“งั้นคุณพ่อก็ควรรู้นะครับว่าลูน่าเลี้ยงพวกเขามาหกปี ผมแนะนำว่าคุณพ่อควรดีกับลูน่าให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ อาจจะไม่ยอมรับคุณเป็นคุณปู่ของพวกเขาอีกต่อไปได้”ใบหน้าของเอเดรียนเปลี่ยนเป็นสีม่วงจากมุมนี้ ลูน่าเหลือบมองสีหน้าของเขาด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามแต่ไร้อารมณ์ พร้อมกับยกยิ้มไม่ใส่ใจบนริมฝีปากของเธอ “คุณท่านลินช์ คุณบอกว่าฉันฆ่าเฮลีย์ คุณมีหลักฐานไหม? การตัดสินใจว่ามีคนฆ่าคนอื่นหรือไม่ คุณไม่จำเป็นต้องพูดตามหลักฐานที่มีอยู่หรอกเหรอคะ?” เธอวางข้อเท้าบนเข่า น้ำเสียงของเธอเย็นชาและห่างไกล “เฮลีย์ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากตึก ฉันไปชี้มีดใส่เธอแล้วบังคับให้เธอกระโดดหรือว่าฉันผลักเธอเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนที่เฮลีย์ฆ่าตัวตาย ฉันไปเยี่ยมสามีเก่าของเพื่อนที่โรงพยาบาลกับเพื่อนนะ มีกล้องวงจรปิดที่โถงทางเดินและลิฟต์ในโรงพยาบาลอยู่ ฉันมีหลักฐานชัดเจนสมบูรณ์”เอเดรียนเปล่งเสียงในจมูก “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ก่อนที่เฮลีย์จะกระโดดก็เป็นเพราะเธอ เฮลีย์ถูกบังคับให้ออกจากเมืองซีและย้ายไปอยู่ต่างประเทศ! เฮลีย์เติบโตมากับความมั่งคั่งและความฟุ่มเฟือยด้วยความกรุณาของพระเจ้า และเพราะผู้หญิงเช่นเธอ
ลูน่า กิบสันกำลังตั้งครรภ์เธอกลับบ้านอย่างมีความสุขพร้อมกับผลการตรวจในมือพลางครุ่นคิดว่าจะแจ้งข่าวนี้แก่ โจชัว ลินช์ สามีของเธอให้เซอร์ไพรส์ที่สุดอย่างไรดี เขาเดินทางไปต่างประเทศเพื่อทำธุรกิจนานกว่าครึ่งเดือนแล้ว และในที่สุดเขาก็จะกลับบ้านมาในวันพรุ่งนี้อย่างไรก็ตาม เมื่อลูน่ากลับถึงบ้าน เธอก็สังเกตเห็นรองเท้าผู้หญิงคู่หนึ่งที่ไม่ใช่ของตัวเอง เธอขมวดคิ้วเธอจำได้ว่ามันเป็นของน้องสาวเธอ ออร่า กิบสัน และออร่าเพิ่งจะซื้อมันเมื่อไม่นานมานี้ออร่าไม่ได้เดินทางไปทำธุรกิจกับโจชัวหรอกเหรอ?ตอนนั้นเองที่ลูน่าได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากชั้นบนเสียงนั้น… เป็นเสียงของน้องสาวเธอ เสียงของออร่า! ลูน่ากัดริมฝีปากในขณะที่ร่างกายของเธอสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ จะเป็นผู้ชายคนไหนไปได้อีก ถ้าไม่ใช่สามีของเธอ?เธอก้าวเท้าและเดินขึ้นไปชั้นบนตามสัญชาตญาณ ยิ่งเธอเข้าใกล้มากเท่าไหร่ เสียงของชายหญิงที่เล็ดลอดออกมาจากห้องนอนก็ยิ่งดังขึ้นมากเท่านั้น“เมื่อเธอกลับมา เราควรจะทำยังไงกันดี?” เมื่อเทียบกับน้ำเสียงที่ฟังดูตื่นเต้นและแสร้งทำเป็นนุ่มนวลของออร่า เสียงของโจชัวกลับฟังดูเย็นชาและนิ่งเฉยเป็
ลูน่ารู้สึกปวดใจเมื่อลูกชายคนโตของเธอถูกกล่าวถึงเธอยิ้มอย่างขมขื่น “เขามีคนคอยดูแลอยู่ที่นั่น เพราะคราวนี้เราอาจจะกลับมาอยู่ที่นี่นานหน่อย” เนื่องจากเธอมีปัญหาบางอย่างที่ต้องสะสางเมื่อหกปีที่แล้ว โจชัวและออร่าได้ร่วมมือกันพยายามฆ่าเธอในขณะที่เธอตั้งท้องได้สามเดือน หลังจากที่การเสียชีวิตของเธอถูกประกาศให้สาธารณชนได้รับรู้ ออร่าก็ยังได้ปลอมจดหมายลาตายของลูน่าขึ้นมาอย่างไร้ยางอาย เพื่อสร้างสถานการณ์ให้ดูเหมือนว่าเธอได้จบชีวิตของตัวเองลงเหตุผลในการฆ่าตัวตายเป็นเพราะว่าเธอทรยศต่อโจชัวและรู้สึกผิดไร้สาระสิ้นดี คนทรยศตัวจริงได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ในขณะที่เธอต้องแบกรับคำตราหน้าว่าเป็นคนหลายใจแม้กระทั่งตายไปแล้ว เธอจะทำให้พวกเขาชดใช้สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาได้ทำกับเธอเอาไว้ด้วยเลือดของพวกเขา!แน่นอนว่าในตอนนั้น มีร่างของไนเจลอยู่ด้วย...ลูน่าถอนหายใจเฮือกใหญ่ในขณะที่เธอหันไปหาแอนน์ “เรื่องงานที่ฉันขอให้เธอช่วยดูให้เป็นยังไงบ้าง?”แอนน์ดูกระอักกระอ่วนเล็กน้อย “ฉันให้คนไปสอบถามมาแล้ว แต่ตอนนี้ลินช์กรุ๊ปยังไม่เปิดรับสมัครตำแหน่งใด ๆ เลย นอกจาก…”“นอกจากแม่บ้าน”ริมฝีปากของล
บรรยากาศยามเช้าภายในลินช์กรุ๊ปดูจริงจังและเย็นยะเยือก พนักงานทุกคนยืนเรียงแถวกันเป็นระเบียบด้วยความเคารพขณะรอให้หัวหน้าใหญ่ของพวกเขามาถึงเมื่อนาฬิกาแสดงเวลา 8 โมงเช้า รถหรูคันหนึ่งก็วิ่งมาจอดที่หน้าทางเข้า ชายที่ดูเหมือนพ่อบ้านรีบลงจากรถเพื่อเดินมาเปิดประตูรถด้านหลังโจชัวใช้ขายาวของเขาในกางเกงขายาวสีดำก้าวออกจากประตูรถ เขาวางเท้าลงบนพื้นเพื่อลงจากรถด้วยท่าทางเย็นชา ดูราวกับว่าเขาไม่แยแสและช่างหยิ่งผยอง รัศมีของเขาน่าเกรงขามจนทุกคนในบริเวณใกล้เคียงแทบไม่กล้าหายใจชายคนนั้นจ้องมองไปข้างหน้าและเริ่มเดินขึ้นบันไดไปทีละขั้น“คุณพ่อคะ!” เสียงเด็กน้อยที่น่ารักดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศน่าอึดอัดอย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนรีบเงยหน้าขึ้นและมองไปทางเธอเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครรู้ว่าเธอมาจากไหนกำลังเดินขึ้นบันไดมาอย่างงุ่มง่าม เธอสวมชุดสีชมพูสไตล์เจ้าหญิง ถึงแม้จะมองไม่เห็นใบหน้าของเธอได้อย่างชัดเจน แต่รัศมีอันสูงส่งเช่นเดียวกับคุณลินช์ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งบริเวณผู้หญิงตัวเล็กเดินขึ้นบันไดมาและกอดที่ขาของโจชัวเอาไว้เมื่อเทียบกับร่างเล็ก ๆ ของเธอ โจชัวนั้นสูงดั่งยักษ์ในทันใด แขนที่ขา
“ใช่แล้ว บลูเบย์วิลล่าของคุณโจชัว ลินช์”เสียงของชายจากปลายสายฟังดูตื่นเต้น “เจ้าหญิงน้อยต้องการให้ใครสักคนมาช่วยอาบน้ำ และเธอก็ถูกเลือกทันที ดังนั้นรีบมาที่นี่ให้เร็วที่สุด!"หลังจากนั้นเขาก็วางสายลูน่าขมวดคิ้วในขณะที่เธอเหลือบมองนีลที่อยู่ตรงหน้า “นี่คืองานที่ลูกหาให้แม่อย่างนั้นเหรอ?”เด็กชายพยักหน้าในขณะที่เขาเดินเข้าไปหาเธอและจับมือเธอไว้ “คุณแม่ครับ ผมรู้ว่าคุณแม่มีเหตุผลในการกลับมาที่นี่ แต่คุณแม่ไม่คิดว่าคุณแม่จะได้เจอโจชัว ลินช์ที่บ้านได้ง่ายกว่าที่ทำงานของเขาหรอกเหรอ?”ลูน่าถอนหายใจ เธอรู้อยู่แล้วว่าเธอไม่อาจจะปิดบังอะไรจากเจ้าตัวเล็กจอมป่วนเหล่านี้ได้ เธอคุกเข่าลง “ลูกพูดถูก แต่…”“คุณแม่ไม่ต้องกังวลครับ!” นีลมองเธอด้วยแววตาสดใส “เจ้าหญิงน้อยเลี้ยงง่ายมาก!”ลูน่ายิ้มอย่างหมดหนทางก่อนที่เธอจะไปล้างหน้าล้างตาและเตรียมตัว“โอ้ แล้วเนลลี่ล่ะ?” เธอถามในขณะที่เธอกำลังใส่รองเท้าปกติเวลาที่เธอกลับมาบ้าน เนลลี่จะต้องเข้ามากอดเธอและทำตัวเป็นผ้าห่มส่วนตัวของเธอเสมอ แต่แล้วทำไมวันนี้ถึงไม่เป็นเช่นนั้น?“โอ้ น้องกำลังดูการ์ตูนอยู่ครับ! ไม่ต้องเป็นห่วงครับคุณแม่ ผมจะดูแลเนลลี่
โจชัวขมวดคิ้วและส่งเนลลี่ออกไปจากห้อง “ลูคัส พาเธอไปหาของหวานทานหน่อย”เมื่อประตูปิดลง เขาก็เดินเข้าไปในห้องน้ำถึงแม้ว่าเขาจะให้เนลลี่เลือกพี่เลี้ยงเอง แต่เธอก็ยังเป็นเด็กอยู่ดี ความสามารถในการตัดสินผู้คนของเธอยังไม่แหลมคมเท่าผู้ใหญ่ โจชัวเป็นกังวล เขาจึงตั้งใจกลับมาที่บ้านเพื่อมาดูพี่เลี้ยงคนใหม่ด้วยตัวเอง ภายในห้องน้ำ ลูน่าทำความสะอาดอ่างล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย เธอหันไปและตระหนักได้ว่าภายในห้องน้ำมีเพียงผ้าขนหนูสีขาวเท่านั้น เธอจึงเปิดตู้หาผ้าขนหนูสีชมพูเพื่อนำมันมาวางแทนผืนสีขาว เนลลี่ชอบสีชมพูภายในห้องน้ำถูกปกคลุมไปด้วยหมอกของไอน้ำ ร่างที่ผอมบางของเธอเดินไปเดินมาท่ามกลางไอน้ำราวกับว่าเธอคุ้นเคยในขณะที่เธอทำความสะอาดรูปร่างและการเคลื่อนไหวของเธอทำให้โจชัวรู้สึกราวกับว่าเขากำลังอยู่ในฝัน“ลูลู่…” เขาพึมพำชื่อสองพยางค์นั้นโดยไม่รู้ตัวจนทำให้ลูน่าตัวแข็งทื่อในทันทีหลังจากนั้นไม่นานเธอก็หันหลังและมองโจชัวด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีค่ะ คุณลินช์”หน้าตาและเสียงที่ไม่คุ้นเคยของหญิงคนนั้นทำให้โจชัวกลับคืนสู่ความเป็นจริง“คุณเองหรอกเหรอ?”ผู้หญิงที่ห้างสรรพสินค้าเมื่อคืนก่อนลูน่ายิ
ที่อาพาร์ตเมนต์ห้องเช่าลูน่านอนอยู่บนโซฟาด้วยรอยยิ้มเยือกเย็นขณะมองดูชายที่กำลังยุ่งอยู่ในห้องครัวผ่านหน้าจอโทรศัพท์เมื่อตอนที่พวกเขายังอยู่ด้วยกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่โจชัวบอกว่าหิว เธอจะลุกขึ้นไปทำอาหารให้เขาเสมอไม่ว่าจะกี่โมงกี่ยาม ไม่ว่าจะเป็นกลางดึกหรือตีสองก็ตามเขาไม่เคยทำอาหารมาก่อนเลย เขาไม่เคยคิดจะเดินเข้าห้องครัวด้วยซ้ำ แต่ในตอนนี้เขากลับกำลังตั้งใจทำอาหารอย่างจริงจัง ทั้งหมดเพียงเพื่อเนลลี่ที่เขาเพิ่งจะได้เจอเพียงแค่ครึ่งวันเธอหลังตาลงดูเหมือนว่าเขาจะทำอาหารเป็น แต่เป็นเพราะว่าเธอไม่ได้มีค่ามากพอสำหรับเขา