บทที่ 18

คิ้วของลูน่าขมวดเข้าหากัน “ทำไมล่ะ?”

“ผู้หญิงคนนั้นมีแผนร้าย!” นีลผู้ซึ่งชอบใช้อารมณ์รีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว “แม่ครับ ผมก็บอกไม่ถูกว่ารู้ได้ยังไง แต่ผู้หญิงคนนั้นต้องการทำร้ายเนลลี่แน่นอน อย่าออกไปกับเธอพรุ่งนี้เลยนะครับ!”

หญิงสาวถอนหายใจ “นีล เรื่องที่ลูกคิด แม่เองก็คิดเหมือนกัน แต่ลูกต้องรู้ด้วยว่าแม่ทำอะไรไม่ได้ แม่ตัดสินใจแทนเนลลี่ไม่ได้เพราะว่าโจชัวคอยเฝ้าระวังเนลลี่อยู่ตลอด”

ถ้าลูน่ากันไม่ให้เนลลี่กับออร่า ‘ผูกมิตร’ กันล่ะก็ โจชัวก็จะยิ่งหวาดระแวงเธอมากกว่าเดิม ตัวเธอนั้นมีกำลังน้อยนิดที่จะช่วยคุ้มครองเนลลี่ได้เพราะสถานะที่เป็นอยู่ในตอนนี้ นั่นคือเหตุผลที่เธอแอบเคืองไม่น้อยในตอนที่นีลส่งเนลลี่ไปหาโจชัว

เธอสูดหายใจเข้า “ไม่ต้องห่วงนะ แม่จะปกป้องเนลลี่สุดความสามารถเลย”

ไม่ว่าอย่างไร สวนสนุกก็ต้องแน่นขนัดไปด้วยผู้คน แถมในที่โล่งแจ้ง ยังมีทั้งเธอกับบอดี้การ์ดที่โจชัวส่งมาอีก ออร่าไม่มีทางได้ในสิ่งที่ต้องการแน่

“แต่...” นีลรู้ดีว่าแม่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เขาเม้มริมฝีปาก กล่าวด้วยเสียงไม่พอใจ “ผมไม่น่าส่งเนลลี่กลับไปหาโจชัว ลินช์เลย...”

เขาแค่อยากให้เนลลี่คอยสืบเรื่องราวต่าง ๆ ให้แม่อย่างลับ ๆ เพื่อให้แม่บรรลุแผนการโดยเร็วที่สุด แต่ก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าออร่าจะพยายามสุดฤทธิ์เพื่อจะทำร้ายเด็กผู้หญิงอายุหกขวบขนาดนี้!

“อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลย” ลูน่าถอนหายใจ “ตอนนี้แม่อยู่ดูแลลูกไม่ได้ ลูกต้องเข้ากับคุณแม่ทูนหัวให้ได้นะ เข้าใจหรือเปล่า?”

“เข้าใจครับ” น้ำเสียงของนีลขุ่นมัว “ผมจะวางแล้วสายนะครับ”

“อีกอย่าง” หญิงสาวขมวดคิ้ว “เป็นเด็กดีนะ อย่าคิดแผนไม่ดีเกี่ยวกับออร่าและโจชัวอีก เข้าใจไหม?”

“ครับผม”

...

รุ่งเช้า ออร่าเดินทางมาถึงบลูเบย์วิลล่า

ด้วยคำสั่งของโจชัว เหล่าบอดี้การ์ดจึงขวางเธอไว้ที่นอกประตู

ขณะยืนอยู่ในสนามหญ้าภายนอกวิลล่า ออร่ายิ้มและตะโกนเรียกชื่อของเนลลี่ “เนลลี่จ๊ะ ออกมาเถอะ!”

“เดี๋ยวน้าจะพาไปทำอะไรสนุก ๆ!”

“เนลลี่!”

ในห้องเด็กที่ชั้นบน เนลลี่นั่งอยู่หน้ากระจกบานเล็กและมองลูน่าหวีผมให้เธอ ริมฝีปากเด็กหญิงเม้มเป็นเส้นตรงด้วยความไม่พอใจ “หนูไม่อยากมีคุณน้าแบบนั้นเลยค่ะ หนูเกลียดเธอ! เกลียดสุด ๆ!”

หนูน้อยยังคงพูดพึมพำ “ทำไมพ่อถึงให้หนูไปเที่ยวกับเธอล่ะคะ? หนูบอกพ่อแล้วว่าหนูไม่ชอบผู้หญิงคนนั้น แต่พ่อก็ยังจะให้หนูไปกับเธออีก!”

มือของลูน่าซึ่งกำลังหวีผมให้เนลลี่ค่อย ๆ หยุด “ออร่าคือคนที่พ่อของลูกชอบและเป็นว่าที่ภรรยาในอนาคตของเขา จำได้ไหมว่าแม่เคยบอกไว้ว่ายังไง? ลูกไม่ควรบอกใครต่อใครว่าลูกเกลียดสิ่งที่คนคนนั้นชอบ รวมถึงคนด้วย”

เนลลี่ทำปากเป็นเส้นตรง ความเศร้าหมองครอบคลุมทั่วใบหน้า “หนูก็แค่ระบายให้ฟังเฉย ๆ ...”

