‘รู้งี้ฝากเอาแต้มของเขาไปแลกเครื่องดื่มชูกำลังมาด้วยก็ดี’ ใบหูสามเหลี่ยมแบบสุนัขสายพันธุ์ต่างประเทศลู่ลงดูน่าสงสารทีโอปรายตามองหมอประจำทีมอย่างรู้ทันแต่แค่ไม่พูดหวงแหละดูออก ไม่อยากให้ใครเห็นร่างเปลือยของแฟนละสิเขารู้... เขาดูออก~โจเซฟเองก็ดูออกแต่เลือกที่จะไม่พูด ใครสบายใจแบบไหนก็ทำตามที่ตนเองสะดวก เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ใช่ปัญหาอะไร สี่หนุ่มอาบน้ำโดยใช้เวลาไม่นาน พอถึงบ้านก็แยกย้ายกันไป เหลือเพียงนิโคลัสที่ยืนรอเฉินเฟิงออกมาจากตัวบ้าน“ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวจะมืดค่ำก่อน” ตะวันเริ่มลับขอบฟ้าแล้วด้วย“คุณอาบแล้วนี่ครับ เข้าไปพักผ่อนก่อนเลยผมจัดที่นอนไว้ให้แล้ว อาจจะไม่นิ่มเท่าฟูกที่บ้านแต่ก็พอให้นอนไม่ปวดหลังแน่ครับ”“เดี๋ยวค่อยเข้าไปดูพร้อมอาเฟิง” นิโคลัสยิ้มมุมปาก แสร้งทำเป็นไม่เข้าใจว่ากำลังโดนบอกให้อยู่ที่บ้านทางอ้อม“ตามใจ…” เจ้ากระต่ายทำริมฝีปากมุบมิบ รู้ดีว่าตนกำลังถูกแกล้งเข้าให้แล้วพอไปถึงน้ำตกนะ เขาจะรีบจุ่มตัวในน้ำ แล้วว่ายน้ำพาตัวเองออกห่างจากฝั่งอยู่ไกลขนาดนี้แล้วจะมีอะไรให้ดูอีก... หึเฉินเฟิงหมายมั่นในใจว่าคุณหมอหมีจะไม่ได้เห็นอะไรทั้งนั้น ถึงน้ำตกก็ทำอย่างที่ตนตั้งใ
พิมพากดหัวคิ้วลงเมื่อโสตประสาทคล้ายได้ยินเสียงลูกสาวคนโตกรีดร้องอยู่ในมโนสำนึก เป็นเพราะเธออ่อนแอไร้พลัง ลูกสาวที่เฝ้าทะนุถนอมถึงได้ถูกพาตัวไปอย่างง่ายดาย เมื่อได้พบหน้ากันอีกครั้ง... ไพลินก็จากเธอไปตลอดกาล“...” พิมพาเม้มปากแน่น เธอไม่อยากเห็นภาพเหตุการณ์นั้นอีก ไม่อยากทำได้เพียงขอร้องอ้อนวอน แต่อยากห้ำหั่นอะไรก็ตามที่บังอาจมาแตะต้องแก้วตาดวงใจของเธอ นี่ต่างหากที่เป็นแรงผลักดันให้เธออยากปลุกพลังพิมพาเหลือลูกสาวเพียงคนเดียว ถึงแม้พลอยใสจะเป็นผู้มีพลังพิเศษ สักวันหนึ่งคงโผบินออกจากอ้อมอก ไปผจญกับอันตราย แต่ในตอนนี้ยังเป็นเพียงเด็กน้อยอายุ 9 ขวบเท่านั้น อีกหลายปีกว่าจะโตพอที่จะไปเผชิญโลกกว้างโดยที่เธอไม่ต้องห่วงกังวลแต่ในช่วงเวลาอีกหลายปีต่อจากนี้ จนกว่าลูกสาวจะโตพอที่จะปกป้องตนเองได้ เธอจะไม่ยอมให้ใครมาพรากคนสำคัญไปจากเธออีก“แม่รักหนูนะ” พิมพาดึงลูกสาวเข้ามากอดแนบอก น้ำตาเม็ดโตไหลอาบแก้ม“แม่ไม่กินมันได้ไหม” พลอยใสขอร้องเสียงเครือ กลัวเหลือเกินว่าแม่จะต้องพบกับความเจ็บปวดและกลายเป็นคนอื่นที่ไม่สามารถกอดเธอแบบนี้ได้อีก“แม่ขอโทษลูก แต่แม่ตัดสินใจแล้ว”“พี่พิม…” ดาริณีตกใจกับการตัดสิน
