“แม้ว่าจะไม่มีเงินก็ต้องแสร้งทำเป็นมหาเศรษฐี ไม่เช่นนั้นก็จะถูกคนอื่นดูถูกได้ง่ายครับ” ชิงอวิ๋นพูด“รูปลักษณ์ของนายแบบนี้ถึงจะให้เงินนายสิบล้าน ก็ไม่ได้เหมือนเศรษฐีขึ้นมาหรอก เสแสร้งไปจะมีประโยชน์อะไร?” หานซานเฉียนกล่าวดูถูกชิงอวิ๋นเสียความมั่นใจไปทันที เขาก้มหัวลงและพูดว่า “พี่ใหญ่ ขอบคุณที่พี่เจียดเวลาจากงานยุ่ง ๆ มาโจมตีผมนะครับ”“ไม่ต้องเกรงใจ ถ้านายต้องการอีกเมื่อไหร่ก็บอก” เมื่อพูดจบหานซานเฉียนก็รู้สึกตกใจ เขาเพิ่งจะใกล้ชิดกับชิงอวิ๋นได้เพียงวันเดียวเท่านั้น นึกไม่ถึงเลยว่าจะพูดแบบนั้นไป แต่ก็อย่างว่าคนเราเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพแวดล้อมที่เราอยู่ด้วยสำหรับหานซานเฉียน ในงานเลี้ยงเต็มไปด้วยคนแปลกหน้าที่เขาไม่รู้จัก แต่ก็สามารถแน่ใจได้ว่าสถานะของคนพวกนี้ในเมืองหลงชื่อคงไม่ธรรมดาแน่ และตามสถานการณ์ปัจจุบันของหลงชื่อ คนพวกนี้จะต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลู่หงกวาง และมีความสัมพัธ์ที่ไม่ดีกับหนิงซิ่งเผิงอย่างแน่นอน เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้จริง ๆ หานซานเฉียนดูก็รู้ว่ายังมีการแข่งขันลับ ๆ อีกไม่น้อยหานซานเฉียนเข้าใจเรื่องของโลกธุรกิจอย่างถ่องแท้ เขาหมกมุ่นอยู่กับอยู่กับห้างสรรพส
“คุณผู้ชายครับ โปรดแสดงบัตรเชิญของคุณด้วยครับ” หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยพูดกับหานซานเฉียน“ไม่มี” หานซานเฉียนพูดพลางแบมือ“ไม่มีงั้นเหรอ?” หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยขมวดคิ้วอย่างเคร่งขรึม บัตรเชิญของลู่หงกวางนั้นมีค่ามาก ต่อให้ใช้แล้วก็ยังมีมูลค่าในการเก็บสะสมอยู่ดี เพราะว่าบัตรเชิญนี้เทียบเท่ากับเกียรติยศในเมืองหลงชื่อ การที่สามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงที่ลู่หงกวางจัดขึ้นได้นั้น สามารถกระตุ้นความสนใจของผู้คนได้ ดังนั้นหลายคนจึงเก็บบัตรเชิญไว้อย่างดี แต่คนที่อยู่ตรงหน้ากลับบอกว่าไม่มีนั่น ก็แสดงว่าเขาไม่ได้รับบัตรเชิญตั้งแต่แรก“เขาแอบปะปนเข้ามา ไล่เขาออกไปเลยค่ะ” ชิวมู่พูดด้วยรอยยิ้มเย็นชาหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยเหลือบมองชิวมู่ ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนี้ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง ตอนนี้คนในห้องจัดเลี้ยงทั้งหมดจะมองมาที่นี่เป็นจุดเดียวได้อย่างไร ถ้าลู่หงกวางรู้เรื่องนี้ เขาไม่เพียงแต่จะตกงานเท่านั้น แต่ในอนาคตก็จะอยู่เมืองหลงชื่อยากขึ้นด้วย“คุณสองคนอย่ามาสร้างปัญหาที่นี่ ตามผมออกมาดีเถอะครับ ไม่อย่างนั้นผมไม่รับรองว่าพวกคุณจะไม่เจ็บตัว” หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยกล่าวหานซานเฉ
