ลูน่าไม่แยแส เธอเดินผ่านออร่าและตรงไปยังป้ายรถเมล์ “เราไม่มีอะไรต้องคุยกัน”“ไม่มีอะไรให้ต้องคุยหรือเธอแค่กลัวที่จะคุยกับฉัน?” ออร่าเปิดประตูลงมาจากรถและคว้าข้อมือของลูน่า “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่นะ!“เธอน่าจะอายุน้อยกว่าฉันนะ เธอยังไม่เคยมีลูกและเธอก็ยังเด็กอยู่ ฉันเดาถูกใช่ไหม? ผู้หญิงที่ไม่เคยให้กำเนิดเอง แต่กลับใฝ่ฝันที่จะเป็นคนรับใช้ของเด็กอายุ 6 ขวบเพียงเพื่อเงินเดือนไม่กี่บาทต่อเดือนอย่างนั้นเหรอ?”ลูน่าสะบัดมือของเธอออก “ถ้าอย่างนั้นคุณก็บอกฉันมาสิว่าคุณคิดว่าฉันทำไปเพื่ออะไร?”ออร่าหรี่ตาลงเมื่อวานนี้ สถานการณ์วุ่นวายจนเธอไม่ได้สนใจรูปลักษณ์ของผู้หญิงคนนั้น แต่เมื่อเธอได้อยู่ใกล้กับหล่อนในตอนนี้ เธอก็พบว่าใบหน้าของหล่อนไร้ที่ติราวกับว่ามันถูกแกะสลักโดยศิลปิน“เธอก็สวยอยู่หรอกนะ แต่เธอควรรู้เอาไว้ว่าโจชัวเป็นคู่หมั้นของฉัน ฉันขอเตือนเธอว่าอย่ามองเขาอย่างไร้ยางอายจะดีกว่า!”ลูน่ายิ้มออร่าได้พิจารณาข้อเท็จจริงที่ว่าโจชัวเป็นสามีของเธอในตอนที่มีอะไรกับเขาบ้างหรือเปล่า?พอเปลี่ยนบทกัน ออร่ายังกล้าเตือนเธอว่าอย่าทำตัวไร้ยางอายอีกเหรอ?หากเรื่องพวกนี้คือการไร
ข้อมูลเกี่ยวกับลูน่ามีจำนวนสิบหน้าโจชัวตรวจสอบเอกสารทั้งหมดเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่พบข้อบกพร่องใด ๆ เลย เขาลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย“โอเค อยู่ที่นั่นก็ดูแลตัวเองด้วยนะ” โจชัวได้ยินเสียงของเด็กบางคนอย่างชัดเจนทันทีที่เขาเข้ามาในห้องน้ำ เขาหยุดล้างมือทันทีบริษัทมีข้อกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า ไม่อนุญาตให้พนักงานนำบุตรหลานมาที่ทำงานด้วย แล้วเหตุใดจึงมีเด็กอยู่ในบริษัทในเวลานี้?ชายคนนั้นขมวดคิ้วและเดินตามเสียงนั้นไปก่อนที่มันจะนำเขาไปที่ห้องน้ำห้องหนึ่ง ทันทีที่เขาเดินไปถึงที่ประตูห้องนั้นและก่อนที่เขาจะทันได้เคาะประตู ประตูห้องนั้นก็ถูกเปิดออกปัง!ประตูห้องน้ำกระแทกเข้าที่หน้าผากของชายคนนั้นด้วยเสียงที่ดังจนทำให้โจชัวส่งเสียงร้องด้วยความรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย เขาเอามือจับหน้าผากตัวเองตามสัญชาตญาณนีลเดินออกมาจากห้องน้ำนั้นด้วยร่องรอยของความสะใจและเย่อหยิ่งที่แวบเข้ามาในดวงตาของเขาครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นมองโจชัวด้วยใบหน้าที่รู้สึกผิด “ผมขอโทษครับ ขอโทษจริง ๆ ผมไม่รู้ว่ามีคนยืนอยู่ข้างนอก ผมก็เลยเปิดประตูออกมา! ผมขอโทษครับ!”โจชัวปล่อยมือที่จับหน้าผากตัวเองล
