ตอนที่ 2: หัวใจที่เปลี่ยนไป
--- หลังการตายของดวงจันทร์ อาทิตย์เหมือนถูกตัดขาดจากโลกที่เขาเคยรู้จัก ชีวิตประจำวันของเขาแปรเปลี่ยนจากความมีสีสันไปสู่ความเงียบเหงา ในอดีต อาทิตย์เป็นคนที่เพื่อนฝูงชื่นชม เขาเป็นหัวใจของกลุ่ม ไม่ว่าปัญหาใดจะเกิดขึ้น เขามักเป็นคนแรกที่ช่วยแก้ไขและเป็นคนสุดท้ายที่ทำให้ทุกคนหัวเราะได้ แต่ตอนนี้ เพื่อนของเขาเริ่มสังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในเช้าวันเสาร์ เพื่อนสนิทของอาทิตย์สามคนพยายามชวนเขาออกมานั่งเล่น แต่บรรยากาศกลับไม่เหมือนเดิม "อาทิตย์....มึงโอเคป่าววะ" ทศ เพื่อนสนิทสมัยเรียนถามขึ้น อาทิตย์พยักหน้าโดยไม่มองหน้าใคร "ก็โอเค" คำตอบสั้นๆ และน้ำเสียงราบเรียบของเขาทำให้ทั้งกลุ่มเงียบ "เราเป็นห่วงนายนะ ตั้งแต่จันทร์ไป นายก็ไม่เหมือนเดิมเลย" มายพูดพร้อมวางมือลงบนไหล่เขา อาทิตย์ยิ้มจางๆ แต่ในดวงตาไม่มีประกายความสุข "ขอบคุณนะที่ห่วง แต่ฉันแค่...ต้องใช้เวลา" หลังจากวันนั้น อาทิตย์กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ตื่นเช้ามองรูปถ่ายของดวงจันทร์บนโต๊ะทำงาน ก่อนออกไปทำงานที่เขาไม่มีแรงบันดาลใจอีกต่อไป กลางคืนมักเป็นเวลาที่เขารู้สึกเจ็บปวดที่สุด เขานั่งมองท้องฟ้าผ่านหน้าต่างห้องนอน คิดถึงเธอ และตั้งคำถามว่าทำไมโชคชะตาถึงใจร้ายกับเขาเช่นนี้ "จันทร์ ถ้าเธอยังอยู่ ชีวิตเราคงไม่ว่างเปล่าแบบนี้" ในอีกฟากหนึ่งของเมือง ดาวเหนือใช้ชีวิตที่ดูเหมือนปกติหลังจากการผ่าตัดหัวใจ แต่ในความเป็นจริง ชีวิตของเขาไม่ได้กลับมาสงบสุขดังที่เขาคาดหวัง ทุกคืน ดาวเหนือต้องเผชิญกับความฝันเดิมๆ ที่เหมือนจริงราวกับเป็นความทรงจำของตัวเขาเอง ในความฝัน เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่กลางทุ่งดอกไม้ เธอแต่งชุดสีขาว ใบหน้าของเธอเปล่งประกาย แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยความโศกเศร้า "ช่วยฉันด้วย..." เสียงเธอก้องในหัวของเขา ดาวเหนือพยายามจะถามเธอว่าเธอคือใคร แต่ทุกครั้งที่เขาอ้าปากพูด เสียงของเขากลับไม่ออกมา เขารู้สึกเหมือนตัวเองถูกดึงออกจากความฝันนั้นอย่างกะทันหัน เมื่อเขาสะดุ้งตื่นตอนกลางดึก ใจของเขาเต้นแรง น้ำเหงื่อชุ่มไปทั่วตัว รู้สึกเหมือนมีบางอย่างอยู่ในอกที่เขาไม่สามารถปลดปล่อยออกมาได้ "ฝันแบบนี้อีกแล้ว” เขาพูดกับตัวเอง วันรุ่งขึ้นเขาโทรชวนเพื่อนสนิทออกมานั่งคุยแลกเปลี่ยนชีวิตประจำวันกัน ที่ร้านคาเฟ่แห่งหนึ่ง " ไงมึง.... ผ่าตัดเป็นยังไงบ้างวะ" น้ำมนต์ เอ่ยถามเพื่อนสนิท "ก็ดี... หัวใจเข้ากับร่างกายกูดี เหมือนไม่ได้ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจเลย" " หืม...ก็ดีแล้วนี่ แล้วทำไมสีหน้ามึงเป็นอย่างงั้น" ดาวเหนือหลุบตาลง แล้วบอกออกไปว่า " ตั้งแต่กูได้หัวใจดวงนี้มา กูก็ฝันแปลกๆถึงผู้หญิงคนนึง ฝันแบบนี้ทุกคืนเลยอ่ะ" " ทุกคืนเลยหรอวะ" "อืม..ทุกคืน " “แล้วมึง...ไม่คิดบ้างเหรอว่าความฝันพวกนี้อาจเกี่ยวกับหัวใจใหม่ของมึง.. เจ้าของหัวใจดวงนี้" น้ำมนต์สิไปที่หน้าอกข้างซ้ายของเพื่อนสนิท จนทำให้ดาวเหนือเงียบไปชั่วขณะ เขาเริ่มคิดว่าหัวใจใหม่นี้อาจมีเรื่องราวบางอย่างที่เขาจะต้องหาคำตอบ เช้าวันหนึ่งที่อากาศสดชื่น ดาวเหนือตัดสินใจไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเขา เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงเลือกสถานที่นี้ แต่ในใจลึกๆ เขารู้สึกว่าที่นี่อาจช่วยให้เขาสงบใจได้ แต่ก็น่าแปลกทั้งที่เขามาที่นี่เป็นครั้งแรก ทว่า..