หน้าหลัก / รักโบราณ / วสันตกาลพานพบ / ตอนที่ 11 วันว่างกับแมวน้อย

แชร์

ตอนที่ 11 วันว่างกับแมวน้อย

ผู้เขียน: MACARONI/1Millionmilesaway
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-08 10:00:31

นับตั้งแต่มีแมวน้อยสีขาวน่ารักตัวนี้อยู่บนเขาแห่งนี้ด้วย ชีวิตประจำวันของหลินเซินก็เปลี่ยนไปจากเดิม วันเวลาที่อยู่อย่างสงบ ๆ ฟังเสียงสายลม เสียงใบไม้พัดปลิว ก็มีเสียงเหมียว เหมียว ดังขึ้นมาเป็นระยะ ราวกับกำลังร้องเรียกเขา ครั้งนี้ก็เช่นกัน

“อย่าบอกนะว่าเจ้าหิวอีกแล้ว นี่เจ้ากำลังโตหรืออย่างไรถึงได้กินเก่งเช่นนี้” หลินเซินบ่นอุบอิบนิดหน่อย ก่อนจะเดินไปหยิบของบางอย่างสะพายหลัง

เขาเดินลงไปด้านหลังเขาเรื่อย ๆ โดยมีเจ้าแมวน้อยตามมาติด ๆ เสียงสายน้ำไหลเอื่อยเริ่มดังขึ้น หลินเซินหยุดอยู่ริมตลิ่ง จัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยพร้อมหย่อนขาลงไปในน้ำ มือข้างหนึ่งถือไม้แหลมยาว สายตาสองข้างมองทะลุเข้าไปใต้น้ำใส ๆ คอยมองหาปลาตัวใหญ่ ๆ ซึ่งเป็นของโปรดเจ้าแมวน้อย

“นี่ข้ากำลังทำอะไรอยู่นี่ อาหารของข้าก็ไม่ใช่ เจ้านี่ทำเหมือนข้ากำลังเป็นทาสอย่างไรอย่างนั้น ใช่ว่าข้ารับเจ้ามาเลี้ยงด้วยเสียหน่อย” แม้จะบ่นมาเป็นชุดแต่สองตาก็ยังจ้องหาปลาต่อไปไม่ลดละ ในที่สุดเขาก็จับปลาตัวใหญ่ได้ตัวหนึ่ง เพียงเท่านี้ยังไม่พอ หลินเซินก่อฟืนจุดไฟก่อนจะนั่งย่างปลาที่เขากินไม่ได้อีกด้วย แต่เมื่อมองไปที่สายตาของแมวน้อยที่จ้องอาหารมื้อใหญ่แล้วก็อดเอ็นดูไม่ได้

หลังจากหาอาหารแล้ว หลินเซินก็มักจะผ่อนคลายร่างกายอย่างที่เคยทำด้วยการลงไปแช่น้ำตก

“กินปลาเสร็จแล้ว เจ้ากลับไปรอข้าที่กระท่อมแล้วกัน” หลินเซินพูดกับเจ้าแมวน้อย เห็นเสียงเหมียว เหมียว ตอบกลับมาก็หันหลังเดินตรงไปที่ริมลำธารอีกครั้ง ราวกับเจ้าแมวน้อยรู้ว่าเขาจะทำอะไร ก็รีบคาบปลากระโดดไปกินที่อื่น หลินเซินเปลื้องเสื้อผ้าคลุมกายออก แสงแดดอ่อนกระทบผิวกายขาวนวลของเขา ขาเรียวยาวค่อย ๆ ก้าวลงน้ำใสเย็นทีละข้าง แล้วหยุดตรงใจกลางลำธาร เขาเล่นน้ำดำผุดดำว่ายอยู่คนเดียวจนพอใจ จึงเริ่มบำเพ็ญตบะเซียนอีกครั้ง ครั้นเหนื่อยแล้วก็สวมเสื้อผ้าครึ่งท่อน ลอยไปที่โขดหินใหญ่ใจกลางลำธาร เอนหลังนอนพิงก้อนหิน ให้ร่างกายท่อนบนอาบแสงแดดอบอุ่นคลายความเหนื่อยล้า

ยามเย็นก็แวะตกปลาอีกตัวมาฝากเจ้าแมวน้อยเป็นอาหารอีกหนึ่งมื้อ ส่วนตัวเขานั้นนั่งกินผลไม้กับสุราดอกท้อด้วยความสำราญใจ

เวลานี้ทั้งสองกำลังนั่งรับลมดูแสงอาทิตย์ที่กำลังลับฟ้า ฝูงนกตัวเล็ก ๆ โบยบินกลับรังส่งเสียงจิ๊บ จิ๊บราวกับทักทายเขา จากที่เคยนั่งอยู่ลำพัง บัดนี้มีเพื่อนตัวน้อยอยู่เคียงข้างเขาเพิ่มขึ้น

แม้จะวุ่นวายหน่อย แต่เขาก็ยินดี เขาอุ้มเจ้าแมวน้อยไว้ในอ้อมกอด ลูบหัวเบา ๆ ลูบขนนุ่ม ๆ ด้วยความรัก ทุกคืนเขาจะพาเจ้าแมวน้อยไปนอนบนที่นอนอุ่น ๆ ข้างในกระท่อม ส่วนตัวเขานอนอาบแสงจันทร์แสงดาราอยู่ใต้ต้นดอกท้อ ดูดซับพลังเซียนที่ไหลเวียนยามค่ำคืน ก่อนจะหลับตาลงหลับใหลสู่นิทรา ก็รู้สึกได้ว่ามีเจ้าตัวเล็ก ๆ ลากผ้าห่มมานอนอยู่ข้าง ๆ เขาจึงเอื้อมมือกอดมันไว้ในอ้อมแขนนอนหลับไปพร้อมกัน

