ตอนที่ 3: เส้นทางที่ขนานกัน
อาทิตย์ทำงานในบริษัทสถาปนิกที่มีชื่อเสียง เขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าทีมออกแบบ ด้วยความสามารถและความมุ่งมั่นที่เขาแสดงมาตลอดหลายปี ทำให้เขาเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน รวมถึงได้รับการยอมรับจากผู้บริหาร แม้จะดูเหมือนว่าชีวิตการงานของเขาไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง แต่ภายในใจเขากลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่า เพราะแสงสว่างในชีวิตของเขาจากไปแล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าควรเดินต่อไปอย่างไร ในเช้าวันจันทร์ อาทิตย์เดินเข้ามาในห้องทำงาน เพื่อนร่วมงานหลายคนเข้ามาทักทายด้วยความอบอุ่น “อาทิตย์ วันนี้ดูสดใสขึ้นนะ” เพื่อนคนหนึ่งกล่าว แต่ในคำพูดนั้นแฝงด้วยความเป็นห่วง “ขอบคุณนะ” เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้มจางๆ ก่อนที่จะหยิบแฟ้มงานขึ้นมาและเริ่มต้นวันใหม่ ระหว่างพักกลางวัน เพื่อนร่วมงานบางคนพยายามพูดคุยกับเขาเพื่อให้เขาเปิดใจมากขึ้น โดยเฉพาะ **กอหญ้า**หญิงสาวผู้แอบรักอาทิตย์มานาน กอหญ้าเป็นผู้ช่วยของอาทิตย์ เธอชื่นชมเขามาโดยตลอด ทั้งในด้านการทำงานและบุคลิกที่อ่อนโยนของเขา แม้ว่าเธอจะรู้ว่าอาทิตย์มีดวงจันทร์ในหัวใจ เธอก็ยังคงหวังว่าวันหนึ่ง เขาอาจเปิดใจให้เธอ “พี่อาทิตย์คะ พรุ่งนี้เย็นเราไปกินข้าวกันมั้ยคะ พี่ทำงานหนักมาทั้งวันแล้ว พักบ้างเถอะค่ะ” กอหญ้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใส อาทิตย์ชะงักเล็กน้อยก่อนตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ขอบคุณนะกอหญ้า แต่พี่มีงานต้องรีบเคลียร์ คงต้องไว้โอกาสหน้า”คำปฏิเสธที่นุ่มนวลทำให้กอหญ้ายิ้มเจื่อน แต่เธอก็ยังไม่ลดละความพยายาม "แต่ว่า..." "พี่ไม่เป็นไร" อาทิตย์พูดน้ำเสียงเข้มขึ้นเล็กน้อย สายตาของเขาแฝงไปด้วยความเย็นชาเล็กๆ ทำให้กอหญ้าต้องเดินออกไปอย่างไม่เต็มใจ เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ เองก็ยังคงพยายามช่วยเหลืออาทิตย์ในแบบของพวกเขา บ้างชวนพูดคุย บ้างแนะนำกิจกรรมใหม่ๆ แต่ไม่มีอะไรสามารถดึงเขาออกจากความเศร้าที่เขาเก็บซ่อนไว้ได้ ในทุกค่ำคืน หลังเลิกงาน อาทิตย์ยังคงกลับไปที่อพาร์ตเมนต์ของเขาเพียงลำพัง และใช้เวลาเงียบๆ ท่ามกลางความทรงจำของดวงจันทร์ ในอีกด้านหนึ่ง ดาวเหนือเริ่มวางแผนชีวิตใหม่หลังการผ่าตัดหัวใจสำเร็จ การได้หัวใจใหม่นั้นเหมือนเป็นโอกาสครั้งที่สองที่เขาตั้งใจจะใช้มันให้คุ้มค่า “แม่ครับ ผมอยากกลับไปเรียนมหาวิทยาลัย” ดาวเหนือพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นขณะนั่งคุยกับพ่อแม่ที่โต๊ะอาหารเย็น พ่อมองลูกชายด้วยความภูมิใจปนความเป็นห่วงเล็กๆ “ลูกคิดดีแล้วเหรอแต่...ถ้าลูกอยากเรียน พ่อกับแม่พร้อมสนับสนุนเต็มที่” คนเป็นแม่เองก็ยิ้มพร้อมน้ำตาคลอ “แม่ดีใจนะที่เห็นลูกมีความหวังใหม่แบบนี้” ดาวเหนือพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าเขาจะยังมีความฝันแปลกๆ ตามมาหลอกหลอนทุกคืน แต่เขาเลือกที่จะไม่ให้มันมาขัดขวางเป้าหมายใหม่ในชีวิต ในช่วงเวลาที่รอเปิดภาคเรียนใหม่ ดาวเหนือใช้เวลาไปกับการอ่านหนังสือและหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสาขาที่เขาสนใจ เขาอยากเรียนเกี่ยวกับวรรณกรรม เพราะเขาเชื่อว่ามันสามารถช่วยเยียวยาและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน “ลูกอ่านหนังสืออะไรอยู่น่ะ” ดวงดาราผู้เป็นแม่ถามเมื่อเห็นเขานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน “ผมกำลังอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับการเขียนบทความครับ ผมอยากลองฝึกเขียนอะไรสักอย่าง” เธอยิ้มด้วยความภูมิใจ “ดีแล้วลูก แม่มั่นใจว่าลูกจะทำได้” แม้ชีวิตของดาวเหนือจะดูเหมือนกำลังเดินหน้าไปในทางที่ดี แต่ในทุกค่ำคืน เขายังคงฝันถึงผู้หญิงปริศนา เธอปรากฏตัวอยู่ในภาพเดิมๆ “ช่วยฉันด้วย...” เสียงของเธอทำให้เขาสะดุ้งตื่นทุกคืน หัวใจเต้นแรง และความรู้สึกแปลกๆ ในอกก็ทำให้เขาสงสัยว่าความฝันนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับหัวใจที่เขาได้รับมาตอนที่ 4: จุดเริ่มต้นของความจริงดาวเหนือไม่อาจสลัดความรู้สึกแปลกประหลาดในใจออกไปได้ ความฝันที่ตามหลอกหลอนทุกคืน เสียงเรียกของหญิงสาวในหัวของเขาทำให้เขาตัดสินใจกลับไปหาหมอผู้ดูแลเขาในระหว่างการผ่าตัดหัวใจอีกครั้งที่โรงพยาบาล ดาวเหนือนั่งรอหมออย่างใจจดใจจ่อ เมื่อหมอเดินเข้ามา เขาลุกขึ้นทันที"คุณหมอครับ ผมมีเรื่องอยากถาม" หมอยิ้มใจดีและเชิญเขานั่ง "คุณดาวเหนือมีอะไรอยากทราบหรอครับ""ผมอยากรู้ว่าคนที่บริจาคหัวใจให้ผมคือใคร" เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังหมอขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนตอบอย่างระมัดระวัง "ปกติข้อมูลของผู้บริจาคจะถูกเก็บเป็นความลับ แต่ในกรณีของคุณ ผมคิดว่ามันอาจช่วยให้คุณเข้าใจบางอย่างได้"หลังจากพูดคุยกันสักพัก หมอจึงหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมาและส่งให้ดาวเหนือ"เธอชื่อดวงจันทร์ครับ อายุ 27 ปี เธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และเธอได้ลงทะเบียนบริจาคอวัยวะไว้"ชื่อของเธอทำให้ดาวเหนือสะดุ้งเล็กน้อย แต่เขาก็รับแฟ้มมาและเปิดดู เขาเห็นภาพถ่ายของหญิงสาว ใบหน้าของเธอคล้ายกับผู้หญิงในความฝันของเขาอย่างไม่น่าเชื่อ"เธอเสียชีวิตเพราะอะไรครับ" ดาวเหนือถามพลางมองรูปของดวงจันทร์หมอถอนหายใจ "เธอเป
ตอนที่ 5: เส้นทางสู่ความจริงดาวเหนือรู้สึกว่ามีบางสิ่งที่ดึงดูดให้เขาอยากรู้จักดวงจันทร์มากขึ้น ไม่ใช่แค่ในฐานะคนที่บริจาคหัวใจให้เขา แต่เป็นเพราะเขารู้สึกว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา ในเย็นวันหนึ่งดาวเหนือเดินเข้าไปในห้องทำงานของพ่อและวางแฟ้มข้อมูลเกี่ยวกับดวงจันทร์ลงบนโต๊ะ"พ่อครับ ผมอยากรู้ความจริงเกี่ยวกับเธอ และอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ผมรู้ว่าพ่อช่วยผมได้"ประจงเลิกคิ้ว เขามองลูกชายด้วยความสงสัย ก่อนจะหยิบแฟ้มขึ้นมาเปิดอ่าน เนื้อหาในแฟ้มบรรยายถึงอุบัติเหตุของดวงจันทร์ที่ระบุว่าเป็นการเมาแล้วขับ "ทำไมลูกถึงอยากรู้เรื่องนี้"ดาวเหนือนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเล่าความรู้สึกแปลกๆ ของตัวเองหลังจากได้รับหัวใจของดวงจันทร์ ทั้งความฝันที่เต็มไปด้วยภาพผู้หญิงคนหนึ่งและความรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด"พ่อครับ เธอช่วยชีวิตผมไว้ ผมอยากตอบแทนเธอ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอมันไม่ยุติธรรมเลย ผมอยากรู้ว่าใครคือคนที่ทำให้เธอต้องจากไป และทำไมคดีนี้ถึงถูกปิดเงียบ"ประจงถอนหายใจ เขารู้ว่าคดีนี้เกี่ยวข้องกับคนใหญ่คนโตในวงการการเมือง และการเข้าไปยุ่งอาจเป็นอันตรายต่อครอบครัวของเขา แต่เมื่อเห็นความม
