โจเซฟทำเป็นไม่รับรู้สายตาอยากรู้อยากเห็นของสมาชิกในทีม เรื่องนี้ยังต้องดูกันอีกสักระยะ แม้ใจเขาอยากจะป่าวประกาศให้รู้ว่าตอนนี้ระดับความสัมพันธ์ของเขากับดาริณีมีความคืบหน้าไปพอสมควรแล้วถ้าเป็นก่อนวันสิ้นโลกก็คงบอกว่าเป็นคนคุยที่รอวันเลื่อนเป็นแฟนช่วงแรกที่ได้มาอยู่ที่หมู่บ้านเขามีความคิดว่าจะหาที่ดินแล้วปลูกบ้านสักหลังหนึ่งเพราะถูกใจกับธรรมชาติและวิถีชีวิตที่สงบราบรื่น แม้โลกภายนอกจะมีซอมบี้เดินเพ่นพ่านแต่ผู้คนก็สามารถรับมือและใช้เวลาไม่นานในการปรับตัว แต่เดิมการดำรงชีวิตอยู่ในชนบทก็ไม่ได้พึ่งพาความสะดวกสบายอย่างที่คนในเมืองใหญ่คุ้นชิน อยากกินข้าวก็ปลูกข้าว อยากกินปลาก็จับปลา ทุกอย่างล้วนต้องทำด้วยสองมือฝ่าสมรภูมิมาก็หลายที่ ในที่สุดก็เพิ่งเข้าใจว่าตนเองนั้นต้องการอะไร อีกทั้งยังเจอคนที่ทำให้เขาใจเต้นตึกตักเป็นครั้งแรก…ยอมรับว่าสิ่งที่ดึงดูดใจเขาในตัวของหญิงสาวคือพลังพิเศษที่ดูไม่เข้ากับใบหน้าสวยหวาน เขาชอบผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่ยังคงไว้ซึ่งความอ่อนหวาน แต่ในสนามรบ ทหารหญิงส่วนมากจะมีความกล้าแกร่งไม่ต่างจากผู้ชาย คนเหล่านั้นพอต้องทำงานร่วมกัน นานเข้าก็ถูกจัดวางไว้ในหมวดเพื่อนร่วมเป
แปล๊บ“...” ดาริณีเม้มปากแน่น ในอกพลันเจ็บปวดขึ้นมา“ขอแค่คุณรับรู้ว่าผมรู้สึกแบบนี้กับคุณก็พอ แต่ไม่ต้องกังวลนะครับผมตัดใจได้และพร้อมจะกลับไปเป็นเพื่อนของคุณ” โจเซฟไม่หวังว่าจะได้รับความรักตอบจริง ๆเขาแค่อยากพูดคำว่ารักออกไปเท่านั้น...โจเซฟเห็นหญิงสาวมีสีหน้าลำบากใจก็ก้มศีรษะให้ เตรียมหันหลังเดินกลับไปตั้งสติที่บ้านพัก วันพรุ่งนี้เขาต้องพยายามทำตัวให้เหมือนปกติ เพื่อยืนยันให้หญิงสาวเห็นว่าเขาสามารถกลับไปเป็นเพื่อนได้อย่างที่ปากว่า“เดี๋ยวก่อนค่ะ” ดาริณีร้องห้าม ใบหน้าสวยหวานก้มต่ำทำให้มองไม่เห็นแววตา“ครับ” โจเซฟหันกลับมา“คือว่า… เอ่อ เรา... เราคุยกันก่อนได้ไหมคะ แบบว่าเหมือนที่วัยรุ่นเขาเรียกกัน แบบคุย... เอ่อ คุยเหมือนคนคุย” หญิงสาวกลั้นใจถาม เพราะเร่งรีบพูดสิ่งที่คิดออกไปทั้งหมด ลิ้นเลยพันกันจนแทบจะฟังไม่ออกว่าต้องการสื่ออะไร“ขอเวลาเรียบเรียงคำพูดหน่อยนะคะ” ดาริณีหันหน้าหนี อาการปวดใจเพราะชายหนุ่มตรงหน้าบอกว่าในอนาคตเขาอาจจะไม่อยู่เคียงข้างทำให้หญิงสาวตระหนกระคนหวาดกลัวมันไม่ใช่ความหวาดกลัวแบบเพื่อนล้มหายตายจาก... เธอรู้ว่ามันไม่ใช่มันมีอะไรมากกว่านั้นชายหนุ่มหัวหน้าทหารรับ