มือที่ถือตะเกียบของโจชัวหยุดชะงักเล็กน้อยเขาเงยหน้าขึ้นและใช้ดวงตาสีดำมองใบหน้าของลูน่าอย่างเฉยเมย “ถ้าผมขอให้เธอย้ายเข้ามา พวกผู้หญิงที่คลั่งไคล้ผมก็คงจะไม่มีโอกาสแล้วน่ะสิ ผมพูดถูกไหม?”คำพูดของชายผู้นี้ทำให้ลูน่าหรี่ตาลงเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ยิ้ม “ฉันคิดมาตลอดว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณลินช์และคุณกิบสันนั้นแข็งแกร่งพอ แต่ดูเหมือนว่าฉันจะคิดมากเกินไป”โจชัวเม้มริมฝีปากและถอนหายใจอย่างแผ่วเบา “แต่ถึงอย่างนั้น คนบางคนที่เข้าหาผมด้วยจุดประสงค์ตั้งแต่แรกเริ่มจะไม่มีวันได้โอกาส”“ถ้าอย่างนั้นคุณลินช์ก็เป็นคนที่ทุ่มเทให้กับความรักมากจริง ๆ” ลูน่าโต้กลับ “ดูเหมือนว่าฉันจะเข้าใจคุณผิด”เมื่อสังเกตเห็นว่าบรรยากาศบนโต๊ะอาหารเริ่มอึดอัดขึ้นเรื่อย ๆ เนลลี่จึงยื่นมือเล็ก ๆ ของเธอออกอย่างรวดเร็วและวางมันไว้ระหว่างดวงตาของพวกเขาเสมือนเป็นเกราะป้องกัน “หยุดเถียงกันได้แล้วค่ะ!”“ไม่ใช่สักหน่อย”เสียงที่เจือความกังวลของลูกสาวทำให้ลูน่ากลับมามีสติอีกครั้งเธอสงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็วและยิ้มจาง ๆ ให้โจชัว “คุณลินช์ อย่าเข้าใจฉันผิดเลยค่ะ ฉันแค่คิดว่านายหญิงในอนาคตของครอบครัวนี้เห็นฉั
“วันนี้หนูอยากกินเค้กจังเลยค่ะ!”ภายในห้องนอนของเนลลี่ที่ชั้นบน เนลลี่ใช้มือเล็ก ๆ ผลักประตูให้เปิดออกในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งกำลังจับมือของลูน่าไว้ “รสแยมหวานที่หนูเคยลองทานก่อนหน้านี้”ลูน่าอดยิ้มไม่ได้และพยักหน้า “ได้เลยค่ะ”ทั้งแม่และลูกสาวลงไปที่ชั้นล่างและเพลิดเพลินอยู่ในการสนทนาของพวกเธอ ทันทีที่ลูน่าไปถึงที่บันได เธอก็ได้เห็นภาพที่แขวนอยู่บนผนังข้างบันไดเธอตัวแข็งทื่อ ภาพถ่ายนั้นแสดงให้เห็นใบหน้าของเธอตอนเมื่อก่อนเธอยืนอยู่ข้างโจชัวในชุดแต่งงานและมองมาที่เขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรักและส่องประกายด้วยแสงของดวงดาวนับพันทว่าใบหน้าของโจชัวกลับยังคงเหมือนเดิม ว่างเปล่าชั่วนิรันดร์และไร้ความรู้สึกในขณะที่มองดูภาพนั้น ลูน่าก็รู้สึกเหมือนกับว่าเลือดของเธอเริ่มไหลย้อนกลับเธอจำได้ว่าเธอเลือกภาพถ่ายแต่งงานของโจชัวและตัวเองอย่างระมัดระวังทีละภาพอย่างไร เธอทุ่มเทความพยายามในโครงการเล็ก ๆ ของเธอและแขวนมันไว้ทุกที่ที่เขาจะมองเห็น เธอรู้สึกว่าวันหนึ่งเขาจะต้องเข้าใจความรู้สึกที่จริงใจของเธอที่มีต่อเขาทว่าสุดท้าย ความเป็นจริงก็ได้ตบหน้าเธออย่างแรงเธอไม่เพียงแต่สูญเสียทุกสิ่งท
ไม่นานหลังจากพยาบาลเดินออกไป ออร่าก็ถูกนำตัวมาที่ห้องทำงานของแอนน์“ระวังหน่อยแล้วกันเวลาเย็บแผล ฉันไม่อยากได้แผลเป็นเพิ่ม!” ออร่าออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนจะเอนหลังพิงเก้าอี้และนั่งดูวิดีโอต่าง ๆ ในมือถือแอนน์รู้สึกไม่ปลื้มกับพฤติกรรมเช่นนั้น แต่เพราะเป็นคุณหมอ เธอจึงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาจัดการเย็บแผลของออร่าอย่างขะมักเขม้นในตอนที่แอนน์ย่อกายลงและกำลังจะเย็บแผล ขณะเดียวกันนั้นออร่าก็กำลังดูละครในมือถือของตัวเองอยู่ นีลก็บังเอิญหกล้มทับแอนน์พอดิบพอดี“โอ๊ย!”