แชร์

บทที่ 10

ผู้เขียน: ตั้นเหวยจุนกู้
ที่อีกด้านหนึ่งของห้องโถงมีคนจากตระกูลซ่งนั่งอยู่

ซ่งเสวี่ยเฟยโบกมือเพื่อเรียกให้เลขามา “คุณช่วยไปบริจาค 100 ล้านในนามของหมอหลินหน่อยสิ”

เลขาอึ้ง “คุณหนู 100 ล้านมันไม่มากเกินไปเหรอคะ?”

ตระกูลซ่งร่ำรวยก็จริง แต่จะใช้แบบสูญเปล่าขนาดนี้ไม่ได้นะ!

ซ่งเสวี่ยเฟยยิ้มอย่างภาคภูมิใจ: "ผู้ชายที่ฉันถูกใจ ช่วยบริจาคเงิน 100 ล้านให้เขามันจะทำไมกัน?"

“ซูอวี้เหยา ประธานสาวสวยคนนั้นไม่เห็นค่าเขา แต่ฉัน ซ่งเสวี่ยเฟยไม่ได้โง่เหมือนเธอ! สมบัติอยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่ดันตาบอดรักษามันไว้ไม่ได้ ช่างน่าตลกจริงๆ!”

เธอถือเอกสารอยู่ในมือที่ขาวราวกับหยก

ข้อมูลทั้งหมดในเอกสารเป็นข้อมูลเกี่ยวกับซูกรุ๊ป ในเวลาสั้นๆเพียงไม่กี่ปี ซูกรุ๊ปที่เคยเป็นโรงงานแปรรูปที่ใกล้จะล้มละลายกลับก้าวกระโดดกลายมาเป็นบริษัทที่ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ในเจียงตง

ทรัพย์สินของซูอวี้เหยาพุ่งทะยานขึ้นมาหลายเท่า และตอนนี้มีเกินกว่า 5 หมื่นล้านไปแล้ว

สิ่งที่น่าสนใจคือ การผงาดขึ้นมาของตระกูลซูมีหลายอย่างที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ เหมือนกับว่ามีใครบางคนจัดการมันอยู่เบื้องหลังอย่างลับๆ

นอกจากนี้ หลินเฉินกับซูอวี้เหยาอยู่ด้วยกันมาสามปีแล้ว ในช่วงสามปีนี้ ตระกูลซูเกือบจะล้มละลาย แต่แล้วก็กลับพลิกฟื้นขึ้นมา

การบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับหลินเฉินและเป็นเรื่องบังเอิญล้วนๆ ซ่งเสวี่ยเฟยคิดว่า นอกจากเสียจากว่าเธอจะเป็นคนโง่ เธอก็คงจะไม่เชื่ออยู่แล้ว

ในขณะนี้ หลินเฉินหาที่นั่งที่ว่างอยู่และนั่งลง

ทันทีที่เขานั่งลง ฟางซื่อหาวก็หัวเราะเยาะขึ้นมา: "หลินเฉิน คุณนี่มันหน้าด้านจริงๆนะ อวี้เหยาจะไปที่ไหน คุณก็ตามไปทุกที่เลย"

“จะว่าไป คนในห้องโถงนี้ล้วนแต่เป็นพวกใหญ่โตที่จะมาบริจาคเงิน พวกแมงดาจนๆเกาะคนอื่นกินแบบคุณมาทำอะไรที่นี่กันนะ?”

หลินเฉินกวาดสายตามองไปทางซูอวี้เหยาและพูดอย่างเรียบเฉยเย็นว่า "คุณชายฟางเป็นพวกชอบดูถูกคนอื่นแบบนี้ตลอดเลยหรอ? คุณมีเงินบริจาค แล้วผม หลินเฉิน จะมอบความรักของผมให้เด็กๆในสถานเด็กกำพร้าไม่ได้เหรอ?"

ฟางซื่อหาวยิ้มด้วยความเหยียดหยาม: "ความรักที่มีค่าแค่ไม่กี่ร้อย เอามาให้ในสถานที่และโอกาสแบบนี้ คุณไม่คิดว่ามันน่าอับอายขายขี้หน้าเหรอ?"

จางอ้ายยิงเยาะเย้ยและกล่าวว่า “คุณชายฟางอย่าไปสนใจเขาเลย เดี๋ยวพออวี้เหยาของเราซื้อที่ดินของสถานเด็กกำพร้าได้แล้ว ก็ค่อยให้เขารีบไสหัวไป!”

ซูอวี้เหยาขมวดคิ้วมองไปที่หลินเฉิน จากนั้นก็ส่ายหัว

เดิมทีเธอคิดว่า ถึงแม้หลินเฉินจะไม่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาตัวเอง แต่อย่างน้อยเขาก็มีเกียรติและศักดิ์ศรีของตัวเอง

แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่า หลังจากเลิกกับเธอไปแล้ว ชายผู้นี้กลับกลายเป็นคนเสื่อมทรามลง เธอคิดว่าการมาร่วมงานเช่นนี้จะทำให้เขาเปลี่ยนไป แต่คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะยิ่งทำให้เธอต้องดูถูกเขามากขึ้นไปอีก!

ขณะนี้การรระดมทุนได้เสร็จสิ้นแล้ว ใบหน้าของพิธีกรยิ้มแย้มสดใส เขาเริ่มประกาศรายชื่อผู้บริจาคและจำนวนเงินที่บริจาค

"ตระกูลเจียงตงเฉินบริจาค 40 ล้าน!"

“ทงต๋ากรุ๊ป 50 ล้าน!”

“อสังหาจงเทียน150 ล้าน!”

แขกผู้มีเกียรติที่นั่งอยู่บนที่นั่งต่างก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มหารือกันเบาๆ

สิ่งที่ประกาศมาก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าไม่มีความหวังเลย เนื่องจากยิ่งผ่านไปกี่คนๆ จำนวนเงินก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ

ในที่สุดพิธีกรก็ยิ้มอย่างลึกลับและป่าวประกาศว่า "ซูกรุ๊ป บริจาค...400 ล้าน!"

หืม!

เมื่อตัวเลขนี้ถูกพูดออกมา แขกผู้มีเกียรติจำนวนไม่น้อยต่างก็สูดหายใจเข้าด้วยความตกตะลึง

จำนวนที่ซูกรุ๊ปบริจิชาคนั้นช่างหลุดโลกไปจริงๆ!