หน้าที่ปลุกหมาป่ากินพืชประจำเช้าแต่ละวันกลายเป็นของเจ้าแมวน้อยไปโดยปริยาย แมวน้อยใช้อุ้งเท้าแตะที่แก้มของเขาอยู่สองสามครั้ง พอเห็นหมาป่าขี้เซาไม่ยอมตื่นจึงกระโดดขึ้นไปบนตัวของเขา น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นทุกวันของเจ้าแมวน้อยทำให้หลินเซินสะดุ้งตื่นขึ้นมา

“ข้าขอนอนต่ออีกสักนิดเถอะนะ อากาศกำลังดีเลย ถ้าเจ้าหิวก็ไปหาปลากินก่อนข้าได้เลย ข้ายังไม่หิว” เขาพูดจบแล้วก็ตะแคงข้างนอนขดตัวอยู่บนพื้นหญ้า ไฉนเลยเจ้าแมวน้อยจะยอม หากปิ้งปลาเองได้คงไม่มามัวแต่อ้อนเขาอย่างนี้หรอก ครั้นจะหาปลากินเองก็ไม่ชอบปลาดิบเสียด้วย เจ้าแมวน้อยจึงไม่ยอมแพ้ เดินมาส่งเสียงร้องเหมียว เหมียวอยู่ตรงใบหูของเขาอยู่นาน ในที่สุด หลินเซินก็จำเป็นต้องตื่นมาหาอาหารให้สิ่งมีชีวิตร่วมโลกตัวเล็ก ๆ จนได้

แต่ก็ใช่ว่าเจ้าแมวน้อยจะได้กินแต่ปลาย่างเท่านั้น บางครั้งเขาก็ทำให้เจ้าแมวอิ่มทิพย์บ้างเพราะขี้เกียจเดินไปไหนมาไหน จนเจ้าแมวกรอกตามองบนไม่รู้จะขอบคุณหรืออย่างไรดี

พอได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาพักหนึ่งแล้ว เขาถึงเพิ่งจะนึกได้ว่าเจ้าแมวน้อยตัวนี้ยังไม่มีชื่อ คิดไปคิดมาจึงเรียกชื่อหนึ่งออกมา

“ข้าจะตั้งชื่อเจ้าว่าเยี่ยนฟาง ต่อไปนี้ถ้าข้าเรียก เจ้าก็รีบมาหาข้านะ ตกลงไหม” แมวน้อยพยักหน้ารู้ความ นับวันยิ่งตอบสนองเหมือนคน ๆ หนึ่งไม่มีผิด แต่คนซื่อบื้ออย่างเขากลับไม่สังเกตเห็น

"เยี่ยนฟาง เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นหมาป่าที่มีตบะเซียน พอมีพลังแล้วจะทำอะไรก็ทำได้ง่าย นี่ดูสิ ข้าอยากกินน้ำค้าง ก็มีน้ำค้างมารออยู่ตรงหน้า เพราะฉะนั้น ข้าอยากให้เจ้าทำได้เหมือนกัน”

สิ่งที่เขาพูดนั้น ดูเหมือนเป็นความหวังดีต่อเจ้าแมวน้อยแต่นั่นก็เพียงส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งคือเขาอยากนอนตื่นสาย หากเจ้าแมวน้อยหิวจะได้ไม่ต้องมากวนเขานั่นเอง

เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด มีหรือเจ้าแมวน้อยจะนั่งอยู่เฉย ๆ การบำเพ็ญตบะเซียนนี่น่าเบื่อจะตายไป อีกอย่างเรื่องอาหารนั้น มีคนทำให้ก็สบายกว่าเป็นไหน ๆ เจ้าแมวน้อยเตรียมตัวกระโจนออกจากสายตาเขา เพียงแต่ว่าหลินเซินนั้นไวกว่า เข้าเอื้อมจับตัวเยี่ยนฟางไว้ได้ทันพอดี แม้คิดจะหนีก็คงหนีไม่ได้อีกแล้ว

หลินเซินจับเจ้าแมวน้อยมานั่งอยู่ข้าง ๆ ค่อย ๆ สอนบำเพ็ญตบะเซียนอย่างช้า ๆ ไม่รีบร้อน เขายังมีเวลาอยู่กับเจ้าแมวน้อยไปอีกนาน ถ้าเขาไม่ถูกทิ้งไปเสียก่อน แล้วก็เป็นดังที่คิด ทั้งสองอยู่เป็นเพื่อนกันจนล่วงเลยมาครบหนึ่งร้อยปี

“เยี่ยนฟาง เก่งมาก ไม่น่าเชื่อว่าตบะเซียนของเจ้าจะเพิ่มขึ้นรวดเร็วถึงเพียงนี้ ต้องเป็นเพราะว่าได้อาจารย์ดีอย่างข้าแน่ ๆ เอาล่ะ วันนี้เพื่อเป็นการฉลอง ข้าจะพาเจ้าไปที่เมืองมนุษย์ เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีของอย่างอื่นน่ากินกว่าปลาย่างอีกนะ แล้วก็มีของหวานกับขนมอร่อย ๆ ตั้งเยอะ” หลินเซินตื่นเต้นดีใจกับความสำเร็จในการสั่งสอนเยี่ยนฟาง อีกทั้งวันนี้ เขายังบรรลุตบะเซียนเก้าขั้นเป็นที่เรียบร้อย มีเรื่องน่ายินดีสองเรื่องในหนึ่งวัน เขาจึงดีใจเป็นพิเศษ

เจ้าแมวน้อยเดินมานั่งบนตักเขาอย่างเคย เอาแก้มนุ่ม ๆ เกยแขนของเขาไว้หลับตาลงด้วยความเหนื่อย “มีที่ไหน แมวฝึกตบะเซียนได้สามขั้นภายในหนึ่งร้อยปี ถ้าไม่ใช่เพราะข้าฉลาดอยู่แล้ว ไม่มีทางหรอกนะ” เสียงอู้อี้ไม่เป็นภาษาดังเล็ดลอดออกมา

ทันใดนั้น หลินเซินสัมผัสได้ว่า ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่นี่ มีอะไรบางอย่างกำลังเรียกหาเขาอยู่ ความรู้สึกอบอุ่นหัวใจก่อตัวขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาหันไปยังทิศทางหนึ่งตามความรู้สึก

