แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: ตั้นเหวยจุนกู้
หลังจากบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งเคลียร์ทาง เด็กสาวคนหนึ่งก็ถูกเข็นเข้ามา

ที่ข้างๆรถเข็น ภายใต้การคุ้มกันของกลุ่มบอดี้การ์ด หญิงผู้เลอโฉมไร้ที่ติรูปร่างสูงเพรียวสวมเลกกิ้งสีดำและมีผมสลวยราวกับน้ำตกกำลังจับมือเด็กสาวตัวน้อยด้วยความกังวลอยู่ และเสียงของเธอสั่นเครือเหมือนกับจะร้องไห้

“เชี่ยนเชี่ยน อย่าเป็นอะไรไปเด็ดขาดนะ พี่อยู่ตรงนี้ พี่จะช่วยเธอให้ได้ จะช่วยให้ได้...”

แม้ว่าสถานการณ์ในขณะนั้นจะเร่งด่วน แต่คนหลายคนก็ตระหนักได้ในทันทีว่าหญิงสาวคนนี้เป็นใคร

สตรีผู้สูงศักดิ์แห่งตระกูลซ่งที่มีชื่อเสียงในเจียงตง ผู้เป็นที่รู้จักและได้รับฉายาว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งเจียงตง ซ่งเสวี่ยเฟย

วงการแฟชั่นเจียงตงได้กล่าวถึงซ่งเสวี่ยเฟยไว้สี่คำ: นารีเป็นเหตุ! ! !

“คุณหนูซ่ง ได้โปรดอย่าเพิ่งกังวลไปเลยครับ พวกเราทางโรงพยาบาลอันดับหนึ่งจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยน้องสาวของคุณให้ได้!”

จางฉางหมิง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลตกใจและรีบวิ่งเข้ามาให้คำมั่นในทันที

จะให้ทำอย่างไรได้ สถานะของซ่งเสวี่ยเฟยนั้นไม่ธรรมดาเอาเสียเลย และอิทธิพลของตระกูลซ่งในเจียงตงก็มีมากมายมหาศาล

ในขณะนี้มีผู้ป่วยจากตระกูลซ่งเข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลอันดับหนึ่งแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ตาม ทางโรงพยาบาลก็ทำได้เพียงรับหน้าที่นี้ไว้ และต้องแสดงความจริงใจทั้งหมดออกมา

หลังจากเห็นน้องสาวของเธอถูกส่งตัวไปห้องฉุกเฉิน ซ่งเสวี่ยเฟยก็หันกลับมา เธอมองไปยังบุคลากรทุกคนที่รีบเข้ามา

บนใบหน้าที่งดงามไร้ที่ติของเธอยังคงมีคราบน้ำตาอยู่

แต่มันก็ไม่สามารถบดบังท่าทางอันสูงส่งและออร่าอันทรงพลังของสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเจียงตงได้

“ผู้อำนวยการจาง ไปเชิญแพทย์ที่เก่งที่สุดจากโรงพยาบาลของคุณมาที่นี่เดี๋ยวนี้ ฉันมีคำขอเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือช่วยชีวิตเชี่ยนเชี่ยนให้ได้ ตระกูลซ่งของเราจะตอบแทนอย่างงามในภายหลัง!”

จางฉางหมิงพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม: "แน่นอนครับ เราจะต้องจัดบุคลากรที่เก่งที่สุดมาให้คนของตระกูลซ่งแน่นอนอยู่แล้วครับ แต่ว่าตอนนี้ผู้อำนวยการไม่อยู่ที่นี่ เพราะงั้นผมคงต้องทำการผ่าตัดเอง"

“แล้วก็ ผมยังต้องการแพทย์เฉพาะทางที่เก่งที่สุดมาช่วยอยู่ข้างๆผมคนหนึ่งด้วย”

ทันทีที่พูดคำนี้พูดออกมาไป แพทย์หลายคนก็ลุกขึ้นยืนในทันที โดยเฉพาะแพทย์ชายที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น พวกเขามองไปที่จางฉางหมิงด้วยความคาดหวัง

นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะได้แสดงฝีมือต่อหน้าซ่งเสวี่ยเฟย ขอแค่ทำมันออกมาให้ดี ผลประโยชน์ในอนาคตก็คงมากมายมหาศาล

ถึงขั้นอาจเป็นไปได้ที่จะได้รับความสนใจจากสาวสวยอันดับหนึ่งผู้นี้

เมื่อคิดเช่นนั้น ฝ่าเท้าของแพทย์ชายหลายคนก็อดที่จะยกขึ้นมาไม่ได้

ปฏิกิริยาของจางเผิงนั้นชัดเจนที่สุด เขาพุ่งไปที่แถวหน้าสุดและพูดกับซ่งเสวี่ยเฟยอย่างกระตือรือร้นว่า “คุณหนูซ่ง คุณเรียกผมว่าหมอจางก็ได้นะครับ ถ้าผมได้ช่วย คุณหนูเชี่ยนเชี่ยนจะไม่เป็นไรแน่นอนครับ”

ซ่งเสวี่ยเฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย: "ผู้อำนวยการจาง เขาเป็นแพทย์เฉพาะทางที่เก่งที่สุดในโรงพยาบาลของคุณหรอคะ? ที่ฉันต้องการ คือคนที่เก่งที่สุดเท่านั้น หวังว่าคุณจะเข้าใจ!"

คำถามนี้ทำให้จางฉางหมิงอึ้งไป เขาหันกลับไปมองหลินเฉินซึ่งถูกดันออกไปอยู่ด้านนอกวงโดยไม่รู้ตัว

แพทย์อาวุโสผมขาวก้าวไปข้างหน้าและกระซิบที่หูของจางฉางหมิงว่า: "ผู้อำนวยการ ผู้ป่วยจากตระกูลซ่งมีไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ตามคำขอของคุณหนูซ่ง ผมคิดว่าเสี่ยวหลินเหมาะกว่าจางเผิง"

แพทย์อาวุโสอีกคนที่มีชื่อเสียงก็พูดเสริม: "เหล่าจาง ให้หลินเฉินช่วยคุณเถอะ ทักษะทางการแพทย์ของเขา เห็นได้ชัดว่าทุกคนก็รู้ดี!"

จางฉางหมิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง

แน่นอนว่าเขารู้ว่าทักษะทางการแพทย์ของหลินเฉินดีกว่าของจางเผิงมาก

แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่อยากเลือกหลินเฉิน

ส่วนเหตุผลนั้นก็ง่ายมาก จางเผิงเป็นลูกชายของเขา

“คุณหนูซ่ง หมอจางเผิงเป็นแพทย์เฉพาะทางที่เก่งที่สุดในโรงพยาบาลของเราจริงๆครับ ได้โปรดเชื่อมั่นในตัวเขา”

เมื่อจางฉางหมิงพูดเช่นนั้น ซ่งเสวี่เฟยก็เห็นด้วย: "โอเค ถ้างั้นก็ฝากผู้อำนวยการจาง แล้วก็คุณหมอจางจัดการด้วยแล้วกันค่ะ!"

จางเผิงได้รับกำลังใจ เขาพูดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม "คุณหนูซ่ง รอฟังข่าวดีได้เลยครับ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน"

ก่อนจะเข้าห้องฉุกเฉิน เขาหันกลับไปมองหลินเฉิน มุมปากปรากฎรอยยิ้มดูถูกและความภูมิใจออกมา

หลินเฉิน ทักษะทางการแพทย์ของแกยอดเยี่ยมมาก แต่ภูมิหลังของแกไม่ดีเท่าฉัน

พอไม่มีซูอวี้เหยาคอยหนุนหลัง ต่อไปนี้ในโรงพยาบาลอันดับหนึ่งแห่งนี้ แกก็อย่าหวังว่าจะแย่งอะไรไปได้แม้แต่เศษขี้...

“เฮ้ เสี่ยวหลิน ทำไมเธอไม่ออกมาแล้วพูดอะไรหน่อยล่ะ ไอ้หนูนี่นิ!”

หลินเฉินที่ยืนอยู่ด้านหลังกลุ่มคนถูกแพทย์อาวุโสคนเมื่อครู่ตบไหล่เบาๆ

“หลินเฉิน ไม่ว่าจะเป็นทักษะทางการแพทย์หรือจรรยาบรรณทางการแพทย์ของเธอ พวกเราแพทย์อาวุโสต่างก็เห็นมาหมดแล้ว นี่เป็นโอกาสที่ดีครั้งใหญ่สำหรับเธอ แต่ใครจะว่าจางเผิงได้ล่ะ เขามีพ่อที่ตำแหน่งใหญ่โต เพราะงั้นก็อย่าคิดมาก...”

ด้วยความเมตตาและความหวังดีของแพทย์อาวุโสทั้งสองคน หลินเฉินยิ้มอย่างสงบ: "ขอบคุณผู้อาวุโสทั้งสองนะครับ"

“การรักษาโรคและช่วยชีวิตคนเป็นเรื่องที่ดี ตราบใดที่ช่วยชีวิตคนได้ ไม่ว่าจะเป็นใครที่ช่วย ก็ล้วนได้รับคุณงามความดีทั้งนั้น”

หมออาวุโสทั้งสองส่ายหัว ถอนหายใจ แล้วเดินจากไป

ในยุคนี้ นอกจากจะต้องมีทักษะทางการแพทย์ที่ดีแล้ว ยังต้องมีภูมิหลังและเส้นสายด้วย

แต่ถึงหมอหลินเฉินคนนี้จะเป็นคนดี เก่งเรื่องการแพทย์ แต่เขากลับไม่เข้าใจสัจธรรมของโลก

หากยังเป็นแบบนี้ต่อไปก็มีแต่จะเป็นการทำลายอนาคตของเขา คงเป็นเรื่องน่าเสียดายน่าดูที่ต้องเสียต้นกล้าดีๆเช่นนี้ไป

ซ่งเสวี่ยเฟยที่ถูกปกป้องจากบอดี้การ์ดด้านนอกกลุ่มคนหันไปมองหลินเฉิน

ตั้งแต่เมื่อครู่นี้ เธอตระหนักได้ว่าแพทย์หนุ่มคนนี้เป็นแพทย์ที่ไม่ได้แก่งแย่งความดีความชอบกับใครในบรรดาแพทย์ทั้งหมด

แพทย์ชายคนอื่นๆ คงหวังที่จะเข้าใกล้เพื่อเลียแข้งเลียขาของเธอ

แต่แพทย์หน้าตาดีคนนี้กลับยืนอยู่ด้านหลังตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่ขยับไปไหน

เธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมากอยู่แล้ว จึงตระหนักอะไรขึ้นได้ในทันที

“พวกคุณแยกกันไปถามให้หน่อยสิว่าหมอที่ฝีมือดีๆในโรงพยาบาลอันดับหนึ่งมีใครบ้าง?”

“จริงสิ ฝากถามให้หน่อยว่า หมอคนนั้นที่อยู่ตรงนั้นน่ะชื่ออะไร”

หลังจากเรียกเลขามา ซ่งเสวี่ยเฟยโทรก็ออกคำสั่ง

เลขาพาบอดี้การ์ดหลายคนไป จากนั้นไม่นานก็กลับมายืนข้างๆซ่งเสวี่ยเฟย

“คุณหนู ดูเหมือนว่าเมื่อกี้นี้ผู้อำนวยการจางจะโกหกพวกเรา”

“จางเผิงอะไรนั่นไม่ใช่แพทย์เฉพาะทางที่เก่งที่สุดในโรงพยาบาลอันดับหนึ่ง เขาไม่ได้อยู่แม้แต่ในอันดับของแพทย์ระดับท็อปด้วยซ้ำ”

สีหน้าของเลขาดูไม่พอใจเล็กน้อย เขาพูดอย่างโกรธเคือง

สายตาของซ่งเสวี่ยเฟยเย็นชาเล็กน้อย แต่เธอไม่ได้โกรธ: "ช่างมันเถอะ ขอแค่เชี่ยนเชี่ยนไม่เป็นไร เรื่องพวกนี้ฉันไม่เอาความอะไรก็ได้"

เลขาพูดต่อว่า “หมอผู้ชายคนนั้นที่คุณให้ฉันไปถามชื่อหลินเฉิน”

“หมอหลินคนนี้ไม่ธรรมดาเลย เมื่อกี้นี้ฉันไปถามหมอกับพยาบาลหลายๆคนมา พวกเขาทั้งหมดบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าฝีมือทางการแพทย์ของเขานั้นดียอดเยี่ยมที่สุดในโรงพยาบาลอันดับหนึ่งแห่งนี้ แม้แต่หมออาวุโสที่มีประสบการณ์มากมายหลายคนก็ยังตามเขาไม่ทัน!”