ผู้ช่วยรู้สึกงุนงง ลู่หงกวางปฏิบัติต่อชายหนุ่มคนนี้ในฐานะแขกวีไอพีไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงไม่ช่วยเขาแก้ปัญหาล่ะ?ความคิดของลู่หงกวางนั้นไม่ใช่สิ่งที่คนแบบผู้ช่วยจะสามารถเข้าใจได้อยู่แล้วแข่งขันกับหนิงซิ่งเผิงมาหลายปี ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะมาโดยตลอด ไม่เคยได้ครองชัยชนะแบบขาดลอยเลย และลู่หงกวางก็ยังไม่เจอช่วงโหว่ที่จะทำให้เขาชนะได้แต่เรื่องวันนี้ถือเป็นช่องโหว่สำหรับลู่หงกวางเขาไม่รู้สถานะที่แท้จริงของหานซานเฉียน แต่เขารู้ว่าพลังอำนาจของหานซานเฉียนนั้นน่าทึ่งมาก หากหนิงอวี่ทำให้เขาต้องขุ่นเคืองใจ มันก็เหมือนกับหนิงซิ่งเผิงทำให้ชายที่มีอำนาจคนนี้ไม่พอใจไปด้วยไม่ใช่เหรอ?นี่เป็นโอกาสที่ฟ้าประทานมาให้ แล้วคนเฉลียวฉลาดอย่างลู่หงกวางจะพลาดได้อย่างไร?“มีคุณชายหนิงเป็นพยาน ฉันคงไม่จำเป็นต้องตรวจสอบตัวตนของพวกนายสองคนแล้ว จะออกไปเองหรือต้องให้ฉันกำลัง?” หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยพูดกับหานซานเฉียนหานซานเฉียนมองไปที่หนิงอวี่ และพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “หนิงอวี่ ระหว่างนายกับฉันไม่ได้มีเรื่องบาดหมางอะไรกัน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับนาย”“แน่นอนว่ามันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน แต่ฉันก็แค่ไม่
ชิวมู่ถูฝ่ามืออย่างตื่นเต้นที่สามารถกระตุ้นความขัดแย้งระหว่างหนิงอวี่กับหานซานเฉียนได้ หานซานเฉียนจบไม่สวยแน่ และเธอมีความสุขที่ได้เห็นสิ่งนี้ เธอต้องการให้คนขับรถแบบเขารู้ถึงจุดจบที่กล้ามามีเรื่องกับเธอ“นึกไม่ถึงเลยว่าแกจะกล้าทำร้ายนายน้อยหนิงอวี่ แกไม่รู้หรือไงว่านายน้อยหนิงอวี่เป็นใคร?” ชิวมู่เติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟ จากนั้นก็วิ่งไปหาหนิงอวี่ พลางแสร้งทำทีว่าเป็นห่วงหนิงอวี่ขาดสติไปแล้ว เขาถูกความโมโหครอบงำจนอยากจะฆ่าหานซานเฉียนเดี๋ยวนี้เลยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะกล้าลงมือกับหนิงอวี่ แม้ว่าตระกูลหนิงจะเป็นคู่ต่อสู้ของลู่หงกวาง แต่การที่หนิงอวี่ได้รับบาดเจ็บในโรงแรมลู่เฟิง เขาจะอธิบายเรื่องนี้กับหนิงซิ่งเผิงอย่างไร?เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนรีบกรูกันเข้าไปเพื่อที่จะปราบปรามหานซานเฉียน แต่ทันใดนั้นก็มีน้ำเสียงอันทรงพลังดังขึ้น“พวกแกคิดจะทำอะไร!” ลู่หงกวางใช้จังหวะนี้ออกหน้า หนิงอวี่ล่วงเกินหานซานเฉียนแล้ว และไม่ควรลากคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอีก “ท่านประธานลู่”“ประธานลู่”“ประธานลู่”เสียงตะโกนทักทายด้วยความเคารพดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลู่