อา… ยากจังเอาเป็นว่าเขาให้คุณลุงโจเซฟ 3 ผ่าน เดินเครื่องจีบแม่เขาได้เลย!เฉินเฟิงไม่คิดว่าสองคนนี้จะแอบกุ๊กกิ๊กกันโดยที่พวกเขาไม่รู้ไม่เห็น แสดงว่าเพิ่งจะเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ในตอนที่เพิ่งกลับมารอบนี้เห็นพี่สาวข้างบ้านยิ้มเอียงอายก็ลอบยินดี ในที่สุดก็ได้เจอคนดี ๆ ในชีวิตเสียที ทั้งที่แต่งงานไปแล้วแต่ก็มักจะกลับมานอนที่บ้านแม่เสมอถ้ารักกันกับสามีดีจะกลับบ้านทำไมทุกสัปดาห์มองจากนอกโลกยังรู้เลยว่าต้องมีปัญหาทุกคนคันปากอยากแซว แต่ก็ยั้งกันไว้ได้กลัวพูดมากจะทำให้เรื่องแย่ลง รอให้เปิดตัวคบหากันอย่างเป็นทางการแล้วค่อยแซวก็ยังไม่สายอาหารเย็นผ่านพ้นไปด้วยดี ตุ่นกับหงส์อาสาขอเก็บล้างโดยมีลูกมือเป็นเจ้าแสบจอมซน 3 คนร่วมด้วย เฉินเฟิงกับนิโคลัสจึงแยกไปอาบน้ำแล้วเตรียมตัวพักผ่อนที่บ้านตัวบ้านทุกหลังจะมีลักษณะภายในเหมือนกัน นั่นก็คือชั้นล่างจะถูกออกแบบให้เป็นห้องโถง มีบันไดพาขึ้นไปชั้นสองที่เป็นห้องนอน ซึ่งเฟอร์นิเจอร์เริ่มต้นที่ดาริณีทำให้ก็คือเตียงไม้ขนาด 9 ฟุตอย่างกับรู้ว่าในอนาคตเขาจะพาคนอื่นมานอนด้วยเฉินเฟิงนำเบาะรองนอนสำหรับตั้งแคมป์ออกมากาง นอกจากเตียงแล้วก็ไม่มีอย่างอื่นอีกฟูกที่นอน
“ก็ได้ยินมาว่าหน่วยงานเหล่านั้นไม่ได้เข้ามาดูจริงจัง เพราะอย่างไรบริเวณนั้นเดิมทีก็ติดกับป่า ถ้าช้างสามารถปรับตัวได้ มันคงเข้าไปหาอาหารเองโดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์อีก” ความจริงแล้วมีการทุจริตเกิดขึ้น เงินที่จะนำมาซื้ออาหารจึงอันตรธานหายไป พอมีคนขุดคุ้ยก็อ้างเหตุผลสวยหรูที่ฟังอย่างไรก็รู้สึกได้กลิ่นแปลก ๆ ลอยมาเต็มไปหมดคนเป็นหัวหน้าทหารรับจ้างกลอกตามองบนกลิ่นความโกงฉุนกึกเชียว“แสดงว่าที่นั่นในตอนนี้ก็คงจะเป็นพื้นที่รกร้างไปเรียบร้อยแล้วล่ะ” โจเซฟสรุป ลองไปอยู่ในหน่วยงานที่พูดว่าจะให้ช้างอยู่ตามธรรมชาติขึ้นมา“แล้วอย่างนี้จะมีรถให้เราไปหยิบยืมเหรอ” หงส์ตั้งขอสงสัย“มีครับ เวลามีกลุ่มอาสามาขอถ่ายภาพเพื่อทำโครงการรับบริจาคอาหารให้ พวกเขาจึงยังหลงเหลือสิ่งของอำนวยความสะดวกหลายอย่างไว้เพื่อให้ดูว่าที่นี่ยังคงมีคนเข้ามาดูแลอย่างสม่ำเสมอ” เรื่องนี้เขาได้ยินมาจากคนในตลาด บางคนก็บอกว่าพอได้รับการติดต่อมาก็เข้าไปทำความสะอาดสักทีหนึ่งพอดีกับช่วงก่อนซอมบี้ระบาด ที่นั่นเพิ่งจะได้รับการบูรณะครั้งใหญ่เพราะมีมหาเศรษฐีอยากทำความดีบริจาคอาหารสัตว์เป็นจำนวนมากพร้อมกับถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก พวกเจ้าหน
เช้าวันต่อมาเจ้ากระต่ายกับคุณหมอหมีจึงไปยืมรถคุณยายอีกครั้ง เขาบอกแค่ว่าจะไปสำรวจปางช้างเผื่อเจอของดีจะได้นำกลับมาที่หมู่บ้าน“ระวังตัวด้วยนะอาเฟิง” คุณยายร้านขายของชำวางกุญแจรถกระบะให้เฉินเฟิงหยิบยืมอีกครั้งอย่างไม่หวงแหน “ถ้าเจออันตรายต้องรีบกลับหมู่บ้านทันทีนะ รู้ไหม”“ครับ” เฉินเฟิงพยักหน้ารับคำหนักแน่น เขาให้ความเคารพนับถือคุณยายเสมอญาติผู้ใหญ่ในครอบครัวคนหนึ่ง