ตอนที่ 6: เบาะแสและความผูกพันที่มองไม่เห็นหลังจากที่ประจงรับปากจะช่วยลูกชาย เขาเริ่มสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับคดีอุบัติเหตุของดวงจันทร์ ด้วยประสบการณ์หลายปีในฐานะตำรวจที่มีจิตสำนึกและความยุติธรรม ประจงรู้ดีว่าคดีนี้ถูกปิดเงียบเพราะแรงกดดันจากเบื้องบนเขาเริ่มต้นด้วยการค้นหาข้อมูลในระบบของตำรวจเกี่ยวกับคดีนี้ ซึ่งไม่ยากเกินความสามารถของเขา แม้คดีนี้จะไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของเขาโดยตรง แต่ประจงพบรายงานที่ระบุชื่อของผู้ต้องสงสัย: “นายสุริยัน อัครเมธี” ลูกชายของนักการเมืองคนดังที่มีชื่อเสียงในวงการว่าเป็นคนซื่อสัตย์ แต่ในความเป็นจริงกลับมีอำนาจมืดแฝงอยู่ขณะที่ประจงอ่านรายงาน เขาก็พบจุดแปลกประหลาด รายงานทั้งหมดดูเหมือนจะถูกจัดทำอย่างเร่งรีบ หลักฐานบางส่วนที่ควรมีในคดี เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิดและคำให้การของพยาน กลับไม่มีการบันทึกในไฟล์"มันมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ" ประจงพึมพำกับตัวเองเขาโทรหาเพื่อนตำรวจรุ่นน้องที่เคยดูแลคดีนี้ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม “สันต์ นายยังจำคดีรถชนที่มีชื่อดวงจันทร์ได้ไหม?”ปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงอึดอัด "พี่ครับ ผมแนะนำว่าอย่ายุ่งกับเรื่องนี้เลย มัน... มันซับซ้อนเ
ตอนที่ 7: ความจริงที่ใกล้เข้ามาอาทิตย์ตื่นขึ้นในเช้าวันใหม่พร้อมความคิดที่วุ่นวายในหัว หลังจากเจอชายหนุ่มแปลกหน้าในสวนสาธารณะสองครั้ง ความรู้สึกบางอย่างเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นเริ่มชัดเจนขึ้นในใจเขา มันไม่ใช่แค่ความบังเอิญ แต่เหมือนมีบางสิ่งเชื่อมโยงระหว่างพวกเขาเขาเดินไปที่ห้องทำงาน มองไปยังภาพถ่ายของดวงจันทร์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ดวงจันทร์เคยบอกเขาว่า "ทุกคนมีจุดเชื่อมต่อกับใครสักคนเสมอ เราแค่ต้องหาว่ามันคืออะไร"อาทิตย์มองภาพถ่ายนั้นนานจนรู้สึกว่าหัวใจเขาเต้นช้าลง เขาตัดสินใจออกไปข้างนอกอีกครั้ง หวังว่าคำตอบจะอยู่ที่ไหนสักแห่งในขณะเดียวกัน ดาวเหนือนั่งอยู่ในห้องนอนของเขา อ่านรายงานและข้อมูลเกี่ยวกับดวงจันทร์อีกครั้ง เขาเริ่มตั้งคำถามถึงความเชื่อมโยงระหว่างหัวใจที่เขาได้รับกับภาพในฝันที่ยังคงชัดเจนดาวเหนือเปิดคอมพิวเตอร์ ค้นหาชื่อของดวงจันทร์ในอินเทอร์เน็ต เขาพบข้อมูลมากมายเกี่ยวกับเธอ ภาพของหญิงสาวในชุดสีขาวที่ยิ้มอย่างสดใสสะท้อนอยู่บนหน้าจอ"คุณไม่ควรมาเจอเรื่องแบบนี้..” ดาวเหนือพูดกับตัวเองเขาพบข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตของดวงจันทร์ รายละเอียดในข่าวทำให้เขาเกิดความสงสัยมาก