ต้องรู้ว่า นี่เป็นเพียงการบริจาคที่ไม่หวังผลตอบแทน ซึ่งเท่ากับเงินที่ให้สถานเด็กกำพร้าจะสูญเปล่าไป

เมื่อได้สิทธิ์ในการซื้อที่ดินในภายหลัง ก็ยังต้องควักเงินทุนอีกเป็นจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อที่ดินผืนนี้ เมื่อถึงเวลานั้น ก็ถือเป็นการควักเลือดเนื้อครั้งใหญ่

เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาที่ตกตะลึงที่มองมาที่พวกเขา ฟางซื่อหาวและจางอ้ายยิงก็ยืดอกตั้งตรงด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

ในขณะนี้ แม้แต่ซูอวี้เหยาที่มักจะสงบนิ่งก็ยังอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มแห่งชัยชนะออกมา

"ตัวเลขนี้ ฉันเชื่อว่าตระกูลซูของเราจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่เพียงหนึ่งเดียว และได้รับชัยชนะในที่สุด!"

ในขณะนี้ พิธีกรได้ประกาศต่อว่า “ผู้บริจาคใจบุญสองท่านสุดท้าย หนึ่งในนั้นคือคุณหนูซ่งเสวี่ยเฟยจากซ่งกรุ๊ป จำนวน 400 ล้าน!”

เสียงฮือฮาเกิดขึ้นอีกครั้งอย่างไม่อาจควบคุมได้

จำนวนที่ตระกูลซ่งบริจาคนั้นมากมายไม่ต่างกัน

สิ่งที่ทำให้แขกผู้มีเกียรติประหลาดใจก็คือ คุณหนูคนโตซ่ง หญิงสาวผู้สูงศักดิ์แห่งตระกูลซ่งกับประธานสาวสวยซูอวี้เหยาต่างก็เสนอราคาที่สูงลิบถึง 400 ล้านในเวลาเดียวกัน

ต้องบอกว่า ความบังเอิญที่เกิดขึ้นพร้อมกันนี้ทำให้งานนี้น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก

สาวงาม 2 คนที่สวยเกินต้านและมีสถานะไม่ต่างกันมาแข่งขันกันในงานเดียวกัน มันช่างเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ

ซ่งเสวี่ยเฟยขมวดคิ้ว กวาดสายตามองไปทางซูอวี้เหยา

คิดไม่ถึงเลยว่าตระกูลซูจะมีความกล้ามากขนาดนี้

บังเอิญว่าซูอวี้เหยาก็หันหน้ามามองซ่งเสวี่ยเฟยเช่นกัน

ตระกูลซ่ง ไม่ได้เคี้ยวง่ายๆจริงๆ ซ่งเสวี่ยเฟยผู้นี้ เธอคงต้องระวังตัวเอาไว้!

“ประธานสาวสวยแห่งตระกูลซูกับคุณหนูคนโตแห่งตระกูลซ่งต่างก็บริจาคเงินจำนวนที่เท่ากัน งั้นสุดท้ายแล้วสิทธิ์ในการซื้อที่ดินนี้ควรจะให้ตระกูลไหนล่ะ?”

ในเวลานี้ แขกผู้มีเกียรติเริ่มตะโกนขึ้นมา พวกเขาแทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะได้รับรู้ว่า ดอกไม้จะไปตกอยู่ที่ตระกูลไหน

ฟางซื่อหาวจัดระเบียบชุดสูทของเขาให้เรียบร้อย ยืนขึ้นด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม และพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ทุกท่านครับ โปรดอดทนรอสักครู่นะครับ"

“แม้ว่าจำนวนเงินที่ตระกูลซ่งเสนอจะเท่ากับที่ตระกูลซูเสนอ แต่ตระกูลฟางของเราก็เลือกที่จะยืนหยัดเคียงข้างตระกูลซู เราจะสนับสนุนตระกูลซูโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ดังนั้น ผมคิดว่าที่ดินผืนนี้ของสถานเด็กกำพร้าควรมอบให้กับตระกูลซูเพื่อนำมาพัฒนา”

ทันทีที่คำพูดนี้ถูกพูดออกมา คนจากตระกูลซ่งก็ขมวดคิ้วแน่นในทันที

เหล่าแขกที่มาจากทุกสารทิศต่างพากันคาดเดาและพูดคุยกันต่างๆนาๆ

"ฟางซื่อหาวอะไรนั่นน่ะ เพื่อประธานสาวสวยคนนั้นแล้ว ประจบสอพลอเลียแข้งเลียขาใหญ่เลยนะเนี่ย!"

“ซูอวี้เหยาเป็นผู้หญิงที่เก่งกาจ เก่งมากจริงๆ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะมีแผนในมือแบบนี้ ด้วยการสนับสนุนของตระกูลฟาง ถ้าพวกเขาทั้งสองร่วมมือกัน ตระกูลซ่งก็แทบไม่มีโอกาสเลยจริงๆ!"

“ไม่มีอะไรต้องลุ้นอีกแล้ว ถ้าฉันเป็นผู้อำนวยการสถานเด็กกำพร้า ฉันก็คงยินดีที่จะขายที่ดินให้กับตระกูลซู แถมยังได้รับมิตรภาพที่อบอุ่นจากซูกรุ๊ปแล้วก็ตระกูลฟางอีก แบบนี้จะมีตรงไหนไม่คุ้มอีก?”

เลขาของซ่งเสวี่ยเฟยทำสีหน้าไม่พอใจ: "คุณหนู ดูเหมือนว่าจำนวนเงินที่เราเสนอจะน้อยไปนิดนึงนะคะ!"

ซ่งเสวี่ยเฟยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย: "อย่าเพิ่งตื่นตูม 400 ล้านเป็นวงเงินที่จำกัดสูงสุดแล้ว ถ้าสูงกว่านั้น ต่อให้จะซื้อที่ดินผืนนี้มาได้มันก็ไม่คุ้มค่า"

เธอเปลี่ยนเรื่องและยิ้มอย่างสดใสราวกับดอกไม้ผลิบาน “แต่ว่า ฉันจะไม่ยอมให้ประธานสาวสวย ซูอวี้เหยาได้ในสิ่งที่ต้องการหรอก ถ้าเป็นคนอื่น ฉันคงยิ้มแล้วปล่อยผ่านไป แต่ฉันจะไม่มีทางปล่อยให้เธอชนะเด็ดขาด!”

เลขาแทบอยากจะกุมขมับ เธอกล่าวว่า “คุณหนู คุณคงไม่ได้คิดที่จะมีเรื่องกับซูอวี้เหยาเพื่อผู้ชายจริงๆใช่ไหม หมอหลินคนนั้น มันคุ้มหรอที่คุณจะทำแบบนี้?”

ซ่งเสวี่ยเฟยส่งเสียงหึออกมาและกำลังจะพูด

มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากไมโครโฟนของพิธีกรที่อยู่บนเวที

เขาดูตื่นเต้นมาก ราวกับว่าเขาได้เห็นบางสิ่งบางอย่างที่น่าประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง

“ผู้บริจาคท่านสุดท้าย คุณหลินเฉิน”

“จำนวนเงินบริจาคของคุณหลินคือ…500 ล้าน!”