เขากลับรู้สึกคุ้นเคยเหมือนมาที่นี่เป็นประจำ กลิ่นที่สดชื่นของธรรมชาติทำให้ดาวเหนือรู้สึกดีขึ้นมาอย่างประหลาด "น่าจะมาที่นี่บ่อยๆแฮะ..." ชายหนุ่มพูดพึมพำเบาๆ ในมุมเดียวกันของสวน อาทิตย์เดินมาอย่างไร้จุดหมาย เขามักมาที่นี่เพราะมันเป็นสถานที่ ที่เขาและดวงจันทร์เคยมาใช้เวลาร่วมกัน ความทรงจำที่เคยมีความสุขกลับกลายเป็นเงาที่ย้ำเตือนถึงความว่างเปล่า ระหว่างที่ทั้งสองคนเดินสวนกัน ดาวเหนือหยุดนิ่งเมื่อสายตาเขาสะดุดกับอาทิตย์ “ผู้ชายคนนั้น...” เขาพึมพำเบาๆ อาทิตย์เดินผ่านดาวเหนือไปโดยไม่ได้สังเกตอะไร แต่ทันใดนั้น ดาวเหนือรู้สึกถึงบางสิ่งในใจที่เขาอธิบายไม่ได้ มันเหมือนกับว่าเขารู้จักผู้ชายคนนี้ ดาวเหนือหันไปมองแผ่นหลังของอาทิตย์ที่เดินห่างออกไป แต่ไม่กล้าเรียกไว้ ความรู้สึกสับสนทำให้เขายืนอยู่ตรงนั้นอยู่นาน ขณะเดียวกัน อาทิตย์เองก็รู้สึกถึงสายตาของใครบางคนมองมาที่เขา แต่เขาเลือกที่จะไม่สนใจและเดินต่อไปตอนที่ 3: เส้นทางที่ขนานกันอาทิตย์ทำงานในบริษัทสถาปนิกที่มีชื่อเสียง เขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าทีมออกแบบ ด้วยความสามารถและความมุ่งมั่นที่เขาแสดงมาตลอดหลายปี ทำให้เขาเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน รวมถึงได้รับการยอมรับจากผู้บริหารแม้จะดูเหมือนว่าชีวิตการงานของเขาไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง แต่ภายในใจเขากลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่า เพราะแสงสว่างในชีวิตของเขาจากไปแล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าควรเดินต่อไปอย่างไรในเช้าวันจันทร์ อาทิตย์เดินเข้ามาในห้องทำงาน เพื่อนร่วมงานหลายคนเข้ามาทักทายด้วยความอบอุ่น“อาทิตย์ วันนี้ดูสดใสขึ้นนะ” เพื่อนคนหนึ่งกล่าว แต่ในคำพูดนั้นแฝงด้วยความเป็นห่วง“ขอบคุณนะ” เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้มจางๆ ก่อนที่จะหยิบแฟ้มงานขึ้นมาและเริ่มต้นวันใหม่ระหว่างพักกลางวัน เพื่อนร่วมงานบางคนพยายามพูดคุยกับเขาเพื่อให้เขาเปิดใจมากขึ้น โดยเฉพาะ **กอหญ้า**หญิงสาวผู้แอบรักอาทิตย์มานานกอหญ้าเป็นผู้ช่วยของอาทิตย์ เธอชื่นชมเขามาโดยตลอด ทั้งในด้านการทำงานและบุคลิกที่อ่อนโยนของเขา แม้ว่าเธอจะรู้ว่าอาทิตย์มีดวงจันทร์ในหัวใจ เธอก็ยังคงหวังว่าวันหนึ่ง เขาอาจเปิดใจให้เธอ“พี่อาทิตย์คะ พรุ่งนี้เย็นเราไปกินข้าวกันมั้ยคะ
ตอนที่ 4: จุดเริ่มต้นของความจริงดาวเหนือไม่อาจสลัดความรู้สึกแปลกประหลาดในใจออกไปได้ ความฝันที่ตามหลอกหลอนทุกคืน เสียงเรียกของหญิงสาวในหัวของเขาทำให้เขาตัดสินใจกลับไปหาหมอผู้ดูแลเขาในระหว่างการผ่าตัดหัวใจอีกครั้งที่โรงพยาบาล ดาวเหนือนั่งรอหมออย่างใจจดใจจ่อ เมื่อหมอเดินเข้ามา เขาลุกขึ้นทันที"คุณหมอครับ ผมมีเรื่องอยากถาม" หมอยิ้มใจดีและเชิญเขานั่ง "คุณดาวเหนือมีอะไรอยากทราบหรอครับ""ผมอยากรู้ว่าคนที่บริจาคหัวใจให้ผมคือใคร" เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังหมอขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนตอบอย่างระมัดระวัง "ปกติข้อมูลของผู้บริจาคจะถูกเก็บเป็นความลับ แต่ในกรณีของคุณ ผมคิดว่ามันอาจช่วยให้คุณเข้าใจบางอย่างได้"หลังจากพูดคุยกันสักพัก หมอจึงหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมาและส่งให้ดาวเหนือ"เธอชื่อดวงจันทร์ครับ อายุ 27 ปี เธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และเธอได้ลงทะเบียนบริจาคอวัยวะไว้"ชื่อของเธอทำให้ดาวเหนือสะดุ้งเล็กน้อย แต่เขาก็รับแฟ้มมาและเปิดดู เขาเห็นภาพถ่ายของหญิงสาว ใบหน้าของเธอคล้ายกับผู้หญิงในความฝันของเขาอย่างไม่น่าเชื่อ"เธอเสียชีวิตเพราะอะไรครับ" ดาวเหนือถามพลางมองรูปของดวงจันทร์หมอถอนหายใจ "เธอเป
