แชร์

บทที่ 8

ในที่สุดหญิงชราก็มองมาที่ซูหยิงเซี่ย และขอให้ผู้ช่วยนำแว่นของเธอมาให้เพื่ออ่านสัญญาทั้งหมด

ญาติ ๆ ต่างพากันยืดคอเพื่อต้องการอ่านเนื้อหาของสัญญา เพราะพวกเขาไม่เชื่อว่าซูหยิงเซี่ยจะสามารถเจรจาขอเป็นหุ้นส่วนได้จริง เพราะพวกเขาทุกคนไม่เคยเห็นแม้แต่เจ้าของบริษัทลั่วเฉว แล้วทำไมซูหยิงเซี่ยถึงทำได้?

เธอมีฐานะที่ต่ำต้อยที่สุดในตระกูลซู และไม่เคยเป็นที่น่าพอใจเลย ไม่มีใครปฏิบัติกับซูหยิงเซี่ยเหมือนเป็นญาติพี่น้อง แต่ถ้าครั้งนี้เธอขอเจรจาเป็นหุ้นส่วนได้สำเร็จ แล้วถ้าหญิงชราเห็นคุณค่าของเธอขึ้นมาจะทำอย่างไร?

ในบรรดาญาติ ๆ ของพวกเขา ซูไห่เฉาเป็นคนที่ไม่อยากจะเชื่อมากที่สุด เพราะถ้าหากซูหยิงเซี่ยขอเจรจาเป็นหุ้นส่วนได้สำเร็จ นั่นหมายความว่าในอนาคตเขาจะต้องยกน้ำชาให้แก่ซูหยิงเซี่ย และเขาต้องเรียกเธอว่าพี่เซี่ย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก

“ซูหยิงเซี่ย เธออาจจะร่างสัญญาขึ้นมาเองก็ได้ ใครจะไปเชื่อเธอ ฉันคิดว่าเธอคงจะไม่เคยเจอเจ้าของบริษัทลั่วเฉวด้วยซ้ำ” ซูไห่เฉาพูดอย่างประชดประชัน

“ใช่ ฉันไม่ได้เจอเจ้าของบริษัทลั่วเฉวจริง ๆ นั่นแหละ” เพราะคุณจงเหลียง ผู้ดูแลโครงการเฉิงซีบอกเธอว่าเจ้าของบริษัทยุ่งมาก และซูหยิงเซี่ยก็เข้าใจ

เมื่อซูหยิงเซี่ยพูดเช่นนี้ ญาติ ๆ ของตระกูลซูก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิด ทุกคนต่างมองหน้ากันไปมา

“ซูหยิงเซี่ย เธอกล้าปลอมสัญญานี้ขึ้นมาหลอกพวกเราเหรอ”

“คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ เพื่อไม่ให้ถูกไล่ออกจากตระกูลซู”

“เธอคิดว่าพวกเราเป็นคนโง่เหรอ? ถึงได้ใช้สัญญาปลอมนี้มาหลอกพวกเรา”

ทุกคนต่างรู้สึกโกรธเคือง กัดฟันด้วยความเคียดแค้น และปฏิบัติต่อซูหยิงเซี่ยราวกับเธอเป็นศัตรู

ซูไห่เฉารู้สึกผ่อนคลายอย่างทันที เขามองดูซูหยิงเซี่ยเหมือนคนโง่เขลาและพูดว่า “เธอใช้วิธีนี้เพราะเธอกลัวว่าจะถูกไล่ออกจากตระกูลซูเหรอ? แต่ก็ใช่ ครอบครัวของเธอสามคน รวมลูกเขยที่ไร้ค่าคงจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีตระกูลซู แต่ไม่ต้องกังวลไป ฉันไม่ใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้น ถ้าเธอหิวจริง ๆ ฉันจะให้อาหารสักมื้อก็แล้วกัน”

เมื่อคนอื่น ๆ ได้ยินเช่นนี้ พวกเขาต่างหัวเราะเยาะและพูดต่อว่า “ใช่ กับข้าวมื้อเดียวพวกเราให้ได้อยู่แล้วล่ะ”

ซูหยิงเซี่ยไม่รู้สึกโกรธแต่อย่างใด เธอยิ้มรับและพูดว่า “พวกเธอไม่สามารถตัดสินได้ว่าสัญญานี้เป็นของจริงหรือไม่ แม้ว่าฉันจะไม่ได้เจอเจ้าของบริษัทลั่วเฉว แต่ผู้รับผิดชอบโครงการเฉิงซีคือ คุณจงเหลียง และในสัญญานี้ก็เป็นลายเซ็นของเขาด้วย”

“ฉันไม่ใช่คนโง่ และฉันก็ไม่เคยคิดว่าคุณย่าเป็นคนโง่ พวกเธอคิดว่าฉันจะทำสัญญาปลอมขึ้นมางั้นเหรอ?”