เขาถึงไม่เคยทำมันให้เธอทานเลยโชคดีที่ทัศนคติของเขาที่มีต่อเนลลี่นั้นค่อนข้างดีอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เลือดเย็นและโหดเหี้ยมเหมือนที่เขาเคยทำกับเธอในตอนนั้น …ณ บลูเบย์วิลล่าในขณะที่เด็กหญิงนั่งอยู่บนเก้าอี้เด็ก เนลลี่ก็มองไปยังอาหารหน้าตาดูแย่ที่อยู่ตรงหน้าเธอ เธอเขยิบชามคุกกี้ที่ลูน่าทำไว้ให้มาตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ “หนูไม่ค่อยหิวแล้วค่ะ คุณพ่อ หนูจะทานแค่นี้พอ”โจชัวขมวดคิ้วในขณะที่เขามองดูคุกกี้ที่มีขนาดใหญ่กว่าเมล็ดถั่วเล็กน้อยเหล่านั้น “แค่นั้นมันจะพอเหรอ?”
ริมฝีปากของลูน่าคลี่ยิ้มด้วยความไม่เชื่อในสิ่งที่โจชัวพูด “คุณลินช์ นี่คุณกำลังหลอกฉันหรือเปล่าคะ? ผู้หญิงอย่างฉันที่ทำตัวน่าสงสัยสำหรับคุณ และยังใช้ชื่ออดีตภรรยาของคุณ คุณแน่ใจเหรอคะว่าคุณต้องการจ้างฉัน?”โจชัวรู้ดีว่าลูน่าเพียงแค่ต้องการเยาะเย้ยที่เขาดูถูกเธอก่อนหน้านี้ชายคนนั้นหรี่ตาลงเล็กน้อยหากไม่ใช่เพราะว่าเนลลี่เพิ่งจะกลับมาบ้านและเขาเองก็ยังไม่เข้าใจอารมณ์ของเด็กคนนั้น เขาก็คงไม่ลดศักดิ์ศรีของตัวเองลงมาจ้างผู้หญิงที่น่าสงสัยคนนี้เหมือนกันเขาได้อ่านประวัติของเธอในตอนที่เขาขึ้นมายังอพาร์ตเมนต์ของเธอแล้วในฐานะผู้หญิงที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เธอจึงไม่ได้มีปัญหาทางด้านการเงิน แต่งานแรกที่เธอสมัครหลังจากที่กลับมาถึงก็คือ ตำแหน่งพี่เลี้ยงที่บลูเบย์วิลล่า ถ้าหากไม่ใช่เขาหรือลินช์กรุ๊ปแล้ว อะไรคือเป้าหมายของเธอ?"ว้าว"ในขณะที่ทั้งสองกำลังยืนอยู่ที่ตรงทางเข้าประตูห้องพัก เสียงอุทานแสดงความประหลาดใจจากเพื่อนบ้านของเธอก็ดังขึ้นจากทางเดิน “นั่น… คุณลินช์ใช่ไหม?”โจชัวเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จซึ่งมักจะปรากฏตัวในข่าวด้านการเงินเสมอและมีเพียงไม่กี่คนในเมืองบันยันที่จะไม
“งั้นคุณพ่อก็ควรรู้นะครับว่าลูน่าเลี้ยงพวกเขามาหกปี ผมแนะนำว่าคุณพ่อควรดีกับลูน่าให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ อาจจะไม่ยอมรับคุณเป็นคุณปู่ของพวกเขาอีกต่อไปได้”ใบหน้าของเอเดรียนเปลี่ยนเป็นสีม่วงจากมุมนี้ ลูน่าเหลือบมองสีหน้าของเขาด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามแต่ไร้อารมณ์ พร้อมกับยกยิ้มไม่ใส่ใจบนริมฝีปากของเธอ “คุณท่านลินช์ คุณบอกว่าฉันฆ่าเฮลีย์ คุณมีหลักฐานไหม? การตัดสินใจว่ามีคนฆ่าคนอื่นหรือไม่ คุณไม่จำเป็นต้องพูดตามหลักฐานที่มีอยู่หรอกเหรอคะ?” เธอวางข้อเท้าบนเข่า น้ำเสียงของเธอเย็นชาและห่างไกล “เฮลีย์ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากตึก ฉันไปชี้มีดใส่เธอแล้วบังคับให้เธอกระโดดหรือว่าฉันผลักเธอเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนที่เฮลีย์ฆ่าตัวตาย