ชุมชนที่หานซานเฉียนอาศัยอยู่มีเพียงสี่ครัวเรือนและลิฟต์หนึ่งตัวเท่านั้น หานเฟิงที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการตามจีบผู้หญิงมากนัก เขาตัดสินใจใช้วิธีทำเป็นว่าบังเอิญเจอ โดยไม่ได้คำนึงเลยว่าการบังเอิญนี้จะทำให้ฉี๋อีหยุนสงสัยหรือไม่ เมื่อขึ้นมาถึงชั้นบน หานเฟิงก็กดกริ่งประตูเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกับหานซานเฉียนคนที่อาศัยอยู่ในห้องนี้ไม่ใช่ผู้เช่า แต่เป็นบ้านของพวกเขา สำหรับชีวิตคนเมืองสมัยใหม่ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เพื่อนบ้านจะไม่ได้เจอกันเลยเป็นปี ๆ และไม่มีใครรู้จักใครเลยดังนั้นเมื่อเจ้าของบ้านเปิดประตูออกมา และเห็นหานเฟิง จึงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย"คุณมาหาใคร?" เจ้าของบ้านถามหานเฟิง ไม่นานมานี้มีเพื่อนบ้านที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ ได้ยินว่าเขาเป็นชายหนุ่ม ดังนั้นเขาจึงนึกว่าหานเฟิงคือเพื่อนบ้านคนนั้น“คุณเป็นเจ้าของบ้านนี้เหรอ?” หานเฟิงถามตรง ๆ“ครับ” เจ้าของบ้านรับคำ"ตั้งราคามาสิ ผมต้องการซื้อบ้านของคุณ" หานเฟิงกล่าว วิธีการของเขาเจาะจงตรงประเด็นและรวดเร็วเสมอ ไม่มัวเสียเวลาพูดเรื่องไร้สาระใด ๆสำหรับหานเฟิง สิ่งที่สามารถแก้ไขได้ด้วยเงินนั้นไม่เรียกว่าปัญหาเจ้าของบ้านรู้สึกนึกสนุก เขาไ
“ขายแล้ว? ทำไมจู่ ๆ ถึงขายบ้านล่ะคะ?” มี่เฟยเอ๋อร์ถามด้วยความสงสัย“ฉันก็ไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสได้ย้ายบ้าน แต่ใครจะไปรู้ว่าจู่ ๆ โชคก็มาเยือน วันนี้มีคนมาขอซื้อบ้านฉันในราคาสูงลิ่วเลย” พี่จางกล่าวการมาขอซื้อบ้านในราคาสูงแบบนี้เป็นเรื่องที่แปลกมาก“ต้องให้ราคาสูงแค่ไหน พี่ถึงได้รีบร้อนย้ายออกกันขนาดนี้ พี่หาที่อยู่ใหม่ได้แล้วเหรอคะ?” มี่เฟยเอ๋อร์ถาม"ไม่สำคัญหรอกว่าจะหาที่อยู่ใหม่ได้แล้วหรือยัง สิ่งสำคัญคือถ้าย้ายออกภายในสองวันนี้ เขาจะให้เงินเพิ่มอีกตั้งสองแสน ฉันก็ต้องรีบคว้าเงินสองแสนนี้ไว้ก่อนน่ะสิ" เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ คุณจางก็รู้สึกว่ามันวิเศษมาก เขาสามารถทำรายได้สองแสนภายในสองวัน มันเป็นเรื่องที่เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนมี่เฟยเอ๋อร์มีสีหน้าตกใจ คนรวยที่ไหนจะกล้าได้กล้าเสียขนาดนี้ แถมเงินสองแสนนี้เป็นเพียงเงินค่าขนย้ายที่ให้เพิ่มเท่านั้น แสดงว่าเขาต้องซื้อบ้านหลังนี้ในราคาที่สูงกว่านี้แน่ มี่เฟยเอ๋อร์ไม่ได้ถามอะไรไปมากกว่านั้น แต่เธอรู้ว่าเพื่อนบ้านใหม่คนนี้ต้องเป็นเศรษฐีแน่ ๆแต่ในเมื่อเขารวยขนาดนี้ ทำไมเขาถึงไม่เลือกย่านระดับไฮเอนด์ แต่กลับมาซื้อบ้านที่นี่
