ลูน่ารีบพลิกตัวเนลลี่แล้วเชยคางเธอขึ้นใบหน้าของลูกสาวซีดเผือดจนแก้มทั้งสองปราศจากร่องรอยการมีชีวิตอยู่ ดวงตาปิดสนิทราวกับกำลังหลับใหลเมื่อลูน่าขยับตัว มือของเด็กหญิงตัวน้อยก็ทิ้งลงข้างกายอย่างไร้เรี่ยวแรง...“เนลลี่? เนลลี่!”ความหวาดกลัวที่อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เข้าเกาะกุมจิตใจของลูน่าขณะกอดร่างเด็กหญิงตัวน้อยเอาไว้ราวกับคนเสียสติ “เนลลี่ ตื่นสิ! พวกเราจะรอดแล้วนะ! เนลลี่”“เกิดอะไรขึ้นกับเนลลี่?” ฝ่ามือใหญ่จับที่ผนังด้านนอกของกระเช้าชิงช้าเอาไว้ตอนที่ลูน่าเกือบจะทรุดตัวลงไปแล้ว โจชัวซึ่งชุ่มไปด้วยคราบเหงื่อคว้าราวเอาไว้แล้วค่อย ๆ เหวี่ยงกายเข้ามาข้างในเขาเหนื่อยมากเสียจนหน้าผากเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ แต่กลับดึงร่างของเนลลี่มาไว้ในอ้อมแขนทันที เสียงทุ้มต่ำเต็มไปด้วยความวิตกกังวลเมื่อเอ่ยถาม “เกิดอะไรขึ้นกับเนลลี่?”ลูน่าเงยหน้าขึ้นมองเขา ความเศร้าและความโกรธประเดประดังเข้ามาเต็มอก“คุณถามฉันว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธองั้นเหรอ?” รอยยิ้มอันแสนเจ็บปวดฉายชัดบนใบหน้า “ถ้าคุณไม่ดึงดันให้เนลลี่กับออร่าผูกมิตรกันล่ะก็ เนลลี่จะเป็นอย่างนี้ไหมล่ะ?”หญิงสาวเหลือบมองเขาแล้วดึงร่างเนลลี่อ
“พี่โจชัว!” ออร่าลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้อย่างตกตะลึง เขาคว้าขอบประตูที่หักอยู่ของตัวกระเช้าไว้ได้ขณะที่เกือบพลัดตกลงไป... เลือดไหลออกจากนิ้วทันทีร่างของชายหนุ่มห้อยอยู่นอกกระเช้าชิงช้า เรียกเสียงหอบหายใจแรงกับเสียงตะโกนลั่นจากผู้คนที่อยู่เบื้องล่างออร่าหันกลับมาที่บอดี้การ์ดอย่างร้อนใจ “สั่งพวกนั้นให้รีบแก้ไขมัน เดี๋ยวนี้เลย!”คนที่ตกลงมาเป็นโจชัวไปได้อย่างไร? ทำไมถึงไม่เป็นนังสารเลวคนใดคนหนึ่งนั่น? เธอก็แค่อยากกำจัดพวกมันให้พ้นทางเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดที่จะทำอันตรายโจชัว!“คุณพ่อคะ!” ในวินาทีชี้เป็นชี้ตาย เนลลี่เอื้อมมือน้อย ๆ ของเธอออกมา หวังจะคว้ามือของผู้เป็นพ่อให้ได้ แต่ก็ถูกลูน่ารั้งไว้เสียก่อน “หนูตัวเล็กเกินไป น้ำหนักตัวของคุณพ่อจะฉุดให้ตกลงไปด้วยกันทั้งหมดนะ”เธอสูดลมหายใจเข้ายาวก่อนจะผูกตัวเนลลี่และรัดเชือกรอบ ๆ ร่างของเด็กหญิงให้แน่นขึ้นอีก จากนั้นก็ค่อย ๆ คลานมาหาโจชัวอย่างระมัดระวังเธอเอื้อมมือมาที่ชายหนุ่ม “จับไว้”โจชัวไม่ขยับเขยื้อนเขาคว้าแผ่นเหล็กของตัวยึดซึ่งมีลักษณะคล้ายที่หนีบขณะพูดจาถากถางหล่อนด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเย็นชา “ไม่อยากฆ่าฉันแล้วหรือไง?”ลูน่าห
