ถ้ามีแค่ตัวคนเดียวเขาอาจจะหาทางหลบหนีออกไปก่อน แม้จะเสียดายบ้านแต่จะให้สู้กับคนหลายคนทั้งที่ตัวเองไม่เคยทำมาก่อนก็คงไม่ไหว เอาตัวให้รอดไว้ก่อนค่อยกลับมาทวงคืนในภายหลังก็ไม่สาย แต่ไม่ใช่ในเวลานี้ที่เขามีอีกสองชีวิตให้ต้องดูแล น้องดลและดาริณีดูจะไม่ใช่คู่มือของพวกมันได้เลย
ครั้นจะให้วิ่งทะเล่อทะล่าเข้าไปจามหัวพวกมันก็ไม่รู้ว่าจะกล้าทำอย่างที่คิดไหมอีก
ในขณะที่ครุ่นคิดศัตรูแรกในวันสิ้นโลกก็บุกเข้ามาประชิด
“เคร้ง!” เสียงประตูเหล็กหน้าบ้านถูกอะไรบางอย่างดันเข้ามาอย่างแรงเป็นผลให้กระถางต้นไม้และตู้ที่ถูกนำมาวางกั้นประตูล้มระเนระนาด
“เสียงดังเกินไปแล้ว” หนึ่งในชายฉกรรจ์เอ่ยเตือน ถึงพวกเขาจะฆ่าซอมบี้ละแวกนี้ไปแล้วก็ใช่ว่าจะไม่มีตัวอื่นมาอีก
“พวกคนในบ้านรู้ตัวกันหมดแล้วมั้ง” ชายที่มีหูกลมส่ายหัวให้กับความสมองน้อยของเจ้าบ้าชอบใช้กำลัง
“...” เจ้าบ้าชอบใช้กำลัง
“ช่างเถอะ เข้าไปทั้งแบบนี้แหละ” คนเป็นหัวหน้าไม่ใส่ใจกับความสะเพร่าเล็ก ๆ น้อย ๆ จะอย่างไรพวกเขาก็แข็งแกร่งและมีอาวุธครบมือ ต่อให้มีซอมบี้ออกมาอีกก็แค่ยิงทิ้งไปเสีย
เฉินเฟิงที่ซ่อนตัวอยู่หลังบ้านตื่นตระหนก ประตูบ้านเขาพังเพราะกำลังของคน!
นี่มันอะไรกัน!
หรือนอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนไปแล้วยังมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปอีก! คราวนี้ชายหนุ่มหวนนึกไปถึงตอนตนเองกระโดดขึ้นกำแพงโดยที่ไม่ต้องใช้สองมือช่วยพยุงร่างกายเลยสักนิด หรือว่าเขาที่กลายพันธุ์ก็สามารถทำอย่างเดียวกันได้?
ถ้าอย่างนั้น...จะจัดการคนพวกนี้ด้วยตัวเองได้หรือเปล่า?
...
“แม่” น้องดลเบียดตัวเข้าหาแม่เมื่อได้ยินเสียงโครมครามหน้าบ้าน “พี่เฟิงอยู่ข้างนอก เราจะทำยังไงกันดี”
“ชู่ อย่าเสียงดังครับ” ฟังจากเสียงข้างนอกก็รู้แล้วว่าไม่ใช่กำลังคน บวกกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของชายหนุ่มเจ้าของบ้าน เธอก็พอคาดเดาได้ว่าโลกใบนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว และคงมีอีกหลายคนที่เปลี่ยนแปลงไปเหมือนชายหนุ่มเช่นกัน อยู่ที่ว่าใครจะใช้ความสามารถของตนไปในทิศทางไหน
ดาริณีพาลูกชายมาหลบบริเวณห้องครัวติดกับประตูหลังบ้าน แต่ยังไม่ทันจะได้เปิดประตูเฉินเฟิงก็ผลักเข้ามาก่อน ทำเอาหญิงสาวเกือบหลุดกรี๊ดออกมา ดีที่สะกดกลั้นเอาไว้ทัน
“ผมเองครับ” เฉินเฟิงทาบนิ้วชี้ลงบนริมฝีปาก ฉวยโอกาสช่วงที่ยังมีเสียงข้าวของล้มอยู่หน้าบ้านอำพรางการเคลื่อนไหว รีบมายังจุดที่ได้ยินเสียงสองแม่ลูก
“ข้างนอกเกิดอะไรขึ้นคะ” หญิงสาวกระซิบถามเสียงเบา
“มีคนบุกเข้ามา พวกมันอยากได้บ้านเรา” คนฟังสีหน้าซีดเผือด ถ้าไม่มีบ้านแล้วพวกเธอจะอยู่ข้างนอกกันอย่างปลอดภัยได้อย่างไร “ผมจะลองหาทางดู แต่ผมอยากขอให้พี่ดากับน้องดลไปรอที่ประตูหลังบ้าน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็รีบหนีไปทันที” เฉินเฟิงสมองหมุนเร็วรี่ ใจจดจ่อคิดหาสถานที่ที่พวกเขาจะสามารถหนีไปได้จนไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีใครบางคนเยื้องย่างใกล้เข้ามา
“คิดว่าจะไปได้ง่าย ๆ งั้นเหรอ” เสียงที่ดังขึ้นเหนือหัวทำให้ทั้งสามคนตัวชาวาบ พวกมันเข้ามาถึงตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!