ตกเย็น เมื่อหานซานเฉียนกลับมาถึงบ้าน เขาก็พบว่าเพื่อนบ้านได้ย้ายไปแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปถามถึงเหตุผล เพราะสำหรับเขาก็ไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่เป็นประจำอยู่แล้ว ดังนั้นเพื่อนบ้านจะเป็นใครก็ไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับเขานักฉี๋อีหยุนกำลังยุ่งอยู่ในครัว ทั่วทั้งห้องอบอวนไปด้วยกลิ่นหอม หานซานเฉียนชื่นชมทักษะการทำอาหารของเธอมาก แม้ว่าหานซานเฉียนจะเป็นคนที่ทำอาหารเก่งเช่นเดียวกัน แต่เมื่อเทียบกับฉี๋อีหยุนแล้ว ฝีมือยังห่างจากเธออยู่มาก ในอีกแง่หนึ่ง หานซานเฉียนและฉี๋อีหยุนเป็นคนประเภทเดียวกัน พวกเขาเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่พวกเขามีความเชี่ยวชาญในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของชีวิต พวกเขาคุ้นเคยกับสิ่งที่คนรับใช้ทำ และพวกเขาก็รู้จักราคาของใช้ในชีวิตประจำวันเป็นอย่างดี “เพื่อนบ้านกำลังจะย้ายออก คุณรู้เรื่องหรือเปล่า?” หานซานเฉียนยืนอยู่ที่ประตูห้องครัวถามฉี๋อีหยุน "ฉันได้ยินเสียงเอะอะโวยวายข้างนอกทั้งวัน แต่ก็ไม่ได้ออกไปดู" ฉี๋อีหยุนพูด ตั้งแต่เธอมาที่นี่เธอก็อยู่แต่ในบ้านไม่อยากออกไปไหน เพราะในบ้านมีกลิ่นของหานซานเฉียน ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกว่าได้ใกล้ชิดกับเขามากขึ้น และอีกอย่างตอนนี้เธอก็ไม่มีอะไรท
ดวงตาของเพื่อนบ้านใหม่คนนี้ดูช่างร้อนแรง และฉี๋อีหยุนก็มีสีหน้าไม่น่าเชื่อเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าทั้งสองรู้จักกัน และจุดประสงค์ของเพื่อนบ้านใหม่คนนี้อาจไม่ธรรมดา“คุณเองเหรอ!” ฉี๋อีหยุนพูด"อีหยุน ไม่นึกเลยว่าคุณก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน ผมเพิ่งซื้อบ้านหลังข้าง ๆ ตั้งแต่วันนี้เราเป็นเพื่อนบ้านกันแล้วนะ" หานเฟิงพูดด้วยความประหลาดใจฉี๋อีหยุนขมวดคิ้ว ทักษะการแสดงของหานเฟิงเต็มไปด้วยช่องโหว่ นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน"ดูเหมือนว่าพวกคุณจะรู้จักกันสินะ ถ้าอย่างนั้นพวกคุณก็คุยกันก็แล้วกัน ผมจะออกไปเดินเล่นข้างนอกสักหน่อย อ้อใช่ เธอกับผมเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น คุณอย่าเข้าใจผิดล่ะ" หานซานเฉียนกล่าวกับหานเฟิงด้วยรอยยิ้มแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าหานเฟิงเคือใคร แต่หานซานเฉียนก็ค่อนข้างรู้ชอบกับการปรากฏตัวของเขา หากเขาตามจีบฉี๋อีหยุนจนเธอหวั่นไหว ปัญหาของเขาก็จะลดน้อยลงในทำนองเดียวกัน หานเฟิงไม่รู้ว่าหานซานเฉียนคือใคร เพราะหลังจากที่มาถึงหยุนเฉิง เขาก็หมกมุ่นอยู่กับผู้หญิง และเขาก็ไม่เคยกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่หานเหยียนต้องจัดการหานซานเฉียน ดังนั้นเขาจึงไม่เคยเจอหานซานเฉียนมาก่อนหานเฟิงรู้สึกมีค