พิมพาค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมา ก่อนจะปิดลงไปอีกครั้งเพราะมองเห็นภาพตรงหน้าไม่ชัดเจนนัก อีกทั้งยังถูกแสงแยงตาจนรู้สึกเวียนหัวไปหมดแรงกดทับที่หน้าอกทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่นเกิดอะไรขึ้น“พี่….” เสียงใคร“พี่… พี่… พี่พิม” เสียงใครกำลังเรียกเธอ“อึก!” พิมพานิ่วหน้าหนักขึ้นเมื่อตนเองพยายามปรับสายตาให้สู้กับแสง แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะทำได้เลยในระยะเวลาอันสั้น สุดท้ายก็ถอดใจนอนหลับตาลงไปอีกครั้ง“อย่าเพิ่งรีบครับ ค่อย ๆ กำหนดลมหายใจเข้าออก” นิโคลัสทำสัญญาณมือให้คนอื่นอย่าไปมุงดูผู้ใช้พลังพิเศษคนใหม่ของกลุ่ม รวมถึงให้เด็กหญิงพลอยใสไม่นำตัวเองไปทับบนอกแม่เดี๋ยวอีกฝ่ายจะหายใจไม่ออกพิมพาหลับตาลงไปอีกครั้งและพยายามทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ไม่นานอาการวิงเวียนก็จางหายไป แต่มีอาการอ่อนเพลียเข้ามาแทนที่“พี่ดื่มน้ำอุ่นสักหน่อยนะครับ” เฉินเฟิงแนะนำ ช่วงเวลาที่หมดสติ พิมพาได้รับสารอาหารน้อยเหลือเกิน ไม่ว่าจะป้อนอะไรไปก็ถูกคายออกมาเกือบหมดเวลานี้ร่างกายคงกำลังประท้วงอย่างรุนแรงหญิงสาวอ้าปากรับน้ำอุ่น คนป้อนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เด็กหญิงป้อนไปน้ำตาก็ไหลเป็นสายดีใจเหลือเกินที่มารดาฟื้นขึ้นมาเฉินเฟิงถือฟ
“ครับ ผมอยากได้ผลของมันมาทำเป็นขนม” แถมก่อนหน้านี้ดาริณีก็เปรย ๆ ไว้ว่าอยากให้เขาปลูกต้นมะกรูดสักต้น เธอจะได้นำผิวมะกรูดมาลองทำเป็นยาสระผมเพราะที่มีอยู่ใกล้หมดเต็มทีเฉินเฟิงมองหาจุดเหมาะ ๆ สำหรับวางเมล็ดมะกรูด ไม่นานก็นำไปปลูกด้านข้างแปลงผักแทน นานวันเข้ามันคงต้นใหญ่ขึ้น ไว้รอบนอกจะดีกว่าใช้พลังเร่งโตไม่นาน มะกรูดที่เคยเป็นเพียงเมล็ดเล็ก ๆ ก็เติบใหญ่สูงพ้นหัวเจ้ากระต่าย ออกดอกออกผลเต็มต้น“มาช่วยกันเก็บหน่อยครับ” เฉินเฟิงกวักมือเรียกคนตัวสูงกว่าให้มาช่วยทำงานนิโคลัสเองก็เต็มใจช่วยไม่มีอิดออด จะให้เขาทำอะไรก็ได้ขอแค่ได้อยู่ใกล้เจ้ากระต่ายก็พอ แค่นี้เขาก็มีความสุขมากแล้วพอมีคนช่วย มะกรูดตะกร้าใหญ่ก็ปรากฏสู่สายตาหลังใช้เวลาเก็บไปแค่ 10 นาที เฉินเฟิงจึงเดินนำไปหยิบมีด กะละมัง และเกลือไปที่น้ำตก“เราต้องใช้น้ำเยอะครับ ไปทำตรงนั้นเลยดีกว่า” เฉินเฟิงเดินนำไปยังเครื่องกรองน้ำที่ตั้งอยู่ด้านข้าง เขาได้แนวคิดนี้มาจากคุณครูเมตตา ถึงน้ำตกจะดูใสสะอาดแต่ป้องกันไว้ก่อนก็ดีกว่า แล้วต้องให้คุณหมอหมีต้มน้ำให้ด้วยเพื่อสุขอนามัยที่ดี“คุณนิคดูผมปอกเปลือกมะกรูดแล้วทำตามนะครับ” เฉินเฟิงแนะนำ หยิบมะกรูด