เฉินเฟิงรีบลุกขึ้นดันหญิงสาวและเด็กชายให้ไปอยู่ด้านหลังตน
“พวกแกอยากได้บ้านไม่ใช่เหรอ พวกเรากำลังจะออกไปแล้ว” ชายหนุ่มลองเจรจาก่อน
“โฮ่ หูดีนี่ แสดงว่ากลายพันธุ์แล้ว สนใจมาอยู่กับพวกเราไหม” ตัวหัวหน้ามองใบหน้าขาวผ่องและดวงตาสีแดงของอีกฝ่ายอย่างสนใจ ไม่รู้ว่าภายใต้ฮู้ดนั้นจะมีรูปลักษณ์เป็นอย่างไร
“เชิญพวกแกเอาอาหารไปได้เลย แต่ต้องปล่อยพวกเราไป” เฉินเฟิงส่ายหน้าปฏิเสธ “พวกเราขอแค่เสื้อผ้าก็พอ” ถ้ารอดไปได้ค่อยไปหาของกินเอาข้างหน้า แต่ถ้ายังอยู่อย่างนี้พวกเขาก็ยากที่จะรอด ตัวเขาเป็นผู้ชายพวกมันคงให้เป็นลูกน้องคอยรับใช้ แต่หญิงสาวด้านหลังคงมีชีวิตที่ไม่สวยงามนักหากอยู่ในเงื้อมมือพวกมัน
“ไม่บอกก็จะขโมยอยู่แล้ว” ชายหูกลมสั้นคล้ายหนูเผยยิ้มยียวน ดวงตาเรียวรีฉายประกายเจ้าเล่ห์ ตัวมันถูกใจชายหนุ่มตรงหน้ามากกว่าหญิงสาวด้านหลังและเด็กเสียอีก ดูสีตาแดงฉานนั่นสิ ช่างตัดกับผิวขาวราวกับอัญมณีล้ำค่า
อ่า… ดวงตาคู่นั้นเหมือนทับทิมไม่มีผิด
เฉินเฟิงรู้สึกไม่ดีกับสายตาที่มองจ้องมา ทำเป็นเข้มแข็งให้มากที่สุด จนกระทั่ง...
“ลูกพี่ ผมขอเด็กคนนั้นได้หรือเปล่า” หนึ่งในพวกมันมองเด็กชายดลแล้วออกปากเรียกร้อง
“เอาไปสิ ยังไงที่นี่ก็เป็นบ้านเขา ต้องดูแลเราให้ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นคงเสียมารยาทแย่” เจ้าคนร่างใหญ่ที่สุดตอบพลางกางกรงเล็บแหลมคมขู่
กรอด
เฉินเฟิงกัดฟันแน่น พวกมันไม่คิดจะปล่อยพวกเขาไปจริง ๆ ด้วย!
เพราะถูกพวกมันดักทางไว้จึงใช้ทางออกประตูหลังไม่ได้แล้ว เหลือแค่ฝั่งห้องเก็บของที่มีประตูบานเก่า คงต้องเป็นที่นั่น
แต่… จะหาช่องว่างหลบหนีไปได้ยังไง
ชายหนุ่มค่อย ๆ ดันสองแม่ลูกให้ถอยหลังไปตามทางเดินของบ้านโดยมีโจรตามเข้ามาทีละนิด พวกมันดูสนุกสนานกับการต้อนเหยื่อให้จนมุม แค่เห็นหนึ่งในนั้นเลียริมฝีปากมองพวกเขาเหมือนอาหารอันโอชะก็กระตุ้นความโกรธที่อยากจะตั๊นหน้ามันสักครั้งในจังหวะที่ถอยผ่านตู้เย็นหลังใหญ่ ดวงตาสีทับทิมก็สว่างวาบนี่ไงล่ะ... โอกาส!มือเรียวรีบคว้าขอบบนตู้เย็นไว้ด้วยแรงทั้งหมดที่มีแล้วกระชากมันล้มลง จากนั้นก็คว้าเอาตู้กับข้าวอีกฝั่งหนึ่งให้ล้มทับปิดทางด้วย สบโอกาสก็รีบจูงมือสองแม่ลูกเข้าไปในห้องเก็บของ ใช้ขาที่มีพละกำลังมากขึ้นถีบประตูบานเก่าสนิมเขรอะจนมันกระเด็นหลุดออกไปโครม!!ตึก ตึก!“จับมัน! อย่าให้มันหนีไปได้!!” ชายที่เป็นหัวหน้าตะโกนกร้าว สั่งให้ลูกน้องที่มีความแข็งแรงด้านพละกำลังยกตู้เย็นขึ้น ในนี้มีเสบียงอาหารอยู่ จะปล่อยให้เสียหายไม่ได้ จากนั้นตะโกนสั่งคนที่อยู่นอกบ้านอย่างเดือดดาลชายที่มีใบหูคล้ายหนูตามมาได้ทันแต่ก็ช้าไป เฉินเฟิงอุ้มดาริณีและเด็กชายดลไว้ด้วยมือทั้งสองข้างก่อนกระโดดข้ามรั้วบ้านที่มีความสูง 2 เมตรวิ่งหนีเข้าป่าไปโจรปล้นบ้านมองไปทางป่าที่ไม่คุ้นเคยอย่างชั่งใจ มันไม่ใช่คนในพื้นที่ การตามเข้
