“คุณเป็นใครครับ ผมไม่รู้จักคุณสักหน่อย” หานจุนพูดจงใจพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเฉินหลิงเหยาจะรู้ได้อย่างไรว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเธอไม่ใช่หานซานเฉียน เธอเข้าใจว่าหานซานเฉียนกำลังพูดจาล้อเล่นกับเธอ“นายเป็นผู้ชายนะ อย่าทำเป็นใจแคบไปหน่อยเลย ฉันเป็นหนี้นายนิดหน่อยเองไม่ใช่เหรอ? อีกอย่างฉันก็เคยเลี้ยงข้าวนายแล้วด้วย” เฉินหลิงเหยากล่าวอย่างไม่พอใจผู้ชายคนนี้ ทำไมถึงจ้องขาเธอตลอดเวลาแบบนี้? หรือว่าซูหยิงเซี่ยไม่สนองความต้องเขา เขาเลยควบคุมอารมณ์ความปรารถนาของตัวเองไม่ได้? “อาหารมื้อเดียวจะพอได้ยังไงล่ะ วันนี้คุณก็เลี้ยงอาหารผมอีกสักมื้อเป็นไง?” หานจุนกล่าว เฉินหลิงเหยามองไปที่หานซานเฉียนด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ได้เสียสติไปแล้วใช่ไหม? นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะยังกล้าทานอาหารที่เธอทำอยู่อีก? “นายไม่ได้พูดเล่นกับฉันหรอกนะ ไม่กลัวว่าจะถูกวางยาพิษตายหรือไง?” เฉินหลิงเหยาพูดด้วยความรู้สึกงุนงงไม่อยากจะเชื่อ“จะโดนวางยาพิษไหม ถ้าได้ลองแล้วก็คงจะรู้เอง” หานจุนกล่าวเฉินหลิงเหยาไม่ได้สังเกตเห็นว่า 'หานซานเฉียน' ที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้นดูผิดแปลกไป เพราะเธอคิดไม่คิดว่าบนโลกใบนี้ หานซานเฉียนจะมีพี่ชายที่หน
หลังจากที่หานจุนจากไป เฉินหลิงเหยาก็นั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น เธอทั้งรู้สึกเครียดและหวาดกลัว เธอไม่คิดว่าเมื่อพาหานจุนมาที่บ้านจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น อีกทั้งเธอก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าทำไมจู่ ๆ หานซานเฉียนถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้ หานซานเฉียนอดทนเพื่อซูหยิงเซี่ยมาตั้งหลายปี เพียงเพราะว่าซูหยิงเซี่ยไม่ยอมให้เขา ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนใจเหรอ? แล้วถ้าเขาเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว ทำไมถึงต้องอดทนรอจนถึงตอนนี้ด้วยล่ะ? ในฐานะเพื่อนสนิทของซูหยิงเซี่ย เฉินหลิงเหยาคิดว่าตัวเองต้องเตือนเรื่องนี้กับซูหยิงเซี่ย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เธอเดินไปถึงจุดสิ้นสุดเธอหยิบโทรศัพท์ออกมาและกดโทรหาซูหยิงเซี่ยในทันที“หยิงเซี่ย ช่วงนี้ความสัมพันธ์ของเธอกับหานซานเฉียนเป็นยังไงบ้างเหรอ?” เฉินหลิงเหยาเอ่ยถาม เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ซูหยิงเซี่ยก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาเล็กน้อย เพราะเธอรู้สึกว่าเธอกับหานซานเฉียนห่างไกลกันเข้าไปทุกที และการจากไปของเขาในครั้งนี้เธอรู้สึกว่านี่อาจเป็นความตั้งใจของเขา เธอหวังว่าพวกเธอทั้งสองจะใจเย็นลงได้“ทำไมจู่ ๆ เธอถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะ” ซูหยิงเซี่ยกล่าว เฉินหลิงเหยาถอนหายใจและพูดว่า “ก็ฉันก