ตอนที่ 8: เงาที่ค่อยๆ คลี่คลายประจงนั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวที่เต็มไปด้วยเอกสารและแฟ้มคดี เขาพิจารณาข้อมูลที่ได้รับเกี่ยวกับสุริยัน ชายหนุ่มที่เป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตดวงจันทร์สุริยันไม่ใช่แค่ลูกชายของนักการเมืองทรงอิทธิพล แต่ยังมีข่าวลือว่าเขาเกี่ยวข้องกับธุรกิจใต้ดินหลายประเภท การสืบสวนเขาอาจนำมาซึ่งอันตรายต่อครอบครัวของประจง แต่เขาก็ไม่อาจนิ่งเฉยประจงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลูกน้องที่ไว้ใจได้ “สันต์ ฉันต้องการให้แกดูแลคดีนี้ให้รอบคอบที่สุด อย่าให้ข่าวหลุดออกไป เข้าใจมั้ย”“ครับพี่ ผมจะจัดการให้ดีที่สุด” สันต์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นใจในใจลึกๆ ประจงรู้ดีว่าการต่อกรกับสุริยันและครอบครัวเขาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขาเลือกที่จะสู้ เพราะเขาไม่อาจมองข้ามความยุติธรรมในครั้งนี้ได้ตกดึกคืนนั้นร่างของดาวเหนือกำลังหลับอย่างกระสับกระส่าย ฝันถึงภาพที่ชัดเจนขึ้นกว่าครั้งก่อน เขาเห็นหญิงสาวในชุดขาวกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ หญิงสาวมองมาที่เขาด้วยสายตาเศร้าสร้อย“ช่วยฉันด้วย…” เสียงกระซิบเบาๆ ดังขึ้นในหัวของเขาเขาสะดุ้งตื่นอย่างแรง หน้าอกกระเพื่อมขึ้นตามลมหายใจ ในฝันนั้นมันช่างเหมือนจ
ประจงนั่งอยู่ในห้องทำงานยามค่ำคืน รอบกายเงียบสงัด แต่ในใจของเขากลับเต็มไปด้วยความคิดวุ่นวายหลังจากได้หลักฐานสำคัญที่เชื่อมโยงสุริยันกับการปกปิดคดี เขาเลื่อนดูภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดที่เพิ่งได้รับมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสุริยันอยู่ในที่เกิดเหตุอย่างชัดเจนเสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะ ประจงวางเอกสารลงแล้วพูดออกไป “เข้ามาได้”สันต์ ลูกน้องคนสนิทเปิดประตูเข้ามาพร้อมสีหน้ากังวล“พี่ครับ ผมเพิ่งได้รับข่าวว่าอีกฝ่ายเริ่มรู้ตัวแล้วว่าเรากำลังสืบเรื่องนี้ คนของพวกเขาอาจเริ่มเคลื่อนไหว”“ฉันไม่แปลกใจ แต่เราต้องไม่หยุด ฉันจะไม่ยอมให้คนผิดลอยนวล”สันต์พยักหน้า “ผมเป็นห่วงความปลอดภัยของครอบครัวหัวหน้าครับ ดาวเหนือกับคุณดวงดารา...”“ฉันเตรียมการไว้แล้ว” ประจงตอบอย่างเด็ดเดี่ยว แม้ในใจลึกๆ จะเริ่มกังวลมากขึ้นหลังจากสันต์ออกไป ประจงก็นั่งลงและเปิดโทรศัพท์อ่านข้อความข่มขู่ที่ได้รับเมื่อไม่กี่วันก่อน เขามองรูปครอบครัวบนโต๊ะแล้วพูดกับตัวเองเบาๆ“ฉันจะปกป้องพวกเขา ไม่ว่ายังไงก็ตาม”วันรุ่งขึ้น ดาวเหนือออกมาที่สวนสาธารณะเพื่อสงบจิตใจ ในมือของเขาถือแฟ้มข้อมูลเกี่ยวกับดวงจันทร์ที่เขาขอมาเพิ่มเติม เขาเปิดดูรู
ตอนที่ 10: ความจริงที่ถูกพันธนาการเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะที่ประจงนั่งอยู่ในห้องทำงาน สันต์ ผู้ช่วยคนสนิทรีบรายงานด้วยน้ำเสียงร้อนรน“พี่ประจง เราได้รับข้อมูลว่ามีการเคลื่อนไหวจากคนของสุริยัน พวกเขาส่งคนติดตามพี่และครอบครัว”“ฉันเดาไว้แล้ว” ประจงตอบเสียงเรียบ “พวกมันกลัวความจริงจะเปิดเผย แต่ฉันไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้”เขาลุกขึ้นหยิบเอกสารคดีดวงจันทร์จากโต๊ะ ก่อนจะสั่งการ “เพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยรอบบ้าน อย่าให้ใครเข้ามาได้ง่ายๆ”ในค่ำคืนที่เงียบสงัด รถยนต์คันหนึ่งแล่นมาจอดหน้าบ้านของประจง ชายชุดดำก้าวลงมาและพยายามแทรกตัวเข้ามา แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเจ้าหน้าที่ที่ประจงวางไว้รอบบ้านปรากฏตัวพร้อมอาวุธครบมือ“ถอยออกไปจะดีกว่า ถ้าไม่อยากให้ข่าวเรื่องนี้เล็ดรอดออกไป.” สันต์พูดเสียงหนักแน่นชายชุดดำรีบล่าถอยไป แต่ประจงรู้ดีว่า นี่เป็นเพียงการข่มขู่เบื้องต้น เขาต้องเตรียมพร้อมสำหรับศึกใหญ่ที่กำลังจะมาถึงวันรุ่งขึ้น อาทิตย์ตัดสินใจออกจากบ้านเพื่อซื้อหนังสือเล่มใหม่ เขาเดินเข้าไปในร้านหนังสือเล็กๆ ที่เขากับดวงจันทร์เคยมาเป็นประจำขณะที่เขากำลังเลือกหนังสืออยู่ เขาเหลือบเห็นดาวเหนือกำลังยืนอ่าน