“...” คนคนนี้เธอเคยเจอเขาเป็นครั้งคราวตอนมีประชุมหมู่บ้าน เขามีอาชีพรับจ้างทั่วไป ใครในหมู่บ้านจ้างอะไร ขอแค่ให้เงินเขาก็ไปทำทั้งนั้น แต่มาตอนนี้…“แม่!” เห็นแม่นิ่งเงียบไปก็ใจไม่ดี ไหนจะการร้องไห้แบบไม่มีเสียงสะอื้นนี่อีก“ผมว่าพวกเราไปต่อเถอะ” เฉินเฟิงที่พอมีแรงขึ้นมาบ้างเล็กน้อยรีบกล่าวทำลายบรรยากาศ พวกเขาเสียเวลาอยู่ตรงนี้มากไปแล้ว ดวงตาสีแดงเลือกที่จะไม่มองสภาพศพเละเทะตรงนั้นป้องกันไม่ให้สำรอกเอาเศษอาหารออกมา ปลอบใจตัวเองว่าพอถึงคราวจวนตัวมนุษย์ก็ต้องสู้แม้ว่าคนที่สู้ด้วยจะเคยเป็นคนรู้จักก็ตาม…“แม่ครับ ไปเถอะ” เด็กชายเองก็อยากอาเจียนกับภาพตรงหน้า แต่แม่กำลังไม่ได้สติ เด็กน้อยจึงยื่นมือไปดึงมือแม่ให้ลุกขึ้นเดินตามตน“น้องดล!” ดาริณีราวกับหลุดจากภวังค์ฝัน หญิงสาวคว้าร่างลูกชายหมุนซ้ายขวามองหาร่องรอยบาดเจ็บตอนที่เธอเห็นซอมบี้เบนเป้าหมายไปที่ลูกชาย เธอก็เหมือนสติขาดผึง กระหน่ำฟาดอะไรก็ตามที่กำลังจะทำอันตรายเด็กชาย“ผมไม่เป็นอะไรครับ เรารีบไปจากที่นี่กันเถอะ” มือเล็กจับมือแม่แล้วดึงให้ไปทางพี่ชายเฉินเฟิงที่ยืนรออยู่“อะ อืม” ดาริณีเองก็เหมือนจะได้สติขึ้นมาบ้าง กึ่งเดินกึ่งวิ่งตามแร
เมื่อเข้ามาในห้องก็เห็นร่างของหญิงสาวกำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่บนเตียงโดยมี เอ่อ... เสาเตียงที่ถูกหักออกมาอยู่ในมืออีกฝ่าย แถมยังอยู่ในสภาพที่ถูกบีบจนเนื้อไม้ผิดรูปไปมาก ซึ่งเขาจำได้ดีว่ามันไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้งแบบนี้“แม่ครับ” เด็กชายดลเห็นผู้ให้กำเนิดไร้สติแบบนี้ก็เป็นห่วงนัก เขากำลังเช็ดตัวอยู่ดี ๆ แม่ก็คว้าเอาเสาไม้ที่อยู่ใกล้มือไปจับแล้วบีบจนเป็นอย่างที่เห็น เขาตกใจทำอะไรไม่ถูกจนต้องไปตามพี่ชายมาช่วย“พี่เฟิง แม่ผมเป็นอะไร” ดวงตากลมโตเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา หรือว่าแม่เขาจะเป็นเหมือนคุณยายไปแล้ว“เราปล่อยคุณแม่ไว้อย่างนี้ก่อนเถอะ” ปล่อยในความหมายของชายหนุ่มคือให้หญิงสาวอยู่ภายในห้องคนเดียว หากเป็นซอมบี้ขึ้นมาจะได้ไม่ออกไปกัดคนอื่นที่ด้านนอก ฝ่ามือใหญ่กว่าคว้าแขนของเด็กน้อยพาออกไปนอกประตู“แต่แม่...”“รอดูกันก่อนเถอะ” เฉินเฟิงปลอบ เขากลัวว่าถ้าหากดาริณีกลายเป็นซอมบี้ขึ้นมา เด็กชายดลจะถูกลูกหลงไปด้วย“ครับ” สุดท้ายเด็กชายก็ยอมเดินตามพี่ชายออกมาจากบ้านแต่โดยดี เขาขอสัญญาว่าถ้าหากแม่กลับมาเป็นปกติจะเป็นเด็กดีไม่ดื้อไม่ซนอีกต่อไปเฉินเฟิงพาเด็กน้อยมายังห้องที่เขาทำขึ้นเพื่อใช้สำหรับเก็บของ ยังด
“งั้นพี่รอสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมขอไปเอาอาหารที่ห้องเก็บของก่อน” หญิงสาวกล่าวขอบคุณอีกเล็กน้อย เฉินเฟิงพยักหน้ารับแล้วจึงออกไปทำตามที่พูดหลังอิ่มหนำพวกเขาทั้งสามคนจึงมานั่งปรึกษากันอีกครั้ง เวลานี้ไม่มีบ้านหลังใหญ่ให้นอนอุ่นเหมือนก่อนอีกแล้ว ทั้งอาหารที่มีก็เพียงพอให้คนคนเดียวอยู่ได้ประมาณ 10 วันเท่านั้น แต่พวกเขามีถึง 3 คน...ดาริณีเสนอว่าตัวเธอจะออกไปหาผักป่าในละแวกนี้มาปลูก ด้วยความที่เธอเติบโตมาในหมู่บ้านชนบทและเคยตามบิดาขึ้นเขาลูกนี้อยู่บ่อยครั้ง จึงพอคุ้นชินว่าผักชนิดไหนกินได้และมีหน้าตาเป็นอย่างไร“แล้วบ้านของอาเฟิงล่ะ” จะปล่อยให้คนเลวพวกนั้นได้อยู่อย่างสุขสบายหรือ“ผม…” เขาอยากแก้แค้น แต่ตอนนี้คงยังไม่สามารถทำได้“เอ่อ... เราอยู่กันแบบนี้ก็ได้เนอะ พี่เองก็มีพละกำลังเพิ่มขึ้นมาก เดี๋ยวจะเป็นคนจัดการเรื่องปลูกผักปลูกหญ้าเอง” หญิงสาวอยากจะตีปากตัวเองที่ถามเรื่องนี้ออกไป บ้านหลังนั้นเป็นบ้านของเฉินเฟิงกับครอบครัว คราวที่ได้รู้ว่าชายหนุ่มสูญเสียบิดามารดาไปเพราะโรคร้าย คนในหมู่บ้านยังขนข้าวของมาเลี้ยงดูปูเสื่อเพื่อปลอบขวัญชายหนุ่มอยู่หลายวัน“สักวันผมจะไปจัดการกับคนพวกนั้นให้ได้ครับ