หลังจากที่หานจุนนั่งแท็กซี่มาถึงโครงการคฤหาสน์เขาหยุนติง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เรียกหานซานเฉียนด้วยความเคารพ ซึ่งนั่นทำให้หานจุนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ในสายตาของหานจุน หานซานเฉียนควรจะมีชีวิตในเมืองหยุนเฉิงอย่างเลวร้ายถึงจะถูกต้อง ทำไมถึงมีทั้งผู้หญิงที่ชื่นชอบเขา และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแสดงเคารพนบนอบต่อเขา หรือว่าคนไร้ค่าอย่างเขายังสามารถทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าในเมืองหยุนเฉิงได้? สาเหตุที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแสดงท่าทีเคารพต่อหานซานเฉียนนั้นเป็นเพราะว่าพวกเขาเป็นคนของตระกูลเทียน และความสัมพันธ์ของตระกูลเทียนกับหานซานเฉียนนั้นไม่จำเป็นต้องอธิบายใด ๆ อีกเมื่อมาถึงคฤหาสน์ใจกลางภูเขา หานจุนก็กดกริ่งที่ประตูใหญ่ หลังจากที่เหอถิงเห็นหานซานเฉียน เธอก็ยิ้มให้พร้อมกับพูดว่า “ในที่สุดคุณก็กลับมาสักทีนะคะ”คนนี้น่าจะเป็นแม่บ้านเหอถิงของคฤหาสน์หลังนี้ หานจุนจึงพยักหน้ารับนิ่ง ๆ โดยที่ไม่พูดอะไร เหอถิงขมวดคิ้ว ปกติแล้วหานซานเฉียนจะเป็นคนที่เรียบง่ายและไม่ถือตัว แต่ทำไมวันนี้เขากลับแสดงท่าทีหยิ่งยโสเช่นนี้ เขาเพิ่งจากไปไม่กี่วันเองไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงเปลี่ยนไปมากขนาดน
“หยิงเซี่ย ในที่สุดลูกก็กลับมาสักที”“ถ้าลูกยังไม่กลับมา บ้านหลังนี้คงจะพังพินาศไปแล้ว” เมื่อเห็นซูหยิงเซี่ย เจี่ยงหลานและซูกั๋วเย่าทั้งสองคนก็รีบเดินเข้าไปข้าง ๆ เธออย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นใบหน้าบวมช้ำของพ่อ ซูหยิงเซี่ยจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “พ่อคะ พ่อไปทำอะไรมาคะ ทำไมถึงคนโดนทำร้ายมาแบบนี้?” “ลูกยังถามมาได้ ทั้งหมดนี่เขาเป็นคนทำ เขาทำร้ายแม่ของลูกด้วย พ่อไปหาเขาเพื่อถามเหตุผล แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร เขาก็ทำร้ายพ่ออีกคน” ซูกั๋วเย่ากัดฟันพูดหานซานเฉียนเป็นคนทำอย่างนั้นเหรอ?จะเป็นไปได้อย่างไร! ทำไมเขาต้องทำร้ายคนด้วยล่ะ“พ่อกับแม่อย่าพูดจาใส่ร้ายหานซานเฉียนสิคะ เขาจะทำร้ายพ่อกับแม่ได้ยังไงกัน” เดิมทีซูหยิงเซี่ยไม่เชื่อคำพูดของพวกเขาอยู่แล้ว หานซานเฉียนเป็นคนแบบไหนเธอรู้ดีที่สุด เขาจะลงมือทำร้ายคนอื่นได้อย่างไร? ทันใดนั้น หานจุนก็ลุกขึ้นยืนแล้วหันกลับมาพูดว่า “ผมเป็นคนทำเอง คุณไม่ต้องสงสัยหรอก”เมื่อหานจุนเห็นซูหยิงเซี่ย เขาก็ตกตะลึงในความงดงามของเธอทันที รูปลักษณ์ของเธอดูดีกว่านางแบบทั้งหมดที่เขาเคยเล่นด้วยเสียอีก หานซานเฉียนคนไร้ค่าคนนั้นโชคดีชะมัด แต่งงานเข้าตระกูลซูแล้วย