จู่ๆซ่งเสวี่ยเฟยก็แสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา

เมื่อครู่นี้เธอให้ลูกน้องของเธอไปสอบถาม แต่มันเป็นเพียงแค่ความสนใจชั่ววูบ แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าหมอหลินผู้นี้จะโด่งดังมากในโรงพยาบาลอันดับหนึ่งแห่งนี้

ดูไปดูมา หมอคนนี้ยังดูเด็กมากด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่หายาก

เพราะตามที่ทุกคนทราบกัน ทักษะทางการแพทย์นั้น ยิ่งอายุมากขึ้น ทักษะก็จะยิ่งดีขึ้น

ในเวลานี้ เลขาทำสีหน้าที่แปลกประหลาด และกล่าวว่า "คุณหนู สำหรับหมอหลินคนนี้ ยังมีเรื่องอีกนะ"

ซ่งเสวี่ยเฟยยิ้ม "เล่ามาหน่อยสิ!"

เลขาตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อยในทันที "ในเจียงตงของเรา ซูอวี้เหยา ประธานสาวสวยแห่งซูกรุ๊ปผู้คน ตลอดมาได้รับการยกย่องจากผู้คนมากมายในฐานะเทพธิดาเช่นเดียวกันกับคุณ"

“แต่ได้ยินมาว่าประธานสาวสวยคนนั้นเลี้ยงแมงดาตัวหนึ่งมาโดยตลอด คุณหนูเดาดูสิว่าเป็นใคร?”

ซ่งเสวี่ยเฟยตกตะลึง: "คุณคงไม่ได้จะบอกว่า คนๆนั้นคือหมอหลินใช่ไหม?"

เลขายิ้มและกล่าวว่า "ถูกต้อง แต่หมอหลินน่าสงสารมาก ตอนนี้แทบจะทั่วเจียงตงรู้หมดแล้วว่า ซูอวี้เหยาถีบส่งหนุ่มหล่อคนนั้นที่เธอเลี้ยงเอาไว้ไปแล้ว แล้วก็เปลี่ยนไปตกลงแต่งงานกับคุณชายใหญ่ของตระกูลอู๋แทน"

ซ่งเสวี่ยเฟยส่ายหัว: "เขายังเด็กมากขนาดนี้ แล้วก็มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ถ้าเขาเลือกเส้นทางที่ถูกต้องไม่ไปเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกิน เขาก็อาจจะน่าสนใจมากกว่านี้ น่าเสียดายที่เขาเลือกผิดทาง "

บทสนทนาเล็กๆน้อยๆสิ้นสุดลง

จู่ๆประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกเปิดออกอย่างแรง

พยาบาลสองคนรีบวิ่งออกมาด้วยความตื่นตระหนก: "แย่แล้ว สัญญาณชีพของคนไข้อ่อนลงอย่างมาก ใกล้จะหยุดหายใจแล้วด้วย!"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 5

    สีหน้าของซ่งเสวี่ยเฟยเปลี่ยนไปในทันที: "คุณพูดว่าอะไรนะ? ผู้อำนวยการจางล่ะ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?"จางฉางหมิงและจางเผิงเดินเข้ามาด้วยท่าทางที่รู้สึกผิด: "ขอโทษจริวๆครับคุณหนูซ่ง อาการของคุณหนูเชี่ยนเชี่ยนร้ายแรงมากจริงๆ พวกเราหมดปัญญาที่จะช่วยแล้ว!"จางเผิงพูดด้วยสีหน้าสลดใจว่า “การรักษาในช่วงแรกราบรื่นดีแท้ๆ แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ลมหายใจของคุณหนูเชี่ยนเชี่ยนก็อ่อนลงในชั่วพริบตา”“คุณหนูซ่ง นี่มันไม่ใช่เพราะฝีมือทางการแพทย์ของเราไม่ดีพอนะครับ แต่มันเป็นเพราะเราไม่สามารถฝืนชะตาได้จริงๆ!”เพียะ!ก่อนที่เขาจะได้อธิบายจนจบ ซ่งเสวี่ยเฟยซึ่งกำลังโกรธจัดก็ฟาดฝ่ามือออกไป“คุณหนูซ่ง คุณ...”จางเผิงกุมหน้าครึ่งหนึ่งที่ร้อนผ่าวเอาไว้ เขาโกรธ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรทั้งสิ้นร่างกายของซ่งเสวี่ยเฟยสั่นระริกด้วยความโกรธจัด: "ไอ้คนโง่เอ๊ย เมื่อกี้คุณไม่ได้เป็นคนป่าวประกาศด้วยความมั่นอกมั่นใจหรอว่าฝีมือทางการแพทย์ของคุณสามารถช่วยชีวิตน้องสาวของฉันได้แน่นอน?"จางเผิงเปิดปากแต่กลับพูดอะไรไม่ออกสักคำ ทำได้เพียงรู้สึกขายขี้หน้า“ผู้อำนวยการจาง ฉัน ซ่งเสวี่ยเฟยจะถามคุณอีกครั้ง ในโรงพยาบาลอันดับหนึ่งแห

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 6

    หลินเฉินไม่ปฏิเสธ เขาพยักหน้า คิดไม่ถึงว่ารองผู้อำนวยการจางจะพอมีความรู้อยู่บ้างจางเผิงถามพ่อของเขาราวกับคนโง่ “พ่อ การกดจุดฝังเข็มผนึกเส้นเลือดคืออะไรหรอ? ผมว่ามันก็งั้นๆแหละ”สีหน้าของจางฉางหลินมืดลงในทันที เขาแทบอดใจไม่ไหวสะบัดมือไปตบลูกชายที่โง่เขลาคนนี้สักที “ไอ้ลูกโง่ หุบปากไปซะ ยังทำตัวขายขี้หน้าไม่พออีกหรอ?”“การกดจุดฝังเข็มผนึกเส้นเลือดถือเป็นศาสตร์ทางการแพทย์ที่เป็นทักษะในตำนาน”“ฉันเคยได้ยินมาว่าแพทย์สมัยโบราณบางคนที่ไม่ค่อยออกสู่โลกภายนอกสามารถใช้วิธีนี้ในการพรากชีวิตคนได้ในพริบตา ใช้การปิดผนึกเส้นเลือดเพื่อฆ่าคนหรือช่วยชีวิตคนได้ ซึ่งทำมันได้ภายในเสี้ยววิ... "ซ่งเสวี่ยเฟยเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนจริงๆ เมื่อครู่นี้ที่หลินเฉินลงมือ เธอรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมากหนุ่มหน้าหล่อที่ซูอวี้เหยาเลี้ยงไว้ตามที่ลือกันนั้น ฝีมือทางด้านการแพทย์จะต้องดีมากอย่างแน่นอนก็ไม่รู้ว่าทำไมคนที่สูงส่งอย่างเขาถึงถูกเข้าใจผิดว่าเป็นพวกแมงดาเกาะผู้หญิง...การรักษาใช้เวลาไม่นาน หลังจากผ่านไป 10 นาที การถ่ายเลือดก็เสร็จสิ้นหลังจากที่หลินเฉินปิดแผลให้ผู้ป่วยและทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว เขาก