เสียงผ่าไม้ดังสนั่นลั่นเขาเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าหญิงสาวได้เริ่มงานของตนเองแล้ว ชายหนุ่มจึงพาเด็กน้อยไปยังด้านหลังที่เป็นแปลงปลูกผัก กลายเป็นว่าพวกเขาสลับบทบาทหน้าที่ในบ้านได้ทันทีหลังเห็นพละกำลังของกันและกัน“ดีที่บนเขายังพอมีผักป่าให้เราเก็บ ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้แล้วล่ะ ว่าจะกินอยู่กันยังไง” เฉินเฟิงลากพืชผักที่ไปหามากองไว้ตรงลานโล่งที่ถางจนเตียน“เดี๋ยวน้องดลช่วยพี่โกยดินมากองรวมกันตรงนี้นะครับ” เริ่มจากปลูกหัวมันสำปะหลังให้รอดก่อน จากนั้นก็เป็นเผือกและต้นหอม อย่างหลังนี่เขาน่าจะเป็นคนนำขึ้นมา จำได้ว่าเคยหยิบเมล็ดผักโปรยไว้หวังให้มันขึ้นเองตามธรรมชาติ ดูเหมือนจะเหลือผู้ชนะแค่เพียงชนิดเดียวนั่นก็คือต้นหอมอย่างนี้จะเรียกผักป่าได้อีกเหรอ?“ผมไม่ชอบต้นหอมเลยอะ” น้องดลเบะปากเมื่อเห็นพี่ชายกำลังขุดหลุมปลูกต้นอะไรบางอย่างอีกมุมหนึ่ง พอเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็คือต้นหอมที่เด็กชายชอบเขี่ยไว้ข้างจาน“เวลานี้เลือกกินไม่ได้หรอก อีกหน่อยอาหารกระป๋องในบ้านก็จะหมดลง” ชายหนุ่มพูดสอนทั้งมือยังคงขุดปลูกไปเรื่อยจนเสร็จ“จะไม่มีรถขายกับข้าวผ่านหน้าบ้านแล้วเหรอครับ”“ถ้ามีก็ดีสิ”“แล้วผักพวกนี้จะกินได้เมื่อไหร
หนึ่งวันเต็มชายหนุ่มสลบไสลไม่ได้สติ พอฟื้นขึ้นมาก็ยังคงรู้สึกไร้เรี่ยวแรง คงเป็นผลจากการที่เขาใช้พลังจนเกินลิมิตตื่นขึ้นมาสิ่งแรกที่เขานึกถึงเลยก็คือคนที่มีพลังเหมือนกันอย่างดาริณี ก่อนที่เขาจะไปปลูกผัก เขาเห็นเธอทั้งแบกต้นไม้ ผ่าฟืน ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง“ฟื้นแล้วหรือ” นึกถึงก็มาพอดี“พี่รู้สึกยังไงบ้างครับ” เฉินเฟิงเอ่ยถามเสียงพร่า“??” ดาริณีงุนงงกับคำถาม ควรเป็นเธอไม่ใช่หรือที่ถามเขา “พี่ไม่เป็นอะไร เรานั่นแหละอยู่ ๆ ก็เป็นลม แถมยังมีพลังพฤกษาเพิ่มขึ้นมาอีก”“น้องดลเล่าให้ฟังเหรอครับ”“อืม” หญิงสาวพยักหน้า “วิ่งไปตามพี่มา บอกว่าเราเป็นลม แต่ตอนที่พี่ไปถึง สวนผักกลับมีอะไรก็ไม่รู้ขึ้นเต็มไปหมด พอถามน้องดลก็บอกว่าเป็นพลังของพี่ชาย” พร้อมกับเอาหัวเผือกขนาดยักษ์อวดเธอ“นั่นเป็นพลังของผมเองครับ ผมคิดว่าผมน่าจะใช้พลังมากเกินไป แล้วพี่ล่ะครับ รู้สึกอะไรบ้างหรือเปล่า”“อย่างนี้นี่เอง” เพราะงั้นเขาถึงได้ถามเธอสินะ “ไม่เลยจ้ะ ตอนพี่รู้สึกเหนื่อยก็นั่งพัก พอดีกับที่น้องดลมาตามนั่นแหละ ลืมเรื่องเหนื่อยไปเลย” แสดงว่าเขาต้องมีสัญญาณเตือนก่อนแล้วแต่ไม่ทันสังเกตเลยวูบไปแบบไม่รู้ตัว ห
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกเราจะได้เป็นทีมที่ไปเคลียร์โรงงานพวกนั้น” ชายหนุ่มผู้มีใบหูสุนัขบ่นออกมาเสียงดัง พวกเขาเดินทางออกจากฐานมาไกลมากแล้ว พูดบ่นไปก็มีแต่คนในทีมที่ได้ยิน สองมือถือปืนไม่ปล่อยปืนใหม่กระบอกนี้เขาเพิ่งใช้แต้มแลกมาแต้มที่ต้องเก็บหอมรอมริบจากการทำภารกิจถึง 3 ภารกิจโคตรแพง!“เก็บปืนไว้ด้านหลังเลย เกิดลั่นโป้งป้างขึ้นมาเดี๋ยวซวยกันหมด” หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มเขยิบถอยห่างออกมา บนศีรษะของเธอมีหูใบเล็กดูน่ารักรับกับเขาขนาดเล็ก“เหอะ เธอจะมาเข้าใจธรรมชาติของผู้ชายได้ยังไง”“นิค นายคิดว่าไง ตุ่นกอดปืนไม่ปล่อยเลย” เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ฟัง เธอจึงรีบหาพรรคพวกสนับสนุน“อย่ามายุ่งกับฉันน่า” หมอประจำกลุ่มหันสายตาไปมองคู่รักที่ทะเลาะกันได้ทุกวันแต่ก็ไม่เลิกกันเสียทีด้วยสายตาเอือมระอา นัยน์ตาคมเหม่อมองออกไปนอกรถบรรทุก“ถ้าจะจีบกันก็ช่วยเบาเสียงหน่อย” ชายที่ทำหน้าที่ขับรถควบตำแหน่งหัวหน้าทีมเบี่ยงหน้ามาบ่นตรงช่องหน้าต่าง เจ้าพวกนี้หวานกันไม่เกรงใจคนไร้คู่บ้างเลยนอกจากเพื่อนร่วมทีมที่มีสารพัดหูสัตว์ก็คงมีแต่โจเซฟคนเดียวที่เป็นมนุษย์ธรรมดา ก่อนเกิดวันสิ้นโลกเขาเป็นพลทหารที่ได้รับการฝึก