ออร่าปรี่เข้ามาหาโจชัวอย่างห่วงใยพร้อมน้ำตานองหน้า เตรียมถลาเข้าสู่อ้อมแขนของชายหนุ่ม ทว่า...มือซ้ายของโจชัวอุ้มเนลลี่อยู่ ส่วนมือขวาก็ประคองลูน่าไว้ ไม่เหลือที่ว่างสำหรับเธอเลยในช่วงเวลานั้นเอง โจชัว ลูน่า เนลลี่ช่างดูเหมือนครอบครัวที่รักใคร่กลมเกลียวกันออร่าหยุดชะงัก ความขมขื่นในแววตาของหญิงสาวแผ่กระจายเหมือนเถาวัลย์ที่แผ่กิ่งก้านสาขาเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์รีบวางตัวลูน่ากับเนลลี่ลงบนเปลหามแล้วนำตัวขึ้นรถฉุกเฉิน“พี่โจชัว คุณทำฉันกลัวแทบตาย!” เมื่อรอให้รถพยาบาลเคลื่อนตัวออกไปแล้ว ออร่าก็เอาหัวเข้ามาซบอกของโจชัว “ฉันร้องไห้แทบแย่! นึกว่าจะไม่ได้เห็นหน้าคุณอีกแล้ว...”โจชัวก้าวถอยหลังนิ่ง ๆ“ท่านครับ!” ลูคัสพรวดพราดเข้ามาด้วยความตกตะลึง ใบหน้านั้นบวมเป่งและมีรอยฟกช้ำ “ท่านเป็นอะไรไหมครับ? ผมนึกว่าเจ้าเด็กแสบจะโกหกซะอีก ที่ไหนได้ เด็กนั่นรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่แล้วยังช่วยชีวิตท่านอีก!”โจชัวเลิกคิ้วขึ้นนิดนึง “เด็กแสบที่ไหน?”ลูคัสรีบเล่าเรื่องราวที่เขาพบเจอในห้องควบคุมให้โจชัวฟัง“เจ้าเด็กน้อยคนนั้นท่าทางจะรุ่นราวคราวเดียวกับคุณหนูเนลลี่ ผมก็นึกว่าจะก่อปัญหาเสียอีก แต่เขากลับ
ที่ปลายสาย นีลนั่งอยู่บนม้านั่งริมถนนขณะสายตาเพ่งมองรถฉุกเฉินที่เคลื่อนตัวออกไป “ยินดีด้วยครับ” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงไร้ชีวิตชีวาถึงแม้ว่าแม่กับเนลลี่จะปลอดภัย แต่เขาก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดีไม่คิดเลยว่าออร่าจะใจร้ายใจดำกับเนลลี่มากขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะเขาละก็ ถ้าเขาไม่ขอร้องเนลลี่ให้กลับไปอยู่กับคนไร้ความรับผิดชอบอย่างโจชัว เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดพอคิดแบบนี้ นีลก็อารมณ์เสียโดยที่ไม่ได้รับรู้ถึงความเศร้าหมองในน้ำเสียงของเด็กชาย ยามทั้งสองยังคงป่าวประกาศข่าวดีอย่างเริงร่า “เป็นเพราะนายเลยนะ เราถึงได้ไปรายงานตัวเข้าทำงานที่ลินช์กรุ๊ปในวันพรุ่งนี้!”“ถ้าวันข้างหน้ามีอะไรให้ช่วย ก็บอกพวกเราได้เลยนะเจ้าหนู!”ทำงานกับลินช์กรุ๊ปงั้นเหรอ? ดวงตาของนีลเป็นประกายเมื่อได้ยินสิ่งนี้ยังไงซะ เขาก็ต้องการใครสักคนที่ทำงานในบริษัทนั้น!...ณ โรงพยาบาลโจชัวผลักประตูห้องคนไข้อย่างแผ่วเบา ลูน่าหันหน้ามามองเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดออกและเผลอทำหน้าบึ้งที่เห็นชายหนุ่มเมื่อเห็นว่าเนลลี่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง หญิงสาวจึงหันมาพร้อมกับยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเองก่อนที่เธอจะลุกและเดินออกไปจากห้อ