“ใครกำลังเรียกข้าอยู่หรือ” หลินเซินพึมพำเบา ๆ คนเดียว

บทที่เกี่ยวข้อง

  • วสันตกาลพานพบ   ตอนที่ 12 เสียงเรียกของหัวใจ

    “เยี่ยนฟาง ข้ารู้สึกแปลก ๆ เหมือนมีบางคนกำลังเรียกข้าอยู่ รีบเข้าเมืองกันเถอะ” หลินเซินพูดกับเจ้าแมวน้อย ไม่รอช้าอุ้มนางไว้ในอ้อมแขนลอยลงมาจากเขาด้วยความเร็วอย่างตื่นเต้น จนลมปะทะเข้าที่หน้าเจ้าแมวน้อย ตาเหลือกกว้างไม่สามารถต้านแรงลมไว้ได้ คอที่ตั้งตรงอยู่แทบจะพลิกไปด้านหลัง นางจึงส่งเสียงร้องให้เขารู้ตัว หลินเซินก้มลงมองท่าทางของนางอย่างขบขัน หัวเราะเบา ๆ สนุกสนาน นางจึงยกมือขึ้นพยายามตะปบแขนเขาด้วยความงอน“ข้ารู้แล้ว ๆ” หลินเซินกอดเจ้าแมวน้อยเอาไว้แน่น คอยบังกระแสลมแรง ก่อนจดจ่อกับการเดินทางต่อเมื่อมาถึงทางเดินยาวสุดสายตา หลินเซินพยายามมองหาสิ่งที่กำลังร้องเรียกเขา หากแต่ไม่เจออะไรที่เข้าท่า เขาจึงเดินตามความรู้สึกไป ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรต่อ กลิ่นของปลาย่างก็โชยมาที่ปลายจมูกของเขา แล้วก็ได้ยินเสียงร้องเหมียว เหมียวดังมาจากฝั่งตรงข้าม ไม่รู้ว่าเจ้าแมวน้อยไปยืนรออยู่หน้าร้านตั้งแต่เมื่อใด“เยี่ยนฟาง อดใจไว้ เดี๋ยวข้าจะพามากิน ข้าให้สองตัวเลย” หลินเซินพยายามโน้มน้าวใจเจ้าแมวน้อย เวลานี้เขารู้สึกอยากตามหาสิ่งนั้นให้พบไว ๆ เสียเหลือเกิน ราวกับว่า ถ้าวันนี้หาไม่เจอค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-10
  • วสันตกาลพานพบ   ตอนที่ 13 แมวน้อยแม่สื่อ

    “เยี่ยนฟาง ตื่นได้แล้ว วันนี้ข้าจะพาเจ้าไปหาของอร่อย ๆ นะ” หลินเซินลูบหัวของเจ้าแมวน้อยแผ่วเบา รอยยิ้มสดใสประดับบนใบหน้าหล่อเหลา เจ้าแมวน้อยงัวเงียค่อย ๆ ลืมตาขึ้นด้วยความงุนงง เพราะเห็นความกระตือรือร้นของหลินเซินในรอบหลายปีเขาอุ้มเยี่ยนฟางไว้ในอ้อมกอดพานางลอยลิ่วลงมายังล่างเขา ก่อนจะไปแวะซื้อปลาย่างร้านโปรด เมื่อเห็นว่าเจ้าแมวน้อยอิ่มแปล้จนพุงย้อย เขาก็อุ้มนางเดินเล่นในตลาดอยู่สักพัก ครั้นได้เวลา หลินเซินจึงมุ่งหน้าไปที่บ้านของเจียลี่ แอบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่เพื่อไม่ให้นางเห็น“ท่านพ่อ วันนี้ต้องไปส่งของที่ร้านเฒ่าแก่ใช่หรือไม่” เจียลี่เอ่ยปากถามพลางจัดของใส่ตะกร้าใบใหญ่“อื้ม เจ้าอยากไปเองหรือ” บิดาถามนางเพราะรู้ใจ“เจ้าค่ะ เชิญท่านพ่อพักผ่อนให้สบายที่บ้านเถิด งานทางนี้ ข้าดูแลเอง ท่านพ่อไม่ต้องกังวล” นางพยายามยกตะกร้าใบใหญ่ด้วยความเงอะงะจนบิดาอดสงสัยไม่ได้“เจียลี่ เจ้าไปคนเดียวได้หรือ”“เจ้าค่ะ” นางตอบเขาก่อนจะพยายามยกตะกร้าขึ้นอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้กลับยกขึ้นได้อย่างง่ายดายจนตนเองก็แปลกใจ“ไปก่อนนะเจ้าคะ” นางยิ้มให้บิดาแล้วเดินล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-12
  • วสันตกาลพานพบ   ตอนที่ 14 หมาป่าคำราม

    เจียลี่มาพบเขาที่หน้าประตูบ้าน“หลินเซิน ข้ามีเรื่องจะบอกเจ้า”“เรื่องอันใดหรือ” เขาขมวดคิ้วเข้าหากัน เงี่ยหูฟังสิ่งที่นางจะบอก“ข้าต้องกลับบ้านแล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อใดจะได้กลับมาที่นี่อีก หวังว่าจะมีโอกาสได้เจอเจ้าอีกนะ”หลินเซินครุ่นคิดเรื่องราวในหัวว่าจะทำอย่างไรดี เขายังไม่ได้คำตอบเลยว่าทำไมนางถึงทำให้หัวใจของเขาหวั่นไหวได้ถึงเพียงนี้ ทั้งยังเรื่องด้ายสีทองที่ผูกมัดเขากับนางอีก “ข้าต้องรู้ให้ได้ ว่าเจ้าเป็นใคร ทำไมใจข้าต้องเต้นแรงทุกครั้งที่เห็นหน้าของเจ้า” ราวกับมีคนรู้ทัน เยี่ยนฟางใช้พลังส่งกระแสจิตไปหาเขา “ไปส่งนางที่บ้านสิ”“เอ๋ เยี่ยนฟาง เจ้าพูดได้แล้วหรือ” หลินเซินตาโตประหลาดใจ ส่งกระแสจิตกลับไปหานาง แต่ไม่มีสัญญาณตอบกลับ“เจียลี่ ข้าได้ยินมาว่าป่าทางนั้นมีสัตว์ดุร้ายออกอาละวาด โจรป่าชุกชุม แอบปล้นเสบียงของพ่อค้าที่ผ่านไปมาอยู่บ่อย ๆ ให้ข้าไปส่งเจ้าที่บ้านดีหรือไม่” หลินเซินเสนอตัวเองอย่างที่เยี่ยนฟา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • วสันตกาลพานพบ   ตอนที่ 15 พันธสัญญาเลือด