ทันใดนั้น ทั้งงานก็เงียบสนิท!

จากนั้นเหล่าแขกผู้มีเกียรติในห้องทุกคนต่างก็ส่งเสียงฮือฮาขึ้นมาในทันที

“พระเจ้า! 500 ล้าน คนๆนั้นเป็นใครกันเนี่ย? แค่ลงมือครั้งเดียวก็ทำให้ทุกคนในงานนี้ถึงกับอึ้งไปกันหมด”

“หลินเฉินหรอ? ทำไมฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย ในสังคมชนชั้นสูงของเจียงตงของเรามีคนที่รวยมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?”

“บริจาค 500 ล้านในนามบุคคล นี่มันไม่ใช่การลงเงินจำนวนมหาศาลแล้ว แต่มันคือการถล่มคู่แข่งให้ราบคาบไปตามๆกัน!”

เสียงพูดคุยที่ดังหนวกหูดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แขกผู้มีเกียรติบางคนถึงกับลุกขึ้นยืนและมองไปรอบๆ ว่าหลินเฉินนั้นคือใคร

ซ่งเสวี่ยเฟยหันไปมองเลขาในทันที: "เกิดอะไรขึ้น? ฉันให้คุณเตรียมเงินไป 100 ล้านไม่ใช่เหรอ?"

เลขามีสีหน้าสับสน “เปล่าค่ะคุณหนู ฉันได้เตรียมเงินไปแค่ 100 ล้านเพื่อบริจาคในนามของคุณหลินจริงๆนะคะ”

ขณะนั้นเอง มีคนจากตระกูลซ่งเดินเข้ามาและพูดกับซ่งเสวี่ยเฟยว่า “คุณหนู สถานเด็กกำพร้าได้คืนเงิน 100 ล้านที่เราบริจาคในนามของคุณหลินมาให้เรา สถานกำพร้าบอกมาว่าเป็นความต้องการของคุณหลิน เขา...บอกว่าไม่ต้องการ!”

ไม่ต้องการเหรอ?

ซ่งเสวี่ยเฟยไม่สามารถสงบนิ่งได้อีกต่อไป เธอมองไปที่หลินเฉินในทันที

ถ้างั้น ผู้ชายตัวเล็กๆคนนี้ก็ควักเงิน 500 ล้านจากกระเป๋าตัวเองเหรอ?

“หลินเฉิน? 500 ล้านเหรอ? นี่มันเป็นไปได้ยังไง?”

ทางฝั่งตระกูลซู ซูอวี้เหยาเองก็ไม่สามารถนั่งนิ่งอยู่ได้เช่นกัน

ใบหน้าที่งดงามของเธอเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ เธอมองไปที่หลินเฉิน

500 ล้านหรอ?

เขาไปเอาเงิน 500 ล้านมาจากไหนกัน?

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 11

    “คุณหลินเฉิน บริจาค 500 ล้าน!”ประโยคนี้สามารถพูดได้ว่า ทำเอาเหล่าแขกคนสำคัญในห้องโถงงานเลี้ยงถึงกับร้องออกมาเลยทีเดียว!ฟางซื่อหาวรู้สึกเหมือนกับถูกไฟลนก้น เขากระโดดขึ้นมาจากที่ที่เขานั่งอยู่: "พิธีกร ผมต้องการพิสูจน์ ที่นี่มีใครที่มีชื่อเหมือนกันบ้างไหม?"จางอ้ายยิงอยู่ไม่สุข รู้สึกร้อนรนเหมือนกับมดที่เดินอยู่บนกระทะร้อนๆ“ใช่ มันต้องเป็นคนที่ชื่อซ้ำกันแน่ๆ ไอ้ขยะหลินเฉินนี่มาที่นี่เพื่อแสดงความรัก อย่างมากเขาก็สามารถเสนอเงินได้ไม่กี่พันไม่กี่หมื่น เงิน 500 ล้านน่ะ จะอีกกี่ชาติเขาก็คงไม่มีทางหาเงินได้มากขนาดนั้นหรอก!"หากจะให้พูดว่าในงานยังมีใครที่ยังคงสงบนิ่งได้อยู่ คนๆนั้นก็คือหลินเฉินเขานั่งเงียบๆอยู่ที่เดิม สีหน้าสงบ ไม่สะทกสะท้านพิธีกรไม่ได้ปฏิเสธคำขอของฟางซื่อหาว ไม่นานหลังจากการตรวจสอบ เขาก็แจ้งผลทันที“ขออภัยแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ที่นี่มีคุณหลินเฉินเพียงคนเดียวเท่านั้นครับ ไม่มีใครที่มีชื่อซ้ำกันเลย”“ตอนนี้ ผมขอประกาศว่า คุณหลินเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในการซื้อที่ดินของสถานเด็กกำพร้าหนานเฉิงไป ขอแสดงความยินดีกับคุณหลินด้วยครับ!”งานระดมทุนได้สิ้นสุดลงแล้ว!สีหน้าของ

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 12

    ใบหน้าของชายหนุ่มผมทองโกรธชัด เขาคือน้องชายของผู้ไม่เอาไหนของซูอวี้เหยา ซูหย่ง“พวกคุณแข่งเอาที่ดินไปไม่ได้ ก็เลยคิดจะใช้กำลังปล้นกันหรอ?”หลินเฉินมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้สนใจมีดพร้าที่อยู่ในมือของซูหย่ง!จางอ้ายยิงพูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “หลินเฉิน แกอย่าลืมนะ ไม่มีอวี้เหยาแล้ว แกจะไปทำอะไรได้? แกอยู่กับเธอมาสามปี ก็เป็นเธอที่ให้ทุกอย่างกับแก แกมีสิทธิ์อะไรที่จะไม่ตอบแทนบุญคุณเธอ?”พูดดีเสียจริงนะ!หลินเฉินยิ้ม ภายในสายตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน: "คุณควรจะพูดว่า สามปีที่อยู่ด้วยกันกับซูอวี้เหยา เป็นผมที่ให้เธอ ไม่ใช่เธอให้ผม"“ถุย ไอ้เวรนี่!”จางอ้ายยิงโกรธจัด: "แกเกาะอวี้เหยากินมาตั้งหลายปี แกให้อะไรเธอ? หา? แกมีอะไรที่ให้เธอได้บ้าง เป็นไอ้หน้าด้านซะจริง"หลินเฉินหัวเราะเยาะ ถามกลับว่า "งั้นเหรอ? ผมจำได้ว่าสัญญาสำคัญของบริษัทซูในช่วงแรกๆ เป็นผมเองที่ไปเจรจามาได้ไม่ใช่หรอ?” แล้วก็คุณ ลูกชายอ่อนหัดที่ต้องเข้าคุก ก็เป็นผมอีกที่เป็นคนประกันตัวออกมา ตระกูลของพวกคุณคิดที่จะเอาเงิน แต่ไม่เอาศักดิ์ศรีแล้วหรอ? ”จางอ้ายยิงอับอายจนโกรธจัด เธอโกรธตรดวงตาของเธอมืดมน“ไอ้เศษสวะ แกชักจะกำเริบ