ฉี๋อีหยุนที่กำลังเผชิญหน้ากับหานเฟิง เธอแสดงท่าทีเย็นชาอย่างชัดเจน เธอไม่เคยมีความรู้สึกดี ๆ กับชายคนนั้น ในสายตาของเธอคนรวยประเภทนี้ไม่มีประโยชน์อะไรนอกจากใช้เงินไปวัน ๆ และฉี๋อีหยุนก็รู้ดีว่าความหลงใหลของเขานั้นมันไม่มีความจริงใจอะไร ในสายตาของคนประเภทนี้ พวกเขาปฏิบัติกับผู้หญิงราวกับของเล่น และไม่เคยให้ความจริงใจ และตอนนี้หานซานเฉียนได้ครอบครองตำแหน่งที่สำคัญในหัวใจของฉี๋อีหยุนแล้ว ดังนั้นเธอก็ยิ่งไม่มีความประทับใจต่อหานเฟิงหานเฟิงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ฉี๋อีหยุนมองตาเขา และเขาก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ไม่มีผู้หญิงคนไหนเฉยเมยต่อหน้าเขาแบบนี้มาก่อน ตราบใดที่มันเป็นสิ่งที่เขาต้องการ ไม่ว่าต้องใช้วิธีไหนเขาก็จะทำเพื่อให้ได้มันมาแต่สำหรับฉี๋อีหยุน เขายินดีที่จะดูแลเธอเป็นพิเศษ เพราะนี่คือผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขาใจเต้น"คุณรู้ไหมว่าถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น ถ้ากลัาเฉยเมยกับผมแบบนี้ เธอจะไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุขแน่ แต่ผมชอบคุณมาก ดังนั้นผมจึงเต็มใจที่จะให้สิทธิพิเศษกับคุณ" หานเฟิงกล่าวฉี๋อีหยุนส่ายหัวอย่างไม่สนใจ เพราะในหัวของเธอมีแต่หานซานเฉียนเท่านั้น“คุณไม่จำเป็นต้อ
"คุณไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงเหรอ? พี่สาวของผมเป็นผู้หญิง เธอไม่สามารถเป็นหัวหน้าตระกูลได้" หานเฟิงกล่าวฉี๋อีหยุนยิ้มอย่างดูถูก หานเฟิงคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว แต่ตระกูลที่ใหญ่โตอย่างตระกูลหาน แม้จะต้องมอบตำแหน่งให้กับผู้หญิง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมอบให้คนไร้ประโยชน์อย่างเขา“อีกอย่างพี่ของผมเธอดีกับผมมาก เธอไม่มีทางแย่งชิงตำแหน่งนี้กับผมแน่” หานเฟิงพูดต่อ"พี่สาวของคุณดีกับคุณมาก ในเรื่องไหนล่ะ? เธอปล่อยให้คุณทำอะไรก็ได้ใช่ไหม" ฉี๋อีหยุนถาม“แน่นอน ไม่ว่าผมจะอยากเล่นอะไร เธอก็ไม่เคยสนใจ แถมยังช่วยปกปิด ถ้าผมทำผิด พี่ก็จะขอโทษแทนผม ความรักของพี่สาวกับน้องชายที่ลึกซึ้งแบบนี้ คุณที่เป็นลูกคนเดียวคงจะไม่ค่อยเข้าใจ” หานเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มฉี๋อีหยุนส่ายหัว หานเฟิงเหมือนคนโง่ เขาคิดว่าหานเหยียนทำแบบนั้นเพราะหวังดีต่อเขา? ที่หานเหยียนทำแบบนั้นเพราะต้องการทำให้เขากลายเป็นขยะที่ไร้ประโยชน์ และทำให้เขาขาดคุณสมบัติในแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้าตระกูลต่างหาก "คุณส่ายหัวทำไม?" หานเฟิงถามอย่างงงงวย“ที่ฉันส่ายหัวเพราะคิดว่าคุณโง่เหลือเกินน่ะสิ หลายปีมานี้ ความช