ในขณะเดียวกัน ประจงที่กำลังรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับคดีของดวงจันทร์ สุริยันลูกชายนักการเมืองใหญ่อย่าง นายสุริยา สุนทกร ก็กำลังไม่พอใจที่ประจง ผู้บัญชาการตำรวจฝ่ายอาชญากรรมกำลังปิดคดีของคนที่เขาขับรถชน " แกทำยังไงก็ได้..ให้มันหยุดสืบเรื่องของฉัน" สุริยันออกคำสั่งกับคนสนิท เขาเริ่มส่งคำขู่ไปยังประจงและครอบครัวเพื่อให้หยุดการสืบสวน แต่ประจงไม่ยอมถอย เขาตัดสินใจที่จะเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดที่เขามีให้สื่อมวลชนได้รับรู้อาทิตย์และดาวเหนือใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น ทั้งจากความบังเอิญและความตั้งใจ แม้แต่ตัวอาทิตย์เองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ใกล้ดาวเหนือ ขณะที่ดาวเหนือเริ่มสัมผัสได้ว่าหัวใจที่เต้นอยู่ในอกเขานั้น อาจยังคงเก็บความทรงจำบางส่วนของดวงจันทร์ไว้ขณะที่ทั้งสองนั่งคุยกันในสวนสาธารณะใต้ต้นไม้ที่ร่มรื่น ดาวเหนือเริ่มเปิดใจ " บางครั้งผมก็รู้สึกว่า..หัวใจดวงนี้มีบางอย่างที่ไม่ใช่ความรู้สึกของผมเอง" " หมายความว่ายังไง" อาทิตย์ถามด้วยความสงสัย" ผมรู้สึกว่ามัน..รักพี่" เด็กหนุ่มพูดเสียงแผ่ว แต่คำพูดของเขาเหมือนเสียงก้องในใจของคนฟังอาทิตย์นิ่งงันไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงร
คำเตือน : ฉากความสัมพันธ์ทางเพศอย่างโจ่งแจ้ง20++ยามพระอาทิตย์ตกดิน ค่ำคืนมิดมาเยือน สายลมพัดผ่านผ้าม่านมู่ลี่เข้าไปในห้อง ปรากฏร่างทั้งสองกอดนัวเนียกันอยู่บนเตียงกว้าง ริมฝีปากสัมผัสกันอย่างหยาบโลน มือแกร่งลูบไล้ไปตามร่างกายของคนรัก "อื้อ!.." ร่างขาวสะดุ้งเฮือกเมื่อคนพี่ลูบรั้งเสื้อสีขาวสะอาดตาขึ้นจนมากองที่ปลายคาง ก่อนถอนจูบออกเลื่อนลงไปครอบครองยอดอกสีเข้ม มีนิ้วมืออีกข้างก็ไปสะกิดยอดอกอีกข้างระรัว อาทิตย์รัวลิ้นลงยอดอกก่อนจะลากลิ้นลงมาหยุดอยู่สะดือแล้ววนจูบบริเวณนั้นหลายรอบ ใบหน้าเลื่อนขึ้นมาสบตาหวานฉ่ำของคนใต้ร่าง เอื้อมมือไปจับมือน้องมาดอมดมไล้สัมผัสตั้งแต่ปลายนิ้วจนถึงฝ่ามือแล้วก้มลงมาตะโบมจูบปากคนน้อง "อื้อ! " รสจูบที่หวานฉ่ำทำให้ดาวเหนือครางออกมา เรียวลิ้นของคนพี่ตวัดเกี่ยวพันอยู่ในปากของเขา มือเรียวยกมือขึ้นไปปลดซิปกางเกงให้คนด้านบน เสียงรูดซิปกางเกงดังขึ้น อาทิตย์รีบตะบบมือคนน้องไม่ให้มากไปกว่านี้ " ใจร้อน " คนพี่ว่าแต่ก็ยันตัวขึ้นไปถอดกางเกงออกตามใจคนน้อง เหลือเพียงกางเกงในสีดำสนิทติดท่อนล่างเอาไว้ ก่อนจะขยับตัวขึ้นคร่อมร่างน้องแล้วก้มลงไปจูบปากคนน้องหนักๆ " ชอบจ