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 7

    น้ำเสียงของเขาสงบมาก ไม่ได้แสดงถึงความหยิ่งยโสหรือข่มขู่แต่อย่างใดในตอนแรก ชายที่มีรอยแผลเป็นและชายฉกรรจ์หลายๆคนที่อยู่ด้านหลังเขาตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะโพร่งออกมา“ฮ่าฮ่าฮ่า... ขำจะบ้าตาย ไอ้หน้าหล่อนี่เมื่อกี้นี้พูดว่าอะไรนะ? จะให้ฉันไสหัวไปหรอ?”“ไอ้โง่ ดูละครน้ำเน่ามากไปมั้ง อยากเป็นฮีโร่ที่เข้ามาช่วยสาวสวยสินะ?”“ลูกพี่ จะไปเสียเวลาคุยกับมันทำไม จัดการมันซะ! ลุยเลย!”น้องชายที่อยู่ข้างชายที่มีรอยแผลเป็นฟาดท่อเหล็กในมือไปที่ศีรษะของหลินเฉินพร้อมกับร้องคำรามออกมา เขาลงมืออย่างรุนแรงซ่งเสวี่ยเฟยถอนหายใจในใจ ดูเหมือนว่าเธอคงต้องออกโรงเพื่อปกป้องผู้ชายคนนี้เสียแล้วความกล้าหาญเป็นสิ่งที่น่านับถือ แต่มันค่อนข้างโง่เขลา เขาช่างไม่เข้าใจสถานการณ์เอาเสียเลยแต่ในขณะนั้นเอง เธอก็ได้ยินเสียงกรีดร้องที่แหลมสูงเข้ามาในหูหลังจากนั้นก็เห็นเพียงชายฉกรรจ์ที่เป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อนได้ล้มลงไปกับพื้นและดิ้นพลิกตัวไปมาโดยเอามือกุมท้องเอาไว้ท่อเหล็กในมือของเขาไปอยู่ในมือของหลินเฉินตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้จากนั้น......ปัง!ปัง!ปัง!เสียงกระทบของเหล็กดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่อเหล็กในมือของ

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 8

    ในขณะนี้ มีสายโทรเข้ามา หลังจากที่ซ่งเสวี่ยเฟยรับสาย เธอก็พูดกับหลินเฉินว่า "หมอหลิน คุณเดินดูรอบๆตามสบายนะคะ ฉันมีเรื่องต้องไปจัดการนิดหน่อย เดี๋ยวเจอกันนะคะ!"หลินเฉินพยักหน้า: "คุณหนูซ่ง ตามสบายครับ!"ยังคงเหลือเวลาอีกสักพักก่อนที่งานเลี้ยงระดมทุนจะเริ่มผู้มีอิทธิพลที่ปรารถนาในที่ดินของสถานเด็กกำพร้าหนานเฉิงยังคงเดินทางมาเพิ่มเรื่อยๆไม่หยุด ที่ประตูของสถานเด็กกำพร้าเต็มไปด้วยรถหรูที่จอดอยู่รถยนต์โรลส์รอยซ์สีดำคนหนึ่งขับเข้ามา มันดึงดูดสายตาของทุกๆคนในงานประตูรถถูกเปิดออก สาวสวยคนหนึ่งสวมกระโปรงสีขาวบริสุทธิ์และมีขาที่ยาวและขาวราวกับหิมะลงมาจากรถ ทำเอาผู้คนต่างอุทานออกมาด้วยความตกตะลึง“ผู้หญิงคนนี้สวยจัง บุคลิกสง่างามแบบไม่มีใครเทียบได้จริงๆ!”"สวยขนาดนี้ ถ้าฉันได้เข้าไปใกล้ๆเธอสักนิด ต่อให้จะต้องติดคุกสามปีมันก็คุ้ม!"“ประธานสาวสวยแห่งซูกรุ๊ปก็มาแล้วสินะ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แค่สวยแบบวัวตายควายล้ม แต่ความสามารถทางธุรกิจยังโดดเด่นมากอีกด้วย ที่ดินที่แสนล้ำค่าของสถานกำพร้าหนานเฉิง คืนนี้คงจะตกไปอยู่ในมือของเธอแน่นอน!”รถหรูอีกคันหนึ่งเข้ามาจอดทีหลัง ฟางซื่อหาวรีบลงจากรถ จากน

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 9

    เธอมองหลินเฉินอย่างเย็นชา สายตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง ความโกรธ และเศษเสี้ยวของความหึงหวงที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ“หลินเฉิน ฉันไม่คิดเลยว่าหลังจากที่เราเพิ่งเลิกกัน คุณจะหาคนใหม่มาได้แล้ว น่าขำจริงๆที่ตลอดมาฉันยังรู้สึกผิดกับคุณ ดูเหมือนว่าฉัน ซูอวี้เหยาคงจะคิดไปเองมากไป!”หลินเฉินย้อนกลับไปอย่างประชดประชันว่า "ถ้าพูดถึงเรื่องหาคนใหม่ ผมคงไม่หาได้เร็วเท่าคุณ ประธานซูหรอกนะ!"“คุณ...โอเค ฉันว่าคุณไม่ได้หรอก คุณพูดถูก!”ซูอวี้เหยาพูดไม่ออกความงามของซ่งเสวี่ยเฟย รวมถึงรูปร่างโค้งเว้าของเธอบวกกับบุคลิกที่มีความเป็นผู้นำทำให้ซูอวี้เหยารู้สึกได้ถึงความกดดันที่ค่อนข้างมากหากคนที่ยืนอยู่ข้างๆหลินเฉินเป็นเพียงผู้หญิงปกติที่มีรูปลักษณ์ธรรมดาๆ เธอก็คงจะหัวเราะเยาะและไม่สนใจอะไรแต่ซ่งเสวี่ยเฟยนั่นไม่เหมือนกัน เธอทำให้ซูอวี้เหยารู้สึกเหมือนถูกคุกคาม ซึ่งเป็นการคุกคามที่รุนแรงผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยแม้แต่น้อย และบางอย่างของเธอ เช่นลูกภูเขาที่ใหญ่เต่งตึงของเสวี่ยเฟยนั้นน่าดึงดูดยิ่งกว่าของเธอเสียอีก...สาวระดับท็อปที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนเช่นนี้ แค่เห็นท่าทางอันหื่นกระหา