มุมปากของลู่หงกวางยกขึ้นเล็กน้อย เขาคาดไว้แล้วว่าหนิงซิ่งเผิงต้องมีท่าทีแบบนี้ แม้ว่าหนิงอวี่จะพังโรงแรมลู่เฟิงของเขา แต่หนิงซิงเผิงก็คงจะไม่ใส่ใจมากนัก ไม่แน่ว่าเขาอาจจะชมเชยหนิงอวี่ด้วยซ้ำ แต่วันนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคนระดับสูง เพราะงั้นมันไม่ใช่เรื่องปกติเหมือนทุกครั้ง“หนิงซิ่งเผิง นี่ฉันหวังดีกับนายนะ วันนี้ฉันเชิญคุณหานมาอย่างยากลำบาก แต่ลูกชายของนายกับกล้าสร้างปัญหากับเขา เรื่องนี้ฉันช่วยไม่ได้หรอกนะ” ลู่หงกวางกล่าว“คุณหานงั้นเหรอ? นายพูดว่าใครนะ!” หนิงซิ่งเผิงที่อยู่ปลายสายยืนขึ้นทันทีด้วยสีหน้าตื่นตระหนก“นายจะให้ฉันหมายถึงใครได้อีกล่ะ? แค่นี้นะ” ลู่หงกวางพูดจบก็วางสายไปหนิงซิ่งเผิงวิญญาณหลุดออกจากร่างไปชั่วขนะ คุณหาน หานซานเฉียน!ถ้าไม่ใช่หานซานเฉียนแล้วจะเป็นใครได้อีกหนิงอวี่เจ้าลูกไม่รักดี กล้าไปล่วงเกินหานซานเฉียนอย่างนั้นเหรอ!มือของหนิงซิงเผิงสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เขาไม่รู้หรอกว่าหานซานเฉียนเป็นใคร แต่พลังงานอำนาจของชายหนุ่มคนนี้ไม่มีใครในเมืองหลงชื่อที่สามารถเทียบได้ ไม่ต้องพูดถึงตระกูลหนิงเลย ถึงตระกูลหนิงกับตระกูลลู่จะร่วมมือกัน ก็เป็นได้เพียงแค่ขยะไร
ในสายตาของคนนอก นี่เป็นการต่อสู้ของระดับเทพเลยก็ว่าได้ เพราะความขัดแย้งนั้นเกิดจากสองยักษ์ใหญ่ในหลงชื่อ ตระกูลลู่ไม่ใช่ใครจะมีเรื่องได้ง่าย ๆ ตระกูลหนิงเองก็จะเช่นกันการที่หนิงซิ่งเผิงต่อยหน้าหนิงอวี่อาจจะเป็นเพียงแค่กลอุบาย หลังจากที่เขาต่อว่าหนิงอวี่แล้ว ก็หันมาหาลู่หงกวางด้วยท่าทีที่สงบขึ้นวิธีการควบคุมคนของตัวเองก่อน แล้วค่อยจัดการคนอื่นนี้ทำให้คนที่พบเห็นต่างก็รู้สึกเคารพชื่นชมไม่น้อย คงมีเพียงคนอย่างหนิงซิ่งเผิงเท่านั้นที่จะคิดวิธีแบบนี้ออกมาได้แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าหนิงซิ่งเผิงเดินไปหาหานซานเฉียน แทนที่จะเป็นลู่หงกวางพวกเขาต่างก็พึมพำกันในใจหรือว่าเขาตั้งใจจะสั่งสอนชายหนุ่มคนนี้ก่อน แล้วค่อยเอาเรื่องลู่หงกวาง?“หนิงซิ่งเผิงนี่สมกับที่เป็นคนที่เต็มไปด้วยแผนการจริง ๆ ฉันไม่สามารถคาดเดาความคิดของเขาได้เลย”“ถ้านายเข้าใจความคิดของเขา นายจะยังอยู่ในตำแหน่งปัจจุบันนี้อยู่ไหมล่ะ?”“การที่หนิงซิ่งเผิงสามารถพัฒนาตระกูลหนิงให้ใหญ่โตเช่นนี้ได้ล้วนมีเหตุผลอยู่แล้ว คอยดูกันเถอะ ฉันเองก็อยากเห็นเหมือนกันว่าเขาจะมีเล่ห์เหลี่ยมอะไร ไม่แน่ว่าวันนี้ลู่หงกวางอาจต้องเป็นฝ่ายชดใช้ให้เขาด้