หานซานเฉียนออกไปข้างนอกเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง และเมื่อเขากลับมาถึงบ้าน หานเฟิงก็ยังไม่ไปไหน เขาเห็นความโกรธในดวงตาของหานเฟิง หรือว่าเขาจะถูกฉี๋อีหยุนปฏิเสธ?หลังจากที่หานเฟิงรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของหานเหยียนแล้ว เขาก็รู้ว่าเขาไม่ควรมัวแต่เล่นสนุกกับผู้หญิงอีกต่อไป และเขาต้องรีบหาทางทวงสถานะของเขาในตระกูลหานคืนมา ดังนั้นตอนนี้เขาจึงไม่สามารถเสียเวลาไปกับผู้หญิงได้ แต่เขาความชอบที่มีต่อฉี๋อีหยุนของเขานั้นยังไม่เปลี่ยน เนื่องจากตอนนี้ไม่มีเวลามาเล่นเกมรักกับฉี๋อีหยุน เขาจึงต้องมั่นใจระยะห่างของฉี๋อีหยุนกับผู้ชายคนอื่นหานเฟิงเดินไปหาหานซานเฉียนและพูดด้วยท่าทีสูงส่ง "คุณต้องการเงินเท่าไหร่ถึงจะย้ายออกจากที่นี่ ผมไม่ต้องการให้คุณอาศัยอยู่กับฉี๋อีหยุน"หานซานเฉียนชำเลืองมองไปที่ฉี๋อีหยุนแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "พี่ชาย คุณอาจเข้าใจผิด ที่นี่เป็นที่ของผม และเธอเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญ หากคุณต้องการขับไล่ใคร คนนั้นไม่ควรเป็นผม"ฉี๋อีหยุนมองไปที่หานซานเฉียนอย่างขมขื่น ผู้ชายคนนี้บอกว่าเธอเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญ เธอดูแลเขามาตั้งนาน เขาไม่คิดจะรับผิดชอบเธอหน่อยเหรอ? "ผมไม่สนว่าที่นี่จะเป็นที่ขอ
“นายรู้ไหมว่าถ้ากล้ามีเรื่องกับฉันจะมีจุดจบแบบไหน?” หานเฟิงพูดพร้อมกัดฟัน"จุดประสงค์ที่พวกนายมาที่นี่ก็เพื่อทำลายฉันไม่ใช่เหรอ? หรือว่าจุดจบแบบนี้ยังไม่พออีก" หานซานเฉียนกล่าว กล้ามีเรื่องกับเขาอย่างงั้นเหรอ? ในเมื่ออยู่ในสถานการณ์นี้อยู่แล้ว จะมีเรื่องมากกว่านี้อีกได้อย่างไรหานเฟิงพูดไม่ออก ทำได้เพียงรีบกลับออกไป เพราะกลัวว่าจะถูกทุบตีอีกตามคำกล่าวที่ว่า ลูกผู้ชายสิบปีค่อยล้างแค้นก็ยังไม่สาย หานเฟิงคิดว่าไม่จำเป็นต้องเถียงกับหานซานเฉียนถ้าไม่มีตัวช่วยอยู่ข้าง ๆ อย่างไรก็ตาม ไอ้ขยะนี่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ต่อเขาอยู่ดี ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองเดือดร้อนเพราะความอารมณ์ร้าย"ทำไมตระกูลหานในอเมริกาถึงได้มีขยะแบบนี้" หานซานเฉียนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ยังไงก็ถือเป็นสิ่งมีชีวิตอันดับต้น ๆ ในพื้นที่คนจีนของสหรัฐอเมริกา แต่หานเฟิงนั้นไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง จนทำให้หานซานเฉียนมองตระกูลหานในอเมริกาต่างออกไป “เขาก็แค่ถูกฝึกให้เป็นคนไร้ประโยชน์โดยหานเหยียนน่ะสิ” ฉี๋อีหยุนกล่าว“หมายความว่ายังไง?” หานซานเฉียนถามอย่างงงงวย"คุณถามฉันเหรอ? อยากได้คำตอบไหมล่ะ? เมื่อกี้คุ