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 10

    ที่อีกด้านหนึ่งของห้องโถงมีคนจากตระกูลซ่งนั่งอยู่ซ่งเสวี่ยเฟยโบกมือเพื่อเรียกให้เลขามา “คุณช่วยไปบริจาค 100 ล้านในนามของหมอหลินหน่อยสิ”เลขาอึ้ง “คุณหนู 100 ล้านมันไม่มากเกินไปเหรอคะ?”ตระกูลซ่งร่ำรวยก็จริง แต่จะใช้แบบสูญเปล่าขนาดนี้ไม่ได้นะ!ซ่งเสวี่ยเฟยยิ้มอย่างภาคภูมิใจ: "ผู้ชายที่ฉันถูกใจ ช่วยบริจาคเงิน 100 ล้านให้เขามันจะทำไมกัน?"“ซูอวี้เหยา ประธานสาวสวยคนนั้นไม่เห็นค่าเขา แต่ฉัน ซ่งเสวี่ยเฟยไม่ได้โง่เหมือนเธอ! สมบัติอยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่ดันตาบอดรักษามันไว้ไม่ได้ ช่างน่าตลกจริงๆ!”เธอถือเอกสารอยู่ในมือที่ขาวราวกับหยกข้อมูลทั้งหมดในเอกสารเป็นข้อมูลเกี่ยวกับซูกรุ๊ป ในเวลาสั้นๆเพียงไม่กี่ปี ซูกรุ๊ปที่เคยเป็นโรงงานแปรรูปที่ใกล้จะล้มละลายกลับก้าวกระโดดกลายมาเป็นบริษัทที่ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ในเจียงตงทรัพย์สินของซูอวี้เหยาพุ่งทะยานขึ้นมาหลายเท่า และตอนนี้มีเกินกว่า 5 หมื่นล้านไปแล้วสิ่งที่น่าสนใจคือ การผงาดขึ้นมาของตระกูลซูมีหลายอย่างที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ เหมือนกับว่ามีใครบางคนจัดการมันอยู่เบื้องหลังอย่างลับๆนอกจากนี้ หลินเฉินกับซูอวี้เหยาอยู่ด้วยกันมาสามปีแล้ว ในช่วงสามป

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 11

    “คุณหลินเฉิน บริจาค 500 ล้าน!”ประโยคนี้สามารถพูดได้ว่า ทำเอาเหล่าแขกคนสำคัญในห้องโถงงานเลี้ยงถึงกับร้องออกมาเลยทีเดียว!ฟางซื่อหาวรู้สึกเหมือนกับถูกไฟลนก้น เขากระโดดขึ้นมาจากที่ที่เขานั่งอยู่: "พิธีกร ผมต้องการพิสูจน์ ที่นี่มีใครที่มีชื่อเหมือนกันบ้างไหม?"จางอ้ายยิงอยู่ไม่สุข รู้สึกร้อนรนเหมือนกับมดที่เดินอยู่บนกระทะร้อนๆ“ใช่ มันต้องเป็นคนที่ชื่อซ้ำกันแน่ๆ ไอ้ขยะหลินเฉินนี่มาที่นี่เพื่อแสดงความรัก อย่างมากเขาก็สามารถเสนอเงินได้ไม่กี่พันไม่กี่หมื่น เงิน 500 ล้านน่ะ จะอีกกี่ชาติเขาก็คงไม่มีทางหาเงินได้มากขนาดนั้นหรอก!"หากจะให้พูดว่าในงานยังมีใครที่ยังคงสงบนิ่งได้อยู่ คนๆนั้นก็คือหลินเฉินเขานั่งเงียบๆอยู่ที่เดิม สีหน้าสงบ ไม่สะทกสะท้านพิธีกรไม่ได้ปฏิเสธคำขอของฟางซื่อหาว ไม่นานหลังจากการตรวจสอบ เขาก็แจ้งผลทันที“ขออภัยแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ที่นี่มีคุณหลินเฉินเพียงคนเดียวเท่านั้นครับ ไม่มีใครที่มีชื่อซ้ำกันเลย”“ตอนนี้ ผมขอประกาศว่า คุณหลินเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในการซื้อที่ดินของสถานเด็กกำพร้าหนานเฉิงไป ขอแสดงความยินดีกับคุณหลินด้วยครับ!”งานระดมทุนได้สิ้นสุดลงแล้ว!สีหน้าของ

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 12

    ใบหน้าของชายหนุ่มผมทองโกรธชัด เขาคือน้องชายของผู้ไม่เอาไหนของซูอวี้เหยา ซูหย่ง“พวกคุณแข่งเอาที่ดินไปไม่ได้ ก็เลยคิดจะใช้กำลังปล้นกันหรอ?”หลินเฉินมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้สนใจมีดพร้าที่อยู่ในมือของซูหย่ง!จางอ้ายยิงพูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “หลินเฉิน แกอย่าลืมนะ ไม่มีอวี้เหยาแล้ว แกจะไปทำอะไรได้? แกอยู่กับเธอมาสามปี ก็เป็นเธอที่ให้ทุกอย่างกับแก แกมีสิทธิ์อะไรที่จะไม่ตอบแทนบุญคุณเธอ?”พูดดีเสียจริงนะ!หลินเฉินยิ้ม ภายในสายตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน: "คุณควรจะพูดว่า สามปีที่อยู่ด้วยกันกับซูอวี้เหยา เป็นผมที่ให้เธอ ไม่ใช่เธอให้ผม"“ถุย ไอ้เวรนี่!”จางอ้ายยิงโกรธจัด: "แกเกาะอวี้เหยากินมาตั้งหลายปี แกให้อะไรเธอ? หา? แกมีอะไรที่ให้เธอได้บ้าง เป็นไอ้หน้าด้านซะจริง"หลินเฉินหัวเราะเยาะ ถามกลับว่า "งั้นเหรอ? ผมจำได้ว่าสัญญาสำคัญของบริษัทซูในช่วงแรกๆ เป็นผมเองที่ไปเจรจามาได้ไม่ใช่หรอ?” แล้วก็คุณ ลูกชายอ่อนหัดที่ต้องเข้าคุก ก็เป็นผมอีกที่เป็นคนประกันตัวออกมา ตระกูลของพวกคุณคิดที่จะเอาเงิน แต่ไม่เอาศักดิ์ศรีแล้วหรอ? ”จางอ้ายยิงอับอายจนโกรธจัด เธอโกรธตรดวงตาของเธอมืดมน“ไอ้เศษสวะ แกชักจะกำเริบ