นอกจากพ่อแม่แล้วก็มีแต่คุณยายนี่แหละที่เอ็นดูเขามาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ เวลาแม่กลับมาเยี่ยมบ้าน เขาก็มักวิ่งเข้าวิ่งออกร้านขายของชำแห่งนี้เสมอ บางครั้งซื้อลูกอม 2 เม็ด 1 บาท คุณยายก็แถมมาให้อีก 1 เม็ด ใจดีสุด ๆ ไปเลยช่วงวิกฤตที่ผู้คนพากันกักตุนอาหาร ก็ยังใจดีแบ่งขายอาหารแห้งมาให้เขา ทั้งที่ตัวเองก็จำเป็นต้องกักตุนเช่นกันยังดีที่ท่านเป็นคนเด็ดขาดและมีคนนับหน้าถือตา วันสิ้นโลกแบบนี้จึงมีผู้คนให้การดูแลคุณยายเป็นอย่างดี เฉินเฟิงเลยสามารถกลับขึ้นบ้านบนเขาได้อย่างสบายใจ“ผมสัญญาว่าจะดูแลอาเฟิงอย่างดีครับ” นิโคลัสให้คำมั่น“จ้ะ ฝากด้วยนะพ่อหนุ่ม” คุณยายยิ้มยินดี เธอไม่ได้หัวโบราณจนดูไม่ออกว่าทั้งสองคนไม่ใช่แค่เพื่อนกัน ขอแค่เด็กทั
เฉินเฟิงกวาดตามองสิ่งมีชีวิตตรงหน้า แม้รูปลักษณ์ของมันจะเป็นต้นไม้ แต่กิ่งก้านสาขากลับมีลักษณะห้อยลงคล้ายกับว่าสิ่งนั้นคือมือของมัน และรากที่ควรฝังตัวอยู่ในดินก็โผล่ขึ้นมาเหนือพื้น สามารถเคลื่อนไหวพามันไปยังตำแหน่งอื่นได้ เปรียบเทียบให้เห็นภาพเลยก็เหมือนกับขาของคนนั่นเอง“อย่างกับต้นไม้กินคนในนิทานปรัมปราเลยนะ” นิโคลัสค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้คนรัก ในขณะที่สายตายังคงจดจ้องอยู่กับศัตรูตรงหน้าเล่นทำลายรถแบบนี้ คงไม่ได้บอกให้หยุดเพื่อเรียกมาจิบน้ำชายามบ่ายหรอก“ต้นไม้ก็กลายพันธุ์ไปในทิศทางนี้ได้ด้วยเหรอเนี่ย” เฉินเฟิงแปลกใจมาก อย่างกับหลุดมาจากนิทานอย่างที่คุณหมอว่าจริง ๆจริงอยู่ว่าต้นไม้ก็เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง สามารถเติบโตได้ กินอาหารได้ รวมถึงแพร่พันธุ์เพิ่มปริมาณประชากรของตนได้ นอกจากต้นกาบหอยแครงหรือหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่รอจับเหยื่อแล้ว ไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อนว่ามีต้นไม้ออกไล่ล่ามนุษย์ด้วยการฟาดกิ่งหรือวิ่งตามแบบนี้มาก่อนผู้ล่าและเหยื่อต่างก็จดจ้องกันไม่วางตา ต่างรอว่าใครจะเป็นผู้เปิดการโจมตีก่อนเป็นคนแรก นั่นจึงเป็นโอกาสอันดีให้มนุษย์สองคนได้วางแผนรับมือได้“ละแวกนี้มีแต่ป่าถ้าจุดไ
ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านใจ มองปิศาจต้นไม้สลับกับรถกระบะที่ตนเองนั่งมา ท่อนซุงยักษ์ยังคงทับตัวกระบะรถอยู่ เห็นแบบนั้นก็ยิ่งเดือดดาลขาข้างหนึ่งกระทืบเท้าลงบนพื้น ริมฝีปากเม้มแน่นส่งเสียงฮึดฮัดอยู่ในลำคอใบหูสีขาวตั้งชันกำลังโกรธเจ้ากระต่ายของคุณหมอหมีกำลังโกรธมาก ๆเมื่อต้นไม้ต้นแรกรุกเหวี่ยงแขนของมันมาทางด้านข้าง เฉินเฟิงจึงเกร็งกล้ามเนื้อที่ขา พาร่างกายของตนเองกระโดดลอยขึ้นเหนือพื้น