    “ข้า... ข้าเข้าใจแล้ว” เจียลี่นิ่วหน้าเหมือนจะร้องไห้ นางไม่อยากโดนสัตว์ประหลาดแทะแขนแทะขานางเหมือนในเรื่องเล่าสยองขวัญของพวกพ่อค้าจึงได้แต่รับปากด้วยความกลัว“พูดไปได้ว่าจะกินนาง เจ้าหมาป่าซื่อบื้ออ่านนิยายแนวนั้นมากไปใช่หรือไม่ เจ้าลืมไปแล้วหรืออย่างไรว่าเจ้าน่ะเป็นสัตว์กินพืช” เยี่ยนฟางบ่นอุบอิบในใจส่งเสียงร้องเหมียว เหมียว แรก ๆ นางเพียงตกใจตามสัญชาตญาณที่ได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ที่มีอำนาจมากกว่า เรื่องนี้ดูมีเงื่อนงำกว่าที่คิด นางแค่รอให้เขามาระบายให้ฟังก็จะได้รู้แล้วว่าเขาคิดอะไรอยู่ ร้อยปีที่เขาคอยดูแลนางด้วยความห่วงใย ทำให้นางแน่ใจได้ว่าเขาไม่ใช่สัตว์ป่าดุร้ายเมื่อตกลงกันได้เรียบร้อย ทั้งสองพากันเดินกลับที่พักเงียบ ๆ ต่างคนต่างไม่พูดอะไรตลอดทาง“เจียลี่ เจ้าหายไปไหนมา” จวีจิวฝูถามบุตรสาวด้วยความกระวนกระวายใจ เขาตกใจตื่นขึ้นเพราะได้ยินเสียงคำรามของหลินเซินดังไปทั่วทั้งป่า“ท่านพ่อ ข้าไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ” เจียลี่พยายามทำสีหน้าปกติ นางเกรงว่าบิดาจะกังวลหากเห็นสีหน้าหวาดกลัวของนาง“

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
  • วสันตกาลพานพบ   ตอนที่ 16 บ้านเกิดของเจียลี่

    สองอาทิตย์ผ่านไป“เจียลี่ ถึงบ้านแล้ว” จวีจิวฝูตะโกนบอกบุตรสาวที่นั่งอยู่ในรถม้า“จริงหรือ” นางเปิดหน้าต่างเห็นทิวทัศน์ที่คุ้นตาเผลอยิ้มออกมา แต่แล้วก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเห็นคนที่นั่งข้าง ๆ กำลังจ้องอยู่“ข้าจะต้องทำตามที่เจ้าบอกไปจนถึงเมื่อใด” นางถามเขาอีกครั้งเผื่อเขาจะเปลี่ยนใจ แต่เมื่อมองสายตาของเขาราวกับได้คำตอบแล้วว่า “อีกนาน” นั่นล่ะ คำตอบสั้น ๆ ของเขาลั่วหมิงเฟยได้แต่มองความสัมพันธ์ของทั้งสองคนอย่างเงียบ ๆ อันที่จริงเขาเห็นมาสักพักแล้วว่าดูแปลก ๆ แต่สิ่งที่แปลกกว่าคือ เจ้าแมวตัวน้อยสีขาวมักจะไม่ชอบให้เขาเข้าใกล้หลินเซินหรือคนอื่น ๆ สักเท่าใดครั้งหนึ่งเขาพยายามจะลูบหัวเพื่อทำความคุ้นเคยกลับโดนตะปบอย่างเลือดเย็น กระนั้นเขาไม่ยอมแพ้เป็นคนคอยหาปลามาย่างให้นางอยู่บ่อย ๆ เอาไม้ตกแมวมาล่อให้นางเล่นด้วยอยู่หลายครั้ง นึกไม่ถึงว่านางไม่ยอมใจอ่อนเป็นมิตรกับเขาบ้างเลยจวีจิวฝูหยุดรถม้าหน้าบ้านหลังเล็ก เขาค่อนข้างกังวลใจว่าจะจัดสรรที่อยู่ในบ้านอย่างไร เดิมทีเขาอาศัยอยู่กับบุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-18
  • วสันตกาลพานพบ   ตอนที่ 17 เยี่ยนฟางกลายเป็นมนุษย์