“แต่เมื่อกี้อาเฟิงก็กินไปชิ้นหนึ่งนี่” คุณหมอหมีพูดต่ออย่างไม่ยอมแพ้ เวลานี้พวกเขาอยู่ในห้องใต้ดิน เมื่อสักครู่เขานำขวดโหลสองขวดมาวางไว้บนชั้นหินที่ดาริณีทำเอาไว้เพื่อวางสิ่งของ และก่อนที่จะหมุนตัวกลับเจ้ากระต่ายก็ปิดขวดโหลใช้ช้อนตักกินหนึ่งชิ้น แน่นอนว่าคนที่เคยได้กินไปแล้วก็อยากกินอีกเช่นกัน“ก็ผมเป็นคนทำนี่ครับ”“ผมก็เป็นลูกมือ”“แต่คุณกินไปเยอะแล้ว” เยอะกว่าเขาที่เป็นคนทำอีก“ก็มันอร่อย” ริมฝีปากบางพูดอุบอิบแทบไม่มีเสียง แต่เฉินเฟิงที่หูดีได้ยินเต็ม ๆ“งั้น…” เจ้ากระต่ายใจอ่อนยวบ เดินเข้าไปใกล้คนรักแล้วเขย่งปลายเท้าให้ความสูงของตนเพียงพอที่จะรั้งใบหน้าของคนตัวสูงให้ก้มลงมาชิมรสชาติของมะกรูดลอยแก้วแสนอร่อย... จากปากของเขาน่ะนะ“อร่อยไหมครับ” เฉินเฟิงผละออกมาจากคนตัวโต ใบหน้าหล่อเหลามีริ้วสีอ่อนพาดผ่าน ใบหูกลมบนศีรษะก็ตั้งตรง เดาว่าคงตกใจหรือไม่ก็เขิน“...”“ไม่อร่อยเหรอ” เห็นอีกคนเงียบไป“ขออีกคำหนึ่ง” นิโคลัสก้มตัวลงไปใกล้ ปลายจมูกปัดผ่านแก้มใส กล่าวอ้อนวอนร้องขอความหวานแสนอร่อยอีกหนึ่งคำ มือไม้ก็อยู่ไม่สุขโอบเอวคนรักไว้หลวม ๆ“กินมากกว่านี้ก็แย่สิครับ เดี๋ยวจะเอือมได้นะ” เฉินเฟิง
“เย็นนี้รอกินของอร่อยได้เลยครับ” เฉินเฟิงสลัดอาการเขินอาย รีบเดินกลับไปที่บ้านเพื่อเตรียมตัวไปล่าสัตว์มาทำเป็นอาหารเย็น แน่นอนว่านิโคลัสต้องตามติดชนิดแนบสนิทยิ่งกว่าเงา“พี่นิคแน่ใจนะว่ามีตัวอะไรอยู่จริง” เพราะเขาไม่ได้ยินเสียงเลยจริง ๆ ที่ผ่านมาก็มีเสียงพวกสัตว์เล็กอยู่บ้าง แต่คิดว่าถ้าต้องล่ามากินกับคนจำนวนมาก มันก็ดูจะน้อยนิดเกินไป เลยไม่เคยนึกมาก่อน อีกทั้งในระยะสองกิโลเมตรที่เขาได้ยินก็ไม่มีสัตว์มากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นพวกหนูหรือไม่ก็งูราวกับว่ามันรู้ตัวว่าถ้าเข้ามาใกล้อาณาบริเวณนี้อาจจะทำให้ไม่มีชีวิตรอดกลับไปได้ ถึงจะมีกลิ่นอาหารลอยมายั่วยวนจมูกอยู่ทุกวันก็ตาม พืชพรรณก็เจริญงอกงามเห็นแล้วน้ำลายสอ ทว่าก็ต้องอดทนไว้แล้วดั้นด้นออกไปหากินที่แหล่งอื่นเตรียมตัวเรียบร้อยกระต่ายตัวโตกับหมียักษ์ก็ออกเดินทางโดยมีนิโคลัสเดินนำเพราะเป็นเพียงคนเดียวที่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวจากระยะไกลทั้งสองเลือกที่จะเดินสลับวิ่ง เพื่อไม่ให้ไปถึงเป้าหมายล่าช้า อีกทั้งตอนนี้ก็ใกล้จะบ่ายสามเข้าไปแล้ว ถ้าล่าได้ยังต้องเสียเวลาชำแหละอีกหลายขั้นตอนต้องทำเวลาสักหน่อยไม่ถึงครึ่งชั่วโมง จากที่ไม่ได้ยินเสียงการเคล
ตึง!เสียงนกร้องโหวกเหวกไม่ได้ทำให้มนุษย์และสัตว์ให้ความสนใจ ฉับพลันตรงใต้เท้ากลับมีเถาวัลย์เลื้อยพันขา แต่มันก็กระโดดหลบได้ทันก่อนที่จะถูกพันธนาการเฉินเฟิงที่เสริมพลังให้กับเถาวัลย์ไม่ทันถึงกับสบถอย่างหัวเสียเขากะจะลองจากระยะ 200 เมตรดูบ้าง ทดสอบขีดจำกัดตนเอง อย่างคราวที่ใช้กับเถาฟักทองนั้นทำได้ง่ายเพราะเขาอยู่ข้าง ๆ เถานั้นตลอดเวลา แต่ระยะห่างที่มากทำให้เขาไม่สามารถส่งพลังได้อย่างเต็มที่หรือต้องเลื่อนขึ้นเป็นระดับที่สองก่อน?