เจี่ยงหลานหน้าซีดและขาอ่อนอยู่บนพื้นชายหัวโล้นถูกเหยียบคอจนขาดอากาศหายใจเสียชีวิตทั้งเป็น และหานซานเฉียนบอกว่านี่คือบทเรียนสำหรับเธอ!เจี่ยงหลานรู้ดีว่าประโยคนี้หมายถึงอะไรนี่ไม่ใช่เพียงคำพูดข่มขู่อย่างแน่นอน เพราะเจี่ยงหลานเคยเห็นหนานกงเชียนชิวแขวนคอต่อหน้าต่อตาเธอมาแล้ว ทั้งหมดนี้เพราะถูกหานซานเฉียนบังคับภายใต้หน้ากากที่ดูเป็นคนกระจอกของเขา มีหัวใจที่เย็นชาซ่อนอยู่เจี่ยงหลานรู้ว่าถ้าไม่ใช่เพราะซูหยิงเซี่ย เธอคงตายไปนานแล้วแต่... แต่เธอไม่อยากยอมรับความพ่ายแพ้นี้ ภายใต้ความกลัว เธอยังมีความคิดที่อยากจะฆ่าหานซานเฉียนอยู่หากยอมให้หานซานเฉียนและซูหยิงเซี่ยกลับมาแต่งงานกันใหม่ ตระกูลซูก็จะต้องเชื่อฟังคำพูดของเขา?เจี่ยงหลานเป็นหัวหน้าครอบครัวมานานหลายปี และเธอไม่เต็มใจที่จะยอมจำนนต่อผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไอ้ขยะนี่ เจี่ยงหลานยืนขึ้นด้วยความยากลำบาก เธอเดินออกจากห้องหลังจากที่หานซานเฉียนจากไปชายหัวโล้นตายไปแล้วด้วยฝีมือของหานซานเฉียน และมีพยานอยู่ในที่เกิดเหตุ ความคิดที่จะแก้แค้นหานซานเฉียนถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง“เขาฆ่าเพื่อนของนาย ทำไมถึงยังไม่แจ้งตำรวจอีกล่ะ?” เจี่ย
"คุณปู่หยาง คุณคิดว่ายังไง" หานเหยียนหันไปถามตี้หยาง"หานซานเฉียนเป็นคนที่มีศักยภาพสูงก็จริง ไม่อย่างงั้นเหยียนจุนคงไม่เห็นค่าเขามากนัก แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ เขายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตงฮ้าว" ตี้หยางกล่าว"คุณหนู ตงฮ้าวไม่กล้าขัดคำสั่งฉี๋อีหยุน ดังนั้นแม้ว่าเขาจะต้องการฆ่าหานซานเฉียนมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่กล้าทำโดยที่ฉี๋อีหยุนไม่รู้ บางทีหานซานเฉียนอาจใช้ฉี๋อีหยุนมาขู่ตงฮ้าว เลยทำให้เขาไม่กล้าลงมือก็ได้ครับ” อู๋เฟิงกล่าวหานเหยียนหัวเราะอย่างเหยียดหยามกับคำพูดเหล่านี้ ก่อนจะพูดขึ้นว่า "ขยะคนนี้ถึงกับต้องพึ่งผู้หญิงเพื่อเอาชีวิตรอดอย่างงั้นเหรอ ช่างไร้ประโยชน์ซะจริง ๆ”“คุณหนู ถ้าเราฆ่าฉี๋อีหยุน ตงฮ้าวก็จะไม่ต้องกังวลอะไรอีก” อู๋เฟิงกล่าวข้อเสนอดังกล่าวทำให้หานเหยียนคิดขึ้นมาได้ว่า พ่อของเธอแค่บอกว่าอย่าฆ่าหานซานเฉียน แต่เขาไม่ได้บอกเธอว่าห้ามฆ่าคนอื่นแต่ยังมีอีกหนึ่งปัญหาถ้าตงฮ้าวรู้ว่าใครเป็นคนฆ่าฉี๋อีหยุน เขาจะต้องล้างแค้นให้เธอแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้นเขาอาจไม่สนใจว่าหานซานเฉียนจะเป็นหรือตายแล้วก็ได้"แกมีวิธีทำให้การตายของฉี๋อีหยุนตกอยู่ที่หัวของหานซานเฉียนไหม? ถ้าไม่ สิ่งที่