    “เหลือจะเชื่อเลยจริง ๆ ว่าเจ้าใช้วิธีนี้” เจียลี่อ้าปากค้างคิดไม่ถึง “อย่าได้คิดทำเช่นนี้กับข้า” เจียลี่รีบบอกเขากลัวว่าสักวันนางจะโดนสะกดจิตให้ทำอะไรแปลก ๆ“อย่างเจ้าน่ะ ต้องยอมทำให้ข้าด้วยความเต็มใจ” หลินเซินยิ้มเจ้าเล่ห์ให้นาง “ไปกันเถอะ” เขาชวนนางเดินไปที่ร้านถังหูลู่“ข้าขอสองไม้” หลินเซินใช้วิธีเดิมกับพ่อค้าร้านถังหูลู่ กระนั้นยังมีใจแบ่งให้นางหนึ่งไม้ เจียลี่เห็นเช่นนั้นจึงหันไปจ่ายเงินให้พ่อค้าแทนเขา“เจ้าทำแบบนี้มาตลอดเลยหรืออย่างไร อยู่เมืองมนุษย์ก็ต้องมีเงินเก็บไว้บ้าง” เจียลี่บ่นอุบอิบอยู่ข้างเขา นางรู้สึกว่าเรื่องราวของเขานั้นซับซ้อนจนไม่รู้จะเริ่มถามอะไร“อยู่กับข้าไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวเจ้าก็รู้เอง” หลินเซินยักคิ้วข้างหนึ่งอารมณ์ดี“อยู่กับเจ้าไปเรื่อย ๆ อย่างนั้นหรือ รู้เช่นนี้ ข้าน่าจะแต่งงานเสียตั้งแต่ก่อนเจอเจ้า” นางพูดเสียงอ่อยท้อแท้ใจถ้าจะต้องอยู่เหมือนเป็นทาสของหมาป่าจอมโหด“ถ้าเจ้าแต่งงานกับผู้อื่น ข้าคงเสียใจมาก”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-20
  • วสันตกาลพานพบ   ตอนที่ 18 แมวน้อยเกิดอาการน้อยใจ

    “พี่สะใภ้ ท่านใจเย็นก่อน” หมิงเฟยเลิ่กลั่กมองซ้ายขวาหาทางหนี เพียงแต่ว่าถูกเจียลี่และเยี่ยนฟางขนาบข้างจึงได้แต่นั่งหดตัว“บอกเรื่องที่เจ้ารู้มาให้หมด เจ้าจิ้งจอกน้อย” เจียลี่ยิ้มมุมปากรอฟังคำตอบของเขา“ข้ายังบอกไม่ได้ขอรับ รอท่านพี่มาอธิบายจะดีกว่า” หมิงเฟยหลบสายตาของทั้งสองคน“เช่นนั้นย่อมได้ เจ้าอย่าเพิ่งบอกเขาว่าข้ารู้เรื่องทั้งหมดแล้ว อยากจะรู้นักว่าจะแกล้งข้าไปจนถึงเมื่อใด” เจียลี่สั่งห้ามหมิงเฟยน้ำเสียงเด็ดขาด หมิงเฟยคิดในใจว่าท่านพี่ของเขาคงจะเจองานใหญ่เข้าแล้วเช้าวันต่อมาเจียลี่กำลังหวีผมผูกผ้าให้เยี่ยนฟางอยู่ในห้อง นางได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากหน้าบ้านจึงรีบลงมาดู เห็นบิดาของนางกำลังลากกระสอบใบใหญ่เข้ามาตรงกลางลานบ้าน“เจียลี่ พ่อกลับมาแล้ว” จวีจิวฝูเดินเข้ามากอดบุตรสาวด้วยความคิดถึง หน้าตาของเขามอมแมมจากการเข้าป่าขุดสมุนไพร“ท่านพ่อ เจ็บตรงไหนหรือไม่ หน้าตาท่านเปรอะเปื้อนดินโคลนไปหมดแล้ว” เจียลี่สำรวจหาบาดแผลของเขา พลันได้ยินเสียงใสแจ๋วของเยี่ยน ฟางดังขึ้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-22
  • วสันตกาลพานพบ   ตอนที่ 19 ลอบทำร้าย

    ผ่านไปสองเดือน“ท่านพี่หลินเซินนนน น้ำค้างยามเช้ามาแล้วเจ้าค่ะ” เยี่ยนฟางตะโกนปลุกเขาเช้าตรู่ วันนี้นางตื่นก่อนเวลาเพื่อออกไปเก็บน้ำค้างมาให้เขา ทั้งยังเด็ดดอกไม้สามสี่ดอกติดมือมาด้วยด้านคนที่กำลังหลับฝันดีอยู่ในบ้านสะดุ้งตื่นเพราะเสียงแหลมเจื้อยแจ้วของนาง เขาชั่งใจคิดว่าระหว่างให้นางเป็นแมวกับคน อย่างไหนจะดีกว่ากัน ตั้งแต่ที่เยี่ยนฟางพูดได้ นางก็พูดกับเขาไม่หยุดตลอดทั้งวัน“ได้ยินแล้วเยี่ยนฟาง เดี๋ยวข้าออกไป” หลินเซินเดินออกมาหานางข้างนอก ดูเหมือนว่าทุกคนพร้อมใจกันมารวมตัวอยู่หน้าห้องของเขา“ตื่นแล้วหรือหลินเซิน” เจียลี่ยิ้มหวานทักทายเขา เจียลี่แต่งตัวสวยจนหลินเซินจ้องนางตาไม่กระพริบ วันนี้พวกเขาทั้งสองมีนัดไปเที่ยวตลาดในเมืองกันสองคน“หมิงเฟย พวกเรารีบไปกันดีกว่า อยู่ตรงนี้นานข้าพาลจะหงุดหงิด เบื่อคนมีความรัก” เยี่ยนฟางชวนหมิงเฟยออกมาข้างนอก ปล่อยให้คนทั้งสองอยู่กันตามลำพัง“พวกเจ้าสองคนระวังตัวกันด้วย” เจียลี่ตะโกนบอกด้วยความเป็นห่วง ทั้งคู่จึงโบกมือส่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-24