ปัง!! ประตูห้องถูกปิดอย่างรุนแรงพร้อมร่างของทั้งสองนัวเนียกันอย่างไม่มีใครยอมใคร มือของดาวเหนือรุมปลดกระดุมเสื้อของคนพี่อย่างรวดเร็ว อาทิตย์ก็ไม่น้อยหน้าลอกคราบคนน้องจนตัวเปลือยเปล่าโดยที่ปากไม่ผละออกจากกันเลยแม้แต่น้อยริมฝีปากค่อยไปเลื่อนลงมาอยู่ที่ซอกคอพรมจูบไปทั่วจนขึ้นรอยๆ ประปราย ฝ่ามือกอบกุมแก่นกายขนากพอดีมือของคนน้องก่อนจะสาวขึ้นลงตามความยาวเรียงเสียงครางจากดาวเหนือได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ปากก็ค่อยๆ เลื่อนลงมาหยุดอยู่ตรงหน้าอก หัวนมสีเข้มเด่นชูชันล่อตาล่อใจ ลิ้นร้อนลากยาวไปวนหัวนมสีเข้ม อีกคนก็นิ้วมือของอาทิตย์เล่นงาน ดาวเหนือถูกเล่นงานทั้งบนทั้งล่างก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากส่งเสียงร้องคราง"อ๊า!" มือทั้งสองข้างขยุ้มผมคนพี่เพื่อระบายความเสียวซ่าน ก่อนจะใช่มือผลักอีกฝ่ายให้นอนราบกับพื้น ดาวเหนือนั่งคร่อมร่างสูงเอาไว้ นิ้วเรียวค่อยๆ ลากจากหน้าผาก จมูกโด่งสวย ริมฝีปากหนาเป็นทรงก่อนจะค่อยๆ เริ่มมาหยุดอยู่ตรงหัวเข็มขัด ในขณะที่เขาเปลือยเปล่าไปทั้งตัว แต่อีกคนกลับเปลือยแค่ท่อนบน ดาวเหนือจงใจบดสะโพกเสียดสีแก่นกายใหญ่ของอีกคนที่อยู่ใต้ร่มผ้าอย่างช้าๆ เรียกเสียงครางในลำคอของคนพี่ได้เป็นอย่าง
นับตั้งแต่นั้นมาอาทิตย์ก็เข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านของดาวเหนือและประจงกับดวงดาราก็รับรู้และอนุญาตให้ชายหนุ่มได้เข้ามาพักอาศัย ทางด้านอาทิตย์ไม่ต้องอาศัยอยู่ที่บ้านคนรัก เขาก็ไม่ได้นิ่งดูดาย วันไหนที่เขาว่างเขาก็จะลุกเข้าครัวมาทำอาหาร ด้วยฝีมือทำอาหารของเขาทำให้ผู้อาวุโสทั้งสองติดใจรถมือของอาทิตย์เป็นอย่างมาก แล้ววันไหนที่เลิกงานไม่ดึก หรือไม่ติดทำโอที เขาก็จะไปรับดาวเหนือที่มหาวิทยาลัยเป็นประจำ " มื้อเย็นของวันนี้เป็นอะไรดีครับ" ชายหนุ่มหันมาถามคนน้อง ในขณะที่กำลังขับรถกลับบ้าน " อืม....อะไรก็ได้ครับ ถ้าได้กินฝีมือพี่ ผมชอบกินทุกอย่างเลย" ได้ยินคำตอบของคนน้อง เขาก็ยิ้มบางๆ "ปากหวานแบบนี้ แสดงว่าอยากกินเมนูพิเศษแน่ๆ ใช้ไหม" ดาวเหนือหันไปมองชายหนุ่มด้วยสายตาซุกซน "ก็พี่ทำอะไรก็อร่อยนี่ครับ จะเมนูธรรมดาหรือพิเศษ ผมก็กินหมด""งั้นวันนี้พี่ขอลองทำแกงส้มชะอมกุ้งดีไหม หรืออยากกินแบบฝรั่งบ้าง" เขาถาม พร้อมเอื้อมมือมาปรับแอร์ให้เย็นขึ้น"แกงส้มก็ดีครับ ผมชอบกินชะอม แต่...ถ้าพี่เหนื่อยจากงาน ไม่ต้องทำก็ได้นะครับ เราสั่งอะไรง่ายๆ มากินก็ได้""ไม่เหนื่อยหรอก พี่อยากทำให้เหนือกับพ่อแม่ได้กินอาห
คิดถูกหรือคิดผิดนะ....เบื้องหน้าเขาคือบ้านเดี่ยสองชั้น พื้นที่ไม่กว้างมากนัก มีสนามหญ้าและต้นไม้ใหญ่คอยให้ร่มเงา บ้านของคนรักของเขาเอง อาทิตย์ ไม่กี่วันก่อนอยู่ดีๆชายคนรักก็พูดขึ้นมาว่า"ไปบ้านพี่ไหม" ครั้งแรกที่ได้ยินเขาก็รู้สึกแปลกใจที่คนพี่ชวนเขาไปที่บ้าน และเขาก็ตอบตกลงไปทันที "พร้อมไหมครับ" อาทิตย์จับมือคนน้องแน่น พลางมองเข้าไปในตัวบ้านด้วยสายตามุ่งมั่น "พร้อมครับ" ทั้งสองประสานมือเข้าหากัน ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน "แก..พามันมาที่นี่ทำไม" ศักดิ์ชาย บิดาผู้ให้กำเนิดของอาทิตย์พูดขึ้นเสียงเย็น "น้อง..ไม่ใช่'มัน'นะครับพ่อ เขาคือคนที่ผมรัก พี่ผมพาน้องมาในวันนี้ก็เพราะอยากให้พ่อได้สัมผัสน้อง ได้รู้จักน้องมากขึ้น" ชายหนุ่มพูดเสียงเข้มพลางกุมมือน้องแน่นขึ้น ศักดิ์ชายยืนขึ้นด้วยความโกรธ ใบหน้าของเขาแสดงถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก"เด็กผู้ชายเนี่ยนะ ที่แกบอกว่ารัก ทุเรศ" "พ่อครับ..ให้เกียรติน้องหน่อยครับ" "ให้เกียรติหรอ..หึ!" ศักดิ์ชายหัวเราะในลำคอ ยืนกอดอกมองดาวเหนือด้วยแววตาเหยียดหยาม จนอาทิตย์เอาตัวเข้ามาบังน้องไว้ "อย่าใช้สายตามองน้องแบบนี้นะครับ" "ทำไมฉันจะมองไม่ได้... เพ