‘จับมัน! อย่าให้มันหนีไปได้!!’ ภาพกลุ่มชายฉกรรจ์ที่บุกเข้ามาในบ้านแวบเข้ามาในหัว เป็นผลให้ศีรษะเล็กส่ายหนีเพื่อลบภาพความทรงจำอันเลวร้ายออกไปจนเส้นผมสีขาวปลิวไสวต้องระวังอีกเป็นเท่าตัว ซอมบี้ยังพอทำใจให้ฆ่าได้เพราะเคยเป็นคน แต่คนที่เห็นว่าเป็นคนอาจไม่ใช่คนอีกต่อไปเฮ้อ… ทั้งที่ไม่ชอบใช้ชีวิตซับซ้อนแท้ ๆ ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยนะในขณะที่ครุ่นคิด ขาก็พากระต่ายหนุ่มมาถึงชายป่าและทุ่งมันสำปะหลังสูงชะลูดได้ในที่สุด“มาถึงแล้ว” ด้วยเวลาแค่ 4 ชั่วโมงกว่า “ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้” อย่าดูถูกระยะทางสิบกิโลบนภูเขาเด็ดขาด ทางต่างระดับและส่วนที่ต้องระมัดระวังนั่นแหละที่ทำให้การเดินทางล่าช้า ถ้าเป็นคนทั่วไปคงใช้เวลามากกว่านี้อีกสองเท่า แต่พอกลายเป็นกระต่ายก็เหมือนจะง่ายดายขึ้นมาอันดับแรกคงต้องออกจากป่ามันสำปะหลังไปให้ได้ก่อน ถ้าเป็นก่อนได้รับพลังมาเขาคงไม่รีรอที่จะถอนมันออกไปจนเต็มกระเป๋า ก็นี่มันแหล่งอาหารชั้นดีเลยนี่นา รู้สึกว่าถัดไปอีกสองกิโลจะเป็นไร่อ้อยของโรงงานน้ำตาลน้ำตาล!จริงสิ ที่บ้านพักไม่มีน้ำตาลเลย ต้องแวะไปที่นั่นด้วย แล้วก็พวกเครื่องปรุง มีของที่ต้องการเต็มไปหมด แสดงว่าต้องมี
2 ชั่วโมงต่อมานิโคลัสก็มาสมทบกับโจเซฟ เขาใช้เหตุผลว่าต้องการส่งทีโอไปตรวจร่างกายที่ศูนย์พยาบาลเนื่องจากได้รับผลกระทบเฉกเช่นเดียวกับตุ่นและหงส์ที่ถูกพาตัวเข้าห้องฉุกเฉินไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนสิงหายังคงปักหลักรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ถ้าไม่ได้เห็นว่าสองคนนั้นปลอดภัยเขาคงนอนไม่หลับแน่ในค่ำคืนนี้ หรือต่อให้กลับไปทำงานวิจัยต่อ สมองก็คงไม่แล่น และเมื่อได้เห็นทีโอที่ยังคงปกติทุกอย่างก็ทำให้เด็กหนุ่มนักวิจัยค่อยคลายความกังวลบนบ่าลงไปได้บ้าง“ภารกิจเป็นยังไงบ้าง” โจเซฟเห็นสมาชิกในทีมไม่มีใครบาดเจ็บสาหัสก็โล่งใจ ถามถึงหน้างานต่อทันที“เรียบร้อยดีครับ เครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ถูกพวกเราเก็บบรรจุไว้ในกล่องเหล็ก ทีโอใช้พลังยึดมันไว้กับกระบะหลังรถรอให้หัวหน้านำไปส่งมอบ” นิโคลัสไม่รีบส่งงาน เขาอยากพาตัวเองและอีกสองคนมาหาหมอให้เร็วที่สุดมากกว่า“เอ๋! ภารกิจสำเร็จเหรอครับ!!” นักวิทยาศาสตร์อายุน้อยเบิกตาโต ทั้งที่เป็นภารกิจยากจะทำให้สำเร็จแท้ ๆ คนกลุ่มนี้ก็ยังทำได้อีกเหรอเนี่ย!สมแล้วที่ใครต่อใครเรียกพวกเขาว่าเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุด!“ครับ ถ้าตรวจร่างกายเสร็จจะให้หัวหน้านำไปส่งมอบนะครับ” นิโคลัสจำหัวห