แผ่นหลังของลูน่ากระแทกเข้ากับผนังหนาอันเย็นเฉียบ หญิงสาวถึงกับนิ่วหน้าเพราะแรงปะทะนั่นโจชัวบีบคอเธอขณะที่แววตาวาวโรจน์เยือกเย็น “เธอมันก็แค่คนใช้ที่ดูแลเนลลี่เพื่อหวังจะประจบฉัน นี่เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร?”“ฉันซาบซึ้งมากสำหรับสิ่งที่เธอทำในวันนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะมีสิทธิ์แสดงความเห็นเรื่องระหว่างฉันกับภรรยเก่าของฉัน ในโลกนี้ ไม่มีใครพูดกับฉันอย่างนี้ได้ นอกจากแม่แท้ ๆ ของเนลลี่เท่านั้น!”มือที่กำอยู่รอบลำคอของเธอรัดแน่นขึ้นไปอีก ใบหน้าของลูน่าเปลี่ยนเป็นสีม่วงเพราะขาดอากาศนาทีต่อมา เมื่อเธอใกล้หมดสติ ชายหนุ่มถึงได้ปล่อยมือ “จำเอาไว้!”“แค่ก แค่ก...”เมื่อได้สูดลมหายใจบริสุทธิ์ ลูน่าก็ถึงกับล้มลงไปกองกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรงพลางจับรอบลำคอของตนและไอออกมา “โอ้ เกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย?” น้ำเสียงเฉื่อยชาของออร่าดังขึ้นตรงทางเดิน ลูน่าเงยหน้าขึ้นทันทีตรงหน้าเธอคือออร่าในชุดเดรสสีแดง ขณะที่เรียวเท้างามเหยียบอยู่บนส้นสูงความยาว 7 เซนติเมตร หล่อนมองลงมาที่ร่างของลูน่าบนพื้นอย่างจองหอง “ว่าแล้ว สวยแต่รูปจูบไม่หอม เธอจงใจจัดฉากสร้างสถานการณ์ เล่นละครตบตาเป็นผู้ช่วยชีวิตเพราะอยาก
ท่องไว้ลูน่า เธอต้องใจเย็น!หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกและเงยหน้ามองโจชัว เธอเอ่ยตอบด้วยเสียงสั่นเครือเล็กน้อย “หากฉันบอกว่าฉันสืบหาอันตรายที่เกิดขึ้นที่สวนสนุกเมื่อวานนี้ เพราะกลัวว่าอาจมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับคุณหนู คุณจะเชื่อฉันไหม?”ออร่ายิ้มเยาะ “แล้วเบอร์พวกนั้นล่ะ?”ลูน่าขบฟันข่มความโกรธเกลียดที่กำลังปะทุอยู่ในอก “เบอร์นั่น... เป็นเบอร์ของเพื่อนฉัน เขารู้ว่าฉันกำลังไปที่สวนสนุก เขาจะดูแลฉันได้หากมีอะไรเกิดขึ้น”เธอมองโจชัวและพยายามปั้นน้ำเสียงให้จริงใจที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย “โทรหาเพื่อนของเธอ ฉันจะคุยกับเขาเอง”“เขาไม่เกี่ยว” ริมฝีปากบางสั่นระริก “ฉันจะไม่ยอมถูกใส่ร้ายหรอกนะ อีกอย่างเพื่อนของฉันไม่จำเป็นต้องอธิบายเรื่องนี้แทน”เปลือกตาสวยปิดลงพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ทุกอย่างที่ฉันทำวันนี้ ไม่ว่ามันจะถูกจัดฉากหรือเพียงเพื่อให้ใครพอใจ ฉันคิดว่าคุณลินช์คงรู้ดีกว่าฉันนะคะ”“ในสายตาของฉันคุณหนูสำคัญกว่าคุณ”คำพูดของเธอทำให้ชายหนุ่มไม่พอใจ แต่ภาพของหญิงสาวบนชิงช้าสวรรค์ที่ผลักเขาออกด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองก็พลันฉายแวบเข้ามาในหัวตอนนั้นเธอเข้าใจผิ
ใบหน้าของออร่าแทบสิ้นสีเธอแค่ต้องการหาหลักฐานสักอย่างมามัดตัวลูน่าให้รับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ดันลืมไปว่าที่บลูเบย์วิลล่าไม่ได้มีเพียงสัญญาณของลูน่า แต่มันมีสัญญาณของโจชัวด้วย!