บทล่าสุด

  • วสันตกาลพานพบ   ตอนที่ 48 คำสาปสะท้อนกลับ

    ทันใดนั้นเหล่าลูกสมุนของคนผู้นั้นก็ขึ้นมาจากกองกระดูกด้านล่าง พลังมืดปกคลุมรอบตัวส่งกลิ่นอายความกระหายเลือดเนื้อของคนเป็น เจียลี่บาดเจ็บจากการโจมตีครั้งสุดท้ายมากนัก นางพยายามคลานหนีจากหุ่นเชิดสังหารแต่แรงที่มีกลับถดถอยลงเจียลี่เห็นอาวุธแหลมคมกำลังพุ่งมาทางนาง ทว่ากลับไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะพลิกตัวหลบ คิดในใจว่าสายไปเสียแล้ว ชีวิตของนางคงสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ นางหลับตาพร้อมยอมรับชะตากรรมจู่ ๆ มีดบินสามเล่มก็กระทบกับลูกธนู เยี่ยนฟางเหลือบเห็นเหตุการณ์พอดีจึงช่วยนางไว้ได้ทัน“ท่านพี่!” เมื่อได้ยินเสียงเรียกของเยี่ยนฟาง เจียลี่ลืมตาขึ้นถอนหายใจ แล้วเสียงลึกลับก็ดังขึ้นอีกครั้ง“เฮ้อ น่าเสียดาย ๆ” เขาดูจะพอใจที่ได้เห็นเรื่องราวความเป็นความตายของผู้อื่นยิ่งนักเยี่ยนฟางที่เห็นสภาพของเจียลี่เช่นนั้น พยายามหลบหลีกจากการปะทะกับซิ่วอิงให้เร็วที่สุด แต่นางกลับกัดไม่ปล่อย ซิ่วอิงไม่เปิดจังหวะแม้แต่น้อย นางจึงตะโกนบอกหมิงเฟยให้ร่ายม่านเขตแดนปกป้องเจียลี่เพราะพลังเซียนของนางกำลังถดถอยเมื่อมีม่านเขตแดนของหมิงเฟยเป็นเกราะกำบัง ลูกสม

  • วสันตกาลพานพบ   ตอนที่ 47 ของเล่น

    ขณะที่เยี่ยนฟางและเจียลี่กำลังช่วยกันหาทางออกจากหุบเขากองกระดูกอยู่ข้างบน จู่ ๆ ซิ่วอิงโผล่มาตวัดแส้รัดข้อเท้าของเจียลี่แล้วลากนางลอยออกมาอย่างรวดเร็วจนเยี่ยนฟางคว้าไว้ไม่ทัน ร่างของเจียลี่กระแทกไปตามพื้นขรุขระจนได้แผล“วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้” ซิ่วอิงคิดจะแก้แค้นที่เซียวอวี้เทียนสังหารหนิงเหอ นางเอาความโกรธมาลงที่เจียลี่เพราะรู้ว่าเซียวอวี้เทียนรักเจียลี่มากเพียงใด อีกทั้งคนผู้นั้นยังเห็นดีเห็นงามด้วยเพราะนางเป็นคนที่หลินเซินรักมากเช่นกัน หากทำลายนางได้แล้ว หลินเซินคงจะแตกสลายไปเองโดยที่เขาไม่ต้องทำอะไร เพียงเท่านี้ก็จะไม่มีใครขัดขวางแผนการของเขาได้อีก“ฝันไปเถอะ” เยี่ยนฟางปามีดบินใส่นางจนเผลอปล่อยเจียลี่ “กล้าทำร้ายนาง ไม่กลัวเขาหรืออย่างไร” นางเตือนสติซิ่วอิงถึงสิ่งที่หลินเซินเคยพูดไว้“หลินเซินผู้นั้น ไม่มีทางทำอะไรข้าได้หรอก เวลานี้แม้แต่จะออกจากความฝันยังทำไม่ได้” ซิ่วอิงไม่มีความเกรงกลัวสิ่งใดเหลืออยู่ นางโกรธแค้นจนอยากจะกำจัดทุกสิ่งที่ทำร้ายเผ่าของนางเยี่ยนฟางกันเจียลี่ไว้ข้างหลัง นางถือมีดบินสามเล

  • วสันตกาลพานพบ   ตอนที่ 46 หุบเขากองกระดูก

    ผู้คนที่ถูกมือลึกลับดึงผ่านหลุมดำต่างปรากฏตัวอยู่ที่หุบเขากองกระดูกด้วยความมึนงง ภาพสยดสยองของโครงกระดูกกองพะเนินเป็นภูเขา อีกทั้งร่างเหือดแห้งไร้เลือดเนื้อยังทำให้คนที่พบเห็นแทบจะคลื่นเหียนอาเจียนออกมาในทันใด มนุษย์ธรรมดาล้มทั้งยืนปล่อยให้ลูกสมุนของคนผู้นั้นดูดกลืนพลังชีวิตได้โดยง่าย แต่เผ่าพันธุ์อื่น ๆ และเทพเซียนดินแดนสวรรค์ยังพอจะตั้งสติได้เร็วกว่าจึงปกป้องตัวเองได้บ้าง“เยี่ยนฟาง” หลังจากที่ตกลงมาพร้อมกัน ทั้งคู่กระเด็นไปคนละทาง เจียลี่พยายามวิ่งหลบลูกสมุนที่กำลังเล่นโยนหัวกระโหลกสนุกสนานไปอีกทาง“ท่านพี่ ท่านมาหลบอยู่หลังข้า” นางดึงมือเจียลี่แล้วร่ายม่านเขตแดนที่หลินเซินเคยสอนเอาไว้ แม้ยามนี้จะกลัวพลังมืดที่อยู่ตรงหน้าแต่นางก็พร้อมสู้ไม่หวั่น“หาทางหนีออกจากที่นี่ก่อนเถิด” เจียลี่กระซิบบอกนางให้ถอยหลังไปตรงที่ไม่มีใครอยู่เพื่อดูลาดเลา เสียงร้องโหยหวนสลับกับเสียงหัวเราะของผู้ที่เหนือกว่าดังสลับกันเป็นระยะคล้ายกับเสียงหลอกหลอนจนแทบจะประคองสติไว้ไม่อยู่ทันทีที่หมิงเฟยโฟล่มายังที่แห่งนี้ จักรพรรดิจิ้งจอกไม่รอให้เขาได