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 13

    หลินเฉินพูดอย่างเรียบเฉย: "แตกไปก็ดี ยังไงก็ซะ ไอ้นั่นของเขามันก็ใช้ไม่ได้มาตั้งนานแล้ว"พยาบาลสาวรู้สึกงงงวย ไม่รู้ว่าหมอหลินหมายความว่าอะไรหลินเฉินไม่ได้อธิบายอะไรให้เธอฟังมากนัก ด้วยทักษะทางการแพทย์ของเขา เขาดูออกตั้งนานแล้วว่าจางเผิงมีอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศและหลั่งเร็ว เจ้าสิ่งนั้นของเขาจึงไร้ประโยชน์มาตั้งนานแล้วขณะนั้นเอง ประตูแผนกถูกเปิดออก รองผู้อำนวยการจางฉางหมิงรีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับบุคลากรทางการแพทย์เมื่อเห็นจางเผิงที่กำลังนอนกุมเป้ากางเกงและหมดสติไปเพราะความเจ็บปวดอยู่บนพื้น สีหน้าของจางฉางหมิงก็บึ้งตึงขึ้นมาทันที“หลินเฉิน ในฐานะบุคลากรทางการแพทย์ แต่กลับไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมทางการแพทย์ ทำร้ายเพื่อนร่วมงาน คุณรู้ไหมว่าผลที่จะตามมาคืออะไร?”แพทย์คนหนึ่งเข้าไปตรวจดูอาการบาดเจ็บของจางเผิง จากนั้นก็ร้องด้วยความตกใจว่า "แย่แล้ว แย่แล้วๆ!"จางฉางหมิงไม่อยากที่จะเชื่อ ถึงถามว่า "เกิดอะไรขึ้น? หรือว่าลูกชายของฉัน ถูกไอ้สารเลวนี่ทำร้ายจนตาย?"คุณหมอรีบกล่าวว่า “ไม่ใช่ครับ คุณหมอจางเผิงแค่เป็นลมหมดสติไป”“แต่ความสามารถที่จะสืบตระกูลของเขา เกรงว่า เกรงว่าคงทำไม่ได้อีกแล

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 14

    เมื่อหลี่เชี่ยนเอ๋อได้ยินเช่นนั้น เธอก็ไม่ได้พูดอะไร แต่กลับเหลือบมองหลินเฉินจากที่ด้านหลังโต๊ะทำงานของเธอเมื่อเห็นหลินเฉินทำท่าทางราวกับว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย“คุณหมอหลิน คุณไม่มีอะไรที่อยากจะพูดเลยเหรอ?”“หรือจะบอกว่า คุณยอมรับในสิ่งที่รองผู้อำนวยการจางพูด ว่าคุณละเมิดกฎระเบียบของโรงพยาบาลจริงๆ?”“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ งั้นคุณก็ช่วยกรุณาเก็บของและออกไปจากโรงพยาบาลอันดับหนึ่งเดี๋ยวนี้ ฉัน หลี่เชี่ยนเอ๋อ จะไม่ยอมให้คนป่าเถื่อนแบบนี้มาเป็นลูกน้องของฉัน”หลินเฉินขมวดคิ้วและกล่าวว่า "ผู้อำนวยการ ในเมื่อคุณเรียกพวกเรามาที่นี่ งั้นก็คงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนอยู่แล้ว แล้วทำไมคุณถึงต้องถามในเมื่อคุณรู้คำตอบอยู่แล้ว?""คุณ......"หลี่เชี่ยนเอ๋อโกรธจัด เธอจ้องหลินเฉินด้วยสายตาที่ร้ายกาจจางฉางหมิงคว้าโอกาสนี้ไว้ เขากัดฟันพูดว่า “ผู้อำนวยการ คุณก็เห็นแล้วว่า ไอ้หลินเฉินนี่น่ะไม่ได้มีความอ่อนน้อมถ่อมตนแล้วก็มารยาทที่ดีของความเป็นแพทย์เลย มันก็เป็นแค่อันธพาลที่ไม่ทำตามระเบียบวินัยของสังคมชัดๆ”“ผมขอเสนอให้ไล่เขาออกตอนนี้เลย หลัง

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 15

    ข่าวที่จางเผิงถูกไล่ออกแพร่กระจายไปทั่วโรงพยาบาลอย่างรวดเร็วภายในชั่วพริบตา เหล่าแพทย์และพยาบาลต่างก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าผลลัพธ์จะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้“สมน้ำหน้า ไอ้สารเลวนั่นชอบมือไม้อยู่ไม่สุขกับพวกพยาบาลอยู่เรื่อย ตอนนี้ก็ได้รับกรรมที่ก่อไว้แล้ว”“น่ายินดีสุดๆเลยโว้ย ในที่สุดสองพ่อลูกจางก็โดนจัดการสักที หมอหลินเป็นคนกล้าหาญที่ไม่ยอมแพ้จริงๆ”หลายคนแอบยินดีและโล่งใจที่หลินเฉินปลอดภัยดีอย่างไรก็ตาม คนบางคนที่ไม่ชอบขี้หน้าหลินเฉินและหวังให้เขาโดนไล่ออกต่างก็คิดไม่ตกมันไม่สมเหตุสมผลเลยที่รองผู้อำนวยการจางไม่สามารถสู้หลินเฉินได้หลินเฉินนั่น หากไม่มีประธานซูคอยหนุนหลัง เขาจะไปทำอะไรได้แพทย์ชายหลายคนที่มีความคิดเชื่อมโยงอันล้ำเลิศสบตากันและคิดถึงเบื้องหลังที่น่าตกใจหรือว่าหลินเฉิน จะหาทางเกาะผู้อำนวยการโลลิคนนี้กินได้แล้ว?หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ชายเหล่านี้ก็คงไม่สามารถอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับหลินเฉินได้“เสี่ยวหนาน หมอหลินออกหน้าให้คุณเลยนะ ฮีโร่ช่วยชีวิตสาวสวย คุณควรจะแสดงความขอบคุณสักหน่อยไหม?”“นั่นสิเสี่ยวหนาน เธอเป็นถึงดอกไม้งามในโรงพยาบาลข