“ใช่เลย” ลูน่าพิงหลังกับกำแพงขณะที่ถ้อยคำเหน็บแนมค่อย ๆ พ่นออกมาจากมุมปากสวย “ถึงแม้ว่าสัญญาณโทรศัพท์ของคุณลินช์มันจะถูกเข้ารหัส แต่หากหนึ่งในสองของสัญญาณยังมีอยู่ คุณก็แค่คอยติดตามมัน ส่วนข้อมูลนั่นก็บังเอิญเสียจริงที่มันรั่วไหลออกไป… ความสูญเสียที่ตามมาก็อาจมีมูลค่าหลายร้อยล้านเลย”หญิงสาวหน้าซีดเผือดทันที“พี่โจชัว ฉัน... ฉันไม่มีทางที่จะขายข้อมูลของคุณเด็ดขาด! ฉันแค่... แค่กังวลมากเกินไป ฉันแค่ต้องการหาหลักฐานของแผนการของลูน่า ก็เลย...” เมื่อเห็นท่าทีวิตกของออร่า ริมฝีปากบางของลูน่าก็ยกยิ้มเยาะ ขณะที่เธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เสียงเล็ก ๆ ของเนลลี่ก็ลอยออกมาจากห้องคนไข้“คุณน้าคะ...”ทันทีที่ลูกสาวเรียก ลูน่าก็ละทิ้งทุกอย่างและผลักประตูเข้าไปในห้องคนไข้ตรงทางเดินจึงเหลือเพียงโจชัวและออร่า“พี่โจชัวคะ...” ออร่าโอดครวญพลางมุ่ยหน้าพยายามทำตัวไม่ให้น่าสงสัย “ฉันผิดเอง...”“มันยังไม่ใช่เวลาที่จะมาข
ขณะที่เธอเอนกายนอนลงบนเตียงสีชมพูเล็ก ๆ เนลลี่กะพริบตาและจ้องมองผู้เป็นพ่อ “คุณพ่ออยู่กับหนูนานเกินไปแล้วนะ เรียกคุณน้ามาเล่านิทานให้หนูฟังก็พอแล้วค่ะ!”โจชัวหยิบหนังสือนิทานออกมา “พ่อก็เล่านิทานได้นะ”เด็กน้อยตะลึง“คุณพ่อโกหก! หนูเคยฟังคุณพ่อเล่านิทานมาก่อน!” เด็กน้อยยื่นมือออกไปเขย่าแขนเสื้อของชายหนุ่ม “หนูอยากฟังนิทานจากคุณน้า คุณพ่อคะ ตามคุณน้ามาให้หน่อยนะคะ...”หลังจากที่เธอร้องขอเขาอีกครั้ง สุดท้ายโจชัวก็ยอมเดินออกไปอย่างผิดหวังสุด ๆลูน่ายืนอยู่ตรงโถงทางเดินนอกประตูกำลังรอให้โจชัวออกมาจากห้องของเนลลี่ชายหนุ่มเปิดประตูออกมาและมองลูน่าด้วยสีหน้าไม่พอใจก่อนที่เขาจะก้าวเท้าเดินออกไปลูน่าส่ายหัวเหนื่อยใจก่อนที่เธอจะเปิดประตูเข้าไปในห้อง“คุณแม่” เนลลี่โผซบผู้เป็นแม่ก่อนเสียงเล็ก ๆ จะเอ่ยอย่างแผ่วเบา “วันนี้คุณพ่ออ่อนโยนเป็นพิเศษใช่ไหมล่ะคะ? เหมือนเขากลัวที่จะสูญเสียพวกเราไปเลยค่ะ”“สิ่งเดียวที่เขากลัวจะเสียไปคือลูกต่างหาก” ลูน่าค่อย ๆ วางเด็กหญิงตัวน้อยกลับลงไปบนเตียงและดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้อย่างอ่อนโยน “แม่หมดความรู้สึกกับเขาไปนานแล้ว เหตุผลเดียวที่ทำให้แม่ยังอยู่กับเขาค
“งั้นคุณพ่อก็ควรรู้นะครับว่าลูน่าเลี้ยงพวกเขามาหกปี ผมแนะนำว่าคุณพ่อควรดีกับลูน่าให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ อาจจะไม่ยอมรับคุณเป็นคุณปู่ของพวกเขาอีกต่อไปได้”ใบหน้าของเอเดรียนเปลี่ยนเป็นสีม่วงจากมุมนี้ ลูน่าเหลือบมองสีหน้าของเขาด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามแต่ไร้อารมณ์ พร้อมกับยกยิ้มไม่ใส่ใจบนริมฝีปากของเธอ “คุณท่านลินช์ คุณบอกว่าฉันฆ่าเฮลีย์ คุณมีหลักฐานไหม? การตัดสินใจว่ามีคนฆ่าคนอื่นหรือไม่ คุณไม่จำเป็นต้องพูดตามหลักฐานที่มีอยู่หรอกเหรอคะ?” เธอวางข้อเท้าบนเข่า น้ำเสียงของเธอเย็นชาและห่างไกล “เฮลีย์ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากตึก ฉันไปชี้มีดใส่เธอแล้วบังคับให้เธอกระโดดหรือว่าฉันผลักเธอเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนที่เฮลีย์ฆ่าตัวตาย ฉันไปเยี่ยมสามีเก่าของเพื่อนที่โรงพยาบาลกับเพื่อนนะ มีกล้องวงจรปิดที่โถงทางเดินและลิฟต์ในโรงพยาบาลอยู่ ฉันมีหลักฐานชัดเจนสมบูรณ์”เอเดรียนเปล่งเสียงในจมูก “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ก่อนที่เฮลีย์จะกระโดดก็เป็นเพราะเธอ เฮลีย์ถูกบังคับให้ออกจากเมืองซีและย้ายไปอยู่ต่างประเทศ! เฮลีย์เติบโตมากับความมั่งคั่งและความฟุ่มเฟือยด้วยความกรุณาของพระเจ้า และเพราะผู้หญิงเช่นเธอ
“เพียะ!”ก่อนที่ทุกคนจะทันได้โต้ตอบ เสียงตบก็ดังก้องไปทั่วห้องนั่งเล่นศีรษะของลูน่าหันไปด้านข้างจากแรงกระแทก รสหวานราวกับเหล็กของเลือดเต็มปาก และเลือดก็หยดลงมาตามมุมปากของเธอ“คุณแม่!”“คุณแม่…!”เด็กสองคนที่นั่งอยู่ทั้งสองด้านของหญิงชรา กระโดดขึ้นจากโซฟาตามสัญชาตญาณแล้วพุ่งไปหาลูน่าทันทีหนึ่งในนั้นจับมือเธออย่างระมัดระวัง เขาก้าวไปข้างหน้าพยายามปกป้องเธอ ในขณะที่อีกคนหยิบกระดาษทิชชูจากโต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็น แล้วยื่นให้ลูน่าการเห็นเด็กสองคนปกป้องเธอทำให้โจชัวขมวดคิ้ว ข้าง ๆ เขา อลิซส่งเสียงเย้ยหยันอยู่ในอก แต่ภายนอกนั้นเธอกำลังทำสีหน้ากังวล “นีล รีบพาน้องสาวของหนูมานี่เร็วเข้า” จากนั้นเธอก็ชำเลืองมองสุภาพบุรุษตัวน้อยที่กำลังยื่นทิชชู่ให้ลูน่า“นี่เป็นเรื่องระหว่างคุณปู่ของหนูกับน้าลูน่านะ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อย่ายื่นจมูกเข้าไปในที่ที่ไม่เกี่ยวกับเราสิ”นีลจ้องมองเธออย่างเย็นชา จากนั้นก็หันกลับมาดูแลแม่ของพวกเขาพร้อมกับเนลลี่ในทันทีจากนั้น อลิซก็แสดงท่าทีสงบนิ่งอย่างคนมีอารมณ์มั่นคงและพูดว่า “เอเดรียน คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ คุณกำลังทำให้เด็ก ๆ กลัวนะ”เอเดรียนส่งเสียงเย
ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดถึงพวกเขามาก ผ่านไปนานแล้วเหมือนกันหลังจากที่พวกเขาได้เจอกันครั้งสุดท้าย จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงเสนอให้พาทุกคนมารวมตัวกันที่บลูเบย์วิลล่าแต่ดูเหมือนว่า...เขาทำให้ทั้งเด็ก ๆ และลูน่าโกรธเขาได้สำเร็จเท่านั้นหรอกเหรอ?รถขับต่อไปไม่นานรถก็มาจอดหน้าบลูเบย์วิลล่า เมื่อลูน่าก้าวลงจากรถที่ยูริและแซคขนสัมภาระมา อลิซก็ก้าวลงมาเช่นกันขณะยืนอยู่นอกรถของโจชัว รอยยิ้มปลอม ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “ เนลลี่มานี่เร็ว แม่จะอุ้มหนูเข้าบ้าน!”