กะด้วยสายตาก็คงสูงราว 2-3 เมตรเฉินเฟิงเคยประเมินสมรรถนะทางร่างกายของตน ปรากฏว่าเขาสามารถวิ่งได้เร็วขึ้น กระโดดสูงขึ้นและรับเสียงได้มากขึ้นสามสิ่งนี้คือพื้นฐานทั่วไปที่กระต่ายทั่วไปพึงมี เมื่อถูกนำมารวมในร่างมนุษย์ ก็ทำให้ขีดความสามารถที่คนคนนั้นมีอยู่เพิ่มสูงขึ้นอย่างในเวลานี้…พอปิศาจต้นไม้เห็นเฉินเฟิงอยู่กลางอากาศ พวกมันอีกหนึ่งต้นก็รีบฟาดกิ่งลงมา แม้จะไม่ได้รวดเร็วมากนักหากเปลี่ยนเป็นคนธรรมดาทั่วไปคงหลบไม่พ้นแต่ไม่ใช่กับเฉินเฟิง…เจ้ากระต่ายพลิกตัวแล้วใช้มือจับยึดเข้าที่กิ่งนั้นไว้แน่น ต้นไม้ต้นแรกเห็นว่าเหยื่อของมันหายไปก็รีบมองหา พอเห็นว่าอยู่กับเพื่อนร่วมวงศ์ตระกูลก็ฟาดเข้าใส่อย่างไม่ลังเล
“ทำไมหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างนั้นล่ะ” คุณหมอหันมาเห็นคนรักมองตนด้วยใบหน้าเครียดก็ฉุกคิดว่าอาจจะมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น[ก่อนที่ร่างต้นของมันจะรู้ตัว จงหนีไปเสีย]เสียงมาอีกแล้ว ร่างแยก… ต้นไม้พวกนี้น่ะเหรอ?แล้วร่างต้นที่ว่า…!!!!“พี่นิค พวกเรารีบออกไปจากที่นี่ก่อนดีกว่า” เจ้ากระต่ายไปช่วยหยิบสัมภาระออกมาจากรถพลางดึงรั้งคนรักให้ออกห่างจากแนวป่าให้มากที่สุด“เกิดอะไรขึ้น” นิโคลัสเห็นเจ้ากระต่ายมีสีหน้ารีบร้อนก็เร่งประสาทสัมผัส“เดี๋ยวค่อยคุยกัน”ครืน...!!“เหวอ” อยู่ ๆ แผ่นดินที่เคยสงบนิ่งก็สั่นอย่างรุนแรงอะไร! แผ่นดินไหว?ยังไม่ทันตั้งตัวได้ก็มีรากต้นไม้ขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาจากพื้น ขนาดของมันใหญ่ยิ่งกว่ามากจนทำให้พื้นถนนที่ถูกมันดันขึ้นมาเป็นรูกว้างนิโคลัสรีบพาตัวเองไปอยู่เบื้องหน้าคนรัก ไม่กี่วินาทีต่อมาก็เกิดแรงสั่นสะเทือนรุนแรงขึ้นอีกครั้งตูม!รากต้นไม้เส้นที่สอง สาม และสี่ ตามมาติด ๆ ยิ่งสามรากสุดท้ายที่โผล่ขึ้นมาด้านหลัง ปิดล้อมไม่ให้พวกเขาสามารถกลับไปยังเส้นทางเดิมได้[ไม่ทันการณ์แล้ว มนุษย์เอ๋ย จงรีบเร่งมาข้างหน้าโดยเร็ว]ข้างหน้า?“พี่นิค ไปที่ปางช้างกันเดี๋ยวนี้!!” เจ้ากระต่า
“ฮึบ” ทีโอผลักพัดลมใบมีดสีส้มอมแดง ยามที่มันหมุนคว้างอยู่กลางอากาศก็มีเปลวไฟลุกโหมขึ้นมาต้นเห็ดไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ต่างโดนตัดเฉือนพร้อมกับเผาทำลายไปในคราวเดียวกัน เส้นทางด้านหน้าและด้านหลังที่เคยถูกปิดล้อมต่างก็กลายเป็นทะเลเพลิงขนาดย่อมในพริบตาเดียว“รีบไปกันเลยครับ” หากยังมีพลังเพียงขั้นแรกท่าไม้ตายนี้คงไม่มีทางสำเร็จ การใช้พลังในรูปแบบนี้ต้องใช้ทั้งสมาธิและพลังงานพอสมควร หลังจากเคลียร์ทางเดินได้ บนใบหน้าของทีโอจึงปรากฏเหงื่อไหลซึมออกมาหมดพลังไปเกือบครึ่ง!