นิ้วก้อยของเด็กชายโดนเข้าที่แผลของออร่า เขาฉวยจังหวะนี้ใช้เกลือจากนิ้วป้ายที่แผลของเธอ“อ้าก!” ออร่าเจ็บเสียจนใบหน้าบูดเบี้ยวขึ้นมาในทันควันแถมยังเกือบดีดตัวออกจากเก้าอี้ไปแล้ว ซึ่งนั่นทำให้แอนน์ถึงกับสะดุ้งโหยง“ขอโทษครับ...” นีลรีบโค้งตัวลงและยอมรับผิด “คุณน้าคนสวย ผมไม่ได้ตั้งใจครับ ผมแค่… บังเอิญหกล้ม...”สีหน้าของออร่าเหยเกด้วยความเจ็บปวดขณะจ้องหน้านีลราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “ไม่ทันระวัง? แค่นี้เหรอ?”“มันเป็นอุบัติเหตุ” นีลเม้มริมฝีปากแล้วมองหน้าออร่าด้วยสายตาน่าสงสารดุจเจ้ากวางตัวน้อย “คุณน้าคนสวยครับ ถ้าโ
ลูน่าไม่สะทกสะท้านกับสายตาเย็นชาของชายหนุ่ม เธอพยักหน้าเบา ๆ “เข้าใจแล้วค่ะ”จากนั้นหญิงสาวก็เดินขึ้นบันไดไป แต่พอถึงขั้นบนสุด ลูน่าก็หยุด “คุณกิบสันมาที่บ้านเมื่อเช้าและฉีกรูปถ่ายกระจุยกระจาย คุณหนูเนลลี่ก็เลยไม่ร่าเริงไปทั้งวัน ถ้าคุณรับมือความสัมพันธ์กับคุณกิบสันไม่ไหว ก็อย่าทำตามคำขอของเนลลี่เลยค่ะ จะได้ไม่มีฝ่ายไหนที่ต้องรู้สึกแย่”โจชัวมองแผ่นหลังของหญิงสาวที่ประจันหน้ากับเขาอยู่ น้ำเสียงที่ชายหนุ่มพูดนั้นเย็นยะเยือกยิ่งกว่าอากาศรอบข้างเสียอีก “นี่เธอพยายามสั่งสอนฉันว่าควรจัดการเรื่องของตัวเองยังไงน่ะเหรอ?”“ก็แค่คำแนะนำค่ะ” เสียงของลูน่าราบเรียบไร้อารมณ์ “ถ้าคุณหนูเนลลี่เศร้าซึมตลอดเวลา ภาระของฉันก็จะเพิ่มขึ้นด้วย”พูดจบ เธอจึงก้าวเท้าขึ้นชั้นบน มีเพียงสายตาหมางเมินที่จ้องกลับมาชายหนุ่มทรุดตัวนั่งลงบนโซฟา ขมวดคิ้วให้กับหญิงสาวที่เดินห่างออกไป...เช้าวันรุ่งขึ้น ออร่าได้รับสายเรียกเข้าจากลูคัสก่อนจะตื่นเสียด้วยซ้ำ“คุณกิบสันครับ ผมอยู่ที่ชั้นล่าง คุณลินช์ให้ผมมารับ ท่านต้องการพบคุณครับ”“พี่โจชัวอยากเจอฉันเหรอ!?” ออร่ากระโดดพรวดจากเตียงนอนด้วยความตื่นเต้น ตลอดหลายปีที่
คิ้วของลูน่าขมวดเข้าหากัน “ทำไมล่ะ?”“ผู้หญิงคนนั้นมีแผนร้าย!” นีลผู้ซึ่งชอบใช้อารมณ์รีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว “แม่ครับ ผมก็บอกไม่ถูกว่ารู้ได้ยังไง แต่ผู้หญิงคนนั้นต้องการทำร้ายเนลลี่แน่นอน อย่าออกไปกับเธอพรุ่งนี้เลยนะครับ!”หญิงสาวถอนหายใจ “นีล เรื่องที่ลูกคิด แม่เองก็คิดเหมือนกัน แต่ลูกต้องรู้ด้วยว่าแม่ทำอะไรไม่ได้ แม่ตัดสินใจแทนเนลลี่ไม่ได้เพราะว่าโจชัวคอยเฝ้าระวังเนลลี่อยู่ตลอด”ถ้าลูน่ากันไม่ให้เนลลี่กับออร่า ‘ผูกมิตร’ กันล่ะก็ โจชัวก็จะยิ่งหวาดระแวงเธอมากกว่าเดิม ตัวเธอนั้นมีกำลังน้อยนิดที่จะช่วยคุ้มครองเนลลี่ได้เพราะสถานะที่เป็นอยู่ในตอนนี้ นั่นคือเหตุผลที่เธอแอบเคืองไม่น้อยในตอนที่นีลส่งเนลลี่ไปหาโจชัวเธอสูดหายใจเข้า “ไม่ต้องห่วงนะ แม่จะปกป้องเนลลี่สุดความสามารถเลย”ไม่ว่าอย่างไร สวนสนุกก็ต้องแน่นขนัดไปด้วยผู้คน แถมในที่โล่งแจ้ง ยังมีทั้งเธอกับบอดี้การ์ดที่โจชัวส่งมาอีก ออร่าไม่มีทางได้ในสิ่งที่ต้องการแน่ “แต่...” นีลรู้ดีว่าแม่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เขาเม้มริมฝีปาก กล่าวด้วยเสียงไม่พอใจ “ผมไม่น่าส่งเนลลี่กลับไปหาโจชัว ลินช์เลย...”เขาแค่อยากให้เนลลี่คอยสืบเรื่องราวต่าง
“คุณแม่คะ! สวยจังเลย!”ขณะที่กำลังนั่งอยู่ในกระเช้าชิงช้าสวรรค์ เนลลี่ก็คุกเข่าลงกับเบาะและมองดูทัศนียภาพโดยรอบของสวนสนุก เธอปรบมืออย่างตื่นตาตื่นใจ “หนูไม่รู้มาก่อนเลยว่าสวนสนุกจะใหญ่ได้ขนาดนี้!”เด็กน้อยซึ่งเพิ่งเคยนั่งชิงช้าสวรรค์เป็นครั้งแรกกระโดดโลดเต้นไปรอบ ๆ อย่างมีความสุข “พอเราขึ้นไปเรื่อย ๆ คนอื่นที่อยู่ในสวนสนุกก็จะตัวจิ๋วกว่ามดซะอีก!”ลูน่าที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ลูบผมลูกสาวเบา ๆ ในใจนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกซึ่งยากจะคาดเดาลูก ๆ ทั้งสามต้องมาตกระกำลำบากอย่างแสนสาหัสไปพร้อมกับเธอ โดยเฉพาะเนลลี่เธอเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายและมีเหตุมีผล ถ้าไม่ได้เกิดมาในครอบครัวนี้เธอคงจะเป็นเจ้าหญิงน้อยที่ใคร ๆ ก็รักใคร่เอ็นดูการมาเที่ยวสวนสนุกครั้งแรกของเธอจะไม่ควรเป็นตอนที่อายุปาเข้าไปหกขวบแล้วและไม่ควรต้องถูกปองร้ายจากคนอย่างออร่าเมื่อลูน่านึกถึงเรื่องนั้น ความเศร้าก็เอ่อขึ้นมาจนปริ่มในลำคอเธอหายใจเข้าลึก ๆ ยกมือขึ้นโอบเนลลี่ไว้ในอ้อมแขนและซบหน้าลงกับลำคอของเด็กหญิง “แม่สัญญาว่าเรื่องนี้จบเมื่อไหร่ แม่จะพาลูกไปเที่ยวให้เยอะที่สุดเท่าที่ลูกอยากไปเลย ดีไหม?”เนลลี่หันหน้ามาทางผู้เป
“งั้นคุณพ่อก็ควรรู้นะครับว่าลูน่าเลี้ยงพวกเขามาหกปี ผมแนะนำว่าคุณพ่อควรดีกับลูน่าให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ อาจจะไม่ยอมรับคุณเป็นคุณปู่ของพวกเขาอีกต่อไปได้”ใบหน้าของเอเดรียนเปลี่ยนเป็นสีม่วงจากมุมนี้ ลูน่าเหลือบมองสีหน้าของเขาด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามแต่ไร้อารมณ์ พร้อมกับยกยิ้มไม่ใส่ใจบนริมฝีปากของเธอ “คุณท่านลินช์ คุณบอกว่าฉันฆ่าเฮลีย์ คุณมีหลักฐานไหม? การตัดสินใจว่ามีคนฆ่าคนอื่นหรือไม่ คุณไม่จำเป็นต้องพูดตามหลักฐานที่มีอยู่หรอกเหรอคะ?” เธอวางข้อเท้าบนเข่า น้ำเสียงของเธอเย็นชาและห่างไกล “เฮลีย์ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากตึก ฉันไปชี้มีดใส่เธอแล้วบังคับให้เธอกระโดดหรือว่าฉันผลักเธอเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนที่เฮลีย์ฆ่าตัวตาย ฉันไปเยี่ยมสามีเก่าของเพื่อนที่โรงพยาบาลกับเพื่อนนะ มีกล้องวงจรปิดที่โถงทางเดินและลิฟต์ในโรงพยาบาลอยู่ ฉันมีหลักฐานชัดเจนสมบูรณ์”เอเดรียนเปล่งเสียงในจมูก “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ก่อนที่เฮลีย์จะกระโดดก็เป็นเพราะเธอ เฮลีย์ถูกบังคับให้ออกจากเมืองซีและย้ายไปอยู่ต่างประเทศ! เฮลีย์เติบโตมากับความมั่งคั่งและความฟุ่มเฟือยด้วยความกรุณาของพระเจ้า และเพราะผู้หญิงเช่นเธอ
“เพียะ!”ก่อนที่ทุกคนจะทันได้โต้ตอบ เสียงตบก็ดังก้องไปทั่วห้องนั่งเล่นศีรษะของลูน่าหันไปด้านข้างจากแรงกระแทก รสหวานราวกับเหล็กของเลือดเต็มปาก และเลือดก็หยดลงมาตามมุมปากของเธอ“คุณแม่!”“คุณแม่…!”เด็กสองคนที่นั่งอยู่ทั้งสองด้านของหญิงชรา กระโดดขึ้นจากโซฟาตามสัญชาตญาณแล้วพุ่งไปหาลูน่าทันทีหนึ่งในนั้นจับมือเธออย่างระมัดระวัง เขาก้าวไปข้างหน้าพยายามปกป้องเธอ ในขณะที่อีกคนหยิบกระดาษทิชชูจากโต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็น แล้วยื่นให้ลูน่าการเห็นเด็กสองคนปกป้องเธอทำให้โจชัวขมวดคิ้ว ข้าง ๆ เขา อลิซส่งเสียงเย้ยหยันอยู่ในอก แต่ภายนอกนั้นเธอกำลังทำสีหน้ากังวล “นีล รีบพาน้องสาวของหนูมานี่เร็วเข้า” จากนั้นเธอก็ชำเลืองมองสุภาพบุรุษตัวน้อยที่กำลังยื่นทิชชู่ให้ลูน่า“นี่เป็นเรื่องระหว่างคุณปู่ของหนูกับน้าลูน่านะ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อย่ายื่นจมูกเข้าไปในที่ที่ไม่เกี่ยวกับเราสิ”นีลจ้องมองเธออย่างเย็นชา จากนั้นก็หันกลับมาดูแลแม่ของพวกเขาพร้อมกับเนลลี่ในทันทีจากนั้น อลิซก็แสดงท่าทีสงบนิ่งอย่างคนมีอารมณ์มั่นคงและพูดว่า “เอเดรียน คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ คุณกำลังทำให้เด็ก ๆ กลัวนะ”เอเดรียนส่งเสียงเย
ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดถึงพวกเขามาก ผ่านไปนานแล้วเหมือนกันหลังจากที่พวกเขาได้เจอกันครั้งสุดท้าย จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงเสนอให้พาทุกคนมารวมตัวกันที่บลูเบย์วิลล่าแต่ดูเหมือนว่า...เขาทำให้ทั้งเด็ก ๆ และลูน่าโกรธเขาได้สำเร็จเท่านั้นหรอกเหรอ?รถขับต่อไปไม่นานรถก็มาจอดหน้าบลูเบย์วิลล่า เมื่อลูน่าก้าวลงจากรถที่ยูริและแซคขนสัมภาระมา อลิซก็ก้าวลงมาเช่นกันขณะยืนอยู่นอกรถของโจชัว รอยยิ้มปลอม ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “ เนลลี่มานี่เร็ว แม่จะอุ้มหนูเข้าบ้าน!”เนลลี่กลอกตา เดินผ่านเธอ และมุ่งหน้าไปที่ประตูด้วยขาที่สั้นและแข็งแรงของเธอในทางกลับกัน นีลกลับรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเธอพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “ถ้าเนลลี่ไม่ต้องการให้คุณอุ้ม ก็อุ้มผมแทนสิครับ! ผมก็ไม่ได้หนักมากเหมือนกัน แค่หนักกว่าเนลลี่นิดหน่อยเอง”อลิซอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนของเธอ สีหน้าของเธอดูน่าเกลียด และก้าวไปข้างหน้าด้วยความพยายามสุด ๆ นีลเอาแขนของเขาคล้องคอเธอตามสะดวก “คุณอลิซ เร็วสิครับ ผมเป็นเด็กน้อยสุดที่รักของคุณไงครับ มันคงจะแย่ถ้าเราล้มกันทั้งคู่แล้วได้รับบาดเจ็บนะ!”สีหน้าของอลิซดูน่าเกลียดและยิ่งน่าเกลียดมากขึ้น