เนลลี่กลอกตา เดินผ่านเธอ และมุ่งหน้าไปที่ประตูด้วยขาที่สั้นและแข็งแรงของเธอในทางกลับกัน นีลกลับรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเธอพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “ถ้าเนลลี่ไม่ต้องการให้คุณอุ้ม ก็อุ้มผมแทนสิครับ! ผมก็ไม่ได้หนักมากเหมือนกัน แค่หนักกว่าเนลลี่นิดหน่อยเอง”อลิซอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนของเธอ สีหน้าของเธอดูน่าเกลียด และก้าวไปข้างหน้าด้วยความพยายามสุด ๆ นีลเอาแขนของเขาคล้องคอเธอตามสะดวก “คุณอลิซ เร็วสิครับ ผมเป็นเด็กน้อยสุดที่รักของคุณไงครับ มันคงจะแย่ถ้าเราล้มกันทั้งคู่แล้วได้รับบาดเจ็บนะ!”สีหน้าของอลิซดูน่าเกลียดและยิ่งน่าเกลียดมากขึ้น
โจชัวเลิกคิ้วเขาไม่คาดคิดเลยว่านี่จะเป็นคำถามแรกที่ลูกชายของเขาถามหลังจากที่แยกจากกันหลายวันเขามองลูกชายของเขาจากหางตา “นายดูไม่เต็มใจที่จะเห็นแม่นายกับฉันคืนดีกันนะ”นีลหยุดนิ่งไป เขาหันไปมองโจชัวอย่างเคร่งขรึมแล้วยกสองนิ้ว“อย่างแรกนะครับ ผมไม่เคยยอมรับคุณอลิซ กิบสันเลย สำหรับผมแล้ว เธอไม่เคยเป็นแม่ของผมเลย แม่ของผมคือลูน่า อย่างที่สอง ความชอบหรือไม่ชอบของผม มันสำคัญสำหรับคุณหรือเปล่าครับ คุณลินช์ ถ้าคุณพิจารณาถึงความคิดและความรู้สึกของเราจริง ๆ คุณก็คงไม่บังคับน้องสาวของผมและผมให้ทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ เช่น การพาเรากลับไปที่บลูเบย์วิลล่าตอนนี้ สุดท้ายนะครับ ผมไม่สนใจคุณและอลิซเลย ผมแค่อยากจะรู้ว่าทำไมท่าทีของคุณที่มีต่อเธอถึงเปลี่ยนไปแบบ 180 องศา หลังจากกลับมาจากเมืองซีก็เท่านั้น”ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาก็ได้แยกทางกันไปแล้ว และยังประกาศว่าพวกเขาจะกำหนดวันเซ็นใบหย่าด้วยซ้ำ แต่ไม่นานหลังจากที่พวกเขาไปถึงเมืองซี พวกเขาก็กลับมาคืนดีและรักกันเหมือนเดิม และเมื่อดูจากภายนอกแล้ว พวกเขาดูยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยโจชัวหรี่ตาลงเล็กน้อย อะไรทำให้ท่าทีของเขาที่มีต่ออลิซเปลี
“คุณแม่คะ! หนูคิดถึงคุณแม่มากเลย!” เนลลี่กล่าวเธอหยิบกุญแจออกมาและทันทีที่เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ เด็กทั้งสองก็รีบวิ่งออกมาราวกับพายุทอร์นาโดลูกเล็กสองลูกนีลและเนลลี่ต่างกอดขาข้างหนึ่งของเธอไว้ และพูดด้วยความตื่นเต้น“คุณแม่ หนูรู้ว่าคุณแม่จะกลับมาในเวลานี้ แต่นีลเอาแต่ยืนกรานว่าแม่จะกลับมาทีหลัง!”“คุณแม่ครับ เมื่อหลายวันที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน ผมขอให้ลิลลี่สอนวิธีชงกาแฟด้วยล่ะ! ผมทำกาแฟอาราบิก้าแก้วโปรดของคุณแม่ด้วย!”“คุณแม่คะ หนูวางแผนไว้หมดแล้ว บ่ายวันนี้คุณแม่จะไปไหนไม่ได้เลยนะ คุณแม่ต้องอยู่บ้าน อ่านนิทานให้หนูฟังและต่อเลโก้กับนีลด้วย!”“แม่…”ลูน่าลดสายตาลงมองดูหัวเล็ก ๆ สีดำสองหัวที่อยู่ตรงหน้าเธอ คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถคายมันออกมาได้ข้างหลังเธอ ลิลลี่ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น มองเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณ ลูน่า พวกเขาตั้งใจหยุดเรียนหนึ่งวันเพื่อรอคุณเลยนะคะ ตั้งแต่เช้านี้พวกเขาตื่นเต้นเป็นพิเศษแล้วก็ตกแต่งบ้านราวกับว่าเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดด้วย”ตอนนั้นเองที่ลูน่าสังเกตเห็นของประดับตกแต่งที่แขวนอยู่ในห้องนั่งเล่น ป้ายหลากสีสันแขวนอยู่ตามผนัง ความค