ตอนที่ 5: เส้นทางสู่ความจริงดาวเหนือรู้สึกว่ามีบางสิ่งที่ดึงดูดให้เขาอยากรู้จักดวงจันทร์มากขึ้น ไม่ใช่แค่ในฐานะคนที่บริจาคหัวใจให้เขา แต่เป็นเพราะเขารู้สึกว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา ในเย็นวันหนึ่งดาวเหนือเดินเข้าไปในห้องทำงานของพ่อและวางแฟ้มข้อมูลเกี่ยวกับดวงจันทร์ลงบนโต๊ะ"พ่อครับ ผมอยากรู้ความจริงเกี่ยวกับเธอ และอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ผมรู้ว่าพ่อช่วยผมได้"ประจงเลิกคิ้ว เขามองลูกชายด้วยความสงสัย ก่อนจะหยิบแฟ้มขึ้นมาเปิดอ่าน เนื้อหาในแฟ้มบรรยายถึงอุบัติเหตุของดวงจันทร์ที่ระบุว่าเป็นการเมาแล้วขับ "ทำไมลูกถึงอยากรู้เรื่องนี้"ดาวเหนือนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเล่าความรู้สึกแปลกๆ ของตัวเองหลังจากได้รับหัวใจของดวงจันทร์ ทั้งความฝันที่เต็มไปด้วยภาพผู้หญิงคนหนึ่งและความรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด"พ่อครับ เธอช่วยชีวิตผมไว้ ผมอยากตอบแทนเธอ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอมันไม่ยุติธรรมเลย ผมอยากรู้ว่าใครคือคนที่ทำให้เธอต้องจากไป และทำไมคดีนี้ถึงถูกปิดเงียบ"ประจงถอนหายใจ เขารู้ว่าคดีนี้เกี่ยวข้องกับคนใหญ่คนโตในวงการการเมือง และการเข้าไปยุ่งอาจเป็นอันตรายต่อครอบครัวของเขา แต่เมื่อเห็นความม
ตอนที่ 6: เบาะแสและความผูกพันที่มองไม่เห็นหลังจากที่ประจงรับปากจะช่วยลูกชาย เขาเริ่มสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับคดีอุบัติเหตุของดวงจันทร์ ด้วยประสบการณ์หลายปีในฐานะตำรวจที่มีจิตสำนึกและความยุติธรรม ประจงรู้ดีว่าคดีนี้ถูกปิดเงียบเพราะแรงกดดันจากเบื้องบนเขาเริ่มต้นด้วยการค้นหาข้อมูลในระบบของตำรวจเกี่ยวกับคดีนี้ ซึ่งไม่ยากเกินความสามารถของเขา แม้คดีนี้จะไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของเขาโดยตรง แต่ประจงพบรายงานที่ระบุชื่อของผู้ต้องสงสัย: “นายสุริยัน อัครเมธี” ลูกชายของนักการเมืองคนดังที่มีชื่อเสียงในวงการว่าเป็นคนซื่อสัตย์ แต่ในความเป็นจริงกลับมีอำนาจมืดแฝงอยู่ขณะที่ประจงอ่านรายงาน เขาก็พบจุดแปลกประหลาด รายงานทั้งหมดดูเหมือนจะถูกจัดทำอย่างเร่งรีบ หลักฐานบางส่วนที่ควรมีในคดี เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิดและคำให้การของพยาน กลับไม่มีการบันทึกในไฟล์"มันมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ" ประจงพึมพำกับตัวเองเขาโทรหาเพื่อนตำรวจรุ่นน้องที่เคยดูแลคดีนี้ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม “สันต์ นายยังจำคดีรถชนที่มีชื่อดวงจันทร์ได้ไหม?”ปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงอึดอัด "พี่ครับ ผมแนะนำว่าอย่ายุ่งกับเรื่องนี้เลย มัน... มันซับซ้อนเ