บทล่าสุด

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 30

    อู๋เฮ่ามองหลินเฉินอย่างอึ้งๆ แล้วส่ายหัวพลางยิ้มพูดว่า: "ขอโทษด้วย ถ้าคำพูดเมื่อกี้ทำร้ายความภาคภูมิใจของพี่หลิน ผมขอโทษ""ผมแค่รู้สึกว่า สำหรับเด็กสาวจากตระกูลใหญ่อย่างเชี่ยนเอ๋อร์ ควรมีสุภาพบุรุษอยู่ข้างกาย จึงจะเหมาะสมกับสถานะของเชี่ยนเอ๋อร์"แม้ไม่ได้แสดงออกถึงการดูถูกหรือโจมตีอย่างชัดเจน แต่ในน้ำเสียงและคำพูดนั้นแฝงไปด้วยความรู้สึกเหนือกว่าของคนที่มาจากตระกูลใหญ่ และการมองข้ามหลินเฉินอย่างเย็นชาหลินเฉินยิ้มพูด: "สมแล้วที่เป็นคุณชายอู๋ แม้แต่ผมยังต้องยกนิ้วให้เลย""เมื่อครู่ได้ยินคุณชายอู๋พูดว่า วันนี้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่คลับเซียงซาน คุณชายอู๋จะเป็นคนจ่ายให้ ใช่ไหมครับ?"อู๋เฮ่าชะงักไปครู่หนึ่ง เห็นได้ชัดว่าไม่คาดคิดว่าหลินเฉินจะถามเช่นนี้ จึงพยักหน้าตอบ: "ถูกต้อง คุณหลินมาที่นี่ไม่บ่อย อยากดื่มอะไร อยากเล่นอะไร จะเล่นยังไงก็ได้ ผมจะให้ฟรีทั้งหมด!"รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินเฉินยิ่งกว้างขึ้น: "นี่เป็นคำพูดของคุณชายอู๋เองนะ งั้นผมก็ขอรับน้ำใจแล้วกัน!"อู๋เฮ่าหัวเราะเบาๆ แม้แต่จะตอบก็ไม่อยากตอบ พาซูอวี้เหยาเดินจากไปเขาคิดว่าหลินเฉินเป็นแค่คนไม่มีชื่อเสียงที่อยากได้ของฟรี เขาคิด

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 29

    “คุณชายอู๋ช่วยชีวิตแกไว้ แกไม่ควรขอบคุณเขาหน่อยหรือไง”“ผมรู้แล้ว ไอ้นี่คงอิจฉาคุณชายอู๋ที่ดูดีมีหน้ามีตา เลยอิจฉาริษยา!”ทันใดนั้น คนรอบข้างก็มองหลินเฉินด้วยสายตาเหยียดหยามบางคนถึงกับอยากแสดงความดีต่อหน้าคุณชายอู๋ จัดการหลินเฉินซะซูอวี้เหยาขมวดคิ้ว: “ก็เพราะอู๋เฮ่า เรื่องราววุ่นวายกับนายท่านป้าร์ถึงได้สงบลง หลินเฉิน ไม่ว่ายังไง อู๋เฮ่าก็ช่วยคุณและฉัน ขอบคุณเขาสักคำมันยากนักหรือไง”ก่อนที่หลินเฉินจะได้พูดอะไร อู๋เฮ่าโบกมือ ทำท่าไม่ใส่ใจ“อวี้เหยา อย่าไปบังคับเขาเลย อย่างที่คุณรู้ ผมไม่ใช่คนหวังผลตอบแทน!”เขามองหลินเฉิน ยิ้มแล้วพูดว่า: “หลินเฉินใช่ไหม ก่อนหน้านี้อวี้เหยาเคยเล่าเรื่องของคุณให้ผมฟัง ตลอดสามปีที่ผ่านมา อวี้เหยาได้รับการดูแลจากคุณ ดังนั้นผมต้องขอบคุณคุณด้วย!”“คุณชายอู๋ใจกว้างจริงๆ ไม่เหมือนไอ้หนุ่มคนนั้น ใจกว้างกว่าเยอะ!”“คุณหนูซูฉลาดจริงๆที่ทิ้งไอ้หนุ่มคนนี้ไป เห็นท่าทางเจ้าคิดเจ้าแคลนแบบนั้นทีไรก็โมโหทุกที!”“อย่าพูดเลย ไอ้คนไร้ค่าคนนี้คงรู้สึกแย่ แต่ก็โทษมันเองที่สู้คุณชายอู๋ไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ!”อู๋เฮ่าเป็นฝ่ายขอบคุณเอง ทำให้คนรอบข้างชื่นชมตรงกันข้าม ทุกคนรู้

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 28

    “อาเป้า ให้เกียรติฉันหน่อย วางมีดลงซะ!”ขณะที่หวังเป้ากำลังจะลงมือ เสียงทุ้มนุ่มๆเอ่ยขึ้นหวังเป้าหัวเราะเยาะ หันหลังจะพูดว่า มึงเป็นใครวะถึงจะมาสั่งกูได้แต่เมื่อเห็นว่าเป็นคุณชายอู๋ แต่งตัวอย่างดี ดูภูมิฐาน เดินเข้ามาหวังเป้ารีบวางท่าที ยิ้มแห้งๆว่า: “คุณชายอู๋ ทำไมถึงมาที่นี่ครับ”ข้างๆอู๋เฮ่า คือซูอวี้เหยา หญิงสาวสวย เดินตามมาท่ามกลางสายตาของทุกคนชายรูปงามหญิงสวย ราวกับเจ้าชายและเจ้าหญิง!“อาเป้า ฉันกับนายท่านของคุณ หวังป้าร์ สนิทกันเหมือนพี่น้อง วันนี้ผมขอช่วยคนนี้ไว้ เดี๋ยวผมจะโทรไปคุยกับนายท่านของคุณเอง”อู๋เฮ่า ยิ้มบางๆ ราวกับเป็นเรื่องเล็กน้อยแล้วเหลือบมองหลินเฉิน แววตาแปลกๆ แวบขึ้นมาสองครั้งสีหน้าหวังเป้า ดูลำบากใจ: “แต่คุณชายอู๋ คนนี้เมื่อวานทำร้ายลูกน้องของนายท่านป้าร์ถึงสิบกว่าคน ทำให้นายท่านป้าร์เสียหน้ามาก…”อู๋เฮ่าเอ่ยขึ้นเบาๆว่า: “ผมหมายความว่า เรื่องหวังป้าร์ คุณไม่ต้องห่วง ผมจะจัดการเอง”“แล้วก็เมื่อวาน พวกคุณบอกว่าจะทำร้ายคู่หมั้นของผม ฮึ่ม เรื่องนี้ผมยังไม่ได้ไปเคลียร์กับนายท่านของคุณเลย!”สีหน้าหวังเป้าเปลี่ยนไป ตระกูลอู๋ในเจียงตงนั้นมีอิทธิพลมหาศ