หลังจากจบคลาส ดาวเหนือเดินออกมาพร้อมเพื่อนๆ ทั้งสามคน เหล่านิสิตคนอื่นๆก็ทยอยออกจากห้อง"พวกมึง...ไปไหนกันต่อป่ะ" ชาญหันมาถามเพื่อนๆ “ไว้คราวหน้าละกันนะ เราต้องกลับบ้านก่อน” ดาวเหนือออกตัวคนแรก เขาไม่อยากเถลไถลทำให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วง"กูต้องไปทำงานพิเศษว่ะ...ตังไม่พอใช้" สาลี่ยิ้มแหย เอามือเกาแก้มเบาๆ ช่วงนี้เธอใช้เงินมือเติบไปหน่อย ไม่กล้าโทรไปขอแม่อีกเลยต้องหางานพาร์ทไทม์ทำ"อะไรวะ....แล้วมึงล่ะวายุ" ชาญหันมามองความหวังเดียวของเขา ทว่า....."กูก็ต้องกลับไปอ่านหนังสืออ่ะ...ไปก่อนนะ" วายุโบกมือลาชาญ ก่อนจะเดินกลับหอพักทันที ชาญที่มองเพื่อนๆแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง เขาคร่ำครวญออกมา"พวกแม่ง...ทิ้งกูเฉย" ว่าจะชวนไปเที่ยวสักหน่อย ดันมีเพื่อนเป็นพวกเด็กอนามัยซะได้ เซ็งจัด....ดาวเหนือออกมารอรถรับส่งบริเวณหน้าตึก เสียงริงโทนโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูปรากฏชื่อ _อาทิตย์_ นิ้วเรียวกดรับสายด้วยรอยยิ้ม"ว่าไงครับ" "กลับบ้านยังครับ" ปลายสายถามขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยน"ยังครับ....รอรถรับส่งอยู่" "งั้น..รอแป๊บนึงเดี๋ยวพี่ไปรับ" "ไม่เป็นไรครับ....พี่พักเถอะ" "ไม่เป็
แสงแดดอ่อนๆ ทอดยาวลงบนพื้นถนนหน้ามหาวิทยาลัย ดาวเหนือยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่บริเวณจุดรับส่งนักศึกษา หลังจากร่ำลาเพื่อนสนิททั้งสามสาลี่ วายุ และชาญที่แยกย้ายกลับบ้านคนละทาง“ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะเหนือ อย่าลืมเอาหนังสือที่อาจารย์แนะนำมาให้ดูด้วยล่ะ” สาลี่โบกมือลาเพื่อนๆเป็นคนสุดท้าย แล้วขึ้นรถของวินมอเตอร์ไซค์กลับหอพัก“ได้สิ แล้วเจอกันนะ” ดาวเหนือโบกมือลาเพื่อนสาว หลังจากที่เพื่อนทุกคนกลับไปหมดแล้ว ก็เหลือแต่เขาที่นั่งรออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ดาวเหนือเอามือล้วงหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าแล้วส่งข้อความหาคนรัก"ถึงไหนแล้วครับ" รอไม่นานนักก็มีข้อความเด้งเข้ามา“ถึงแล้วครับ ออกมารอได้เลย”ดาวเหนือหันซ้ายหันขวา ก่อนจะเห็นรถคันคุ้นเคยขับเข้ามาเทียบตรงหน้า เขาเปิดกระจกลงพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นที่เขาไม่เคยเบื่อมอง“คนหล่อขึ้นรถได้ครับ” อาทิตย์โผล่หน้าออกมาเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มให้คนรักอย่างอบอุ่น“แล้วคนไม่หล่อต้องนั่งท้ายกระบะไหมครับ” คนน้องทำหน้าเข้ม นั่งกอดอกมองคนในรถอย่างท้าทาย“แบบนี้..ต้องนอนใต้กระโปรงรถครับ" ซึ่งคำพูดของคนพี่ ดาวเหนือก็หลุดยิ้มออกมา "กวนนักนะ" "แล้วคนหล่อจะขึ้นรถไม่ได้หรือยังครับ..หรือ