แม้จะพลาดแต่นิโคลัสก็ฉวยจังหวะนั้นใช้มีดของตนปักเข้าที่ลำคอของมันได้พอดีมันสะบัดตัวหนีไม่ทันจึงถูกชายหนุ่มแทงอีกหนึ่งแผลม้ออออ!!!ความเจ็บปวดจากบาดแผลทำให้มันคิดจะหนีขวับ!คุณหมอหมีใช้โอกาสที่มันหันหลังเตรียมวิ่งจากไปดึงมีดยาวออกมาจากฝัก จากนั้นก็วิ่งไปยังต้นไม้เพื่อใช้เป็นฐานส่งพุ่งตัวไปอยู่เหนือวัวสีแดงตัวนั้น แล้วฟันลงไปที่คอมันจนขาดออกจากร่างในคราวเดียว“สำเร็จ!” เฉินเฟิงออกจากที่ซ่อน กระโดดชูแขนก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดคนรักเย็นนี้จะมีเนื้อกินแล้ว!!ไชโย!ตกเย็นในขณะที่ทุกคนกำลังงงว่าเชฟหายไปไหน ก็ได้คำตอบในเวลาต่อมาเมื่อเห็นทั้งสองคนช่วยกันแบกวัวตัวใหญ่กล
โจเซฟทำเป็นไม่รับรู้สายตาอยากรู้อยากเห็นของสมาชิกในทีม เรื่องนี้ยังต้องดูกันอีกสักระยะ แม้ใจเขาอยากจะป่าวประกาศให้รู้ว่าตอนนี้ระดับความสัมพันธ์ของเขากับดาริณีมีความคืบหน้าไปพอสมควรแล้วถ้าเป็นก่อนวันสิ้นโลกก็คงบอกว่าเป็นคนคุยที่รอวันเลื่อนเป็นแฟนช่วงแรกที่ได้มาอยู่ที่หมู่บ้านเขามีความคิดว่าจะหาที่ดินแล้วปลูกบ้านสักหลังหนึ่งเพราะถูกใจกับธรรมชาติและวิถีชีวิตที่สงบราบรื่น แม้โลกภายนอกจะมีซอมบี้เดินเพ่นพ่านแต่ผู้คนก็สามารถรับมือและใช้เวลาไม่นานในการปรับตัว แต่เดิมการดำรงชีวิตอยู่ในชนบทก็ไม่ได้พึ่งพาความสะดวกสบายอย่างที่คนในเมืองใหญ่คุ้นชิน อยากกินข้าวก็ปลูกข้าว อยากกินปลาก็จับปลา ทุกอย่างล้วนต้องทำด้วยสองมือฝ่าสมรภูมิมาก็หลายที่ ในที่สุดก็เพิ่งเข้าใจว่าตนเองนั้นต้องการอะไร อีกทั้งยังเจอคนที่ทำให้เขาใจเต้นตึกตักเป็นครั้งแรก…ยอมรับว่าสิ่งที่ดึงดูดใจเขาในตัวของหญิงสาวคือพลังพิเศษที่ดูไม่เข้ากับใบหน้าสวยหวาน เขาชอบผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่ยังคงไว้ซึ่งความอ่อนหวาน แต่ในสนามรบ ทหารหญิงส่วนมากจะมีความกล้าแกร่งไม่ต่างจากผู้ชาย คนเหล่านั้นพอต้องทำงานร่วมกัน นานเข้าก็ถูกจัดวางไว้ในหมวดเพื่อนร่วมเป
ต้นจามจุรีต้นนี้อยู่มาหลายร้อยหลายพันปี มันหยั่งรากลึกจนแทบจะเป็นส่วนหนึ่งกับภูเขาทั้งลูก จึงเป็นการยากที่จะหักโค่นในทันทีหญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ กัดฟันเร่งพลังในร่างออกมา แขนเหยียดตึงเผยให้เห็นกล้ามเนื้อภายในเรียวแขนบอบบาง ไม่ได้ขึ้นนูนแบบนักกล้ามมืออาชีพ แค่ดูลีนคล้ายคนออกกำลังกายเป็นนิจ ใบหน้าสวยแดงก่ำตั้งแต่ลำคอไปถึงใบหูฟากโจเซฟก็คอยสนับสนุนอยู่ด้านหลัง ป้องกันไม่ให้หญิงสาวถูกลอบทำร้าย แม้ส่วนมากเฉินเฟิงกับนิโคลัสจะคอยสกัดไว้ก่อน แต่เขาก็ไม่ประมาทเปรี๊ยะ…เพียงเสี้ยววินาทีเนื้อไม้ก็ส่งเสียงแตกหักเพียงบางเบา วินาทีนั้นเลือดในกายของหญิงสาวก็ยิ่งสูบฉีด รีดเค้นพลังทุกหยาดหยดที่ซุกซ่อนตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายออกมาให้มากกว่านี้…มากกว่านี้อีก!!