ลานเล็ก ๆ เงียบลงอีกครั้ง มีเพียงหานซานเฉียนเท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่ ชายหัวโล้นและคนอื่น ๆ ล้วนนอนอยู่บนพื้น เห็นได้ชัดว่าถึงจะถูกล้อมด้วยคนจำนวนมากแต่หานซานเฉียนก็เอาชนะได้ง่ายดายชายหัวโล้นอยู่กับการนองเลือดมานานหลายปี และเขาไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง ในความคิดของเขางานวันนี้ก็เป็นเพียงงานง่าย ๆ คิดไม่ถึงว่ามันจะพังไม่เป็นท่าแบบนี้ สิ่งนี้ทำให้เขามองหานซานเฉียนด้วยความสยดสยองผู้ชายคนนี้คือใครกันแน่ ทำไมถึงได้เก่งกาจขนาดนี้“พวกแกจะฆ่าฉันไม่ใช่เหรอ แต่ดูจากตอนนี้ ฉันควรฆ่าพวกแกเพื่อตัดปัญหาซะเลยดีไหม?” หานซานเฉียนพูดกับชายหัวโล้นชายหัวโล้นตื่นตระหนก แม้ว่าเขาจะเคยฆ่าคน แต่เขาก็ยังคงกลัวความตาย มีแต่คนที่ไม่เคยสัมผัสถึงความตายเท่านั้นที่จะกล้าพูดว่าตัวเองไม่กลัวความตายแต่พอความตายใกล้เข้ามาจริง ๆ จะมีสักกี่คนที่ไม่กลัว"พวกเราแค่รับเงินจากนายจ้างเพื่อช่วยเค้ากำจัดปัญหาเท่านั้น คุณไม่มีความจำเป็นต้องฆ่าพวกเรา" ชายหัวโล้นกล่าวหานซานเฉียนยิ้มเบา ๆ เดินไปหาเขาแล้วพูดว่า "นายรับเงินมาจากใคร?"เมื่อได้ยินประโยคนี้ เจี่ยงหลานที่อยู่ในห้องก็หัวใจเต้นรัว หากคนเหล่านี้ทรยศเธอเพื่อช่วยชีวิต
"รีบฆ่าเร็ว ๆ เข้าสิ ฆ่าไอ้ขยะนี่ทิ้งซะ" เจี่ยงหลานพูดกับตัวเองอย่างกระวนกระวาย ตอนนั้นเอง จู่ ๆ หานซานเฉียนก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และชูใส่ตงฮ้าว “นายฆ่าฉันเร็วกว่า หรือว่าฉันกดโทรศัพท์เร็วกว่ากันนะ?ฉันแค่กดคลิกเดียว รูปของนายก็จะส่งไปให้ฉี๋อีหยุนทันที ถ้าเธอรู้ว่านายเป็นคนฆ่าฉัน เดาสิว่าเธอจะทำยังไง?” หานซานเฉียนกล่าวตงฮ้าวผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็โกรธจัดและกัดฟันพูด "หานซานเฉียน นายยังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า ถึงได้ใช้วิธีที่ไร้ยางอายแบบนี้""ไร้ยางอาย? ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ เพราะว่าฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาย และนี่เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยชีวิตฉันได้" หานซานเฉียนกล่าว นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ชายควรทำ แต่เขารู้ว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตงฮ้าว แล้วทำไมจะต้องพาตัวเองไปตายด้วยล่ะ?ตงฮ้าวอยากจะฉีกหานซานเฉียนเป็นชิ้น ๆ แต่ไม่ว่าเขาจะเคลื่อนไหวเร็วแค่ไหน มันก็ไม่เร็วไปกว่าที่หานซานเฉียนจะกดโทรศัพท์อยู่ดี เหตุผลใหญ่ที่สุดที่ทำให้เขาไม่กล้าฆ่าหานซานเฉียน เพราะเขากลัวว่าฉี๋อีหยุนจะรู้และหากภาพถ่ายถูกส่งจากโทรศัพท์มือถือของหานซานเฉียนไปยังโทรศัพท์ของฉี๋อีหยุน การตายของหานซานเฉียนก็จะถูกเ