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 27

    จู่ๆ ได้ยินหลินเฉินพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า: "วันนี้อารมณ์ผมไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดังนั้นผมขอเตือนคุณสักคำ อย่าหาเรื่องไม่สบายใจเลย"ดวงตาของหวังเป้าฉายแววอำมหิต: "แกว่าอะไรนะ? พูดอีกทีซิ?"หลินเฉินยิ้มพลางกล่าว: "ผมบอกว่า คุณไปให้ไกลเท่าไหร่ก็ไปเลย วันนี้อารมณ์ผมไม่ดี กลัวว่าถ้าลงมือไปแล้วจะทำให้คุณบาดเจ็บ"หลี่เชี่ยนเอ๋อร์รู้สึกว่าหลินเฉินคนนี้บ้าไปแล้วจริงๆ"หลินเฉิน หุบปากเดี๋ยวนี้ คุณรู้หรือเปล่าว่าหวังเป้าเป็นลูกน้องคนเก่งที่สุดของนายท่านป้าร์แห่งเมืองหนาน ถ้าคุณยังพูดจาโอหังแบบนี้ ฉันก็ช่วยคุณไม่ได้แล้วนะ"พูดจบ หลี่เชี่ยนเอ๋อร์หันไปทางหวังเป้า พูดเสียงด้วยเครียด: "หวังเป้า คนนี้เป็นเพื่อนของฉันกับซ่งเสวี่ยเฟย ถ้ามีความเข้าใจผิดอะไร เราหาเวลามานั่งคุยกันได้ วันนี้คุณจะปล่อยเขาไปได้ไหม?"แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยชอบหลินเฉิน แต่ชีวิตคนก็สำคัญถ้าหลินเฉินต้องมาตายต่อหน้าเธอ เธอก็คงจะอธิบายกับซ่งเสวี่ยเฟยลำบากหวังเป้ายิ้มอย่างสบายอารมณ์ พูดว่า: "เรื่องนี้ คงจะไม่ได้ครับ""ไอ้หนุ่มคนนี้เมื่อวานได้ทำลายแผนของนายท่านป้าร์ของพวกเรา นายท่านป้าร์สั่งชื่อมาเลยว่าต้องจัดการมัน""ดังนั้นคุณหนูหลี

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 26

    "ทุกคนดื่มให้สนุก เล่นให้มีความสุข ค่าใช้จ่ายคืนนี้ ผมจัดการเอง"คุณชายใหญ่แห่งตระกูลอู๋กล่าวพร้อมรอยยิ้ม ท่าทางสง่างาม"คุณชายอู๋ใจกว้างจริงๆ!""คุณชายอู๋ยังคงเป็นคนเดิม ทำให้ผู้คนรู้สึกประทับใจมาก""มีเพียงประธานหญิงงามแห่งตระกูลซูเท่านั้น ที่เหมาะสมกับคุณชายอู๋ผู้หล่อเหลาและร่ำรวยของพวกเรา!"บรรดาชายหญิงในคลับต่างชูแก้วและโห่ร้องไม่หยุดค่าใช้จ่ายที่คลับเซียงซานนั้นแพงลิบลิ่วที่สุดในเจียงตงมีเพียงคุณชายใหญ่แห่งตระกูลอู๋เท่านั้นที่กล้าพูดว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดหลี่เชี่ยนเอ๋อร์มองตามอู๋เฮ่าและซูอวี้เหยาที่หายไปในห้องวีไอพีชั้นสอง แสดงความชื่นชมอย่างไม่ปิดบัง"ก่อนคุณชายอู๋จะไปเมืองนอก เขาได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มรูปงามเจ้าสำราญในเจียงตงของเรา เป็นชายในฝันของสาวน้อยนับไม่ถ้วน""ตอนนี้กลับมาแล้ว ยิ่งเพิ่มความสุภาพและมั่นคง ตระกูลอู๋นี่ มีคนสืบทอดที่ดีจริงๆ คุณหนูซูคนนั้น โชคดีแล้วล่ะ!"หลินเฉินยกแก้วเหล้าตรงหน้าขึ้น จิบเบาๆ แล้วพยักหน้าพูดว่า: "เหล้าดีจริง!"หลี่เชี่ยนเอ๋อร์รู้สึกงุนงงเล็กน้อย: "ในเวลาแบบนี้ คุณยังมีอารมณ์นั่งชิมเหล้าอยู่ตรงนี้อีกเหรอ?"ในคลับ ทุกคนกำลั

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 25

    หลินเฉินนั่งลง แล้วถามตรงประเด็นหลี่เชี่ยนเอ๋อร์จิ๊ปาก: “มาปุ๊บก็คุยเรื่องงานเลย ผู้ชายไม่มีรสนิยม หลินเฉิน คุณเป็นผู้ชายแบบนี้เสมอเหรอ?”ถึงแม้จะไม่พอใจ เธอก็ยังดันกล่องสวยงาม ไปตรงหน้าหลินเฉินหลินเฉินเปิดดู เห็นโสมอยู่ในกล่อง เมื่อแน่ใจแล้ว เขาก็ลุกขึ้นเดินออกไปหลี่เชี่ยนเอ๋อร์ตะโกน: “รอหน่อยสิ คุณได้ของแล้ว เมื่อไหร่จะรักษาให้ฉัน?”หลินเฉินตอบอย่างง่ายๆ: “คุณบอกเวลามา แต่ก่อนรักษา ผมต้องเตือนคุณสักอย่าง”“ตอนนั้น ผมต้องถอดกระโปรงคุณ”หลี่เชี่ยนเอ๋อร์งง: “ถอดกระโปรงฉัน? หมายความว่ายังไง?”หลินเฉินพูดอย่างไม่เปลี่ยนสีหน้า: “โรคของคุณ ไม่ใช่โรคปกติ แต่เป็นโรคที่รุนแรง คุณรู้เรื่องนี้มาก่อนอยู่แล้ว”หลี่เชี่ยนเอ๋อร์นึกถึงอะไรบางอย่าง ใบหน้าค่อยๆ แดงขึ้น มองหลินเฉินด้วยความโกรธและอับอายหลินเฉินทำเป็นไม่เห็น พูดต่อ: “นั่นหมายความว่า โรคของคุณรักษาได้ยาก เพื่อให้แน่ใจว่าจะรักษาให้หาย ผมต้องผ่าตัดเล็กๆ ตรงที่เป็นโรค เข้าใจไหม?”หลี่เชี่ยนเอ๋อร์กัดฟัน: “ผู้ชายกับผู้หญิงไม่ควรแตะต้องกัน คุณคิดว่ามันเหมาะสมเหรอ?”หลินเฉินขมวดคิ้ว: “ต่อหน้าหมอ ไม่มีความแตกต่างระหว่างชายและหญิง ท