“อ๊าาาา!!!!” ฝ่ามือดาริณีจมเข้าไปในเนื้อไม้ เส้นเลือดหลังฝ่ามือขึ้นนูนแสดงให้เห็นว่าหญิงสาวใช้ออกแรงไปมากเพียงใดสุดแรงแล้ว... นี่คือสุดแรงที่เธอมีทั้งหมดแล้ว!เปรี๊ยะ!คราวนี้เสียงไม้ลั่นได้ยินชัดทุกคน แม้ไม่มีพลังพิเศษโจเซฟก็ยังได้ยินเต็มสองหู“อ๊าาาาาาาา!!!”“กี๊ซซซซ!!” เสียงดาริณีประสานกับเสียงต้นไม้ปิศาจ มันไม่ยินยอมหักโค่นทั้งอ
ต้นจามจุรีหรือต้นก้ามปู ถือเป็นต้นไม้ยืนต้นที่อยู่ในวงศ์เดียวกับพืชตระกูลถั่ว ใบของมันจึงมีธาตุไนโตรเจนที่สูงกว่าใบไม้ชนิดอื่น สามารถช่วยเพิ่มธาตุอาหารที่มีประโยชน์ในดินได้ ชาวบ้านบางคนในหมู่บ้านก็ใช้ใบจามจุรีนำไปผสมคลุกเคล้ากับดินหรือแกลบเพื่อนำไปเป็นส่วนผสมหลักในการเพาะปลูกต้นกล้า ก่อนจะนำพวกมันไปลงแปลงต่อไปลืมไปได้ยังไงกัน!เขาลืมเรื่องสำคัญอย่างนี้ไปได้ยังไงกัน!ตูม!“รับทราบ!” นิโคลัสวิ่งฝ่าเข้าไปในคลื่นรากไม้ ใช้พลังทำลายรากที่อยู่ใกล้ตัวให้มากที่สุด หากสร้างความเสียหายให้มันได้มากเท่าไร การซ่อมแซมตัวมันเองก็ต้องใช้สารอาหารมากเท่านั้น มาดูกันว่าใบที่มันสลัดหลุดจนหมดจะเพียงพอให้มันใช้ได้ตลอดรอดฝั่ง หรือจะเป็นตัวเขาที่หมดแรงก่อนต้นจามจุรียามไร้ใบนั้นดูน่ากลัวยิ่งกว่าตอนที่มันยังคงมีใบปกคลุมเสียอีก เมื่อใดที่มันสะบัดกิ่งสีน้ำตาลเข้มสวนทางลม ยิ่งเสริมให้ดูเหมือนหลุดออกมาจากกราฟิกซีจีขั้นสูงในภาพยนตร์แฟนตาซีคราวนี้เฉินเฟิงเองก็ไม่ได้รอซัพพอร์ตอยู่รอบนอกอีก เขากระชับมีดในมือ คอยหาโอกาสตัดกิ่งใกล้ตัวโดยหวังว่าจะสามารถลดจำนวนกิ่งที่เป็นอันตรายให้กับคนรักที่อยู่ใกล้ต้นจามจุรีมากที่สุด
ต้นจามจุรีส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด หากเป็นกิ่งเล็กกิ่งน้อยมันคงแค่รู้สึกโกรธ แต่กิ่งที่ถูกทำลายไปนั้นอยู่กับมันมาเนิ่นนาน การสูญเสียไปก็ไม่ต่างจากเสียอวัยวะสำคัญ มันเร่งดูดสารอาหารในดินหวังจะซ่อมแซมและงอกกิ่งก้านนั้นขึ้นมาใหม่!!!กิ่งไม่งอก!เพราะอะไรกัน!!นิโคลัสไม่รู้ว่าทำไมอยู่ ๆ เจ้าต้นไม้ปิศาจถึงนิ่งไป เขาจึงใช้โอกาสนี้สาดลูกไฟใส่ไม่ยั้ง ไม่ใช่แค่ด้านหน้า แต่วิ่งวนล้อมเป็นวงกลมให้มันติดไฟทุกทิศทาง!พอสังเกตดี ๆ ใบที่เคยเขียวชอุ่มเองก็เริ่มแห้งกรอบ ติดไฟง่ายกว่าเดิมอีกต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่ ๆ แต่จะอะไรก็ช่างนี่เป็นโอกาสที่ดี!เฉินเฟิงมองภาพต้นจามจุรีลุกเป็นไฟ ในสมองราวกับได้ยินเสียงกรีดร้องไม่ยินยอม คล้ายไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งตัวเขาเป็นผู้ใช้พลังพฤกษาย่อมพอรู้ว่ามันกำลังคับข้องใจในเรื่องใดตั้งแต่เริ่มเปิดฉากต่อสู้ เจ้ากระต่ายก็ปลูกต้นลิ้นมังกรยักษ์ไว้มากมาย มองผิวเผินอาจจะทำไปเพื่อฟอกอากาศให้พวกเขาสองคนยังสามารถต่อสู้ได้ท่ามกลางฝุ่นควัน นั่นคือจุดประสงค์หลัก…ส่วนจุดประสงค์แอบแฝงแย่งสารอาหารในดินกับต้นจามจุรียังไงล่ะ!! …กิ่งของมันไม่งอก!พลังงานขอ