เจี่ยงหลานหน้าซีดและขาอ่อนอยู่บนพื้นชายหัวโล้นถูกเหยียบคอจนขาดอากาศหายใจเสียชีวิตทั้งเป็น และหานซานเฉียนบอกว่านี่คือบทเรียนสำหรับเธอ!เจี่ยงหลานรู้ดีว่าประโยคนี้หมายถึงอะไรนี่ไม่ใช่เพียงคำพูดข่มขู่อย่างแน่นอน เพราะเจี่ยงหลานเคยเห็นหนานกงเชียนชิวแขวนคอต่อหน้าต่อตาเธอมาแล้ว ทั้งหมดนี้เพราะถูกหานซานเฉียนบังคับภายใต้หน้ากากที่ดูเป็นคนกระจอกของเขา มีหัวใจที่เย็นชาซ่อนอยู่เจี่ยงหลานรู้ว่าถ้าไม่ใช่เพราะซูหยิงเซี่ย เธอคงตายไปนานแล้วแต่... แต่เธอไม่อยากยอมรับความพ่ายแพ้นี้ ภายใต้ความกลัว เธอยังมีความคิดที่อยากจะฆ่าหานซานเฉียนอยู่หากยอมให้หานซานเฉียนและซูหยิงเซี่ยกลับมาแต่งงานกันใหม่ ตระกูลซูก็จะต้องเชื่อฟังคำพูดของเขา?เจี่ยงหลานเป็นหัวหน้าครอบครัวมานานหลายปี และเธอไม่เต็มใจที่จะยอมจำนนต่อผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไอ้ขยะนี่ เจี่ยงหลานยืนขึ้นด้วยความยากลำบาก เธอเดินออกจากห้องหลังจากที่หานซานเฉียนจากไปชายหัวโล้นตายไปแล้วด้วยฝีมือของหานซานเฉียน และมีพยานอยู่ในที่เกิดเหตุ ความคิดที่จะแก้แค้นหานซานเฉียนถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง“เขาฆ่าเพื่อนของนาย ทำไมถึงยังไม่แจ้งตำรวจอีกล่ะ?” เจี่ย
"คุณปู่หยาง คุณคิดว่ายังไง" หานเหยียนหันไปถามตี้หยาง"หานซานเฉียนเป็นคนที่มีศักยภาพสูงก็จริง ไม่อย่างงั้นเหยียนจุนคงไม่เห็นค่าเขามากนัก แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ เขายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตงฮ้าว" ตี้หยางกล่าว"คุณหนู ตงฮ้าวไม่กล้าขัดคำสั่งฉี๋อีหยุน ดังนั้นแม้ว่าเขาจะต้องการฆ่าหานซานเฉียนมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่กล้าทำโดยที่ฉี๋อีหยุนไม่รู้ บางทีหานซานเฉียนอาจใช้ฉี๋อีหยุนมาขู่ตงฮ้าว เลยทำให้เขาไม่กล้าลงมือก็ได้ครับ” อู๋เฟิงกล่าวหานเหยียนหัวเราะอย่างเหยียดหยามกับคำพูดเหล่านี้ ก่อนจะพูดขึ้นว่า "ขยะคนนี้ถึงกับต้องพึ่งผู้หญิงเพื่อเอาชีวิตรอดอย่างงั้นเหรอ ช่างไร้ประโยชน์ซะจริง ๆ”“คุณหนู ถ้าเราฆ่าฉี๋อีหยุน ตงฮ้าวก็จะไม่ต้องกังวลอะไรอีก” อู๋เฟิงกล่าวข้อเสนอดังกล่าวทำให้หานเหยียนคิดขึ้นมาได้ว่า พ่อของเธอแค่บอกว่าอย่าฆ่าหานซานเฉียน แต่เขาไม่ได้บอกเธอว่าห้ามฆ่าคนอื่นแต่ยังมีอีกหนึ่งปัญหาถ้าตงฮ้าวรู้ว่าใครเป็นคนฆ่าฉี๋อีหยุน เขาจะต้องล้างแค้นให้เธอแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้นเขาอาจไม่สนใจว่าหานซานเฉียนจะเป็นหรือตายแล้วก็ได้"แกมีวิธีทำให้การตายของฉี๋อีหยุนตกอยู่ที่หัวของหานซานเฉียนไหม? ถ้าไม่ สิ่งที่