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 24

    คืนนั้น ในแวดวงชนชั้นสูงของเจียงตง มีสองเหตุการณ์ที่สร้างความฮือฮาอย่างแรก หวังป้าร์ เจ้าเมืองหนาน แพ้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ขึ้นเป็นใหญ่ แพ้ไม่มากไม่น้อยอย่างที่สอง อู๋เฮ่า คุณชายใหญ่ของตระกูลอู๋ กลับมาจากต่างประเทศอย่างยิ่งใหญ่ เตรียมขึ้นเป็นหัวหน้าของตระกูลอู๋ตระกูลอู๋ในเจียงตง นับเป็นตระกูลชั้นนำสามอันดับแรก ไม่ใช่ตระกูลฟางที่เป็นแค่ตระกูลรองๆส่วนอู๋เฮ่านั้น ยิ่งมีชื่อเสียงมาก เคยเป็นหนึ่งในสี่หนุ่มสุดหล่อของเจียงตง เป็นลูกหลานตระกูลดังที่สุดในเจียงตงเช้าวันรุ่งขึ้น“คุณหมอหลิน ได้ยินว่าเมื่อวานนี้ที่โรงแรมเจียงตง คุณเจอเรื่องนิดหน่อย ถ้าต้องการความช่วยเหลือ บอกได้เลยนะคะ”ซ่งเสวี่ยเฟยโทรมา น้ำเสียงแสดงความห่วงใยหลินเฉินกล่าว: “ขอบคุณครับคุณหนูซ่ง ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกครับ”ซ่งเสวี่ยเฟยหัวเราะ: “รู้แล้วล่ะว่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่ใช่เรื่องอะไรสำหรับคุณหมอหลิน เสวี่ยเฟยหวังว่าจะได้ช่วย แล้วคุณหมอหลินจะติดบุญคุณเสวี่ยเฟย”หลินเฉินยิ้ม: “บุญคุณเล็กๆ น้อยๆ ของผม สำหรับคุณหนูซ่ง คงไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรหรอกครับ”ซ่งเสวี่ยเฟยจิ๊ปาก: “ใครพูด ถ้าได้บุญคุณคุณหมอหลิน เสวี่ยเฟยยอ

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 23

    “หลินเฉิน คุณรีบหนีไป ออกจากเจียงตงไปเลย เร็ว!”ซูอวี้เหยาคิดอยู่นาน แล้วพูดออกมา สายตาเต็มไปด้วยความร้อนรนหลินเฉินพูดอย่างสงบ: “ผมคิดว่า ไม่จำเป็น”ซูอวี้เหยาโกรธ: “คุณสร้างปัญหาแล้ว คุณไม่เข้าใจเหรอ? ทำไมถึงไม่จำเป็น?”หลินเฉินหัวเราะเยาะ มองเธอ: “แล้วไง? คุณคิดว่าผมทำให้ตระกูลซูเดือดร้อน ทำให้คุณเดือดร้อนเหรอ?”“ไม่ใช่เหรอ?”คำถามนี้ทำให้หลินเฉินอึ้งไปจางอ้ายยิงเดินเข้ามา ดึงซูอวี้เหยาไป: “อวี้เหยา เราไปกันเถอะ เรื่องวุ่นวายทั้งหมด เป็นเพราะไอ้คนนี้ ไม่เกี่ยวกับเรา ไปกันเถอะ”ซูหย่งก็เร่ง: “พี่สาว เราไปกันเถอะ พรุ่งนี้พี่เขยจะกลับมาจากต่างประเทศ ให้เขาช่วยจัดการ ตระกูลซูจะไม่เดือดร้อนหรอก”ซูอวี้เหยาได้ยินแล้ว รีบพูด: “ใช่ พรุ่งนี้อู๋เฮ่าจะกลับมาจากต่างประเทศ ถ้าเขาออกหน้า ก็คงไม่เป็นไร”เธอมองหลินเฉิน สายตาสับสน: “หลินเฉิน คุณหนีไปเถอะ อย่าห่วง ฉันจะขอให้อู๋เฮ่าจัดการ เพื่อดับความโกรธของหวังป้าร์ คุณจะไม่เป็นไรหรอก แต่คุณอาจจะ... กลับมาเจียงตงไม่ได้อีกแล้ว”หลินเฉินหัวเราะเยาะๆ: “เหรอครับ? คุณหนูซูใจกว้างจริงๆ ขอให้คู่หมั้นของคุณมาช่วยชีวิตอดีตคนรัก”“อย่างนั้น ผมควรจ

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 22

    “หุบปาก!”ในวินาทีสุดท้าย เสียงตะโกนเย็นชาดังขึ้นมือของคนหัวล้านเพิ่งจะเงื้อออกไป ก็ถูกกระแทกจากด้านหลังอย่างแรงร่างของเขาถูกเตะกระเด็นออกไป ไม่รู้ว่าตายหรือเป็นซูอวี้เหยามองไปทางด้านหลังของคนหัวล้าน แล้วก็เห็นหลินเฉินปรากฏตัวขึ้นสายตาของหลินเฉินตอนนี้ เย็นชาจนน่ากลัว ราวกับจะฆ่าคน“คุณ คุณ คุณ... คุณกลับมาได้ยังไง?”ซูอวี้เหยาพูดติดๆ ขัดๆเดิมทีเธอคิดว่าหลินเฉินไปแล้วตอนนั้นเธอรูสึกผิดหวังมาก คิดว่าหลินเฉินเป็นผู้ชายขี้ขลาด แม้แต่จะเทียบกับฟางซื่อหาวยังไม่ได้“ถ้าผมไม่กลับมา แล้วจะปล่อยให้คุณโดนพวกมันพาไป แล้วทำอะไรต่างๆ นานาเหรอ?”หลินเฉินมองผู้หญิงที่ไร้เดียงสาคนนี้ด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดอย่างไม่พอใจซูอวี้เหยาอึ้งไป รู้สึกว่าหลินเฉินดูแข็งกร้าวเกินไป: “หลินเฉิน ฉันรู้ว่าฉันเข้าใจผิด แต่คุณ...”เธอยังพูดไม่ทันจบ คนหัวล้านที่ถูกเตะกระเด็นไป ก็ตะโกนอย่างโกรธแค้น “เข้าไปจัดการมัน ฆ่ามันให้ตาย ฆ่ามันซะ!”ลูกน้องแต่งชุดดำหลายคน เข้าล้อมหลินเฉิน บางคนถึงกับหยิบอาวุธออกมาฟางซื่อหาวหัวเราะเยาะๆ: “โง่ ไม่รู้จักตาย กล้าทำร้ายคนของนายท่านป้าร์ คราวนี้ตายแน่ๆ ตายแน่ๆ”เขาไ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status