โจชัวเลิกคิ้วเขาไม่คาดคิดเลยว่านี่จะเป็นคำถามแรกที่ลูกชายของเขาถามหลังจากที่แยกจากกันหลายวันเขามองลูกชายของเขาจากหางตา “นายดูไม่เต็มใจที่จะเห็นแม่นายกับฉันคืนดีกันนะ”นีลหยุดนิ่งไป เขาหันไปมองโจชัวอย่างเคร่งขรึมแล้วยกสองนิ้ว“อย่างแรกนะครับ ผมไม่เคยยอมรับคุณอลิซ กิบสันเลย สำหรับผมแล้ว เธอไม่เคยเป็นแม่ของผมเลย แม่ของผมคือลูน่า อย่างที่สอง ความชอบหรือไม่ชอบของผม มันสำคัญสำหรับคุณหรือเปล่าครับ คุณลินช์ ถ้าคุณพิจารณาถึงความคิดและความรู้สึกของเราจริง ๆ คุณก็คงไม่บังคับน้องสาวของผมและผมให้ทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ เช่น การพาเรากลับไปที่บลูเบย์วิลล่าตอนนี้ สุดท้ายนะครับ ผมไม่สนใจคุณและอลิซเลย ผมแค่อยากจะรู้ว่าทำไมท่าทีของคุณที่มีต่อเธอถึงเปลี่ยนไปแบบ 180 องศา หลังจากกลับมาจากเมืองซีก็เท่านั้น”ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาก็ได้แยกทางกันไปแล้ว และยังประกาศว่าพวกเขาจะกำหนดวันเซ็นใบหย่าด้วยซ้ำ แต่ไม่นานหลังจากที่พวกเขาไปถึงเมืองซี พวกเขาก็กลับมาคืนดีและรักกันเหมือนเดิม และเมื่อดูจากภายนอกแล้ว พวกเขาดูยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยโจชัวหรี่ตาลงเล็กน้อย อะไรทำให้ท่าทีของเขาที่มีต่ออลิซเปลี
“คุณแม่คะ! หนูคิดถึงคุณแม่มากเลย!” เนลลี่กล่าวเธอหยิบกุญแจออกมาและทันทีที่เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ เด็กทั้งสองก็รีบวิ่งออกมาราวกับพายุทอร์นาโดลูกเล็กสองลูกนีลและเนลลี่ต่างกอดขาข้างหนึ่งของเธอไว้ และพูดด้วยความตื่นเต้น“คุณแม่ หนูรู้ว่าคุณแม่จะกลับมาในเวลานี้ แต่นีลเอาแต่ยืนกรานว่าแม่จะกลับมาทีหลัง!”“คุณแม่ครับ เมื่อหลายวันที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน ผมขอให้ลิลลี่สอนวิธีชงกาแฟด้วยล่ะ! ผมทำกาแฟอาราบิก้าแก้วโปรดของคุณแม่ด้วย!”“คุณแม่คะ หนูวางแผนไว้หมดแล้ว บ่ายวันนี้คุณแม่จะไปไหนไม่ได้เลยนะ คุณแม่ต้องอยู่บ้าน อ่านนิทานให้หนูฟังและต่อเลโก้กับนีลด้วย!”“แม่…”ลูน่าลดสายตาลงมองดูหัวเล็ก ๆ สีดำสองหัวที่อยู่ตรงหน้าเธอ คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถคายมันออกมาได้ข้างหลังเธอ ลิลลี่ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น มองเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณ ลูน่า พวกเขาตั้งใจหยุดเรียนหนึ่งวันเพื่อรอคุณเลยนะคะ ตั้งแต่เช้านี้พวกเขาตื่นเต้นเป็นพิเศษแล้วก็ตกแต่งบ้านราวกับว่าเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดด้วย”ตอนนั้นเองที่ลูน่าสังเกตเห็นของประดับตกแต่งที่แขวนอยู่ในห้องนั่งเล่น ป้ายหลากสีสันแขวนอยู่ตามผนัง ความค