ฉันไปเยี่ยมสามีเก่าของเพื่อนที่โรงพยาบาลกับเพื่อนนะ มีกล้องวงจรปิดที่โถงทางเดินและลิฟต์ในโรงพยาบาลอยู่ ฉันมีหลักฐานชัดเจนสมบูรณ์”เอเดรียนเปล่งเสียงในจมูก “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ก่อนที่เฮลีย์จะกระโดดก็เป็นเพราะเธอ เฮลีย์ถูกบังคับให้ออกจากเมืองซีและย้ายไปอยู่ต่างประเทศ! เฮลีย์เติบโตมากับความมั่งคั่งและความฟุ่มเฟือยด้วยความกรุณาของพระเจ้า และเพราะผู้หญิงเช่นเธอ
“เพียะ!”ก่อนที่ทุกคนจะทันได้โต้ตอบ เสียงตบก็ดังก้องไปทั่วห้องนั่งเล่นศีรษะของลูน่าหันไปด้านข้างจากแรงกระแทก รสหวานราวกับเหล็กของเลือดเต็มปาก และเลือดก็หยดลงมาตามมุมปากของเธอ“คุณแม่!”“คุณแม่…!”เด็กสองคนที่นั่งอยู่ทั้งสองด้านของหญิงชรา กระโดดขึ้นจากโซฟาตามสัญชาตญาณแล้วพุ่งไปหาลูน่าทันทีหนึ่งในนั้นจับมือเธออย่างระมัดระวัง เขาก้าวไปข้างหน้าพยายามปกป้องเธอ ในขณะที่อีกคนหยิบกระดาษทิชชูจากโต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็น แล้วยื่นให้ลูน่าการเห็นเด็กสองคนปกป้องเธอทำให้โจชัวขมวดคิ้ว ข้าง ๆ เขา อลิซส่งเสียงเย้ยหยันอยู่ในอก แต่ภายนอกนั้นเธอกำลังทำสีหน้ากังวล “นีล รีบพาน้องสาวของหนูมานี่เร็วเข้า” จากนั้นเธอก็ชำเลืองมองสุภาพบุรุษตัวน้อยที่กำลังยื่นทิชชู่ให้ลูน่า“นี่เป็นเรื่องระหว่างคุณปู่ของหนูกับน้าลูน่านะ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อย่ายื่นจมูกเข้าไปในที่ที่ไม่เกี่ยวกับเราสิ”นีลจ้องมองเธออย่างเย็นชา จากนั้นก็หันกลับมาดูแลแม่ของพวกเขาพร้อมกับเนลลี่ในทันทีจากนั้น อลิซก็แสดงท่าทีสงบนิ่งอย่างคนมีอารมณ์มั่นคงและพูดว่า “เอเดรียน คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ คุณกำลังทำให้เด็ก ๆ กลัวนะ”เอเดรียนส่งเสียงเย
ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดถึงพวกเขามาก ผ่านไปนานแล้วเหมือนกันหลังจากที่พวกเขาได้เจอกันครั้งสุดท้าย จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงเสนอให้พาทุกคนมารวมตัวกันที่บลูเบย์วิลล่าแต่ดูเหมือนว่า...เขาทำให้ทั้งเด็ก ๆ และลูน่าโกรธเขาได้สำเร็จเท่านั้นหรอกเหรอ?รถขับต่อไปไม่นานรถก็มาจอดหน้าบลูเบย์วิลล่า เมื่อลูน่าก้าวลงจากรถที่ยูริและแซคขนสัมภาระมา อลิซก็ก้าวลงมาเช่นกันขณะยืนอยู่นอกรถของโจชัว รอยยิ้มปลอม ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “ เนลลี่มานี่เร็ว แม่จะอุ้มหนูเข้าบ้าน!”เนลลี่กลอกตา เดินผ่านเธอ และมุ่งหน้าไปที่ประตูด้วยขาที่สั้นและแข็งแรงของเธอในทางกลับกัน นีลกลับรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเธอพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “ถ้าเนลลี่ไม่ต้องการให้คุณอุ้ม ก็อุ้มผมแทนสิครับ! ผมก็ไม่ได้หนักมากเหมือนกัน แค่หนักกว่าเนลลี่นิดหน่อยเอง”อลิซอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนของเธอ สีหน้าของเธอดูน่าเกลียด และก้าวไปข้างหน้าด้วยความพยายามสุด ๆ นีลเอาแขนของเขาคล้องคอเธอตามสะดวก “คุณอลิซ เร็วสิครับ ผมเป็นเด็กน้อยสุดที่รักของคุณไงครับ มันคงจะแย่ถ้าเราล้มกันทั้งคู่แล้วได้รับบาดเจ็บนะ!”สีหน้าของอลิซดูน่าเกลียดและยิ่งน่าเกลียดมากขึ้น