ท่าทีของหานเหยียนแสดงออกอย่างเห็นได้ชัดว่าเธอไม่สนใจว่าหานเฟิงต้องเจออะไรบ้างกับเรื่องนี้ เธอสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตี้หยางไม่ได้ไม่ชอบสิ่งนี้ แต่เขากลับชื่นชมเธอเสียด้วยซ้ำ แม้ว่าหานเหยียนจะเป็นผู้หญิง แต่ในสายตาของเขา เธอมีคุณสมบัติมากกว่าหานเฟิงในการสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าตระกูลหานในสหรัฐอเมริกาเมื่อเทียบกับหานเฟิงที่เอาแต่ป้วนเปี้ยนอยู่แถวสถานที่แสงสีตลอดทั้งวัน ความสามารถของหานเหยียนนั้นแข็งแกร่งกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย และวิธีการที่ฉลาดเฉียบแหลมของเธอหานเฟิงก็ไม่สามารถเทียบได้ หากตระกูลหานตกอยู่ในมือของหานเฟิง ทรัพย์สินในครอบครัวจะถูกเขาทำลายไม่ช้าก็เร็วช่วงนี้สโมสรมีข่าวเล่าขานในคลับต่าง ๆ ในหยุนเฉิง ชายหนุ่มจากตระกูลร่ำรวยใช้จ่ายมากมาย เขาค่อนข้างเอาแต่ใจ ทิปของเขาไม่ต่ำกว่าห้าหลัก ตามข่าวที่เล่ากันมาในเวลาไม่ถึงเดือน นายน้อยนิรนามคนนี้ใช้เงินไปแล้วเกือบสิบล้าน แค่ให้ของขวัญผู้หญิงพวกนั้นก็หลายล้านแล้วตอนนี้คลับเฮาท์ต่าง ๆ ก็อยากรับแขกคนนี้มาก และพวกผู้หญิงก็ตั้งหน้าตั้งตารออยากมีโอกาสไปกับเขา เพราะเพียงแค่คอยบริการและทำให้เขามีความสุข พวกเธอก็จะได้ร
"เธออยู่ไหน?ในหยุนเฉิงเหรอ!" หานเฟิงถามอย่างกระตือรือร้น เมื่อเทียบกับผู้หญิงตรงหน้าเหล่านี้แล้ว เขาอยากได้ฉี๋อีหยุนมากกว่า และเขาก็เต็มใจที่จะมอบทุ่งดอกไม้นี้ให้กับฉี๋อีหยุนแน่นอนว่า คนที่เจ้าชู้อย่างหานเฟิงจะไม่ล้างมือเพราะฉี๋อีหยุน แต่ก่อนที่เขาจะได้มันมาเขาต้องยับยั้งตัวเองก่อน แต่หลังจากที่ได้มันมาแล้ว เพลย์บอยย่างเขาก็จะไม่หยุดอยู่ที่ผู้หญิงคนเดียวแน่นอน“ใช่น่ะสิ แล้วฉันก็รู้ด้วยว่าเธออาศัยอยู่ที่ไหน นายอยากรู้ไหมล่ะ?” หานเหยียนยิ้ม"พี่สาวที่รัก อย่ามัวแต่เล่นตลกกับฉันเลย รีบ ๆ บอกมาเถอะ หัวใจของฉันมันเริ่มจะคันแล้ว" ท่าทางกระวนกระวายใจของหานเฟิงคล้ายกับเด็กที่กำลังขอของเล่น“ฉันดีกับนายไหม?” หานเหยียนจงใจถาม"ดี ดีแน่นอน ดีกว่าใคร ๆ เลยครับ" หานเฟิงพูดอย่างไม่ลังเล"ปากหวานซะจริง โอเค ฉันจะส่งที่อยู่เธอไปให้ก็แล้วกัน" หลังจากพูดจบ หานเหยียนก็กดวางสายและส่งที่อยู่ปัจจุบันของฉี๋อีหยุนไปให้หานเฟิงและที่อยู่นี้ก็คือบ้านเช่าที่หานซานเฉียนอาศัยอยู่นั่นเองหลังจากที่ได้รับที่อยู่ หานเฟิงก็ไม่มีกระจิตกระใจจะเล่นในคลับเฮาส์อีกต่อไป และเขาก็เตรียมตัวออกไปทันทีผู้หญิงเหล่านั้