“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป อย่าทำอีกนะลูก”

“ก็ได้ค่ะ” เด็กหญิงตัวน้อยเม้มปากอย่างคับอกคับใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

ในสนามหญ้านอกวิลล่า ออร่ายังคงร้องตะโกนต่อไป “เนลลี่ ได้เวลาต้องไปแล้วนะ!”

ออร่าไม่ใช่ผู้หญิงที่มีน้ำอดน้ำทนเท่าไหร่ซะด้วย

ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง หล่อนสั่งคนรับใช้ให้เข้ามาเร่งทั้งสองมากกว่าสิบรอบขณะที่ตัวเองยังคงแหกปากอยู่ข้างนอก

ด้วยความรำคาญ เนลลี่เลยไม่ทานมื้อเช้าด้วยซ้ำพร้อมกับดึงลูน่าเดินออกมา

“เนลลี่...”

เมื่อลูน่ากับเนลลี่ออกมาแล้ว ออร่าก็ยังคงยืนอยู่ในสนาม สายตาหล่อนมองไปทางห้องเด็กที่ชั้นบน “น้าจะพาหนูไปเที่ยวสวนสนุกนะเนลลี่ เราจะได้สนุกกันสุดเหวี่ยง! ไปกันเถอะจ้ะ!”

“พ่อของหนูกำลังยุ่ง ส่วนแม่ก็ใจฝ่อซะจนไม่กล้ากลับมาที่นี่ ในฐานะที่เป็นน้า น้าจะรับหน้าที่แทนแม่ของหนูและพาหนูออกไปเล่นสนุก ๆ เอง!”

“หยุดตะโกนได้แล้วค่ะ” เนลลี่ยืนอยู่ตรงประตูของวิลล่าด้วยสีหน้าไม่รับแขก “เสียงดังจริง ๆ เลย”

ความเย็นชาส่องประกายผ่านนัยน์ตาของออร่าก่อนจะหายลับไป เธอเดินเข้ามาหาเนลลี่ด้วยแววตาอ่อนโยนพร้อมกับดึงร่างบอบบางของเด็กหญิงเข้ามาไว้ในอ้อมแขน “น้ากลัวว่าหนูจะยังหลับอยู่น่ะ!”

หล่อนมองดูเสื้อผ้ากับหางเปียของเนลลี่ “น่ารักสุด ๆ เลยวันนี้!”

น้ำเสียงของเธอนั้นดูจริงใจ การกระทำก็ดูจริงใจ ขนาดสายตาที่มองมาก็ช่างโอบอ้อมอารี แต่ความอ่อนโยนปลอม ๆ นั่นกลับทำให้เนลลี่ค่อนข้างขนลุก

เนลลี่เหลียวมองลูน่าอย่างช่วยไม่ได้ ผู้เป็นแม่จึงทำได้เพียงส่งยิ้มและโบกมือให้เธอใจเย็น

“ขึ้นรถกันเถอะจ้ะ”

เมื่อสังเกตสีหน้าท่าทางระหว่างเนลลี่กับลูน่าแล้ว ออร่าก็วางเนลลี่ลงตรงเบาะหลังอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่นัก เป็นเวลาเดียวกับที่ลูน่ากำลังก้าวเข้าไปในรถ

“เธอคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์ได้นั่งรถคันนี้เหรอ?” ออร่าตะคอกอย่างเย็นชาแถมยกมือขึ้นกันท่าลูน่าเอาไว้ “เป็นแค่พี่เลี้ยงเด็ก อย่าสำคัญตัวให้มาก! ไปนั่งกับพวกบอดี้การ์ดซะ อย่ามาวุ่นวายตอนที่ฉันกำลังผูกมิตรกับเนลลี่!”

ลูน่าขมวดคิ้ว “เนลลี่ยังไม่ได้กินมื้อเช้าเลยนะคะ และฉันก็เตรียมขนมปังไว้ในกระเป๋าด้วย จะได้ช่วยป้อนอาหารให้เธอได้”

“ฉันก็ทำได้เหมือนกันแหละ!”

ออร่าฉวยกระเป๋าจากมือลูน่าแล้วโยนเข้าไปในรถพร้อมทั้งปิดประตู

“ไปคันอื่น!”

ลูน่าไม่มีทางเลือกนอกจากส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความหมายให้เนลลี่ก่อนจะขึ้นรถคันที่จอดอยู่ด้านหลัง

และการเดินทางก็เริ่มต้นขึ้น

ลูน่านั่งอยู่ระหว่างบอดี้การ์ดจำนวนหนึ่ง จากนั้นจึงหยิบหูฟังขึ้นมาใส่

เธอคาดการณ์ไว้แล้วว่าออร่าจะต้องก่อเรื่องอีกแน่ ดังนั้น หญิงสาวจึงแอบทำการดัดแปลงสร้อยคอที่เนลลี่สวมอยู่

น้ำเสียงมุ่งร้ายของออร่าดังขึ้นมาจากปลายสายของหูฟัง

“เนลลี่จ๊ะ ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าแม่ของหนูอยู่ที่ไหน?”