ท่าทีของหานเหยียนแสดงออกอย่างเห็นได้ชัดว่าเธอไม่สนใจว่าหานเฟิงต้องเจออะไรบ้างกับเรื่องนี้ เธอสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตี้หยางไม่ได้ไม่ชอบสิ่งนี้ แต่เขากลับชื่นชมเธอเสียด้วยซ้ำ แม้ว่าหานเหยียนจะเป็นผู้หญิง แต่ในสายตาของเขา เธอมีคุณสมบัติมากกว่าหานเฟิงในการสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าตระกูลหานในสหรัฐอเมริกาเมื่อเทียบกับหานเฟิงที่เอาแต่ป้วนเปี้ยนอยู่แถวสถานที่แสงสีตลอดทั้งวัน ความสามารถของหานเหยียนนั้นแข็งแกร่งกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย และวิธีการที่ฉลาดเฉียบแหลมของเธอหานเฟิงก็ไม่สามารถเทียบได้ หากตระกูลหานตกอยู่ในมือของหานเฟิง ทรัพย์สินในครอบครัวจะถูกเขาทำลายไม่ช้าก็เร็วช่วงนี้สโมสรมีข่าวเล่าขานในคลับต่าง ๆ ในหยุนเฉิง ชายหนุ่มจากตระกูลร่ำรวยใช้จ่ายมากมาย เขาค่อนข้างเอาแต่ใจ ทิปของเขาไม่ต่ำกว่าห้าหลัก ตามข่าวที่เล่ากันมาในเวลาไม่ถึงเดือน นายน้อยนิรนามคนนี้ใช้เงินไปแล้วเกือบสิบล้าน แค่ให้ของขวัญผู้หญิงพวกนั้นก็หลายล้านแล้วตอนนี้คลับเฮาท์ต่าง ๆ ก็อยากรับแขกคนนี้มาก และพวกผู้หญิงก็ตั้งหน้าตั้งตารออยากมีโอกาสไปกับเขา เพราะเพียงแค่คอยบริการและทำให้เขามีความสุข พวกเธอก็จะได้ร
"เธออยู่ไหน?ในหยุนเฉิงเหรอ!" หานเฟิงถามอย่างกระตือรือร้น เมื่อเทียบกับผู้หญิงตรงหน้าเหล่านี้แล้ว เขาอยากได้ฉี๋อีหยุนมากกว่า และเขาก็เต็มใจที่จะมอบทุ่งดอกไม้นี้ให้กับฉี๋อีหยุนแน่นอนว่า คนที่เจ้าชู้อย่างหานเฟิงจะไม่ล้างมือเพราะฉี๋อีหยุน แต่ก่อนที่เขาจะได้มันมาเขาต้องยับยั้งตัวเองก่อน แต่หลังจากที่ได้มันมาแล้ว เพลย์บอยย่างเขาก็จะไม่หยุดอยู่ที่ผู้หญิงคนเดียวแน่นอน“ใช่น่ะสิ แล้วฉันก็รู้ด้วยว่าเธออาศัยอยู่ที่ไหน นายอยากรู้ไหมล่ะ?” หานเหยียนยิ้ม"พี่สาวที่รัก อย่ามัวแต่เล่นตลกกับฉันเลย รีบ ๆ บอกมาเถอะ หัวใจของฉันมันเริ่มจะคันแล้ว" ท่าทางกระวนกระวายใจของหานเฟิงคล้ายกับเด็กที่กำลังขอของเล่น“ฉันดีกับนายไหม?” หานเหยียนจงใจถาม"ดี ดีแน่นอน ดีกว่าใคร ๆ เลยครับ" หานเฟิงพูดอย่างไม่ลังเล"ปากหวานซะจริง โอเค ฉันจะส่งที่อยู่เธอไปให้ก็แล้วกัน" หลังจากพูดจบ หานเหยียนก็กดวางสายและส่งที่อยู่ปัจจุบันของฉี๋อีหยุนไปให้หานเฟิงและที่อยู่นี้ก็คือบ้านเช่าที่หานซานเฉียนอาศัยอยู่นั่นเองหลังจากที่ได้รับที่อยู่ หานเฟิงก็ไม่มีกระจิตกระใจจะเล่นในคลับเฮาส์อีกต่อไป และเขาก็เตรียมตัวออกไปทันทีผู้หญิงเหล่านั้