ในห้องขังใหญ่ แม้แต่ตอนกลางดึก หานจุนก็ยังไม่กล้าที่จะผ่อนคลายการระมัดระวังตัว เพราะเขาไม่รู้ว่ากวานหย่งจะลากเขาขึ้นมาทุบตีอีกครั้งเมื่อไหร่ ในห้องขังใหญ่สถานะของเขาก็คือแมลงผู้น่าสงสารที่ถูกคนอื่นเหยียบย่ำ กวานหยงใช้วิธีทุบตีและดุด่าเพื่อความสนุกของตัวเองยังดีที่ได้ออกมาจากสถานที่อันน่ากลัวนั้นแล้ว และไม่ต้องทนทรมานเพราะกวานหยงอีกต่อไป หานจุนอดไม่ได้ที่จะคิดถึงหานซานเฉียน ตอนนี้เขากำลังขัดห้องน้ำอยู่ หรือว่ากำลังคุกเข่าร้องเพลงต่อหน้ากวานหยงกันนะ? “น่าเสียดายที่กวานหย่งโดนขังให้อยู่ในคุกเป็นเวลานาน ฉันก็เลยไม่มีโอกาสได้แก้แค้น หวังว่าพวกนายจะปฏิบัติต่อน้องชายของฉันเป็นอย่างดีนะ ลากมันมาทุบตีสักสองสามครั้งทุกวันก็จะดีมาก คนไร้ค่าคนนั้นเพียงพอให้พวกนายได้เล่นสนุกกันแล้วล่ะ” หานจุนพึมพำกับตัวเองพร้อมกับหัวเราะออกมาหานจุนคิดไปเองว่าหานซานเฉียนคงกำลังทุกข์ทรมานในคุก แต่ในตอนนี้กวานหยงกำลังนวดให้หานซานเฉียนอยู่ต่างงหากหานจุนที่ผ่อนคลายผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่าเป็นเวลาตีสามแล้วเมื่อไม่เห็นซูหยิงเซี่ยนอนอยู่ข้าง ๆ หานจุนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ไอ้คนไร้
ซูหยิงเซี่ยกำลังดิ้นรนอย่างสุดกำลังพร้อมกับร้องตะโกนเสียงดัง จนเสียงของเธอนั้นดังไปถึงหูของเจี่ยงหลานและคนอื่น ๆ อย่างรวดเร็วเหอถิงเป็นคนแรกที่ไปถึงห้องของเธอ เมื่อเห็นหานจุนใช้กำลังบังคับซูหยิงเซี่ย เธอจึงรีบร้องตะโกนลั่นทันทีไม่นานเจี่ยงหลานและซูกั๋วเย่าทั้งสองคนก็มาถึงทั้งสามคนช่วยกันผลักหานจุนออกไป และเข้าไปปกป้องซูหยิงเซี่ยไว้ “หานซานเฉียน แกทำบ้าอะไร” ซูกั๋วเย่ารู้สึกโกรธจัด ตลอดสามปีที่ผ่านมา ซูหยิงเซี่ยไม่ยินยอมมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหานซานเฉียน คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้เขากลายเป็นคนที่โหดร้ายเช่นนี้ “ไอ้สารเลว ไม่คิดเลยว่าแกจะกล้าใช้กำลังบังคับขืนใจลูกสาวของฉัน ฉันจะไปแจ้งตำรวจแน่” เจี่ยงหลานพูดด้วยความโกรธจัดเหอถิงเองก็มีความรู้สึกเดือดดาลมากเช่นกัน เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมหานซานเฉียนถึงกลายเป็นคนแบบนี้ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถ้าซูหยิงเซี่ยไม่เต็มใจ เขาก็ไม่สามารถบังคับขืนใจเธอได้หานจุนที่ไม่ใช่หานซานเฉียนเผชิญกับความลำบากใจของทั้งสามคน เขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากพูดขึ้นว่า “พวกคุณจะยุ่งเรื่องของคนทำไม ผมจะหลับนอนกับภรรยาของผมก็เป็นเรื่องธรรมดา พวกคุณคิด
