออกมาทำงานกันเลย พวกเขาจึงไม่ต้องคอยตอบคำถามผู้ใดอีกอย่างเรื่องที่จางเทียนหายดีแล้ว พวกเขาก็ยังไม่อยากให้ผู้ใดได้รู้อีกด้วย ทั้งสามอาศัยแสงของดวงจันทร์เดินไปที่ภูเขา เมื่อเขาไปในป่าซินหยานก็เปลี่ยนมาเดินนำทางทั้งสามเดินมาจนตะวันขึ้นกลางหัวก็ยังไม่ถึงที่ที่ซินหยานบอกว่ามีโสม แต่ทั้งสามกลับพบเสือแทนเสียก่อนจางเทียนรีบยกธนูในมือขึ้นเล็งโดยเขาดันตัวบุตรทั้งสองไปไว้ด้านหลังแทน จางเหลี่ยงในยามนี้ก็กอดน้องสาวไว้แน่น แม้ตัวเขาจะกลัวจนตัวสั่นเทาก็ยังเป็นห่วงน้องสาวมากกว่าตัวเองซินหยานมองทุกการกระทำของบิดาแล้วพี่ชายดวงตาก็แดงขึ้นมาอีกครั้ง เพราะในเป็นครั้งแรกที่นางได้รับการปกป้องจากใครสักคน"ท่านพ่อส่งธนูมาให้ข้าเ

DMCA.com Protection Status