ถ้าไม่ใช่ว่าต้องใส่หน้ากากกันแก๊สตลอดเวลา เขาคงหยิบคริสตัลซอมบี้สีใสมากินเพิ่มพลังว่ากันตามจริง เห็ดพวกนี้ไม่ได้น่ากลัวเลยหากมีการเตรียมพร้อมที่ดีพอ ที่น่ากลัวกว่ากลับเป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยให้ใช้พลังอย่างเต็มที่ ลองเปลี่ยนเป็นสัตว์กลายพันธุ์หรือต้นจามจุรียักษ์ครั้งก่อนไม่แน่ว่าผลลัพธ์อาจไม่เป็นเช่นนี้“ถึงแล้ว!!” เฉินเฟิงดีใจมาก ในที่สุดก็มาถึงชั้นหนึ่งเสียที ไม่ต้องสูดดมควันอีกต่อไปแล้วแซ่ก ๆ ๆ“กัดไม่ปล่อยเลยนะ” เฉินเฟิงกัดฟัน ตอนนี้ทางเดินด้านหลังเต็มไปด้วยสปอร์เห็ดจำนวนมหาศาล เห็ดบางต้นยอมตายเพื่อที่จะผลิตสปอร์ให้ได้
ดังนั้นการเดินทางกลับขึ้นไปยังชั้นบนจึงมีเฉินเฟิงเดินนำ คอยกรุยทางและปรับอากาศให้ ลำดับต่อมาจึงเป็นทีโอ และนิโคลัสปิดท้าย ซึ่งทีโอที่สภาพร่างกายไม่ค่อยดีนักพยายามเดินตามคุณเชฟกระต่ายให้ทัน กลัวว่าถ้าคลาดกันแล้วอาจจะโดนภาพลวงตาเล่นงานอีกรอบยอมรับว่าในเวลาที่เหงา เขามักย้อนคิดไปถึงวันที่ปกติสุขดี ทำไมตอนนั้นเขาไม่ทำดีกับหมอนั่นให้มากหน่อยนะ เอาแต่เฮฮาปาร์ตี้ไปเรื่อยจนอีกคนคิดว่าเขาเป็นพวกคาสโนว่าทั้งที่ไม่ใช่เลยสักนิดคนที่เขาชอบคือเลวี่...รูมเมตขี้บ่นที่บ่นได้ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบถึงจะแค่แอบชอบก็เถอะ…แต่เขาก็ให้ใจกับเลวี่ไปมากจริง ๆ การที่ต้องเห็นอีกคนโดนซอมบี้กัดต่อหน้าต่อตาโดยที่ตัวเองไม่สามารถเอื้อมมือไปคว้าไว้ได้ทันเป็นเรื่องที่ปวดใจเขามากที่สุดหลังจากกลุ่มทหารพามาถึงค่ายพันธมิตร เขาพร่ำโทษตัวเองที่ยังมีชีวิตรอด เพราะเขาทำอีกคนหลุดมือก่อนเฮลิคอปเตอร์ช่วยเหลือจะมาถึงเป็นเพราะเขา… เพราะเขาทั้งนั้น!แม้แต่พ่อแม่ก็ช่วยไว้ไม่ได้…ทีโออยากปลิดชีวิตตนเอง แต่พลังพิเศษดันตื่นขึ้นมา เขาจึงกลายเป็นบุคลากรที่สำคัญยิ่งต่อการอยู่รอดของมนุษยชาติ ตัวเขาที่ไม่มีสิ่งใดให้ยึดเหนี่ยวอีกจึงตกล
เอ๊ะทำไมมันร้อน…“โอ้โห ไข้สูงเท่าไรวะเนี่ยมือกูจะพองแล้ว” เลวี่ผละออกไปมือขาวสะบัดไปมาในอากาศนั่นสิ…ทำไมมันร้อนแบบนี้ ร้อนมาก ๆ ด้วย ร้อน…“ร้อน!!!”เฮือก!ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือก ดวงตาเบิกกว้างมองซ้ายมองขวาอย่างงุนงง รอบด้านถูกปิดกั้นจนมองไม่เห็นสภาพแวดล้อมภายนอก คล้ายว่าตนเองกำลังอยู่ในกล่องเหล็กกล่องเหล็ก!