ตูม!ไม่รอให้ทั้งสองคนปรึกษากัน ต้นจามจุรียักษ์ก็ฟาดกิ่งลงมาบริเวณที่พวกเขายืนอยู่พอดีเฉินเฟิงกระโดดหลบออกไปอยู่วงนอก เขาหยิบต้นลิ้นมังกรขึ้นมาปลูกทันที แม้ดินแถวนี้จะไม่อุดมสมบูรณ์นัก แต่ก็ต้องปลูกให้เยอะเข้าไว้ เพราะนอกจากจะช่วยฟอกอากาศแล้ว ยังเป็นการช่วยคุณหมีสู้อีกทางหนึ่งเช่นกัน แค่อาจจะยังไม่เห็นผลในตอนนี้และคิดว่าในไม่ช้าต้นไม้ปิศาจเองก็ต้องรู้ว่าเขาได้วางกับดักบางอย่างลงไปแล้ว... หึหึฟากนิโคลัสก็ไม่ปล่อยให้มันเพ่งเล็งคนรัก ยินดีรับบทตัวแท็งก์สร้างลูกบอลไฟในมือจำนวนหนึ่ง ครึ่งหนึ่งปาใส่ลำต้น และอีกครึ่งปาใส่กิ่งก้านสาขา น่าเสียดายที่เป็นใบไม้สดทำให้ติดไฟยากไปสักหน่อยซึ่งบริเวณลำต้นนั้นก็เข้าถึงยากเช่นกัน เมื่อใดก็ตามที่ชายหนุ่มจงใจโจมตีใส่กลางต้นก็มักจะมีรากโผล่ขึ้นมาจากดิน คอยปัดป้องการโจมตีนั้นเสมอ ทำให้ต้องเบี่ยงไปโจมตีกิ่งก้านด้านบนแทนทั้งเจ้ากระต่ายและคุณหมีต่างก็พยายามทำหน้าที่ของตนเองอย่างสุดความสามารถ แต่ต้นไม้ยักษ์ใหญ่เองก็ตระหนักดีว่านี่คือศัตรูที่ยากจะต่อกร มันเองก็ทุ่มสุดตัวเช่นกันกิ่งก้านกวัดแกว่งฉวัดเฉวียน แพทย์ทหารหนุ่มต้องกระโดดโยกหลบเป็นพัลวัน หรือแม้แต่เ
ปางช้างพนาไพรแห่งนี้เคยมีข่าวใหญ่โตถึงขั้นพาดหัวหนังสือพิมพ์ทุกสำนักอยู่ครั้งหนึ่ง เป็นข่าวที่ทำเอาตำรวจและกรมป่าไม้ถึงกับกุมขมับ… นั่นก็คือข่าวนักท่องเที่ยวหายตัวไปอย่างลึกลับ หลังแอบลักลอบขึ้นไปบนภูเขาด้านหลังปางช้างโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อนสนิทที่ไปเที่ยวด้วยกันให้ข้อมูลว่า เพื่อนของพวกเขาหายไปตอนแรกก็คิดว่าคงไปเที่ยวเล่นที่ไหน เพราะปกติเจ้าตัวก็ไปไหนไม่ค่อยบอกใคร จนกระทั่งถึงวันที่ต้องออกจากรีสอร์ตเพื่อนคนดังกล่าวก็ไม่ปรากฏตัว จึงไปแจ้งที่ตึกสำนักงานเพื่อขอดูกล้องวงจรปิดว่าเพื่อนของตนได้ไปที่ไหนอีกหรือไม่ และภาพสุดท้ายก็คือภาพที่ชายหนุ่มคนหนึ่งทำลับ ๆ ล่อ ๆ เดินไปยังภูเขาด้านหลังด้วยตัวคนเดียวหลังผ่านไป 2 วันแล้วก็ไม่มีวี่แววว่าจะกลับลงมา จึงลงความเห็นว่าอาจจะหลงป่า หรือไม่ก็บาดเจ็บจนไม่สามารถกลับลงมาด้วยตัวเองได้ทางปางช้างจึงเร่งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ให้เร่งติดตามหาชายหนุ่มคนดังกล่าว แต่ผ่านไปหลายวันก็ไม่พบวี่แวว กำลังคนที่มีเองก็จำกัด จึงขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่มีความสามารถในการเดินป่ามาช่วยหาอีกแรงหมู่บ้านในละแวกนั้นล้วนเป็นคนที่คุ้นชินกับ