ตอนที่ 7: ความจริงที่ใกล้เข้ามาอาทิตย์ตื่นขึ้นในเช้าวันใหม่พร้อมความคิดที่วุ่นวายในหัว หลังจากเจอชายหนุ่มแปลกหน้าในสวนสาธารณะสองครั้ง ความรู้สึกบางอย่างเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นเริ่มชัดเจนขึ้นในใจเขา มันไม่ใช่แค่ความบังเอิญ แต่เหมือนมีบางสิ่งเชื่อมโยงระหว่างพวกเขาเขาเดินไปที่ห้องทำงาน มองไปยังภาพถ่ายของดวงจันทร์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ดวงจันทร์เคยบอกเขาว่า "ทุกคนมีจุดเชื่อมต่อกับใครสักคนเสมอ เราแค่ต้องหาว่ามันคืออะไร"อาทิตย์มองภาพถ่ายนั้นนานจนรู้สึกว่าหัวใจเขาเต้นช้าลง เขาตัดสินใจออกไปข้างนอกอีกครั้ง หวังว่าคำตอบจะอยู่ที่ไหนสักแห่งในขณะเดียวกัน ดาวเหนือนั่งอยู่ในห้องนอนของเขา อ่านรายงานและข้อมูลเกี่ยวกับดวงจันทร์อีกครั้ง เขาเริ่มตั้งคำถามถึงความเชื่อมโยงระหว่างหัวใจที่เขาได้รับกับภาพในฝันที่ยังคงชัดเจนดาวเหนือเปิดคอมพิวเตอร์ ค้นหาชื่อของดวงจันทร์ในอินเทอร์เน็ต เขาพบข้อมูลมากมายเกี่ยวกับเธอ ภาพของหญิงสาวในชุดสีขาวที่ยิ้มอย่างสดใสสะท้อนอยู่บนหน้าจอ"คุณไม่ควรมาเจอเรื่องแบบนี้..” ดาวเหนือพูดกับตัวเองเขาพบข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตของดวงจันทร์ รายละเอียดในข่าวทำให้เขาเกิดความสงสัยมาก
ตอนที่ 8: เงาที่ค่อยๆ คลี่คลายประจงนั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวที่เต็มไปด้วยเอกสารและแฟ้มคดี เขาพิจารณาข้อมูลที่ได้รับเกี่ยวกับสุริยัน ชายหนุ่มที่เป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตดวงจันทร์สุริยันไม่ใช่แค่ลูกชายของนักการเมืองทรงอิทธิพล แต่ยังมีข่าวลือว่าเขาเกี่ยวข้องกับธุรกิจใต้ดินหลายประเภท การสืบสวนเขาอาจนำมาซึ่งอันตรายต่อครอบครัวของประจง แต่เขาก็ไม่อาจนิ่งเฉยประจงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลูกน้องที่ไว้ใจได้ “สันต์ ฉันต้องการให้แกดูแลคดีนี้ให้รอบคอบที่สุด อย่าให้ข่าวหลุดออกไป เข้าใจมั้ย”“ครับพี่ ผมจะจัดการให้ดีที่สุด” สันต์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นใจในใจลึกๆ ประจงรู้ดีว่าการต่อกรกับสุริยันและครอบครัวเขาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขาเลือกที่จะสู้ เพราะเขาไม่อาจมองข้ามความยุติธรรมในครั้งนี้ได้ตกดึกคืนนั้นร่างของดาวเหนือกำลังหลับอย่างกระสับกระส่าย ฝันถึงภาพที่ชัดเจนขึ้นกว่าครั้งก่อน เขาเห็นหญิงสาวในชุดขาวกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ หญิงสาวมองมาที่เขาด้วยสายตาเศร้าสร้อย“ช่วยฉันด้วย…” เสียงกระซิบเบาๆ ดังขึ้นในหัวของเขาเขาสะดุ้งตื่นอย่างแรง หน้าอกกระเพื่อมขึ้นตามลมหายใจ ในฝันนั้นมันช่างเหมือนจ
ประจงนั่งอยู่ในห้องทำงานยามค่ำคืน รอบกายเงียบสงัด แต่ในใจของเขากลับเต็มไปด้วยความคิดวุ่นวายหลังจากได้หลักฐานสำคัญที่เชื่อมโยงสุริยันกับการปกปิดคดี เขาเลื่อนดูภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดที่เพิ่งได้รับมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสุริยันอยู่ในที่เกิดเหตุอย่างชัดเจนเสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะ ประจงวางเอกสารลงแล้วพูดออกไป “เข้ามาได้”สันต์ ลูกน้องคนสนิทเปิดประตูเข้ามาพร้อมสีหน้ากังวล“พี่ครับ ผมเพิ่งได้รับข่าวว่าอีกฝ่ายเริ่มรู้ตัวแล้วว่าเรากำลังสืบเรื่องนี้ คนของพวกเขาอาจเริ่มเคลื่อนไหว”“ฉันไม่แปลกใจ แต่เราต้องไม่หยุด ฉันจะไม่ยอมให้คนผิดลอยนวล”สันต์พยักหน้า “ผมเป็นห่วงความปลอดภัยของครอบครัวหัวหน้าครับ ดาวเหนือกับคุณดวงดารา...”“ฉันเตรียมการไว้แล้ว” ประจงตอบอย่างเด็ดเดี่ยว แม้ในใจลึกๆ จะเริ่มกังวลมากขึ้นหลังจากสันต์ออกไป ประจงก็นั่งลงและเปิดโทรศัพท์อ่านข้อความข่มขู่ที่ได้รับเมื่อไม่กี่วันก่อน เขามองรูปครอบครัวบนโต๊ะแล้วพูดกับตัวเองเบาๆ“ฉันจะปกป้องพวกเขา ไม่ว่ายังไงก็ตาม”วันรุ่งขึ้น ดาวเหนือออกมาที่สวนสาธารณะเพื่อสงบจิตใจ ในมือของเขาถือแฟ้มข้อมูลเกี่ยวกับดวงจันทร์ที่เขาขอมาเพิ่มเติม เขาเปิดดูรู