จริงด้วย!! ก่อนหน้านี้เขาถูกฝุ่นละอองอะไรก็ไม่รู้โจมตีเข้ามา ในช่วงเวลาที่ใกล้จะหมดสติเขาใช้ลูกเหล็กที่พกติดตัวปิดผนึกฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ไว้ก่อน จากนั้นก็สร้างใบมีดเหล็กขึ้นมาพัดพวกมันให้ออกไป แต่ยิ่งพัดมันก็ยิ่งหมุนวนเข้ามาใกล้ทุกที สุดท้ายจึงสร้างกล่องเหล็กครอบคลุมตัวเองแล้วก็หมดสติ…“อึก” ทีโอเบ้หน้า อากาศที่มีใกล้จะหมดเต็มทน แถมแผ่นหลังที่พิงกับกล่องเหล็กอยู่ก็เริ่มร้อนลวกผิว ชายหนุ่มจำต้องปลดกำแพงเหล็กด้านหลังออก ไม่อย่างนั้นได้กลายเป็นไก่อบฟางในอีกไม่นานแน่ทันทีที่กำแพงด้านหลังถูกเปิดออก เป็นจังหวะเดียวกับที่นิโคลัสเผากองเห็ดเกือบหมดแล้ว เฉินเฟิงที่ได้ยินเสียงกุกกักจากในนั้นมาสักพักก็ไม่รอช้า รีบคว้าตัวทีโอให้มาอยู่ฝั่งเดียวกับตนพร้อมกับตรวจเช็กว่าอีกฝ่ายได้สวมหน้ากากกันแก๊ส
“ไม่ใช่หรอก” นิโคลัสส่ายหน้า “ดูตรงนี้สิ” พลางชี้ให้เห็นตรงทางเดินมีกล่องเหล็กอีกหนึ่งกล่องถูกวางตั้งอยู่ ดูจากลักษณะภายนอกแล้วคล้ายคลึงกับกล่องเหล็กที่เฉินเฟิงเคยขอให้ทีโอทำในตอนที่นำเนื้อวัวลงไปแช่ในน้ำตก“งั้นนี่ก็เป็น…” ทีโองั้นเหรอเฉินเฟิงมองกองเห็ดที่เกาะอยู่บนอะไรสักอย่างจนมีขนาดใหญ่ มันขวางทางเดินไว้เหมือนภูเขาขนาดย่อมจนไม่สามารถผ่านไปได้ ในสมองพลันนึกถึงสิ่งที่ตุ่นและหงส์พบเจอถ้าหากว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้คือทีโอ…“จะเผาแล้วนะ” นิโคลัสให้สัญญาณ เฉินเฟิงจึงนำต้นลิ้นมังกรจุ่มลงไปในกระติกน้ำ แล้วเร่งให้มันดูดควันพิษเหล่านี้ออกไป ต้องขอบคุณเจ้าตัวแสบที่หยิบสิ่งนี้มาให้ ไม่อย่างนั้นหน้ากากกันแก๊สคงกรองฝุ่นควันไม่ไหวนิโคลัสเผาภูเขาเห็ดตรงหน้าอย่างระมัดระวัง พอไหม้ไปได้ระยะหนึ่ง บางส่วนที่อยู่ใต้กองเห็ดก็เผยออกมาให้เห็น“เหล็ก!” นั่นก็หมายความว่า!!พรึบ!นิโคลัสเร่งไฟให้รุนแรงขึ้น เห็ดที่เคยไหม้อย่างช้า ๆ ก็พลันอันตรธานหายไปในเวลาไม่นาน...“โอ…” เสียงอะไร“ทีโอ…” ใครกำลังเรียกเขา“ทีโอ!!”เฮือกดวงตาคมเบิกกว้างก่อนยันตัวมองซ้ายมองขวาที่นี่มัน…“ตื่นสักทีนะไอ้บ้า” ชาย
“ขอพาเจ้าพวกนี้ไปที่ค่ายก่อนนะ” โจเซฟให้เฉินเฟิงช่วยกันวางร่างของหงส์และตุ่นลงกระบะหลังรถ “ถ้าเจอทีโอก็รีบพากลับไปที่ค่ายต่อได้เลย” ชายหนุ่มว่าพลางกระโดดขึ้นฝั่งคนขับสตาร์ตรถได้ก็ขับออกไปทันทีชายหนุ่มต้องแข่งกับเวลา จากที่นี่ถึงค่ายพันธมิตรมีระยะห่างประมาณ 10 กิโลเมตร ถ้าขับเร็ว ๆ จะทำเวลาอยู่ที่ 15 นาที ต้องรีบพาสองคนนี้ไปส่งให้ถึงมือหมอให้เร็วที่สุด ถึงนิโคลัสจะเป็นหมอ แต่อีกฝ่ายกำลังติดพันอยู่ในชั้นใต้ดิน เขาที่เป็นหัวหน้าไม่ควรรออยู่เฉย ๆอีกทั้งที่ค่ายก็มีเครื่องมือแพทย์และยาปฏิชีวนะที่น่าจะช่วยชีวิตทั้งสองคนได้ถ้ามีซอมบี้ขวางทางพ่อจะชนไม่เลี้ยงเลย!!เฉินเฟิงเห็นโจเซฟขับรถออกไปก็พาตนเองกลับเข้าไปในอาคารเพื่อช่วยนิโคลัสตามหาทีโอต่อ ไม่รู้อีกฝ่ายเป็นตายร้ายดีอย่างไรมังคุดเห็นมนุษย์สองคนกลับออกมามีสภาพไม่สู้ดีนักก็ร้องเสียงแหลม พยายามจะเข้าประตูตามเจ้านายไปด้วย ข้างในนั้นมีอะไรทำไมทุกคนถึงออกมามีสภาพเป็นแบบนั้นไปได้งี้ด (มังคุดจะไปด้วย)แค่คิดว่าเจ้านายของมันจะกลายเป็นอย่างสองคนนั้นหากเข้าไปอีก เจ้าตัวยักษ์ก็ใจไม่ดีเอาเสียเลย รีบเดินไปรั้งชายเสื้อของเฉินเฟิงไว้แน่น“ไปไม่ได้ มัง