ชุมชนที่หานซานเฉียนอาศัยอยู่มีเพียงสี่ครัวเรือนและลิฟต์หนึ่งตัวเท่านั้น หานเฟิงที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการตามจีบผู้หญิงมากนัก เขาตัดสินใจใช้วิธีทำเป็นว่าบังเอิญเจอ โดยไม่ได้คำนึงเลยว่าการบังเอิญนี้จะทำให้ฉี๋อีหยุนสงสัยหรือไม่ เมื่อขึ้นมาถึงชั้นบน หานเฟิงก็กดกริ่งประตูเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกับหานซานเฉียนคนที่อาศัยอยู่ในห้องนี้ไม่ใช่ผู้เช่า แต่เป็นบ้านของพวกเขา สำหรับชีวิตคนเมืองสมัยใหม่ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เพื่อนบ้านจะไม่ได้เจอกันเลยเป็นปี ๆ และไม่มีใครรู้จักใครเลยดังนั้นเมื่อเจ้าของบ้านเปิดประตูออกมา และเห็นหานเฟิง จึงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย"คุณมาหาใคร?" เจ้าของบ้านถามหานเฟิง ไม่นานมานี้มีเพื่อนบ้านที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ ได้ยินว่าเขาเป็นชายหนุ่ม ดังนั้นเขาจึงนึกว่าหานเฟิงคือเพื่อนบ้านคนนั้น“คุณเป็นเจ้าของบ้านนี้เหรอ?” หานเฟิงถามตรง ๆ“ครับ” เจ้าของบ้านรับคำ"ตั้งราคามาสิ ผมต้องการซื้อบ้านของคุณ" หานเฟิงกล่าว วิธีการของเขาเจาะจงตรงประเด็นและรวดเร็วเสมอ ไม่มัวเสียเวลาพูดเรื่องไร้สาระใด ๆสำหรับหานเฟิง สิ่งที่สามารถแก้ไขได้ด้วยเงินนั้นไม่เรียกว่าปัญหาเจ้าของบ้านรู้สึกนึกสนุก เขาไ
“ขายแล้ว? ทำไมจู่ ๆ ถึงขายบ้านล่ะคะ?” มี่เฟยเอ๋อร์ถามด้วยความสงสัย“ฉันก็ไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสได้ย้ายบ้าน แต่ใครจะไปรู้ว่าจู่ ๆ โชคก็มาเยือน วันนี้มีคนมาขอซื้อบ้านฉันในราคาสูงลิ่วเลย” พี่จางกล่าวการมาขอซื้อบ้านในราคาสูงแบบนี้เป็นเรื่องที่แปลกมาก“ต้องให้ราคาสูงแค่ไหน พี่ถึงได้รีบร้อนย้ายออกกันขนาดนี้ พี่หาที่อยู่ใหม่ได้แล้วเหรอคะ?” มี่เฟยเอ๋อร์ถาม"ไม่สำคัญหรอกว่าจะหาที่อยู่ใหม่ได้แล้วหรือยัง สิ่งสำคัญคือถ้าย้ายออกภายในสองวันนี้ เขาจะให้เงินเพิ่มอีกตั้งสองแสน ฉันก็ต้องรีบคว้าเงินสองแสนนี้ไว้ก่อนน่ะสิ" เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ คุณจางก็รู้สึกว่ามันวิเศษมาก เขาสามารถทำรายได้สองแสนภายในสองวัน มันเป็นเรื่องที่เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนมี่เฟยเอ๋อร์มีสีหน้าตกใจ คนรวยที่ไหนจะกล้าได้กล้าเสียขนาดนี้ แถมเงินสองแสนนี้เป็นเพียงเงินค่าขนย้ายที่ให้เพิ่มเท่านั้น แสดงว่าเขาต้องซื้อบ้านหลังนี้ในราคาที่สูงกว่านี้แน่ มี่เฟยเอ๋อร์ไม่ได้ถามอะไรไปมากกว่านั้น แต่เธอรู้ว่าเพื่อนบ้านใหม่คนนี้ต้องเป็นเศรษฐีแน่ ๆแต่ในเมื่อเขารวยขนาดนี้ ทำไมเขาถึงไม่เลือกย่านระดับไฮเอนด์ แต่กลับมาซื้อบ้านที่นี่