โจชัวเลิกคิ้วเขาไม่คาดคิดเลยว่านี่จะเป็นคำถามแรกที่ลูกชายของเขาถามหลังจากที่แยกจากกันหลายวันเขามองลูกชายของเขาจากหางตา “นายดูไม่เต็มใจที่จะเห็นแม่นายกับฉันคืนดีกันนะ”นีลหยุดนิ่งไป เขาหันไปมองโจชัวอย่างเคร่งขรึมแล้วยกสองนิ้ว“อย่างแรกนะครับ ผมไม่เคยยอมรับคุณอลิซ กิบสันเลย สำหรับผมแล้ว เธอไม่เคยเป็นแม่ของผมเลย แม่ของผมคือลูน่า อย่างที่สอง ความชอบหรือไม่ชอบของผม มันสำคัญสำหรับคุณหรือเปล่าครับ คุณลินช์ ถ้าคุณพิจารณาถึงความคิดและความรู้สึกของเราจริง ๆ คุณก็คงไม่บังคับน้องสาวของผมและผมให้ทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ เช่น การพาเรากลับไปที่บลูเบย์วิลล่าตอนนี้ สุดท้ายนะครับ ผมไม่สนใจคุณและอลิซเลย ผมแค่อยากจะรู้ว่าทำไมท่าทีของคุณที่มีต่อเธอถึงเปลี่ยนไปแบบ 180 องศา หลังจากกลับมาจากเมืองซีก็เท่านั้น”ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาก็ได้แยกทางกันไปแล้ว และยังประกาศว่าพวกเขาจะกำหนดวันเซ็นใบหย่าด้วยซ้ำ แต่ไม่นานหลังจากที่พวกเขาไปถึงเมืองซี พวกเขาก็กลับมาคืนดีและรักกันเหมือนเดิม และเมื่อดูจากภายนอกแล้ว พวกเขาดูยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยโจชัวหรี่ตาลงเล็กน้อย อะไรทำให้ท่าทีของเขาที่มีต่ออลิซเปลี
“คุณแม่คะ! หนูคิดถึงคุณแม่มากเลย!” เนลลี่กล่าวเธอหยิบกุญแจออกมาและทันทีที่เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ เด็กทั้งสองก็รีบวิ่งออกมาราวกับพายุทอร์นาโดลูกเล็กสองลูกนีลและเนลลี่ต่างกอดขาข้างหนึ่งของเธอไว้ และพูดด้วยความตื่นเต้น“คุณแม่ หนูรู้ว่าคุณแม่จะกลับมาในเวลานี้ แต่นีลเอาแต่ยืนกรานว่าแม่จะกลับมาทีหลัง!”“คุณแม่ครับ เมื่อหลายวันที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน ผมขอให้ลิลลี่สอนวิธีชงกาแฟด้วยล่ะ! ผมทำกาแฟอาราบิก้าแก้วโปรดของคุณแม่ด้วย!”“คุณแม่คะ หนูวางแผนไว้หมดแล้ว บ่ายวันนี้คุณแม่จะไปไหนไม่ได้เลยนะ คุณแม่ต้องอยู่บ้าน อ่านนิทานให้หนูฟังและต่อเลโก้กับนีลด้วย!”“แม่…”ลูน่าลดสายตาลงมองดูหัวเล็ก ๆ สีดำสองหัวที่อยู่ตรงหน้าเธอ คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถคายมันออกมาได้ข้างหลังเธอ ลิลลี่ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น มองเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณ ลูน่า พวกเขาตั้งใจหยุดเรียนหนึ่งวันเพื่อรอคุณเลยนะคะ ตั้งแต่เช้านี้พวกเขาตื่นเต้นเป็นพิเศษแล้วก็ตกแต่งบ้านราวกับว่าเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดด้วย”ตอนนั้นเองที่ลูน่าสังเกตเห็นของประดับตกแต่งที่แขวนอยู่ในห้องนั่งเล่น ป้ายหลากสีสันแขวนอยู่ตามผนัง ความค