หัวใจของซูไห่เฉาเริ่มสั่นไหว ใบหน้าของเขาซีดขาวเหมือนกระดาษ

การปลอมแปลงเอกสารสัญญานั้นไม่มีประโยชน์อะไร ตรงกันข้ามกัน มันจะยิ่งทำให้คุณย่ารู้สึกโกรธ ซูหยิงเซี่ยจะทำแบบนั้นไปทำไม?

หรือว่าเธอจะขอเจรจาเป็นหุ้นส่วนได้สำเร็จ?

“ซูหยิงเซี่ย พวกเรายังทำไม่ได้เลย แล้วทำไมเธอถึง...”

ซูไห่เฉายังพูดไม่ทันจบ หญิงชราก็ยกมือขึ้นปราม

เธอมองไปที่ซูหยิงเซี่ยและพูดขึ้นว่า “สัญญาฉบับนี้ลงนามโดยเธอและคุณจงเหลียงจริง ซึ่งหมายความว่าเราได้เป็นผู้จัดหาวัสดุอย่างเต็มรูปแบบสำหรับโครงการเฉิงซีใช่ไหม?”

“คุณย่าคะ ฉันได้เชิญคุณจงเหลียงมาที่บริษัทของเราในวันพรุ่งนี้ เมื่อถึงเวลานั้น ท่านจะได้รู้ความว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่” ซูหยิงเซี่ยกล่าว

หญิงชรายิ้มและพูดชมเชยเล็กน้อย

คำชมเชยเล็กน้อยนี้ดังก้องอยู่ในหูของบรรดาญาติ ๆ ของตระกูลซู และทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก

ซูหยิงเซี่ยได้รับคำชมเชยจากหญิงชรา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการไล่ซูหยิงเซี่ยออกจากตระกูลซูเลย ซูหยิงเซี่ยอาจได้รับการเห็นค่ามากขึ้นในอนาคต และพวกเขาไม่ต้องการโดนเธอเหยียบย่ำ

“ซูหยิงเซี่ย ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะทำได้ เธอนี่โชคดีจริง ๆ” ซูไห่เฉาต้องยอมรับความจริง เพราะวันพรุ่งนี้คนของบริษัทลั่วเฉวจะมาที่บริษัท แม้ว่าเขาไม่อยากจะเชื่อก็ตาม แต่เขาคิดว่าซูหยิงเซี่ยไม่มีความจำเป็นที่จะพูดโม้โอ้อวด

“นายยังไม่ลืมสิ่งที่นายพูดไว้ใช่ไหม?” ซูหยิงเซี่ยกล่าว

ซูไห่เฉากัดฟันและพูดว่า “ซูหยิงเซี่ย คราวนี้เธอก็แค่โชคดีเท่านั้น ถ้าฉันไป ฉันก็ทำได้ เธอจะให้ฉันยกน้ำชาให้เธอจริงเหรอ?”

ซูไห่เฉาไม่เต็มใจที่จะทำสิ่งอัปยศเช่นนี้ เพราะเขาเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในตระกูลซู และเขายังเป็นคนที่มีความหวังในการสืบทอดตำแหน่งประธานมากที่สุด แล้วเขาจะยกชาให้แก่ซูหยิงเซี่ยได้อย่างไร

“ซูหยิงเซี่ยอย่าให้มันมากเกินไปนัก เธอก็แค่โชคดี อย่าคิดว่าจะเหนือกว่าซูไห่เฉาได้เลย”

“ใช่ คิดว่าตัวเองเป็นคนเก่งหรือไง บางทีถ้าฉันไปเองฉันก็คงทำได้เช่นกัน”

“ซูหยิงเซี่ย ฉันขอพูดในฐานะผู้อาวุโส ปล่อยเรื่องนี้ไปเถอะ ครั้งนี้เธอก็แค่โชคดีเท่านั้น”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status