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 16

    ในขณะนี้ ทางฝั่งของหลินเฉิน ได้รับโทรศัพท์จากหลิวเจิ้นหู่“คุณชายหลิน ซูอวี้เหยาอยากได้ที่ดินของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า คุณจะให้หรือไม่ให้ดีครับ?”หลินเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า: “คุณตัดสินใจเองก็ได้ แต่ฉันกับเธอก็เคยมีความสัมพันธ์กันมาก่อน ถ้าซูซื่อเสนอเงื่อนไขที่ดี ก็ให้เธอไปเถอะ”หลิวเจิ้นหู่ถอนหายใจ: “รู้แล้วครับว่าคุณชายหลินยังตัดใจจากผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ ได้ครับ งั้นก็ยกให้ซูซื่อไปเถอะ”ในไม่ช้า ข่าวที่ว่าหู่เสียวกรุ๊ปได้ตกลงที่จะมอบที่ดินให้กับซูซื่อกรุ๊ปเพื่อพัฒนา ก็ถูกส่งไปถึงซูอวี้เหยาความสุขมาเร็วเกินไป จนเธอแทบไม่เชื่อ: “คุณชายหู่ นี่คุณเปลี่ยนใจแล้วเหรอคะ?”พนักงานที่เคยมาแจ้งข่าวบอกว่า “คุณซูสมกับเป็นดาวรุ่งแห่งวงการธุรกิจเจียงตง มีความสามารถอยู่ไม่น้อย ไม่ขอปิดบังเลยนะคะ คุณชายหู่ของเราได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง แล้วก็ตกลงให้เลยค่ะ”เพราะโทรศัพท์สายหนึ่ง คุณชายหู่เลยเปลี่ยนใจงั้นหรือ?ซูอวี้เหยาอึ้งไป แล้วหันไปมองฟางซื่อหาว พูดขอบคุณอย่างจริงใจ “คุณชายฟาง ช่วยขอบคุณคุณพ่อให้ด้วยนะคะ ครั้งนี้คุณช่วยฉันมาก อวี้เหยาขอจดจำไว้ไม่ลืมเลยค่ะ”ฟางซื่อหาวแข็งทื่อ หน้าตา

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 17

    “เอาล่ะ คุณหนูซ่ง เรามาคุยเรื่องสำคัญกันเถอะค่ะ”หลินเฉินก็รับมือกับซ่งเสวี่ยเฟยไม่ไหวเหมือนกันผู้หญิงคนนี้ งดงามเย้ายวน ทุกการกระทำล้วนเย้ายวนใจ เขารับไม่ไหวจริงๆซ่งเสวี่ยเฟยหยุดยิ้ม พยักหน้า: “ค่ะ คุยเรื่องสำคัญ”“เชี่ยนเอ๋อร์ โรคของคุณ ฉันว่าคุณหมอหลินรักษาได้”หลี่เชี่ยนเอ๋อร์จ้องหลินเฉิน พูดเยาะเย้ย: “เขาเหรอ? หลายปีมานี้ฉันไปหาหมอชื่อดังหลายคน แม้แต่หมอเก่งๆ ในเมืองจิง ฉันก็ไปขอคำปรึกษา แต่ทุกคนบอกว่ามันยากที่จะรักษา หมอตัวเล็กๆ คนนี้ มันจะทำได้ยังไง”หลินเฉินขมวดคิ้ว: “ถ้าผมเดาไม่ผิด โรคที่คุณต้องการรักษา ก็คือโรคที่ผู้หญิงไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ใช่ไหมครับ?”พอพูดถึงเรื่องนี้ หลี่เชี่ยนเอ๋อร์ก็รู้สึกอับอายมาก หันไปพูดกับซ่งเสวี่ยเฟย: “เสวี่ยเฟย นี่เป็นความลับของเราสองคน ทำไมเธอถึงบอกไอ้คนเลวทรามคนนี้ล่ะ?”ซ่งเสวี่ยเฟยรีบพูด “เชี่ยนเอ๋อร์ ฉันไม่ได้บอกหลินเฉินเรื่องของคุณเลยสักคำ”หลี่เชี่ยนเอ๋อร์ไม่เชื่อ: “แล้วทำไมเขาถึงรู้ว่า ฉัน... ฉันเป็นโรคนี้ล่ะ?”หลินเฉินพูดเสียงเรียบ: “ผมไม่ใช่แค่รู้ว่าคุณเป็นโรคนี้ แต่ผมยังรู้ว่าช่วงนี้คุณนอนไม่หลับ ฝันร้าย และฮอร์โมนผิดปกติ

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 18

    “ลูกสาวดีมาก ทำได้ดีมาก ไอ้คนใจร้ายนี่ มันสมควรได้รับอย่างนี้”“พี่สาว เยี่ยมมาก ผมว่า ไม่ใช่แค่สาดน้ำใส่หน้ามัน แต่ควรจะตบหน้ามันด้วย ให้มันจำไว้เป็นบทเรียน”จางอ้ายยิงกับลูกชายปรบมือ แสดงความพึงพอใจในใจฟางซื่อหาวหัวเราะเยาะเย้ย: “หลินเฉิน ฉันสงสารแกจริงๆ อวี้เหยาเป็นผู้หญิงที่ดี อ่อนโยน ใจดี แกไม่รู้จักทะนุถนอม กลับทำให้เธองอนขนาดนี้”“แกนี่มัน เอาอะไรมาไม่ได้ ไม่แปลกเลยที่อวี้เหยาจะเลิกกับแก”เมื่อเห็นน้ำที่สาดใส่หน้าหลินเฉิน ไหลลงมาทำให้เสื้อเปียก ซูอวี้เหยาถึงกับอึ้งไป“คุณ... คุณทำไมไม่หลบ?”หลินเฉินหลบได้ แต่เขาไม่หลบ“ตอนนี้คุณพอใจแล้วใช่ไหม? สบายใจแล้วใช่ไหม?”“แม่ของคุณกับน้องชายคุณ เป็นคนยังไง ผมว่าคุณรู้ดีกว่าผม”“คุณเชื่อทุกอย่างที่พวกเขาพูด ซูอวี้เหยา คุณพูดถูก ที่เราเลิกกัน เป็นเรื่องที่ดี เพราะคุณ เป็นผู้หญิงโง่!”น้ำเสียงของหลินเฉินเย็นชา สายตาที่ไร้ความอบอุ่น ทำให้ซูอวี้เหยารู้สึกตัวสั่นใช่แล้ว ฉันกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย?หลินเฉิน เป็นคนอย่างที่ฉันคิดจริงๆ เหรอ?แล้วแม่กับน้องชาย ทั้งคู่ก็ชอบพูดจาไม่เข้าท่า คนหนึ่งชอบยุแยง อีกคนชอบก่อเรื่อง ฉันไปเชื่อคำพู