บรรยากาศในรถเปลี่ยนเป็นเงียบเชียบร่างกายของลูน่าแข็งทื่อไปหมดเธอไม่ได้เจอทั้งนีลและเนลลี่มาหลายวันแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดที่เธอเคยห่างจากพวกเขานับตั้งแต่ที่เธอให้กำเนิดพวกเขามาเมื่อหกปีที่แล้วเธอคิดถึงพวกเขาอย่างสุดซึ้งจากการโทรหาและคุยกับพวกเขาเมื่อเช้านี้และเมื่อวานตอนบ่าย เธอก็รู้ว่าเด็ก ๆ เองก็คิดถึงเธออย่างสุดซึ้งเช่นกันไฟในใจเธอที่ลุกโชนด้วยความตื่นเต้นเมื่อนึกถึงการพบปะกับลูก ๆ ของเธอถูกดับลงอย่างโหดร้ายด้วยคำพูดเย็นชาของอลิซ และได้กลับกลายเป็นความหนาวเย็นจนจับไปถึงขั้วหัวใจอลิซจงใจทำแบบนี้ เธอไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อนีลและเนลลี่ เธอแค่พยายามจะก่อกวนเธอและลูก ๆ ให้อารมณ์เสีย“โจชัวคะ” เมื่อสังเกตเห็นความเงียบอย่างต่อเนื่องของโจชัว อลิซถึงกับร้องเรียกเขาเบา ๆจากนั้นเขาก็กะพริบตาและฟื้นคืนสติของตัวเอง เขากระแอมไอเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองลูน่าจากด้านหลังขณะที่เธอนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร “เราจะทำตามที่อลิซบอก”ไม่ว่ายังไงก็ตาม อลิซยังคงเป็นแม่ของพวกเขา แม้ว่าเธอจะไม่ได้อาศัยอยู่กับเด็กๆ ตลอดหกปีของชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วเลือดก็ข้นกว่าน้ำ นอกจากนี้ อล
วิทยุยังคงเล่นซ้ำข่าวเรื่องที่เกิดกับตระกูลวอลเตอร์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “ก่อนที่การกล่าวหาคุณเดนนิส วอลเตอร์จะถูกหยิบยกมาพูดถึง ทายาทคนเดียวของวอลเตอร์กรุ๊ป เฮลีย์ วอลเตอร์ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไปแล้ว ตอนนี้วอลเตอร์กรุ๊ปกลายเป็นอาณาจักรที่กำลังขาดกษัตริย์และกำลังจะล่มสลาย...”ลูน่าหลับตาลง เธอสงสัยว่าเกว็นจะได้ยินข่าวนี้หรือยัง ถ้าเธอได้ยิน อย่างน้อยเธอก็จะรู้สึกสบายใจเล็กน้อยใช่ไหม?เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะตรวจสอบว่าเกว็นส่งข้อความใหม่ให้เธอหรือไม่ แต่กลับเห็นการอัปเดตสถานะใหม่ที่โพสต์โดยเบ็นแทน'ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของฉันที่สถานีตำรวจ ตระกูลลาร์สัน ระวังตัวไว้! ฉันจะเรียกร้องค่าเสียหาย!'รูปภาพประกอบเป็นแขนที่ได้รับบาดเจ็บและแก้มบวมฉึ่งอันเป็นผลมาจากการทะเลาะกันเมื่อวันก่อนลูน่ารู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาต้องเป็นฝีมือของแซคและยูริ เธอจ้องโทรศัพท์อยู่นาน ในที่สุดเธอก็กดไลค์สองภาพที่เบ็นโพสต์“ลูคัส ปิดวิทยุที” ทันใดนั้นเสียงอันแผ่วเบาอ่อนแอของอลิซก็ดังมาจากเบาะหลัง “ฉันอยากนอนพัก”จากนั้น โจชัวก็มีสีหน้ากังวลขณะพูดว่า “ทำไมหน้าคุณดูซีดจัง ไม่สบายเหรอ?”ลูน