  • วสันตกาลพานพบ   ตอนที่ 45 สวรรค์ปั่นป่วน

    ดินแดนสวรรค์เวลานี้กำลังโกลาหลวุ่นวายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน คำสาปของเซียวอวี้เทียนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ายกำลังถูกควบคุมจิตใจเมื่อช่วงเช้า เซียนน้อยในตำหนักกำลังยืนกวาดใบไม้บนลานกว้างอยู่ดี ๆ กลับถูกเซียวอวี้เทียนร่ายเวทปลิดชีวิตในท่วงที กระนั้นเพียงแค่ชีวิตเดียวยังคงไม่หนำใจ เขาหายตัวไปหาอีกคนที่กำลังยืนตะลึงงันกับสิ่งที่เขาทำกับสหายเซียนแล้วใช้มือข้างขวาเสียบทะลุร่างของเซียนที่น่าสงสารไม่อาจหนีได้ทัน จากนั้นทุกคนที่อยู่ในตำหนักต่างพากันหนีจ้าละหวั่น“เทพสงครามพ่ะย่ะค่ะ” แม่ทัพใหญ่กองทัพสวรรค์เข้ามารายงานเหตุการณ์“เกิดเรื่องใด” เทียนจวินนึกสงสัยว่าสิ่งใดทำให้ท่านแม่ทัพเหงื่อตกได้เพียงนี้“เซียวอวี้เทียนกำลังไล่สังหารเหล่าเซียนในตำหนัก ข้าส่งทหารไปคุมคุมตัวเขาแล้ว แต่ไม่อาจหยุดยั้งได้ เวลานี้เทพวายุพยายามต้านทานเขาไว้พ่ะย่ะค่ะ” เขาปาดเหงื่อที่ผุดเต็มใบหน้า เทพสงครามที่เก่งกาจที่สุดไล่ฆ่าผู้คนในสวรรค์จะมีสักกี่คนที่สู้กับเขาได้“เทียนจวิน เทพสงครามกำลังมา

  • วสันตกาลพานพบ   ตอนที่ 44 ผนึก

    ดินแดนสวรรค์เทียนจวินได้ข่าวว่าบุตรสาวของตนได้รับบาดเจ็บรีบรุดมาหาด้วยความเป็นห่วง พอได้ตรวจดวงจิตของนางจึงได้รู้ว่าพลังของคนผู้นั้นกลับมาอีกแล้ว เขาร่ายเวทของตนเองลบล้างพลังที่ครอบงำจิตของบุตรสาวอยู่หนึ่งชั่วยามจนพลังของเขาอ่อนแอลงครั้งอดีต คนผู้นั้นเคยล่อลวงซ่งอี้ในวัยเด็กให้สละชีวิตของตนเองให้เขาเพราะพลังของนางยิ่งใหญ่เหลือคณาจนสามารถฟื้นร่างเซียนและพลังทั้งหมดของเขาได้ มารดาซ่งอี้จึงสละชีวิตของตนเองร่ายผนึกเพื่อปกป้องบุตรสาว เวลานั้นเทียนจวินทั้งรู้สึกเสียใจที่สูญเสียคนรักและสงสารบุตรสาวที่กำพร้ามารดาจึงเลี้ยงดูนางตามใจมาโดยตลอด“เสด็จพ่อ ข้า...” ซ่งอี้ที่ฟื้นได้สติมองหน้าบิดาด้วยความสำนึกผิด เมื่อหลุดจากการครอบงำ ซ่งอี้เริ่มจำได้ว่านางทำสิ่งเลวร้ายใดลงไปบ้าง น้ำตาของนางเอ่อล้นเสียใจ ก้มลงมองดูมือที่เปื้อนเลือดชีวิตคนบริสุทธิ์และเหล่าเซียนน้อยที่รับใช้นาง“ซ่งอี้ เจ้าอย่างเพิ่งพูดสิ่งใด” เทียนจวินกอดปลอบนางนึกสงสารบุตรสาวจนต้องร่ายเวทอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้นางจมสู่ภวังค์ด้านเซียวอวี้เทียนเองก็ไ

  • วสันตกาลพานพบ   ตอนที่ 43 ฝันลวง

    ในเวลานั้น ซ่งอี้แอบตามเซียวอวี้เทียนลงมายังดินแดนมนุษย์เช่นเดียวกัน นางมองเขาอยู่ห่าง ๆ รู้สึกไม่สบอารมณ์ยิ่งนักที่เห็นเขาคอยวนเวียนอยู่กับเจียลี่ผู้เป็นศัตรูหัวใจของนาง ครั้นพอตกกลางคืนซ่งอี้ได้เข้าไปในความฝันของเซียวอวี้เทียนโดยไม่รู้ตัว นางเห็นภาพในอดีตทุกอย่างของเขา โดยเฉพาะยามที่เซียวอวี้เทียนอยู่กับหยางซือซือที่ตำหนักโคมดวงจิต พลันในใจเกิดความอิจฉาเข้าครอบงำอยากได้รอยยิ้ม ความรัก ความห่วงใยเช่นนั้นจากเขาบ้าง“บอกข้ามาเถิด ความปรารถนาของเจ้าคือสิ่งใด” เสียงลึกลับพูดกับนางในความฝัน พยายามหลอกล่อให้นางติดกับดัก“เจ้าเป็นใคร” นางยืนอยู่ในความมืด หันซ้ายแลขวาถามคนที่แอบซ่อนอยู่ในเงา“ความปรารถนาของเจ้า ข้าช่วยได้” เงามืดขยับไหวรอบตัวนางพลางพูดถึงสิ่งที่นางเห็นในความฝันซ้ำ ๆ จนนางไม่อาจต้านทานความรู้สึกของตนเองได้ คนที่มีด้ายแดงผูกกับเขาคือนางแต่ทำไมแม้แต่หน้าของนางเขากลับไม่อยากมอง นางคนนั้นแม้จะมีคนรักในชาตินี้ เขาก็ยินดีที่จะอยู่เคียงข้างนางโดยไม่หวังสิ่งใด ซ่งอี้ผู้นี้มีทุกสิ่งดังใจแต่ไม่อาจครอบค