บทล่าสุด

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 30

    อู๋เฮ่ามองหลินเฉินอย่างอึ้งๆ แล้วส่ายหัวพลางยิ้มพูดว่า: "ขอโทษด้วย ถ้าคำพูดเมื่อกี้ทำร้ายความภาคภูมิใจของพี่หลิน ผมขอโทษ""ผมแค่รู้สึกว่า สำหรับเด็กสาวจากตระกูลใหญ่อย่างเชี่ยนเอ๋อร์ ควรมีสุภาพบุรุษอยู่ข้างกาย จึงจะเหมาะสมกับสถานะของเชี่ยนเอ๋อร์"แม้ไม่ได้แสดงออกถึงการดูถูกหรือโจมตีอย่างชัดเจน แต่ในน้ำเสียงและคำพูดนั้นแฝงไปด้วยความรู้สึกเหนือกว่าของคนที่มาจากตระกูลใหญ่ และการมองข้ามหลินเฉินอย่างเย็นชาหลินเฉินยิ้มพูด: "สมแล้วที่เป็นคุณชายอู๋ แม้แต่ผมยังต้องยกนิ้วให้เลย""เมื่อครู่ได้ยินคุณชายอู๋พูดว่า วันนี้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่คลับเซียงซาน คุณชายอู๋จะเป็นคนจ่ายให้ ใช่ไหมครับ?"อู๋เฮ่าชะงักไปครู่หนึ่ง เห็นได้ชัดว่าไม่คาดคิดว่าหลินเฉินจะถามเช่นนี้ จึงพยักหน้าตอบ: "ถูกต้อง คุณหลินมาที่นี่ไม่บ่อย อยากดื่มอะไร อยากเล่นอะไร จะเล่นยังไงก็ได้ ผมจะให้ฟรีทั้งหมด!"รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินเฉินยิ่งกว้างขึ้น: "นี่เป็นคำพูดของคุณชายอู๋เองนะ งั้นผมก็ขอรับน้ำใจแล้วกัน!"อู๋เฮ่าหัวเราะเบาๆ แม้แต่จะตอบก็ไม่อยากตอบ พาซูอวี้เหยาเดินจากไปเขาคิดว่าหลินเฉินเป็นแค่คนไม่มีชื่อเสียงที่อยากได้ของฟรี เขาคิด

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 29

    “คุณชายอู๋ช่วยชีวิตแกไว้ แกไม่ควรขอบคุณเขาหน่อยหรือไง”“ผมรู้แล้ว ไอ้นี่คงอิจฉาคุณชายอู๋ที่ดูดีมีหน้ามีตา เลยอิจฉาริษยา!”ทันใดนั้น คนรอบข้างก็มองหลินเฉินด้วยสายตาเหยียดหยามบางคนถึงกับอยากแสดงความดีต่อหน้าคุณชายอู๋ จัดการหลินเฉินซะซูอวี้เหยาขมวดคิ้ว: “ก็เพราะอู๋เฮ่า เรื่องราววุ่นวายกับนายท่านป้าร์ถึงได้สงบลง หลินเฉิน ไม่ว่ายังไง อู๋เฮ่าก็ช่วยคุณและฉัน ขอบคุณเขาสักคำมันยากนักหรือไง”ก่อนที่หลินเฉินจะได้พูดอะไร อู๋เฮ่าโบกมือ ทำท่าไม่ใส่ใจ“อวี้เหยา อย่าไปบังคับเขาเลย อย่างที่คุณรู้ ผมไม่ใช่คนหวังผลตอบแทน!”เขามองหลินเฉิน ยิ้มแล้วพูดว่า: “หลินเฉินใช่ไหม ก่อนหน้านี้อวี้เหยาเคยเล่าเรื่องของคุณให้ผมฟัง ตลอดสามปีที่ผ่านมา อวี้เหยาได้รับการดูแลจากคุณ ดังนั้นผมต้องขอบคุณคุณด้วย!”“คุณชายอู๋ใจกว้างจริงๆ ไม่เหมือนไอ้หนุ่มคนนั้น ใจกว้างกว่าเยอะ!”“คุณหนูซูฉลาดจริงๆที่ทิ้งไอ้หนุ่มคนนี้ไป เห็นท่าทางเจ้าคิดเจ้าแคลนแบบนั้นทีไรก็โมโหทุกที!”“อย่าพูดเลย ไอ้คนไร้ค่าคนนี้คงรู้สึกแย่ แต่ก็โทษมันเองที่สู้คุณชายอู๋ไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ!”อู๋เฮ่าเป็นฝ่ายขอบคุณเอง ทำให้คนรอบข้างชื่นชมตรงกันข้าม ทุกคนรู้

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 28

    “อาเป้า ให้เกียรติฉันหน่อย วางมีดลงซะ!”ขณะที่หวังเป้ากำลังจะลงมือ เสียงทุ้มนุ่มๆเอ่ยขึ้นหวังเป้าหัวเราะเยาะ หันหลังจะพูดว่า มึงเป็นใครวะถึงจะมาสั่งกูได้แต่เมื่อเห็นว่าเป็นคุณชายอู๋ แต่งตัวอย่างดี ดูภูมิฐาน เดินเข้ามาหวังเป้ารีบวางท่าที ยิ้มแห้งๆว่า: “คุณชายอู๋ ทำไมถึงมาที่นี่ครับ”ข้างๆอู๋เฮ่า คือซูอวี้เหยา หญิงสาวสวย เดินตามมาท่ามกลางสายตาของทุกคนชายรูปงามหญิงสวย ราวกับเจ้าชายและเจ้าหญิง!“อาเป้า ฉันกับนายท่านของคุณ หวังป้าร์ สนิทกันเหมือนพี่น้อง วันนี้ผมขอช่วยคนนี้ไว้ เดี๋ยวผมจะโทรไปคุยกับนายท่านของคุณเอง”อู๋เฮ่า ยิ้มบางๆ ราวกับเป็นเรื่องเล็กน้อยแล้วเหลือบมองหลินเฉิน แววตาแปลกๆ แวบขึ้นมาสองครั้งสีหน้าหวังเป้า ดูลำบากใจ: “แต่คุณชายอู๋ คนนี้เมื่อวานทำร้ายลูกน้องของนายท่านป้าร์ถึงสิบกว่าคน ทำให้นายท่านป้าร์เสียหน้ามาก…”อู๋เฮ่าเอ่ยขึ้นเบาๆว่า: “ผมหมายความว่า เรื่องหวังป้าร์ คุณไม่ต้องห่วง ผมจะจัดการเอง”“แล้วก็เมื่อวาน พวกคุณบอกว่าจะทำร้ายคู่หมั้นของผม ฮึ่ม เรื่องนี้ผมยังไม่ได้ไปเคลียร์กับนายท่านของคุณเลย!”สีหน้าหวังเป้าเปลี่ยนไป ตระกูลอู๋ในเจียงตงนั้นมีอิทธิพลมหาศ