มือของโจชัวที่กำช้อนและส้อมไว้หยุดชะงักไปเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็หัวเราะเบา ๆ “เพราะว่าเธอเคยหย่าและสามีเก่าเธอมันนิสัยไม่ดี เธอก็เลยแอบลักพาตัวนีลกับเนลลี่ไปแล้วเลี้ยงเหมือนเป็นลูกตัวเองเหรอ?”ลูน่ายกแก้วขึ้นแล้วกลืนน้ำอุ่นในปากลงคออย่างแรง จากนั้นเธอจึงมองไปทางโจชัว “คุณจะพูดแบบนั้นก็ได้”โจชัวยกแก้วของเขาขึ้นเช่นกัน “ทำไมเธอถึงไม่มีลูกกับสามีเก่าล่ะ?”“เขาไม่สมควรมีลูก” ลูน่าวางแก้วลงแล้วยกช้อนส้อมเพื่อกินต่อ “เขามีชู้ในตอนที่ฉันต้องการเขามากที่สุด และถึงกับอยากจะฆ่าฉันเพื่อเอาใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำ คุณคิดว่าเขาสมควรมีลูกไหม?”ถ้าตอนนั้นเธอยังไม่ท้อง เธอก็ไม่อยากมีลูกของเขาจริง ๆเขาไม่สมควรได้รับพวกเขาแม้ว่าเธอจะให้กำเนิดพวกเขาแล้ว แต่ลูน่าก็ยังเชื่อเช่นเดิมว่าเด็กทั้งสามคนเป็นของเธอและเป็นของเธอเพียงคนเดียวพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจชัวเมื่อพูดคำเหล่านี้ ดวงตาของเธอก็จับจ้องไปที่โจชัวการจ้องมองของเธอทำให้เขารู้สึกสับสน ราวกับว่าเขาเป็นคนที่ทิ้งและทำร้ายเธอเองเขาขมวดคิ้วและหันหน้าหนีจากเธอ “แล้ว เธอก็ปล่อยเขาไปทั้งอย่างนั้นเหรอ?”ลูน่าคลี่ยิ้มเย็นชา “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปล่อ
“คุณหย่ากับฉันเมื่อเช้านี้ พอตอนบ่าย คุณก็หาแฟนได้ แล้วตอนนี้พอตกกลางคืนคุณก็พาแฟนใหม่ของคุณมาบ้านเก่าของคุณ เบ็น เซลเลอร์ คุณมันไม่คู่ควรกับเวลาที่ฉันตกหลุมรักไปเลย”จากนั้นเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึก และหันกลับไปมองลุคที่กำลังถือไฟแช็กไว้สำหรับเตรียมจุดบุหรี่ให้ตัวเองขณะดูการแสดง “ฉันขอยืมไฟแช็กหน่อยได้ไหม?”ลุคยักไหล่ เขาเดินเข้ามาและก้มลงขณะถือไฟแช็คของเขา เขาฉีกภาพเดี่ยวที่สวยที่สุดของเกว็นออกมา จากนั้นก็จุดไฟเผาภาพถ่ายที่เหลือไปสุดท้ายเขาก็ส่งรูปถ่ายที่เขาฉีกออกมาให้เกว็น “เอาไว้นึกถึง”เกว็นส่ายหน้า “เผาไปเถอะค่ะ”เธอไม่จำเป็นต้องนึกถึงอะไรแบบนี้ลุคยกยิ้มจาง ๆ เขามองไปที่เกว็นด้วยความสนใจเล็กน้อยที่ปรากฏในดวงตาแล้วสอดรูปถ่ายใบนั้นใส่กระเป๋าเสื้อของตัวเองภาพถ่ายทั้งหมดถูกจุดไฟเผาท่ามกลางแสงไฟโหมกระหน่ำ เบ็นหัวเราะอย่างเย็นชา “ถึงคุณจะไม่เผามัน ผมก็จะเป็นคนเผาอยู่ดี”เกว็นหลับตาแน่น แต่ยังคงเงียบเมื่อรูปถ่ายไม่เหลืออะไรนอกจากกลายเป็นกองขี้เถ้า เธอก็จับมือของลูน่าไว้ “ไปกันเถอะ”ลูน่าพยักหน้าและช่วยพยุงเธอนั่งบนที่นั่งโดยมีลุคช่วยอีกแรง ส่วนข้าง ๆ พวกเขา เบ็นพ่นเสียงฮึ เ