คำพูดที่ดูเหมือนยอมรับชะตากรรมตัวเองของหนิงซิ่งเผิง ทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นในฝูงชนอีกครั้ง เขาไม่แม้แต่จะแสดงการต่อต้านออกมาเลย นั่นแสดงให้เห็นว่ามีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างเขากับคุณชายหาน ถึงทำให้เขาดูไร้พลังเช่นนี้ แต่ไม่น่าแปลกใจนัก เพราะคนที่มีอำนาจถึงขนาดที่สามารถทำให้เปาจิ่งจงและเฉินข่ายฮว๋าออกหน้าพร้อมกันได้แบบนี้ หนิงซิ่งเผิงจะมีโอกาสต่อต้านได้อย่างไร?ในเวลานี้ อยู่ ๆ หนิงอวี่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้อีกต่อไป เขาตระหนักได้ว่าชีวิตทายาทเศรษฐีของเขาอาจเปลี่ยนไปอย่างจากเหตุการณ์นี้ ทั้งหมดเป็นเพราะชิวมู่ ถ้าไม่ใช่เพราะชิวมู่ เมื่อวานเขาคงไม่มีเรื่องบาดหมางกับหานซานเฉียน ถ้าไม่ใช่เพราะชิวมู่ วันนี้เขาก็คงไม่ต้องออกหน้าในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองแบบนี้หนิงอวี่เดินไปข้าง ๆ ชิวมู่ พร้อมกับคว้าผมของเธอไว้และพูดว่า “นางตัวดี เพราะเธอที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ ฉันจะให้เธอชดใช้ด้วยชีวิต”ชิวมู่รู้สึกหวาดกลัวมาสักพักแล้ว ตั้งแต่ตอนที่หนิงซิ่งเผิงกล่าวขอโทษ เธอก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ชอบมาพากลแล้ว ยิ่งตอนที่หนิงเซี่ยเผิงคุกเข่าขอโทษเธอ และเมื่อเปาจิ่งจงกับเฉินข่ายฮว๋าปรากฏตัวที่งา
ตระกูลหนิงกำลังจะถูกทำลาย ตระกูลลู่จะสามารถปกป้องได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่าลู่หงกวางจะจัดการอย่างไรเมื่อตระกูลลู่กับตระกูลหนิงทั้งสองถูกทำลายลง ถ้าอย่างนั้นเค้กก้อนโตก้อนนี้ในเมืองหลงชื่อจะเกิดการแย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่ง สถานการณ์ที่เห็นกับตานี้ทำให้ผู้คนเฝ้ารอจังหวะในการคว้าโอกาสสำคัญโดยไม่รีบร้อน พวกเขายังคงหวังว่าลู่หงกวางจะทำความผิดพลาดจนเกิดความยุ่งเหยิงสักครั้ง แล้วพวกเขาจะหาโอกาสแบ่งเค้กชิ้นนี้ออกเป็นชิ้น ๆ“พี่ใหญ่ พี่ก็ภูมิฐานเกินไป ผมเลือกใช้ชีวิตอยู่ไปวัน ๆ กับพี่เป็นข้อตกลงที่ฉลาดที่สุดในชีวิตแล้ว” ขณะเดินมาถึงหน้าประตูโรงแรม ชิงอวิ๋นพูดพลางตั้งท่าดีใจยกใหญ่หานซานเฉียนไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะต้องมาลงมือที่เมืองหลงชื่อ แต่ตอนนี้เมื่อเขาขี่หลังเสือแล้วก็ยากจะลงจากหลังเสือ ซึ่งเขาไม่มีทางเลือกตระกูลหนิงไม่ใช้งานเขาอย่างสุดความสามารถ ภายในเวลาหนึ่งเดือนจะล้มละลายได้ เมื่อเรื่องนี้แพร่หลายออกไป เส้นสายตระกูลหนิงเหล่านั้นต้องย้ายข้างแน่ ภายในสถานการณ์ขาดดุลยภาพของหลงชื่อ ใครไม่อยากดื่มเลือดเนื้อที่ติดตัวตระกูลหนิงบ้างล่ะ?ส่วนลู่หงกวาง เขาสามารถใช้โอกาสครั้งนี้กลายเป็น