บรรยากาศในรถเปลี่ยนเป็นเงียบเชียบร่างกายของลูน่าแข็งทื่อไปหมดเธอไม่ได้เจอทั้งนีลและเนลลี่มาหลายวันแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดที่เธอเคยห่างจากพวกเขานับตั้งแต่ที่เธอให้กำเนิดพวกเขามาเมื่อหกปีที่แล้วเธอคิดถึงพวกเขาอย่างสุดซึ้งจากการโทรหาและคุยกับพวกเขาเมื่อเช้านี้และเมื่อวานตอนบ่าย เธอก็รู้ว่าเด็ก ๆ เองก็คิดถึงเธออย่างสุดซึ้งเช่นกันไฟในใจเธอที่ลุกโชนด้วยความตื่นเต้นเมื่อนึกถึงการพบปะกับลูก ๆ ของเธอถูกดับลงอย่างโหดร้ายด้วยคำพูดเย็นชาของอลิซ และได้กลับกลายเป็นความหนาวเย็นจนจับไปถึงขั้วหัวใจอลิซจงใจทำแบบนี้ เธอไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อนีลและเนลลี่ เธอแค่พยายามจะก่อกวนเธอและลูก ๆ ให้อารมณ์เสีย“โจชัวคะ” เมื่อสังเกตเห็นความเงียบอย่างต่อเนื่องของโจชัว อลิซถึงกับร้องเรียกเขาเบา ๆจากนั้นเขาก็กะพริบตาและฟื้นคืนสติของตัวเอง เขากระแอมไอเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองลูน่าจากด้านหลังขณะที่เธอนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร “เราจะทำตามที่อลิซบอก”ไม่ว่ายังไงก็ตาม อลิซยังคงเป็นแม่ของพวกเขา แม้ว่าเธอจะไม่ได้อาศัยอยู่กับเด็กๆ ตลอดหกปีของชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วเลือดก็ข้นกว่าน้ำ นอกจากนี้ อล
วิทยุยังคงเล่นซ้ำข่าวเรื่องที่เกิดกับตระกูลวอลเตอร์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “ก่อนที่การกล่าวหาคุณเดนนิส วอลเตอร์จะถูกหยิบยกมาพูดถึง ทายาทคนเดียวของวอลเตอร์กรุ๊ป เฮลีย์ วอลเตอร์ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไปแล้ว ตอนนี้วอลเตอร์กรุ๊ปกลายเป็นอาณาจักรที่กำลังขาดกษัตริย์และกำลังจะล่มสลาย...”ลูน่าหลับตาลง เธอสงสัยว่าเกว็นจะได้ยินข่าวนี้หรือยัง ถ้าเธอได้ยิน อย่างน้อยเธอก็จะรู้สึกสบายใจเล็กน้อยใช่ไหม?เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะตรวจสอบว่าเกว็นส่งข้อความใหม่ให้เธอหรือไม่ แต่กลับเห็นการอัปเดตสถานะใหม่ที่โพสต์โดยเบ็นแทน'ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของฉันที่สถานีตำรวจ ตระกูลลาร์สัน ระวังตัวไว้! ฉันจะเรียกร้องค่าเสียหาย!'รูปภาพประกอบเป็นแขนที่ได้รับบาดเจ็บและแก้มบวมฉึ่งอันเป็นผลมาจากการทะเลาะกันเมื่อวันก่อนลูน่ารู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาต้องเป็นฝีมือของแซคและยูริ เธอจ้องโทรศัพท์อยู่นาน ในที่สุดเธอก็กดไลค์สองภาพที่เบ็นโพสต์“ลูคัส ปิดวิทยุที” ทันใดนั้นเสียงอันแผ่วเบาอ่อนแอของอลิซก็ดังมาจากเบาะหลัง “ฉันอยากนอนพัก”จากนั้น โจชัวก็มีสีหน้ากังวลขณะพูดว่า “ทำไมหน้าคุณดูซีดจัง ไม่สบายเหรอ?”ลูน