  • วสันตกาลพานพบ   ตอนที่ 42 สามีของข้า

    หลังจากนั้นไม่นาน ผู้คนในแคว้นต่าง ๆ เริ่มหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยทีละคนสองคน หลายหมู่บ้านอยู่กันอย่างหวาดกลัวคิดว่ามีปีศาจออกอาละวาดจนไม่กล้าออกไปทำมาหากิน ไม่เพียงแค่มนุษย์เท่านั้น เผ่าพันธุ์อื่น ๆ ต่างประสบปัญหาเดียวกัน แม้จะมีการสืบหาที่มาแต่ทำอย่างไรก็ไม่พบ คนที่ส่งออกตามหาข่าวย่อมสูญหายเช่นเดียวกันเซียวอวี้เทียนได้รับรายงานจากหลายตำหนักว่าเซียนน้อยที่ลงมาทำภารกิจบนดินแดนมนุษย์ไม่กลับขึ้นสวรรค์ตามกำหนด เทียนจวินจึงสั่งให้เขาลงมาสืบหาสาเหตุ เขาตัดสินใจเริ่มต้นหาข่าวในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่เมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนเกิดพลังเวทขุมใหญ่คอยดูดกลืนพลังชีวิตผู้คน เมื่อได้เห็นว่าเป็นหมู่บ้านจิ้งจอกแดงจึงคอยดูความเคลื่อนไหวอยู่รอบนอกครั้นได้เห็นว่าเจียลี่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้จึงปลอมตัวปะปนเข้าไปในหมู่บ้านด้วย“แม่นาง ให้ข้าช่วยถือหรือไม่” เขาเอ่ยถามน้ำเสียงสุภาพ“ไม่รบกวนท่านดีกว่า เดินอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว” นางตอบปฏิเสธ แล้วหันหลังจะเดินต่อแต่สะดุดบางอย่าง เซียวอวี้เทียนรีบคว้าเอวของนางไว้ไม่ให้ล้มคะมำแล้วรับตะ

  • วสันตกาลพานพบ   ตอนที่ 41 อดีตของลู่ฟางหรง

    เช้าวันรุ่งขึ้น พิธีศพของผู้วายชนม์ได้จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ผู้คนพยายามตั้งสติของตนเพื่อรับมือกับการสูญเสียคนรัก บรรยากาศรอบตัวอึมครึม เสียงร้องไห้คร่ำครวญสลับกับเสียงปลอบใจดังมาเป็นระยะ แม้กระทั่งท้องฟ้ายังมืดมัวมีเมฆครึ้มส่อเค้าฝนหมิงเฟยมองดูร่างของถังลี่ฮวาบนแท่นไม้ที่ก่อเอาไว้ด้วยใจที่แตกสลาย คนที่เขาเพิ่งจะจูงมือเข้าพิธีแต่งงาน ก้มลงคำนับฟ้าดินเพื่ออยู่ด้วยกันจนแก่ชราจากเขาไปแล้ว น้ำตาเอ่อคลอนึกถึงวันวานที่เคยหัวเราะด้วยกันยามที่ได้ฟังนางบรรเลงเพลงพิณ รอยยิ้มสดใสของนางยังคงชัดเจนในใจของเขาเสมอ บัดนี้กลายเป็นเพียงความทรงจำที่หลงเหลืออยู่ เขาบอกลานางเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะวางของแทนใจไว้ข้าง ๆ หวังว่าเกิดชาติหน้าจะมีวาสนาได้พบกันอีกครั้นเสร็จสิ้นพิธีส่งดวงวิญญาณ คนที่เหลืออยู่ก็เริ่มหันมารักษาบาดแผลของตนเองที่ยังไม่หายดี ต่างคนต่างคอยให้กำลังใจกันเพื่อที่จะผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความสูญเสียไปให้ได้ นอกจากนั้นยังมีเรื่องหนึ่งที่พวกเขายังคงหนักใจ การกลับมาของจักรพรรดิจิ้งจอกทำให้พวกเขาอกสั่นขวัญหนีต้องรีบฟื้นพลังของตนเตรียมรับมือหากต้องเผ

  • วสันตกาลพานพบ   ตอนที่ 40 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน

    ในช่วงเวลาที่ทุกคนไม่คาดคิด หลินเซินพาตัวเจียลี่และเยี่ยนฟางที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หนีมาจากที่ตรงนั้นได้ทันท่วงทีจึงไม่ได้รับอันตราย จากนั้นจึงรีบกลับไปช่วยคนอื่นที่อยู่ในงาน เฉิงซานร่ายเวทป้องกันหยางมี่และหลิวอิง แขนของเขาบาดเจ็บจากคมฝนจนแทบจะยกไม่ขึ้น เฉิงเซียวจึงรับช่วงต่อพาทั้งหมดหนีออกจากใจกลางความวุ่นวายหลินเซินกลับเข้ามาในงาน เขาร่ายม่านเขตแดนปกป้องหมิงเฟยและร่างของถังลี่ฮวาเอาไว้ ทันทีที่หลินเซินปรากฏตัว ร่างดำทะมึนจึงค่อย ๆ เผยโฉมของตน“จักรพรรดิจิ้งจอก” เฉิงเซียวตะโกนเสียงดังจากด้านหลัง สิ้นเสียงของเขา คนผู้นั้นระเบิดเวทสายสีดำรัดตัวเฉิงเซียวแน่น ค่อย ๆ บีบที่ลำคอจนเส้นเลือดปูดโปน พลังของจักรพรรดิจิ้งจอกเปลี่ยนไปมาก ทั้งรุนแรงและชั่วร้ายบีบอัดคนที่ตกอยู่ในเงื้อมมือจนร่างแทบจะแหลกเหลวไปตามแรง เยี่ยนฟางโผล่ออกมาจากที่ซ่อนตัวเพื่อตามหาหมิงเฟยเห็นเฉิงเซียวไม่อาจหนีได้จึงร่ายเวทตัดพลังช่วยเฉิงเซียวได้อย่างหวุดหวิดทันใดนั้น ทหารจิ้งจอกหลายสิบคนโผล่ออกมาจากหลุมดำ รัศมีความชั่วร้ายปกคลุมร่างพวกเขา ดวงตาสีขาวโพลนสร้างความหวาดกลัวให้ผู้พบเห็น พวกมันเริ่ม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status