ตกเย็น เมื่อหานซานเฉียนกลับมาถึงบ้าน เขาก็พบว่าเพื่อนบ้านได้ย้ายไปแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปถามถึงเหตุผล เพราะสำหรับเขาก็ไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่เป็นประจำอยู่แล้ว ดังนั้นเพื่อนบ้านจะเป็นใครก็ไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับเขานักฉี๋อีหยุนกำลังยุ่งอยู่ในครัว ทั่วทั้งห้องอบอวนไปด้วยกลิ่นหอม หานซานเฉียนชื่นชมทักษะการทำอาหารของเธอมาก แม้ว่าหานซานเฉียนจะเป็นคนที่ทำอาหารเก่งเช่นเดียวกัน แต่เมื่อเทียบกับฉี๋อีหยุนแล้ว ฝีมือยังห่างจากเธออยู่มาก ในอีกแง่หนึ่ง หานซานเฉียนและฉี๋อีหยุนเป็นคนประเภทเดียวกัน พวกเขาเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่พวกเขามีความเชี่ยวชาญในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของชีวิต พวกเขาคุ้นเคยกับสิ่งที่คนรับใช้ทำ และพวกเขาก็รู้จักราคาของใช้ในชีวิตประจำวันเป็นอย่างดี “เพื่อนบ้านกำลังจะย้ายออก คุณรู้เรื่องหรือเปล่า?” หานซานเฉียนยืนอยู่ที่ประตูห้องครัวถามฉี๋อีหยุน "ฉันได้ยินเสียงเอะอะโวยวายข้างนอกทั้งวัน แต่ก็ไม่ได้ออกไปดู" ฉี๋อีหยุนพูด ตั้งแต่เธอมาที่นี่เธอก็อยู่แต่ในบ้านไม่อยากออกไปไหน เพราะในบ้านมีกลิ่นของหานซานเฉียน ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกว่าได้ใกล้ชิดกับเขามากขึ้น และอีกอย่างตอนนี้เธอก็ไม่มีอะไรท
ดวงตาของเพื่อนบ้านใหม่คนนี้ดูช่างร้อนแรง และฉี๋อีหยุนก็มีสีหน้าไม่น่าเชื่อเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าทั้งสองรู้จักกัน และจุดประสงค์ของเพื่อนบ้านใหม่คนนี้อาจไม่ธรรมดา“คุณเองเหรอ!” ฉี๋อีหยุนพูด"อีหยุน ไม่นึกเลยว่าคุณก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน ผมเพิ่งซื้อบ้านหลังข้าง ๆ ตั้งแต่วันนี้เราเป็นเพื่อนบ้านกันแล้วนะ" หานเฟิงพูดด้วยความประหลาดใจฉี๋อีหยุนขมวดคิ้ว ทักษะการแสดงของหานเฟิงเต็มไปด้วยช่องโหว่ นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน"ดูเหมือนว่าพวกคุณจะรู้จักกันสินะ ถ้าอย่างนั้นพวกคุณก็คุยกันก็แล้วกัน ผมจะออกไปเดินเล่นข้างนอกสักหน่อย อ้อใช่ เธอกับผมเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น คุณอย่าเข้าใจผิดล่ะ" หานซานเฉียนกล่าวกับหานเฟิงด้วยรอยยิ้มแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าหานเฟิงเคือใคร แต่หานซานเฉียนก็ค่อนข้างรู้ชอบกับการปรากฏตัวของเขา หากเขาตามจีบฉี๋อีหยุนจนเธอหวั่นไหว ปัญหาของเขาก็จะลดน้อยลงในทำนองเดียวกัน หานเฟิงไม่รู้ว่าหานซานเฉียนคือใคร เพราะหลังจากที่มาถึงหยุนเฉิง เขาก็หมกมุ่นอยู่กับผู้หญิง และเขาก็ไม่เคยกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่หานเหยียนต้องจัดการหานซานเฉียน ดังนั้นเขาจึงไม่เคยเจอหานซานเฉียนมาก่อนหานเฟิงรู้สึกมีค