โจเซฟนิ่งคิด“แผนที่วางไว้ก่อนหน้านี้คืออะไร” ก่อนจะเปลี่ยนไปถามเรื่องอื่นแทน“ระเบิดภูเขา เผาป่าให้เหี้ยน”“โอเค เข้าใจแล้ว” คนเป็นหัวหน้าพยักหน้าเห็นด้วย เขาได้ฟังสถานการณ์คร่าว ๆ จากเฉินเฟิงมาบ้างแล้ว ดังนั้นสิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่เลยก็คือต้นไม้ปิศาจ และร่างจริงของมันก็อยู่ห่างจากที่นี่ไม่ถึง 7 กิโลเมตรในเมื่อเป็นต้นไม้ก็ต้องกำจัดด้วยไฟถึงจะไม่เหลือซาก และการระเบิดภูเขาเองก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะมั่นใจได้ว่ารากไม้ที่อยู่ในดินจะไม่สามารถฟื้นคืนชีวิตได้อีกแผนนี้นับว่าไม่เลวเลย“คุณพิม หงส์ แล้วก็ตุ่นลงไปสร้างแนวดินที่ตีนภูเขา ป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามไปไกล เป็นไปได้ก็สร้างรอบภูเขาลูกนี้ไปเลย”“ที่โรงเลี้ยงช้างมีรถบรรทุกคันเล็กจอดอยู่ครับ ผมลองสตาร์ตดูแล้วสามารถใช้ได้ แต่ก่อนหน้านั้นช่วยรอให้พวกผมสามารถดึงความสนใจของมันได้ก่อน อย่าเพิ่งออกจากบาเรียนะครับ” กว่าจะสร้างแนวกันไฟได้คงต้องวิ่งวนรอบภูเขากันล่ะ“โอเค” สองสามีภรรยารับคำสั่งอย่างแข็งขัน พาพิมพาไปยังรถบรรทุกคันเล็กทันที “อาเฟิงยังมีต้นลิ้นมังกรอยู่ไหม พวกเราเองก็จำเป็นต้องใช้ เดี๋ยวจะโดนรมควันตายกันหมด” ต้นไม้ปิศาจอยู่นอกบาเรีย ตอนนี้ท
พลายวารีก็รู้ความ ไม่ดื้อไม่ซน นั่งเอาก้นแช่น้ำ ใช้งวงสาดน้ำมาที่เขาอย่างสนุกสนานพอเริ่มร้อนก็ราดน้ำให้ตัวเองสักทีเกือบหนึ่งชั่วโมงกำแพงไฟก็ถูกจุดติดครบทุกแห่ง จากที่มองด้วยสายตาคร่าว ๆ บาเรียของที่นี่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-10 กิโลเมตรเลยทีเดียวส่วนสาเหตุที่เจ้ากระต่ายไม่ได้อยู่ข้าง ๆ คนรักเป็นเพราะกำลังใช้พลังของตนเองเร่งให้ต้นลิ้นมังกร[1]เติบโต เขาเห็นมันถูกเถาวัลย์พันจนแทบดูไม่ออกอยู่ที่อาคารสำนักงานของปางช้างแห่งนี้ คาดว่าคงถูกนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ เฉินเฟิงจำได้ว่าหลายบ้านนิยมปลูกไม้ชนิดนี้มากเพราะมีสรรพคุณช่วยฟอกอากาศ บางคนจึงนำไปปลูกไว้ในห้องนอนเพื่อให้มีพื้นที่สีเขียวในห้องและได้รับอากาศบริสุทธิ์เขาจึงคิดว่าหากนำมันมาเร่งโตและเพิ่มความสามารถในการฟอกอากาศของมันให้มากขึ้นอีก จะสามารถกำจัดควันไฟปริมาณมหาศาลนี้ได้หรือไม่... โชคดีที่ทำได้เฉินเฟิงจึงไม่รอช้าถอนต้นลิ้นมังกรที่พบเห็นทุกต้นออกมาเร่งให้มันโตจนสูงใหญ่ยิ่งกว่าพลายมงคล กลายเป็นเครื่องกรองอากาศขนาดยักษ์ ทำให้ภายในบาเรียยังคงมีอากาศหายใจแม้ว่าด้านนอกจะเต็มไปด้วยไฟและฝุ่นควันทางด้านต้นไม้ปิศาจก็ใช่ว่าจะยอมแพ้โดยง่าย ร