ในสายตาคนนอก การกระทำของหานซานเฉียนยากจะเข้าใจ มีเพียงตัวเขาเองที่รู้ดีว่าทั้งหมดนี้สมควรเกิดขึ้นแล้ว ดั่งคนดื่มน้ำร้อนเย็นก็รู้สึกด้วยตัวเองความรู้สึกของหานซานเฉียนและซูหยิงเซี่ยที่มีต่อกันนั้น มีแค่พวกเขาสองคนที่สามารถรับรู้ด้วยตัวเอง ความพยายามและความอดทนต่อกันและกัน ถ้าไม่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันจะรู้ได้อย่างไรว่าความรู้สึกเหล่านั้นเป็นยังไงเมื่อหานซานเฉียนวางสายโทรศัพท์ ชิงอวิ๋นถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “พี่ใหญ่ พี่สะใภ้สวยไหมครับ?”หานซานเฉียนมองชิงอวิ๋นด้วยสายตาเยือกเย็น แล้วตอบกลับ “ไม่ว่าเรื่องอะไรนายก็สามารถเอามาพูดเล่นได้หมดเลยนะ แต่ยกเว้นแค่เรื่องเธอเท่านั้นที่นายพูดเล่นด้วยไม่ได้”ชิงอวิ๋นพยักหน้าตอบรับ แต่สายตาและท่าทางของเขากลับดูแปลกไปเพียงครู่เดียวหานซานเฉียนก็อารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นทันที เขาไม่รู้ว่าการที่ชิงอวิ๋นถามแบบนี้มีจุดประสงค์อะไร การที่จะให้เขารู้ความสำคัญของซูหยิงเซี่ยมีความเป็นไปได้มากที่จะไม่เป็นประโยชน์ต่อซูหยิงเซี่ย“ใครกล้าแตะต้องเธอแม้แต่ปลายผม ฉันจะให้มันแค่ตายทั้งเป็น” หานซานเฉียนกล่าวชิงอวิ๋นพยายามปกปิดลักษณะท่าทางที่แปลก ๆ ของตัวเอง คำพู
“ชิงอวิ๋น ไม่นานนายก็กล้าตัดสินใจแทนฉันแล้วเหรอ?” หลังจากลู่หงกวางเดินออกไป หานซานเฉียนถามชิงอวิ๋นขึ้นเมื่อชิงอวิ๋นเห็นรอยยิ้มบนหน้าของหานซานเฉียน เห็นได้ชัดเลยว่าเขามีอารมณืโกรธในน้ำเสียงราวกับซ่อนมีดอยู่ข้างหลัง จึงรีบพูดว่า “พี่ใหญ่ ผมไม่ได้หมายความแบบนั้นนะครับ แค่รู้สึกว่า คมมีดไม่สามารถใช้ได้ตามใจ เรื่องเล็กแบบนี้ ผมที่เป็นถึงน้องชายก็ต้องช่วยทำแทนให้พี่อยู่แล้ว”ฝีปากของชิงอวิ๋นคล้ายกับหานจุนมาก ตอนนี้เขาเองไม่รู้ว่าหานจุนที่อยู่ในเมืองหยุนหลงสภาพการณ์เป็นอย่างไร แต่คิดว่าเขาอาจจะโดนกวานหยงเล่นงานไปแล้วเมื่อนึกถึงกวานหยง หานซานเฉียนอยากหาเวลาไปเยี่ยมสักครั้ง เขาจึงคิดหาวิธีเอากวานหยงออกจากเรือนจำหยุนหลง คนนี้เมื่อก่อนเป็นคนโหดเหี้ยม ซึ่งภายหลังเขาต้องเดินทางไปกับตี้สู่ เพื่อไปเรือนจำตี้ซินอย่างไม่มีทางเลือกหลังจากความวุ่นวายที่เมืองหลงซื่อสงบลง หานซานเฉียนพาชิงอวิ๋นกลับมาที่เมืองหยุนเฉิง รถแลมโบกินี่ถูกนำเข้าศูนย์ซ่อม ซึ่งเป็นการจากลาหานซานเฉียนอีกครั้ง แต่หานซานเฉียนไม่มีความต้องการใช้รถมากนัก สำหรับเขาแล้วเรื่องนี้ไม่มีผลกระทบอะไรกับตัวเองเลยแม้แต่น้อยเมื่อกลับมาถึงเม