“เป็นแบบนี้แล้ว… พวกนั้นคงอยู่ที่นี่แน่” โจเซฟฟันธง ความคิดของพืชและสัตว์บางครั้งก็เรียบง่าย สิ่งที่พวกมันอยากปกป้องหวงแหนจะได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ประหนึ่งราชินีผึ้งที่อาศัยอยู่ในรังท่ามกลางบริวารอีกหลายพันตัว“ไปกันเถอะ” นิโคลัสเรียกลูกไฟออกมาเผาเห็ดยักษ์ตรงหน้า แต่เมื่อเผาหมดไปต้นหนึ่ง ก็มีต้นอื่นงอกขึ้นมาแทนที่ทันที“...” เฉินเฟิงหรี่ตามอง“อาเฟิง” นิโคลัสคิดจะลองเผามันอีกครั้งเป็นต้องชะงัก เมื่อคนรักแตะบ่าขอให้เขาหลบไป“พอดีเห็นว่ามันเป็นพืชน่ะครับ” เลยอยากลองดูว่าใครจะควบคุมใครได้กันแน่ คราวต้นจามจุรีเฉินเฟิงเองก็มีความคิดนี้อยู่ในหัว แต่เพราะถูกโจมตีจนแทบจะไม่มีจังหวะให้พักหายใจ เรื่องลองใช้พลังควบคุมอะไรนั่นลืมไปได้เลย แค่หลบหลีกและโจมตีกลับก็เต็มกลืนแล้วแต่เห็ดที่อยู่นิ่ง ๆ นี่ก็น่าทดสอบดูไม่ใช่หรือ?พลังการควบคุมของเขากับเห็ดพวกนี้ใครจะเหนือกว่ากัน!ถ้าทำสำเร็จจะได้ไม่ต้องทนสูดดมควันไฟด้วย… จะหายใจไม่ออกแล้ว!“ถ้าไม่ไหวต้องรีบถอนตัวกลับมานะ” นิโคลัสไม่มั่นใจในเรื่องนี้เท่าไร พลังของเขาคือการควบคุมเปลวไฟที่ไม่มีความนึกคิด แต่เจ้ากระต่ายกลับแตกต่างออกไป ต้นไม้เองก็เป็นสิ
“เห็ดบางชนิดแค่สูดดมสปอร์เข้าไปก็เป็นอันตรายแล้วครับ” นิโคลัสอธิบาย ดีที่เขาให้ทุกคนสวมใส่หน้ากากกันแก๊สก่อน ฝ่ามือหนาถอดถุงมือออกข้างหนึ่ง ลูกบอลไฟขนาดเท่าไข่ไก่หลายลูกหมุนวนอยู่บนฝ่ามือของชายหนุ่ม แสงไฟเต้นระริกในความมืด ดูคล้ายมัจจุราชกำลังเริงระบำถ้ามองไม่ผิดเฉินเฟิงเหมือนเห็นหมวกเห็ดกำลังสั่น ไม่รู้ว่าตาฝาดหรือเป็นเพราะแสงสะท้อนจากลูกบอลไฟของคนรัก“ฮึบ” นิโคลัสปาลูกบอลไฟใส่ผนังและพื้น เผาทำลายทางเดินเห็ดจนมอดไหม้เป็นจุณ ชายหนุ่มควบคุมไฟไม่ให้มันรุนแรงจนกลายเป็นย่างสดคนไปจนหมด เดินนำไปเรื่อย ๆ จนมาถึงห้องที่มีการติดตั้งซูเปอร์คอมพิวเตอร์“ตรงนั้นมีเครื่องคอมพ์วางไว้ด้วยครับ” ตรงมุมหนึ่งของทางเดินมีเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมสายถูกถอดมาวางไว้บนทางเดินที่มีเห็ดขึ้นเต็มไปหมด“น่าจะเป็นสามคนนั้นแหละที่ถอดมาวางไว้”‘แล้วหายไปไหนกันนะ’ โจเซฟขมวดคิ้วคิดหนัก“ทีโอบอกว่านอกจากที่นี่่จะมีห้องใต้ดินตามแปลนที่เราได้มา แถมน่าจะมีห้องเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ลึกลงไปอีก เป็นไปได้ไหมว่าสามคนนั้นจะอยู่ที่นั่น” นิโคลัสนึกถึงการประชุมก่อนปฏิบัติภารกิจเมื่อเช้า“เป็นไปได้สูงทีเดียว” นิโคลัส“ใช่ทางนั้นหรือเปล่