“เนลลี่ นี่แม่ของหนูสอนให้หนูเกลียดน้าเหรอจ๊ะ”

“แล้วทำไมแม่ถึงไม่กลับมาล่ะ? หรือว่าแม่ส่งหนูมาแทนเพื่อประจบประแจงคุณพ่อแล้วตัวเองจะได้นั่งชักใยอยู่เบื้องหลังเพื่อตักตวงผลประโยชน์ใช่ไหมเอ่ย? น่าสงสารจังเนอะ อายุแค่หกขวบ ต้องถูกแม่ใช้เป็นเครื่องมือแบบนี้…”

เนลลี่ยังคงสะกดกลั้นอารมณ์ไปตลอดเส้นทางไม่ว่าออร่าจะพล่ามอะไรออกมา และไม่นานนัก รถก็ขับมาถึงสวนสนุก

สวนสนุกแน่นขนัดไปด้วยผู้คนในช่วงสุดสัปดาห์ ทว่า ลูน่ากลับรู้สึกเบาใจที่เป็นอย่างนี้มากกว่า

ยิ่งคนเยอะ ก็ยิ่งปลอดภัย

ใบหน้าของออร่าแฝงรอยยิ้มเสแสร้ง เธอเริ่มซื้อตั๋วให้เนลลี่และพาเด็กหญิงไปดูเครื่องเล่นกับการแสดงต่าง ๆ มากมาย แต่เพราะลูน่าห้ามไว้ก่อน เนลลี่จึงปฏิเสธทุกเกมที่มีความเสี่ยงด้วยข้ออ้างที่ว่าเธอกลัว

ออร่าซึ่งไม่สบอารมณ์จึงพูดอะไรไม่ได้นัก

แต่เมื่อทั้งหมดยืนอยู่หน้าชิงช้าสวรรค์ เนลลี่กลับไม่ยอมเดินไปไหนทั้งสิ้น

หนูน้อยเงยหน้าขึ้นมองชิงช้าสวรรค์ด้วยแววตาละห้อย “หนู… ขอขึ้นได้ไหมคะ?”

“ได้จ้ะ!” ร่องรอยแห่งความปีติส่องประกายผ่านดวงตาของออร่า

เธอรีบออกคำสั่งกับบอดี้การ์ดที่อยู่ข้าง ๆ “ไปซื้อตั๋วมาให้เจ้าหญิงน้อยทีสิ เอาสองใบเลยนะ!”

หลังจากบอดี้การ์ดซื้อตั๋วมาแล้ว ออร่าจึงหันมามองลูน่าด้วยรอยยิ้ม “เธอนี่กังวลทุกอย่างมาตั้งแต่เช้าเลยนะ ทำเหมือนกับว่าฉันจะฆ่าเนลลี่อย่างนั้นแหละ”

พูดจบ หญิงสาวก็เปลี่ยนมาอยู่ในอิริยาบถสบาย ๆ และหย่อนกายลงบนเก้าอี้ “ช่วยพาเนลลี่ขึ้นชิงช้าสวรรค์ตอนฉันนั่งพักหน่อยแล้วกัน ไม่งั้น เธอจะมัวแต่หวาดระแวงไปกันใหญ่”

ลูน่าขมวดคิ้ว รู้สึกได้ว่าพฤติกรรมของออร่ามีบางอย่างผิดปกติ ทว่า ก่อนจะได้ทันครุ่นคิด เนลลี่ก็จับมือเธออย่างกระตือรือร้นแล้วรีบวิ่งไปที่ชิงช้าสวรรค์ “คุณน้าคะ เนลลี่อยากนั่งชิงช้าสวรรค์กับคุณน้าทั้งวันเลยค่ะ!”

เด็กหญิงรู้ดีว่าแม่ชอบนั่งชิงช้าสวรรค์มาก ๆ แต่ระหว่างที่อาศัยอยู่เมืองนอกนั้น แม่ก็ยุ่งเกินกว่าจะมีเวลาได้พักผ่อนหย่อนใจ

นี่แหละ โอกาสดี!

หนูน้อยคว้ามือลูน่าด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับวิ่งไปประทับตราตั๋วและขึ้นนั่งประจำที่ “ดีใจจังเลย!”

ลูน่าไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากนั่งลงข้าง ๆ ลูกสาว

ชิงช้าสวรรค์เริ่มหมุน

ออร่าเปลี่ยนมานั่งในท่าที่สบายกว่าเดิม เธอเอนกายพิงเก้าอี้ ปรายตามองผู้คนรอบข้างอย่างเฉยชา “ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือเปล่า?”

“เรียบร้อยครับ”

หญิงสาวยิ้มอย่างมีชัย

ชอบชิงช้าสวรรค์กันนักใช่ไหม? ได้ หล่อนจะช่วยสงเคราะห์ให้พวกมันติดอยู่บนนั้นชั่วกัปชั่วกัลป์!