ชุมชนที่หานซานเฉียนอาศัยอยู่มีเพียงสี่ครัวเรือนและลิฟต์หนึ่งตัวเท่านั้น หานเฟิงที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการตามจีบผู้หญิงมากนัก เขาตัดสินใจใช้วิธีทำเป็นว่าบังเอิญเจอ โดยไม่ได้คำนึงเลยว่าการบังเอิญนี้จะทำให้ฉี๋อีหยุนสงสัยหรือไม่ เมื่อขึ้นมาถึงชั้นบน หานเฟิงก็กดกริ่งประตูเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกับหานซานเฉียนคนที่อาศัยอยู่ในห้องนี้ไม่ใช่ผู้เช่า แต่เป็นบ้านของพวกเขา สำหรับชีวิตคนเมืองสมัยใหม่ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เพื่อนบ้านจะไม่ได้เจอกันเลยเป็นปี ๆ และไม่มีใครรู้จักใครเลยดังนั้นเมื่อเจ้าของบ้านเปิดประตูออกมา และเห็นหานเฟิง จึงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย"คุณมาหาใคร?" เจ้าของบ้านถามหานเฟิง ไม่นานมานี้มีเพื่อนบ้านที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ ได้ยินว่าเขาเป็นชายหนุ่ม ดังนั้นเขาจึงนึกว่าหานเฟิงคือเพื่อนบ้านคนนั้น“คุณเป็นเจ้าของบ้านนี้เหรอ?” หานเฟิงถามตรง ๆ“ครับ” เจ้าของบ้านรับคำ"ตั้งราคามาสิ ผมต้องการซื้อบ้านของคุณ" หานเฟิงกล่าว วิธีการของเขาเจาะจงตรงประเด็นและรวดเร็วเสมอ ไม่มัวเสียเวลาพูดเรื่องไร้สาระใด ๆสำหรับหานเฟิง สิ่งที่สามารถแก้ไขได้ด้วยเงินนั้นไม่เรียกว่าปัญหาเจ้าของบ้านรู้สึกนึกสนุก เขาไ
“ขายแล้ว? ทำไมจู่ ๆ ถึงขายบ้านล่ะคะ?” มี่เฟยเอ๋อร์ถามด้วยความสงสัย“ฉันก็ไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสได้ย้ายบ้าน แต่ใครจะไปรู้ว่าจู่ ๆ โชคก็มาเยือน วันนี้มีคนมาขอซื้อบ้านฉันในราคาสูงลิ่วเลย” พี่จางกล่าวการมาขอซื้อบ้านในราคาสูงแบบนี้เป็นเรื่องที่แปลกมาก“ต้องให้ราคาสูงแค่ไหน พี่ถึงได้รีบร้อนย้ายออกกันขนาดนี้ พี่หาที่อยู่ใหม่ได้แล้วเหรอคะ?” มี่เฟยเอ๋อร์ถาม"ไม่สำคัญหรอกว่าจะหาที่อยู่ใหม่ได้แล้วหรือยัง สิ่งสำคัญคือถ้าย้ายออกภายในสองวันนี้ เขาจะให้เงินเพิ่มอีกตั้งสองแสน ฉันก็ต้องรีบคว้าเงินสองแสนนี้ไว้ก่อนน่ะสิ" เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ คุณจางก็รู้สึกว่ามันวิเศษมาก เขาสามารถทำรายได้สองแสนภายในสองวัน มันเป็นเรื่องที่เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนมี่เฟยเอ๋อร์มีสีหน้าตกใจ คนรวยที่ไหนจะกล้าได้กล้าเสียขนาดนี้ แถมเงินสองแสนนี้เป็นเพียงเงินค่าขนย้ายที่ให้เพิ่มเท่านั้น แสดงว่าเขาต้องซื้อบ้านหลังนี้ในราคาที่สูงกว่านี้แน่ มี่เฟยเอ๋อร์ไม่ได้ถามอะไรไปมากกว่านั้น แต่เธอรู้ว่าเพื่อนบ้านใหม่คนนี้ต้องเป็นเศรษฐีแน่ ๆแต่ในเมื่อเขารวยขนาดนี้ ทำไมเขาถึงไม่เลือกย่านระดับไฮเอนด์ แต่กลับมาซื้อบ้านที่นี่