ตอนที่ 10: ความจริงที่ถูกพันธนาการเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะที่ประจงนั่งอยู่ในห้องทำงาน สันต์ ผู้ช่วยคนสนิทรีบรายงานด้วยน้ำเสียงร้อนรน“พี่ประจง เราได้รับข้อมูลว่ามีการเคลื่อนไหวจากคนของสุริยัน พวกเขาส่งคนติดตามพี่และครอบครัว”“ฉันเดาไว้แล้ว” ประจงตอบเสียงเรียบ “พวกมันกลัวความจริงจะเปิดเผย แต่ฉันไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้”เขาลุกขึ้นหยิบเอกสารคดีดวงจันทร์จากโต๊ะ ก่อนจะสั่งการ “เพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยรอบบ้าน อย่าให้ใครเข้ามาได้ง่ายๆ”ในค่ำคืนที่เงียบสงัด รถยนต์คันหนึ่งแล่นมาจอดหน้าบ้านของประจง ชายชุดดำก้าวลงมาและพยายามแทรกตัวเข้ามา แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเจ้าหน้าที่ที่ประจงวางไว้รอบบ้านปรากฏตัวพร้อมอาวุธครบมือ“ถอยออกไปจะดีกว่า ถ้าไม่อยากให้ข่าวเรื่องนี้เล็ดรอดออกไป.” สันต์พูดเสียงหนักแน่นชายชุดดำรีบล่าถอยไป แต่ประจงรู้ดีว่า นี่เป็นเพียงการข่มขู่เบื้องต้น เขาต้องเตรียมพร้อมสำหรับศึกใหญ่ที่กำลังจะมาถึงวันรุ่งขึ้น อาทิตย์ตัดสินใจออกจากบ้านเพื่อซื้อหนังสือเล่มใหม่ เขาเดินเข้าไปในร้านหนังสือเล็กๆ ที่เขากับดวงจันทร์เคยมาเป็นประจำขณะที่เขากำลังเลือกหนังสืออยู่ เขาเหลือบเห็นดาวเหนือกำลังยืนอ่าน
ในวันหยุดสุดสัปดาห์อาทิตย์ชวนดาวเหนือมาใช้วันหยุดด้วยกัน โดยตั้งใจจะให้เป็นวันที่ไม่ต้องคิดถึงงานหรือปัญหาใดๆ เขาขับรถพาดาวเหนือไปที่บ้านพักตากอากาศส่วนตัวริมทะเล บ้านพักมีสวนเล็กๆ ล้อมรอบด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม เสียงคลื่นทะเลดังแว่วๆ ให้ความรู้สึกสงบและอบอุ่น ดาวเหนือยืนมองวิวทะเลจากระเบียงพร้อมรอยยิ้มบางๆ สองครั้งแล้วที่อุีกฝ่ายพามาทะเล"สวยจัง.." "ชอบไหม" คนพี่เดินมาโอบเอวของดาวเหนือจากทางด้านหลังแล้วกระซิบถาม "ชอบครับ" "ดีใจที่ชอบนะ..แต่ที่พี่อยากเห็นมากกว่าวิวทะเลมก็คือรอยยิ้มของเรานี่แหละ" "พี่อาทิตย์!...หยุดแกล้งผมได้แล้วครับ" คนน้องหน้าแดงก่ำ ฝ่ามือตีแขนของอีกฝ่ายดังเพี้ยะ แต่คนขี้แกล้งกลับไม่สะทกสะท้าน เงยหัวเราะเสียงดังลั่น"พี่ไม่ได้แกล้ง..พี่พูดจริงๆ" "หยุดเลยครับ" ดาวเหนือคาดโทษคนพี่ไว้ในใจ ถ้าอีกฝ่ายแกล้งหยอดให้เขาเขินเมื่อไหร่ อาทิตย์โดนเขาเอาคืนแน่"โอเคครับ..พี่ยอมแพ้แล้ว" อาทิตย์ยกมือขึ้นทั้งสองข้างอย่างจำนน รอยยิ้มทะเล้นขี้เล่นทำให้เขาดูหล่อเหลาขึ้นหลายเท่า ทั้งสองยืนชมวิวทะเล มองเกลียวคลื่นปะทะกับชายฝั่ง ลมโชยเอากลิ่นทะเลมาฝากคนบนฝั่ง ให้ความรู้สึกผ่อนคลายแ