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 27

    จู่ๆ ได้ยินหลินเฉินพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า: "วันนี้อารมณ์ผมไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดังนั้นผมขอเตือนคุณสักคำ อย่าหาเรื่องไม่สบายใจเลย"ดวงตาของหวังเป้าฉายแววอำมหิต: "แกว่าอะไรนะ? พูดอีกทีซิ?"หลินเฉินยิ้มพลางกล่าว: "ผมบอกว่า คุณไปให้ไกลเท่าไหร่ก็ไปเลย วันนี้อารมณ์ผมไม่ดี กลัวว่าถ้าลงมือไปแล้วจะทำให้คุณบาดเจ็บ"หลี่เชี่ยนเอ๋อร์รู้สึกว่าหลินเฉินคนนี้บ้าไปแล้วจริงๆ"หลินเฉิน หุบปากเดี๋ยวนี้ คุณรู้หรือเปล่าว่าหวังเป้าเป็นลูกน้องคนเก่งที่สุดของนายท่านป้าร์แห่งเมืองหนาน ถ้าคุณยังพูดจาโอหังแบบนี้ ฉันก็ช่วยคุณไม่ได้แล้วนะ"พูดจบ หลี่เชี่ยนเอ๋อร์หันไปทางหวังเป้า พูดเสียงด้วยเครียด: "หวังเป้า คนนี้เป็นเพื่อนของฉันกับซ่งเสวี่ยเฟย ถ้ามีความเข้าใจผิดอะไร เราหาเวลามานั่งคุยกันได้ วันนี้คุณจะปล่อยเขาไปได้ไหม?"แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยชอบหลินเฉิน แต่ชีวิตคนก็สำคัญถ้าหลินเฉินต้องมาตายต่อหน้าเธอ เธอก็คงจะอธิบายกับซ่งเสวี่ยเฟยลำบากหวังเป้ายิ้มอย่างสบายอารมณ์ พูดว่า: "เรื่องนี้ คงจะไม่ได้ครับ""ไอ้หนุ่มคนนี้เมื่อวานได้ทำลายแผนของนายท่านป้าร์ของพวกเรา นายท่านป้าร์สั่งชื่อมาเลยว่าต้องจัดการมัน""ดังนั้นคุณหนูหลี

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 26

    "ทุกคนดื่มให้สนุก เล่นให้มีความสุข ค่าใช้จ่ายคืนนี้ ผมจัดการเอง"คุณชายใหญ่แห่งตระกูลอู๋กล่าวพร้อมรอยยิ้ม ท่าทางสง่างาม"คุณชายอู๋ใจกว้างจริงๆ!""คุณชายอู๋ยังคงเป็นคนเดิม ทำให้ผู้คนรู้สึกประทับใจมาก""มีเพียงประธานหญิงงามแห่งตระกูลซูเท่านั้น ที่เหมาะสมกับคุณชายอู๋ผู้หล่อเหลาและร่ำรวยของพวกเรา!"บรรดาชายหญิงในคลับต่างชูแก้วและโห่ร้องไม่หยุดค่าใช้จ่ายที่คลับเซียงซานนั้นแพงลิบลิ่วที่สุดในเจียงตงมีเพียงคุณชายใหญ่แห่งตระกูลอู๋เท่านั้นที่กล้าพูดว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดหลี่เชี่ยนเอ๋อร์มองตามอู๋เฮ่าและซูอวี้เหยาที่หายไปในห้องวีไอพีชั้นสอง แสดงความชื่นชมอย่างไม่ปิดบัง"ก่อนคุณชายอู๋จะไปเมืองนอก เขาได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มรูปงามเจ้าสำราญในเจียงตงของเรา เป็นชายในฝันของสาวน้อยนับไม่ถ้วน""ตอนนี้กลับมาแล้ว ยิ่งเพิ่มความสุภาพและมั่นคง ตระกูลอู๋นี่ มีคนสืบทอดที่ดีจริงๆ คุณหนูซูคนนั้น โชคดีแล้วล่ะ!"หลินเฉินยกแก้วเหล้าตรงหน้าขึ้น จิบเบาๆ แล้วพยักหน้าพูดว่า: "เหล้าดีจริง!"หลี่เชี่ยนเอ๋อร์รู้สึกงุนงงเล็กน้อย: "ในเวลาแบบนี้ คุณยังมีอารมณ์นั่งชิมเหล้าอยู่ตรงนี้อีกเหรอ?"ในคลับ ทุกคนกำลั

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 25

    หลินเฉินนั่งลง แล้วถามตรงประเด็นหลี่เชี่ยนเอ๋อร์จิ๊ปาก: “มาปุ๊บก็คุยเรื่องงานเลย ผู้ชายไม่มีรสนิยม หลินเฉิน คุณเป็นผู้ชายแบบนี้เสมอเหรอ?”ถึงแม้จะไม่พอใจ เธอก็ยังดันกล่องสวยงาม ไปตรงหน้าหลินเฉินหลินเฉินเปิดดู เห็นโสมอยู่ในกล่อง เมื่อแน่ใจแล้ว เขาก็ลุกขึ้นเดินออกไปหลี่เชี่ยนเอ๋อร์ตะโกน: “รอหน่อยสิ คุณได้ของแล้ว เมื่อไหร่จะรักษาให้ฉัน?”หลินเฉินตอบอย่างง่ายๆ: “คุณบอกเวลามา แต่ก่อนรักษา ผมต้องเตือนคุณสักอย่าง”“ตอนนั้น ผมต้องถอดกระโปรงคุณ”หลี่เชี่ยนเอ๋อร์งง: “ถอดกระโปรงฉัน? หมายความว่ายังไง?”หลินเฉินพูดอย่างไม่เปลี่ยนสีหน้า: “โรคของคุณ ไม่ใช่โรคปกติ แต่เป็นโรคที่รุนแรง คุณรู้เรื่องนี้มาก่อนอยู่แล้ว”หลี่เชี่ยนเอ๋อร์นึกถึงอะไรบางอย่าง ใบหน้าค่อยๆ แดงขึ้น มองหลินเฉินด้วยความโกรธและอับอายหลินเฉินทำเป็นไม่เห็น พูดต่อ: “นั่นหมายความว่า โรคของคุณรักษาได้ยาก เพื่อให้แน่ใจว่าจะรักษาให้หาย ผมต้องผ่าตัดเล็กๆ ตรงที่เป็นโรค เข้าใจไหม?”หลี่เชี่ยนเอ๋อร์กัดฟัน: “ผู้ชายกับผู้หญิงไม่ควรแตะต้องกัน คุณคิดว่ามันเหมาะสมเหรอ?”หลินเฉินขมวดคิ้ว: “ต่อหน้าหมอ ไม่มีความแตกต่างระหว่างชายและหญิง ท