"ใกล้จะถึงบ้านแล้ว..อยากไปไหนอีกหรือเปล่า" อาทิตย์ถามขึ้น ยิ่งระยะทางเริ่มใกล้ที่หมายมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากให้เวลามันช้าลงเท่านั้น"แล้ว..พี่มีที่ที่ชอบไหมครับ" "มีสิ...เดี๋ยวพี่พาไป" พูดจบอาทิตย์ก็ตีไฟเลี้ยว พร้อมขับรถไปที่ที่เขาชอบมาเดินเล่น เขาขับตรงมาที่ย่านนึง ที่ประดับประดาไปด้วยไฟประดับหลากสี มีร้านค้าเปิดอยู่ข้างกัน มีทั้งร้านของเล่น ของทานเล่น รวมไปถึงร้านน้ำตาลปั้นที่เขาชอบ ดาวเหนือเดินนำหน้าคนพี่ไปด้วยอาการตื่นเต้น ถนนเต็มไปด้วยผู้คนเดินไปมากันอย่างคึกคัก ภาพแบบนี้เขาเคยเห็นแต่ในทีวีในโรงพยาบาล"พี่ดูสิ..ร้านนั้นน่าสนใจจังเลย ขณะที่ถามดวงตากลมโตนั่นเปล่งประกายความสุขเล็กๆออกมา ทำให้อาทิตย์คิดถูกที่พาคนรักมาที่นี่ ดาวเหนือหยุดที่ร้านขายของกระจุกกระจิก แสงไฟจากหลอดเล็กๆ ส่องไปบนโต๊ะขายของจนดูอบอุ่น "พี่ว่าพวงกุญแจอันนี้น่ารักไหม" ว่าแล้วก็หยิบพวงกุญแจรูปกบเคโระขึ้นมา "น่ารักครับ แต่พี่ว่าน้องน่ารักกว่า" แหม...ยังจะมีเวลาหยอดเขาอีก ดาวเหนือหันขวับมาหาคนพูด"พี่นี่...เวลาแบบนี้ยังจะมาเล่นมุกอีกนะครับ" "พี่พูดจริงนะครับ....ว่าแต่เราชอบตัวไหน พี่จะซื้อให้" "คร
เช้าวันใหม่ที่สดใส อาทิตย์จอดรถใหม่เอี่ยมไว้หน้าบ้านของดาวเหนือ รถยนต์สีเทาเข้มสะท้อนแสงอาทิตย์วาววับ ด้านในมีกลิ่นหนังใหม่และความหอมอ่อนๆ ของน้ำหอมที่เขาชอบใช้ กระจกทางด้านคนขับถูกลดลงเผยให้เห็นเจ้าของรถที่อยู่ภายใน"พร้อมหรือยังครับ...ถ้ายังไม่พร้อมเนี่ย พี่จะขอยืมตัวไปเที่ยวเล่นรอบเมืองสักหน่อย"พร้อมแล้วครับ..ว่าแต่พี่ออกรถใหม่เนี่ย..ไม่ลำบากใช่ไหมครับ" คนน้องเดินออกมาพร้อมกับกระเป๋าสะพาย เห็นรถใหม่เอี่ยมของอาทิตย์ก็รู้เลยว่าคนพี่เพิ่งไปออกรถใหม่มา "ไม่ลำบากหรอกครับ...รถคันนี้พี่ซื้อสดน่ะ ไม่อยากเป็นหนี้เพิ่ม แค่ค่าบ้านพี่ก็ขนลุกแล้ว" ดาวเหนือหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเปิดประตูรถและนั่งลง "หืม หอมจัง...นี่พี่ไปอบขนมปังไว้ในรถเหรอครับ" "น้ำหอมครับ กลิ่นใหม่เหมือนรถเลย เข้ากันดีไหม" อาทิตย์ถามอีกคน "เข้ากันดีครับ แต่ถ้าพี่ขับเร็วเดี๋ยวผมจะเวียนหัวแทน" ดาวเหนือแกล้งทำหน้าจริงจัง ทั้งคู่หัวเราะเบาๆ อาทิตย์ปรับกระจกมองข้าง ก่อนจะออกตัวอย่างนุ่มนวล เสียงเพลงแจ๊สเบาๆ ในรถช่วยเพิ่มบรรยากาศสดชื่นระหว่างการเดินทางระหว่างทางไปมหาวิทยาลัย ดาวเหนือจับมือที่เกียร์ของอาทิตย์เล่น "รถคันนี้ดูสมบ
แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าสาดส่องผ่านผ้าม่านบางๆ ในห้องนอนของดาวเหนือ ชายหนุ่มลืมตาขึ้นช้าๆ เมื่อรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แนบชิดอยู่ข้างกาย เขาหันไปมองคนรักที่ยังหลับสนิท ใบหน้าของดาวเหนือดูสงบเหมือนเด็กน้อยอาทิตย์ยิ้มออกมา เขายกมือขึ้นเบาๆ ลูบเส้นผมของอีกฝ่าย พลางกระซิบเบาๆ"เช้านี้เราดูเหนื่อยนะ... หรือพี่ทำให้เหนื่อยไปหน่อย"เสียงของอาทิตย์ทำให้ดาวเหนือค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวปรือๆ มองมาที่เขา "หยุดพูดไปเลย!...เพราะพี่นั่นแหละ" เขาพูดเสียงงัวเงีย พลิกตัวหันหลังให้คนพี่ทันที อาทิตย์หัวเราะเบาๆ เขาผิดเองกว่าจะหยุดก็เกือบเช้าจะโดนงอนก็ไม่แปลก "นอนไปเถอะครับ แต่พี่ขอหอมหน่อยได้ไหม จะได้มีกำลังใจไปทำงาน"ดาวเหนือทำหน้ามุ่ยแต่ก็ยื่นแก้มให้ด้วยความขี้เกียจ อาทิตย์ฉวยโอกาสจูบเบาๆ ที่หน้าผากก่อนจะลุกจากเตียง"พี่จะลงไปชงกาแฟ เผื่อเราตื่นแล้วอยากได้อะไรอุ่นๆ ดื่ม" "ครับ เดี๋ยวตามลงไป..."อาทิตย์ลงมาข้างล่างพร้อมชุดนอนของดาวเหนือก่อนจะพบว่าประจงและดวงดารานั่งอยู่ในห้องรับแขก ดวงดาราและประจงนั่งสงบนิ่ง อาทิตย์ก้มศีรษะต่ำแล้วเดินเข้าไปหาอย่างนอบน้อม " นอนกับดาวเหนือหลับสบายดีนะอาทิตย์" ดวงดาราเ