เทียนหงฮุย ลูกชายของเทียนฉางเฉิง และเป็นพ่อของเทียนหลิงเอ๋อร์ในงานเลี้ยงวันเกิดของเทียนฉางเฉิง หานซานเฉียนได้รับเชิญให้นั่งที่โต๊ะหลัก ขณะนั้นเทียนฉางเฉิงยังแนะนำหานซานเฉียนให้ตระกูลเทียนรู้จัก แม้ว่าในตอนนั้นเทียนหงฮุยจะรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับตัวตนของหานซานเฉียน แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ หลังจากที่เขาได้ยินเทียนหลิงเอ๋อร์พูดถึงเรื่องของหานซานเฉียนขึ้นมา เขาก็พอเข้าใจถึงเหตุผลของเทียนฉางเฉิงที่ชื่นชมหานซานเฉียน ทำไมเขาถึงมาสถานที่แบบนี้ แถมยังเดินสวนทางกันราวกับไม่รู้จักกันอีกต่างหาก! เทียนหงฮุยกลับมาบ้าน และเมื่อถึงเช้าวันรุ่งขึ้นเขาก็ไปพบเทียนฉางเฉิงทันที “พ่อครับ หานซานเฉียนเป็นคนแบบไหนเหรอครับ?” เทียนหงฮุยเอ่ยถามเทียนฉางเฉิง ช่วงนี้เทียนฉางเฉิงมีความสุขมากเพราะได้เป็นลูกศิษย์ของหานซานเฉียน แต่ทำไมจู่ ๆ เทียนหงฮุยถึงเอ่ยถามเรื่องของหานซานเฉียนขึ้นมาแบบนี้ล่ะ? “ทำไมจู่ ๆ ถึงได้สนใจหานซานเฉียนขึ้นมาล่ะ?” เทียนฉางเฉิงเอ่ยถาม เดิมทีเทียนหงฮุยไม่สนใจเรื่องนี้ และเขาก็ไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งด้วยเช่นกันถึงแม้จะพูดได้ว่าตอนนี้เทียนฉางเฉิงจะไม่ถามเพียงแค่เรื่องของบริษัทเท่านั
ซูหยิงเซี่ยนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน และหลังจากฟ้าสาง เธอก็ตัดสินใจที่จะไปหาหลินหย่ง เพราะหานซานเฉียนคนนี้ไม่ใช่หานซานเฉียน และหลินหย่งก็เคยติดต่อกับหานซานเฉียนมาก่อน บางทีเขาอาจจะช่วยเหลืออะไรได้บ้างในช่วงเวลาตลอดทั้งคืนซูหยิงเซี่ยจิตใจสับสนวุ่นวาย เธอลองคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดต่าง ๆ แม้กระทั่งคิดไปว่าหานซานเฉียนอาจประสบอุบัติเหตุ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวและกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ จากการสอบถาม ซูหยิงเซี่ยจึงได้รู้ว่าหลินหย่งอยู่ที่ไนท์คลับเมจิกซิตี้ แต่เธอมาที่นี่แต่เช้าประตูที่นี่จึงปิดสนิท เพราะที่นี่คือไนท์คลับ แล้วประตูจะเปิดตอนเช้าได้อย่างไรกันซูหยิงเซี่ยทำได้เพียงแค่เคาะประตูอย่างสุดกำลัง เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน คนที่อยู่ด้านในก็รู้สึกตกใจและเปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ “โหวกเหวกอะไรตั้งแต่เช้าตรู่เนี่ย อยากตายหรือไง?” “ฉันอยากพบหลินหย่ง” ซูหยิงเซี่ยไม่ค่อยได้สัมผัสกับเหตุการณ์แบบนี้บ่อยนัก นับประสาอะไรกับผู้คนในพื้นที่สีเทา ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับลูกสมุนของหลินหย่งที่ดูดุดันโหดเหี้ยม เธอจึงรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย เมื่อลูกสมุนคนนั้นเห็นว่าสาวงามอย่างซูหยิงเซี่ย เขา