หลังจากเลิกงานชายหนุ่มก็มาหาดาวเหนือเหมือนทุกวัน อาทิตย์เดินเข้ามาพร้อมกับของฝากเล็กๆน้อยๆ เดินเข้ามาก็เจอดาวเหนือนั่งเหม่อลอยอยู่ที่ห้องนั่งเล่น" เหนื่อยหรือเปล่าครับวันนี้ " "พี่อาทิตย์" คนน้องหันมามองคนพี่ "เป็นอะไรหรือเปล่า" "เรื่อง...กอหญ้า" คำถามนั้นทำให้เขาเข้าใจทันทีว่าน้องกังวลเรื่องอะไร อาทิตย์ยิ้มบางๆพร้อมอธิบายว่า" กอหญ้าก็แค่มาดูแลพี่ในฐานะผู้ช่วย มีแค่เรื่องงานน่ะ...ไม่มีอะไรหรอก" "แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่นั้น.." คนน้องพูดเสียงเข้ม อกกระเพื่อมไหวขึ้นลงตามลมหายใจ อาทิตย์ถอนหายใจเฮือก " ดาวเหนือ..พี่กับกอหญ้าไม่ได้มีอะไรเกินเลยจริงๆ อย่าคิดมากนะ" "แต่...." "เหนือ..ถ้านายไม่เชื่อพี่ งั้นเราก็เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ.พี่ไม่อยากทะเลาะ" ชายหนุ่มรู้ว่าคนน้องหึง แต่เขาก็เหนื่อยล้าจากการทำงานแล้วเหมือนกัน " ผม..ขอโทษครับ ผมแค่กลัวเสียพี่ไป" ดาวเหนือกล่าวขอโทษอีกคนไปที่เขาปล่อยให้อารมณ์นำหน้า ไม่ยอมฟังคำอธิบายของอีกฝ่ายเลย " พี่ไม่มีวันจากนายไปไหนหรอก เชื่อใจพี่ได้ไหม" "ครับ..ผมเชื่อพี่" อาทิตย์ยื่นมือไปจับมือคนน้องอย่างทะนุถนอม "พี่รักเหนือนะ..พี่ไม่ได้พูดเ
เช้าวันหยุดสุดสัปดาห์ อาทิตย์ถือโอกาสไปรับดาวเหนือออกไปเที่ยวตามคำสัญญา คราวนี้ปลายทางคือสวนดอกไม้แห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสันบานสะพรั่ง"นายน่าจะชอบที่นี่นะ ดูสิ ดอกไม้สวยๆ เยอะไปหมดเลย" "ขอบคุณครับ พี่ชอบดอกไม้เหรอครับ" ดาวเหนือยิ้มบางๆพลางหันมาถาม"ไม่หรอก ฉันแค่คิดว่านายเหมาะกับที่นี่" "พูดอีกแล้วนะครับ" อ่า...ชอบพูดทำให้คนอื่นเขินอีกแล้ว เด็กหนุ่มว่าในใจ ใบหน้าร้อนผ่าวเขาแน่ใจว่ามันจะต้องแดงมากแน่ๆ "แล้วไม่ชอบหรอ" "ชิ.."ทั้งสองเดินชมสวนไปด้วยกัน อาทิตย์ถ่ายรูปดาวเหนือที่กำลังมองดอกไม้ด้วยสายตาอ่อนโยน "พี่ถ่ายรูปนายไปอวดคนอื่นได้ไหม จะได้ให้ทุกคนรู้ว่าคนของพี่น่ารักแค่ไหน"คนพี่พูดแซว มือก็กดชัตเตอร์กล้องรัวๆ ดาวเหนือรู้ทันก็เบี่ยงตัวหนี"พี่นี่... ไม่ต้องพูดอะไรแบบนั้นเลยครับ ผมอายนะ" ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ก่อนเก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกง "พี่พูดจริงนะ แต่ถ้านายไม่ให้พี่ถ่าย งั้นพี่เก็บไว้ดูคนเดียวก็ได้" "พี่นี่เอาแต่ใจจัง"หลังจากเดินจนเหนื่อย ทั้งสองก็แวะพักที่คาเฟ่เล็กๆ ในสวน อาทิตย์เลือกเค้กกับกาแฟ ส่วนดาวเหนือเลือกชาและขนมหวาน"นายชอบอะไรหวานๆ เหมือนดวงจันทร์เล
หลังทานข้าวเช้าด้วยกันพวกเขาก็มาคุยกันที่ห้องนั่งเล่น ดวงดาราและประจงก็ดูเหมือนจะเริ่มคุ้นเคยกับอาทิตย์มากขึ้น "อาทิตย์ มาบ่อยๆ แบบนี้ แม่ว่าแม่ต้องเตรียมข้าวเย็นให้เผื่อไว้ทุกวันแล้วละมั้ง" "ยินดีเลยครับ ถ้าแม่อนุญาตให้ผมมาบ่อยๆ ผมก็มาช่วยกินทุกวันแน่นอน" "ข้าวเย็นกินได้ แต่หัวใจลูกแม่ต้องรอหน่อยนะ อย่ารีบร้อนล่ะหนุ่ม" ประจงพูดเสียงเข้ม"ครับคุณพ่อ ผมจะใจเย็นที่สุดเท่าที่ทำได้" อาทิตย์ตัวหดตัวลีบ รอยยิ้มเจื่อนปรากฏขึ้นบนใบหน้าหลังจากพ่อแม่กลับเข้าไปพักผ่อน อาทิตย์และดาวเหนือนั่งคุยกันในสวนหลังบ้าน อาทิตย์นอนเอนหลังอยู่บนเก้าอี้สนาม ส่วนดาวเหนือนั่งอ่านหนังสือข้างๆอาทิตย์ที่นั่งนิ่งอยู่นานก็ยืดแขนแล้วหันมามอง"นี่ นายจะไม่พูดอะไรกับพี่หน่อยเหรอ เห็นอ่านหนังสือเงียบมาตั้งแต่เช้าแล้ว" "พี่อาทิตย์อยากฟังอะไรล่ะครับ" เมื่อเห็นว่าคนน้องยังคงอ่านหนังสือ เขาก็แกล้งทำหน้าบึ้งตึง พูดเสียงเล็กเสียงน้อย"อะไรก็ได้ ขอแค่ไม่เงียบแบบนี้ ฉันเหงานะ" ดาวเหนือหัวเราะเบาะ ก่อนจะปิดหนังสือลง"พี่อาทิตย์นี่เหมือนเด็กเลยนะครับ""ถ้าฉันเป็นเด็ก นายก็เป็นของเล่นของฉันได้ไหม" ว่าแล้วก็เอาแขนโอบเอวคน