มือของโจชัวที่กำช้อนและส้อมไว้หยุดชะงักไปเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็หัวเราะเบา ๆ “เพราะว่าเธอเคยหย่าและสามีเก่าเธอมันนิสัยไม่ดี เธอก็เลยแอบลักพาตัวนีลกับเนลลี่ไปแล้วเลี้ยงเหมือนเป็นลูกตัวเองเหรอ?”ลูน่ายกแก้วขึ้นแล้วกลืนน้ำอุ่นในปากลงคออย่างแรง จากนั้นเธอจึงมองไปทางโจชัว “คุณจะพูดแบบนั้นก็ได้”โจชัวยกแก้วของเขาขึ้นเช่นกัน “ทำไมเธอถึงไม่มีลูกกับสามีเก่าล่ะ?”“เขาไม่สมควรมีลูก” ลูน่าวางแก้วลงแล้วยกช้อนส้อมเพื่อกินต่อ “เขามีชู้ในตอนที่ฉันต้องการเขามากที่สุด และถึงกับอยากจะฆ่าฉันเพื่อเอาใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำ คุณคิดว่าเขาสมควรมีลูกไหม?”ถ้าตอนนั้นเธอยังไม่ท้อง เธอก็ไม่อยากมีลูกของเขาจริง ๆเขาไม่สมควรได้รับพวกเขาแม้ว่าเธอจะให้กำเนิดพวกเขาแล้ว แต่ลูน่าก็ยังเชื่อเช่นเดิมว่าเด็กทั้งสามคนเป็นของเธอและเป็นของเธอเพียงคนเดียวพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจชัวเมื่อพูดคำเหล่านี้ ดวงตาของเธอก็จับจ้องไปที่โจชัวการจ้องมองของเธอทำให้เขารู้สึกสับสน ราวกับว่าเขาเป็นคนที่ทิ้งและทำร้ายเธอเองเขาขมวดคิ้วและหันหน้าหนีจากเธอ “แล้ว เธอก็ปล่อยเขาไปทั้งอย่างนั้นเหรอ?”ลูน่าคลี่ยิ้มเย็นชา “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปล่อ
“คุณหย่ากับฉันเมื่อเช้านี้ พอตอนบ่าย คุณก็หาแฟนได้ แล้วตอนนี้พอตกกลางคืนคุณก็พาแฟนใหม่ของคุณมาบ้านเก่าของคุณ เบ็น เซลเลอร์ คุณมันไม่คู่ควรกับเวลาที่ฉันตกหลุมรักไปเลย”จากนั้นเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึก และหันกลับไปมองลุคที่กำลังถือไฟแช็กไว้สำหรับเตรียมจุดบุหรี่ให้ตัวเองขณะดูการแสดง “ฉันขอยืมไฟแช็กหน่อยได้ไหม?”ลุคยักไหล่ เขาเดินเข้ามาและก้มลงขณะถือไฟแช็คของเขา เขาฉีกภาพเดี่ยวที่สวยที่สุดของเกว็นออกมา จากนั้นก็จุดไฟเผาภาพถ่ายที่เหลือไปสุดท้ายเขาก็ส่งรูปถ่ายที่เขาฉีกออกมาให้เกว็น “เอาไว้นึกถึง”เกว็นส่ายหน้า “เผาไปเถอะค่ะ”เธอไม่จำเป็นต้องนึกถึงอะไรแบบนี้ลุคยกยิ้มจาง ๆ เขามองไปที่เกว็นด้วยความสนใจเล็กน้อยที่ปรากฏในดวงตาแล้วสอดรูปถ่ายใบนั้นใส่กระเป๋าเสื้อของตัวเองภาพถ่ายทั้งหมดถูกจุดไฟเผาท่ามกลางแสงไฟโหมกระหน่ำ เบ็นหัวเราะอย่างเย็นชา “ถึงคุณจะไม่เผามัน ผมก็จะเป็นคนเผาอยู่ดี”เกว็นหลับตาแน่น แต่ยังคงเงียบเมื่อรูปถ่ายไม่เหลืออะไรนอกจากกลายเป็นกองขี้เถ้า เธอก็จับมือของลูน่าไว้ “ไปกันเถอะ”ลูน่าพยักหน้าและช่วยพยุงเธอนั่งบนที่นั่งโดยมีลุคช่วยอีกแรง ส่วนข้าง ๆ พวกเขา เบ็นพ่นเสียงฮึ เ