คนมีชนักปักหลังได้แต่กระอักกระอ่วนที่จะอยู่พูดคุยกับโจเซฟ ผู้ขึ้นชื่อเรื่องความรักพวกพ้อง แต่ก็ไม่กล้าเดินออกไปจากบริเวณนี้เช่นกัน ราวกับเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ทำแจกันใบโปรดของแม่แตกแล้วไม่กล้ารับว่าตนเป็นคนทำ ได้แต่ส่งเสียงเมี้ยว ๆ ป้ายความผิดให้คนอื่นติดก็ตรงที่สิงหาดันพูดไม่ออกสักคำ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องร้องเป็นภาษาสัตว์เพื่อป้ายความผิดเลย“คุณสิงหาเป็นอะไรหรือเปล่าครับ สีหน้าไม่ดีเลย” คงกลัวว่าจะไม่ได้เครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์มากสินะ โจเซฟเองก็ค่อนข้างเป็นกังวล กลัวว่าทีโอจะพลาดท่าเสียที แม้อีกฝ่ายจะมีพลังระดับ 2 แต่หงส์ที่มีลางสังหรณ์ขั้นสุดยอดยังพลาดท่าเลยไม่ใช่หรือ?“เฮ้อ ผมไม่ได้เป็นห่วงเรื่องนั้นเลยครับ” สิงหาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันไปยอมรับกับชายหนุ่มด้านข้าง “เห็ดที่พวกคุณเจออาจจะเป็นหนึ่งในการทดลองของผมที่ทำค้างไว้ก่อนวันสิ้นโลก” สารภาพเสียงอ่อย“เป็นงานวิจัยของคุณ” โจเซฟหันขวับมาทันที“ครับ เป็นงานที่ผมทำค้างไว้เอง” คนยอมรับก้มหน้าลงต่ำ แทบอยากจะโขกศีรษะลงกับพื้นเพื่อขอขมาเลยด้วยซ้ำ“...”“อาจจะฟังดูเห็นแก่ตัวเกินไป แต่ผมไม่รู้จริง ๆ ว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้ ถ้ายังไงผม
ค่ายพันธมิตร“อ้าว คุณโจเซฟสวัสดีครับ” ทหารดูแลรักษาความปลอดภัยหน้าประตูเห็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาก็รีบตรงมารับรอง“ขอเข้าศูนย์พยาบาลด่วน!” โจเซฟชี้ให้ดูกระบะหลัง ตุ่นและหงส์ยังคงหมดสติอยู่ ตามตัวเต็มไปด้วยรอยตะปุ่มตะป่ำคล้ายกับเคยมีบางอย่างงอกออกมา เป็นโจเซฟที่ตัดเห็ดทุกดอกออกไปจากร่างกายของสมาชิกในทีม เพราะกลัวว่าถ้าหากพาเข้าไปที่ค่ายทั้งอย่างนี้ เห็ดเหล่านี้อาจปล่อยสปอร์ออกไปในอากาศและทำให้ค่ายผู้รอดชีวิตตกอยู่ในอันตรายได้“ได้ครับ!” ทหารนายนั้นไม่รอช้า รีบเปิดประตูทางฝั่งศูนย์พยาบาลให้ทันทีโดยปกติแล้วนอกจากจะผ่านเข้าไปในประตูค่ายโดยจ่ายค่าผ่านทาง ยังมีอีกช่องทางหนึ่งที่จะถูกใช้สำหรับเคสฉุกเฉิน อาทิ มีคนออกไปทำภารกิจและได้รับบาดเจ็บกลับมา สามารถขอเข้ารักษาที่ศูนย์พยาบาลก่อนได้ พอหายดีแล้วค่อยมาพูดคุยถึงเรื่องค่าผ่านทางที่ต้องเสีย หรือถ้าเป็นทหารประจำการที่่่ออกไปทำภารกิจก็จะเข้าทางประตูหลังเพื่อไม่ให้เอิกเกริกและเป็นที่จับตามองของผู้รอดชีวิตทั่วไป“พวกเขาถูกเห็ดวิวัฒนาการทำให้เกิดภาพหลอน จากนั้นพวกมันก็งอกออกมาจากร่างกายจนมีสภาพเป็นแบบนี้ ผมกับทีมช่วยกันตัดหมวกเห็ดออกไปจากตัวแล้ว บางชนิ
เฉินเฟิงไม่มีอุปกรณ์ครัวติดตัวมาด้วย ก็ได้ทีโอหลอมเหล็กให้มีความคมเทียบเท่ากับมีดชั้นดี พอบวกกับแรงมนุษย์กลายพันธุ์เข้าไป แม้แต่หนังตะโขงที่มีเกล็ดตะปุ่มตะป่ำก็หั่นได้เหมือนเนื้อหมูธรรมดา เฉินเฟิงหย่อนเมล็ดกล้วยลงพื้น เร่งให้โต ตัดใบตองมาใช้ห่อเนื้อ แล้วนำไปใส่กล่องเหล็กที่ขอให้ทีโอสร้างอีกตามเคย เขาจะใช้ความเย็นของน้ำด้านล่างถนอมให้อาหารอยู่ได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้เจ้ากระต่ายหวงเนื้อก้อนนี้ยิ่งนัก เขาจำที่โจเซฟเคยพูดถึงกฎการผ่านประตูค่ายนี้ได้ หากต้องการผ่านประตูต้องจ่ายเสบียงหรือของมีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตในค่ายจำนวนหนึ่งก่อนถึงจะสามารถผ่านได้ให้เขาปลูกผักจนหมดแรงยังดีกว่ายกเนื้อเหล่านี้ให้กับพวกคนในค่าย ซึ่งพอบอกเหตุผลนี้ออกไป ทั้งนิโคลัสและทีโอต่างก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่นานเนื้อจำนวนมากก็นอนอยู่ในกล่องเหล็กขนาดใหญ่ พร้อมกับหุ้มเหล็กอีกหลายต่อหลายชั้น หนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้า และสองเผื่อมีตัวเงินตัวทองกลายพันธุ์ตัวอื่นทำลายกล่องเฉินเฟิงแบ่งเนื้อออกมาก้อนหนึ่ง นำมาย่างเกลือแล้วแจกจ่ายให้กับทุกคน ส่วนมังคุดก็ได้ชิ้นใหญ่หน่อยให้สมกับขนาดตัว รวมถึงหัวขนาดใหญ่ของตะโ