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 24

    คืนนั้น ในแวดวงชนชั้นสูงของเจียงตง มีสองเหตุการณ์ที่สร้างความฮือฮาอย่างแรก หวังป้าร์ เจ้าเมืองหนาน แพ้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ขึ้นเป็นใหญ่ แพ้ไม่มากไม่น้อยอย่างที่สอง อู๋เฮ่า คุณชายใหญ่ของตระกูลอู๋ กลับมาจากต่างประเทศอย่างยิ่งใหญ่ เตรียมขึ้นเป็นหัวหน้าของตระกูลอู๋ตระกูลอู๋ในเจียงตง นับเป็นตระกูลชั้นนำสามอันดับแรก ไม่ใช่ตระกูลฟางที่เป็นแค่ตระกูลรองๆส่วนอู๋เฮ่านั้น ยิ่งมีชื่อเสียงมาก เคยเป็นหนึ่งในสี่หนุ่มสุดหล่อของเจียงตง เป็นลูกหลานตระกูลดังที่สุดในเจียงตงเช้าวันรุ่งขึ้น“คุณหมอหลิน ได้ยินว่าเมื่อวานนี้ที่โรงแรมเจียงตง คุณเจอเรื่องนิดหน่อย ถ้าต้องการความช่วยเหลือ บอกได้เลยนะคะ”ซ่งเสวี่ยเฟยโทรมา น้ำเสียงแสดงความห่วงใยหลินเฉินกล่าว: “ขอบคุณครับคุณหนูซ่ง ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกครับ”ซ่งเสวี่ยเฟยหัวเราะ: “รู้แล้วล่ะว่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่ใช่เรื่องอะไรสำหรับคุณหมอหลิน เสวี่ยเฟยหวังว่าจะได้ช่วย แล้วคุณหมอหลินจะติดบุญคุณเสวี่ยเฟย”หลินเฉินยิ้ม: “บุญคุณเล็กๆ น้อยๆ ของผม สำหรับคุณหนูซ่ง คงไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรหรอกครับ”ซ่งเสวี่ยเฟยจิ๊ปาก: “ใครพูด ถ้าได้บุญคุณคุณหมอหลิน เสวี่ยเฟยยอ

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 23

    “หลินเฉิน คุณรีบหนีไป ออกจากเจียงตงไปเลย เร็ว!”ซูอวี้เหยาคิดอยู่นาน แล้วพูดออกมา สายตาเต็มไปด้วยความร้อนรนหลินเฉินพูดอย่างสงบ: “ผมคิดว่า ไม่จำเป็น”ซูอวี้เหยาโกรธ: “คุณสร้างปัญหาแล้ว คุณไม่เข้าใจเหรอ? ทำไมถึงไม่จำเป็น?”หลินเฉินหัวเราะเยาะ มองเธอ: “แล้วไง? คุณคิดว่าผมทำให้ตระกูลซูเดือดร้อน ทำให้คุณเดือดร้อนเหรอ?”“ไม่ใช่เหรอ?”คำถามนี้ทำให้หลินเฉินอึ้งไปจางอ้ายยิงเดินเข้ามา ดึงซูอวี้เหยาไป: “อวี้เหยา เราไปกันเถอะ เรื่องวุ่นวายทั้งหมด เป็นเพราะไอ้คนนี้ ไม่เกี่ยวกับเรา ไปกันเถอะ”ซูหย่งก็เร่ง: “พี่สาว เราไปกันเถอะ พรุ่งนี้พี่เขยจะกลับมาจากต่างประเทศ ให้เขาช่วยจัดการ ตระกูลซูจะไม่เดือดร้อนหรอก”ซูอวี้เหยาได้ยินแล้ว รีบพูด: “ใช่ พรุ่งนี้อู๋เฮ่าจะกลับมาจากต่างประเทศ ถ้าเขาออกหน้า ก็คงไม่เป็นไร”เธอมองหลินเฉิน สายตาสับสน: “หลินเฉิน คุณหนีไปเถอะ อย่าห่วง ฉันจะขอให้อู๋เฮ่าจัดการ เพื่อดับความโกรธของหวังป้าร์ คุณจะไม่เป็นไรหรอก แต่คุณอาจจะ... กลับมาเจียงตงไม่ได้อีกแล้ว”หลินเฉินหัวเราะเยาะๆ: “เหรอครับ? คุณหนูซูใจกว้างจริงๆ ขอให้คู่หมั้นของคุณมาช่วยชีวิตอดีตคนรัก”“อย่างนั้น ผมควรจ

  • ล้มเลิกแต่งงานกลับสู่ความรุ่งเรือง   บทที่ 22

    “หุบปาก!”ในวินาทีสุดท้าย เสียงตะโกนเย็นชาดังขึ้นมือของคนหัวล้านเพิ่งจะเงื้อออกไป ก็ถูกกระแทกจากด้านหลังอย่างแรงร่างของเขาถูกเตะกระเด็นออกไป ไม่รู้ว่าตายหรือเป็นซูอวี้เหยามองไปทางด้านหลังของคนหัวล้าน แล้วก็เห็นหลินเฉินปรากฏตัวขึ้นสายตาของหลินเฉินตอนนี้ เย็นชาจนน่ากลัว ราวกับจะฆ่าคน“คุณ คุณ คุณ... คุณกลับมาได้ยังไง?”ซูอวี้เหยาพูดติดๆ ขัดๆเดิมทีเธอคิดว่าหลินเฉินไปแล้วตอนนั้นเธอรูสึกผิดหวังมาก คิดว่าหลินเฉินเป็นผู้ชายขี้ขลาด แม้แต่จะเทียบกับฟางซื่อหาวยังไม่ได้“ถ้าผมไม่กลับมา แล้วจะปล่อยให้คุณโดนพวกมันพาไป แล้วทำอะไรต่างๆ นานาเหรอ?”หลินเฉินมองผู้หญิงที่ไร้เดียงสาคนนี้ด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดอย่างไม่พอใจซูอวี้เหยาอึ้งไป รู้สึกว่าหลินเฉินดูแข็งกร้าวเกินไป: “หลินเฉิน ฉันรู้ว่าฉันเข้าใจผิด แต่คุณ...”เธอยังพูดไม่ทันจบ คนหัวล้านที่ถูกเตะกระเด็นไป ก็ตะโกนอย่างโกรธแค้น “เข้าไปจัดการมัน ฆ่ามันให้ตาย ฆ่ามันซะ!”ลูกน้องแต่งชุดดำหลายคน เข้าล้อมหลินเฉิน บางคนถึงกับหยิบอาวุธออกมาฟางซื่อหาวหัวเราะเยาะๆ: “โง่ ไม่รู้จักตาย กล้าทำร้ายคนของนายท่านป้าร์ คราวนี้ตายแน่ๆ ตายแน่ๆ”เขาไ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status