“!!!!”“ข้างหน้าเป็นกำแพงไฟ!” ตุ่นคว้าคนรักเข้ามากอดแนบอก ส่วนมืออีกข้างก็เตรียมพร้อมอยู่ที่ประตูรถเตรียมเปิดกระโดดทุกเมื่อหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน[มาเลย! ฝ่ากำแพงไฟมาเลย!!] เสียงในสมองเร่งเร้า“เป็นไงเป็นกันวะ!” โจเซฟเหยียบคันเร่งจนมิด คนที่อยู่ในตู้คอนเทนเนอร์อย่างดาริณีและพิมพาเองก็กอดกันแน่น แม้จะไม่ได้เห็นเหตุการณ์แต่ก็พอเดาได้ว่าคงเกิดเรื่องบางอย่างตึง!!รถบรรทุกขนาดใหญ่พุ่งชนกำแพงรากไม้ที่เริ่มเปราะบางจากการถูกเผาไหม้มาเป็นเวลาหลายชั่วโมง ทำให้หน้ารถไม่ได้รับความเสียหายมากนัก พอพ้นจากแนวไฟก็ได้พบกับรีสอร์ตร้างที่มีช้างเชือกหนึ่งยืนต้อนรับอยู่“...” หงส์หรี่ตามองภาพตรงหน้าอย่างยากจะเชื่อ“...” ไม่ใช่แค่หงส์ที่ตกใจ ทั้งโจเซฟและตุ่นต่างก็มองภาพไฟกำลังลุกโหม ผิวเนื้อยังคงสัมผัสได้ถึงไอร้อนระอุแต่ทั้งที่เป็นแบบนั้น บริเวณรีสอร์ตกลับไม่มีไฟไหม้เลยสักนิด!แม้แต่สะเก็ดไฟก็ไม่มี ควันไฟเองก็มีปริมาณน้อยกว่าด้านนอกอย่างเห็นได้ชัด“มากันจริง ๆ ด้วย” พลายมงคลมองกลุ่มผู้มาเยือน เฉินเฟิงบอกว่าจะเรียกกำลังสนับสนุนที่อยู่ห่างออกไป 10 กิโลเมตร ใครจะไปคิดว่าพวกเขาจะเห็นสัญญาณขอความช่วยเหลือและมาจริ
ปกติการลงเขาในเวลากลางวันจะใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงเพราะต้องเดินลัดเลาะ อ้อมตรงนั้นหลบตรงนี้ไปตลอดทาง แต่ด้วยความเร่งรีบตุ่นจะเป็นคนวิ่งนำหน้าไปก่อนเป็นเส้นตรงเพื่อตรวจสอบเส้นทาง ส่วนดาริณีจะรับหน้าที่วิ่งเป็นแนวหน้า หากเจอสิ่งกีดขวางที่ไม่จำเป็นต้องวกอ้อมอย่างหินก้อนใหญ่หรือพุ่มไม้ก็จะใช้กำลังหักร้างถางพงด้วยตนเองเพื่อทำเวลาให้เร็วที่สุด และไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาทั้งหมดจะมาถึงตีนเขาโดยใช้เวลาไปแค่ 3 ชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้น เก็บเป็นสถิติใหม่ได้เลยแม้จะลงมาถึงได้อย่างรวดเร็วแต่ก็เล่นเอาเหนื่อยหอบไปตาม ๆ กัน พิมพาแทบเป็นลมล้มทั้งยืน ถ้าไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้เธอไปฝึกร่วมกับเด็ก ๆ คงหมดแรงตั้งแต่ครึ่งทาง หงส์รีบมาช่วยประคองไปที่รถบรรทุกคอนเทนเนอร์อาหารแห้งที่ยังจอดทิ้งไว้นอกหมู่บ้าน เนื่องจากเฉินเฟิงกับนิโคลัสขับรถของคุณยายไป พาหนะที่พวกเขาพอจะหยิบใช้ได้โดยไม่ต้องขอคนอื่นก็มีแต่รถคันนี้ภายในหมู่บ้านเองก็มีชาวบ้านเริ่มออกมามุงดูบ้างแล้ว แต่เพราะไม่รู้สถานการณ์จึงทำได้เพียงแค่ดู ไม่สามารถโทรแจ้งหน่วยงานไหนได้เลย อีกทั้งมองจากระยะสายตาก็รู้แล้วว่าไกลจากที่นี่พอสมควร เดินทางตอนกลางคืนมีแต่เสี่