เมื่อฟังเตาสือเอ้อร์พูดแบบนั้น ดูเหมือนเขาจะไม่ใช่แค่รู้จักเรือนจำตี้ซิน แต่ยังรู้จักที่แห่งนี้เป็นอย่างดี สำหรับหานซานเฉียนแล้วนี่เป็นข่าวดีมาก อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่าหานเทียนหยางจะถูกส่งตัวไปที่นั่น หลังจากตี้สู่เล่าเรื่องนี้ หานซานเฉียนคิดครุ่นทั้งวันทั้งคืน แต่น่าเสียดายที่เขาไม่รู้สถานการณ์ของเรือนจำตี้ซินเลย จึงไม่ได้ลงมือดำเนินแผนขั้นถัดไปตอนนี้เตาสือเอ้อร์กลับนำความหวังมาให้!“สือเอ้อร์ ในเมื่อนายรู้จักที่นั่น นายพอมีวิธีติดต่อคนที่อยู่ในเรือนจำตี้ซินไหม?” หานซานเฉียนถามอย่างรีบร้อน“พี่ซานเฉียนครับ มั่นใจแล้วใช่ไหมว่าจะส่งเพื่อนเข้าไปที่นั่น ผมบอกพี่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่า เขาไม่มีโอกาสหนีออกมาได้แน่” เตาสือเอ้อร์กล่าว“ฉันมั่นใจ” เรื่องของหานเทียนหยาง หานซานเฉียนจะลังเลใจแทนไปเพื่ออะไร?เตาสือเอ้อร์ถอนใจหายและพูดว่า “ผมเคยติดต่อกับคนในเรือนจำตี้ซินจริง แต่จะติดต่อได้อีกไหมไม่รับรองครับ”เมื่อเตาสือเอ้อร์พูดจบ ม่อหยางมองเขาด้วยความไม่อยากเชื่อหูตัวเองแวบหนึ่ง เดิมทีเขาคิดว่าเตาสือเอ้อร์เป็นแค่นักมวยธรรมดาที่สามารถชกต่อยได้เท่านั้น แต่เขายังสามารถติดต่อกับคนในสถ
ออกจากที่นี่!กวานหยงวางแผนแก่ตายในเรือนจำมานานแล้ว ชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสได้เห็นโลกภายนอกอีก การเพ้อฝันอย่างนี้เขาไม่เคยคิดมาก่อน เมื่อถูกกระตุ้นความปรารถนาที่จะได้มาก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ อาจเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพจิตใจที่ไม่เหมือนเดิมอีกแล้วสถานการณ์แบบนี้ กวานหยงเคยเห็นมามากแล้ว ความไม่จริงใจของพวกที่อยากออกไปแต่ไม่ได้ออก ไม่ใช่ว่าใครจะสามารถออกไปได้แค่คำพูดต่าง ๆ นา ๆแต่ตอนนี้เป็นการปรากฎตัวของหานซานเฉียน กวานหยงรู้ว่าไม่ได้ล้อเล่นแน่ ๆ!“ทำไมพี่ถึงต้องการช่วยผมเหรอครับ?” กวานหยงถาม“แน่นอนว่านายมีประโยชน์และคุ้มค่าที่จะให้ออกมา ฉันต้องการให้นายช่วยทำเรื่องเรื่องหนึ่งให้” หานซานเฉียนพูด“ได้เลยครับ” กวานหยงตบคำรับปาก “พี่อย่าเอาแต่พูดเลย ต่อให้ช่วยเป็นสิบเรื่องร้อยเรื่องก็ไม่มีปัญหา ขอแค่ให้ผมออกไปจากที่นี่”กวานหยงตอบรับตามความคาดหมาย เว้นเสียแต่ว่าเขาอยากแก่ตายในเรือนจำหยุนหลง คนธรรมดาจะไม่เลือกมากอย่างแน่นอน“รอดูเถอะ ฉันจะทำให้นายออกมาอย่างสง่าผ่าเผย” หานซานเฉียนพูดพลางหัวเราะกวานหยงรู้สึกตื่นเต้นจนหัวใจเต้นเร็วอย่างรุนแรง แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยคิดถึ
กวานหยงใช้เวลาอยู่ในเรือนจำนานมานานแล้ว อีกทั้งความวุ่นวายในปีนั้นสงบลงไปนานแล้วเช่นกัน หานซานเฉียนต้องใช้ประโยชน์เส้นสายของตัวเองพาเขาออกมาซึ่งไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เขาแค่ต้องจ่ายเงินทองจำนวนมหาศาลเท่านั้นเองแต่สำหรับหานซานเฉียนเงินแทบไม่มีค่าอะไรเลย ต่อให้เขาต้องทิ้งทรัพย์สินของตระกูลจนหมดสิ้นเพื่อแลกกับการรับรู้ข่าวคราวของหานเทียนหยาง หานซานเฉียนไม่รู้สึกเสียดายแม้แต่น้อยสามวันต่อมาตี้สู่มาหาหานซานเฉียน เขาถือว่าเป็นนักโทษหลบหนีที่สามารถไปที่ไหนก็ได้ ความสามารถนี้ยังคงทำให้หานซานเฉียนรู้สึกชื่นชม“ผมเคยเห็นกวานหยงคนนี้ด้วย เมื่อก่อนเขาเป็นบุรุษที่แข็งแกร่งเลยล่ะ แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไงบ้าง คุณคิดว่าเขาพึ่งพาได้ไหม?” ตี้สู่เอ่ย“พึ่งพาไม่ได้เลย” หานซานเฉียนกล่าวตี้สู่พยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นผมรู้แล้วว่าควรทำยังไง ตอนบ่ายไปรับเขาและเตรียมของขวัญให้สักชิ้น แค่ทำให้เขาปิดปากได้ก็พอแล้ว”หานซานเฉียนไม่ได้เสนอความเห็นอะไร กวานหยงเป็นคนที่จะใช้ประโยชน์ในฐานะอุปกรณ์เท่านั้น เขาจะมีจุดจบอย่างไรหานซานเฉียนไม่สนใจในตอนเย็นที่ประตูด้านข้างเรือนจำ กวานหยงเดินมาถึงกำแพงสูง เขาหายใจลึกจน
ซูหยิงเซี่ยเข้าใจคำถามของหานซานเฉียนเป็นอย่างดีว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร นี่คือการถามเกี่ยวกับแผนการใช้ชีวิตของเธอในอนาคต แต่ซูหยิงเซี่ยกลับยังไม่เคยคิดถึงชีวิตในช่วงวัยเกษียณเลย“เมื่อถึงเวลานั้นแล้วค่อยคิดแล้วกัน” ซูหยิงเซี่ยกล่าวหานซานเฉียนทำปากขมุบขมิบและส่งเสียงอยู่ในลำคอ เห็นได้ชัดว่ากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขารู้สึกลังเลใจอยู่นานมาก ก่อนจะถามว่า “ลิป… ลิปสติกของคุณครั้งที่แล้วเป็นของแบรนด์อะไรเหรอ? มันอร่อยมากเลยล่ะ ถ้าอย่างนั้นผมซื้อมาให้คุณอีกดีไหม?”เมื่อซูหยิงเซี่ยได้ยินดังนั้นแก้มของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำทันที จากนั้นเธอสะบัดมือหานซานเฉียนออก พร้อมกับจ้องมองเขาด้วยสายตาดุดันแล้วพูดว่า “อร่อยบ้าอะไรล่ะ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ให้กินอะไรแล้ว”เมื่อเห็นซูหยิงเซี่ยกำลังวิ่งลงภูเขาอย่างสุดกำลัง หานซานเฉียนจึงไม่รีบร้อนตามเธอไป เขาเลียริมฝีปากตัวเองเล็กน้อย พลางถอนหายใจออกมาและพูดพึมพำกับตัวเองว่า “เมื่อไหร่ผมจะสามารถกินจนอิ่มท้องได้นะ”เมื่อกลับถึงบ้าน หานซานเฉียนรู้สึกประหลาดใจเมื่อรู้ว่าซูหยิงเซี่ยไม่ได้กินอาหารเช้าแล้วออกไปทำงานแล้ว วันอาทิตย์ยังต้องเร่งรีบไปทำงานถึงขนาดน