บรรยากาศในรถเปลี่ยนเป็นเงียบเชียบร่างกายของลูน่าแข็งทื่อไปหมดเธอไม่ได้เจอทั้งนีลและเนลลี่มาหลายวันแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดที่เธอเคยห่างจากพวกเขานับตั้งแต่ที่เธอให้กำเนิดพวกเขามาเมื่อหกปีที่แล้วเธอคิดถึงพวกเขาอย่างสุดซึ้งจากการโทรหาและคุยกับพวกเขาเมื่อเช้านี้และเมื่อวานตอนบ่าย เธอก็รู้ว่าเด็ก ๆ เองก็คิดถึงเธออย่างสุดซึ้งเช่นกันไฟในใจเธอที่ลุกโชนด้วยความตื่นเต้นเมื่อนึกถึงการพบปะกับลูก ๆ ของเธอถูกดับลงอย่างโหดร้ายด้วยคำพูดเย็นชาของอลิซ และได้กลับกลายเป็นความหนาวเย็นจนจับไปถึงขั้วหัวใจอลิซจงใจทำแบบนี้ เธอไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อนีลและเนลลี่ เธอแค่พยายามจะก่อกวนเธอและลูก ๆ ให้อารมณ์เสีย“โจชัวคะ” เมื่อสังเกตเห็นความเงียบอย่างต่อเนื่องของโจชัว อลิซถึงกับร้องเรียกเขาเบา ๆจากนั้นเขาก็กะพริบตาและฟื้นคืนสติของตัวเอง เขากระแอมไอเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองลูน่าจากด้านหลังขณะที่เธอนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร “เราจะทำตามที่อลิซบอก”ไม่ว่ายังไงก็ตาม อลิซยังคงเป็นแม่ของพวกเขา แม้ว่าเธอจะไม่ได้อาศัยอยู่กับเด็กๆ ตลอดหกปีของชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วเลือดก็ข้นกว่าน้ำ นอกจากนี้ อล
วิทยุยังคงเล่นซ้ำข่าวเรื่องที่เกิดกับตระกูลวอลเตอร์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “ก่อนที่การกล่าวหาคุณเดนนิส วอลเตอร์จะถูกหยิบยกมาพูดถึง ทายาทคนเดียวของวอลเตอร์กรุ๊ป เฮลีย์ วอลเตอร์ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไปแล้ว ตอนนี้วอลเตอร์กรุ๊ปกลายเป็นอาณาจักรที่กำลังขาดกษัตริย์และกำลังจะล่มสลาย...”ลูน่าหลับตาลง เธอสงสัยว่าเกว็นจะได้ยินข่าวนี้หรือยัง ถ้าเธอได้ยิน อย่างน้อยเธอก็จะรู้สึกสบายใจเล็กน้อยใช่ไหม?เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะตรวจสอบว่าเกว็นส่งข้อความใหม่ให้เธอหรือไม่ แต่กลับเห็นการอัปเดตสถานะใหม่ที่โพสต์โดยเบ็นแทน'ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของฉันที่สถานีตำรวจ ตระกูลลาร์สัน ระวังตัวไว้! ฉันจะเรียกร้องค่าเสียหาย!'รูปภาพประกอบเป็นแขนที่ได้รับบาดเจ็บและแก้มบวมฉึ่งอันเป็นผลมาจากการทะเลาะกันเมื่อวันก่อนลูน่ารู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาต้องเป็นฝีมือของแซคและยูริ เธอจ้องโทรศัพท์อยู่นาน ในที่สุดเธอก็กดไลค์สองภาพที่เบ็นโพสต์“ลูคัส ปิดวิทยุที” ทันใดนั้นเสียงอันแผ่วเบาอ่อนแอของอลิซก็ดังมาจากเบาะหลัง “ฉันอยากนอนพัก”จากนั้น โจชัวก็มีสีหน้ากังวลขณะพูดว่า “ทำไมหน้าคุณดูซีดจัง ไม่สบายเหรอ?”ลูน