“มีเสียงจากด้านบน” ใบหูสี่เหลี่ยมกระดุกกระดิกสองสามครั้ง“ในที่สุดพวกนั้นก็จัดการกับสัตว์ประหลาดด้านนอกได้แล้วสินะ” หงส์โล่งใจ อย่างน้อยก็คงไม่มีใครเป็นอะไร“ถ้าตะโกนออกไปตอนนี้พวกนั้นจะได้ยินหรือเปล่านะ” ตุ่นเอ่ยน้ำเสียงอ่อนแรง สติของเขาเหลือไม่มาก ในสภาพที่ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากพูด การขอความช่วยเหลือจึงเป็นความหวังเดียวที่พวกเขาจะรอดออกไปได้ แต่ถ้าพวกเขาสองคนอยู่ชั้นใต้ดินก็ลำบากแล้ว ถึงจะหูดีแต่ชั้นใต้ดินของที่นี่ก็ลึกไม่ใช่เล่นน่ากลัวว่าเสียงอาจจะส่งไปไม่ถึง …“เงียบเกินไปหรือเปล่าครับ” เฉินเฟิงเอียงหูฟัง เขาไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยสักนิด“อาจอยู่ชั้นใต้ดินกันละมั้ง” โจเซฟคาดเดา เขาเองก็เป็นคนหนึ่งที่ศึกษาแปลนอาคารนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง“งั้นลองลงไปสำรวจกันเลยไหมครับ” ไหน ๆ ก็ไม่ได้ยินเสียงจากด้านบนนี่นา “มีกลิ่นอับชื้นในอากาศด้วย” เจ้ากระต่ายสูดดมทำจมูกยุกยิก“หรือหงส์จะใช้พลัง?” หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างคาดเดางี้ด“มังคุด รออยู่ด้านนอกสิ” เฉินเฟิงดันจมูกของเจ้าตัวโตออกจากบานประตูประตูที่นี่ก็บานใหญ่นะ… ทว่าพุงมังคุดใหญ่กว่า“คอยระวังอย่าให้พวกมันบุกเข้าไปในตึกไง” คนเป็นเจ้านายปลอ
“ใช่ครับ ถ้าเป็นเจ้าสิ่งนั้นอาจจะทำให้คริสตัลระดับ 2 เกิดปฏิกิริยาก็เป็นได้” พวกเขาลองใช้ของใกล้ตัวหลากหลายชนิดที่พอหาได้มาทำการทดลองแล้ว ส่วนเห็ดที่พูดถึงยังไม่เคยลองสักครั้ง“อาจจะได้และอาจจะไม่ได้” ถึงปากจะบอกแบบนั้น แต่สิงหารู้ดีว่าในระหว่างการทดลอง เขาได้แอบผสมสปอร์เห็ดพิษหลากหลายชนิดเข้าด้วยกัน แต่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างดีก็ดันมาเกิดเรื่องที่ทำให้ทดลองต่อไม่ได้ไม่รู้ว่าเห็ดที่เขาผสมไว้ในตอนนั้นจะเป็นยังไงบ้างจะเติบโตขึ้นหรือว่าตายไปแล้วเพราะไม่มีใครให้สารอาหารอีกกันนะ…คำตอบของสิงหานั้นคงมีแต่สองคู่รักสุนัขกวางที่รู้ ถ้าถามว่าเห็ดที่สิงหาเพาะเลี้ยงนั้นเป็นอย่างไร… ทั้งคู่คงตะโกนเสียงดังกลับไปว่า‘ก็เป็นแบบนี้ไง!!’ก่อนหน้านี้ตุ่นและหงส์อยู่บริเวณทางเข้าก่อนลงไปชั้นใต้ดิน พอทีโอตัวปลอมหันคอกลับมา 180 องศา หญิงสาวก็รีบใช้พลังดันมันออกไปด้วยแรงดันน้ำ หวังจะให้มันปลิวออกไปพ้นตัวก่อนสามีอย่างตุ่นจะเป็นลมเพราะคิดว่าเป็นผีจริง ๆ แต่ใครจะไปคิดว่าการพ่นน้ำออกไปจะเป็นการทำให้พวกมันตื่นตัวกลายเป็นละอองแล้วตรงเข้ามาดูดซึมน้ำไปใช้ในการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทางเดินที่เคยเปิดโล่งก็กลายเป็นถ้ำเห็