เช้าวันใหม่ในวันที่ทุกคนยังต้องเร่งรีบเช่นเคย อาทิตย์ตื่นเช้าขึ้นมาด้วยอารมณ์แจ่มใส ใบหน้าหล่อเหลายิ้มกว้าง ดวงตาประกายความสุข พลางนึกถึงสีหน้าคนน้องเมื่อวาน ร่างสูงสมส่วนในชุดนอนสีน้ำตาลเข้มลายสก๊อต กดส่งข้อความหาคนที่เขาคิดถึงพร้อมรอยยิ้มแต่งแต้มบนใบหน้า"ตื่นหรือยังครับ? อากาศดีขนาดนี้ นายอย่ามัวแต่ขลุกอยู่ในผ้าห่มนะ เดี๋ยวจะสายก่อน" ก่อนจะวางโทรศัพท์วงบนโต๊ะข้างเตียง แล้วหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไปทางด้านดาวเหนือตื่นขึ้นมาก็พบกับข้อความของคนพี่ สายตาอ่านข้อความในมือถือพลางอมยิ้ม เขาเอนตัวพิงหัวเตียงก่อนจะส่งข้อความกลับไป"ตื่นแล้วครับ พี่อาทิตย์เองก็อย่าลืมกินข้าวเช้าด้วยล่ะ""ได้ครับ แต่จะดีมากถ้านายมาช่วยเตรียมให้สักวัน""ฝันไปเถอะครับ"ข้อความจบลงพร้อมกับรอยยิ้มของทั้งสองที่ไม่มีใครเห็น แต่ต่างฝ่ายต่างรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นผ่านตัวอักษรอาทิตย์ยังคงทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แต่เพื่อนร่วมงานหลายคนสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของเขา โดยเฉพาะกอหญ้า ผู้ช่วยสาวคนสนิทที่แอบชอบเขามานาน และแน่นอนว่าเธอยังไม่ละความพยายามที่จะพิชิตใจอาทิตย์ วันนี้เธอจึงทำอาหารมาให้อาทิตย์อย่างสุดความสามารถ
เช้าวันจันทร์ที่แสนเร่งรีบ เป็นวันที่ทุกคนไม่อยากให้มาถึง ชาวมนุษย์เงินเดือนต่างเร่งรีบเข้างานกันอย่างขยันขันแข็ง บ้างก็เป็นงานที่รัก บ้างก็เป็นงานที่จำเป็นต้องทำเพราะตัวเองมีภาระหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบ ร่างของชายหนุ่มเดินเข้ามาในออฟฟิศด้วยใบหน้าสดใส รอยยิ้มติดอยู่ตรงมุมปากของชายหนุ่มทำเอาเพื่อนร่วมงานรู้สึกสงสัย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอาทิตย์ทำตัวอมทุกข์เพราะสูญเสียแฟนสาว แต่พักหลังๆมานี้เขาก็ไม่ค่อยจมปลักกับความทุกข์จนกระทั่งวันนี้ ชายหนุ่มรู้สึกสดใสแปลกๆจนพวกเขาอดสงสัยไม่ได้ว่า อาทิตย์กำลังมีความรักหรือเปล่า "พี่อาทิตย์คะ วันนี้พี่ดูสดใสจังเลยนะคะ" กอหญ้าผู้ช่วยสาวผู้ที่หลงรักอาทิตย์อยู่เต็มหัวใจ ถามหัวหน้าของเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม" ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่พักผ่อนเต็มที่เฉยๆ"" ดีเลยค่ะ...หัวหน้าสดใสแบบนี้ พวกเราก็พลอยมีกำลังใจทำงานไปด้วย" หญิงสาวยิ้มหวาน "ครับ" ถึงแม้จะรู้สึกอึดอัดอยู่ในหัวใจบ้างแต่เขาก็ยิ้มตอบเวลาล่วงเลยจนถึงเวลาพักเที่ยง อาทิตย์หยุดงานที่ทำค้างไว้อยู่บนโต๊ะ จัดเก็บให้เรียบร้อย ในขณะที่กำลังจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงาน กอหญ้าก็เดินพรวดพราดเข้ามาในห้องโดยที่ไม
หลังจากค่ำคืนที่ดาวเหนือยอมเปิดใจและยอมรับความรู้สึกของตัวเอง เขารู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก แม้จะยังมีความลังเลในใจอยู่บ้าง แต่เขาก็เริ่มมองเห็นเส้นทางข้างหน้าที่ชัดเจนขึ้นอาทิตย์เองก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวดาวเหนือ เขาเห็นรอยยิ้มที่จริงใจมากขึ้น และแววตาที่ไม่ได้ปิดกั้นอีกต่อไป"พี่คิดว่าเรื่องของเราต่อไปจะเป็นยังไง" ดาวเหนือถามขึ้นในขณะที่พวกเขากำลังนั่งอยู่ในสวนสาธารณะ "ยังไง" " ถ้าผมไม่ได้รับการบริจาคหัวใจ ป่านนี้เราทั้งสองคนคงไม่ได้มาเจอกันแบบนี้" และเขาก็คงนอนตายอยู่ในโรงพยาบาล ไม่ได้ออกมาใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกแบบอิสระ" อืม..