มือของโจชัวที่กำช้อนและส้อมไว้หยุดชะงักไปเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็หัวเราะเบา ๆ “เพราะว่าเธอเคยหย่าและสามีเก่าเธอมันนิสัยไม่ดี เธอก็เลยแอบลักพาตัวนีลกับเนลลี่ไปแล้วเลี้ยงเหมือนเป็นลูกตัวเองเหรอ?”ลูน่ายกแก้วขึ้นแล้วกลืนน้ำอุ่นในปากลงคออย่างแรง จากนั้นเธอจึงมองไปทางโจชัว “คุณจะพูดแบบนั้นก็ได้”โจชัวยกแก้วของเขาขึ้นเช่นกัน “ทำไมเธอถึงไม่มีลูกกับสามีเก่าล่ะ?”“เขาไม่สมควรมีลูก” ลูน่าวางแก้วลงแล้วยกช้อนส้อมเพื่อกินต่อ “เขามีชู้ในตอนที่ฉันต้องการเขามากที่สุด และถึงกับอยากจะฆ่าฉันเพื่อเอาใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำ คุณคิดว่าเขาสมควรมีลูกไหม?”ถ้าตอนนั้นเธอยังไม่ท้อง เธอก็ไม่อยากมีลูกของเขาจริง ๆเขาไม่สมควรได้รับพวกเขาแม้ว่าเธอจะให้กำเนิดพวกเขาแล้ว แต่ลูน่าก็ยังเชื่อเช่นเดิมว่าเด็กทั้งสามคนเป็นของเธอและเป็นของเธอเพียงคนเดียวพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจชัวเมื่อพูดคำเหล่านี้ ดวงตาของเธอก็จับจ้องไปที่โจชัวการจ้องมองของเธอทำให้เขารู้สึกสับสน ราวกับว่าเขาเป็นคนที่ทิ้งและทำร้ายเธอเองเขาขมวดคิ้วและหันหน้าหนีจากเธอ “แล้ว เธอก็ปล่อยเขาไปทั้งอย่างนั้นเหรอ?”ลูน่าคลี่ยิ้มเย็นชา “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปล่อ
“คุณหย่ากับฉันเมื่อเช้านี้ พอตอนบ่าย คุณก็หาแฟนได้ แล้วตอนนี้พอตกกลางคืนคุณก็พาแฟนใหม่ของคุณมาบ้านเก่าของคุณ เบ็น เซลเลอร์ คุณมันไม่คู่ควรกับเวลาที่ฉันตกหลุมรักไปเลย”จากนั้นเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึก และหันกลับไปมองลุคที่กำลังถือไฟแช็กไว้สำหรับเตรียมจุดบุหรี่ให้ตัวเองขณะดูการแสดง “ฉันขอยืมไฟแช็กหน่อยได้ไหม?”ลุคยักไหล่ เขาเดินเข้ามาและก้มลงขณะถือไฟแช็คของเขา เขาฉีกภาพเดี่ยวที่สวยที่สุดของเกว็นออกมา จากนั้นก็จุดไฟเผาภาพถ่ายที่เหลือไปสุดท้ายเขาก็ส่งรูปถ่ายที่เขาฉีกออกมาให้เกว็น “เอาไว้นึกถึง”เกว็นส่ายหน้า “เผาไปเถอะค่ะ”เธอไม่จำเป็นต้องนึกถึงอะไรแบบนี้ลุคยกยิ้มจาง ๆ เขามองไปที่เกว็นด้วยความสนใจเล็กน้อยที่ปรากฏในดวงตาแล้วสอดรูปถ่ายใบนั้นใส่กระเป๋าเสื้อของตัวเองภาพถ่ายทั้งหมดถูกจุดไฟเผาท่ามกลางแสงไฟโหมกระหน่ำ เบ็นหัวเราะอย่างเย็นชา “ถึงคุณจะไม่เผามัน ผมก็จะเป็นคนเผาอยู่ดี”เกว็นหลับตาแน่น แต่ยังคงเงียบเมื่อรูปถ่ายไม่เหลืออะไรนอกจากกลายเป็นกองขี้เถ้า เธอก็จับมือของลูน่าไว้ “ไปกันเถอะ”ลูน่าพยักหน้าและช่วยพยุงเธอนั่งบนที่นั่งโดยมีลุคช่วยอีกแรง ส่วนข้าง ๆ พวกเขา เบ็นพ่นเสียงฮึ เ