อา… แสงแดดไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่รู้สึกแฮปปี้กับความร้อนเกือบ 40 องศาของเมืองหลวงเจ้ากระต่ายแหงนหน้ามองฟ้า รู้สึกรักดวงอาทิตย์มากกว่าเดิมฟากทีโอผู้ทำการหลอมเหล็กปิดผนึกประตูเสร็จ ก็เริ่มไม่มั่นใจว่าปิดกั้นแค่ช่องทางที่มนุษย์เข้าออกจะปลอดภัย ชายหนุ่มใช้เหล็กปิดช่องหน้าต่างและรูระบายอากาศเท่าที่จะมองเห็นได้ จากนั้นก็มานั่งหน้าซีดอยู่หลังกระบะรถเพราะจากใช้พลังมากเกินไปนิโคลัสถอดหน้ากากกันแก๊สก่อนเป็นคนแรกหยิบคริสตัลสีใสใส่ปากก่อนเป็นคนแรก คุณหมอเองก็เริ่มวูบโหวงเพราะพลังงานในร่างถูกดึงไปใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานาน ไหนจะมีออกซิเจนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายเหนื่อยเร็วกว่าปกติไม่น่าเชื่อว่าแค่กินคริสตัลไปหนึ่งเม็ดก็เหมือนกับว่าพลังถูกเติมเข้ามาเกือบครึ่งหนึ่ง คาดว่าคงเป็นเพราะเขาอยู่ในระดับที่ 2 ร่างกายสามารถบรรจุพลังได้มากกว่าระดับ 1 การที่จะเติมมันให้เต็มคงต้องใช้คริสตัลที่มีระดับสูงขึ้นกว่านี้“ไม่น่าจะเป็นอะไรแล้วล่ะ” คุณหมอหันไปหาสมาชิกที่เหลือ ความจริงดูจากการกระทำของมังคุดก็เป็นตัวตัดสินแล้วว่าสถานที่แห่งนี้ปลอดภัยดีหรือเปล่า ตอนนี้เจ้าสัตว์ตัวใหญ่ที่ถูกพวกเขาปล่อยให้รออยู่ด้านนอก
“ฮึบ” ทีโอผลักพัดลมใบมีดสีส้มอมแดง ยามที่มันหมุนคว้างอยู่กลางอากาศก็มีเปลวไฟลุกโหมขึ้นมาต้นเห็ดไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ต่างโดนตัดเฉือนพร้อมกับเผาทำลายไปในคราวเดียวกัน เส้นทางด้านหน้าและด้านหลังที่เคยถูกปิดล้อมต่างก็กลายเป็นทะเลเพลิงขนาดย่อมในพริบตาเดียว“รีบไปกันเลยครับ” หากยังมีพลังเพียงขั้นแรกท่าไม้ตายนี้คงไม่มีทางสำเร็จ การใช้พลังในรูปแบบนี้ต้องใช้ทั้งสมาธิและพลังงานพอสมควร หลังจากเคลียร์ทางเดินได้ บนใบหน้าของทีโอจึงปรากฏเหงื่อไหลซึมออกมาหมดพลังไปเกือบครึ่ง!ถ้าไม่ใช่ว่าต้องใส่หน้ากากกันแก๊สตลอดเวลา เขาคงหยิบคริสตัลซอมบี้สีใสมากินเพิ่มพลังว่ากันตามจริง เห็ดพวกนี้ไม่ได้น่ากลัวเลยหากมีการเตรียมพร้อมที่ดีพอ ที่น่ากลัวกว่ากลับเป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยให้ใช้พลังอย่างเต็มที่ ลองเปลี่ยนเป็นสัตว์กลายพันธุ์หรือต้นจามจุรียักษ์ครั้งก่อนไม่แน่ว่าผลลัพธ์อาจไม่เป็นเช่นนี้“ถึงแล้ว!!” เฉินเฟิงดีใจมาก ในที่สุดก็มาถึงชั้นหนึ่งเสียที ไม่ต้องสูดดมควันอีกต่อไปแล้วแซ่ก ๆ ๆ“กัดไม่ปล่อยเลยนะ” เฉินเฟิงกัดฟัน ตอนนี้ทางเดินด้านหลังเต็มไปด้วยสปอร์เห็ดจำนวนมหาศาล เห็ดบางต้นยอมตายเพื่อที่จะผลิตสปอร์ให้ได้