คงเป็นโชคชะตาของเรามั้ง ไม่แน่ว่าดวงจันทร์อาจจะเป็นครึ่งหนึ่งของนายที่หล่นหายไปก็ได้" อาทิตย์พูดติดตลก "พี่นี่..." อาจจะเป็นเรื่องตลกเรื่องนึงที่ทำให้พวกเขายิ้มออก ถ้าดาวเหนือไม่ได้รับการบริจาคหัวใจดวงจันทร์ เขาก็คงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ ขณะเดียวกันดวงจันทร์ก็คงได้มายืนอยู่ข้างๆของคนที่เธอรัก เป็นเรื่องที่น่าเสียใจและก็น่าเสียดาย โชคชะตามักเล่นตลกกับเราเสมอ จากวันนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มเปลี่ยนไป จากความอึดอัดใจกลายเป็นความสบายใจที่สามา
หลังจากการไล่ล่า สุริยาถูกจับตัวได้ในที่สุด ตำรวจบุกเข้าไปยังบ้านพักชายแดนที่เขาซ่อนตัวอยู่ ลูกน้องที่หักหลังเขานำทางให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงโดยง่าย สุริยาในสภาพอิดโรยถูกลากตัวออกมาพร้อมเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราด “พวกแกคิดว่าเรื่องนี้จบง่ายๆ งั้นเหรอ!” สุริยากล่าวด้วยความแค้น เขาไม่อาจยอมรับว่าตัวเองจะถึงจุดจบง่ายๆเพราะลูกน้องกระจอกๆคนนึง สันต์มองเขาด้วยสีหน้าที่แน่วแน่ “ความยุติธรรมไม่เคยง่าย แต่ครั้งนี้มันจะต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม" คำพูดนั้นทำให้สุริยาแค้นเคืองเป็นอย่างมาก สายตาของเขาเต็มไปด้วยความแค้นเตรียมพร้อมที่จะเอาคืน " ฉันออกมาจากคุกเมื่อไหร่ พวกแกทั้งกรมตำรวจเตรียมล้างคอไว้ได้เลย!!" "หึ...ออกมาให้ได้ก่อนเถอะครับ" สันต์พูดพลางยิ้มเยาะหยัน หลังจากหลายวันใน ICU ประจงเริ่มมีอาการดีขึ้น เขาถูกย้ายไปยังห้องพักฟื้นธรรมดา ครอบครัวของเขาเฝ้าอยู่ไม่ห่าง ดาวเหนือนั่งข้างเตียง จับมือพ่อด้วยความรู้สึกผิด“พ่อครับ ผมขอโทษ...” ดาวเหนือกล่าวทั้งน้ำตาประจงยิ้มอ่อน แม้จะยังดูอ่อนแรง “ลูกไม่ได้ทำอะไรผิด ลูกทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว...พ่อภูมิใจในตัวลูก”คำพูดของประจงช่วยให
ในสำนักงานตำรวจ สันต์นั่งอ่านรายงานข้อมูลที่เขาได้มาจากแหล่งข่าวลับ เอกสารระบุถึงความเชื่อมโยงของธุรกิจมืดของสุริยาและสุริยันกับองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ“นี่มันเกินกำลังของเราแล้ว...” สันต์พึมพำเขาตัดสินใจยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยทหารพิเศษที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการกับอาชญากรรมข้ามชาติ และหน่วยปราบปรามพิเศษที่ทำงานร่วมกับตำรวจเพื่อเพิ่มกำลัง“พวกเขาจะต้องไม่มีที่ยืนในประเทศนี้อีกต่อไป” สันต์พูดด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยวในบ้านพักลับแห่งหนึ่ง สุริยาและสุริยันกำลังวางแผนหลบหนีออกนอกประเทศ พวกเขาตระหนักดีว่าการจับกุมอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ“พ่อครับ เราต้องรีบหนีไปชายแดนคืนนี้เลย” สุริยันพูดพลางมองแผนที่“ฉันไม่ยอมให้ไอ้ตำรวจพวกนั้นจับฉันได้ง่ายๆ หรอก” สุริยาพูดด้วยน้ำเสียงกร้าว “พวกมันจะรู้ว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายที่ถูกล่าเพียงอย่างเดียว”ทั้งสองพ่อ-ลูกวางแผนส่งลูกน้องบางส่วนไปก่อกวนหน่วยสืบสวนของสันต์เพื่อซื้อเวลา และเริ่มออกเดินทางไปยังจุดชายแดนที่เตรียมไว้ในบ้านพักที่มีการรักษาความปลอดภัยแน่นหนา ดาวเหนือ ดวงดารา และอาทิตย์พักอยู่ภายใต้การดูแลของตำรวจ ด