“ไอ้ลูกไม่รักดี นี่แกกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่ รีบขอโทษคุณชายหานเดี๋ยวนี้” หนิงซิ่งเผิงกล่าวด้วยความโมโห“ไม่ ไม่มีทาง ผมไม่มีทางขอโทษไอ้ขยะนี่หรอก พ่อครับ พ่อเริ่มกลัวลู่หงกวางตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” หนิงอวี่พูดอย่างดูถูก จนถึงตอนนี้เขาก็ยังคิดว่าที่พ่อของเขามีท่าทีแบบนี้เป็นเพราะลู่หงกวางแต่ในความคิดของเขา ลู่หงกวางมีอะไรน่ากลัวกัน? แล้วหนิงซิ่งเผิงเริ่มกลัวลู่หงกวางตั้งแต่เมื่อไหร่?หนิงซิ่งเผิงตบหน้าของหนิงอวี่ พร้อมคว้าผมของหนิงอวี่ด้วยความโมโห เขาพูดอย่างเดือดดาลว่า “คุกเข่าลงและขอโทษคุณชายหานเดี๋ยวนี้”ในตอนนี้สภาพจิตใจของหนิงซิ่งเผิงอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมากเหมือนกับเดินอยู่บนน้ำแข็งบาง ๆ ที่ใต้น้ำแข็งนั้นเป็นเหวลึก หากลื่นตกลงไป ตระกูลหนิงทั้งหมดได้จบเห่แน่หนิงอวี่ไม่เข้าใจความรู้สึกของหนิงซิ่งเผิง เขายิ่งไม่เข้าใจว่าหนิงซิ่งเผิงกำลังกลัวอะไรกันแน่ เขารักศักดิ์ศรีตัวเองมากจะให้คุกเข่าให้ใครง่าย ๆ ได้อย่างไร?ท่าทีของหนิงอวี่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขายอมตายดีกว่าจะคุกเข่าขอโทษ!“พ่อ ผมไม่รู้ว่าวันนี้พ่อเป็นบ้าอะไรกัน แต่ถ้าจะให้ผมคุกเข่าให้คนไร้ค่าแบบนี้ ผมไม่มีทางท
คำพูดที่ดูเหมือนยอมรับชะตากรรมตัวเองของหนิงซิ่งเผิง ทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นในฝูงชนอีกครั้ง เขาไม่แม้แต่จะแสดงการต่อต้านออกมาเลย นั่นแสดงให้เห็นว่ามีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างเขากับคุณชายหาน ถึงทำให้เขาดูไร้พลังเช่นนี้ แต่ไม่น่าแปลกใจนัก เพราะคนที่มีอำนาจถึงขนาดที่สามารถทำให้เปาจิ่งจงและเฉินข่ายฮว๋าออกหน้าพร้อมกันได้แบบนี้ หนิงซิ่งเผิงจะมีโอกาสต่อต้านได้อย่างไร?ในเวลานี้ อยู่ ๆ หนิงอวี่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้อีกต่อไป เขาตระหนักได้ว่าชีวิตทายาทเศรษฐีของเขาอาจเปลี่ยนไปอย่างจากเหตุการณ์นี้ ทั้งหมดเป็นเพราะชิวมู่ ถ้าไม่ใช่เพราะชิวมู่ เมื่อวานเขาคงไม่มีเรื่องบาดหมางกับหานซานเฉียน ถ้าไม่ใช่เพราะชิวมู่ วันนี้เขาก็คงไม่ต้องออกหน้าในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองแบบนี้หนิงอวี่เดินไปข้าง ๆ ชิวมู่ พร้อมกับคว้าผมของเธอไว้และพูดว่า “นางตัวดี เพราะเธอที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ ฉันจะให้เธอชดใช้ด้วยชีวิต”ชิวมู่รู้สึกหวาดกลัวมาสักพักแล้ว ตั้งแต่ตอนที่หนิงซิ่งเผิงกล่าวขอโทษ เธอก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ชอบมาพากลแล้ว ยิ่งตอนที่หนิงเซี่ยเผิงคุกเข่าขอโทษเธอ และเมื่อเปาจิ่งจงกับเฉินข่ายฮว๋าปรากฏตัวที่งา