ดังนั้นการเดินทางกลับขึ้นไปยังชั้นบนจึงมีเฉินเฟิงเดินนำ คอยกรุยทางและปรับอากาศให้ ลำดับต่อมาจึงเป็นทีโอ และนิโคลัสปิดท้าย ซึ่งทีโอที่สภาพร่างกายไม่ค่อยดีนักพยายามเดินตามคุณเชฟกระต่ายให้ทัน กลัวว่าถ้าคลาดกันแล้วอาจจะโดนภาพลวงตาเล่นงานอีกรอบยอมรับว่าในเวลาที่เหงา เขามักย้อนคิดไปถึงวันที่ปกติสุขดี ทำไมตอนนั้นเขาไม่ทำดีกับหมอนั่นให้มากหน่อยนะ เอาแต่เฮฮาปาร์ตี้ไปเรื่อยจนอีกคนคิดว่าเขาเป็นพวกคาสโนว่าทั้งที่ไม่ใช่เลยสักนิดคนที่เขาชอบคือเลวี่...รูมเมตขี้บ่นที่บ่นได้ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบถึงจะแค่แอบชอบก็เถอะ…แต่เขาก็ให้ใจกับเลวี่ไปมากจริง ๆ การที่ต้องเห็นอีกคนโดนซอมบี้กัดต่อหน้าต่อตาโดยที่ตัวเองไม่สามารถเอื้อมมือไปคว้าไว้ได้ทันเป็นเรื่องที่ปวดใจเขามากที่สุดหลังจากกลุ่มทหารพามาถึงค่ายพันธมิตร เขาพร่ำโทษตัวเองที่ยังมีชีวิตรอด เพราะเขาทำอีกคนหลุดมือก่อนเฮลิคอปเตอร์ช่วยเหลือจะมาถึงเป็นเพราะเขา… เพราะเขาทั้งนั้น!แม้แต่พ่อแม่ก็ช่วยไว้ไม่ได้…ทีโออยากปลิดชีวิตตนเอง แต่พลังพิเศษดันตื่นขึ้นมา เขาจึงกลายเป็นบุคลากรที่สำคัญยิ่งต่อการอยู่รอดของมนุษยชาติ ตัวเขาที่ไม่มีสิ่งใดให้ยึดเหนี่ยวอีกจึงตกล
เอ๊ะทำไมมันร้อน…“โอ้โห ไข้สูงเท่าไรวะเนี่ยมือกูจะพองแล้ว” เลวี่ผละออกไปมือขาวสะบัดไปมาในอากาศนั่นสิ…ทำไมมันร้อนแบบนี้ ร้อนมาก ๆ ด้วย ร้อน…“ร้อน!!!”เฮือก!ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือก ดวงตาเบิกกว้างมองซ้ายมองขวาอย่างงุนงง รอบด้านถูกปิดกั้นจนมองไม่เห็นสภาพแวดล้อมภายนอก คล้ายว่าตนเองกำลังอยู่ในกล่องเหล็กกล่องเหล็ก!จริงด้วย!! ก่อนหน้านี้เขาถูกฝุ่นละอองอะไรก็ไม่รู้โจมตีเข้ามา ในช่วงเวลาที่ใกล้จะหมดสติเขาใช้ลูกเหล็กที่พกติดตัวปิดผนึกฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ไว้ก่อน จากนั้นก็สร้างใบมีดเหล็กขึ้นมาพัดพวกมันให้ออกไป แต่ยิ่งพัดมันก็ยิ่งหมุนวนเข้ามาใกล้ทุกที สุดท้ายจึงสร้างกล่องเหล็กครอบคลุมตัวเองแล้วก็หมดสติ…“อึก” ทีโอเบ้หน้า อากาศที่มีใกล้จะหมดเต็มทน แถมแผ่นหลังที่พิงกับกล่องเหล็กอยู่ก็เริ่มร้อนลวกผิว ชายหนุ่มจำต้องปลดกำแพงเหล็กด้านหลังออก ไม่อย่างนั้นได้กลายเป็นไก่อบฟางในอีกไม่นานแน่ทันทีที่กำแพงด้านหลังถูกเปิดออก เป็นจังหวะเดียวกับที่นิโคลัสเผากองเห็ดเกือบหมดแล้ว เฉินเฟิงที่ได้ยินเสียงกุกกักจากในนั้นมาสักพักก็ไม่รอช้า รีบคว้าตัวทีโอให้มาอยู่ฝั่งเดียวกับตนพร้อมกับตรวจเช็กว่าอีกฝ่ายได้สวมหน้ากากกันแก๊ส
“ไม่ใช่หรอก” นิโคลัสส่ายหน้า “ดูตรงนี้สิ” พลางชี้ให้เห็นตรงทางเดินมีกล่องเหล็กอีกหนึ่งกล่องถูกวางตั้งอยู่ ดูจากลักษณะภายนอกแล้วคล้ายคลึงกับกล่องเหล็กที่เฉินเฟิงเคยขอให้ทีโอทำในตอนที่นำเนื้อวัวลงไปแช่ในน้ำตก“งั้นนี่ก็เป็น…” ทีโองั้นเหรอเฉินเฟิงมองกองเห็ดที่เกาะอยู่บนอะไรสักอย่างจนมีขนาดใหญ่ มันขวางทางเดินไว้เหมือนภูเขาขนาดย่อมจนไม่สามารถผ่านไปได้ ในสมองพลันนึกถึงสิ่งที่ตุ่นและหงส์พบเจอถ้าหากว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้คือทีโอ…“จะเผาแล้วนะ” นิโคลัสให้สัญญาณ เฉินเฟิงจึงนำต้นลิ้นมังกรจุ่มลงไปในกระติกน้ำ แล้วเร่งให้มันดูดควันพิษเหล่านี้ออกไป ต้องขอบคุณเจ้าตัวแสบที่หยิบสิ่งนี้มาให้ ไม่อย่างนั้นหน้ากากกันแก๊สคงกรองฝุ่นควันไม่ไหวนิโคลัสเผาภูเขาเห็ดตรงหน้าอย่างระมัดระวัง พอไหม้ไปได้ระยะหนึ่ง บางส่วนที่อยู่ใต้กองเห็ดก็เผยออกมาให้เห็น“เหล็ก!” นั่นก็หมายความว่า!!พรึบ!นิโคลัสเร่งไฟให้รุนแรงขึ้น เห็ดที่เคยไหม้อย่างช้า ๆ ก็พลันอันตรธานหายไปในเวลาไม่นาน...“โอ…” เสียงอะไร“ทีโอ…” ใครกำลังเรียกเขา“ทีโอ!!”เฮือกดวงตาคมเบิกกว้างก่อนยันตัวมองซ้ายมองขวาที่นี่มัน…“ตื่นสักทีนะไอ้บ้า” ชาย